ขอคำปรึกษาเรื่อง ทำไมสวดธรรมบรรลุแล้วปวดหัวครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Phra Atipan, 29 พฤษภาคม 2010.

  1. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    กัลยามิตรท่านใดมีประสบการณ์แบบนี้มาเล่าให้ฟังหน่อยครับ เรื่องมันมีอยู่ว่าในขณะที่อาตมาสวดธรรมบรรลุอยุ่ ได้เกิดอาการปวดหัวอย่างแรง ขึ้นสมอง โยมผู้สอนให้อาตมาเร่งทำความเพียร เพราะว่าอาตมาได้สวดธรรมบรรลุติดแล้ว ยิ่งเร่งสวดแล้ว ยิงปวดหัวจี๊ดเลยครับ เกือบสู้กับกิเลสตัวเองไม่ได้ ประมาณ 1 ชั่วโมง พอสักพักก็หยุดภาวนา แล้วก็นั่งสมาธิหายใจเข้าออกอย่างช้าค่อยๆลืมตาขึ้นมา แล้วยืนลุกขึ้นไป กรวดน้ำทำบูญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเสร็จแล้วไปนั่งสมาธิต่ออีก เกือบครึ่งชั่วโมง สูดหายใจเข้าออกลึกๆคุมจังหวะให่ต่อเนื่อง (กรรมฐานเปิดโลก) ต่อเนื่องห้ามหยุด พอค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วหายปวดหัวทันที ครูบาอาจารย์ท่านสอนผมว่า อาการปวดหัวเกิดจาก ตัวของอาตมายังมีความสงสัยในการสวดธรรมบรรลุ ยังสงสัยว่าตัวเองสวดเสียอะไรออกไป นี้คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาตมาปวดหัวขั้นรุนแรงเกือบจะไม่ชนะกิเลสตัวเองเสียแล้ว เมื่อคืนเกือบลืมตาแล้ว สู้กับกิเลสตัวเอง เงื่อแตกเต็มจีวร ถ้าลืมตา ก็ไม่สำเร็จ การชนะใจตัวเองนี้แสนยาก กิเลสในตัวอาตมายังมี อาตมาเลยพิจรณาว่า ความสงสัยนี้เองทำให้เกิด ทุกข์เวทนา (อาตมาไม่เคยปวดหัวอย่างรุงแรงขนาดนี้เลย) มันเป็นอาการทรงธรรม ของผู้เพิ่งบรรลุใหม่ๆ ต้องขอบคุณโยมกัลยามิตรทั้งหลายที่ให้กำลังใจอาตมา สำเร็จวิชาบรรลุได้ขั้นแรก ยากจริงๆ (ถ้าอาตมาพูดผิดประการใดขอรับผิดเพียงผู้เดียว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2010
  2. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    อะไร ที่มานอก พุทธพจน์ บทพระบาลี นั่นมิใช่ คำสอนขององค์ สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ผิดหลัก ในพระพุทธศาสนา ครับ

    เรื่องนี้ เขาแต่งกัน ขึ้นมาเอง ถ้าจะอ้าง ว่าเป็น ของ พระสุเมธดาบส ก็ขอให้พิจารณา ให้รอบคอบ เรื่องราว ที่ผ่านมาถึง ๒๔ พุทธันดร โดย ประมาณ นะ คิดดู ในสมัยพระพุทธทีปังกร ว่ากี่ร้อยล้านปี มาแล้ว ? ถ้าจริง พระสุเมธดาบส ตอนนั้น บรรลุธรรมหรือยัง ?
    ขอให้ท่าน ปฏิบัติ ในกรรมฐาน ขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เถิด

