การเจริญสติให้ได้ตลอดเวลาคือ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 3 กันยายน 2021.

  1. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    คนที่คล่องแล้วไม่นานหรอกค่ะ สติมันทันกันเร็วขึ้นเรื่อยๆ จิตไหลไปก็รู้ เผลออีกรู้อีก เอาเผลอเอาหลงเป็นเครื่องมือมากำหนดรู้ไปด้วยเลย

    แม้คุณจะเน้นกำหนดรู้ที่ลม มันก็อยู่กับลมไม่ได้ทั้งวัน มีหลงคิด หลงเผลอ ตลอด จิงมั้ย

    ไม่ต่างกันเลย แต่ถ้าคล่อง จิตที่เผลอมันก็มาอยู่ที่ลมเร็วขึ้น เพราะสติมันระลึกได้จำได้ หลักการเดียวกันค่ะ เลย แค่เพียงเพียรสติกำหนดรู้ลงไป ระลึกรู้อะไรก็ได้ ไม่พ้นกายใจ
     
  2. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    ยิ่งแสดง ความดักดานไปใหญ่ หมุเอ้ย

    มรรคเปลี่ยน วิถีจิต ปฏิบัติ มรรค แล้วมานั่งไล่นับมรรค ทีละข้อ

    แล้วบอกเข้าใจ สติปัฏฐาน ก็คือ มรรค 8 โอ้ยยย ตายตายตาย

    พูดอะไรมาก็ขัดแข้งขัดขาตัวเองไปหมด
     
  3. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    ตำรารอท่า ทำด้วยตาเห็นถึงฝั่งธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2021
  4. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    คุณไปอ่าน จิตตานุปัสนาไหมละ มันมีอารมเดียวไหมละ

    คุณกำลังไปยัดเยียด บิดเบือน ตั้งคำถามเอง ชงเอง โดยไม่ฟังพระสูตร ที่เขายกมาอธิบาย

    เช่น ไปคอยตั้งท่าดู หรือ เอาอารมณ์โกรธอารมเดียว มาเป็นวิหารธรรม ขำกลิ้งเลยฮับ
     
  5. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868

    (๑) อุทธัจจะ กุกกุจจะ คือความฟุ้งซ่าน รำคาญใจ เป็นหนึ่งใน นิวรณ์ ๕

    อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ เป็นไฉน?

    อุทธัจจกุกกุจจะนั้น แยกเป็นอุทธัจจะอย่างหนึ่ง กุกกุจจะอย่างหนึ่ง

    อุทธัจจะ เป็นไฉน?

    ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ความไม่สงบแห่งจิต ความวุ่นวายใจ ความพล่านแห่งจิต อันใด นี้เรียกว่า อุทธัจจะ.

    กุกกุจจะ เป็นไฉน?

    ความสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร ความสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร ความสำคัญว่ามีโทษในของที่ไม่มีโทษ ความสำคัญว่าไม่มีโทษในของที่มีโทษ การรำคาญ กิริยาที่รำคาญ ความรำคาญ ความเดือดร้อนใจ ความยุ่งใจ ซึ่งมีลักษณะเช่นว่านี้ อันใด นี้เรียกว่า กุกกุจจะ.

    อุทธัจจะและกุกกุจจะนี้ รวมเรียกว่า อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์

    (๒) ก็สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน สมัยนั้น มิใช่กาลเพื่อเจริญ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ มิใช่กาลเพื่อเจริญวิริยสัมโพชฌงค์ มิใช่กาลเพื่อเจริญปีติสัมโพชฌงค์ เพราะจิตฟุ้งซ่านนั้น ยากที่จะให้สงบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น

    เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะดับไฟกองใหญ่ เขาจึงใส่หญ้าแห้ง โคมัยแห้ง ไม้แห้ง เอาปากเป่า และไม่โรยฝุ่นลงไปในกองไฟใหญ่นั้น บุรุษนั้นสามารถจะดับไฟกองใหญ่ไม่ได้

    ก็สมัยใด จิตฟุ้งซ่าน สมัยนั้น เป็นกาลเพื่อเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เป็นกาลเพื่อเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์ เป็นกาลเพื่อเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ เพราะจิตที่ฟุ้งซ่านนั้น ให้สงบได้ง่ายด้วยธรรมเหล่านั้น

    เปรียบเหมือนบุรุษต้องการจะดับไฟกองใหญ่ เขาจึงใส่หญ้าสด โคมัยสด ไม้สด พ่นน้ำ และโรยฝุ่นลงในกองไฟใหญ่นั้น บุรุษนั้นจะสามารถดับกองไฟกองใหญ่นั้นได้

