ติดตามสถานะการณ์

ชาวเมือง “นาบัล” และ “อัซซะห์รอ” ในซีเรียต้อนรับกองกำลังทหารที่สามารถปลดปล่อยเมืองจากไอซิสสำเร็จ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 6, 2016



farsnews – “นาบัล” และ “อัซซะห์รอ” เมืองทางภาคเหนือของซีเรียซึ่งถูกปิดล้อมโดยกลุ่มก่อการร้ายไอซิสเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดกองกำลังทหารซีเรียสามารถเข้าไปยึดพื้นที่ดังกล่าวได้สำเร็จโดยมีประชาชนออกมาแห่ขบวนต้อนรับการกลับมาของทหารดังกล่าว

<iframe width="696" height="418" src="https://www.youtube.com/embed/BXBEguvx1Rk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

หลังจากที่กองกำลังซีเรียสามารถเข้ายึดคืนพื้นที่ “นาบัล” และ “อัซซะห์รอ” ทางภาคเหนือของซีเรียจากการยึดครองของไอซิสสำเร็จ เหล่าทหารดังกล่าวก็เดินทางกลับสู่เมือง โดยมีประชาชนต่างออกมาแห่ขบวนต้อนรับอย่างล้นหลาม
หลังจาก 15 ชั่วโมงที่กองกำลังทหารซีเรีย กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน กองกำลังฮิซบุลลอฮ์เลบานอน และอิรัก สามารถยึดเมืองคืนจากไอซิสสำเร็จก็เข้าไปตั้งหลักในเมืองดังกล่าว


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ชาวเมือง “นาบัล” และ “อัซซะห์รอ” ในซีเรียต้อนรับกองกำลังทหารที่สามารถปลดปล่อยเมืองจากไ

 

รัสเซียชี้นาโต คือ ตัวสร้างความวุ่นวายในซีเรียและตะวันออกกลาง. โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 9, 2016



รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกนาโตได้ออกมาวิจารณ์ว่า นาโต คือ ผู้สร้างความวุ่นวายในซีเรียและทั่วตะวันออกกลาง โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาวิจารณ์คำพูดล่าสุดของเลขาธิการนาโตที่ได้ออกมากล่าวว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียเป็นการบ่อนทำลายความพยายามที่จะหาทางออกทางการเมือง ว่าเป็นคำพูดของคนโง่เขลา

เลขาธิการนาโต ได้ออกมากล่าวกับกระทรวงกลาโหมของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปว่า เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในปัจจุบันมีเป้าหมายมุ่งไปยังเฉพาะกลุ่มต่อต้าน ซึ่งเป็นการขัดขวางความพยายามหาทางออกในการแก้ปัญหาทางการเมือง

โดยที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาตอบโต้กลับโดยกล่าวว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความวุ่นวายและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในซีเรียและทุกๆพื้นที่ในตะวันออกกลางนั้นส่วนหนึ่งมาจากนาโต

ซึ่งการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีผลดีต่อประเทศซีเรียเป็นอย่างมาก และยังชี้ให้เห็นว่าพวกเขาสามารถต่อกรและทำลายกลุ่มขบวนการก่อการร้ายสากลได้

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังย้ำอีกว่า สามเดือนก่อนการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรียจะเกิดขึ้นกลุ่มประเทศสมาชิกนาโตได้หลอกลวงชาวโลกว่าพวกเขาคือผู้ต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายสากล ซึ่งเหล่าชาติตะวันตกในขณะนั้นไม่เคยมีผู้ใดออกมาพูดถึงเรื่องการเจรจาเพื่อแก้ไขวิกฤตในซีเรียแม้แต่คนเดียว อีกทั้งยังหาหนทางซ้ำรอยสถานการณ์ลิเบียในซีเรีย

PressTV-روسیه: ناتو عامل هرج و مرج در سوریه است

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

http://www.abnewstoday.com/6785

 

ทหารตุรกีโจมตีชุมชนชาวเคิร์ดล้มตายกว่า 60 คน
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 9, 2016



มีรายงานว่า เกิดการโจมตีขึ้นระหว่างทหารตุรกีกับกลุ่มพรรคแรงงานชาวเคิร์ด (PKK) ในตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีเสียชีวิตกว่า 60 คน

ตามรายงานของ TRT ตุรกี กองกำลังรักษาความปลอดภัยของตุรกีได้บุกโจมตียังพื้นที่อาศัยของชาวเคิร์ดและได้บุกเข้าไปในชั้นใต้ดินของตึกต่างๆโดยอ้างว่า มีสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายกบดานอยู่ในชั้นใต้ดินของตึกเหล่านี้ กล่าวกันว่าห่อหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างหน่วยรักษาความปลอดภัยกับชาวบ้านในตึกเหล่านั้น

เหล่าดลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวตุรกีรวมทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยได้ออกมาวิจารณ์และโจมตี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และยังได้กล่าวอีกว่า เป็นสูงสุดโศกนาฏกกรมของมนุษยชาติ

ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารตุรกีกับกองกำลัง PKK ทำให้พลเรือนเสียชีวิตกว่า 60 คน กลุ่มนักเคลื่อนไหวได้ออกมาเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือประชาชนและออกมาประณามว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการลงโทษแบบเหมารวมพลเรือนผู้บริสุทธิ์ไปด้วย

ในขณะที่รัญมนตรีต่างประเทศของตุรกีได้ออกมาประณามกองกำลัง PKK ว่าใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์

หลายเดือนก่อนกองกำลังทหารตุรกีได้ออกมาประกาศว่าจะมีปฏิบัติการปราบปรามอย่างกว้างขวางในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศโดยมีจุดมุ่งหมายคือการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย PKK

ในขณะที่ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการต่อสู้จนปัจจุบันมีพลเรือนอย่างน้อยถึง 162 คนที่ถูกสังหารลง ซึ่งเป็นเด็ก 32 คนและสตรีอีก 29 คน

ในเวลาเดียวกันสำนักงานรักษาความปลอดภัยในตุรกีได้ออกมาประกาศว่า ตั้งแต่เริ่มมีการปฏิบัติการมีพลเรือนกว่าแสนคนที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นได้ที่อยู่อาศัย

เช่นเดียวกันกองกำลังทหารตุรกีได้กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาจนปัจจุบันมีสมาชิกขบวนการ PKK ราว 700 คนที่ถูกสังหารลงโดยกองกำลังทหารตุรกี

พรรคแรงงานเคอร์ดิสถานจากปี 1980 ได้ทำการต่อสู้กับรัฐบาลกลางเพื่อต้องการเอกราชในภูมิภาคเคิร์ดของตุรกี ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนปัจจุบันสังหารชีวิตผู้คนไปนับแสนคน

PressTV-در حملات ارتش ترکیه 60 نفر کشته شدند

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

http://www.abnewstoday.com/6789

 

ปอกเปลือก ทรราช

โอ๊ะโอวววว! รมว.ต่างประเทศของบาห์เรนออกมาปฏิเสธข่าวบาห์เรนจะส่งทหารเข้าไปในซีเรีย ปัดธ่อ... แค่ได้ข่าวว่ารัสเซียส่ง T-90A และ Su-35s เสริมกำลังเข้าไปในซีเรียก็ถอยซะแล้วรึ?



-------------

วันที่ 8 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ก.ต่างประเทศของบาห์เรนปฏิเสธแถลงการณ์ของเอกอัคราชทูตเกี่ยวกับการส่งกองทัพเข้าไปในซีเรีย" (Bahrain's FM Refutes Ambassador's Statement on Sending Troops to Syria)

Halid Ahmad Al Khalifa รมว.ต่างประเทศของบาห์เรนได้ออกมาปฏิเสธทางสถานีโทรทัศน์ของ RT ภาคภาษาอาระบิกเมื่อวันจันทร์นี้เกี่ยวกับแถลงการณ์ของเอกอัครราชทูตของบาห์เรนประจำกรุงลอนดอนที่ว่า กรุงมานามา (Manama) มีแผนจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย

รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์สได้รายงานว่า Sheikh Fawaz Al Khalif เอกอัครราชทูตของบาห์เรนประจำสหราชอาณาจักรกล่าวว่า กรุงมานามาจะส่งกองทัพเข้าไปในซีเรียตามข้อตกลงกับซาอุดิอาระเบีย

"ไม่ครับ มันไม่ใช่อย่างนั้น (No, it’s not like that.)" นาย Khalifa รมว.ต่างประเทศกล่าว [แล้วมันยังไงหละครับท่านรัฐมนตรี? นักข่าวไม่ได้ถาม แต่แอ็ดมิน "ปอกเปลือก ทราราช" ถาม - ผู้แปล]

นาย Khalifa กล่าวต่ออีกว่า "สิ่งที่แนบมากับสิ่งที่เอกอัครราชทูตของเราในกรุงลอนดอนกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง (incorrect) เอกอัครราชทูตของพวกเรา ไม่ได้พูดอะไรในส่วนที่เกี่ยวกับบาห์เรนที่จะส่งหรือเตรียมการเพื่อส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย หรือในที่ไหนๆในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายเลย"

[ขี้แมวนี่! วันที่ 6 ก.พ.59 รอยเตอร์สพาดหัวข่าวว่า "บาห์เรนบอกว่าพร้อมจะส่งกองกำลังภาพพื้นดินเข้าไปในซีเรีย" (Bahrain says ready to commit ground forces to Syria) และรอยเตอร์สก็รายงานต่ออีกว่า Sheikh Fawaz bin Mohammed al-Khalifa เอกอัครราชทูตของบาห์เรนประจำอังกฤษกล่าวในแถลงการณ์ว่า "บาห์เรนจะดำเนินการทางกองทัพเพื่อปฏิบัติการในมโหรี (/ร่วมมือ) กับซาอุดิ (in concert with the Saudis)" ภายใต้สิ่งที่ทูตบาห์เรนเรียกว่ากองกำลังพันธมิตรนานาชาติต่อต้านขบวนการก่อการร้าย

(Bahraini ambassador to Britain Sheikh Fawaz bin Mohammed al-Khalifa said in a statement that Bahrain would commit troops to operate "in concert with the Saudis" under what he called the international coalition against terrorism.)

และเอกอัครราชทูตของบาห์เรนประจำอังกฤษยังกล่าวอีกว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อนสมาชิกของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ได้พร้อมที่จะมีปฏิบัติการทางทหารด้วย ซึ่งเป็นการย้ำถึงการยืนยันจาก Anwar Gargash รมว.ต่างประเทศของยูเออีเมื่อปลายปีที่ผ่านมาด้วย รอยเตอร์สรายงาน

มวยล้มครับท่าน นักชกยังไม่ขึ้นเวทีเลยทางบาห์เรนโยนผ้าขาวขึ้นกลางเวทีแทนนักมวยซะแล้ว งานนี้ท่านคาร์เตอร์ เจ้ากระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯที่กำลังดีอกดีใจว่าจะมีอาสาสมัครเดนตายบินเข้าไปในกองไฟสงครามในซีเรียแทนทหารอเมริกันก็คงจะเปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทันสินี่ มันน่าผิดหวังใช่ไหมครับท่านคาร์เตอร์? - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
08/02/2559
----------
Bahrain's FM Refutes Ambassador's Statement on Sending Troops to Syria
Bahrain Ready to Join US Ground Operations in Syria
Bahrain says ready to commit ground forces to Syria | Reuters

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/iagPLeWmBdo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/P9kseEbknsY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
เฉลยปริศนา: เบื้องหลังรมว.ต่างประเทศของบาห์เรนออกมาปฏิเสธว่าจะไม่ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย King Hamad bin Isa Al Khalifa ของบาห์เรนเดินทางมาพบกับ นาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียที่เมือง Sochi คาดว่ามีการหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานแก๊สธรรมชาติ (LNG) และการสร้างแนวท่อแก๊สในบาห์เรนด้วย รวมทั้งการส่งมอบอากาศยานและเฮลิค็อปเตอร์ของรัสเซียไปให้บาห์เรนด้วย และ คิงบาห์เรนได้พบกับปูตินด้วย นั่นน่าจะเป็นสาเหตุที่ก.ต่างประเทศของบาห์เรนออกมาบอกว่าจะไม่ส่งกองกำลังเข้าไปในซีเรีย ค้าขายร่วมย่อมกันดีกว่าสร้างสงครามอยู่แล้ว
------------
https://www.youtube.com/watch?v=iagPLeWmBdo
https://www.youtube.com/watch?v=P9kseEbknsY

 

ปอกเปลือก ทรราช

แคนาดาประกาศจะถอนตัวออกจากการโจมตีไอซิสของพันธมิตนำโดยสหรัฐฯภายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้



-------------

วันที่ 8 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "แคนาดาจะถอนตัวออกจากการโจมตีทางอากาศต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิสในวันที่ 22 ก.พ.นี้ แต่จะเสริมหน่วยรบพิเศษภาคพื้นดิน 3 เท่าเข้าไปแทน" (Canada to quit coalition’s anti-ISIS airstrikes by Feb 22, triple special forces on the ground)

กรุงอ็อตาวา (Ottawa) จะไม่เข้าร่วมในการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯในการต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียและอิรัคนับจากวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีของแคนาดาประกาศเมื่อวันจันทร์นี้

รายงานข่าวบอกว่า แม้ว่าแคนาดาจะยุติภารกิจการทิ้งระเบิด (ทางอากาศ) และถอนฝูงบินรบ CF-18 จำนวน 6 ลำออกจากพื้นที่ก็ตาม แคนาดาก็จะยังคงเครื่องบินสอดแนมจำนวนสองลำ และเครื่องบินเติมเชื่อเพลิงของตนเอาไว้ในภูมิภาคนั้น

