กรรม คนที่ชอบแต่งตัวออกแนวเซ็กซี่ๆ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Jasmin99999, 12 พฤษภาคม 2011.

  1. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +3,331
    อยากทราบว่าคนที่ชอบแต่งตัวออกแนวเซ็กซี่ๆจะบาปไหม?

    เห็นคนสมัยนี้ชอบแต่งตัวเลียนแบบพวกดาราฯ แบบเปิดนิดปิดหน่อยไม่งั้นเดี๋ยวเชย คนพวกนี้จัดว่าจะได้รับผลกรรมเช่นไร?

    แล้วถ้าหากว่าเนื่องด้วยความจำเป็นบางอย่าง เช่น งาน หรือคู่ครองคนรัก ชอบให้แต่งอย่างน้ัน ถ้าไม่แต่งจะไม่ยอมไปไหนด้วยกัน
    แล้วเราก็กลัวว่าเขาจะไม่รัก เขาจะไปหาคนอื่นก็เลยต้องแต่ง รวมไปถึงการศัลยกรรมความงามต่างๆจะเป็นกรรมด้วยมั๊ยคะ
    ซึ่งคิดว่าสังคมมัยนี้มีเยอะ แล้วคนที่เกิดหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจะมีวิธีใดจะช่วยบรรเทาบาปกรรมนั้นได้บ้างคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2011
  2. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    ไม่บาปแต่เป็น กรรม

    กรรม คือ การกระทำ

    เมื่อคุณกระทำให้ผู้อื่นหลงคุณ

    ในอนาคตคุณก็จะถูกผู้อื่นทำให้หลง
     
  3. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    กระตุ้นอารมณ์ ความหลง ของเพศตรงข้าม... กรรมก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ รูปลักษณ์ภายนอก
     
  4. Tom & Jerry

    Tom & Jerry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +536
    เป็นตัวกระตุ้นหรือล่อให้ก่ออาชญากรรมได้
     
  5. The Jude

    The Jude เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +109
    ถือเป็นกรรมอย่างหนึ่ง

    ในด้านก่อให้เกิดกิเลสกับผู้อื่น เช่น ให้ผู้อื่นเกิดกิเลสคิดในเรื่องลามก,อยากได้เสื้อผ้าแบบที่เราใส่บ้าง และอื่น ๆ แล้วแต่ใครจะเกิดกิเลสแบบไหนในสิ่งที่เห็นจากการแต่งตัวเซ็กซี่

    หากมีเจตนาแต่งตัวเซ็กซี่เพื่อจุดประสงค์บางอย่างกรรมก็จะเพิ่มขึ้น เช่น ตั้งใจแต่งให้โป๊ ตั้งใจแต่งให้คนอื่นมอง ต้องการเรียกความสนใจ ต้องการยั่วยุให้ผู้ชายคนนั้นเกิดอยากมีอะไรกันกับเรา และอื่น ๆ กรรมที่เราจะได้รับก็จะแตกต่างกันออกไป
     
  6. พหุปราชญ์

    พหุปราชญ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2010
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +39
    ขึ้นอยู่กับกรณีครับผม ถ้าแต่งตัวโป๊ในเชิง ยั่วยุบุคคลที่สูงกว่า ก็อาจจะบาปได้นะครับ
     
  7. miu-miu

    miu-miu สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +3
    แล้วถ้าเกิดต้องใส่ทำงาน หาเลี้ยงชีพ

    เช่น พริตตี้ พิธีกร M.C. งานจำพวกการแสดงต่างๆ

    อย่างนี้บาปไหม ?
     
  8. พหุปราชญ์

    พหุปราชญ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2010
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +39
    หากมาด้วยวิธีที่ไม่บริสุทธิ์ ก็ใกล้เคียงกับนักฟ้อน นักรำ หรือ ต้องดูด้วยเจตนา แต่ก็อาจจะเสี่ยงต่อการยั่วยุราคะโดยไม่จำเป็นครับ
     
  9. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,964
    ค่าพลัง:
    +359
    อ่านเเล้วเศร้าจัง อยากร้องไห้อ่ะ :':)'(
     
  10. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    มันก็เป็นบาปแน่ล่ะครับ เพราะถ้ามันทำให้คนอื่นเกิด ราคะ โทสะ โมหะ แต่มันจะ
    บาปน้อยถ้าเราไม่มีเจตนา อย่างบี้มดตบยุงนี่บาปน้อยถ้าไม่มีเจตนา และไม่โทษ
    ตัวเอง ยิ่งเป็นดาราให้คนเห็นมากๆ อย่างนี้บาปยิ่งเยอะ มันก็ขึ้นอยู่กับยุคสมัย
    ด้วยสมัยยุคหินคนเดินเปลือยไม่มีเสื้อผ้า ก็ไม่มีใครสนใจ เจตนาก็ไม่มี อย่าง
    ศตวรรษที่ 17 ฝรั่งเขาใส่กระโปรงคลุมถึงเท้า คนแค่เห็นเท้าผู้หญิงโผล่มาบางที
    เกิดอารมณ์แล้ว ถ้าไม่อยากบาปก็อย่าทำไปโดยเจตนาเลยใครจะรู้สึกอย่างไร
    เรื่องของเขา หนักเข้านี่ลงนรกได้เลยนะ ลองหาเสียงของหลวงปู่คำคนิง เล่า
    เรื่องนรกขุมแคทวอล์กดูสิครับ กรรมของคนที่ชอบเปลือยกายในที่สาธารณะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  11. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    ผลกรรมของการแต่งตัวไม่สำรวมเข้าวัด

    .

    imagesCAMYWBBX.jpg


    ถาม – ผู้หญิงที่เข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวม อวดเนื้อหนังให้พระหวั่นไหว ต่อไปจะได้รับ
    ผลกรรมอย่างไร?

    ขอบเขตของคำถามที่ว่า ‘แต่งกายไม่สำรวม’ เข้าวัดนั้น อาจทำให้เพ่งโทษคับแคบ ต้องค่อยๆมองให้คลุมข้อเท็จจริงตามลำดับครับ

    โดยความเป็นเพศหญิง มีธรรมชาติดึงดูดใจ หรือล่อตาอยู่ในตัวเอง เดินๆไปถ้าเป็นที่สนใจได้ก็ถือว่ามีรูปสมบัติอันพึงมีสมเพศตน ถ้าวันไหนแต่งองค์ทรงเครื่องได้ถึงขนาดชายหญิงมองเหลียวหลังกันทั่วทุกหัวระแหง ก็จะยิ่งภาคภูมิเต็มอิ่ม ประมาณเดียวกับที่นักวิ่งเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกทีเดียว

    ฉะนั้นผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดีเกือบทุกคนจึงอดไม่ได้กับการอยากทดสอบเสน่ห์ของตน แล้วอะไรจะเป็นเครื่องทดสอบได้ดีไปกว่าผู้ประกาศตนว่าสละเรื่องทางเพศแล้ว ไม่สนใจเพศหญิงอีกแล้ว

    สมัยนี้พระทั่วไปไม่ใช่เครื่องทดสอบที่น่าท้าทายอะไรนัก เนื่องจากข่าวฉาวที่ประดังเข้าหูเข้าตาผ่านหน้าหนังสือพิมพ์แทบไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ผู้หญิงยุคใหม่มองพระไม่ต่างจากชายนุ่งกางเกงนอกวัดทั้งหลาย หากทำให้สนใจได้ยังไม่ถือว่าแน่อะไรนัก เท่าที่ทราบจากคำให้การของสาวๆ
    ส่วนใหญ่ จะรู้สึกสมเพชและนึกดูถูกพระที่ไม่สำรวม เพ่งเล็งตนด้วยสายตากรุ้มกริ่มตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งกว่าสมเพชและดูถูกผู้ชายทั่วไปมาก เนื่องจากใส่เครื่องแบบที่ควรจะมีสง่าราศีเยี่ยงภิกษุผู้อิ่มแล้ว แต่กลับทำตัวกระจอกไม่ต่างจากนักโทษที่หิวโซ

    แต่หากกลับเป็นตรงข้าม ถ้าเป็นพระชื่อดัง ที่มีคนร่ำลือว่าเป็นผู้สงบ เป็นผู้สำรวม การทำให้ท่านสนใจได้ นับว่าน่าภาคภูมิใจเป็นพิเศษ ระดับความอยากให้สนใจก็ต่างๆกันไปตามพื้นความคิดความอ่านของผู้หญิงแต่ละคน