    สติ มีประโยชน์ในที่ทั้งปวง

    (๓) เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่จะเป็นเหตุให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรืออุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ เหมือนความไม่สงบแห่งใจ

    เมื่อบุคคลมีจิตไม่สงบแล้ว อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และอุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์

    (๔) เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่จะเป็นเหตุให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรืออุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้ว อันบุคคลย่อมละได้ เหมือนความสงบแห่งใจ

    เมื่อบุคคลมีจิตสงบแล้ว อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และอุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้ว อันบุคคลย่อมละได้

    ที่มา https://uttayarndham.org/ธรรมานุกรม/2097/อ-อุทธัจจะ-กุกกุจจะ

    B676587B-2DE0-4D3C-A407-1BDAD66E78CB.png
     
  6. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    มรรค 8 หรือ สติปัฏฐานพระพุทธองค์ แสดงมี 21 วิธี ในการเข้า
    21 วิธีนี้ เป็น วิหารธรรมหมด เป็นทั้ง สมถะและวิปัสนา

    แต่ประเด้นหมูใหม้ ยก เอา วิหารธรรมเป็นแค่ สมถะ โหลยโท่ยมาก

    ทั้งที่ 21 วิธี เป็นทั้งสมถะและวิปัสนาในตัว

    อย่าไปกล่าวตู่ ในอีก 20 วิธีที่เหลือ มันแสดงความโง่ซ้ำซ้อน
    นี่ ที่เขาพยายามบอก ก็มีแค่นี้
     
  7. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    พระสูตรที่ยกมาก็บอกแล้วไงครับ

    พระพุทธองค์ตรัสขยายความ....
    จิตเห็นจิตอยู่....เป็นอย่างไรเล่า

    ....คำว่า..."อย่างไรเล่า"
    คือการที่พระพุทธองค์.....ตรัสกับสาวก
    ถ้าบอกสั้นๆ ....เห็นจิตในจิต....
    สาวกก็จะถามต่ออีกว่า...
    จิตเห็นจิต....เป็นอย่างไร

    พระพุทธองค์แจกแจง....ออกมา
    ....ที่ว่าเห็นจิตในจิตคืออะไรบ้าง

    พระพุทธองค์ใช้....อานาปานสติ...
    ในการอธิบายสติปัฎฐานต่างหาก
     
  8. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    เล่นเกมส์แล้วดูจิต....
    บรรลุธรรมได้ไหม
    ทำไมตอบล่ะครับ....

    คนเล่นเกมส์ไปดูจิตไป
    ก็ไม่ต่างจากที่คุณทำกันอยู่

    ทำมรรคองค์เดียว...จริงไหมครับ
     
  9. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    ต้นเรื่อง เป็น หมวด มหาสติปัฏฐาน

    ท่านแสดง มหาสติปัฏฐาน ว่ามีอะไรบ้าง

    โดย แสดง ไปถึง 21 วิธี
    ไล่ลำดับ จาก วิธี ที่เป็น จากรูป ไปหานาม

    ถ้าผมจะยกมาให้ครบ

    ท่านขึ้นต้นด้วย กาย มีอานาปานสติเป็นต้น

    แล้วก้ไล่ไป อิริยาบท ไล่ไป เวทนา ไล่ไปหาจิต ไล่ไปหาธรรม

    ซึ่ง แต่ละวิธี ทำให้บรรลุธรรมทั้งนั้น ทำไมคุณไม่เบิ่งตาอ่านมั่งละครับ

    มีแต่หมูไหม้ นี่ละ ไป ตั้งเรื่อง คิดเอง ชงเอง แล้วก้ไปกล่าวตู่พุทธพจน์
     
  10. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    งงอะไรอีกครับ
    บอกแล้วอย่าสับสนระหว่าง....
    สติปัฎฐาน.... กับ ....วิหารธรรม

    ยังพยายามโยง ....วิหารธรรมเป็นสติปัฎฐานให้ได้

    สติปัฎฐาน....ฐานที่ระลึกรู้
    วิหารธรรม...เครื่องให้จิตอยู่....ให้จิตเกาะ
     
  11. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    แต่ถ้าคนเป็นจริงๆ เขาก็ภาวนาได้ เพราะ เขาภาวนาเป็นไง
    จะอยู่แบบไหนอะไรก็ภาวนาได้ ที่มันไม่ผิดศีล 5ข้อ
    กำหนดรู้กายใจได้ ในการเล่นเกมส์ มันก็ไม่เสียเปล่า ที่เกิดมาเป็นมนุษย์
    ไม่ ว่างเว้นจากการภาวนา ก็สามารถบรรลุธรรมได้
     