    และ ที่ท่านปวดหัว เพราะวางอารมณ์ ผิดครับ

    กราบนมัสการ

     
  3. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    ขอบคุณมากๆครับ โยมพี่ อริยบุตร อาตมาเพิ่งบวชได้ 1 พรรษายังเป็นพระนวกะพระใหม่อยุ่ครับ ยอมรับตัวเองว่ากิเลสยังเยอะอยุ่ ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำดีๆ อาตมาขอยอมรับตัวเองว่าวางอารณ์ผิดครับ 1.ไปจริงจังกับการนั่งกรรมฐานมากเกินไป 2.ไม่รู้จักปล่อยวาง มัวแต่ปล่อยให้นิวรณ์ 5 มารบกวนจิต อาตมาเป็นคนไม่รู้ อีโน่ อีแหน่ อะไร ลองผิดๆ ถูกๆ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เป็นครูสอนที่ดีมากเลยครับ จะพยายาม ปฏิบัติต่อไปอีกครับ ต้องปล่อยวางให้ได้(อยุ่โลกภายนอกมานาน เจอสิ่งยั่วยวนกิเลสเยอะไปหน่อย)
    อนุโมทนาสาธุน่ะครับ เจริญธรรม เจริญพร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2010
  4. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    เจริญธรรม เจริญพร น่ะโยมพี่อริยบุตรน่ะครับ ที่ช่วยเตือนสติ สำหรับผู้ที่ยัง ไม่รู้(อวิชา)ปิดตาให้มองไม่เห็น การปฎิบัติธรรม
     
  5. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถ้าคิดเช่นนั้น ท่านจะเข้าข้างกิเลสตนเอง ว่าพ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก

    ผมว่าคนที่สอน สอนแบบยกยอกิเลสญาติโยมมากไป ทำให้สำคัญตัวผิดได้

    เว้นว่าท่านประพฤติประฏิบัติตนเข้าถึงองค์คุณแห่งพระอรหันต์จริงๆก็ควรยินดีกับท่านอนุโมทนากับท่านอย่างมาก

    สำหรับผม ไม่ได้ดูถูกคุณธรรมของพ่อของแม่ ผมจัดอย่างเก่งถ้ายังไม่เป็นพระอรหันต์ ท่านเป็นได้อย่างเก่งพระหรหมของลูก เพราะท่านประกอบไปด้วย
    องค์คุณของ พรหมวิหารสี
    ท่านมีความเมตตาต่อลูก
    ท่านมีความกรุณาต่อลูก
    ท่านมีความมุทิตาต่อลูก
    ท่านมีอุเบกขาต่อลูก

    ส่วนที่พระคุณเจ้า สวดคาถาวิชาดวงธรรมบรรลุแล้วมีอาการปวดหัว อย่างรุนแรงนั้น เกิดจากความเครียดมาก เมื่อเครียดมากจิตก็ไม่หยุดคิด
    ที่พุทธองค์ท่านกล่าวว่า หัวจะแตกออกเป็นเจ็ดๆเสี่ยง เพราะคิดไม่หยุด

    เมื่อพระคุณเจ้า ละจากคิดได้แม้ชั่วขณะหนึ่ง ก็เข้าช่องว่างของอนัตตาได้บ้าง
    ชั่วขณะหนึ่ง อาการปวดหัวก็ระงับลงได้ เพราะพระคุณเจ้าหยุดคิดได้

    อนุโมทนาอย่างยิ่ง เจริญสุขยิ่งๆขึ้น
     
  6. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    ขอบคุณสำหรับคำปรึกษาน่ะครับ ความเครียดมีส่วนหนึ่งครับ โยม อันนี้อาตมายอมรับ ก่อนที่จะได้เข้ามาบวช ตอนเป็นโยมมีปัญหาเข้ามาชีวิตมากมาย ถาถมเข้ามามากมาย ตอนนั้นอาตมาเป็นคนคิดมากสะสมความเครียดไว้นาน และก็ช่วงนั้นปล่อยวางไม่ค่อยเป็นด้วย จนมีอาการปวดหัวมาแล้ว ขอคำแนะนำการปล่อยวางด้วยครับ ปัจจุบันนี้ อาตมาชีวิตเปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่เข้ามาอยู่ร่มผ้ากาสาวพักนี้ รู้สึกว่ามีความสุขมากไม่มีความทุกข์เลย ตัดความกังวน เรื่องโลกภายนอกได้เยอะเลย ส่วนอาการปวดหัวนั้นเพิ่งมาเป็นช่วงนี้ครับ ตอนนี้ไม่ยากจะลาสึกขาเลยครับ ขอรักษาสุขภาพจิตใจให้ดีก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2010
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852




    ปวดตรงไหนเจ็บตรงไหนให้พระคุณเจ้าจี้เพ่งมันตรงนั้นนั่นแหละ อย่าหนีความเจ็บความปวดเป็น การพิจารณาแล้วปัญญาจะตามมาอย่างมาก เมื่อจิตเค้า
    ละสักกายทิฐิได้พระคุณเจ้าจะเห็นว่าจิตมันจะเบา
    catt8
     
  8. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    การสาธยายพระคาถาทั้งหลายเพื่อดำรงไว้ซึ่งและเพื่อสร้างสติ หาได้ใช่เพื่อสิ่งอื่นก็หาไม่ แต่ผลพลอยได้ของการมีสตินั้นทำให้เกิดสมาธิ เกิดอานิสงค์เป็นอันมาก และหากจิตมุ่งไปในทางที่เกินจากความเป็นจริงเช่น สาธยายพระคาถาทั้งหลายนั้นเพื่อสิ่งต่างๆตามแต่กิเลสสรรค์สร้างหรือตามใจอันมีกิเลสทั้งหลายเป็นผู้สร้างแล้ว มันจะส่งผลไปในทางที่ไม่ใช่เหตุผลของการสาธยายพระคาถาทั้งหลายนั้น พึงพินิจพิจารณาให้ดีๆ เหตุที่ดับกิเลสทั้งหลายนั้นเกิดเพราะสิ่งใดและเหตุที่เกิดกิเลสนั้นเกิดเพราะสิ่งใด
    นมัสการครับด้วยความเคารพและศรัทธาสูงยิ่ง
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ขอ อนุญาต แสดงความเห็นกับ หลวงพี่หน่อยนะครับ
    หลวงพี่บอกว่า เป็นอาการทรงธรรมของผู้บรรลุ ถ้าผมเดาไม่ผิด หลวงพี่คงหมายถึงบรรลุ พระอริยบุคคล ขั้นต้น เรื่องบรรลุนั้นคงเป็นเรื่องที่ หลวงพี่จะต้องรู้ด้วยตัวเอง

    ส่วนเรื่องปวดหัว นี่ เป็นอาการของ การเอาพลังจิตไปวางไว้ที่จุดใดจุดหนึ่ง แล้ววางเวทนาไม่ได้ เพราะอวิชชาผลักดัน ให้รับรู้กับ การปวดนั้น

    บางก็ อวิชชาผลักดันให้ ธาตุลมดันไปแรงเกิน ก็สรุปคร่าวๆ ว่า คือ พลังจิตที่ผลักดันไป

    บางทีก็เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร หรือ กรรมเก่าของเรา ที่ทำให้ปวดหัวรุนแรง

    แต่มันหายไปแล้วก็ช่างมัน แต่หากเกิดอีก ให้เอาใจถอนจากตรงนั้น

    ไม่ใช่ว่าไปจี้นะครับ ถ้าเอาจิตไปจี้จะทำให้ กำลังจิตจ่อไปตรงนั้นแรงขึ้นแล้วจะยิ่งทำให้ปวด

    ให้ถอน ให้วางความรู้สึกให้เป็น มันอยู่ที่การควบคุมจิตของเรานี้แหละ แต่จะควบคุมอย่างไร ต้อง หมั่นฝืนเอาใจออกจากจุดนั้นบ่อยๆ เหมือนถางทาง เมื่อทำบ่อยๆ เราจะวางได้เอง
    อย่างง่าย เหมือนกับ เด็กหัดเดิน แรกๆ ก็ยาก พอทำบ่อยๆ แล้วคล่องตัว
     
  10. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    หากมีคนมาบอกพระคุณเจ้าว่า

    > พระพุทธ ไม่ใช่ พระพุทธ
    > พระธรรม ไม่ใช่ พระธรรม
    > พระสงฆ์ ไม่ใช่ พระสงฆ์

    เอาความรู้สึกของพระคุณเจ้าเป็นตัววัดครับว่าอารมณ์เกิดขึ้นอย่างไร
     
  11. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ข้าพเจ้าขอกราบขอขมาพระรัตนไตร เนื่องจากอาจสื่อความหมายในการปรามาสพระไตรทั้ง 3 วัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาทางธรรมเท่านั้น
     
  12. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    อาจจะใช่เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติมาทวงบุญก็เป็นไปได้ ไม่แน่ใจว่าตัวเองเคยฆ่าคนตายหรือเจนตนาหรือปล่าว จะทำให้มีอาการปวดหัวขั้นรุนแรงครับ เมื่อเช้าอาตมาฉันข้าวเสร็จแล้ว ประมาณ 9โมงเช้าได้นั่งสมาธิพิจารณาอาการปวดหัวดู หายใจเข้าลึกๆเข้าออกเริ่มจากช้าไปเร็วต่อเนื่องไม่หยุดนับการหายใจได้ประมาณ500ครั้ง ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอาการปวดหัวหายไปปริดทิ้งเลย เสร็จแล้วก็กรวดน้ำอุทิศบุญกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรฝากเอาไว้กับเจ้าแม่ธรนีครับ ตอนนี้สมองโล่งสบายคลายกังวล อนุโมทนาสาธุครับ
     
  13. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    ขอบคุณมากครับ วิธีนี้ใช้แก้อาการปวดหัวได้ผลครับ ตอนนี้หายปวดหัวแล้วครับ
     
  14. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    เจริญพรอนุโมทนาสาธุ ครับ สำหรับคำแนะนำ
    อาตมาไม่ได้มุ่งไปทางลาภสักการะหรือเหนือสิ่งอื่นใด
    แต่จะมุ่งไปทางความดับทุกข์ครับ
    หาวิธีดับทุกข์ออกไปจากจิตที่มันขุนมัวมานาน
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นน่ะ เจริญพร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤษภาคม 2010
  15. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD></TD><TD width="100%"><TABLE class=tborder style="BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>[​IMG]
    ข้อความส่วนตัว: กราบ นมัสการ พระคุณเจ้า
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] เมื่อวานนี้, 10:36 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>อริยบุตร<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jan 2010
    ข้อความ: 318
    Groans: 0
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 600
    ได้รับอนุโมทนา 2,718 ครั้ง ใน 303 โพส
    พลังการให้คะแนน: 174 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER>กราบ นมัสการ พระคุณเจ้า

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>[​IMG]
    จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติ คือ การพ้นทุกข์

    ทุกข์ หมายถึงสิ่งที่ทนได้ยาก
    ทุกข์เกิดจาก เครื่องเศร้าหมองของจิต อันได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง คือ กิเลส<O:p
    กิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดจาก ความทะยานอยาก คือ ตัณหา<O:p
    ตัณหา ความทะยานอยาก เกิดจาก ความยึดมั่นถือมั่น คือ อุปทาน<O:p
    อุปทาน ความยึดมั่นถือมั่น เกิดจาก ความไม่รู้ คือ อวิชชา
    <O:p
    ก็ อวิชชา ความไม่รู้ นี้แล เป็นสาเหตุให้มี ร่างกาย คือ ขันธ์ ๕<O:p
    ขันธ์ ๕ ร่างกายนี้ เกิดจาก กิเลส ตัณหา อุปทาน และ อกุศลกรรม<O:p
    ถ้าเราจะหน่ายทุกข์ ก็จงหน่ายที่ ร่างกาย เถิด
    <O:p
    การหน่ายร่างกาย คือละ สักกายทิฐิ องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ชี้ไว้ ๔๑ เส้นทาง แต่ละเส้นทาง ก็สามารถ ถึงที่สุดของความพ้นทุกข์ได้ คือ
    มหาสติปัฏฐานสูตร ๑ (ทุกจริต ปฏิบัติได้) เป็นแนวทางของ สุกกวิปัสสโก
    กรรมฐาน ๔๐ (ปฏิบัติตามจริต ๖ มี ๓๐ กอง จริตกลาง มี ๑๐ กอง) เป็น แนวทางของ สุกขวิปัสโก ถ้าจับ กสิน ด้วย ก็เป็นแนวทางของ เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฎิสัมภิทัปปัตโต ถ้าทำได้นะ

    ถ้าเราละ สักกายทิฐิ ได้แค่ตัวเดียว ครูบาอาจารย์ ท่านว่า ความเป็นพระอริยะ เหมือนหญ้าปากคอก<O:p
    ฉะนั้น ในเมื่อทาง มีถึง ๔๑ ทาง เธอจง ฉลาด เลือกทาง ซึ่งมีอยู่ ในการปฏิบัติ<O:p
    ตาม ระดับ สติ ปัญญา เหมือนคนไข้ เลือกยาที่จะรักษา ตัวเอง<O:p
    องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านแยก ไว้คนไว้ ๔ ระดับคือ

