กรรม คนที่ชอบแต่งตัวออกแนวเซ็กซี่ๆ

น่าจะขึ้นอยู่ที่เจตนานะครับ เพราะสมัยก่อนก็ใส่น้อยชิ้นก็มี

 

บาปหนาครับโดยเฉพาะบุคคลที่จ้องมองเธอแต่งตัวโดยไม่สำรวม เพราะจริตพวกเขาเหล่านั้นยังเต็มไปด้วยราคะ โทสะ โมหะ ทั้งๆที่เป็นแค่อบายอย่างหนึ่งที่เป็นเพียงเครื่องทดสอบจิต ไม่ใช่เธอหรอกครับที่บาป คุณต่างหากล่ะที่เป็น...คนบาป ยังหลงยึดติดอยู่ในรูป รส กลิ่นและเสียง

 

ขอแย้งหน่อยนะครับ (ถ้าไม่พอใจขออภัยด้วย) ในธรรมบท แม้พระอริยบุคคลระดับพระโสดาบันยังห่อผ้าหนีตามผู้ชายเลยนะครับ อย่าทำเป็นล้อเล่นนะ ดังนั้น หากเห็นใครทำความดี ถ้าคนรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเข้าใจหลักพระพุทธศาสนาดีพอ มีแต่เขาจะระมัดระวังไม่ไปแสดงกิริยาหรืออาการใด ๆ ให้ท่านเหล่านั้นต้องไขว้เขวหรอก ผู้ที่จะหมดกามราคะเด็ดขาดมีแต่พระอริยบุคคลระดับพระอานาคามีขึ้นไปเท่านั้นแหละ นอกนั้นมีแต่พวกศิลาทับหญ้าหรือข่มเอาไว้ทั้งนั้น ใครก็ตามที่เห็นคนอื่นทำความดียังไปหาวิธีทดสอบให้ท่านเหล่านั้นไขว้เขวหรือพลัดตกจากความดีที่ทำ สำหรับผมเองถือว่าพวกที่ทำแบบนั้นไม่ใช่คนดีแล้วล่ะ อันนี้ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยผมก็ไม่ว่า เพราะประสบการณ์แต่ละคนต่างกัน แต่ควรรู้ไว้อย่างหนึ่งว่า คนแต่ละคนกว่าจะมีความรู้สึกว่าอยากทำความดีจริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย จึงควรหาทางส่งเสริม ไม่ใช่มาหาวิธีทดสอบว่าทำดีจริงหรือเปล่า ? อะไรทำนองนี้ เกิดโดนคนที่เขาตั้งใจทำความดีจริง ๆ แต่จิตใจยังไม่เข้มแข็งพอ ผมถามว่าชีวิตของคนที่พลัดตกจากความดีมันเป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับคนดี ๆ กันหรืออย่างไร ?

 

คนแต่ละคนกว่าจะมีความรู้สึกว่าอยากทำความดีจริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย จึงควร

หาทางส่งเสริม ไม่ใช่มาหาวิธีทดสอบว่าทำดีจริงหรือเปล่า ? อะไรทำนองนี้

เกิดโดนคนที่เขาตั้งใจทำความดีจริง ๆ แต่จิตใจยังไม่เข้มแข็งพอ


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยให้เหตุผลในการกระทำที่คิดว่าให้ความสุขแก่คนแต่กลับเป็นโทษเช่น การเป็นนักร้อง นักแสดง เป็นต้น เจ้าตัวก็เข้าใจว่าเป็นการทำให้คนมีความสุขคงจะได้บุญ แต่ไปทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์กับตรัสตอบว่าเป็นบาป โดยทรงให้เหตุผลว่่า คนทุกคนย่อมมีกิเลสนอนนิ่งในสันดานอยู่แล้ว ครั้นได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังสิ่งที่เรากระทำ กิเลสย่อมกำเริบขึ้น อาการที่เป็นเหตุปัจจัยทำให้คนกิเลสกำเริบขึ้น แม้จะด้วยเจตนาดีอย่างรู้เท่าไม่ถึงกาล ก็เป็นบาป นำผู้นั้นให้ไปสู่อบายภูมิได้ การแต่งตัวที่นิยมกันว่าเซ็กซี่อย่างในยุคนี้นิยมกัน ก็น่าจะเข้าข่ายนี้เหมือนกันนะ


