การเปลี่ยนชื่อนั้นสำคัญไฉน ขอความเมตตาพี่ๆเพื่อนๆที่มีความรู้แนะนำหน่อยครับ

ผมอยากทราบจริงๆว่าการเปลี่ยนชื่อนั้นมันจะมีผลกับชะตาชีวิตมากน้อยเท่าไร ผมเข้าใจนะครับว่าคนเราจะดี-ชั่วอยู่ที่การกระทำ ดังคำว่า "ดีชั่วที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว" แต่มันจะเป็นไปได้มั้ยที่ชื่อของเรา พอเป็นชื่อไม่ดีแล้ว มันอาจจะส่งผลเหมือนเป็นกรรมมาบังทำให้ผลบุญหรืออะไรก็ตามแต่ไม่สามารถส่งผลได้เต็มที่ ผมเริ่มมาคิดเรื่องพวกนี้ได้ไม่นานนะครับ เกิดจากการอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำนายชื่อ พอซื้อมาอ่านเข้าผมก็ลองคำนวนชื่อตัวเองดู อืม! ชื่อผมมันออกมาไม่ดี คือไม่ได้มีตัวกาลกิณีนะครับ แต่เอาตัวอักษรมาแปลงเป็นตัวเลขแล้วมันออกจะไม่ดีระดับนึง ซึ่งพอผมมองย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา มันค่อนข้างตรงกับความหมาย ทั้งชีวิตที่ผ่านมาเคยผ่านอะไรมาบ้าง, ทั้งความรักบ้าง ฯลฯ ที่นี้เพื่อความแน่ใจผมเลยลองเอาชื่อพี่ชายมาดู ,เอาชื่อเพื่อนๆ มาดู ,เอาชื่อของพ่อมาดู ซึ่งมันก็ค่อนข้างไปในทิศทางซึ่งตรงกับความหมายนั้นเลย ผมเลยมานั่งคิดว่ามันเป็นไปได้ไหมที่ชื่อ มันอาจจะส่งผลต่อวิถีชีวิตโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว?

ความคิดของผมคือ คนเราเกิดมาต้องมีกรรมเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตอยู่ก่อนแล้ว และกรรมนั้นเองคอยกำหนดให้เราได้ชื่อแบบนี้ ได้เบอร์โทรศัพท์แบบนี้ ได้เลขทะเบียนรถแบบนี้ ฯลฯ เพื่อชีวิตเราจะได้ก้าวเดินไปตามแรงกรรมที่ถูกกำหนดไว้ และถึงแม้เราจะทำดีไปเท่าไร ผลบุญอันนั้นอาจโดยกรรมที่กำหนดชะตาชีวิตเราคอยเบียดบังอยู่ เหมือนดังคำที่ว่า "บุญมีแต่กรรมบัง" ซึ่งบางทีผมยอมรับครับว่าการที่เราทำดีบ่อยๆ ช่วยเหลืออะไรอยู่เนืองๆ แต่กลับไม่มีอะไรตอบแทนกลับมาเลย ไม่ใช่ว่าผมอยากทำบุญเพื่อหวังผลตอบกลับไปซะทุกครั้งนะครับ แต่บางครั้งเห็นคนรอบข้างที่วันๆไม่ค่อยได้ทำกุศลอะไรเท่าไรแต่กลับมีชีวิตที่รุ่งเรือง มันก็น้อยใจ ผมเข้าใจครับว่าพวกเค้าคงมีกุศลในอดีตชาติไว้มาก ส่วนผมคงทำกรรมบาปไว้เยอะ เลยได้แต่ชดใช้ไปเรื่อยๆ

ที่นี้ถ้ากรรมในอดีตได้กำหนดให้เราได้ชื่อแบบนี้ในชาติปัจจุบัน แล้วถ้าเราจะเปลี่ยนชื่อให้มันดีขึ้นมันจะมีผลอะไรไหมครับ เช่น

1.ใช้ชื่อเดิม แต่ก็ยังสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญเข้าวัด เหมือนเดิม
2.เปลี่ยนชื่อใหม่ที่เป็นมงคล แต่ก็ยังสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญเข้าวัด เหมือนเดิม

ผมเข้าใจนะครับว่าอาจมีบางคนคิดว่าชื่อดีไม่ดีไม่เห็นเป็นไรเลย ขอแค่เราทำดีไว้ต่อให้ชื่อไม่ดีหรืออะไรไม่ดีก็ทำร้ายเราไม่ได้ อันนี้ผมเข้าใจนะครับ แต่บางทีถ้ารอบตัวเรามีแต่สิ่งมงคลแล้วพอเราทำดีแล้วสิ่งเหล่านั้นก็อาจจะช่วยส่งเสริมหรือไม่ครับ


อยากถามความเห็นพี่ๆเพื่อนๆว่าควรทำยังไงดีครับ พอแนะนำได้มั้ย ขอบคุณมากๆครับ

 

เอาแบบที่คุณชอบก็แล้วกัน แต่ไปอย่ายึดติด ความเห็นนะ ในชื่อมีตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีติดไว้ซักตัว เอาไว้เป็นวัคซีน จะได้เป็นภูมิคุ้มกัน ถ้าไม่ฉีดวัคซีน การรักษามันจะยุ่งยากขึ้นน่ะ 555 ท้ายสุด คิดดีทำดี ดวงดาวทั้งหลายจะทำอะไรได้

 

ถาม – ชื่อและนามสกุลของคนเรา ถ้าเปลี่ยนแล้วจะทำให้ชะตาดีขึ้นหรือเลวลงจริงหรือไม่ครับ?


ตอบแบบฟันธงสั้นๆเลยคือจริงครับ! ผมเชื่อว่าชื่อคนมีอิทธิพลกับความรู้สึกนึกคิดของเจ้าตัว เชื่อว่าเมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วจะมีผลกระทบกับชีวิตโดยรวมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลไม่เป็นเรื่องจริง หรือไม่มีมูล หรือไม่ช่วยให้อะไรๆดีขึ้น วิชานามมงคลคงไม่แพร่หลาย และคงไม่มีการประกอบอาชีพทางนี้กันมาก
แต่ศรัทธาและความเชื่อดังกล่าวข้างต้นนี้ เป็นไปในทำนองเดียวกับที่เชื่อว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวมีอิทธิพลกับชีวิตคุณจริงๆ เช่นถ้าจัดห้องเสียใหม่ ความรู้สึกของคุณจะแตกต่างไป วิธีคิด วิธีใช้ชีวิตในห้องนั้นจะไม่เหมือนเดิม อารมณ์ในขณะพักผ่อนหรือทำงานจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

ทุกสิ่งที่เชื่อมโยงกับคุณอย่างใกล้ชิด หรือกระทั่งชี้ตรงมาแสดงความเป็นคุณ ล้วนมีบทบาท มีอิทธิพลเล็กใหญ่กับคุณเสมอ พวกที่ฝักใฝ่เรื่องเคล็ดลางจะไม่ละเลยแม้กระทั่งการก้าวเท้าใดออกจากตัวบ้านก่อนด้วยซ้ำ
สรุปคือชีวิตคุณทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงตรงไหน ก็ต้องมีผลกระทบในทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน และคุณจะเห็นผลต่างอย่างรวดเร็วเสียด้วยถ้าเปลี่ยนสิ่งที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นคุณแบบโต้งๆ

