ของขวัญปีใหม่ 2564 อาชีพสร้างพระแก้วคริสตัลแก่คนไทย ต้นทุนถูกกว่าทองเหลืองมาก

นี่เป็นศิลปะของลาลีคฝรั่งเศสที่สร้างเพียงองค์เดียวในโลกเพื่อออกประมูลเอาเงินเข้ามูลนิธิท่านเซ่อร์เอลตันจอหน (เอดส์) เทพดนตรีสูง 70 cm. เศรษฐีประมูลไป 14 ล้านบาทประเดิมโครงการงานบุญของท่านเซ่อร์

 

เทพดนตรีองค์เล็กสร้าง 999 องค์ (ขณะที่องค์ใหญ่องค์เดียวของโลกเป็นไฮไล้ท์ที่ดึงดูดคนมาซื้อองค์เล็ก) ราคาประมาณองค์ละ 5 หรือ 7 หมื่นบาทผมจำไม่ได้แล้ว เฉพาะรุ่นนี้รุ่นเดียวก็ทำเงินไป 70 ล้านบาท

 

หัวใจรักดนตรีสีและแบบละ 999 ชิ้น มีสีแดงฉาบเงิน สีแดงฉาบทอง สีใสฉาบเงิน และสีใสฉาบทอง รวมแล้วก็ประมาณ 4,000 ชิ้น ชิ้นละประมาณ 50,000 บาท รวมเฉพาะหัวใจดนตรีทุกแบบทุกสีก็ทำเงินช่วยเอดส์อีก 200 ล้านบาท

สาธุ

 

คราวนี้ลองกลับมาดูคนไทยบ้าง ถ้าสร้างพระบูชาด้วยแก้วคริสตัลอย่างหลวงปู่ทิมหน้าตัก 5 นิ้วองค์นี้ ต้นทุนอยู่ที่องค์ละประมาณ 317 บาท อาจจะมีการเข้าพิธีปลุกเสก หรืออธิษฐานจิตเดี่ยว (ตรงนี้ผมไม่ทราบค่าใช้จ่ายว่าเท่าไร) [ในต่างประเทศไม่มีการปลุกเสกหรืออธิษฐานจิตเขายังขายถึงองค์ละ 5 - 7 หมื่นบาท] เอาละคนไทยอย่าคิดแพง จองสร้างแต่อาจเป็นรูปพระพุทธหรือหลวงปู่ดัง ในราคาองค์ละแค่ 9,999 บาท หักต้นทุนทั้งหมดตีว่าองค์ละ 1,000 บาทเลย กำไรองค์ละ 8,000 บาท สร้างแค่ 999 องค์ โครงการเดียวก็ทำกำไร 8 ล้านบาทไปแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ส่วนโครงการจะนำกำไรไปสร้างโรงพยาบาล หรืองานบุญงานกุศลอื่นใดก็ว่ากันไปครับ

 

องค์นี้หน้าตัก 3 นิ้วของสวาร๊อฟสกี้ ออสเตรีย คนไทยยังสร้างเองไม่ได้ครับ ผมรับรอง รับรองว่าสร้างอย่างนี้ไม่ได้ เพราะเป็นงานเทคนิคซับซ้อนพอสมควร ราคาขายในห้างสวาร๊อฟสกี้ไปดูได้ทุกสาขา ในพารากอนก็มี ขายองค์ละ 3 หรือ 4 หมื่นบาทเศษ

ที่สร้างไม่ได้เพราะมีการตัดและต่อหลายชิ้นด้วยกาวใสไร้รอย มีส่วนที่เจียรนัยผิวที่ดีที่สุดของโลก และส่วนที่งานละเอียดระดับเศษ 1 ส่วนพันมิลลิเมตรด้วย ผมจึงกล้ารับรองว่า โรงงานแก้วทุกโรงในไทยขณะนี้ยังสร้างไม่ได้ (แต่อนาคตไม่แน่ครับ)

 

แต่งานแบบนี้ ไทยสร้างได้ดี องค์พระเป็นชิ้นเดียวไม่ตัดไม่ต่อ หน้าตัก 3 นิ้ว ต้นทุนต่ำ ราคาขายประมาณ 2 หมื่นบาท (ปีเตอร์กับผมสร้างต้นทุนไม่ถึง 600 บาท) ไปแพงฐานแก้วกับบัวหงายบัวคว่ำมากกว่า องค์พระจริงๆแค่ร้อยกว่าบาท ต้นทุนแบบนี้ทำตลาดได้สบายมากครับ

หรือจะให้จองสร้าง สร้างแค่ 999 องค์ ราคาจององค์ละ 5,000 บาทนี่หมดทันทีเลยนะครับจะบอกให้ ส่วนต่างองค์ละ 4,000 บาท งานชิ้นเดียวก็กำไรไป 4 ล้านบาทแล้ว

 

ท้าวมหาพรหมหรือพระพรหมสี่หน้า คนไทยเราสร้างได้นะครับ แต่ขณะนี้ที่เมืองจีน โรงงานจีนสร้างจำหน่ายในประเทศจีนที่คนไหว้พระพรหมสี่หน้า (ซื่อเมี่ยนฝอ) มีจำนวนมาก

คนไทยน่าจะเป็นผู้สร้างแล้วส่งออก เพราะศิลปะแบบนี้ไทยชัดๆครับ

 

ศิลปินหญิง หยาง หุ้ย ซาน และสามีของเธอ จางอี้ สร้างเจ้าแม่กวนอิม ปางพันมือ ความสูง 2 เมตร (วัดจากฐานถึงปลายสุดเป็นมือสองมือที่ชูพระพุทธเจ้าไว้สูงสุด)

การสร้างเจ้าแม่กวนอิมเพื่ออะไร ประดิษฐานที่ไหน ผมจะไม่พูดถึง จะพูดถึง ว่า คนไทยสร้างได้ไหม ? สร้างพระแก้วใหญ่ๆ ไม่ว่าปางอะไร ? คนไทยมีความสามารถทำได้หรือไม่ ? ซึ่งผมตอบได้เลยว่า คนไทยทำได้แน่นอน เพียงแต่ท่านอ่านกระทู้นี้แล้วเข้าใจ (อ่านหลายๆกระทู้ที่ผมเขียน รวมทั้งลองเปิดตาเปิดใจ เปิดโอกาสให้คนไทยได้สร้าง) นอกจากท่านจะได้พระแก้วองค์ใหญ่ๆในราคาถูกกว่าทองเหลืองมากๆแล้ว ประดิษฐานไว้ตามวัดต่างๆ หรือสถานที่สำคัญต่างๆ ประเทศไทยจะมีคนมาเยี่ยม มากราบไหว้ และมาท่องเที่ยว ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นมากด้วย

 

ที่โรงงานสร้างพระพุทธรูปของคุณหยางหุ้ยซานนั้น สร้างพระพุทธรูปแก้วองค์ใหญ่ๆแบบนี้ หรือใหญ่กว่านี้ หรือแม้แต่องค์สูง 2 เมตร มีการสร้างมาก แต่ละองค์ราคามาก ผมจะไม่พูดถึงเรื่องการค้านะครับ เพื่อให้เกียรติศิลปินแก้วจีนท่านนี้ พูดถึงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็พอ ที่โรงงานของท่านตอนแรก ท่านนึกว่า มีคนงานสัก 30 คนก็พอ ทำไปทำมาตอนนี้คนงาน 700 คน สร้างกันทุกวัน ท่านคิดว่า คนไทยงานน้อยกว่าหรือครับ ? ไม่หรอกครับ คนไทยถ้ารู้แล้วว่า พระแก้วถูกกว่ามาก สวยกว่ามาก และสร้างง่ายกว่ามาก (ยกเว้นองค์ตันๆจะยากตรงการอบที่นานกว่าทองเหลือง) คนไทยก็จะมีการสร้างพระแก้วมากกว่าจีนเสียอีกครับ) แต่ถ้าไปซื้อพระแก้วจากประเทศอื่นๆเขาคิดแพงมากครับ องค์ละเป็นร้อยๆล้านบาท แต่ผมพูดได้เลย ต้นทุนนิดเดียว คนไทยทำได้ไม่ยากครับ

 

ต้นทุนพระทองเหลืองก็ตาม พระแก้วก็ตาม อยู่ที่เนื้อที่นำมาสร้าง ในพระแก้วก็ใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ ในภาพนี้คือก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อที่นำมาสร้างพระแก้วองค์ใหญ่ๆแค่ไหนก็ได้ ขายกิโลกรัมละ 2 เหรียญอเมริกา ก็ประมาณโลละ 60 บาท

เมื่อวานมีคนถามผมว่า ใช้แก้วขวดแตกในไทย แก้วที่เขาขายรีไซเคิ้ลได้ไหม ? คำตอบคือ ได้เหมือนกันครับ แต่สู้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อไม่ได้ re-melting cast glass เขาสร้างมาให้หลอมต่อโดยเฉพาะ โดยจุดหลอมเหลวลดลง จากเดิมที่โรงงานแก้วในไทยหลอมเหลวเศษขวดรีไซเคิ้ลที่ 1,400C นาน 8 ชั่วโมงขึ้นไป บางโรงงานต้องหลอม 12 ชั่วโมง แต่ในก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อนั้นลดลง ลดจุดหลอมเหลวลงเหลือแค่ 700C นานแค่ 1 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้น ถ้าเราใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ มันจะง่ายกว่าครับ

