กฤษดาอภินิหารหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า !

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย kim9, 13 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. kim9

    kim9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +2,179
    กฤษดาอภินิหารหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า !

    เรื่องแรก
    หลวงปู่ศุขช่วยรักษาอาการเจ็บและแสบตา
    เรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่ปี 2531 สมัยผมไปปฏิบัติงานอยู่ที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ ช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าๆผมตื่นมามีอาการแสบตาและเจ็บมากที่ตาทั้งสองข้าง คล้ายมีเม็ดทรายอยู่ในตาทั้งสองข้างทรมานมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรลืมตาก็แทบยากและลำบากตกใจ

    คิดตาว่าเราเป็นอะไรคงบอดแน่แล้วคราวนี้ ดึกสงัดและก็ไกลจากโรงพยาบาลจังหวัดมาก ขณะที่กังวลและทรมานอยู่นั้นฉับพลันก็นึกถึงพระหลวงปู่ศุข (พิมพ์ซุ้มประภามณฑลตัดชิดเนื้อทองผสม) ที่คุณพ่อให้มาตั้งแต่เข้ารับราชการใหม่ที่คล้องคอบูชาตลอดเวลาเพียงองค์เดียวไม่มีที่พึ่งดีไปกว่านี้แล้ว

    จึงยกพระของหลวงปู่อธิฐานขอบารมีให้ช่วยรักษาอาการที่เป็นอยู่ด้วยเถิดเสร็จแล้วก็นำพระของหลวงปู่ไปแนบที่เปลือกตาขณะที่หลับตาด้านขวา เกิดปรากฎการประหลาดเหมือนมีกระแสแห่งความเย็นจากองค์พระเข้าไปที่ดวงตาแบบเย็นวาบๆและมีความรู้สึกเหมือนพระของหลวงปู่ดูดความเจ็บและแสบออกมาสู่องค์พระจนอาการต่างๆหายไปดวงตากลับเป็นปกติเหมือนเดิม

    ส่วนตาซ้ายอีกข้างก็ยังคงมีอากาแสบและปวดคงสภาพเดิมอยู่ ก็นำพระของหลวงปู่มาทำเหมือนกับที่ทำกับตาขวาก็มีปรากฏการเหมือนกัน ทำให้ตาทั้งสองข้างของผมกับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้อย่างมหัศจรรย์มาก....ขอบคุณในบารมีของหลวงปู่ที่ช่วยเหลือลูกหลานในครั้งนั้นไม่มีวันลืมได้เลย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตาผมมีอาการดังกล่าวก็คือว่าช่วงตอนกลางวันได้ไปดูและสั่งให้ลูกน้องเชื่อมเหล็กด้วยไฟฟ้าจึงทำให้ควันธูปของเครื่องเชื่อมไฟฟ้าเข้าตาทั้งสองข้างโดยไม่ป้องกันและรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงทำให้ดวงตาทั้งสองเกิดอาการดังที่กล่าวมาแล้วและหายเป็นปกติด้วยหลวงปู่ช่วยแท้ๆครับ....รักและเคารพเทิดทูลบูชาสูงสุดเหนืออื่นใด

    ***********************************************

    เรื่องที่2

    หลวงปู่ศุขกับหลวงพ่อเก็บ วัดสวนลำใย อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
    เรื่องนี้คุณพ่อผมนายฉลอง เกตุเวชสุริยา ซึ่งเป็นหลานหลวงพ่อเก็บโดยตรงเล่าให้ฟังนานแล้วก่อนปี 2524 และผมเคยเขียนลงในอาณาจักรพระเครื่อง ปี 2524 ก่อนอื่นขอลำดับญาติให้ฟังพอสังเขปคือคุณทวดผมชื่อมี เป็นน้องชายคนที่ 6 ของหลวงปู่ศุขในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 9 คน

    ส่วนปู่ผมชื่อกองเป็นลูกคนโตของทวดมีและเป็นพี่ชายของหลวงปู่เก็บ วัดสวนลำใย อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นน้องชายคนที่ 4 ในจำนวนลูก 6 คน เรื่องนี้หลวงปู่เก็บ(ส่วนผมต้องเรียกว่าหลวงปู่)เล่าให้คุณพ่อผมฟังว่า วันหนึ่งหลวงปู่ศุขได้ให้เด็กวัดมาตามหลวงปู่เก็บที่กุฏิบอกว่าหลวงปู่ศุขให้ไปพบหน่อย(ตอนนั้นหลวงปู่เก็บท่านพำนักพักอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า)

    ท่านเล่าว่าท่านก็ไปหาหลวงปู่ศุขที่กุฎิและถามว่า " หลวงลุง(หลวงพ่อเก็บเรียกหลวงปู่ศุขว่าลุงเพราะมีศักดิ์เป็นพี่ชายของพ่อท่าน)มีอะไรหรือขอรับที่ให้เด็กไปบอกผมมาพบ" หลวงปู่ศุขก็พูดว่า " ท่านเก็บอยากเรียนเสกดอกจำปาเป็นแมลงภู่ไหม " หลวงพ่อเก็บก็ตอบว่า "อยากได้ครับ" หลวงปู่ศุขก็พูดต่อว่า " ถ้าอยากได้ให้ไปหาดอกจำปามานะ "

    หลวงพ่อเก็บก็รับคำแล้วก็ออกจากกุฏิของหลวงปู่ศุขเพื่อไปหาดอกจำปาตามคำสั่งของหลวงปู่ศุข ท่านเล่าว่า(หมายถึงหลวงพ่อเก็บ)ได้ออกเดินหาดอกจำปาจนทั่วในระแวกบ้านปากคลองมะขามเฒ่าและเลยมาตลอดจนมาทาง อ.วัดสิงห์ ก็หาไม่ได้จนหมดปัญญาก็กลับมาหาหลวงปู่ศุขที่กุฏิ เมื่อหลวงปู่ศุขเห็นหน้าพระหลานชายคือหลวงพ่อเก็บก็เอ่ยปากถามว่า " เป็นไงท่านเก็บหาได้ไหมดอกจำปาน่ะ " หลวงพ่อเก็บก็ตอบว่า
    ไม่ได้ครับหลวงลุงหาจนทั่วแล้วไม่มีซักดอกเลย " หลวงปู่ศุขก็พูดแกมบ่นพระหลานชายว่า " อะไรกันแค่ดอกจำปาดอกเดียวแค่นี้ก็ยังหาไม่ได้อย่า่งนี้จะเรียนอะไรได้ ไปๆไปหาใหม่หามาให้ได้ " หลวงพ่อเก็บก็เล่าต่อว่าท่านก็ลุกออกมาจากที่นั่งในกุฏิมาที่นอกชานกำลังจะลงบันใดและท่านก็คิดในใจว่าถ้าไม่ได้ดอกจำปามาสงสัยคงจะไม่ได้เรียนละมั้ง ขณะที่ท่านกำลังก้าวลงบันใดได้เพียงขั้นเดียวก็ได้ยินหลวงปู่ศุขเรียกออกมาจากในกุฏิว่า "

    ท่านเก็บๆอย่าพึ่งไปกลับมานี้ก่อน" หลวงพ่อเก็บก็กลับเข้าไปหาหลวงปู่ศุขที่ในกุฏิอีกครั้งคราวนี้ท่านบอกว่าหลวงปู่ศุขไม่ได้นั่งอย่างเดิมแล้วกลับอยู่ในท่ายืนแล้วมีไม้สำหรับค้ำหน้าต่างถือลักษณะประครองตัวอยู่ส่วนมือขวาจับบุหรี่ย์มวนใบตองสูบอยู่แดงวาบๆต่อหน้าหลวงพ่อเก็บ ฉับพลันนั้นบุหรี่ย์มวนนั้นก็ถูกขว้างลงยังพื้นกระดานกุฏิข้างหน้าหลวงพ่อเก็บกลายเป็นแมลงภู่บินพรึบฟู่สวนหลวงพ่อเก็บออกทางประตูบินหายลับไปในอากาศทันที

    พร้อมมีเสียงหลวงปู่ศุขดุด่าด้วยเสียงอันดังอย่างไม่พอใจว่า " หนอยแน่ดูถูกอย่างนี้ไม่เอาจะเอาอย่างไง" พูดแล้วก็ยกไม้ค้ำหน้าต่างตีพระหลานชายอยู่พัลวันหลวงพ่อเก็บก็รีบคว้าแผ่นกระดานฉนวนใกล้ๆมือรองรับการตีของหลวงปู่ศุขอยู่ไปมา สักพักจนเหนื่อยก็เลิกลากันไปเอง แล้วหลวงพ่อเก็บยังบอกกับคุณพ่อต่ออีกว่า

    " ไอ้หลองเอ้ยกูแค่คิดในใจนะหลวงลุงแกรู้ได้อย่างไรแปลกพิลึกว่ะ " ครับนี่คือข้อมูลจริงที่คุณพ่อของผมเล่าให้ฟังนานมากเกือบ 36 ปีทุกครั้งที่ผมกลับไปเยี่ยมคุณพ่อก็จะถามและคุยเรื่องนี้อย่างไม่รู้เบื่ออย่างน่าประทับใจและภาคภุมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกหลานเชื้อสายเดียวกับหลวงปู่ศุขจนผมไม่อาจจะเก็บไว้เพื่อรู้คนเดียวและเป็นความลับต่อไปไม่ได้แล้วต้องให้ผู้ศรัทธาในหลวงปู่และหลวงพ่อเก็บได้รู้บ้างเพื่อเพิ่มพูนกำลังศรัทธาอันมั่นคงต่อไป...สาธุ

    **************************************************

    เรื่องที่สาม

    ครั้งหนึ่งเมื่อเดือนยี่ เป็นปีที่หลวงพ่อศุขไม่ได้ออกเดินธุดงค์เหมือนปีก่อน ๆ
    ในปีนี้เองหลวงพ่อท่านกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอารา มของท่านเป็นการใหญ่ในครั้งนั้นได้มีผู้ศรัทธาบริจากทรัพย์สินเงินทองช่วย ให้หลวงพ่อทำการทำนุบำรุงก่อสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญจนเสร็จสิ้น นับว่าวัดปากคองมาขามเฒ่ามีความเจริญขึ้นมาก

    ได้มีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาตามหัวเมืองต่างๆ ที่เป็นพระภิกษุสงฆ์
    และฆราวาส ตลอดจนเจ้านายเชื่อพระวงศ์ได้มาเยี่ยมเยียนท่าน พระครูวิมลคุณากรหลวงพ่อศุขเป็นอันมาก ในเวลานั้นชื่อเสียงของหลวงพ่อแผ่กระจายไปทั่วศานุทิศเชื่อมั่นเลื่อมใสในอภินิหารของท่านอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสด็จในกรมหลวงชุมพร ๆ เจ้านายเชื้อพระวงศ์องค์นี้มาเยี่ยมพระอาจารย์อยู่
    เสมอ บางครั้งมีเวลาว่างก็พักแรมอยู่ที่กุฏิหลวงพ่อ ๒-๓ วัน แล้วก็กลับ บางครั้งหลวงพ่อมีเวลาว่างก็ไปหาเสด็จในกรมฯ พักอยู่ในวังหลายๆวันเหมือนกัน

    เวลานั้นท่านได้ประกอบพิธีปลุกเสกเลขยันต์ตระกรุดโทน พระเครื่อง
    ผ้าประเจียดไว้เป็นจำนวนมาก แล้วแจกจ่ายให้บรรดาศานุศิษย์และญาติโยม ผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาโดยทั่วถึงกัน ในเดือนยี่ปีนั้นเองเป็นหน้าแล้ง ได้มีชาวหนือทางอุตรดิตถ์เดินทางมาค้าขาย

    โดยมีช้างเป็นพาหนะราว ๘-๙ เชือก การค้าขายนั้นจะค้าขายอะไรฟังไม่ชัด ในสมัยนั้นทางคมนาคมไม่สะดวก การเดินทางมีแต่ป่าดงพงทึบ เดินทางจากอุตรดิตถ์ ผ่านสุโขทัย กำแพงเพชร์นครสวรรค์ อุทัยธานี จนถึงจังหวัดชัยนาท ชาวเหนือที่มานั้นมีประมาณ ๑๕ คน ได้พากันมาพักแรมอยู่ที่ใต้ถุนศาลาวัดปากคลองมะขามเฒ่าวัดหลวงพ่อศุขนี้เอง