ชื่อและนามสกุลนั้น มองเผินๆเป็นเพียงสัญลักษณ์ใช้บ่งบอกว่าใครเป็นใคร จะให้เรียกว่าอย่างไร แต่ในทางลึกแล้ว ชื่อของคนๆหนึ่งมีความสัมพันธ์กับลักษณะจิตใจ ฤกษ์เกิด ฤกษ์ดำรงอยู่ และฤกษ์แห่งการตายไม่มากก็น้อย เมื่อเราสำคัญว่าตนเองมีนามเช่นไร นามดังกล่าวจะก่อให้เกิดภพแห่งความเป็นเช่นนั้นขึ้นมาอย่างหนักแน่น เหมือนคลื่นรบกวน หรือเครื่องจรรโลงใจที่อยู่ติดตัวแต่ละคน จึงไม่น่าฉงน หากมีตำราที่แค่รู้ชื่อก็สามารถทายทักได้ถูกว่าชีวิตที่ผ่านมาวนเวียนอยู่กับสภาพเช่นไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม นามของแต่ละคนเป็นปัจจัยหนุน ไม่ใช่ปัจจัยนำ หมายความว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นหรือเลวลงในระยะยาวนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนามเป็นหลัก แต่กรรมดีกรรมชั่วที่ทำเป็นอาจิณต่างหาก ที่ใช่
การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้อะไรๆดีขึ้นได้แบบวูบวาบ แล้วกลับตกต่ำลงด้วยปัจจัยอื่นที่แรงกว่า มีผลยืดเยื้อยาวนานกว่ากัน แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ที่ดีขึ้นอย่างถาวร จะปรับสภาพชีวิตคุณให้ดีขึ้น แม้ทีละน้อย แต่ก็มั่นคงยั่งยืน กระทั่งโด่งถึงที่สุดแห่งความรุ่งเรืองได้

ยกตัวอย่างนะครับ สมมุติว่าคุณเป็นนักพูด ซึ่งต้องไปพูดต่อหน้าชุมชนจำนวนมากเป็นประจำ หากเปลี่ยนเสื้อแสงเสียใหม่ ภาพจะดูดีขึ้นหรือเลวลงทันที เสื้อผ้าจึงเป็นส่วนสร้างความรู้สึกมั่นใจ หรืออย่างน้อยก็เป็นปัจจัยให้ความรู้สึกเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของคุณเปลี่ยนแปลงออกมาจากภายใน พูดง่ายๆว่าการแต่งกายมีผลกระทบทั้งต่อความรู้สึกของคนอื่นและภาวะจิตใจคุณเอง

แต่หากคุณปรับเปลี่ยนวิธีพูด มีอารมณ์ขัน มีลูกล่อลูกชน มีการตั้งใจให้คุณแก่คนฟัง ผลจะแรงกว่าเปลี่ยนสไตล์แต่งตัวมาก คือหากพูดดี ฟังง่าย ฟังมัน แถมสื่อสารอันเป็นประโยชน์ให้คนเข้าใจชัดเจนทุกถ้อยกระทงความ คนจะหันมาฟังคำพูดของคุณมากกว่าดูการแต่งกายของคุณ ต่อให้คุณแต่งตัวมอซอ ดูไม่ค่อยเข้าท่า ในที่สุดก็อาจกลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ เกิดนักพูดฝีปากเอกในคราบซำเหมาขึ้นในวงการไป

นี่ก็ทำนองเดียวกัน สมมุติว่าคุณชื่อนายเหม็น ซึ่งเป็นชื่อโบราณ ไม่มีใครตั้งกันแล้ว แต่ถ้าคุณตั้งใจรักษาศีลให้สะอาดบริสุทธิ์ คำพูดมีแต่สรรเสริญคน ไม่ติฉินนินทาใคร อีกทั้งทำเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนรอบข้าง ในที่สุดชื่อของนายเหม็นผู้มีความประพฤติหอมหวนทวนลมจะฟุ้งเฟื่องขจรขจายกว้างไกล กลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ เป็นของแปลก ‘ดี’ ไปเสียอีก