    <O:p
    อุคฆฏิตัญญู
    วิปจิตัญญู
    เนยยะ
    ปทปรมะมี
    ฉะนั้นปัญญาคนจะเสมอกันไม่ได้


    <O:p
    เราปฏิบัติ เพื่อตัวเราเอง เราสอน เพื่อ ทดแทนคุณ องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ ครูบาอาจารย์ การสอนนี้ เป็นทั้งคุณ และเป็นทั้งโทษ ถ้าใครไม่ศรัทธา ( ความเชื่อ ) จงงดไว้ และ ให้เขาทำใจเป็นกลาง เพราะอาจเป็นโทษหนัก กับเขา <O:pผู้สอนทุกคน จงหมั่น ขอขมาพระรัตนตรัย ไว้เป็นปกติ เพราะเราอาจจะพลาดเองก็ได้


    <O:pจำไว้เถิด ถ้าเราไม่เคย สร้างสม บารมี มาในกาลก่อน ยากนัก ที่จะเจอ พระพุทธศาสนา และ เจอ คำสอน ของหลวงพ่อ ผู้เป็น เอกอรหันต์ เจอ พระอริยเจ้า จงทำ กำลังใจ ที่พร่องให้เต็ม เถิด ท่านหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทาง แก่ผู้หลงทาง หรือเสมือน จุดประทีปในที่มืด ให้เราแล้ว
    [​IMG]
    การทำสมาธิ ให้เกิดผล
    ลองสำรวจตัวเอง ว่าเรามี อิทธิบาท ๔ ครบหรือเปล่า มีศิลบริสุทธิ์หรือเปล่า มีพรหมวิหาร ๔ บ้างหรือเปล่า ถ้าจิตมีนิวรณ์ สมาธิไม่เกิด ถ้าจิตมีสมาธิ นิวรณ์ ก็ไม่เกิด (เหมือนเด็กเล่นกระดานหก)

    ในขั้นแรก ถ้าจะนั่งสมาธิ อย่าสวดมนต์นาน
    นั่งในท่าที่สบายที่สุดผ่อนกล้ามเนื้อให้หย่อน อย่าเกร็ง หลับตา ช้าๆ นะ หายใจเข้า-ออก ให้สุด ลึกๆ สัก ๔-๕ ครั้ง (ระบาย ลมหยาบ) เอาใจรู้ลม เข้า ออก ช้า ๆ (อย่าใช้ประสาทตาเพ่ง จะปวดหัว) ลมหายต้องปล่อย ตามธรรมชาติ นะ อย่าฝืนลม เมื่อลมหายใจ เรียบแล้ว ค่อยใส่คำภาวนา (เครื่องโยงจิต) ที่ชอบที่สุด สมมุติว่าชอบ พุทโธ นะ พอลมเข้า นึกว่าพุท ลมออก นึกว่าโธ ใช้ใจนึกนะ กำหนด รู้ตามอย่างเดียว ตัดความมอยากรู้ อยากเห็น ทั้งหมดอย่าเกร็งร่างกาย
    <O:p
    การฝึกสมาธิ ให้เกิดผล ไม่ว่าเราจะนั่ง ยืน เดิน นอน ได้หมด ลืมตา หลับตาไม่จำเป็น ให้มีสติ รู้ ลมหายใจ เข้าออก ไว้เป็นปกติ ตามโอกาสอำนวย จะนึกคำภาวนา หรือไม่ก็ได้ ให้มีสติรู้อย่างเดียว มันจะลืมบ้าง ก็ช่างมัน นึกมาได้ก็เริ่มใหม่ (เราฝึกที่จิต ไม่ได้ฝึกร่างกาย )
    <O:p
    และ หมั่น พิจารณา กฏของไตรลักษ์ เพื่อหาทุกข์ ไว้เนืองๆ เป็นประจำ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ พิจารณา อย่างเช่น

    ความเจ็บไข้ ไม่สบาย เป็นทุกข์ จริงมั้ย ?
    <O:p
    ร่างกายเรา เดินเข้าหาความ เสื่อมสลาย จริงมั้ย ?<O:p

    ทุกวันนี้ เราเดินเข้าหา ความตาย อยู่ทุกวัน จริงมั้ย ?
    <O:p
    ความตาย ย่อมมีกับเรา แน่นอน จริงมั้ย ?
    <O:p
    เราต้องพลัดพราก จากของรัก ของชอบใจ มันเป็นทุกข์ จริงมั้ย ?
    <O:p
    เมื่อเราตาย สมบัติที่เรามีอยู่ ย่อมเป็นสมบัติโลก จริงมั้ย ?