    ไปปล่อยช้างกินหญ้ากินใบไผ่อยู่ตามบริเวณวัด ๒-๓ วัน ช้าง ๘-๙
    เชือกของชาวเหนือบางครั้งไปเหยียบย่ำของหลวงพ่อที่ปลูกไว้บ้างเช่น ต้นดอกไม้ ต้นกล้วย ผัก พริก มะเขือ เอางวงดึงใบกล้วยกินบ้างจนแหลกลาญหมด หลวงพ่อมิได้พูดว่าแต่ประการใด

    บรรดาชาวบ้านต่างก็พาลูกเล็กเด็กแดงมายืนดูช้างอยู่ในวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีช้างสีดอช้างพัง ช้างพลาย และลูกช้า ๒-๓ เชือก
    เวลานั้นเป็นเวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น. พวกเลี้ยงช้าง
    ที่มานั้นต่างก็พากันหุงข้าวปลาอาหารอยู่ที่ใต้ถุนศาลา รุ่งขึ้นว่าจะมากันเดินลงไปทางใต้

    คือ ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี ในขณะที่กำลังหุงข้าวกันอยู่นั้นได้มีผู้คนในย่านนั้ นเองมามุงดูชาวเหนือกำลังนึ่งข้าวเหนียวอยู่นั่งกันเป็นกลุ่มพูด ภาษาพื้นเมืองของเขาอย่างเจี๊ยวจ๊าวพากันบ่นว่ากับข้าวไม่พอกันกิน อีกคนหนึ่งพูดว่าจะไปยากอะไรนกพิราบอยู่บนหลังคาโบสถ์

    จับเป็นกลุ่มปืนเราก็มีหน้าไม้ก็มีจัดการเลย ชาวบ้านที่ยืนมุงดูนั้นก็พากันห้ามปรามว่าหลวงพ่อท่านห้ามไม่ให้ยิงนกในวัด พวกนั้นไม่เชื่อฟัง อีกคนหนึ่งหยิบเอาปืนแก๊ปขึ้นประทับบ่ายิงไปที่นกพิราบกลุ่มนั้นสับดังเซี๊ยๆ ตั้งหลายครั้งพยายามเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่ออก

    เอาปืนยิงเท่าไหร่ไม่สำเร็จ ก็เลยหันไปหยิบหน้าไม้ยิงไปอีก ยิงทีไรลูกศรตกจากร่องหน้าไม้ทุกที เป็นที่น่าแปลกประหลาดแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ชายฉกรรจ์ชาวเหนือวัยกลางคนชักโมโหพูดว่า "ขรัวตาวัดนี้มีอะไรวะ" เมื่อพูดแล้ว คว้าได้ ขวานสั้น อันคมกริบมาฟันลงหน้าแข้งฉาดๆ กระเด็นออกเป็นฟืนหุงข้าว ทำให้ผู้คนยืนมุงดูเป็นการใหญ่ ชาวบ้าน

    แถวนั้นตลอดจนพระสงฆ์พากันมายืนมุงดูอีกเป็นจำนวนมาก ชาวเหนือคนเลี้ยงช้างได้ใจยิ่งแสดงถากหน้าแข้งอย่างไม่หยุดยั้งออกเป็นฟืนกองใหญ่ ในขณะนั้นได้มีชาวบ้านวิ่งหน้าตาตื่นไปบอกกับหลวงพ่อศุขทันทีว่า

    "ได้มีคนดีมาจากเหนือ ถากหน้าแข้งเป็นฟืนหุงข้าวได้มีคนมุงดูกันเนืองแน่น"
    หลวงพ่อศุขพูดว่า "ใครวะคนดี คนเก่ง"

    ชาวบ้านบอกว่า
    "คนเลี้ยงช้างครับหลวงพ่อ" หลวงพ่อศุขดุด่าขึ้นเสียงดัง

    "ไอ้ห่านี่...มันถากเสาศาสลากูเดี๋ยวเถอะกำแหงใหญ่แล้วพวกนี้"