แต่ก็มีพระพุทธดำรัสไว้ตอนหนึ่งว่า การแต่งตัวหรือการทำอาการยั่วยวนด้วยประการต่่างๆนั้น หลอกให้ปุถุชนลุ่มหลงได้ แต่หลอกผู้ที่มีมรรคผลเป็นแก่นสารให้ลุ่มหลงไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็สบายใจได้ว่า โลกนี้ยังมีคนรอด

 

ไม่คิดว่าเป็นกรรมของผู้หญิงคนนั้นเมื่อชาติที่แล้วบ้างหรือครับ ชาตินี้เลยต้องมาแต่งตัวออกแนวเซ็กซี่ๆให้ผู้อื่น(เจ้ากรรมนายเวร)ดูบ้าง หรือว่ากรรมเพิ่งจะเกิดขึ้นมาเมื่อภพชาตินี้ โดยให้ไปชดใช้กรรมกันในชาติหน้า แล้วที่เกิดมาทุกวันนี้ไม่ใช่เพื่อชดใช้กรรมและสร้างผลบุญต่อไปในภายภาคหน้าหรือ ลองคิดอีกแบบในมุมกลับดูบ้าง สิ่งใดๆก็ตามที่ผิดพลาดอยู่ทุกวันนี้ ได้มองมาที่ตัวเราเองบ้างหรือไม่ว่าเป็นผู้กระทำหรือสนับสนุนให้ก่อเกิด หรือได้แต่โทษผู้อื่นๆไปวันๆว่าเป็นเพราะคุณ เพราะคุณนั่นล่ะ คิดแบบสนุกๆอย่าไปซีเรียสแล้วจะเห็นอีกมุมมองหนึ่งซึ่งอยูใกล้ๆเพียงแต่เรามองข้ามไปเท่านั้น

 

ผมไม่ได้เจาะจง คำใดคำหนึ่ง แล้วแต่ความคิดแต่ละคน มันก็มีคำที่พูดอีกคือ แฟน สามี ฯลฯ

ถ้า... ไม่สุภาพ แล้วคำว่าเมียละครับ ไม่สุภาพรึป่าว ( สุภาพ ไม่สุภาพนั้น ชาวบ้านทั่วไป รู้กันดี )
ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ถ้าคำๆ นั้นทำให้ คุณนราสภา ที่เข้าใจ ทำให้คุณฟุ่งซ่านขึ้นมา ผมต้องขอประทานอภัยเป็นอย่างสูงครับ

ปล. คุณนราสภาจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีคนนึง ถ้ามีจิตใจดีเหมือนกับหน้าตา คุณคงให้อภัยผมนะครับ อิอิ

 

อ่านเฉยๆ คนถามไม่แต่ง คนแต่งไม่ถาม

 

คิดว่าถ้าจำเป็นต้องแต่งสำหรับงานนั้นไม่บาปหรอกค่ะ เป็นสัมมาอาชีวะหากินด้วยสุจริตไม่ได้ไปหลอกลวงใคร เราก็มีเจตนาทำงานด้วยใจบริสุทธิ์

 

สาธุ(ในความคิดของข้าพเจ้า)

 

คำถามคือ การแต่งกายแบบแนว sexy บาป หรือไม่

การแต่งกาย sexy ก็คือ แต่งกายให้เป้นที่เสน่หาแก่คนทั่วไป ดึงดูดหรือกระตุ้นในทางเพศโลกีย์

บาป คือ สิ่งที่ก่อให้จิตมีความเศร้าหมอง หรือสิ่งที่ทำให้คุณภาพจิตต่ำลง ถ้า บาป หมายถึง เฉพาะอกุศลกรรมบถ ๑๐ การแต่งกาย sexy นั้น จึงไม่บาป

แต่การแต่งกายsexy เป็นกิเลส เป็นนิวรณ์ เป็นการก่อกรรม แล้ว แต่จะเป็นกรรมไม่ดี กรรมดี หรือกรรมกลางๆ ต้องพิจารณาระดับจิตเจตนาอีกที

