ขันธ์ห้าที่ทุกคนมี ล้วนแสดงไตรลักษณ์ให้ปัญญาได้เห็นอยู่ประจำทุกวัน ซึ่งเมื่อใจไม่ละเลยในการพินิจพิเคราะห์ ย่อมแจ้งจริงในไตรลักษณ์..และ.สุขแท้...
สาธุธรรมครับ //พระโพธิสัตว์อย่างพระศรีอาริเมตไตร ท่านคงไปนรกเพื่อโปรดสัตว์นรกเสริมสร้างบารมีเพิ่ม (เรื่องราวต่างๆที่ได้ยินได้ฟัง แม้จากพระโอษ...
//จิตใจหากไม่ผ่านการฝึกให้เสถียรคือการปล่อยวางขันธ์5ได้จริงอย่างถาวรแล้ว ย่อมต้องปรุงแต่งต่อไปเรื่อยไม่ว่าอยู่ในภพภูมิสูงส่งเพียงใดก็ตาม...
เมื่อถึงความบริสุทฺธิ์หลุดพ้นโดยแท้จริง ย่อมไม่ตัวตนให้ต้องสงสัยว่า เราคือใคร// สาธุธรรมทุกท่านคับ
หมั่นฝึกใจภาวนาให้มีสติอยู่เสมอ เมื่อใจมีสติ จิตจะเปลี่ยนจากผู้คิด เป็นเพียงผู้รู้ กล่าวคือไม่เข้าไปปรุงแต่งร่วมกับอารมณ์นึกคิดทั้งหลาย...
มีสติรู้แจ้งตามไตรลักษณ์ ในขันธ์5 เพื่อถอนการยึดติดในสภาวะต่างๆในรูปนาม
มีสติรู้ปัจจุบัน ณ ธรรมที่กำลังปรากฏ เรียนรู้ขันธ์ 5 ให้กระจ่าง...แจ้งในไตรลักษณ์ แล้วปัญญาเห็นแจ้งในมรรคจะปรากฏตามลำดับ..
ด่านแต่ละด่านก่อนถึงนิพพานนั้น ยากง่ายต่างกัน บางคนฝึกชาติเดียวก็ผ่านได้สบาย แต่บางคนก็มากมายหลายชาติกว่าจะผ่านได้...
สุขอื่นเสมอเหมือน นิพพาน ไม่มี ... ^__^
^___^
[MEDIA]
เฟสผมตามนี้ครับ https://www.facebook.com/DR.INTORN
^__^ อยากรู้อะไรเพิ่มเติม แอดเพื่อนมาคุยได้ครับ คืนนี้ขอตัวพักกายใจก่อนครับ ขอบคุณที่ร่วมสนทนาครับ ...
ถ้ารู้ได้แม้กระทั่งความคิดคน นั่นแหละคับ ของจริง ^__^
แล้วตัดกิเสลตัว วิจิกิจฉา ได้หมดยังคับ คุณ dragon129
แล้วฝึกถึงขั้นไหนแล้วล่ะคับ คุณ dragon129 หรือว่าเน้นสายตรงดับทุกข์เลย..
ครับ ญาน พื้นฐาน อย่าง รูปญาน 1-4 หากฝึกจนชำนาญแล้ว ก็รู้เห็นและทำอะไรที่พิเศษได้ตั้งมาก ยิ่งเข้าถึงนามธรรมอันลึกซึ้งไปอีก เป็น อรุปญานด้วยแล้ว...
คนที่ได้ ฌาน ในปัจจุบัน มีเป็นส่วนน้อยครับ ส่วนมากเป็นพวกเคยเป็นฤาษีชีไพร ในอดีตชาติครับ
ก่อนจะเป็นผู้วิเศษหยั่งรู้ต่างๆนานา ได้ต้องมีพื้นฐานคือ ฌาน ครับ ...
เข้าใจในธรรมชาติของเบญขันธ์ได้ลึกซึ้งเพียงใด ความปล่อยวางก็เกิดได้มากเพียงนั้น
คนธรรมดาที่ยังวิวัฒนามาเป็นมนุษย์ใหม่ๆได้ไม่กี่ชาติ ย่อมหลงใหลเพลินเพลินในความสุขเฉพาะหน้าที่เขาได้รับเป็นธรรมดาครับ ผิดกับพวก...
พระพุทธองค์ท่านเคยตรัสว่า **จงอย่าปักใจเชื่อสิ่งใดๆแม้เห็นด้วยตาตนเอง และได้ยินคนอื่นเล่าต่อๆกันมา**...
//...สติรู้เห็นสภาวะปัจจุบันที่กำลังปรากฏ ปัญญารู้แจ้งแทงตลอดถึงความไม่เที่ยงผันแปรไปเรื่อย ไร้ตัวตนอันแท้จริงอันเป็นสาระแก่นสาร มีเกิดขึ้น...
ใจที่ปล่อยวางตัวตนแห่งความสำคัญมั่นหมาย ว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นเรา-เป็นเขา เป็นของเรา-เป็นของเขา- เป็นบุคคล-เป็นตัวตนได้ ย่อมเบาสบายไร้กังวล...
++เห็นแจ้ง เบื่อหน่าย คลายออก แล้วจะปล่อยวางได้ในที่สุด โมทนาสาธุ ^__^ //
กิเลสกาม นั้นมีหลายอย่างน่ะคับ อยากได้ อยากเป็น และความไม่อยากเป็น เรื่องของกามตัณหา ของความอยากได้ใคร่สุขในอารมณ์สัมผัสทางรูปรสภายนอกนั้น...
^__^ ปล่อยวางตัวผู้รู้ลงได้ สุขอิสระแท้จริงก็อยู่ตรงหน้า ^__^
...//นิพพานอยู่เหนือการปรุงแต่งแห่งนามรูปทั้งหลาย // การเข้าไปปรุงแต่งร่วมกับนามรูปที่ตาดูหูฟังเวลาเล่นNET ประเด็นนี้สำคัญครับ คุณนายโฮ .......
โลกแห่งการปรุงแต่งแห่งรูปนามนี้ สิ่งทั้งหลายล้วนอยู่ภายใต้กฏแห่งไตรลักษณ์ทั้งสิ้น ..
เสวนาได้เพื่อช่วยยกระดับสติปัญญา ให้แสงธรรมส่องทาง มุ่งช่วยเหลือเป็นเจตนาหลัก .... ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ไม่แบ่งแยกดีชั่ว ช่วยเหลือด้วยเมตตา...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา