โมทนากับคุณโมกขทรัพย์ที่ได้ทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาอย่างมากเช่นกันนะครับ เรื่องนรก-สวรรค์นี่ถ้าไปคุยไม่ถูกบุคคลแล้วก็อันตรายครับ...
ขอบคุณมากครับกับคำอวยพร และขอโมทนากับความตั้งใจที่จะปฎิบัติธรรมด้วยนะครับ การปฎิบัติธรรมนี้ไม่ใช่ของยาก...
ผมขอโมทนาด้วยอย่างยิ่งกับคุณน้อง ปิยคุณ ที่ได้กรุณาเล่าประสบการณ์นี้ให้ทุกๆท่านได้มีกำลังใจ และความมั่นใจ...
กลับเข้ามาทักทายคุณ Way Back Home , คุณ อำไพพันธุ์ , คุณ wild win , คุณ THE SEVEN , คุณ spthong2000 , คุณ ปิยะคุณ , คุณ ชัยมงคล , คุณ odanhi , คุณ...
ผมขออนุโมทนากับคุณปิยคุณ ด้วยเช่นกันนะครับ ที่สามารถปฎิบัติกลับมากได้อีกครั้ง หากสะดวกใจที่จะเล่าก็คงจะได้ประโยชน์และเป็นกำลังใจ...
ไหนๆก็เล่าเรื่องภัยทางน้ำแล้ว เดี๋ยวผมจะขอเข้ามาเล่าถึงการทูลถามพระพุทธองค์เกี่ยวกับภัยในปี ๒๕๕๕ ต่อเลยนะครับ...
สงสัยจะเป็นไปได้นะครับ คุณอำไพพันธุ์ ผมสมาทานพระกรรมฐานแบบนี้จริงๆด้วยครับ แสดงว่าได้ผลนะครับ แต่ถ้าพูดถึงในแง่ของนักปฎิบัติแล้ว...
เรื่องที่ ๑๔ และ ๑๕ ก็ผ่านไปแล้วนะครับ จริงๆแล้วตอนน้ำเริ่มท่วมเข้ามาบนพื้นบ้าน ในจิตแว็บแรกผมเห็นภาพระดับน้ำจะสูงถึงประมาณชั้นพักของบันได...
เรืองที่ ๑๕... ประตูบ้านติดล๊อค แต่หนีน้ำออกมาได้ ด้วยพระพุทธานุภาพ (เรื่องนี้เป็นเรื่องกุศลกรรมสลับกับอกุศลกรรมครับ ซึ่งน่าสนใจครับ)...
เรื่องที่ ๑๔... นางฟ้ามาส่งข่าวเรื่องน้ำจะท่วม แต่วิบากกรรมทำให้เข้าใจผิด (พิมพ์ค้างไว้ตั้งแต่บ่าย ผมขออนุญาตเล่าต่อไปเลยนะครับ)...
ผมขอโมทนาด้วยนะครับ อย่างนี้ที่เรียกว่า "เกิดธรรมผุด" ใช่มั้ยครับ อืมส์...ผมว่าจริงด้วยการข่มอารมณ์ไว้ พอถึงจุดระเบิดก็พังเลย...
ตัวผมเองยังไม่ดีอย่างที่กล่าวนะครับ เพียงแค่มีโอกาสในช่วงกุศลหนุนให้ก็เลยถือว่าพอจะมีโชคอยู่บ้างก็ด้วยความเมตตากรุณาจากครูบาอาจารย์ท่านต่างหากครับ...
คุณ Mareo ได้ความสงบหน่ะดีมากแล้วนะครับ ผมว่าการปฎิบัติธรรมเหมือนเราเดินขึ้นบันได หรือเหมือนการปลูกต้นไม้ คือค่อยๆทำเหตุให้ดีไปเรื่อยๆ ไม่รีบครับ...
โมทนาครับคุณ โมกขทรัพย์ เรื่องความสงสัยของผมมันมาก เป็นอุปนิสัยหรือที่เรียกง่ายๆว่า เป็นสันดานเดิมมาหลายชาติแล้วกระมังครับ...
เรื่องมโนมยิทธิ ก็ผ่านไปแล้ว แต่จริงๆยังไม่จบนะครับ มีหลายตอนที่ผมตัดออกไปที่เป็นปาฎิหารย์ในช่วงๆนั้น ส่วนผมเล่าว่า หลังจากมโนมยิทธิเสื่อม...