    ในเวลานั้นเป็นเวลาใกล้พลบค่ำแล้ว หลวงพ่อศุขคิดจะดัดสันดานพวกนี้
    ให้เข็ดหลาบเพราะท่านทราบว่า จวนจะได้เวลาพวกเลี้ยงช้างจะต้องต้อน
    ช้างไปผูกแล้วสุมไฟให้ช้างนอน

    หลวงพ่อเดินลงจากกุฏิคว้ากะลามะพร้าวอันหนึ่งเดินไป
    ลานหญ้าหน้ากุฏิ หยุดบริกรรมพระเวทย์อันศักดิ์สิทธิ์ เรียกฝูงช้างมารวมกัน ด้วยอำนาจเวทย์มนต์หลวงพ่อศุข

    ช้างถูกลมพัดปลิวเท่าตัวแมลงวันตกอยู่ตรงหน้าแล้วท่า นเอากะลา
    ครอบลง แล้วเอาเท้าเหยียบ ตรึงด้วย พระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ เป่าลงบนกะลาครอบนั้นเสร็จแล้วท่านก็เดินขึ้นไปบนกุฏิ

    พวกเลี้ยงช้างพากันกินข้าวปลาอาหารอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็พากันไปต้อน
    ช้างเข้านอนช่วยกันหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ จนอ่อนใจจนถึงกับพากันร้องไห้ ขึ้นไปกราบเท้าหลวงพ่อปรับทุกให้ท่านฟัง ขอสมาลาโทษต่อหลวงพ่อว่าถ้าช้างถูกขโมยไปแล้วเขา

    จะกลับบ้านไม่ได้ ขอให้หลวงพ่อช่วยสักครั้งเถิด หลวงพ่อศุขก็สั่งสอนว่า
    "เรามาทำมาหากินให้อุตส่าห์ขยันหมั่นเพียร อย่าเบียดเบียนคนอื่น จะได้เอาเงินกลับไปเลี้ยงลูกเมีย พวกมึงกำแหง ศาลากูสร้างต้องเสียเงิน มึงเอาขวานมาถากเสาศาลาทำให้เสียหาย มึงจะต้องเอาเงินมาเปลี่ยนทำเสาศาลากูให้ดีอย่างเดิม กูจึงจะเอาช้างให้มึง"

    พวกเลี้ยงช้างเหล่านั้นก็ยอมรับผิด แล้วมอบเงินให้กับหลวงพ่อ ให้พอกับการ เปลี่ยนเสาศาลาให้ดีเท่าเก่า ก้มลงกราบอ้อนวอนขอสมาลาโทษ
    ทุกอย่าง

    หลวงพ่อศุขบอกว่า "มึงตามมา พรุ่งนี้มึงต้องไปนะ ต้นไม้กูปลุกไว้ฉิบหายหมด
    นี่แน่ะ ช้างมึงกูเอากะลาครอบเอาไว้" หลวงพ่อศุขเปิดกะลาที่ครอบนั้นออก ช้างก็กลายร่างเท่าเดิม
    พวกชาวเหนือเห็นดังนั้นก็ก้มลงกราบแทบเท้าหลวงพ่อ แล้วนำช้างเข้าพักนอน
    หลวงพ่อแสดงอภินิหารให้เห็นประจักษ์ครั้งนี้ เป็นที่ทราบกันทั่วไปในหมู่พระสงฆ์และชาวบ้าน ย่านนั้นจึงเล่ากันต่อๆ มาจนตราบเท่าทุกวันนี้


    ************************************************************************************************

    ใครมีอภินิหารประสบการณ์ส่วนตัวที่เกี่ยวกับหลวงปู่ศุข ก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างน๊ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p_suk_pic1.jpg
      p_suk_pic1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.7 KB
      เปิดดู:
      1,017
    • 197i-112395.jpg
      197i-112395.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.7 KB
      เปิดดู:
      5,903
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2013
  2. kim9

    kim9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +2,179
    ประสบการณ์ส่วนตัวของผมกับพระของหลวงปู่ศุขก็คือ เด่นไปในเรื่องแคล้วคลาดมากทั้งเรื่องอุบัติเหตุ