คนไม่ค่อยเข้าใจความจริงข้างต้นนี้ ไปมองว่านามเป็นปัจจัยนำ เลยฝากความหวังกันไว้ผิดๆ นึกว่าเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลปุ๊บจะเกิดภูเขาทองขึ้นที่หลังบ้านทันที ความเชื่อผิดๆนี้จึงก่อให้เกิดการแนะนำผิดๆ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงผิดๆมากกว่าจะถูกต้อง ตำราตั้งชื่อนั้นมีหลายเจ้า คนทั่วไปไม่มีวันทราบได้เลยว่านักตั้งชื่อมีหลักการน่าเชื่อถือแท้จริงลึกซึ้งแค่ไหน มีผลงานการตั้งชื่อใหม่ให้เกิดมงคลหรืออัปมงคลกับใครมาแล้วบ้าง
ตามประสบการณ์ที่เคยพบมา ผมเคยเห็นคนเปลี่ยนชื่อแล้วจิตบิดเบี้ยวไปจากเดิม คือความคิดความอ่านผิดเพี้ยน ไม่เป็นตัวของตัวเอง แถมชื่อใหม่เป็นเสมือนแรงดึงดูดเรื่องยุ่งๆสารพัดชนิดเข้ามาสู่ชีวิตตนด้วยซ้ำครับ!
ที่สุดของที่สุดคือถ้ากรรมดีด้วย นามดีด้วย ก็จะเกิดความสมบูรณ์แบบขึ้นมา เพราะฉะนั้นผมไม่ต่อต้านเรื่องการตั้งชื่อใหม่ แต่อยากให้เข้าใจอย่างสมบูรณ์ครบวงจรครับว่าชื่อไม่ใช่ปัจจัยนำ กรรมทางความคิด การพูด และการกระทำต่างหากที่ใช่ ถ้าแค่ชักชวนกันสำรวจกรรมของแต่ละคน ถามเอาจากคนใกล้ตัว ไม่ต้องไปหาหมอดูที่ไหน ถามเขาว่าคุณมีกรรมอันเป็นตำหนิอย่างไรบ้าง พูดตรงไหนเป็นกาลกิณี รับทราบแล้วน้อมนำมาปรับเปลี่ยนเสียใหม่ให้มีดีขึ้น พูดตรงไหนเป็นศิริมงคล รับทราบแล้วน้อมมาพัฒนาให้ประเสริฐยิ่งๆขึ้นไปอีก เท่านี้คุณก็ได้ชื่อว่าสร้างกรรมที่เป็นมงคลกับชื่อตนเอง ไม่ใช่พยายามเอาชื่อใหม่ดีๆมาสวมทับกรรมไม่ดี ประดุจคนซื้อเสื้อขาวมาใส่ทั้งที่ยังไม่ชำระล้างสะสางกายครับ

-ดังตฤณ-
​

 

ขอบคุณมากๆครับ มีใครแนะนำอีกมั้ยครับ

ปล.คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Jt Odyssey<!-- google_ad_section_end --> ใช่คุณอาดังตฤณหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ผมมีหนังสือคุณอาอยู่ ชอบมากๆครับ ^^

 

อยู่ที่ใจครับ ถ้าทำใจไม่ได้ เพื่อความสบายใจ ก็เปลี่ยนใหม่ครับ แต่ล้วนเป็นสมมุติบัญญัติทั้งนั้น...กรรมเก่าทำเอาไว้เยอะ ต้องทำใจอีกเหมือนเดิม...

 

ข้อความของคุณดังตฤน กล่าวไว้ถูกต้องแล้ว นำไปพิจารณาได้เลยครับ

เสริมให้นิดนึงครับ

หากจะเปลี่ยนถ้าเลือกได้ก็ควรเลือกให้เข้ากับบุคคลิก ลักษณะ ท่าทาง นิสัยใจคอ ด้วยก็ดี หรือ เลือกเปลี่ยนให้เข้ากับหน้าที่การงานหรืออาชีพที่เราทำอยู่ด้วยจะดีไม่น้อย เพราะบางคนชื่อไม่เข้ากับหน้าตา ท่าทาง และหน้าที่การงาน มันก็ส่งผลต่อความรู้สึกกับคนอื่นได้เช่นกัน (แต่ตรงนี้ไม่เป็นไร เน้นตรงให้เลขศาสตร์ดีไว้ก่อน)

เลือกชื่อที่มีความหมายดี เลขดี เหมาะกับลักษณะของตัวเรา อาชีพเรา ก็จะส่งเสริมให้ดีขึ้นอีกครับ

สุดท้ายหลักใหญ่ที่สำคัญที่สุดมากกว่าชื่อ นั่นคือ การกระทำของตัวเราครับ เปลี่ยนก็ดี ไม่เปลี่ยนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละท่าน แต่อิทธิพลของชื่อนั้นมีผลกับตัวเราแน่นอนครับ

 

ไม่ใช่ครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจงานเขียนของคุณดังตฤณ เท่านั้นเอง

 

คุณฝ่ายธรรมมะ
แหม มันน่าเปลี่ยนเป็นฝ่ายอธรรม นะเนี่ย
ยึดพระรัตนตรัยอยู่ดีๆ ดันจะเดินหลงทางไปเสียนี่
ชื่อพวกนี้ เป็น "สมมุติบัญญัติ"ทั้งสิ้น
การเปลี่ยนชื่อ เป็นภาวะทางจิตวิทยาของวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับธรรมะใดๆเลย จะมีเกี่ยวอยู่ก็กิเลศนั่นแหละ เกี่ยวเพื่อให้ตัวเองเพิ่มโลภ โกรธ หลงมากขึ้นยังไง....
อีกอย่าง ความเชื่อพวกนี้ เป็นของลัทธิฮินดูพราห์มณ์เขา เขาเชื่อในคัมภีร์ไสยาศาสตร์
เวทมนต์คาถา เชื่อในฤทธิ์ที่เป็นโลกีย์ ซึ่งมันก็มีจริง แต่ไม่จีรัง...
..ทางที่ดีควรยึดมรรค8 เป็นแนวทางเดินดีกว่า ไปยุ่งกับสมมุติพวกนี้

 

เปลี่ยนแล้วสบายใจก็เชิญเลย อันนี้มีผลแน่ทำให้ความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่ถ้าเปลี่ยนเพราะหวังว่าจะทำให้ดวงดีขึ้นก็เสียใจด้วยที่จะไม่เป็นดังหวัง
แถมให้หน่อยที่ว่าดวงดีคืออะไร สมัยก่อนคนเราตั้งในธรรม ใจละเอียดพอจะเห็นบุญที่อยู่ในตัวได้ ใครมีบุญมาก ดวงบุญก็สว่างมาก นั่นแหละดวงดี

 

หลวงปู่ครูบาธรรมชัย​

​

ถาม : อยากจะเปลี่ยนชื่อ หนูเกิดวันพฤหัสบดีค่ะ ?

ตอบ : แล้วทำไมจะเปลี่ยน เป็นอะไรเขาก็เรียกชื่อเดิม เชื่อเถอะมันแทบจะไม่มีใครที่เขาเรียกชื่อใหม่ของเราหรอก ยกเว้นคนที่เพิ่งรู้จักกัน คนที่รู้จักกันมาแล้วเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรมันก็เรียกชื่อเดิม จริง ๆ ชื่อเสียงเรียงนามนี้มันมาทีหลังคน ตำราการตั้งชื่อมันมาทีหลัง ถ้ามันมีผลต่อคนมากถึงขนาดนั้นบรรพบุรุษของเราก็คงตายหมดแล้ว ไม่เหลือมาถึงเราหรอก อุตส่าห์สืบเผ่าสืบพันธุ์มาถึงเราจนปัจจุบันตั้งห้าหกพันล้านคนแล้ว เพราะฉะนั้นชอบชื่ออะไรก็เอาชื่อนั้นเถอะ ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ถือว่าเป็นมงคลที่สุดแล้ว

อาตมาอยู่มาจนป่านนี้ก็เพิ่งจะเจออยู่รายเดียวที่ชื่อมีอิทธิพล เป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งอายุก็คงราว ๆ สักสิบห้าสิบหกปี เชื่อไหมว่าตัวเขาเบาจนขนาดเราหิ้วแขนเดียวลอยเลย ผอมกะหร่องมีแต่กระดูก

ตอนนั้นหลวงปู่ครูบาธรรมชัยยังอยู่ หลวงปู่ครูบาธรรมชัยเป็นพระดีองค์หนึ่งที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกให้ลูก ๆ ไปหาไปกราบไปไหว้ไปทำบุญกับท่าน

หลวงปู่ธรรมชัยท่านรักษาโรค วิธีรักษาโรคท่านตรวจด้วยทิพจักขุญาณ คือ โรคที่หมอทั่ว ๆ ไปรักษาไม่ได้มักจะไปหาหลวงปู่ หลวงปู่ท่านจะมีสายสิญจน์วางอยู่ในพานพาดมาแล้วท่านก็จะจับไว้ พอคนป่วยเข้ามาแตะสายสิญจน์หลวงปู่จะบอกว่าป่วยด้วยโรคอะไร เป็นมากี่ปีกี่เดือนกี่วันต้องรักษาด้วยยาอะไร

สมัยนั้นถ้าหลวงปู่มาไม่ตรงกับหลวงพ่อ ก็จะไปหาหลวงปู่เพื่อทดสอบทิพจักขุญาณของตัวเอง ไปถึงโยมเขาแตะก็กำหนดใจจะรู้ว่าเขาป่วยมากี่ปี แต่พอเดือนนั้นมักจะผิด พอวันนี่ไปไกลลิบเลย หลวงปู่ท่านบอกรายละเอียดได้แต่ของเรามันละเอียดขนาดนั้นไม่ได้ มาตอนหลังหลวงพ่อท่านบอกว่าทิพจักขุญาณของหลวงปู่ธรรมชัยเยี่ยมที่สุดในยุคนั้น เพราะว่าท่านเกิดมาเพื่อเป็นหมอ เป็นหมอถ้ารู้ไม่ละเอียดรักษาโรคไม่ได้ ในเมื่อท่านมาเพื่อเป็นหมอ ทิพจักขุญาณต้องเยี่ยมที่สุด เพราะฉะนั้นที่เราผิดแล้วผิดอีกไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ไปลองกับใครไม่ลองไปลองระดับ ...(หัวเราะ)...ปรมาจารย์เลย

คราวนี้พอเด็กคนนั้นแตะสายสิญจน์ปั๊บหลวงปู่ลืมตาขึ้นมาบอกอีหนูไม่ต้องรักษาหรอกลูกไปเปลี่ยนชื่อก็หายเอง ท่านบอกว่าชื่อปัจจุบันนี้ไปตรงกับบรรพบุรุษคนหนึ่งที่ตายมานานแล้ว ผีมันหวงชื่อตายมานานขนาดนั้นแล้วยังไม่ยอมเลิกหวงชื่อตัวเอง ลูกหลานเอาชื่อมาตั้งตรงกับมัน มันโกรธก็เลยแกล้งจนเป็นอย่างนั้น หมอรักษาเท่าไรก็ไม่หาย หาสาเหตุไม่เจอ นั่นแหละในชีวิตที่อยู่มาจนป่านนี้สี่สิบกว่าปีแล้ว เพิ่งเห็นมีคนเดียวที่ชื่อมีอิทธิพลกับตัว เพราะฉะนั้นของเราอะไรก็ได้ ถ้าอยากได้ชื่อเพราะ ๆ ไปวัดดอนเดินดูทีละป้าย ๆ เดี๋ยวก็ได้เอง

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๔


http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=812

.