ในทางกลับกัน หลังจากคิดทบทวนการมีส่วนร่วมทางทหารในปฏิบัติการต่อต้านผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลางแล้ว แคนาดาได้ประกาศว่า จะเพิ่มจำนวนหน่วยรบพิเศษ (special forces) ของตนเองเข้าไปประจำการในภาคเหนือของอิรัค เพื่อฝึกทหารให้กับกองกำลังภาคพื้นดินท้องถิ่นจากปัจจุบันนี้ที่มีอยู่เกือบ 70 นาย เป็น 200 นายสำหรับ 2 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้แล้วกองกำลังติดอาวุธของแคนาดาจำนวน 200 กว่านายจะเข้าร่วมกองกำลังจำนวน 600 นายที่ปัจจุบันนี้ปฏิบัติภารกิจในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยเฉพาะกิจร่วมกันของอิรัคด้วย (Joint Task Force-Iraq) สำนักข่าว CBC ของแคนาดารายงาน

"ไม่ว่าจะเป็นภารกิจใดๆ คุณจำเป็นจะต้องสร้างทางเลือก พวกเราไม่สามารถที่จะกระทำทุกอย่างได้" นายกรัฐมนตรี Justin Trudeau กล่าว โดยกล่าวเพิ่มอีกว่า "การตัดสินใจในครั้งนี้มีการชี้นำโดยการมีส่วนร่วมในอัฟกานิสถานก่อนหน้านี้"

เมื่ออ้างถึงประสบการณ์ของ "ครูฝึกทหารที่เชี่ยวชาญ" ของแคนาดาในประเทศอัฟกานิสถาน นายกฯทรูโด กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่าภารกิจการโจมตีทางอากาศสามารถที่จะเป็นประโยชน์มากเพื่อให้บรรลุผลทางทหารในช่วงระยะเวลาสั้น และให้ได้พื้นที่เพิ่มขึ้น ภารกิจแบบนั้นไม่ได้มีเสถียรภาพในระยะยาว สำหรับสังคมท้องถิ่น"

การตัดสินใจของแคนาดาก็เพื่อเสริมสร้างกองกำลังภาคพื้นดินที่ได้รับการยกย่องจากเพนตากอน Peter Cook กล่าวว่า กรุงอ็อตาวา ได้เพิ่มโมเมนตัมให้กับภารกิจ (Ottawa has added "momentum to the effort") เนื่องจากกองกำลังพันธมิตรได้พยายามมองหาหนทางที่จะยกระดับแคมเปญจ์การต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิส สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน [พูดปลอบใจตัวเองหรือเปล่าครับ คุณโฆษก? - ผู้แปล]

แคนาดา ได้เข้าร่วมภารกิจการโจมตีทางอากาศตั้งแต่รัฐบาลอนุรัษนิยมชุดที่แล้ว หลังจากชนะการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่ค่ายเสรีนิยมนำโดยนายทรูโด ก็ได้ให้สัญญาว่าจะยุติภารกิจการทิ้งระเบิดทางกาศ การตัดสินใจดังกล่าวซึ่งไม่ได้สร้างความยินดีให้กับพันธมิตรกองกำลังผสม (นำโดยสหรัฐฯ) ยังคงก่อให้เกิดการโต้เถียงกัน และจะมีการออกเสียงลงมติในสภาในสัปดาห์หน้า

วันที่ 8 ก.พ.59 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินรบ CF-18 ของแคนาดาจะยุติปฏิบัติการต่อต้านดาอิชภายในสองสัปดาห์นี้" (Canada’s CF-18 Jets to Cease Anti-Daesh Operations ‘Within 2 Weeks’)

แคนาดาจะสิ้นสุดภารกิจการโจมตีทางอากาศของตนเองในการต่อต้านผู้ก่อการร้ายดาอิชภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า ด้วยการหยุดปฏิบัติการเครื่องบินรบ CF-18 ของตนเองทั้งในอิรัคและซีเรีย Harjit Sajjan รมว.กลาโหมของแคนาดากล่าวเมื่อวันจันทร์นี้

Harjit Sajjan แถลงว่า "ภายใต้แผนใหม่ของพวกเรา ได้มีการวางภารกิจทางทหารเอาไว้อย่างชัดเจนภายในแนวทางที่เป็นเชิงบูรณาการมากขึ้น ซึ่งรวมทั้งการยกระดับความพยายายมด้านการทูต (การให้ความช่วยเหลือ) ด้านมนุษยธรรม และการพัฒนาต่างๆ... ประการแรก เราจะเสริมขนาดหน่วยฝึกทหาร ที่ปรึกษา ของพวกเรา และสนับสนุนภาระกิจในภาคเหนือของอิรัคเป็นสามเท่า"

นายยกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโดได้แถลงว่า "จะมีการถอนอากาศยานทั้งหมดของแคนาดาออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559 นี้"

[สรุป… ว่าไงครับ? แคนาดาพยายามจะถอนตัวออกจากภารกิจการโจมตีขบวนการก่อการร้ายไอซิส ของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่าในทันที เดี๋ยวทำเนียบขาวจะหัวใจวายซะก่อน ครั้งจะถอนเครื่องบินรบออกมาแล้วไม่ทำอะไรเลย ก็อาจจะทำให้พี่เบิ้มเคืองเอาได้ จึงพูดปลอบใจโอบาม่าว่า งั้นแคนาดาจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในอิรัคแทนนะ แต่ไม่ได้ส่งเข้าไปรบแบบที่บางคนคามหวังนะครับ ส่งไปฝึกให้กับพวกนักรบชาวเคิร์ดในภาคเหนือของอิรัคต่างหาก

แต่ไม่ได้ส่งไปในทันทีทันใดหรอกนี้ จะค่อยๆทะยอยเสริมเข้าไปให้ครบ 200 นายภายในสองปี ท่านโอบาม่าพอจะรับไหวไหมครับ? มันจี๊ดดดด ดีแท้ ใช่ไหมครับท่านโอบาม่า? วันก่อนทั้งซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน และยูเออีต่างการออกมาแสดงความจำนงค์ที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปในซีเรีย เล่นเอาสหรัฐฯยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีอกดีใจ เพราะไม่มีประเทศไหนในตะวันตกแสดงท่าทีดังกล่าวเลยหลังจากที่สหรัฐฯกล่อมแล้วกล่อมอีกก็ไม่มีใครหลงคารม แต่ก็มีสามประเทศเศรษฐีน้ำมันตะวันออกกลางรับอาสาเฉยเลย