    อย่างที่บ้านผมเวลาที่ผมจะทำอาหารผมจะใช้มีดคมมาก เคยพลาดมีดแฉลบไปบาดมือบ่อยๆ ( แต่ก็ไม่เข้า 5555 ) ตอนแรกผมก็งงน๊ะว่าทำไมมันไม่เข้าทั้งๆที่โดนตรงๆ พอเจอ 2-3 หน เออผมเข้าใจแล้วครับ ว่าเป็นเพราะอานุภาพของพระหลวงปู่ศุขที่ห้อยคออยู่แน่ๆ

    บางทีผมก็จะได้ยินเสียงดังข้างๆหูมาบอกเลข 3 ตัว ไอ้เราก็เอ๊ะสงสัยเราท่าจะประสาท คิดในใจว่า ถ้าหวยงวดนี้มันออกจริงๆน๊ะถึงจะยอมเชื่อ จะได้พิสูจน์ว่าเราไม่ได้หูฝาด แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อหรอก เพราะไม่เชื่อไง ..........แหมที่ไหนได้ ออก 3 ตัวตรงๆจริงๆ เสียดายก็เสียดาย แต่ทำไงได้ ก็เรามันไม่มีดวง

    อย่างเวลาที่คิดอยากจะได้อะไรก็ได้มาง่ายๆ เจ้านายก็เอ็นดูเมตตา ให้งานทำดีๆ........ เวลาที่ผมมีปัญหาผมก็จะอธิษฐานขอเอากับพระของท่าน เรื่องต่างๆก็คลี่คลายไปด้วยดี

    อีกกรณีนึง หลานของผมมันได้แฟนไม่ค่อยดี งานการไม่ยอมจะทำ แล้วก็แอบขายยาบ้า จนมันโดนตำรวจจับ
    ผมถึงทราบว่ามันขายยา หลังจากนั้นพอมันออกมา ผมสงสารมันก็เลยให้เงินมันไป ให้เอาไปหาข้ัาวกิน ดูแลเมีย หลังๆเงินมันหมดมันก็กลับไปขายเหมือนเดิม มีอยู่วันนึงมันก็มาหาผมที่บ้านแล้วมาเล่าให้ผมฟังว่าพี่ๆ พี่รู้ป่ะตั้งแต่ห้อยพระองค์นี้ ผมแคล้วคลาดรอดจากตำรวจมาหลายครั้งแล้ว (พอดีเพื่อนให้มันมาห้อยคอ ) ไอ้เราก็เอ๊ะพระอะไรของมัน ก็เลยให้มันถอดเอาออกมาให้ดู พอผมเอาพระมาส่องดู ก็เข้าใจเลยว่าทำไมมันถึงรอดมาบ่อยๆ ก็เพราะว่าเป็นรูปถ่ายสองหน้าของ หลวงปู่ศุขนี่ซิครับ มิน่าถึงศักดิ์สิทธิ์มาก หลังๆมามันก็พยายามประกอบอาชีพสุจริต เลิกขายยา เพราะมันกลัวจะติดคุกอีกรอบ ..........นี่ขนาดรูปถ่ายของท่านน๊ะครับ ผมว่าที่ท่านช่วย ก็คงเป็นเพราะ สงสารลูกเมียมัน แล้วก็คงจะเห็นว่ามันจะ สามารถกลับตัว กลับใจได้ ท่านก็เลยคงช่วยมันกระมัง

    อีกเรื่อง ผมมีประคำนิ้วของหลวงปู่ศุขอยู่เส้นนึง ตอนได้มาเจ้าของบอกผมว่าหลวงปู่ศุขสร้างประคำนิ้ว เพื่อเอาไว้บูชากันผี และคุณไสย ไอ้เราก็เชื่อน๊ะ แต่จะทราบได้ยังไงว่ากันได้ ............แหม ได้มาวันแรกก็เอาประคำนิ้ว สวมที่นิ้วโป้ง ก่อนนอน............เหอๆๆๆ คืนนั้น นอนไม่หลับเลยครับนอนหลับๆตื่นๆ ผมก็ไม่เข้าใจ , พอวันที่สองเท่านั้นแหละครับ เอามาลองสวม แล้วก็เข้านอน นอนทำสมาธิไปเรยๆ จนเคลิ้มๆจะหลับแหล่ มิหลับแหล่ ผมเห็นเลยครับ ว่ามีผู้ชายเป็นเทวดามายืนข้างๆ คอยดูแลและกันสิ่งที่ไม่ดีที่จะมาเข้าใกล้ ซึ่งอันนี้เห็นชัดมาก ผมตกใจลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นแล้ว อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงอีกเรื่องนึง