    อุจาระ ปัสสาวะ น้ำเลือด น้ำหนอง สเลด น้ำลาย ฯลฯ มันสกปก จริงมั้ย ?

    ของเหล่านี้ มีมาในร่างกายเรา และ ร่างกายคนอื่น จริงมั้ย ?

    อันนี้เป็นตัวอย่างของการหาทุกข์ นะ คือมองอะไร ให้เห็นตามความเป็นจริง โยงเข้าหากฏของไตรลักษ์ ถ้าทำได้ แก่นของศาสนา เป็นของไม่ยาก
    เวลาทำ อย่าอยาก ทำในท่าสบายๆ แต่ถ้าอยากเห็นความเป็นทิพย์ ค่อยมาว่ากันใหม่ เอาตรงนี้ก่อน<O:p
    การหาทุกข์ เพื่อน้อมนำสู่ นิพพิทาญาน และ สังขารุเปกญาน เพื่อก้าวสู่ โคตภูญาน นำไปซึ่ง อริยมรรค อริยผล


    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>[​IMG] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ขอบคุณโยมคุณพี่อริยบุตร ที่แนะนำการปฎิบัติให้น่ะครับ เจริญพร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2010
  16. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    ข้อความส่วนตัว: เสนอความคิดเห็นเจ้าค่ะ <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] เมื่อวานนี้, 10:27 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>phasukjai<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2009
    ข้อความ: 105
    Groans: 1
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,441
    ได้รับอนุโมทนา 349 ครั้ง ใน 85 โพส
    พลังการให้คะแนน: 33 [​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER>เสนอความคิดเห็นเจ้าค่ะ

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>นมัสการเจ้าค่ะ

    โยมอ่านกระทู้ที่พระคุณเจ้าเขียน เรื่อง "ทำไมสวดธรรมบรรลุแล้วปวดหัว" มีสมาชิกให้คำแนะนำต่างๆ หลายคนก็หลายความคิดเห็น โดยส่วนตัวของโยมเอง เคยปฏิบัติมาหลายที่หลายแนว ใครว่าที่ไหนดี ก็ไปหมด จนตอนนี้จับจุดไม่ได้ สับสนเอง ไม่รู้จะเอาอันไหนดี โยมไม่อยากให้พระคุณเจ้าเป็นเหมือนโยมเจ้าค่ะ จึงขอเสนอความคิดเห็นว่า พระคุณเจ้าลองหาครูบาอาจารย์ที่คิดว่าเหมาะกับจริตของตนเองดู แล้วศึกษาปฏิบัติอย่างจริงจัง พอติดขัดอย่างไร ท่านจะได้ช่วยแก้ไขให้ได้นะเจ้าค่ะ ถ้าฟังคนนั้นพูดที คนนี้แนะนำอย่าง ก็เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่างนะเจ้าค่ะ ไม่ไปไหนสักที เพราะแต่ละคน ก็ฝึกมาต่างแนวทางกัน

    โยมเพียงเสนอความคิดเห็นนะเจ้าคะ พระคุณเจ้าอ่านแล้วพิจารณาตามความเหมาะสมของพระคุณเจ้าดูนะเจ้าคะ จะได้ไม่เสียเวลาแวะตรงโน้น พักตรงนี้ ทางเดินมีหลายทาง แต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือพระนิพพาน ความคิดเห็นของโยม หากไม่เหมาะสมประการใด โยมกราบขออภัยด้วยนะเจ้าคะ

    นมัสการลาเจ้าค่ะ

    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>[​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอบคุณสำหรับ คำแนะนำดีๆน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2010
  17. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ขออนุโมทนากับผู้ปฎิบัติธรรมอันมีจุดมุ่งหมายสู่การพ้นทุกข์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...