การประกอบกุศลของเทวดา และมนุษย์มีรายละเอียดแตกต่างกันอย่างไรครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สิกขา1, 30 มีนาคม 2020.

  1. สิกขา1

    สิกขา1 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +25
    การประกอบกุศลของเทวดา และมนุษย์มีข้อแตกต่าง
    หรือมีรายละเอียดแตกต่างกันอย่างไรครับ

    เพราะเห็นบางท่านก็กล่าวว่า เทวดาบำเพ็ญบุญบารมีไม่ได้
    จึงปรารถนาจะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะได้บำเพ็ญบุญบารมี

    แต่ในคัมภีร์ก็มีกล่าวไว้ว่าในสมัยพุทธกาล ท้าวสักกะ ก็มีลงมาใส่
    บาตร พระมหาเถระ
    หรือในชาดก บางชาติที่พระมหาสัตว์เป็นเทวดา ก็ออกประกาศ
    ชักชวน ให้มนุษย์ประกอบกุศล

    หรือประวัติ หลวงปู่ หลวงตา ขณะธุดงค์ในป่า ก็มีกล่าวว่ามีเทวดา
    มาใส่บาตร

    อยากทราบว่าเทวดามีรายละเอียดเรื่องการประกอบกุศล ทั้ง ทาน สีล
    ภาวนา อย่างไรครับ และมีข้อแตกต่างจากมนุษย์อย่างไรครับ
    เอาทั้งจาก ที่คัมภีร์กล่าวไว้ หรือจากประสบการณ์ส่วนตัวก็ได้ครับ
     
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    อย่าไป งอ งู สอง ตัว

    ให้ลองพินา คนที่รวยพันล้าน กับ
    คนที่ตำข้าวสารกรอกหม้อ

    ภพมานุด จะ อุปมาประมาณ คน
    ตำข้าวสารกรอกหม้อ จะเปนภพ
    ที่สามารถขยัน(ไฟทบังคับ)

    ส่วน ภพที่มีเปนพันล้าน มันไม่จำ
    เปนต้องดิ้นรนไปอีกนาน เว้นแต่
    จะพร่อง

    ท้าวสักกะ จริงๆก้ไม่ได้พร่อง เพียง
    แต่มีบริวารองค์นึง มีรัศมีบางอย่าง
    มากกว่า ด้วยมานะกิเลสกำเริบ ก้
    เข้าใจว่าตนจะต้องเด่นกว่าทุกทาง
    เลย ลอบไปตักบาตร สว่างขึ้นไหม
    สว่าง แต่ก้ทำให้กำลังหมดบุญ
    ( สุดท้าย เหนทุกขเหนโทษ จึง
    สำเร็จเปนโสดาบัน )

    ส่วนพรม ก้มีเรื่อง ผกาพรหม ที่
    กำลังหมดบุญ จิตถอยกำลังจาก
    ฌาณ4 ลงมาหนึ่ง กำลังลงนารก
    ตอนที่เหลือกำลังบุญฌาณ1 ก้
    ยังเปนผกาพรหมอยู่ เปนมหาพรหม
    ทำบุญอะไรไหม....ไม่ มีแต่ความ
    เหนผิดว่า ที่นั่งจ้องดูโลกแปรปรวน
    ไปตามปัจจัยการ เข้าใจว่าเปน
    การบันดาลของตนให้บุญกุสล
    เกิด เช่น เหนว่า พระศาสดาบรรลุ
    อรหันต์ออกโปรดสัตว์ เปนการ
    ยันดาลให้เกิดขึ้นโดยตนล้วนๆ
    ก้เปน มานะกิเลสตัวเดิม มีทิฏฐิ
    บดบังข้อเท็จจริง

    สังขาร มีแค่นิดเดียว ความจริง
    ก้เลอะเลือน เปนภัยแสนสาหัส
     
  3. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ในกรณีนี้ จริงๆ จขกท ควรอาสัย
    เน้นไปเหนเรื่อง ทิฏฐิ ว่าด้วย
    กรรมเก่า กรรมใหม่

    ลองเปิดพระสูตร แล้ว สิกขามานา

    เรียนเรื่อง มานะ อุตสาหะ

    จะทำให้ สามารถเหนต่าง(มีปัญญา
    อันยิ่ง) เช้า กระทบ อรรถะ จน
    สามารถจำแนก แก่นสาระ
    ของธรรม(หยั่งสู่นิพพาน ก้เรียก)

    แล้วสังเกต ความรู้ชัด รู้ไม่ชัด
    ให้เหนเปย สภาวะธรรม อย่างหนึ่ง

    ผั๊วะ!!!

    ถ้าไม่ ผั๊วะ ก้ ครอกฟี้ไป ไม่เสีย

    อย่าไปเครียด หรือ คอยตำหนิ
    จิตหละ พระศาสดาห้ามไว้ จะทำ
    ให้ยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนาอ่อนๆ ไม่ได้
     
  4. สิกขา1

    สิกขา1 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +25
    ปัญหาใหญ่ผมเลยครับ คือ เครียดง่าย ตำหนิจิต
    สันนิษฐานว่าคงเป็นเพราะกรรมเก่าบางอย่าง

    การภาวนา แทบจะไม่ได้ภาวนาเลยครับ
    เพราะต้องอ่านหนังสือเยอะ จมความคิดทั้งวัน
    คงจะปะติดปะต่อยาก
    เรื่องการภาวนาที่จริงจังกว่านี้คงต้องไว้ตอนที่
    ไม่มีภาระเรื่องอ่านหนังสือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...