กระทู้ มองพระอาทิตย์ ผมหายอีกแล้ว อยู่ได้เกือบสองเดือน มันหายไปไหนน้อ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย snakejoke, 7 มีนาคม 2013.

  1. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    กระทำต่อบุคคลธรรมดา

    หมิ่นประมาท (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326)
    หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328)
    ดูหมิ่นซึ่งหน้า (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393)
    การหมิ่นประมาทบุคคลธรรมเป็นความผิดอันยอมความกันได้ ในทางกฎหมายได้นิยามคำว่าหมิ่นประมาทไว้ว่า "ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท" ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำผิดโดยการโฆษณาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท ส่วนการหมิ่นซึ่งหน้านั้น อยู่ในหมวดลหุโทษของประมวลกฎหมายอาญา เป็น "การดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา" (มาตรานี้ไม่ได้มีกล่าวถึงความเกี่ยวข้อต่อบุคคลที่สามไว้) มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
     
  2. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    แนะนำว่าฟ้องร้องทางแพ่งดีกว่าทางอาญาครับ เพราะเรียกร้องค่าเสียหายได้


    http://www.chusaklaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539372214&Ntype=2
    เรื่องคดีดูหมิ่น หมิ่นประมาทในทางอาญาและหมิ่นประมาทในทางแพ่งแตกต่างกันอย่างไร เพราะบางครั้งมีการแจ้งความฟ้องศาลให้ลงโทษจำคุกได้ แต่บางครั้งฟ้องเรียกแต่ค่าเสียหายกันอย่างเดียว

    การฟ้องให้ลงโทษจำคุกจะเป็นเรื่องของความรับผิดทางอาญา ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหายจะเป็นเรื่องของความรับผิดในทางแพ่ง ซึ่งการหมิ่นประมาทนั้นอาจเป็นทั้งความรับผิดในทางอาญาและทางแพ่ง หรืออาจเป็นเพียงความผิดฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งได้อย่างเดียว หรืออาจจะเป็นความรับผิดในทางอาญาอย่างเดียว ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทในทางอาญาและทางแพ่งนั้นมีมากมายในที่นี้จึงขออธิบายเพียงกว้าง ๆ ว่าการหมิ่นประมาทในทางแพ่งและหมิ่นประมาทในทางอาญานั้นโดยทั่วไปมีความคล้ายกัน ซึ่งพอจะแยกความแตกต่างได้บ้างคือ

    1.ดูจากเจตนา กล่าวคือ ในทางอาญา การหมิ่นประมาทนั้นต้องเป็นการกระทำโดยเจตนาเท่านั้น ดังนั้นถ้าเป็นการกระทำโดยไม่เจตนาหรือเป็นการกระทำโดยประมาทในความรับผิดทางอาญาจะไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท แต่หมิ่นประมาทในทางแพ่งนั้นนอกจากจะกระทำโดยเจตนาคือ จงใจกระทำแล้ว ในบางกรณีแม้เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อในการกล่าวหรือไขข่าว ก็อาจมีความผิดในทางแพ่งเรื่องละเมิดได้ แม้ว่าผู้กล่าวหรือไขข่าวจะไม่มีเจตนาให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญของผู้อื่น

    2.ดูจากความที่กล่าวหรือไขข่าว กล่าวคือ การหมิ่นประมาทในทางแพ่งนั่นถ้าเป็นการพูดเรื่องจริง กล่าวหรือไขข่าวในข้อความที่เป็นจริงจะไม่ถือว่าเป็นการละเมิด เพราะว่าหากเป็นเรื่องจริงผู้ถูกกล่าวถึงนั้นย่อมไม่ได้รับความเสียหาย แต่สำหรับความรับผิดทางอาญานั้น แม้ข้อความที่กล่าวนั้นจะเป็นเรื่องจริงก็อาจเป็นความรับผิดทางอาญาได้ โดยจะเห็นได้จากในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 330 ที่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่จริง ถ้าหากคำกล่าวหรือข้อความที่กล่าวใส่ความนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวและการพิสูจน์นั้นไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน

    3.ดูเรื่องความเสียหายที่ได้รับ ในทางอาญาผลของการใส่ความจะเป็นการเสียหายต่อชื่อเสียง ทำให้ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง แต่การหมิ่นประมาทในทางแพ่งนั้น กฎหมายจะกำหนดความเสียหายไว้กว้างกว่าคือ นอกจากจะเป็นการเสียหายต่อชื่อเสียงแล้ว ยังรวมถึงความเสียหายต่อทางทำมาหาได้ เกียรติคุณหรือทางเจริญด้วย

    นอกจากนี้ในความรับผิดทางอาญานั้น บางครั้งการพูดดูถูกผู้อื่นอาจเป็นเพียงการดูหมิ่นอันเป็นเพียงความผิดที่มีโทษเพียงเล็กน้อยซึ่งเรียกว่า ความผิดลหุโทษ คือ ความผิดฐานดูหมิ่นนั้นจะมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยการกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเหยียดหยามบุคคลอื่น แต่ไม่ถึงกับทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงเกียรติคุณเพราะคำดูหมิ่นนั้นไม่อาจจะเป็นความจริงได้ ได้แก่คำด่าต่าง ๆ เช่น คำว่า ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ไอ้เหี้ย ไอ้ผีปอบ ฯลฯ หรืออาจเป็นอาการดูหมิ่นต่าง ๆ เช่น การแลบลิ้นใส่ การยกเท้าแสดงอาการไม่สุภาพ ฯลฯโดยไม่ต้องเป็นการกล่าวต่อบุคคลที่สาม

    แต่ถ้าเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทในทางอาญาแล้วจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญเข้ามาอีกประการหนึ่งคือ ต้องเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นมากล่าวอ้างต่อบุคคลที่สามด้วย ซึ่งจะทำให้บุคคลที่สามได้เห็นพฤติกรรมการกระทำของบุคคลนั้น และความผิดฐานหมิ่นประมาทในทางอาญานั้นโทษจะหนักกว่าคือ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

    คำว่า หมิ่นประมาท ตามพจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง " ชื่อความผิดทางอาญาฐานใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง"

    หมิ่นประมาทตามกฎหมาย แยกออกได้เป็น

    หมิ่นประมาทในทางแพ่ง กับ หมิ่นประมาทในทางอาญา


    หมิ่นประมาทในทางแพ่ง

    ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 423 บัญญัติว่า

    "ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่เขาเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตนมิได้รู้ข้อความนั้นไม่จริงแต่หากควรจะรู้ได้ ผู้ใดส่งข่าวสารอันตนมิได้รู้ว่าเป็นความจริงไม่จริง หากว่าตนเองหรือผู้รับข่าวสารนั้น มีทางได้เสียโดยชอบในการนั้นด้วยแล้ว ท่านว่าเพียงที่ส่งข่าวสารเช่นนั้น หาทำให้ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน"


    ส่วนความผิดฐานหมิ่นประมาทในทางอาญา

    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 บัญญัติว่า

    "ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท"

    การกล่าวถ้อยคำต่อผู้เสียหายโดยตรง ไม่เป็นการใส่ความต่อบุคคลที่สาม ไม่เป็นหมิ่นประมาท แต่อาจมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

    ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิดพิสูจน์ได้ว่า ข้อที่หาว่าหมิ่นประมาทนั้น เป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ห้ามมิให้พิสูจน์ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

    คู่ความหรือทนายความของคู่ความ ซึ่งแสดงความเห็นหรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาล เพื่อประโยชน์แก่คดีของตน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท


    ความแตกต่างของหมิ่นประมาทในทางแพ่งกับหมิ่นประมาททางอาญาต่างกันตรงที่ "เจตนา"

    กล่าวคือ หมิ่นประมาททางอาญา จะต้องกระทำโดยเจตนา การกระทำโดยไม่เจตนา หรือโดยประมาท ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทในทางอาญา

    ส่วนในทางแพ่ง แม้ไม่มีเจตนาก็ถือว่าหมิ่นประมาท ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลิ่นเล่อ ก็ต้องรับผิดทางละเมิด

    ความต่างอีกประการหนึ่ง คือ "ข้อความที่กล่าว"

    ในกรณีหมิ่นประมาททางแพ่งนั้น การกล่าวหรือไขข่าวข้อความที่เป็นความจริง ไม่ถือเป็นละเมิด

    ตรงข้ามกับทางอาญา แม้จะเป็นข้อความที่เป็นจริง ก็อาจมีความผิดได้ เพราะกฎหมายห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน


    นอกจากนี้ ในประเด็นเรื่องความเสียหาย....

    ความผิดฐานหมิ่นประมาทในทางอาญา ผลของการใส่ความจะเป็นการเสียหายต่อชื่อเสียง ทำให้ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ส่วนความเสียหายอื่นๆ นอกจากที่กฎหมายกำหนด เช่น เสียหายต่อทางทำมาหาได้ การใส่ความนั้นก็ไม่เป็นการหมิ่นประมาทในทางอาญาแต่เป็นหมิ่นประมาททางแพ่ง

    ส่วนหมิ่นประมาทในทางแพ่ง กำหนดความเสียหายไว้กว้างกว่าทางอาญา พราะนอกจากความเสียหายต่อชื่อเสียงแล้ว ยังรวมถึงความเสียหายต่อทางทำมาหาได้ เกียรติคุณ หรือทางเจริญอีกด้วย เช่นนาง ก. แม่ค้าขายหมูปิ้งได้กล่าวกับลูกค้าที่มาซื้อของตนว่าอย่าไปซื้อไก่ปิ้งของนาย ข. เด็ดขาดเพราะนาย ข. ใช้ไก่ที่ตายด้วยโรคมาปิ้งขาย เช่นนี้ก็เป็นหมิ่นประมาททางแพ่งได้เพราะเป็นการเสียหายต่อทางทำมาหาได้ของนาย ข. เป็นต้น


    หมิ่นประมาท ต่างกับ ดูหมิ่น คือ

    หมิ่นประมาทเป็นการใส่ความโดยยกข้อเท็จจริงขึ้นกล่าวอ้างต่อบุคคลที่สาม ทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดในพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกกล่าวถึง

    ส่วนการดูหมิ่นเป็นการกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเหยียดหยามบุคคลอื่น ซึ่งไม่ถึงกับให้ผู้อื่นนั้นได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงเกียรติคุณ

    ในกรณีหมิ่นประมาททางแพ่งนั้น การกล่าวหรือไขข่าวข้อความที่เป็นความจริง ไม่ถือเป็นละเมิด และไม่เป็นหมิ่นประมาททางแพ่ง
     
  3. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    วิธีคำนวณค่าเสียหาย (กรณีฟ้องแพ่ง)


    ให้คุณโจ้ก คำนวณว่าชื่อเสียงของคุณ ความน่าเชื่อถือของคุณ
    ทำให้คุณมีรายได้ ครั้งละเท่าไร เดือนหนึ่งประมาณเท่าไร เช่น
    รวมๆ แล้วเดือนหนึ่งคุณได้รับเงินประมาณ ๑ หมื่นบาท และผล
    กระทบที่คุณได้รับจากเขา ยาวนานเท่าไร? สมมุติ ๑ ปี ก็จะเป็น
    เงินรวมทั้งสิ้น ๑ แสน สองหมื่นบาท


    รวมค่าทำขวัญ ค่าผลกระทบต่อจิตใจ ค่าป่วยการ ก็บวกเข้าไปครับ
     
  4. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    วิธีการดำเนินคดี กรณีความผิดตาม พรบ. อิเล็คโทรนิค


    สามารถฟ้องร้องแล้วนำหมายฯ จากตำรวจมาส่งให้ทางเว็บไซต์ได้
    ทางเว็บไซต์จะให้ข้อมูล IP address เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำความผิด
    ได้ครับ เมื่อมีหมายศาลมาแล้ว ทางเว็บก็จะเปิดให้ดู IP address ครับ
     
  5. AlJalJa

    AlJalJa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +254
    จะบอกให้นะ ผมลองโทรไปแล้วครับ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย บอกตามตรงแต่ไม่อยากไปโพสต์ให้เสียน้ำใจเฉยๆแหละ ดวงอาทิตย์ก็ไม่ได้เย็นลงเหมือนอย่างที่พลายๆโพสต์กล่าวอ้าง ยังสีส้มร้อนแรงเหมือนตอนก่อนจะอธิษฐาน ข้อสรุปของผมนะ ผมไม่เชื่อครับ

    กรณีของคุณ llamll ยังไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาทครับ มากสุดก็แค่ผิดฐานดูหมิ่น เล็กน้อย :love:

    เล็กๆน้อยๆ

    ถ้าคนที่ถูกกล่าวหาพูดแล้ว...เป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

     
  6. หยดน้ำเพชร

    หยดน้ำเพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70


    ดิฉันแค่บอกออกมาเตือนเฉยๆว่าการมองพระอาทิตย์นั้นมองนานอาจทำให้เกิดตาบอดได้ออกมาเตือนแค่นี้ แต่ที่ว่าจะไปฟ้องนั้นนะอย่าคิดนะว่าฉันจะทำไม่ได้ลองย้อนไปอ่านข้อความเก่าๆดูซิคะว่าคุณโจ้กก็ได้ว่ากล่าวว่าดิฉันโง่ ดิฉันก็สามารถเอาความได้เหมือนกันคะสามารถฟ้องเอาความได้เหมือนกัน คิดหรือไงว่าตำรวจจะมาเชื่อพวกเรื่องพวกนี้เค้าตอบกลับมาว่าจะหาว่าจิตไม่ปรกติซะมากกว่า รู้ป๊ะว่าเป็นลูกใคร บอกก็ได้นะเราเป็นลูกผู้พันนะพ่อยศพันตำรวจโท นะแต่ขอไม่บอกว่าอยู่จังหวัดใหนภาคอะไรสำนักงานอยู่ที่ใหนคิดซิถ้าลูกผู้พันฟ้องศาลฐานหมิ่นประมาทมาว่าให้โง่แล้วอะไรจะเกิดขึ้น พูดกันดีๆก็ได้ ดิฉันเพียงแต่แค่บอกออกมาเตือนเด็กๆเฉยๆไม่ได้ตั้งใจจะมาว่ามาด่าแบบนี้ ข้อความทุกข้อความดิฉันได้ให้ทนายเซ็ฟเก็บไว้เรียบร้อยแล้วที่คุณพูดว่าดิฉันโง่ไง ขอโทษนะดิฉันตระกูลสูงคะไม่เคยเรียกใครว่าโง่หรือพูดหยาบคายเลย

    ปล..ดิฉันพูดตรงๆนะว่าเชื่อเรื่องพวกนี้แต่คนที่เค้าทำได้เค้าไม่ได้มาอวดตัวเองแบบนี้พวกอวดนะมักจะทำไม่ได้แล้วอีกอย่างนะมันดูโรคจิตมากๆเผลอๆตำรวจจะจับส่งศรีธันญา ดิฉันไม่ติดใจเอาความหรอกคะเรื่องพวกนี้ แต่คุณต้องเขียนข้อความมาข้อโทษดิฉันแค่นี้ดิฉันก็ให้อภัยแล้ว ก็บอกแล้วว่าเพียงแต่อยากบอกให้รู้ว่าถ้ามองพระอาทิตย์นานๆกลัวตาจะบอดก็เท่านี้ไม่ได้มีเจตนาจะว่าอะไรให้เสียหายเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มีนาคม 2013
  7. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ด่าอย่างไร เรียกว่า "ดูหมิ่น" อย่างไรเรียก "หมื่นประมาท"