ผมก็โมทนาสาธุกับคุณ nichaojung และทุกๆท่านที่ได้อ่านเช่นกันนะครับ ผมหวังจะให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ที่ได้อ่านครับ...
สาธุครับ คุณอำไพพันธุ์ ผมเขียนเรื่องนี้เพื่อเป็นตัวอย่างในหลายๆแง่มุม โดยเฉพาะเรื่องความสงสัย ซึ่งผมเองยอมรับว่าตัวเองโง่มาก...
ความสงสัยนี่ห้ามยากนะครับ แต่ถ้าเป็นคนขี้สงสัย ครูบาอาจารย์ท่านให้ปฎิบัติธรรมด้วยอานาปานุสสติ เพื่อระงับความฟุ้งของจิตก่อน...
คุณป้าเล็ก ก็เคยพบเช่นกันนะครับ แสดงว่าท่านเหล่านั้นคงจะเห็นกระแสบุญ หรือเห็นว่าคุณป้าเล็กจะช่วยท่านนั้นได้ ผมขอโมทนาบุญกับคุณป้าเล็กด้วยเช่นกันนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ คุณnuttadet ผมเข้ามาแก้แล้วครับ
สรุปเรื่องมโนมยิทธิ สรุปว่า ท่านใดที่สามารถฝึกมโนมยิทธิได้แล้ว ต้องไม่สงสัยหากทำต่อๆไปเรื่อยๆก็จะดียิ่งขึ้นและเกิดอัศจรรย์ดังที่ผมเล่ามานะครับ...
ใช้เวลา ๑๙ ปีจึงทำมโนมยิทธิกลับคืนมาได้ ตลอดเวลาที่ผ่านไปเดือนเศษๆนั้น ผมระลึกถึงสัญญาที่ให้ไว้กับเบื้องบนได้ว่า "จะขอกลับมาบำเพ็ญต่อ"...
หมดวาสนาทำมโนมยิทธิเสื่อม ด้วยความโง่และอกุศลกรรมของผมผนวกกัน บวกกับพื้นฐานที่เป็นคนขี้สงสัยมากอยู่แล้ว เมื่อฟังผู้ใหญ่ท่านนี้พูดหนักๆเข้า...
ผู้ใหญ่หาว่าผมบ้า และถูกสะกดจิต เรื่องนี้มีที่มาคือ ปรกติผมเป็นคนขี้สงสัยมาก โดยเฉพาะกับอาการต่างๆหลังจากฝึกมโนมยิทธิแล้วดังที่ผมกล่าวไปข้างต้น...
จิตละเอียด คล้ายๆจะนับเม็ดฝนได้ อาการนี้เกิดขึ้นตอนฝนตก ผมเห็นฝนที่ตกเป็นสายลงมา พอกำหนดจิตเข้าไปเรื่อยๆ ผมเห็นอาการของฝนนั้นไม่ได้ตกพร้อมๆกัน...
เห็นชีวิตแต่ละชีวิตถูกขับเคลื่อนไปตามกระแส ผมชักมีอาการแปลกๆคือเห็นคนแต่ละคนถูกขับเคลื่อนไปข้างหน้าตลอดเวลา ไม่มีใครหยุดนิ่งอยู่กับที่เลย...
มโนมยิทธิกลายเป็นสติปัฎฐานอย่างละเอียด คงจะเป็นความโง่ของผมเองก็ได้ ที่เมื่อตอนที่ท่านหลวงตาบอกให้ผม "ตั้งภาพพระ" ผมก็ตั้งจริงๆ...
เห็นอาการเกิด-ดับของเสียงดนตรี บ้านผมอยู่ใกล้ๆกับดิสโก้เทคชื่อดังแห่งหนึ่ง และแห่งเดียวของพัทยาในสมัยนั้น พอเวลาประมาณ ๓...
รู้ความฝันของแม่บ้าน ผมถือศีลแปดและก็รักษาใจแบบอยู่ที่วัด รู้สึกว่าอาการเห็นทางจิตเริ่มชัดเจนขึ้นมาก...
ปลีกตัวไปฝึกบนห้องใต้แทงค์น้ำที่ลือว่าผีดุ ผมกลับมาบ้านก็ขอปลีกตัวไปอยู่ห้องใต้แทงค์น้ำ ซึ่งห้องนี้แม่บ้านและคนงานหลายคนต่างก็บ่นๆกันว่า...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา