การสวดมนต์คาถาและการสวมใส่พระ จะสามารถป้องกันวิญญาน หรือสิ่งไม่ดี ได้จริงหรือ????

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย deedyangels, 15 สิงหาคม 2008.

  1. deedyangels

    deedyangels สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    เราเคยได้อ่านบทสวดมนต์บางบทซึ่งได้บอกคุณสมบัติไว้ เช่น
    สามารถป้องกันภูติผี วิญญาณหรือว่าขับไล่ผี ป้องกันสัตว์มีพิษเป็นต้น
    เรายังสงสัยอยู่เลยว่าจะสามารถป้องกันเราจากสิ่งเหล่านั้นได้จริงหรือ??


    แล้วถ้าเกิดสามารถป้องกันได้จริง เราควรสวดรึเปล่าคะ??
    ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าไม่ควรสวดนะ ถ้าเกิดวิญญานเหล่านั้นไม่ได้มาทำอะไรเรา
    แต่เราไปสวดนี่ ถือว่าเป็นการเบียดเบียนเขาใช่ไหมคะ
    ต่างคนต่างอยู่ เราไม่ได้คิดร้ายต่อใคร เค้าคงไม่มาทำอะไรเราหรอก
    ใช่ไหมคะ??


    อีกกรณีหนึ่งที่เรายังสงสัยคือเรื่องพระเครื่อง หรือพระพุทธรูป
    จะป้องกันวิญญานได้จริงหรือคะ??
    ถ้าเกิดป้องกันได้จริง แล้ววิญญานที่เป็นชาวต่างชาติ ต่างศาสนาเค้าจะกลัวด้วยรึเปล่า
    หรือว่าใครนับถือศาสนาอะไรก็จะกลังศาสดาของศาสนานั้นๆ คะ



    รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะให้กับกบในกะลาด้วยนะคะ
    อนุโมทนากับทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ด้วยค่ะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2008
  2. กิตติรัตน์ นพต

    กิตติรัตน์ นพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +363
    เป็นคำถามที่ดีมากเลยครับ จะคอยฟังคำตอบครับ
     
  3. boy_kmutt

    boy_kmutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +227
    ผมคิดว่า การสวดมนต์สามารถป้องกันภัยได้ครับ แต่ผู้ที่สวดนั้นต้องตั้งใจสวดและมีสมาธิด้วย ยกตัวอย่างเช่น พระคาถาชินบัญชร ความหมายของพระคาถานี้สั่นๆ คือ อัญเชิญพระบารมีของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์และพระอรหันต์สาวกมาอยู่ข้างกายเรา

    เมื่อผู้สวดปฏิบัติตนเป็นคนดี เช่น ปฏิบัติกรรมฐาน รักษาศีล บุญที่ได้จากการสวดมนต์นั้นจะมีอานุภาพ ความศักดิ์สิทธิมากขึ้น แต่ถ้าผู้สวดนั้นดื่มเหล้า ลักขโมย เป็นคนไม่ดี ความศักดิ์สิทธิที่ได้คงน้อยลง

    การสวดมนต์เป็นนิจนี้ มุ่งให้จิตแนบสนิทติดในคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ จิตใจจะสงบเยือกเย็นเป็นบัณฑิต มีความคิดสูง ทิฏฐิมานะทั้งหลายก็จะคลายหายไปได้ เราจะได้รับอานิสงส์เป็นผลของตนเองอย่างนี้จากสวดมนต์เป็นนิจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2008
  4. pucca2101

    pucca2101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5,805
    ค่าพลัง:
    +20,896
    ถ้าเรามี ทาน ศีล ภาวนา สวดมนต์ ไหว้พระ กระทำอยู่เป็นประจำ จะเกิดรัศมีขึ้นรอบตัวเรา ซึ่งก็คือบารมีของเรานั่นเอง บรรดาสัมภเวสีทั้งหลาย ไม่ว่าจะชาติไหนก็ตาม จะไม่เข้าใกล้เรา ถึงแม้ว่าเราจะใส่พระเครื่อง หรือ ไม่ใส่ก็ตาม เพราะจิตเราน้อมอยู่ที่พระรัตนตรัยตลอดเวลา


    เคยอ่านเจอในหนังสือนะคะ สำหรับบทสวดมนต์บางบท สัมภเวสีชั้นต่ำจะไม่สามารถทนฟังได้เค้าจะรู้สึกร้อน วิธีแก้ คือ ก่อนสวดมนต์ให้เราอธิฐานก่อนว่า ตอนนี้เราจะสวดมนต์แล้วนะ หากผู้ใด หรือ จิตทิพย์ใด ฟังได้ ขอให้อนุโมทนาบุญร่วมกัน แต่หากแม้นว่าผู้ใด อยู่ไม่ได้ ขอให้ถอยออกไปก่อน
    ตามหนังสือว่าไว้แบบนี้ค่ะ


    หากเราทำชั่ว ต่อให้ห้อยพระสมเด็จราคาเป็นล้าน ๆ ท่านก็คงไม่คุ้มครองหรอกค่ะ แต่หากแม้นว่าเราทำดีอยู่เป็นนิจ ท่องสวดชินบัญชร ใจน้อมระลึกถึงหลวงปู่โต ถึงแม้ว่าจะไม่มีพระสมเด็จมาขึ้นคอ บุญบารมีของท่านก็จะช่วยคุ้มครองเราค่ะ


    ทุกสิ่งทุกอย่างสำคัญที่เราต้องเป็นคนดี ประพฤติ ปฏิบัติ บำเพ็ญ ภาวนา ก็จะแคล้วคลาดจากภยันตรายใด ๆ ทั้งปวง ที่เค้าพูดว่า คนดี พระ คุ้มครอง ไงค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2008
  5. visut_p

    visut_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,763
    จากความเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ "ช่วยไม่ได้ครับ"
    ผมเคยโดนทำของใส่ (คุณไสย) ที่มาอยู่ในตัวผมคราวนั้นเป็นวิญญาณ 3 ดวง + เสือสมิงอีกหนึ่งตัว สวดมนต์เนี่ยผมก็ทำประจำครับ พระเนี่ยผมห้อยตลอด จะถอดออกก็แค่ตอนอาบน้ำและตอนนอน สรุปว่าคาถาและพระเครื่องนั้นช่วยผมไม่ได้ :(
    สุดท้ายก็ต้องไปพึ่งร่างทรงเพื่อเอาของออก ผมเคยถามวิญญาณพวกนี้นะครับว่าไม่กลัวพระเครื่องที่ผมห้อยเหรอ เค้าตอบว่า "ไม่"

    มีคนเคยถามผมว่า "ถ้ามึงเห็นพระตอนนี้ มึงจะวิ่งหนีเหรอว่าเดินเข้าไปกราบ"
    ผมตอบว่า "ผมก็เดินเข้าไปกราบสิ"
    เค้าก็ถามผมต่อว่า "สมมุติว่าตอนนี้มึงตายเป็นผีแล้ว แล้วมึงก็เจอพระเหมือนเดิม มึงจะวิ่งหนีเหรอว่าวิ่งเข้าไปกราบ"
    เป็นคำถามที่น่าคิดครับ เผลอๆ อาจจะต้องวิ่งเข้าไปขอส่วนบุญด้วยซ้ำ
    เพราะฉะนั้นผมก็ขอสรุปว่าผีไม่กลัวพระ

    จากความคิดของผมนะครับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น (ทั้งสิ่งที่ดี และสิ่งที่ไม่ดีนั้น) เกิดขึ้นมาจากบุญกุศลและเวรกรรมที่เราเคยทำมาในอดีต พระเครื่องหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจจะช่วยคุ้มครองคนที่บูชาและทำให้วิญญาณเร่ร่อนเกรงใจได้เท่านั้น แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระเครื่องนั้นไม่สามารถป้องกันตัวเราจากเจ้ากรรมนายเวรได้
     
  6. นักรบเเห่งสยาม

    นักรบเเห่งสยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +607
    ดีมากๆๆๆๆๆๆๆเลยครับ
     
  7. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    ประสบการณ์เรื่องสวดมนต์ที่เกิดขึ้นกับผม ผมสวดมนต์ถึงบทพาหุงมหากา ก็รู้สึกเวียนหัวและจะหลับไปเลยให้ได้ ช่วงนั้นก็รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ข้างขวาของผม เป็นตัวสีเหลืองทองเข้ม ผมฝืนสวดมนต์จนถึงยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ก็มาปรึกษาในบอร์ด มีผู้รู้ท่านหนึ่งแนะนำเหมือนกับคุณ pucca2101 ก่อนสวดมนต์ให้ภาวนาว่า ผู้ใดที่ไม่สามารถทนต่อบทสวดได้ ก็ขอให้ถอยห่างไป แล้วก็สวดมนต์จนจบ ปรากฎว่าไม่ปรากฎอาการอย่างนั้นอีกเลย
    ส่วนการสวดมนต์ตอนโดนวิญญาณมากระทำ ส่วนใหญ่ผมจะถูกผีอำที่บ้านบ่อยมาก จนตอนไหนที่จะโดนผีอำ จะรู้ได้เลยว่า เราจะโดน เพราะจะมีความรู้สึกกดดัน เหมือนเดิม ๆ ให้เราสัมผัสได้ว่าจะโดนผีอำแล้ว โดนตอนผีอำแล้ว สวด อิติปิโส ไม่ได้ผลครับ พาหุง ก็ไม่ได้ สัมปจิตฉามิ ก็ไม่ได้ จนต้องนำพระมาคล้องคอ ถึงจะช่วยได้ แต่ก็ยังมีความกดดันอยู่แต่เข้ามากระทำเราไม่ได้ หลังจากนั้น ก็เริ่มหาบทสวดจากในเว็บบอร์ดนี้ ก็ได้บทสวดใช้ได้ผลคือ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า "อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ" ได้ผลเลยครับ
    มีครั้งหนึ่ง ฝนตกไฟดับ ผมจุดเทียนเล่นในบ้าน ทีนี้ นึกพิเรน เอาเทียนตั้งตรงประตูหน้าบ้าน แล้วนั่งเพ่งเปลวเทียน อยู่สักพัก พอตกกลางคืนเท่านั้นแหละครับ โดนเลย เข้ามาแบบไม่ปกติอย่างแรง เข้ามาพร้อมเสียงหึ่ง ๆ ต้นเสียงลอยอยู่ข้างบน ตรงปลายเท้าผม หลับตาอยู่แต่รู้สึกได้ สวด อิติปิโส พาหุง สัมปจิตฉามิ เอาไม่อยู่ คล้องพระก็เอาไม่อยู่ เป็นครั้งแรกเลย ที่คล้องพระแล้วเอาไม่อยู่ ก็ท่องคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ได้ผลเลยครับ ผมก็เอาประสบการณ์มาถามเพื่อน ๆ ว่า ทำไมคล้องพระเอาไม่อยู่ ก็ได้คำตอบมาว่าคงไม่ใช่วิญญาณธรรมดา อืมส์ก็คิดตาม ก็คงใช่ เกิดขึ้นเนื่องจากความพิเรนของผมที่นั่งเพ่งเทียนตรงหน้าประตูบ้านนั่นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2008
  8. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ป้องกันได้ไม่ได้ อันนี้ขึ้นอยู่ที่ใจครับ ถ้าเราศรัทธามากเท่าไหร่ ความขลังก็มีมากขึ้นเท่านั้นครับ เเต่ที่เเน่ๆ ความดีป้องกันภัยได้ทุกสิ่งครับ ทําความดีไว้มากๆครับ สวดชินบัญชรก่อนเข้านอนก็ดีนะครับ จะได้ช่วยเสริมสิริมงคลให้เเก่ตนเองครับ
     
  9. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ป้องกันได้ไม่ได้ อันนี้ขึ้นอยู่ที่ใจครับ ถ้าเราศรัทธามากเท่าไหร่ ความขลังก็มีมากขึ้นเท่านั้นครับ เเต่ที่เเน่ๆ ความดีป้องกันภัยได้ทุกสิ่งครับ ทําความดีไว้มากๆครับ สวดชินบัญชรก่อนเข้านอนก็ดีนะครับ จะได้ช่วยเสริมสิริมงคลให้เเก่ตนเองครับ
     
  10. ลูกกวางน้อย

    ลูกกวางน้อย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +3
    อันนี้ ผมไม่รู้นะคับว่าจะอย่างไรแน่ แต่เท่าที่มีประสบการณ์ก็คือ เมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนั้นผมก็ไม่ได้สวดอะไรมากมาย แค่พยายามหยุดความรู้สึกทั้งหลาย ตั้งสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า แล้วอาราธนามาคุ้มครองปกปักรักษา ตลอดรวมถึงพยายามเอาชนะตัวเองโดยการบอกกับตัวเองว่าสิ่งเหล่านี้คือ ภาพลวงตา เป็นมายาเท่านั้น ผมก็มักจะผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผีอำ ปรากฎการณ์หลอนต่างๆที่เกิดขึ้น ผมยังเชื่อมั่นว่ากำลังใจของเราสำคัญที่สุด ตราบใดที่เรายังหนักแน่นมั่นคง และยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัย ก็จะบังเกิดกำลังใจที่มาคอยคุ้มครองให้เราพ้นผ่านไปได้ครับ
     
  11. nerazzurriboyz1908

    nerazzurriboyz1908 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +763
    จงมีศรัทธา
     
  12. koisung

    koisung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +3,469
    ในความเข้าใจของก้อยนะ..

    เวลาเราสวดมนต์ แบบไม่ได้สักแต่ว่าสวด มีใจจดจ่อกับการสวด นั่นก็คือเกิดสมาธิขึ้นมาขณะสวด เมื่อมีสมาธิ สติก็ตามมา อย่างน้อยๆเวลาเจอผี ก็ยังมีสติคุมอยู่ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีนั้นเมื่อมีสติ เดี๋ยวปัญญาก็ตามมา ทำให้เข้าใจสถานการณ์นั้นได้เอง

    ส่วนพระเครื่องที่เราอาราธนาขึ้นคอ ก็เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อให้ตั้งมั่นในการทำความดี หลายๆครั้งที่เกิดสิ่งที่ไม่ดี เมื่อเรานึกถึงพระที่คอ พิจารณาปัญหาด้วยปัญญา นำธรรมะของพระพุทธองค์มาแก้ปัญหา เดี๋ยวก็จะเข้าใจถึงปัญหา ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม ส่วนที่ว่าแขวนพระแล้วจะกันผีได้มั๊ย อันนี้มีหลายปัจจัยที่ทำให้แต่ละคนเห็นหรือไม่เห็น..ซึ่งไม่เหมือนกัน แล้วแต่บุคคลๆไป

    แต่ก้อย...ไม่เคยเห็นเลยจ้ะ ^^"


    ปล. ตอบแบบคนปัญญาเท่าหางอึ่ง หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้ะ
     
  13. ป.วิเศษ

    ป.วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +411
    เราเคยได้อ่านบทสวดมนต์บางบทซึ่งได้บอกคุณสมบัติไว้ เช่น
    สามารถป้องกันภูติผี วิญญาณหรือว่าขับไล่ผี ป้องกันสัตว์มีพิษเป็นต้น
    เรายังสงสัยอยู่เลยว่าจะสามารถป้องกันเราจากสิ่งเหล่านั้นได้จริงหรือ??
    แล้วถ้าเกิดสามารถป้องกันได้จริง เราควรสวดรึเปล่าคะ??