    ดูจาก "ผล" ครับ ถ้าการด่านั้น ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน ทำให้
    บุคคลหนึ่งบุคคลใด เสียตำแหน่งหน้าที่การงาน เสียรายได้ ทำงานไม่ได้
    เรียกว่า "หมิ่นประมาท" ส่วนด่าแบบไหน ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการสูญเสีย
    รายได้ หรือหน้าที่การงาน เรียกว่า "ดูหมิ่น"


    กรณีนี้ คำว่า "โง่" ไม่ใช่หมิ่นประมาท แต่เป็นดูหมิ่น เพราะส่งผลกระทบ
    ไม่มาก ถึงขั้นที่จะทำให้ทำงานไม่ได้ หรือสูญเสียรายได้จากหน้าที่การงาน
    แต่คำว่า "บ้าแล้วจับส่ง รพ." อันนี้ ทำให้ใครบางคน ตกงาน หรือเสียงาน
    ได้ครับ เช่น บางตำแหน่ง เขาจะไม่รับคนบ้า วิกลจริต ถ้าเป็นบ้าแล้วเขาจะ
    ถูกไล่ออกจากงาน ดังนั้น ถ้ายื่นสู้ทางคดีกัน


    คุณโจ้กก็ลองใช้คำแนะนำของผมประกอบการสู้คดีได้ครับ
    เถียงไปเถียงมา ชนะแพ้ ไม่รู้จริงหรอก ต้องให้ศาลตัดสิน!
    (คนเราทุกคน ก็คิดว่าตัวเองถูกกันทั้งนั้นแหละ ถึงต้องมีศาล)
     
  8. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964


    ขอเก็บเป็นหลักฐานไว้นิดนะ จะได้ไม่มีใครมาลบ หายไปทีหลัง
     
  9. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ความน่าเชื่อถือ สำคัญต่อการทำหน้างานด้าน "ดูดวง"


    ความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าถูกคนใส่ร้ายว่าบ้า แล้วทำให้เขา
    ทำงานไม่ได้ กระทบแน่นอนถึงการทำงาน และรายได้ได้ครับ เช่น
    ถ้าหมอดู คนหนึ่ง ถูกคนหาว่าบ้า หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาทาง
    อินเตอร์เน็ต ซึ่งมีผู้รู้เห็นมากมาย ไม่ใช่แค่สองคนด่ากัน ผลกระทบ
    ก็จะมากขึ้น เป็นวงกว้างมากขึ้น


    การอวดอ้างตนเองว่าเป็นลูกท่านหลานเธอ จะเข้าข่ายข้อหา "ผู้มีอิทธิพล"
    คือ ใช้อิทธิพลของพ่อแม่ตัวเอง เืพื่อรังแกชาวบ้าน เล่นงานคนอื่น นั่นเอง
     
  10. หยดน้ำเพชร

    หยดน้ำเพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    สำหรับคุณโจ๊กนะดิฉันไม่ได้ติดใจเอาความอะไรคุณหรอก แล้วเธอเป็นอะไรกับคุณโจ๊กไม่ทราบถึงต้องออกมาร้อนตัวเองแบบนี้ แล้วถ้าเป็นลูกนายพันละพ่อยศพันตำรวจโท ไปแจ้งความคิดซิว่าอะไรจะคืบหน้าไปกว่ากันแล้วศาลจะเชื่อฟังใครมากกว่ากันแล้วอีกอย่างนะเอาหลักฐานตรงใหนที่ดิฉันไปว่ากล่าวให้คุณโจ๊กเสียหน้าทีการงานดิฉันไม่ได้พูดถึงตรงนั้นเลยพูดบอกเพียงแต่ว่าเตือนพวกเด็กๆไม่ให้มองพระอาทิตย์กลัวตาจะบอดก็แค่นี้คิดดูซิตำรวจฟังแล้วใครมันน่าจะฟังความขึ้นมากกว่ากันอีกอย่างเกิดไปบอกลูกเค้าให้เพ่งมองพระอาทิตย์ถ้าลูกเค้าตาบอดสีหรือเป็นโรควุ้นในตาเสื้อมละอะไรอะไรจะไปกันใหญ่คิดซิว่าใครจะผิด

    คำว่าขอโทษเนียมันเขียนยากไปหรอไง
     
  11. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    การเลี้ยงชีพให้ได้ด้วยวิถีฆราวาส สำคัญไฉน?