    อีกเรื่องบรรดาพวกพ่อค้าแม่ค้า แถวๆมโนรมย์ เค้าเล่าให่ผมฟังว่า เวลาขายของแล้วฝนจะตก พวกเค้าจะรีบไปจุดธูปบอกกับหลวงปู่ศุข ขอให้ท่านไล่ฝนให้ เพราะยังขายของไม่ได้ พอปักธูปลงบนพื้นเท่านั้นแหละ แกเล่าให้ผมฟังว่า จากท้องฟ้าที่มืดดำคลื้มฝนตกเปาะแปะ กลับหยุดตก ฟ้าเปิด เมฆที่ดำๆหายไปหมดเลยครับ นี่ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ศุขครับ

    แล้วก็เรื่องพวกมิจฉาชีพครับ ที่ผมแคล้วคลาดเป็นอย่างมากอย่างใครที่ห้อยพระของหลวงปู่ศุขนี่ ผมกล้ารับประกันว่ารอดปลอดภัยจากมิจฉาชีพ และคนที่คิดร้ายแน่นอน เพราะผม เจอมาหลายเรื่อง ..........ใครมีเรื่องราวดีๆ ประสบการณ์ส่วนตัว เกี่ยวกับหลวงปู่ศุข ก็เข้ามาเล้าให้ฟังกันบ้างน๊ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2013
  3. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,151
    ขอบคุณนะครับที่ตั้งกระทู้ และแชร์ประสบการณ์เรื่องหลวงปู่ศุขครับ :cool::cool:
     
  4. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,063
    ค่าพลัง:
    +52,162
  5. สาปสาง

    สาปสาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2012
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +1,332
    เข้ามาติดตามครับ เนื้อหาอ่านสนุก และศรัทธาหลวงพ่อเพิ่มเป็นทวีคูณเลยครับ
     
  6. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    ��ҹ�س���Ե ::��С���Ѵ��ͧ���

    P180041.jpg
    พระสมเด็จรัศมี เนื้อผงพุทธคุณ กรุคลองขอม แขวนแล้วร่มเย็นเป็นสุข ดีครับ พระหลวงปู่ศุขดีมากครับ
     
  7. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
  8. บารมี 10

    บารมี 10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,071
    - ประสบการณ์พระหลวงปู่ศุข
    เป็นเรื่องของพี่ชายที่ได้รับพระหลวงปู่มาจากพ่อ แล้วเย็นวันหนึ่งซ้อมกีฬาที่โรงเรียน พอกลับมาบ้านปรากฎว่าพระหล่นหาย
    เขาเลยอธิฐานกับหลวงปู่ขอให้ได้พระกลับคืนมา เสร็จแล้วพี่ชายก็ไปหาพระตรงบริเวณที่ซ้อมกีฬาก็ได้พระองค์นั้นกลับมา

    - อีกครั้งที่พี่ชายทำพระหล่นหายภายในบ้าน หาตั้งนานไม่พบเลยอธิฐานขอกับหลวงปู่ ปรากฎว่าท่านมาบอกในฝันว่าพระหล่นอยู่บริเวณไหน
    พี่ชายตื่นมาก็หาพบตามนั้น

    - พระที่พ่อให้พี่ชายเป็นพระชินตะกั่วสร้างสมัยหลวงปู่ศุขอยู่วัดหัวหาด ( ไว้จะนำภาพมาให้ชม )

    - ส่วนองค์ในภาพเป็นพระที่ผมคล้องอยู่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2058.JPG
      IMG_2058.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      579
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2016
  9. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    P260116.jpg P260112.jpg

    พุทธศิลป์งดงาม พุทธคุณเลอค่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...