ในขณะที่ทำเนียบขาวและกลาโหมของสหรัฐฯกำลังดีใจอยู่นั้น กษัตริย์บาห์เรนและคณะก็บินตรงไปที่เมืองโซชิประเทศรัสเซียเพื่อขอพบกับปูตินเป็นการด่วน เมื่อพูดจาถูกคอกันทางกษัตริย์บาห์เรนก็เอาดาบปลายโค้งมอบให้ปูติน และปูตินก็มอบม้าพันธุ์ดีให้กับกษัตริย์บาห์เรนเพื่อเป็นการตอบแทน โดยสรุปแล้วก็คือทั้งสองประเทศตกลงที่จะพัฒนาโครงการท่อแก๊สธรรมชาติร่วมกัน เมื่อผลประโยชน์ลงตัวแล้วจะรบกันไปทำไม

จากนั้นบาห์เรนก็ประกาศว่าจะไม่ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย ซึ่งทำให้ทางสหรัฐฯรู้สึกงุนงงกับข่าวนี้มาก และในวันเดียวกันนี้ แคนาดาก็ประกาศอีกว่าจะถอนเครื่องบินรบของตนเองออกจากภารกิจของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ยิ่งทำให้รัฐบาลสหรัฐฯงงและมึนหนักเข้าไปอีก โอบาม่าและคาร์เตอร์อาจจะถามกันเองว่า พวกเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
09/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/331789-canada-cease-isis-airstrikes/
Canada’s CF-18 Jets to Cease Anti-Daesh Operations ‘Within 2 Weeks’
Putin, Bahrain's King Set to Discuss Anti-Terror Efforts Monday
Putin: Bahrain Important Russia’s Partner in Middle East
Russia, Bahrain Discuss Specific Gas Projects
Putin Presents Bahraini King With Stallion, Receives Sword in Return
TASS: Russian Politics & Diplomacy - Putin presents Bahrain’s king with Akhal-Teke horse to get Damascus sword in return

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวบันเทิง... สหรัฐฯยืนยันดาวเทียมของเกาหลีเหนือลอยอยู่ในวงโคจรเรียบร้อยแถมลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของสหรัฐฯอีกต่างหาก อูยยยยยส์ มีเสียวอ่ะ



-------------

วันที่ 9 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "รายงานข่าวบอกว่า ดาวเทียมของเกาหลีเหนือลอยอยู่ในวงโคจรแล้ว" (North Korean satellite ‘tumbling in orbit’ – reports)

ดาวเทียมเจ้าปัญหา (controversial satellite) ของเกาหลีเหนืออยู่ในวงโคจร (tumbling in orbit) สำนักข่าว CBS (ของสหรัฐฯ) รายงาน โดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ก็ยืนยันว่า ดาวเทียมดัง กล่าวประสบผลสำเร็จในการปล่อยเข้าสู่วงโคจร แต่ไม่อาจจะตรวจสอบได้ว่ามันทำงานได้หรือไม่

[ฮ่าๆๆ... วันแรกที่คิมน้อยปล่อยดาวเทียม สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้บอกว่าไงนะครับ? บอกว่าการปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือประสบความล้มเหลว แต่วันนี้กลับพูดว่าประสบความสำเร็จซะงั้น แบบแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ก็ยังไม่วายที่เขียนข่าวดิสเครดิตเกาหลีเหนืออีกว่า ไม่แน่ใจว่ามันทำงานได้หรือไม่ (…but could not verify if it is functioning.) มีความเป็นไปได้สองอย่างในกรณีนี้ คือ 1.) ดาวเทียมนั้นเสีย (แต่เขาควบคุมให้ไปอยู่ในวงโคจรได้อย่างไร?) 2.) ระบบดาวเทียมของเกาหลีเหนือไม่ธรรมดา ทำให้เกาหลีใต้และสหรัฐฯเจาะเข้าระบบไม่ได้จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันทำงานได้หรือไม่ - ผู้แปล]

ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของสัญญาณใดๆจากดาวเทียมดวงใหม่ที่เพิ่งจะปล่อยออกไป แต่ David Martin ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว CBS News ของสหรัฐฯ อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯซึ่งกล่าวว่า "ดาวเทียมดังกล่าวลอยอยู่ในวงโคจรแล้ว" (…the satellite was "tumbling in orbit.")

[นั่นคือตราประทับครั้งที่หนึ่งซึ่งเป็นการยืนยันว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม ไม่ใช่ขีปนาวุธพิสัยไกลอย่างที่หลายประเทศหวั่นวิตก - ผู้แปล]

ยากที่จะจับสัญญาจากผู้เล่นภายนอกได้ เนื่องจากไม่ทราบความถี่ของดาวเทียมดวงดังกล่าว [ก็แบบว่าอ่ะนะ แบบว่าของเขาเจ๋งอ่ะ ขนาดสหรัฐฯยังแจมสัญญาณดาวเทียมของคิมน้อยไม่ได้เลย - ผู้แปล]

อันนี้เด็ดมาก... รายงานครั้งล่าสุดบอกว่า พบว่าดาวเทียมดวงดังกล่าวลอยอยู่เหนือสนามกีฬา Super Bowl เมื่อวันอาทิตย์ โดยถูกตรวจพบเพียงหนึ่งชั่วโมงหลังการแข่งขันจบลงในเมือง Santa Clara รัฐแคลิฟอร์เนีย

[คิมน้อยส่งดาวเทียมไปทำอะไรแถวนั้น? ไปดูอเมริกันฟุตบอลมั๊งครับ อ้อคิมน้อยเคยเชิญ Dennis Rodman นักกีฬาบาสเก็ตบอลชื่อดังแห่ง NBA ของสหรัฐฯไปเที่ยวที่เกาหลีเหนือมาแล้วด้วย แสดงว่างานนี้เกาหลีเหนืออาจจะแอบไปเกี่ยวสัญญาดาวเทียมของสหรัฐฯแถวนั้นก็ได้ ใครกำลังถูกล้วงไข่อยู่หละนี่ ฮี่ๆๆ - ผู้แปล]

"มันลอยผ่านไปเกือบจะตรงกับหัวของซิลิกอนวอลเล่ย์ (Silicon Valley) เลย ซึ่งเป็นที่ที่ผมและสนามกีฬาอยู่ด้วย" Martyn Williams ผู้สังเกตการเกี่ยวกับอวกาศกล่าวกับสำนักข่าว AP "การเดินทางผ่านไป ณ เวลา 8.26 น. หลังจบเกม ผมจะมองว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องบังเอิญ แต่มันก็น่าสนใจนะ"

[ฮ่าๆๆ... ปลอบใจตัวเองอีกแล้วครับท่าน คิมน้อยบอกว่าดูจบแล้ว จะอยู่ทำไมหละครับ ไปส่องดูที่อื่นต่อดีกว่า คริๆ เอ่อ… คุณ Martyn Williams ครับ เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ "เรื่องบัญเอิญไม่มีในโลก"? เห็นได้ชัดว่างานนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะครับ สมมุติว่าจู่ดาวเทียมหลายดวงของสหรัฐฯดับวูบลงเฉยๆนี่หลังจากที่เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร จะยังมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญอยู่อีกไหมครับ? ระวังดาวเทียมทางทหารของสหรัฐฯและพันธมิตรเอาไว้ให้ดีนะครับ