    สำคัญมากครับ เพราะมันคือ ทางออก ที่จะช่วยให้คนไม่เกาะผ้าเหลืองกิน
    ถ้าคนหากินในผ้าขาวได้ ไม่ต้องไปบวชพระ เพื่ออาศัยความศรัทธาที่คนมี
    ต่อผ้าเหลืองหากิน การทำหน้าที่ หาเลี้ยงชีพในรูปพราหมณ์จึงสำคัญมาก
    อย่างยิ่ง ต่อการ ไม่ทำให้พระพุทธศาสนามัวหมอง


    การทำลาย เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่เขาอาจเรียนไม่จบอะไรเลย ไม่สามารถทำ
    งานโดยใ้ช้ปริญญาบัตรได้ ทำให้เขาต้องเสียอนาคต เขาอาจมีอาชีพอยู่ได้
    โดยสุจริตด้วยการ "เป็นหมอดู" ดูดวงไป แต่ถ้าใครบางคนทำลายชื่อเสียง
    ความน่าเชื่อถือของเขา ด้วยการ "ใส่ร้ายว่าบ้า" แล้ว ทำให้ทุกอย่างสิ้นลง
    ทั้งอนาคตของเด็กคนนั้น รายได้ที่เขาจะได้รับทั้งชีวิต และกระทบถึงการอยู่
    โดยไม่ใช้ผ้าเหลืองหากิน ซึ่งประเด็นหลังนี้ ผลกระทบแรงมาก เพราะคุณค่า
    ของพระพุทธศาสนานั้น เหลือคณานับ ประเมิณเป็นเงินไม่ได้ ถ้าคนไม่อาจ
    หากินในเพศฆราวาสแล้ว ไปแอบแฝงหากินในผ้าเหลืองกันหมด ศาสนาพุทธ
    จะเป็นอย่างไร? ถูกทำลายไปถึงขั้นไหน? ลองประเมิณค่าความเสียหายนี้ดู!
     
  12. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    หน้าที่ของเืพื่อนมนุษย์ย่อมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
    ที่ได้รับความอยุติธรรม เพราะเราคือ "พี่เบิร์ด เบิร์ดรักทุกคน"
    เห็นเพื่อนมนุษย์ถูกรุมกระหน่ำทำร้าย เราช่วยได้ ไม่ผิดครับ


    (k)
     
  13. หยดน้ำเพชร

    หยดน้ำเพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    ขอโทษนะพ่อดิฉันทำงานอย่างสุจริต มีหน้ามีตาในสังคมแต่ถ้ามีเรื่องแบบนี้กับลูกตัวเองคิดซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น พ่อดิฉันทำงานสั่งลูกน้องให้ไปจับโจร จับยาบ้า ผิดด้วยหรอว่าข้อหาผู้มีอิธิพล แต่พ่อดิฉันสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศซะมากกว่านะและ แบบนี้ดิฉันก็มีหน้ามีตาในสังคมนะคิดหรอว่าถ้าเรื่องแบบนี้ออกไปดิฉันจะไม่เสียหาย ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อใครกรุณาเขียนข้อความขอโทษดิฉัน ดิฉันจะไม่เอาความอันใดทั้งสิ้น กล้าเป็นลูกผู้ชายพอป๊ะละ
     
  14. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    คุณสมควรขอโทษผมนะครับ
    ผมไม่ได้ทำผิดอะไรเลย อ่ะ


    :boo:
     
  15. หยดน้ำเพชร

    หยดน้ำเพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    คำว่าขอโทษเนีย มันเขียนยากนักหรอไง...................นิถ้าคุณเป็นทหารนะเดียวจะสั่งพ่อให้ย้ายไปทำการที่สามชายแดนภาคใต้ช่วยประเทศไงจะได้ดีขึ้นว่าไงคะคุณขิขิขิขิ พูดเล่นแซวเล่นน๊า

    แค่เขียนคำว่าขอโทษเนียมันเขียนยากนักหรอไงคะคุณ.....
     