    เท่าที่ได้ทราบจากปากของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตั้งใจสละโลก และเข้าประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ เธอยอมรับว่ารู้สึกผิดและละอาย คือพออยู่ๆในวัดไปแล้วอดไม่ได้ เห็นชายที่เคร่งๆแล้วอยากลองเสียหน่อยว่าเขาจะทนเสน่ห์เธอไหวไหม


    ในระดับของเธอ ก็จัดได้ว่ามีสติดีและยอมรับตามจริงมากพอที่จะเห็น แม้อาการตั้งใจเล็กๆน้อยๆของตน เช่นชม้ายตา หรือไม่มีอะไรเลยก็เดินด้วยความรู้สึกเป็นเป้าล่อความสนใจของผู้เคร่งในธรรม
    ธรรมดาผู้หญิงที่เคยถูกจับจ้องมามาก จะสำเหนียกรู้ได้ว่ากำลังมีผู้ชายสนใจตนอยู่หรือเปล่าและเป็นการแอบชำเลืองหรือเพ่งเล็งเขม็ง เป็นความสนใจด้วยความชื่นชมหรือเจืออยู่ด้วยราคะ และราคะนั้นถึงขั้นหื่นกระหายหมดรูปหรือว่าเป็นเพียงความวาบหวามแบบอ่อนๆ

    หากทำได้ครั้งหนึ่งก็นึกยินดี หรือนึกภูมิใจว่าตนแน่ ยิ่งพระที่ขึ้นชื่อว่าปลอดกิเลสเท่าไร ยิ่งอยากทำให้สนใจตนมากขึ้นเท่านั้น แต่หากปลูกฝังจิตสำนึกในทางละอายเอาไว้ก่อน ก็จะรู้สึกผิดรุนแรงที่ทำเรื่องไม่งาม ไม่สมควร หรือบางคนยั่วให้สนใจสำเร็จ เห็นพระทำตาหวานใส่ ก็พาน
    เกลียดชัง พานสาปส่ง หมดความนับถือไปเลย ไม่เหลือเกียรติให้ต้องเคารพกันอีก และไม่คิดหวนกลับไปทำบุญที่วัดนั้นตลอดชีวิต นี่นับเป็นความขัดแย้งในตัวเองที่น่าปวดหัว

    ที่กล่าวมาคือหญิงผู้มีสำนึกในธรรมแล้วนะครับ ตั้งใจจะเดินบนเส้นทางสีขาวแน่นอนแล้ว ยังเจอเรื่องมิติมืดภายในตนเล่นงานให้ย่ำแย่เข้าได้ แล้วผู้หญิงธรรมดา โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับการรับรู้ข่าวคาวๆฉาวๆของพระล่ะ?

    เท่าที่ทราบแนวโน้มของสาวรุ่นใหม่ จะไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับเครื่องแบบที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเขตวัด ถ้าเพิ่งเข้าวัดใหม่ๆหรือนานๆเข้าวัดที จะนึกไม่ถึงว่าเสื้อยืดและกางเกงรัดรูปที่‘แต่งกันเป็นปกติ’ นั้น อาจมีความยั่วตายวนใจ และรบกวนตบะของพระสงฆ์ได้ง่ายๆ

    แต่จะมีสาวอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จงใจแต่งตัวหวือหวาขัดกับสถานที่ ให้เป็นที่สนใจของคนอื่น ไม่ว่าจะพระเณรหรือฆราวาสด้วยกัน เข้าหลักถ้าอยากเด่นต้องทำตัวให้ไม่มีใครเหมือน เขาหลิ่วตาเราอย่าหลิ่วตาม เขาแต่งขาวเราต้องแต่งดำ ผู้หญิงอื่นปกปิดเราต้องเปิดโปง

    เอาเฉพาะเจตนาอันหนักแน่นข้อนี้นะครับ ถ้าแต่งตัวโป๊เพื่อล่อตาล่อใจเพศตรงข้ามในวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งทำด้วยความภาคภูมิใจและไม่สำนึกผิดภายหลัง หญิงนั้นได้ชื่อว่าเพาะเชื้อแห่งความเป็นธิดาพญามารไว้ในตนแล้ว