เมื่อชายหรือหญิงแต่งกายsexy เป็นกามกิเลส เป็นนิวรรณ์ มีผลกรรมทำให้จิตไม่อาจเข้าถึงปฐมฌาณ ตัดขาดการเห็นสัจธรรมเพื่อหลุดพ้น ในขณะนั้น หากประคองจิตด้วยความรู้ตัวอย่างนั้น ว่า ตัวเรามีกายอันน่าใคร่ น่าแนบชิดมีพิศสวาท จิตหมกมุ่นจนมีสมาธิระดับบ้าน ร่างกายจะสร้างสารฟีโรโมน(ประมาณนั้น) พุ่งออกไป เป็นพลังจิตฝ่ายไสยะ ทำให้คนลุ่มหลงไม่รู้ตัว สำหรับกรรมแก่ตัวเองคือตัดทางเจริญในธรรม ถ้าไม่สลัดจิตแบบนั้นทิ้งในเวลาฟังธรรม หรือเวลาสัจธรรมปรากฏต่อหน้า ถ้ามีผลของเสนหาไสยะถึงคนอื่นทำให้ไปกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาทางเพศแก่ชายหรือหญิง ก็แล้วแต่กรรมใหม่กรรมเก่าผสมให้ผล (บางคนถ้าแต่งตัวดีอาจไม่ถูกข่มขืน เพราะแต่งsexy ถูกข่มขืน ถ้าคนข่มขืนเกิดจากมองเห็น สัมผัสสิ่งกระตุ้นอันไร้สภาพนั้นได้ เป็นการเปิดโอกาสให้วิบากกรรมเกิดขึ้น ให้ผลได้ สบช่องทางให้ผล) ก็จัดเป็นกิเลสเป็นมูลให้เกิด บาป จนได้ ทั้งตนและคนอื่น จัดเป็นกรรมชั่วไปจนได้

ความจริงหลากหลายมาก แต่เอาย่อๆ พอว่า เป็นกิเลส มูลเหตุให้เกิดบาปต่อไป

 

ใครบาปคนแต่งรึคนถาม เค้าแต่งยังไงก็เรื่องของเค้า เราสิบาปเ_อกไปมองแล้วปรุ่งแต่งให้เกิดกาม คนแต่งเคยถามใหมว่าฉันเซ็กซี่รึเปล่า มีแต่คนถามที่ไปเพ่งเค้าแล้วปรุ่งแต่งให้เกิดกามเอง อย่าไปว่าคนแต่ง ลองให้ยายอายุ70แต่งสิคนถามจะเ_ยนอีกไหม555555
อย่าไปโทษคนแต่งบาปไม่บาป นี่ตัวเรานี่จิตเราใจเรามันบาปที่ไปมองแล้วคิดเ_ยนเอง 5555555

 

เราคิดว่า

กรรมคือผลแห่งการกระทำ
หากการกระทำคือ แต่งตัวโป๊เพื่อโชว์สัดส่วน ยั่วยวนสายตา ดึงดูดความสนใจ
ผลของการกระทำก็คือ มีคนสนใจโดยเฉพาะเพศตรงข้ามที่หมกมุ่นในกามารมณ์อยู่ก่อน อันเป็นเหตุให้เกิด การลวนลามทางสายตา ถูกมองเป็นหญิงไม่ดีจากคนอื่น ๆ และหากเดินซอยเปลี่ยว อาจถูกทำร้าย

หรือ ใส่กางเกงขาสั้นมาก เสื้อสายเดี่ยว เดินกลางคืน ยุงกัด ขาลายแขนลายจากแผลยุงกัด ก็ต้องหายามาทารักษากันพัลวัล หรือเดินกลางแดด ก็ดำเป็นช่วง ๆ ผิวไม่สวยงามน่ามองดังเดิม ต้องเป็นทุกข์ หาครีมผิวขาวสูตรเร่งรัดมาทา เป็นผลให้ผิวขาวเร็วแต่อาจมีผลเสียตามมา นานาประการ

พอจะได้มั้ยคะ นี่คือ ผลของการกระทำ ที่เห็นกันชาตินี้เลยไม่ต้องรอชาติหน้า