  16. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    คนที่มีพ่อมีอำนาจ ก็ทำความผิดได้ครับ ทำความผิดแล้วหาว่าคนอื่นผิด
    ไม่ยอมรับผิด ให้คนอื่นมาขอโทษ แล้วอ้่างพ่อ อย่างนั้นอย่างนี้ เอามาข่มขู่


    นับเป็นความผิดได้ครับ เพราะเอาพ่อที่มีอำนาจมาข่มขู่ประชาชน !
     
  17. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    น่านสิ คุณเนี่ย เขียนคำว่า "ขอโทษ" ยากนักหรอ
    ทำไมไม่เขียนขอโทษผมละ
     
  18. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    กรณี การเพ่งดวงอาทิตย์ อาจทำให้ตาบอด


    ก็จะต้องเพ่งบ่อยๆ นานๆ จึงจะส่งผลได้ชัดเจนว่าตาบอด
    ในการสืบสวน โจทย์จะต้องส่งข้อมูลหลักฐานทางการแพทย์
    ที่รับรองให้ได้ชัดเจนว่า "การตาบอดนั้นเป็นผลมาจากการเพ่งฯ"
    แต่หากอีกฝ่าย สามารถแก้ต่างได้ว่า การตาบอดนั้นมาจากสาเหตุอื่น
    ก็ทำได้ ให้ยื่นหลักฐานทางการแพทย์เข้าสู้กันต่อหน้าศาลครับ


    แล้วศาลจะพิจารณาเองว่า อะไรที่เป็นไปได้มากที่สุด
    กรณี คุณโจ้ก เพิ่งเริ่มเพ่งกันได้ ไม่กี่เดือน สามารถ
    แก้ต่างได้ว่า ไม่อาจส่งผลให้ตาบอดได้ เพราะยังไม่
    นานมากพอที่จะก่อให้เกิดโรคหรือตาบอดได้ครับ ...
     
  19. หยดน้ำเพชร

    หยดน้ำเพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    คุณเป็นคนเริ่มมันก่อนเพราะคุณอยากจะฟ้องศาลไงคุณต้องมาขอโทษดิฉันนะถึงจะถูก ที่ดิฉันทำไปก็เพื่อนไม่อยากให้เด็กๆหรือลูกคนอื่นๆไปจ้องมองพระอาทิตย์กลัวลูกเค้าจะตาบอดตาเสียก็แค่นี้แต่สำหรับคุณมันจะคิดเอาแต่เรื่องไปฟ้องศาลแบบนั้นแบบนี้คิดซิคะคุณต้องมาขอโทษดิฉัน แล้วอีกอย่างพ่อดิฉันไม่ใช่ผู้มีอิธิพลนะก็บอกแล้วพ่อทำงานเพื่อนประเทศชาติสั่งลูกน้องให้ไปจับโจร จับขโมย ไม่งันบ้านเราไม่สงบสุขแบบนี้หรอกคุณคิดซิ
     
  20. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    กรณีเพ่งแล้วตาบอดจริง


    จำเลยสามารถแก้ต่างได้ว่า ตนไม่ได้เป็นคนสั่งให้ทำ
    ตนสอนให้เขาเพ่งพระอาทิตย์จริง แต่ไม่ไ่ด้ให้ทำทุกวัน
    โจทย์ เป็นผู้เข้าใจผิดเอง แล้วไปปฏิบัติผิดทาง เคร่งเิกิน
    เพ่งมากเกินไป ทำให้ตาบอดเอง โดยที่โจทย์ไม่ได้บังคับให้ทำ


    แค่นี้ก็รอดแล้วจ๊ะ โฮ่ๆๆ
    (ขี้เกียจเล่นด้วยละ ไปละ Bye)
     

แชร์หน้านี้

Loading...