    การทำบุญสร้างความเป็นธิดาพญามารมีหลายระดับ ถ้าแจกแจงละเอียดยิบคงเป็นปึก ในที่นี้ขอแยกเป็นคร่าวๆให้เห็นภาพง่ายสุดคือ

    ๑) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ก็ทำด้วยน้ำจิตเลื่อมใส ของที่นำมาถวายเป็นการจัดหาของตน หรือตั้งใจร่วมสวดหรือฟังเทศนาธรรมด้วยอาการสำรวม ก็เป็นบุญที่มีกำลังมาก หากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังอ่อน แค่ในระดับล่อตาล่อใจ ไม่ถึงขั้นรู้สึกว่าถ้าสึกพระได้ถือว่าเจ๋ง อย่างนี้มีวิบากเป็นกระแสดึงดูดใจ แต่เจือด้วยปัญหาร้อนใจในการคบเพื่อนต่างเพศ เพราะใครๆก็จ้องตาเป็นมัน และมักเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ทางเพศเป็นหลัก แต่กว่าจะกอบโกยประโยชน์จากเนื้อหนังไปได้เต็มอิ่ม กว่าจะรู้สึกจืดชืด ก็เนิ่นนานแรมปี

    เมื่อตายไป กำลังของบุญอาจเป็นแรงฉุดขึ้นสวรรค์ ถ้าจิตไม่ผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในหมู่เทวดาที่เสวยบุญ รื่นเริงเช้าค่ำตามปกติ แต่หากจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะไปอยู่ในหมู่เทวดาฝ่ายมาร มีใจขวางผู้ปรารถนาความหลุดพ้น เห็นใครประพฤติพรหมจรรย์เก่งๆก็อาจทุรนทุรายอยากลองของ เช่นลองมาเข้าฝันแสดงภาพงามวิจิตรล่อใจเสียหน่อย ดูซิว่าจะเผลอหลุดฟอร์มไหม พร่ำละเมอเพ้อพกถึงนางในฝันได้ไหม

    ๒) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ใจก็ยังวอกแวก คอยสังเกตว่ามีใครมองตนไหม เมื่อร่วมสวดมนต์กับคนอื่นก็ไม่ตั้งใจ เมื่อฟังเทศนาธรรมก็ฟุ้งซ่านเรื่องแฟน อย่างนี้เป็นบุญที่มีกำลังอ่อน และเจืออยู่ด้วยราคะ หากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังกล้าแข็ง ถึงขั้นเห็นว่าถ้าสึกพระได้นับเป็นยอดหญิง อย่าง
    นี้มีวิบากเป็นกระแสน่ารังเกียจ ไม่น่าเข้าใกล้ ไม่น่าจับต้อง ตัวไม่เหม็นแต่ก็เหมือนเหม็นอย่างไรบอกไม่ถูก ผู้ชายเข้ามาด้วยความหน้ามืดสถานเดียว และมักเป็นประเภทที่เสพสมครั้งเดียวแล้วเบื่อทันที อยากทิ้งขว้างเหมือนกระดาษชำระที่ใช้แล้วทันที แทบไม่มีแก่ใจอยากแตะต้องต่อ เว้นแต่รอให้หน้ามืดอีกทีคราวหลัง

    เมื่อตายไป กำลังของบาปมักรั้งลงต่ำถึงอบายภูมิ อาจไปเป็นเปรตจำพวกอสูร ยิ่งถ้าจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในเขตอสุรกายใจทราม ชอบเข้าฝันพระหรือชายดีๆ แสดงเป็นแต่ภาพลามกจกเปรต ล่อให้คิดถึงกามารมณ์ และมักเป็นกามารมณ์ที่ผิด หรือสถานเบาถ้ามีวาสนาได้กลับมาเป็นมนุษย์ ก็อาจมีความต้องการทางเพศสูง อย่างที่เรียกกัน (แบบผิดความหมาย
    เดิม) ว่าเป็นฮิสทีเรีย อยากมีอะไรกับผู้ชายไม่เลือกหน้า เป็นต้น