  12. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ใช่ครับทุกวิธีบรรลุได้หมด

    แต่ต้องมีวิหารธรรม
    แต่ที่คุณทำอยู่มันไม่มีวิหารธรรม

    ไปสำคัญว่า...
    สติปัฎฐานเป็นวิหารธรรมให้มั่วไปหมด

    ผมถึงย้ำ....การเข้าดูนามธรรม
    ต้องมีที่เกาะ
    ...แต่ไอ้ที่พวกคุณทำอยู่....ไม่มีที่เกาะ

    มันไม่ต่างจากเด็กเล่นเกมส์แล้วไปดูจิต
     
  13. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    คนที่ งง ก็น่าจะเป็นหมูไหม้ เพราะอานาปานะสติ ก้เป็น สติปัฏฐาน

    ลมหายใจก็เป็นวิหารธรรม เพียงแต่ ว่า หมูไหม้ ไปยก แค่ว่า วิหารธรรม คือสมถะ

    แต่คนอื่นเขาเข้าใจไง ใน 21 วิธี มันเป็น วิหารธรรมทั้งหมด
     
  14. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    คุณก็เหมือนเด็กเล่นเกมส์ไปดูจิต

    เด็กเล่นเกมส์ก็เห็นได้หมดล่ะครับ
    แพ้ก็เห็นโกรธ
    พอชนะก็เห็นความพอใจ
    เล่นเพลินๆก็เห็นความชอบ

    เหมือนที่คุณทำไม่มีผิด....
    ใจมันขึ้นลงตลอด....ไม่หยุด

    รู้ไหมเด็กเล่นเกมส์แล้วดูจิต
    ขาดอะไร....ถึงไม่บรรลุธรรม
    .....ขาดอุเบกขาสัมโพชฌงค์ไงครับ

    มรรคแปดของพระพุทธองค์
    จึงไม่ใช่... เอ๊ะอะก็เข้าไปรู้ เข้าไปรู้อย่างเดียว
    แบบที่คุณเข้าใจผิด....

    เพราะถ้าเกิดอุเบกขา....มันวางเกมส์แล้ว
    อย่างเดียวกัน
    กับพวกคุณเจริญมรรคองค์เดียว

    ไม่ยกวิถีจิตขึ้น....ให้มันเป็นกลางตั้งมั่น
    เห็นให้ตาย...ก็ไม่แจ้ง
     
  15. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    วิหารธรรม นี่แหล่ะครับ...คือสมถะ....
    อาศัยวิหารธรรมเป็นที่เกาะ....

    เพื่อไปเห็น....ความคิดบ้าง... เห็นอารมณ์จิตบ้าง
    ตรงนี้คือ...วิปัสสนา

    มันเลยมีทั้งสมถะและวิปัสสนา

    ไม่ใช่การโดดไปรู้อย่างเดียว
    แล้วเข้าใจว่าทำวิปัสสนา....
    มันยังไม่ใช่วิปัสสนาเลยด้วยซ้ำ
    แถมสมถะ....หาไม่เจออีก....
     
  16. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ที่พูดมาตลอด แนนไม่เคยบอกว่าใครต้องมาดูจิตเท่านั้น ต้องทำแบบนี้เท่านั้น

    มีแต่คุณนะคะที่ยึดติดรูปแบบ คิดว่าแบบนี้ดีสุด อย่างอื่นไม่ใช่

    ที่พยายามบอกตลอดเวลาคือ ไม่มีอะไรดีสุดสำหรับแต่ละคน แนวทางของใคร ถนัดแบบไหน ภาวนาแล้วจิตพัฒนาเพียรทำไป ดีทั้งนั้น
     
  17. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ถ้านามธรรมภายใน
    เปรียบเป็นทะเล....
    ....การเจริญมรรคองค์เดียวแบบคุณนั้น
    ก็เหมือน
    ....ทะเลนั้นคลื่นลมมันแรง...ไปด้วยกิเลส
    แถมยังไม่เอาห่วงยางคือวิหารธรรมไปด้วย...
    มีแต่จม...ในนามธรรม
    จมแล้วเป็นไง?