    จริงค่ะ

    "สามารถป้องกันภูติผี วิญญาณ " อ่านเนื้อความเป็นการกล่าว


    สรรเสริญ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ผีเขารักษาศีลนะคะ แต่เขา

    ได้ยินใครสรรเสริญพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ก็ไม่กล้าทำอันตราย

    แล้วค่ะ ท่อง พุท-โธ ก็ดีค่ะ ท่องทั้งวันเลยยิ่งดี


    "ขับไล่ผี" ขับไล่ผี .... ถ้าสิงแล้วสวดอย่างเดียวไม่พอ ต้องปฏิบัติ

    กรรมฐานมากค่ะ ส่วนถ้าเขามารังแก มาอำ ขอบอกว่า แค่สวดมนต์

    ก่อนนอน และ ท่อง พุท-โธ จนหลับไปจะป้องกันได้ร้อยเปอร์เซนต์

    <hr>
    ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าไม่ควรสวดนะ ถ้าเกิดวิญญานเหล่านั้นไม่ได้มาทำอะไรเรา
    แต่เราไปสวดนี่ ถือว่าเป็นการเบียดเบียนเขาใช่ไหมคะ
    ต่างคนต่างอยู่ เราไม่ได้คิดร้ายต่อใคร เค้าคงไม่มาทำอะไรเราหรอก
    ใช่ไหมคะ??


    สวดมนต์เมตตาใหญ่ เป็นการแผ่เมตตาไปทั่วทั้งสิบทิศ และทุกภพภูมิ

    ไม่เป็นการเบียดเบียนวิญญาณค่ะ เพราะความเมตตาต่อทุกภพถือว่า

    จิตใจมีเมตตาเสมือนพระพรหมค่ะ เมื่อเขารับความเมตตาเขารับแล้ว

    อนุโมทนาเขาก็ไปที่ดี หรือสวดมนต์บทไหนก็ได้ แล้วแผ่เมตตาให้สรรพ

    วิญญาณก็เท่ากับแสดงเมตตาต่อทุกภพแล้วค่ะ



    ส่วนที่ไม่เข้าใจเมื่อได้ยินเสียง ถ้าเราสวดทุกวันเขาจะอ่อนลง และจิตใจ

    ที่เศร้าหมองจะคลายลงค่ะ


    การสวดมนต์ถ้าจำบทสวดได้หมด จิตก็จะสงบเพราะขณะสวดมนต์ จิตนิ่ง

    ก็เหมือนการนั่งสมาธิค่ะ ถ้าจำไม่ได้
    ก็ตั้งใจสวดอย่างมีสมาธิจดจ่อในคำสวด

    ก็ดีค่ะ จิตก็สงบค่ะ



    วิญญาณเขาไม่ยุ่งกับเราถ้าเขาไม่หิว ไม่ทรมาน ค่ะ ถ้าเขามีอาการนั้น

    ก็ไม่แน่ค่ะ ส่วนการเบียดเบียนของเขา ก็เช่นเราเดินผ่านจุดที่เขาอยู่ วิญญาณ

    อยู่กับที่นะ ไม่ได้สามารถเดินไปไหนต่อไหนได้ค่ะ ดังนั้น ถ้าดวงตก เหม่อเลย

    ตกใจง่าย จิตที่เศร้าหมองเหล่านี้
    คือจิตที่ไม่มี "สติ"
    กำกับ วิญญาณเขา

    มาแทรกได้ค่ะ หรือเบียดเบียนเราได้ ดังนั้น การทำสมาธิโดยการสวดมนต์

    เป็นการทำสมาธิอย่างง่ายที่สุดค่ะ เมื่อมีสมาธิ สติก็ตามรู้
    เท่าทันอารมณ์ไม่ค่อย

    เหม่อลอย หรือไม่ตกใจง่ายค่ะ ก็จะทำให้จิตใจเข้มแข็งค่ะ วิญญาณทำร้ายเรายากขึ้น


    ดังนั้นการสวดมนต์ก็เหมือนการป้องกันภัยที่ดีที่สุด ไม่เบียดเบียนใครค่ะ

    <hr>
    อีกกรณีหนึ่งที่เรายังสงสัยคือเรื่องพระเครื่อง หรือพระพุทธรูป
    จะป้องกันวิญญานได้จริงหรือคะ??
    ถ้าเกิดป้องกันได้จริง แล้ววิญญานที่เป็นชาวต่างชาติ ต่างศาสนาเค้าจะกลัวด้วย



    จุดประสงค์ของการสร้างพระเป็นปัจจัยของความศักดิ์สิทธิ์ เช่นการสร้าง

    พระเนื่องจากเป็นที่ระลึกในการสร้างอุโบสถ หรือก่อสร้างวัด ไม่ได้นำมาเป็น

    พุทธพาณิชย์นะคะ


    ส่วนพลังการอธิษฐานจิตของการสร้างพระรุ่นนั้น ๆ ก็ขึ้นกับพระสงฆ์ท่านค่ะ


    ว่าอธิษฐานจิตเรื่องใด บางท่านเพื่อให้แคล้วคลาด บ้างให้เกิดความเมตตา

    เมื่ออธิษฐานเสร็จเทวดาก็จะมารักษาพระองค์นั้น ๆ ทันทีค่ะ

    ส่วนความศักดิ์สิทธินั้นจะรักษาจากเริ่มต้นที่พระท่านอธิษฐานจิตจากการสร้าง

    ที่มาจากศรัทธาเพื่อพุทธศาสนาต่อนั้น ขึ้นอยู่กับคนรักษาสิ่งนั้นค่ะ

    ถ้าผู้ที่มี ไม่กล่าวคำหยาบคายด่าทอใคร รักษาศีลอย่างน้อยนะ สัก ๑ ข้อก็ยังดี

    และสวดมนต์บ้างนะ ความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากการอธิษฐานจิตซึ่งเป็นการอัญเชิญ

    เทวดามารักษาองค์พระนั้น ๆ ก็ยังอยู่ค่ะ แต่ถ้าไม่มีศีล กล่าวคำหยาบเป็นประจำ

    แต่ยังคงดีอยู่ ไปไหนก็แคล้วคลาด เป็นเพราะบุญเก่ายังไม่หมด กรรมใหม่ยังไม่ให้ผล


    ส่วนเรื่องกันผี นะ ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับพระท่านจะอธิษฐานอย่างนั้นหรือไม่

    เช่น หลวงพ่อทวดนวล วัดมุจลิน ท่านอธิษฐานเพื่อกันวิญญาณได้จริงค่ะ

    ประวัติของท่าน หลายท่านคงรู้จักค่ะ ไม่นำมาลงนะคะ


    ส่วนความเป็นต่างชาติ เป็นสิ่งสมมุติ เพราะความเป็นวิญญาณเป็นเหมือนกันทุกชาติ

    ทุกภาษา แสงสว่างจากกายของผู้ที่สวดมนต์ จะทำให้วิญญาณไม่กล้าเข้าใกล้ค่ะ

    เหมือนแสงอาทิตย์ตอนกลางวัน


    แต่ถ้าแผ่เมตตาด้วยเสมอ แสงในกายจะเป็นแสงที่เย็นค่ะ เขาจะรับความเมตตา

    จากผู้สวดมนต์แผ่เมตตา เขาจะหลีกเพราะเกรงใจค่ะ และจะบอกต่อๆ ว่าผู้ใจบุญมา

    เขาจะไม่ทำร้ายค่ะ และจะป้องกันภัยอันตรายให้ด้วยค่ะ


    "แผ่เมตตาเป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็่นประจำ" วลีเด็ดของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ค่ะ

    อนุโมทนาสาธุ
    ขอขอบคุณอาจารย์เสริมศิลป์ ขอนวงค์

     
  14. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    กรณีที่เอาไม่อยู่นี่ มี 7 กรณีครับ
    1. คุณเผลอถอดพระออก มันรอจังหวะอยู่วิ่งเข้าเสียบเลย พอใส่พระแล้วเทวดาที่ท่านรักษาพระไม่ไล่เพราะ1.1 กรรมเก่าเรานั่นเองเคยมีเวรกะผีตัวนี้ 1.2 ท่านถือว่าเจ้าของพามันเข้าตัวเอง ท่านไล่ไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ท่าน เพราะคุณไม่ได้ขอท่าน
    2. ไม่ได้อาราธนาพระให้ดี นึกจะใส่ก็ไส่ อันนี้ห่วยมาก มีของดีไม่รู้จักใช้ให้เป็นเทวดาเค้าก็เฉยๆครับ เพราะมึงไม่เรียกให้กรูช่วยเองนี่หว่า
    3.สิ่งที่ทำเราเป็นเทวดาที่มีอำนาจมากกว่า เทวดาที่รักษาเราหรือเทวดาที่รักษาพระ เช่น มารในปรนิมมิตวสวัสดี หรือเกิดจากที่เราไปลบหลู๋ปรามาสพระท่านเอง ท่านเลยไม่ช่วย แถมช่วยกระทืบซ้ำ ... 555+
    4.กรณีนี้มาจากพวกรับขันธ์ร่างทรงรับขันธ์มาแต่ดันเป็นพวกผี ไปยอมรับมันแล้ว ท่านก็เลยไม่ช่วย
    5.วิญญานบรรพบุรุษท่านต้องการเตือนลูกหลานหรือลงโทษ เทวดาก็ไม่ห้าม เพราะรูว่าเป็นพ่อแม่ตีลูก 5555
    6. เป็นพวกขอทาน เช่น สัมภเวสี (คนที่ไม่ถึงฆาตแต่ร่างไม่มีแล้ว คือยังเป็นคนแต่ไม่มีร่างกาย พวกนี้เทวดาเค้าก็ไม่ห้าม ท่านจะดูเหมือนกับคนๆหนึ่งนั่นเอง แต่เราไม่เห็น )หรือ อสุรกาย พวกนี้ ถือว่าขอทาน มาขอส่วนบุญ มาขอของกิน เราไม่รู้มันก็มากระตุกเตือนๆ แย่งทึ้งให้รู้สึก เอ่อ เหมือนกับไปที่อินเดียแล้วมีขอทานนับร้อยมาขอของจากคุณนั่นแหละ รุมยังกะแร้ง เทวดาไม่ห้าม เพราะเค้าไม่ได้ทำร้าย แต่มาขอทาน แต่บางทีเวลามันขอนี่ เหมือนขอทานให้เราลำบากเหมือนกัน
    7. คูนไสยบางอย่างมาจากที่เราไปแตะมันมา ทัก หรือยอมรับมัน เช่นเดียวกะจิตเผลอ ข้อ 1แต่ ข้อ 1 .นี่เผลอสติ แต่ข้อนี้ เผลอสติ+ไม่รู้เลยไปจับสัมผัส แตะต้อง ทัก มันเข้า อ่า อันนี้ถือว่าซวย เกิดจากบาปกรรมเก่า
     
  15. deeb

    deeb สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +11
    ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
    ผมจะอาราธนาพระสมเด็จองค์หนึ่งที่ห้อยคอมาโดยตลอด
    (พระธรรมดาไม่มีราคาค่างวดใดๆ)
    แล้วตั้งจิตอธิษฐานถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
    คุณแห่งบิดามารดาครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือ
    ช่วยคุ้มครองผมให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายร้ายทั้งปวง
    ...........ทำแล้วสบายใจดีครับ

    คงเป็นเรื่องของกำลังใจน่ะ
    ปาฏิหารย์ใดๆ มีจริงหรือไม่ผมไม่รู้
    แต่ทำแล้วสบายใจ ก็เลยทำมาจนติดเป็นนิสัยล่ะครับ.;aa47
     
  16. ปิยบุตร

    ปิยบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +6
    ถ้าใจเราน้อมระลึกถึงพระรัตนตรัย ต่อให้ไม่มีพระสวมใส่ ก็ไม่มีวิญญาณใดมาทำอันตรายได้
     
  17. charter00

    charter00 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +34
    ภาวะผีอำมีจริงครับ
    แต่ไม่ใช่เป็นผีมาอำ หรือ สิงอะไร

    เป็นภาวะที่ร่างกายเราตื่นขึ้นมา แต่ว่าสมองตื่นไม่พร้อมกัน
    คือ สมองส่วนที่รู้ตัว ทำงานแล้ว แต่ สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวยังไม่ทำงาน ก็จะมีความรู้สึกของผีอำขึ้น