 

https://zbltyy.en.alibaba.com/

บริษัทก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีนมีหลายบริษัท แต่ผมเชื่อว่า บริษัทนี้คือบริษัทที่คนไทยเคยนำเข้าก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของเขาเข้ามาในไทย ครั้งนั้น 300 - 400 กิโลกรัม ลูกน้องช่างแก้วผม ปีเตอร์ ไซ อ่อง วินเป็นคนที่เจ้าของโครงการมอบให้ทดลองการสร้างพระยืนสูง 60 - 70 cm. และลูกน้องผมคือ ปีเตอร์ ขอสร้างหลวงปู่ทิมหน้าตัก 5 นิ้วโดยใช้แก้วจีนนี่แหละ (ขอใช้ฟรี) [ซึ่งเจ้าของโครงการอนุญาตและยืนดูการทดลองอยู่ด้วย] ในที่สุดหลวงปู่ทิมหลอมสำเร็จ แต่องค์ยืนสูง 60 - 70 cm. ไม่สำเร็จ ผมทราบสาเหตุแล้ว เพราะปีเตอร์เล่าเรื่องให้ผมฟังทั้งหมดแล้ว และปีเตอร์นำหลวงปู่ทิมมาให้ผมตรวจดูเนื้อแก้วจีน พบว่า เนื้อแก้วนั้นใช้ได้ แต่ที่ไม่สำเร็จนั้น น่าจะเกิดจากการที่ปูนปลาสเตอร์ของเขาทำปฏิกิริยาทำให้ผิวแก้วมีฟองอากาศเล็กๆ

แต่สาเหตุที่แท้จริงนั้น ผมไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเจ้าของงานคงไม่พอใจ

ผิวพระแก้วที่เป็นฟองอากาศ เกิดจากปูนปลาสเตอร์ที่ปูนนั้น ไม่ดี ต้องใช้ยี่ห้อที่เหมาะสม ซึ่งผมได้โพสต์ไว้ ปูนปลาสเตอร์นี้ผมกำลังคิดว่า ดินขี้วัวของไทย ก็อาจใช้แทนปูนปลาสเตอร์ได้ หากได้โอกาสทดลองจะได้ไม่ต้องไปซื้อปูนปลาสเตอร์จากนอกอีก

คำถามว่าแล้วเมืองนอกทำไมใช้ปูนปลาสเตอร์แล้วไม่เกิดฟอง ผมตอบได้เลยว่า ถ้าใช้ปูนที่ทำปฏิกิริยาต่อน้ำแก้ว ต้องใช้เครื่องดูดสูญญากาศ ดูดฟองอากาศออกจากน้ำปูนปลาสเตอร์ขณะที่ยังเป็นน้ำปูนอยู่ครับ แต่ถ้าใช้ปูนถูกยี่ห้อ ไม่ต้องดูดสูญญากาศเลย เพราะเขาสร้างมาเฉพาะกิจครับ

 

ปีเตอร์นำหลวงปู่ทิมหน้าตัก 5 นิ้วทั้งหมดที่หลอมสำเร็จ (แตกไป 2 ) ผมตรวจแล้ว พบว่าเนื้อแก้วคริสตัลของจีนไม่เกิดฟองจากภายใน คือเนื้อแก้วคริสตัลที่มีตะกั่วถึง 30%PbO ไม่มีฟองอากาศที่เกิดจากในเนื้อแก้วเอง พูดง่ายๆว่า คุณภาพใช้ได้เลย

ส่วนฟองอากาศที่ติดที่ผิวๆนั้น เกิดจากปูนปลาสเตอร์ที่มีฟองอากาศอยู่ ขณะที่น้ำปูนปลาสเตอร์ยังเหลวอยู่ ปีเตอร์ไม่ได้แนะนำให้ดูดสูญญากาศ ก็เพราะเจ้าของโครงการก็ไม่ค่อยฟังปีเตอร์ด้วย จากตอนแรกปีเตอร์แนะนำให้ใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากนิวซีแลนด์ เจ้าของโครงการก็หันไปใช้ของจีน ( ซึ่งผมคิดว่า เป็นโชคดีของคนไทย ที่ได้ทดลองแก้วจีนแล้วคุณภาพใช้ได้เลย ) คือปีเตอร์คงไม่อยากพูดแล้ว เลยไม่แนะนำให้ดูดสูญญากาศในน้ำปูน

เอาเป็นว่า ขณะนี้ผมกำลังพูดเปิดเผยงานที่ไม่สำเร็จของคนอื่นนั้น ความจริงไม่ดี แต่นี่เพื่อส่วนรวมของประเทศไทย ผมขออนุญาตวิจารณ์นะครับ