    จมแล้วก็ผูกติดกับอารมณ์
    มันอดไม่ได้ที่จะ....
    เผลอไปจ้องดู...เผลอไปรอดู
    ....ถ้าไม่มีห่วงยาง...คือวิหารธรรรม

    และการที่มีวิหารธรรมเป็นปกตินั้น
    คลื่นลมทะเลจะสงบลง
    แถมมีห่วงยางติดไปด้วย....
    มันเลยไม่จมไปในห้วงนามธรรม

    มันจึงไม่ก่ออุปทานในรู้...อุปาทานในวิญญาน
    แบบนั้นครับ
     
  18. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    วิหารธรรมของวิปัสสนาคือรู้เฉยๆ นั่นแหล่ะ

    มันไม่ใช่การโดดงับรู้แบบหมูไหม้คิดเองเออเอง มันรู้เร็วเท่าๆกับลมหายใจเข้าหรือออกหนึ่งครั้ง

    จิตกับอารมณ์จิตคนละความว่าง ไปบอกว่าจิตขึ้นๆ ลงๆตามอารมณ์จิต แบบนี้ไม่ต้องกำหนด ถ้ากำหนดจิตจะไม่ขึ้นลง จิตมันจะรู้เฉยๆ เป็นความว่างหน้าเดียว คือมันเฉย ... แต่อารมณ์จิตมันจะเป็นความว่าง(หรือเรียกว่าอารมณ์ที่วุ่นวายมาก) มันจะมีหลายความรู้สึกเกิดขึ้นมามากมาย แต่จิตที่รู้เฉยๆ จะไม่หมุนไปตามอารมณ์ที่หลากหลายนั้น

    ธรรมพระพุทธเจ้าแค่นั้นแหล่ะ รู้เฉยๆ ...รู้เมื่อไหร่ วงจรทุกข์หยุดทำงานทันที มันเป็นอารมณ์วิปัสสนา เป็นขั้นสร้างสัญญาบริสุทธิ์เข้าจิต (บริสุทธิ์จากโลภ โกรธ หลง) แต่ไม่ใช่วิปัสสนาญาณ

    สมถะเกิดขึ้นตลอดสาย เช่น จิตที่ได้สภาวะ ถ้ารู้ไม่ทัน จิตจะยึดผลงานออกมาตลอด นั่นก้ออารมณ์สมถะ สติสมถะคือสติยึด
     
  19. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    คุณจะไปกังวลอะไรกับคนอื่น หากเขาอดไม่ได้เผลอไม่ได้ ฟุ้งซ่าน จะกลับไปเกาะห่วงยางก็ทำไป พิจารณาตามกำลังของตน ทำไม่ได้ก็อย่าฝืน…..คนทำได้ จิตสงบ เห็นความจริงรูปนาม จากการภาวนาแบบนี้ เขาก็มี ซึ่งก็เป็นเรืาองที่แต่ละคนจะต้องพิจารณา ถึงกำลังจิตของแต่ละคนว่าคล่องแบบไหน ไหวแค่ไหน…ไม่ใช่เรื่องจ้องต้องไปบังคับใครให้ต้องมาทำตามแต่แบบที่ตัวเองเห็นชอบ
     
  20. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    ยิ่งแสดงความโง่ดักดานเข้าไปใหญ่

    วิธี ใน 21 วิธี คุณเองก้พูดเองว่าบรรลุได้หมด

    แต่นี่มากลับลำสะงั้น กลบพระธรรมไปอีก

    ไอ้ส่วนที่คุณบอก อุเบกขาสัมโพชฌง มันไม่เกิดขึ้นมาก่อนหรอก
    เพราะมันเป็น ที่สุดท้าย ที่สติบริสุทธิ์บังเกิด จิตจึงทรงอยู่ในอุเบกขาสัมโพฌชง
    นี่ ขั้นสุดท้าย

    แต่ที่คุณบอกว่า อุเบก มาก่อน นั่นมันอุเบกขาแบบเฉยโง่ ที่คุณทำมาเป็นสมถะ

    ถามว่า ทำได้ก้ดี ไม่มีใครว่า

    และสุดท้าย ที่บอกว่า ให้มันตั้งมั่นเป็นกลาง
    สมาธิมันเกิดขึ้นอยู่แล้ว ความตั้งมั่นของจิตน่ะ

    และเป็นความตั้งมั่นของสมาธิที่เป็น สัมมาสมาธิเสียด้วย
    เพราะมี มีสติสัมโพชฌง ที่เพียรเจริญเป็นพื้นฐาน
    ไม่ต้องไปยกนั่น ยกนี่ ให้มันเป็นกลาง
    แต่มันเป็นกลางด้วยตัวของมัน เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว



    แล้วก้บอกว่า รู้จักสมาธิ2 ประเภท หมูเอ้ย ดักดานเหลือเกิน
     

แชร์หน้านี้

Loading...