    ไม่ต้องตกใจครับ เพราะสมองเราถ้าไม่ได้เกิดเรื่องโชคร้าย เช่น Lock-in syndrome จะตื่นตามมาภายหลังเอง

    ข้อดีของภาวะนี้ที่คิดได้คือ ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ เราไม่ได้เป็นเจ้าของตัวเรา เราจะสั่งงานมันยังไม่ได้เลย

    ที่มา http://www.larntum.in.th/cgi-bin/kratoo.pl/000336.htm

    อันนี้จริงแน่ๆครับ เวลาเกิดอาการผีอำผมไม่ได้สวดมนต์หรือระลึกถึงอะไรทั้งนั้น แค่ตั้งสติ รอให้ร่างกายตื่นพร้อมกัน สัก 10-20 วินาทีก็จะขยับตัวได้เองครับ ที่ว่ากันว่าสวดไล่แล้วก็ไม่ยอมไปก็มาจากสาเหตุนี้แหละ ก็มันไม่ใช่ผี สวดยังไงมันก็ไม่ไปหรอก ที่สวดนานๆแล้วมันยอมออกไปก็เพราะว่าร่างกายกับสมองเราตื่นขึ้นมาพร้อมกันหมดแล้วนั่นเอง

    ยกเว้นบางครั้งลืมตาตื่นมาแล้วเจอเป็นตัวเป็นตนนั่งทับหน้าอกนี่ก็ไปอีกเรื่องนึง แบบนี้เรียกผีหลอกแล้วครับไม่ใช่ผีอำ
     
  18. deedyangels

    deedyangels สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +3
    อนุโมทนากับทุกท่านที่เข้ามาให้ความรู้เพิ่มเติมนะคะ
    พอได้อ่านข้อความของแต่ละท่านแล้วรู้สึกว่า มีความหลากหลาย
    และเป็นสิ่งที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ แต่สรุปโดยรวมแล้วถ้าเรา
    ยึดมั่นในศีล ในธรรม ก็จะเป็นเกราะป้องกันสิ่งที่ไม่ดีต่างๆได้
    หวังว่าเราคงเข้าใจถูกนะคะ

     
  19. DDS3334

    DDS3334 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +398
    การที่จะสามารถป้องกันบุคคลที่ตายไปแล้วนั้นต้องแยกแยะให้ดีครับ
    1.วิญญาณที่เป็นมิฉาฐิถิ(หรือไม่หวังดีกับเรา)
    2.วิญาณที่เป็นเทวดาหรือผู้มีคุณของเราเอง(ผู้หวังดีและคอยช่วยเหลือเรา)
    เราสามารถกันได้ทั้งหมดอยู่แล้วถ้าเรามีจิตใจที่หนักแน่นเพียงพอหรือไม่เปิดโอกาสให้กับเขาเหล่านั้น
    ที่นี้ที่เราแขวนพระนั้นก็เป็นการป้องกันในขณะที่จิตเราตกหรือเกิดสภาพการเหนื่อยล้าทำให้กำลังใจตก สิ่งที่ไม่หวังดีกับเราก็จะสามารถสอดแทรกเข้ามาได้
    หรืออีกกรณีเป็นการที่เราเชิญท่านเหล่านั้นเข้ามาเองโดยไม่ตั้งใจ เช่น ที่โบราณห้ามเอยทักเมื่อได้ยินเสียงผิดปกติในตอนกลางคืน ฯลฯ
     
  20. Sena_Army

    Sena_Army เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +134
    ขอบคุณครับได้ความรู้มากมาย เพราะมีเพื่อนเคยเล่าให้ฟังมันโดนผีหลอก พอสวดมนต์ ผีท่องตามซะงั้น น่ากลัวมาก สงสัยคงสักแต่จะสวด แต่จิตไม่ได้ระลึกถึง เพราะกลัวจนตั้งสติไม่ได้ ได้แต่ท่องนโมตัสสะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...