มันจะสำเร็จทั้งหมดอย่างสวยงาม ถ้าเราทำตามตำราครับ ปูนปลาสเตอร์ยี่ห้อดีๆที่สร้างมาเฉพาะกิจ อาจไม่ต้องดูดสูญญากาศ หรือถ้าที่จริง ต้องถามที่บริษัทปูนยี่ห้อนั้นๆว่า ของๆท่านต้องดูดสูญญากาศหรือไม่ เพื่อไม่ให้ผิวงานแก้วเป็นฟองดังในภาพ

 

มีท่านที่ถามเข้ามาว่า ถ้าต้นทุนก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อมีราคาถูกกว่าทองเหลืองมาก สมมุติว่า ทองเหลืองกิโลกรัมละ 600 บาท ทองสัมฤทธิ์กิโลละ 1,000 บาท แต่แก้วกิโลละเพียง 60 บาท มันถูกกว่ากันมาก ทำไมราคาที่เมืองนอกขายพระพุทธรูปยังขายราคาสูงยิ่งกว่าทองเหลืองเป็นร้อยๆเท่าจากทองเหลืองเล่า

ผมตอบท่านไปแล้ว แต่เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบจึงตอบบนกระทู้อีกทีครับ คือ อะไรก็แล้วแต่ที่แปลกใหม่ ไม่มีใครรู้ ก็เรียกราคาได้ ไม่แปลกครับ ในเมื่อพระแก้วไม่มีใครรู้กันเลยว่า จริงๆแล้ว ต้นทุนถูกแค่ไหน เพียงแต่ในตลาดไม่มีใครสร้าง และไม่มีคนรู้ด้วยซ้ำไปว่า จะไปซื้อก้อนแก้วได้จากบริษัทไหน ประเทศอะไร แต่ผมนำมาเผยแผ่ และอยากให้คนไทยได้รู้ว่า คนไทยทำได้ ช่างหล่อพระทองเหลืองไทยทำได้ หันมาสร้างพระแก้วกันเถิด ต้นทุนต่ำ กำไรสูง สมมุติว่า พระทองเหลืองหน้าตัก 69 นิ้วหล่อทองเหลืองราคาองค์ละ 2 ล้านบาท (สมมุตินะครับ ผมไม่รู้หรอกครับว่าตลาดราคาเท่าไร) คราวนี้ถ้าหล่อแก้วใหญ่เท่ากัน เนื้อแก้วก็กลวงเหมือนเนื้อทองเหลือง แต่มองผิวแก้วสีฝ้าขาว มันไม่ทะลุไปอีกด้านอยู่แล้ว สมมุติว่าต้นทุน 2 แสน แต่ช่างไทยทำขายแค่ 4 แสนก็กำไร 2 เท่าตัวอยู่แล้ว อย่าเอากำไรเยอะครับ

แต่ที่เมืองนอกเขายังคำนวนว่า ไม่มีคนรู้ ไม่มีคนแบบผมในเมืองนอกที่จะมาตีเผยแผ่เรื่องแก้ว เขายังทำกำไรได้มาก ต้นทุนหลักแสน ขายหลายสิบหรือหลายร้อยล้าน เนื่องจากไม่มีคนตีแผ่ความรู้นี้อย่างผมในประเทศเขานั่นเอง เอาไว้ผมจะได้เขียนอีกว่า เพราะเหตุใดตอนแรกเขาตีราคาแก้วแพงมาก เอาไว้ผมเขียนกระทู้ใหม่เลยครับ คอยติดตามครับ

 

ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมยังพูดต่อไป เขียนต่อไป คนไทยโชคดีที่ได้รับทราบเรื่องที่มีการผลิตก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อนี้ ทำให้เราอาจพลิกโฉมวงการสร้างพระในไทย เลิกสร้างพระทองเหลืองที่ราคาทองเหลือง ทองสัมฤทธิ์ แพงมาก ในขณะที่ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อราคาถูกกว่าเป็นสิบๆเท่า และเมื่อสร้างเสร็จพระแก้วคริสตัลก็ดูดี สวยกว่า เล่นแสงได้ดีกว่า และมีมูลค่าสูงกว่ามาก

ถ้ามีคนไทยเริ่มต้นสัก 2 - 3 แห่ง แล้วยิ่งถ้าเปิดโอกาสให้คนเข้าไปดูงานได้ ให้คนที่อยากจะสร้างเป็นอาชีพเข้าไปสังเกตุการณ์ได้ หรือให้นักศึกษาเข้าไปร่วมงานได้ ประเทศไทยจะก้าวหน้ามากกว่านี้ เปลี่ยนมาเป็นแก้วคริสตัล ดีกว่า ถูกกว่า สวยกว่า

ผมยังรอให้คำปรึกษาฟรีต่อทุกท่านนะครับ ไม่เคยคิดค่าปรึกษา ไม่เคยมีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ต้องห่วงครับ อยากเห็นเมืองไทยเจริญกว่านี้

 

ลงทุนน้อยสุดก็เตา Raku