    สิ่งที่ค่อนข้างแน่นอนคือถ้าผู้หญิงเข้าวัดโดยมีใจเจืออยู่ด้วยเรื่องทางเพศ หรือเรื่องเกี่ยวกับการดึงดูดใจชาย เกิดใหม่มักจะเป็นหญิงอีก และห่วงเรื่องความดึงดูดใจของตนเป็นที่หนึ่ง จะกระวนกระวายมากถ้ารู้สึกว่าตนเองขาดความดึงดูดใจ ไม่น่าชม ได้เงินเดือนมามักถมลงไปกับเรื่องความ
    สวยความงามเป็นหลัก

    ทางที่ดีที่สุด ถ้าเริ่มเข้าวัดด้วยใจที่สะอาด ไม่มีเจตนาให้พระมาเพ่งพิศตน จะปลอดภัยที่สุดครับ การแต่งกายปกปิดมิดชิดก็เป็นการสะท้อนถึงเจตนาอันดี ผมทราบว่าสุภาพสตรีหลายท่านมี‘ชุดปกติ’ รัดรูป ตอนเข้าวัดยากจะหา ‘ชุดปกปิด’ ได้เจอ อันนี้ขอแนะนำว่าหากทราบแน่ว่าต้องตามที่บ้านไปเข้าวัดประจำ ก็ควรหาซื้อ ‘ชุดพิเศษ’ มาเพื่อแสดงเจตนารมณ์อันดีในการเข้าวัดโดยเฉพาะครับ



    http://dungtrin.com/prepare/
    <!-- google_ad_section_end -->__________________
     
  12. หลงบุญ

    หลงบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +101
    อนุโทนา ค่ะ กับคำถาม และคำตอบที่ดี. เพื่อเป็นสิ่งเตือนสติ ของผู้หญิงทุกเพศ ทุกวัย.
     
  13. thexjeab

    thexjeab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +685
    ขอคุณสำหรับความรู้ครับ
     
  14. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    บาป ไม่บาปไม่รู้ แต่คาดว่า ยังจะต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก เป็นแน่
    ยังเป็นตัวกูของกู อยู่มาก.....
     
  15. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,238
    ถ้าเป็นคนรักสวยรักงามล่ะไม่แต่งถึงกับเช็กชี่ เเล้วบาปไหมค่ะ
     
  16. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
  17. กรวุฒิ

    กรวุฒิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +17
    เอาแค่พอดี พอดี ตามกาละเทศะ นั่นแหละดีที่สุดครับ
     
  18. pr!mpr!e

    pr!mpr!e เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +145
  19. เขตปกครอง230

    เขตปกครอง230 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +324
    เค้าไม่รู้หรอกว่าบาปหรือปล่าว แต่รู้ว่ามันไม่สมควร ก็เท่านั้น
     
  20. XP

    XP Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +54
    ลำพังการแต่งตัวเฉยๆคงไม่น่าบาป ถ้าไม่ได้มีเจตนาเพื่อกระตุ้นราคะ แต่ถ้าเจตนาแต่งแล้วทำให้เกิดผลอะไรตามมาต่างหากที่ผมว่าน่าคิด ถ้าผลที่ตามมาคือทำให้คนที่เห็นเกิดราคะ หรือ ความกำหนัดในกามเพิ่มขึ้นหรือหมกหมุ่นลุ่มหลงในกามหรือ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าผู้ที่เกิดกำหนัดขึ้นแล้วควบคุมตนเองไม่ได้ไปก่อกรรมเบียดเบียนขึ้นอีก เช่น ข่มขืน อย่างนี้ผมว่าเป็นกรรมทางอ้อมนะครับ

    ที่สำคัญผมเคยได้ยินมาว่า การให้ทานที่ทำให้คนเกิดหมกหมุ่นในกิเลสไม่ได้บุญแต่กลับเป็นบาป ดั่งเช่นหลายๆคนที่ชอบพูดว่า การช่วยคลายกำหนัดทางเพศให้เพศตรงข้ามถือว่าทำบุญ หรือ การโชว์ในเรื่องเพศแล้วพูดกันว่าถือว่าทำบุญ เป็นต้น อย่างนี้ไม่ได้บุญอย่างที่ชอบพูดกันนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...