แปลแค่นี้พอนะครับ ที่เหลือก็เป็นการเล่าข่าวเก่าเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯและฝ่ายต่างๆตามที่ได้รายงานให้ทราบแล้วในโพสต์ก่อนหน้านี้ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
09/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/331810-satellite-tumbling-north-korea/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ปธน. Erdogan ของตุรกีกร้าวใส่สหรัฐฯว่าบอกมาว่า จะเลือก "ผม" หรือ "ผู้ก่อการร้าย" (Me or terrorists?), การจัดการปัญหาชาวเคิร์ดในซีเรีย



-------------

1.) วันที่ 8 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "ผมหรือผู้ก่อการร้าย? Erdogan กราวเกรี้ยวใส่สหรัฐฯให้เลือกระหว่างตุรกีกับชาวเคิร์ดซีเรีย" ('Me or terrorists?' Furious Erdogan tells US to choose between Turkey and Syrian Kurds)

[อ้าว… ตอนที่ตุรกีส่งกองทัพรุกรานอธิปไตยของอิรัคก็อ้างว่าเพื่อปกป้องชาวเคิร์ด แต่ทำไมตอนนี้ถึงบอกให้เลือกระหว่างชาวเคิร์ดกับตุรกีซะงั้นหละครับท่านประธานาธิบดี? คำพูดของท่านมีความน่าเชื่อถือกี่เปอร์เซ็นต์หละนี่? ปัญหาก็มีอยู่ว่า "What if the 'me' = 'terrorists supporter' or me = terrorist"? แปลว่า แล้วถ้าคำว่า "ตัวผม" มีความหมายหรือมีค่าเท่ากับคำว่า ผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้าย หรือ "ตัวผม" เท่ากับ "ผู้ก่อการร้าย" หละ สหรัฐฯจะเลือกใครเอ่ย? - ผู้แปล]

ปธน. Recep Tayyip Erdogan รู้สึกขุ่นเคืองกับการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและสมาชิกของชาวเคิร์ด YPG ซึ่งกำลังควบคุมพื้นที่เมือง Kobane ของซีเรีย [ซึ่งถูกพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯทิ้งระเบิดใส่จนไม่เหลือชิ้นดีมาแล้ว - ผู้แป] ดังนั้นปธน.ตุรกีจึงได้บอกให้กรุงวอชิงตันเลือกระหว่างตุรกี และกลุ่มที่ Erdogan ยัดเยียดให้ว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" [เหม็นขี้ฟันน่าแอร์โดกัน พอเหอะ... รีบๆไปใช้เงินจาการค้าน้ำมันเถื่อนของพวกไอซิสซะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ใช้ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่าคณะผู้แทนซึ่งนำโดย Brett McGurk ทูตสหรัฐฯของฝ่ายพันธมิตรต่อต้านขบวนการก่อการร้ายดาอิชได้พบกับชาวเคิร์ด YPG เมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม กลุ่ม YPG เข้าควบคุมเมือง Kobane เบ็ดเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังของถิ่นที่อยู่อาศัยชาวเคิร์ด

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯกล่าวว่าการเดิดนทางไปในครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในการไปเยือนทางภาคเหนือของซีเรียตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา การหารือกันเกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายการเมืองของชาวเคิร์ด YPG ซึ่งก็คือพรรคสหประชาธิปไตยแห่งซีเรีย (Democratic Union Party - PYD) ถูกตัดออกจากการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในเจนีวา กรุงอังการาได้ข่มขู่ว่าจะบอยคอตต์การเจรจาหากว่าพรรค PYD ได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วย

[ชาวเคิร์ด YPG อยู่ทางภาคเหนือของซีเรีย เป็นส่วนหนึ่งของประชากรซีเรีย และก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งภายในกับรัฐบาลซีเรียมานานแล้ว ทำไม Erdogan ถึงขัดขวางไม่ให้ชาวเคิร์ดเข้าร่วมการเจรจาด้วย Erdogan มีสิทธิ์อะไรไปให้ไม่ให้ชาวซีเรียเข้าร่วมพูดคุยแก้ไขปัญหาภายในประเทศของพวกเขาเอง? - ผู้แปล]

"เขา [หมายถึงนาย Brett McGurk] ไปเยือนเมือง Kobane ในช่วงที่กำลังมีการเจรจาเจนีวา และได้รับโล่ห์ประกาศเกียรติคุณจากนายพลชาวเคิร์ด YPG" ปธน. Erdogan กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินของเขาในขณะที่กำลังเดินทางกลับจากทัวร์ลาตินอเมริกาและประเทศซีเนกัล (Senegal) ในแอฟฟริกา หนังสือพิมพ์ Beser Haber ของตุรกีรายงาน

"พวกเราจะเชื่อใจ [คุณ] ได้อย่างไร?" (How can we trust [you]?") ปธน. Erdogan กล่าว

"ใช่ผมหรือไม่ที่เป็นพันธมิตรของคุณ หรือว่าพวกผู้ก่อการร้ายในเมือง Kobane? (Erdogan หมายถึงชาวเคิร์ด) ทั้ง PYD และ YPG ต่างก็เป็นองค์กรก่อการร้ายด้วยกันทั้งนั้น" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าว กรุงอังการาพิจารณาว่าชาวเคิร์ดเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของชาวเคิร์ด PKK ที่ถูกห้ามในตุรกีในฐานะเป็นกลุ่มก่อการร้าย

[ตอนแรกตุรกีบอกแต่เพียงว่า ชาวเคิร์ด PKK ที่ก่อเหตุในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีเป็นองค์กรก่อการร้าย คราวนี้พอรัสเซียบีบให้สหรัฐฯยอมรับชาวเคิร์ด YPG ในซีเรียเข้าร่วมในการเจรจาด้วย Erdogan ประกาศทันทีว่า "คัดค้านครับท่านประธาน!" พวกนั้นเป็นผู้ก่อการร้ายทั้งหมด ให้เข้าร่วมการเจรจาด้วยไม่ได้เด็ดขาด อ้าวววว งั้นสหรัฐฯและอียูก็มีฐานะเป็น "ผู้ให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้าย" ด้วยสินี่

และที่สำคัญ Erdogan ก็เคยอ้างว่าเพื่อปกป้องชาวเคิร์ดในอิรัค ซึ่งตุรกีเคยส่งเครื่องบินไปบอมบ์ใส่อยู่บ่อยๆ งั้น Erdogan ก็เป็นผู้คุ้มครองผู้ก่อการร้ายและให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายด้วยสิ? สงสัยว่าหมอนี่จะเครียดมากจนเป็นโรคอัลไซเมอร์ไปซะแล้ว พูดอะไรออกไปเข้าตัวทุกอย่าง แถไปเรื่อย กล่าวหาชาวบ้านที่เห็นต่างจากตัวเองไปเรื่อย - ผู้แปล]

ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลตุรกีและกลุ่มกบฎชาวเคิร์ดที่เรียกร้องการปกครองตนเองเพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องนานนับหลายสิบปี เมื่อเกิดความล้มเหลวในการหยุดยิงหลายครั้งระหว่างทั้งสองฝ่าย กรุงอังการราได้ออกมาตำหนิกลุ่มสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก ที่ทำให้ชีวิตของพลเรือนตกอยู่ในความเสี่ยงในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของชาวเคิร์ดในตุรกี

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กรุงอังการาได้เริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในการปราบปรามนักรบชาวเคิร์ดที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคแรงงานชาวเคอร์ดิสถาน (PKK) ความรุนแรงได้ทำให้การหยุดยิงตลอดช่วงเวลาสองปีต้องมีอันยุติลง เมื่อกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดต่อสู้ด้วยสงครามกองโจร (guerrilla war) เพื่ออิสรภาพ [คล้ายกับวิธีที่เหล่านักรบฮูติแห่งเยเมนกำลังสั่งสอนซาอุดิอาระเบียอยู่ในขนาดนี้ - ผู้แปล]

"ชาวเติร์กเป็นโรคหวาดกลัวชาวเคิร์ด (Turks have a phobia of Kurds) เนื่องจากชาวเคิร์ดตุรกีทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัว ซึ่งชาวเคิร์ดเหล่านั้นมีจำนวนมากถึง 20 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในตุรกี (เยอะกว่าประชากรของซีเรียทั้งประเทศซะอีก)" ผู้แทนจากพรรค YPD ของชาวเคิร์ดในรัสเซียกล่าวกลับสำนักข่าว RIA Novosti โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า "ชาวเคิร์ดถูกแทรกแซงโดยแผนของ Erdogan ในตุรกี"

"พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสมีฐานทัพอยู่ในตุรกี และกำลังใช้มันเป็นทางผ่าน ปัจจุบันนี้ตุรกีเล่นบทที่เหมือนกันปากีสถานที่เล่นบทนี้ในปี 1980s เมื่อกองทัพสหภาพโซเวียตเข้าไปตั้งฐานทัพอยู่ในอัฟกานิสถาน พวกจีฮาดิสต์ก็เข้าไปถึงที่นั่นผ่านปากีสถาน ตามด้วยเงินและอาวุธ คราวนี้ตุรกีกำลังเจริญรอยตามเส้นทางนั้น [สำหรับกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย] และก็เล่นเกมของตนเอง

แต่ชาวเคิร์ดก็ลุกขึ้นมาขวางทาง [ของกรุงอังการา] ชาวเคิร์ดเหล่านั้นได้ผลักให้พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสถอยออกไปจาก Rojava [รู้กันโดยทั่วไปว่าเป็นชื่อของเคอร์ดิสถานซีเรีย] มีเหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ อาณาเขตที่ยาว 90 กิโลเมตรระหว่างเมืองต่างๆของชาวเคิร์ด หากว่าพวกเราสามารถกดดันให้พวกไอซิสออกไปจากที่นั่นได้ และเชื่อมโยงตำบลต่างๆของชาวเคิร์ดให้เชื่อมต่อกันได้ ตุรกีก็จะไม่สามารถมีอิทธิพล [ต่อสถานการณ์ในซีเรียได้]" Abd Salam Ali กล่าว

2.) บทวิแคะเสริมจากผู้แปล
---------------
นั่นคือแผนการและอุดมการร์หรือความฝันอันสูงสุดของชาวเคิร์ดในซีเรีย แต่ว่าชาวเคิร์ดจะสามารถทำให้ฝันนั้นกลายเป็นจริงหรือไม่ต้องดูกันต่อไป คราวนี้มาเรียบเรียงเหตุการณ์เชิงวิเคราะห์เพื่อให้เห็นภาพรวมของปัญหาและทางออกที่อาจจะเป็นไปได้เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ดูเล่นๆนะครับ

ปัญหาความขัดแย้งในซีเรีย และปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลตุรกีกับชาวเคิร์ดหลายกลุ่มมีความเกี่ยวข้องกันในหลายมิติมาก ตุรกีเป็นสมาชิกของนาโต้ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ สหรัฐฯและยุโรป สนับสนุนอาวุธให้กับชาวเคิร์ด ตุรกีมองว่าชาวเคิร์ดเป็นอริ ล่าสุดผู้นำตุรกีก็ออกมาประกาศว่าชาวเคิร์ดทั้งในตุรกีและในซีเรียเป็นองค์กรก่อการร้าย

สหรัฐฯและตะวันตกรู้ว่าตุรกีต้องการจะสร้างอาณาจักรอ็อตโตมันขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นพันธมิตรกัน แต่ตะวันตกก็ไม่ได้ไว้ใจตุรกีที่ชอบแทงข้างหลังเพื่อนเท่าไรนัก เพื่อที่จะสะกัดแผนการในการขâ

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/RMwLPfX7EUE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
รัสเซียติดขีปนาวุธครูซให้กับเครื่องบินรบ Su-27 ที่ฐานทัพอากาศ Belbek ใน Sevastopol ไคร์เมียเตรียมซ้อมรบฉับพลัน งานนี้ไม่ธรรมดาแล้วครับท่าน เพราะว่าอังกฤษเพิ่งจะส่งทหารจำนวน 1,600 นาย และอาวุธหนักเข้าไปในจอร์แดนซึ่งอยู่ติดกับซีเรียอ้างว่าเพื่อซ้อมรบเช่นกัน
-------------
https://www.youtube.com/watch?v=RMwLPfX7EUE

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/oOkJC--BAWQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
ซีเรีย: ชาวบ้านในจังหวัด Aleppo กลับมาดำเนินชีวิตตามปรกติอีกครั้งหลังจากที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลขับไล่กองกำลังของผู้ก่อการร้ายและพวกกบฎออกไปได้
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=oOkJC--BAWQ

 

ปอกเปลือก ทรราช


<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/cGFN89ZS_4A--BAWQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

Erdogan ถามสหรัฐฯว่า "จะให้พวกเราเชื่อใจคุณได้อย่างไร?" เฮ้อๆ… ขนาดรัสเซียยังโดนแทงข้างหลังมาแล้วซะหลังเหวอะเลย สหรัฐฯเชื่อคำพูดของ Erdogan ก็บ้าแล้ว และ Erdogan ก็ไม่เชื่อคำพูดของสหรัฐฯด้วย นั่นแหละมิตรภาพแบบ "นาโต้" ครับท่าน อย่าได้เผลอเชียว
---------------
https://www.youtube.com/watch?v=cGFN89ZS_4A

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/9so8la_nmOc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯตอบคำถามของ Erdogan ว่าสหรัฐฯจะไม่ตกลงอะไรทั้งนั้น (เพราะว่าสหรัฐฯเลือกทั้งเคิร์ดและเติร์ก จริงๆแล้วสหรัฐฯเลือกตัวเองเท่านั้นครับ คบกับเคิร์ดก็เพื่อให้ข่มอิทธิพลของตุรกี คบกับตุรกีเพื่องัดกับรัสเซียและเสริมความแข็งแกร่งของนาโต้ แต่หารู้ไม่ว่า นั่นแหละคือจุดที่จะนำนาโต้ไปสู้หายนะโดยเร็ว)
-------------
https://www.youtube.com/watch?v=9so8la_nmOc

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/bmzf3SiGmbk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ใครอยากจะรบก็รบกันไป แต่บราซิลขอรื่นเริงสุดๆ
-------------
https://www.youtube.com/watch?v=bmzf3SiGmbk

 

ปอกเปลือก ทรราช
รอยร้าวสหรัฐฯ-ตุรกี กรณีชาวเคิร์ดซีเรีย, เยอรมันหนุนนาโต้เสริมทัพเข้าตุรกีอ้างสะกัดการลักลอบขนผู้อพยพผิดกฎหมาย, อังกฤษส่งกองทัพ 1,600 นายพร้อมอาวุธหนักซ้อมรบในจอร์แดนใกล้ซีเรีย, รัสเซียจัดซ้อมรบฉับพลัน (ตอนที่ 1)



-------------
1.) ศึกนี้ระหว่างสหรัฐฯกับตุรกีท่าจะยาวซะแล้วครับท่าน หลังจากที่ปธน.Erdogan ของตุรกียื่นคำขาด (ultimatum) ให้กับสหรัฐฯว่าจะเลือก Erdogan หรือว่าเลือกชาวเคิร์ดเมื่อวานนี้ มาดูว่าสหรัฐฯจะมีท่าทีอย่างไรกับคำถามของ Erdogan ที่กำลังบีบให้สหรัฐฯเลือกข้าง
วันที่ 9 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวในคลิปยูทูปว่า "พวกเราจะไม่ตกลงอะไรทั้งนั้น: สหรัฐฯตอบโต้ต่อการยื่นคำขาดของ Erdogan กรณีชาวเคิร์ด" (‘We won’t agree on everything’: US responds to Erdogan’s ultimatum on Kurds)
และในวันเดียวกันนี้ Sputnik news ก็พาดหัวข่าวว่า "กรุงอังการาเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯเข้าพบเกี่ยวกับจุดยืนของกรุงวอชิงตันกรณีชาวเคิร์ด" (Ankara Summons US Ambassador Over Washington’s Stance on Kurds)
[ว้าวววว! ดูเหมือนว่า Erdogan จะฉุนขาดจริงๆ ถึงกับกล้าเรียกทูตของจักรวรรดิเฮเกโมนี่เจ้าโลกเข้ามาซักเลยนะนี่ แบบไม่ไว้หน้าโอบาม่าอีกต่อไป - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่า สหรัฐฯได้แสดงออกต่อสาธารณชนอย่างเปิดเผยว่า สหรัฐเชื่อว่าพรรคสหภาพประชาธิปไตยของชาวเคิร์ด (PYD) ในซีเรีย "ไม่ได้เป็นกลุ่มก่อการร้าย" และตุรกีก็ไม่พอใจกับท่าทีแบบนั้นของสหรัฐฯ
ปธน. Recep Tayyip Erdogan ของตุรกีได้พิจารณามานานแล้วว่า พรรค PYD ของชาวเคิร์ดเป็นกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของรัฐบาลนาย Erdogan ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ กรุงอังการาคาดหวังให้บรรดาพันธมิตรของตนเองเห็นด้วย
แต่เมื่อวันจันทร์นี้ นาย John Kirby โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯได้กล่่าวว่ากรุงวอชิงตันและกรุงอังการาอาจจะไม่เห็นพ้องกันในเรื่องนี้ (Washington and Ankara may not see eye-to-eye on the subject.)
"พวกเราไม่ได้ยอมรับว่เคิร์ด PYD เป็นองค์กรก่อการร้าย พวกเรายอมรับว่าเติร์กยอมรับ (We do not recognize the PYD as a terrorist organization. We recognize Turks do.) สหรัฐฯและตุรกีเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน (US and Turkey are "good friends.")"
[นี่แหละครับ "เพื่อนที่ดี" ในแบบฉบับสหรัฐฯและตุรกี ฮึ่มๆใส่กันนี่เขาเรียกว่า "good friends" อึ่ม! จ๊ะ เอาแบบที่พี่สบายใจนั่นแหละครับ ดีก็ดีครับ ขอให้ดีแบบนี้ตลอดไปนะครับ หายนะมาเยือนแน่
หลังจากที่ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯออกมาตอบโต้ปธน. Erdogan โดยปฏิเสธว่าพรรค PYD ของชาวเคิร์ดไม่ใช่องค์กรก่อการร้ายตามที่ Erdogan กล่าวหา เพราะว่าขืนสหรัฐฯยอมรับว่า PYD เป็นองค์กรก่อการร้าย ก็เท่ากับสหรัฐฯยอมรับว่า "สหรัฐฯให้การสนับสนุนองค์กรก่อการร้าย" ด้วย เพราะว่าสหรัฐฯให้การสนับสนุน PYD ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของชาวเคิร์ด YPG ในซีเรีย และในขณะเดียวกันสหรัฐฯก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่า สหรัฐฯจะเลือกข้างไหนระหว่าง "เคิร์ด" กับ "เติร์ก" ซึ่งยิ่งทำให้ความดันของ Erdogan พุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีก - ผู้แปล]
เพื่อเป็นการตอบโต้แสดงแสดงความคิดเห็นของ John Kirby โฆษกก.ต่างประเทศของสหรัฐฯ กระทรวงต่างประเทศของตุรกีจึงได้เรียกนาย John Bass เอกอัครราชทูตของสหรัฐฯประจำตุรกีเข้าพบ เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามกล่าวกับสำนักข่าว AP ว่า การสนทนาครั้งนี้หมายถึง "การแสดงออกถึงความไม่พอใจ" (convey unease) จากกรุงอังการาเกี่ยวกับจุดยืนของกรุงวอชิงตัน
รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันอังคารนี้ นาย Kirby ได้ยืนยันว่ามีการพบกันระหว่างเอกอัครราชทูต (ของสหรัฐฯ) และเจ้าหน้าที่ของตุรกีจริง Kirby ยังยืนยันอีกว่า "สหรัฐฯไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของตนเองต่อพรรค PYD (ของชาวเคิร์ด)" [จบไหมครับท่านปธน. Erdogan? เรื่องนี้น่าจะยังไม่จบง่ายๆแน่ครับ - ผู้แปล]
สถานการณ์นี้มาจากการที่ตุรกีได้พยายามที่จะย้ำว่าไม่ให้กลุ่มชาวเคิร์ดเข้าร่วมในการเจรจาสันติภาพซีเรียด้วย ทั้งสหรัฐฯและรัสเซียกล่าวว่าชาวเคิร์ดเป็นหนึ่งในกองกำลังภาคพื้นดินที่มีศักยภาพมากที่สุดในการต่อสู้กับพวกผู้ก่อการร้ายดาอิชในซีเรีย
นาย Gennady Gatilov รองรมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเน้นย้ำถึงจุดยืนของกรุงมอสโคว์ต่อการมีส่วนร่วมของพรรค PYD ในการเจรจาสันติภาพซีเรียว่า "แน่นอน พวกเราหมายถึงชาวเคิร์ด หากปราศจากพวกเขา ก็จะไม่มีจุดที่จะคาดหวังสำหรับกระบวนการใดๆหรือมีการตัดสินใจได้เลย พวกเราเชื่อว่าชาวเคิร์ดจะต้องมีส่วนร่วมด้วย"
ตุรกีบอกปัดซ้ำแล้วซ้ำอีกเกี่ยวกับความพยายามที่จะนำเคิร์ด PYD เข้าไปถ่วงดุลในการเจรจาสันติภาพของซีเรีย "ตุรกีจะสนับสนุนความคิดริเริ่มใดๆสำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการเมืองในซีเรีย ยกเว้นกฎเกณฑ์เดียวเท่านั้นที่พวกเราต้องการ ก็คือฝ่ายค้านสายกลางควรจะมีตัวแทนตามเจตจำนงค์และความคิดริเริ่มของตนเอง ไม่ควรจะมีตัวแทนของกลุ่มก่อการร้ายอยู่รอบๆโต้การประชุม" นาย Ahmet Davutoglu นายกรัฐมนตรีของตุรกีกล่าวในระหว่างงานสัมนา World Economic Forum ที่ Davos
[แต่รัสเซียบอกว่า กลุ่มที่ซาอุดิอาระเบียและตุรกีให้การสนับสนุนนั่นแหละคือ หนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย ในเบื้องต้นรัสเซียไม่เห็นด้วยที่จะให้ตัวแทนจากกลุ่มนี้เข้าร่วมการเจรจา แต่เมื่อสหรัฐฯยืนยัน งั้นรัสเซียจึงสนับสนุนให้ชาวเคิร์ดส่งตัวแทนเข้าร่วมด้วย สหรัฐฯเห็นว่า อัยย๊ะ! ปูตินมามุกนี้ได้ไง สหรัฐฯและอียูอุตส่าห์สนับสนุนอาวุธให้กับชาวเคิร์ดรบกับตุรกีมาตั้งนาน จู่จะให้รัสเซียดึงเคิร์ดไปเป็นพันธมิตรหน้าตาเฉยเลย ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าการออกมาบอกว่าสหรัฐฯขอเป็นอีกหนึ่งเสียงในการสนับสนุนให้ชาวเคิร์ดเข้าร่วมในกระบวนการเจรจาสันติภาพซีเรียด้วย ไม่งั้นเสียแนวร่วมให้กับปูตินแน่ๆ ตุรกีเห็นแบบนั้นจึงวีนแตกเลยคราวนี้ "เอ๊ย! โอบาม่า... ทำงี้ได้ไงฟระ? บอกมาเลยว่าสหรัฐฯจะอยู่ฝ่ายไหนกันแน่? เคิร์ดหรือเติร์ด เลือกมาก" สหรัฐฯบอก เลือกทั้งสอง ฮ่าๆๆ สนุกครับท่าน - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
10/02/2559
----------
Ankara Summons US Ambassador Over Washington’s Stance on Kurds
Controversial Move: Merkel Wants to Deploy NATO Forces to Turkish Coast
Russian Involvement in Syria: ‘Finally Someone is Fighting Terrorists’
https://www.youtube.com/watch?v=5Z_6YV2fjkA
https://www.youtube.com/watch?v=cGFN89ZS_4A
https://www.youtube.com/watch?v=9so8la_nmOc

 

ปอกเปลือก ทรราช
รอยร้าวสหรัฐฯ-ตุรกี กรณีชาวเคิร์ดซีเรีย, เยอรมันหนุนนาโต้เสริมทัพเข้าตุรกีอ้างสะกัดการลักลอบขนผู้อพยพผิดกฎหมาย, อังกฤษส่งกองทัพ 1,600 นายพร้อมอาวุธหนักซ้อมรบในจอร์แดนใกล้ซีเรีย, รัสเซียจัดซ้อมรบฉับพลัน (ตอนที่ 2)



-------------
2.) มีเรื่องไหนต่ออีก เดี๋ยวนึกก่อน ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก อ้อ… กรณีเยอรมันกับตุรกีครับ วันที่ 9 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย: นายกรัฐมนตรีแม์เกิลต้องการให้มีการใช้กองกำลังของนาโต้ตามชายฝั่งของตุรกี" (Controversial Move: Merkel Wants to Deploy NATO Forces to Turkish Coast) [โย่! ผู้นำเยอรมันกำลังคิดอะไรอยู่นี่? น่าสนใจครับ - ผู้แปล]
นายกรัฐมนตรี Angela Merkel ของเยอรมันต้องการให้ส่งกองทัพนาโต้เข้าไปยังชายฝั่งของตุรกี (อ้างว่า) เพื่อสนับสนุนตุรกีในการต่อต้านการลักลอบที่ผิดกฎหมาย (against illegal trafficking) อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าการปรากฎของกองทัพที่เพิ่มขึ้นนั้นมีการเชื่อมโยงกับการขยายความขัดแย้งในซีเรียหรือไม่ หนังสือพิมพ์ Deutsche Wirtschafts Nachrichten ของเยอรมันรายงาน
หนังสือพิมพ์ DWN เขียนว่า เยอรมันนีและตุรกีจะแสวงหาการเคลื่อนพลของนาโต้ในการต่อสู้การลักลอบ (ค้ามนุษย์) ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายฝั่งของทะเลอีเจี้ยน (Aegean coast)
[เอาแล้วไง... เปิดเผยขึ้นมาเรื่อยๆว่ามีการค้ามนุษย์เกิดขึ้นในตะวันตก หลังจากที่ปิดปากเงียบกันมานานโดยพยายามชี้นิ้วไปที่ประเทศนั้นประเทศนี้ให้มีการปราบปราบขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย เมื่อคลื่นผู้อพยพจากตะวันออกกลางและแอฟริกาไหลเข้าไปในยุโรปอย่างไม่หยุดหย่อน จะอ้างสงครามเป็นเหตุเพียงอย่างเดียวก็กะไรอยู่ มันน่าจะมีอะไรลึกๆมากกว่านั้น
วันนี้ก็ชัดแล้วว่า การที่เยอรมันแสดงท่าทีแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการยอมรับอย่างเปิดเผยว่ามีขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งผิดกฎหมายเกิดขึ้นในยุโรปจริง และก็มากซะด้วย ถึงขนาดต้องใช้กองทัพนาโต้ออกโรงเลย งานนี้หนีไม่พ้นตุรกีอีกแล้วครับท่าน นอกจากเรื่องค้าน้ำมันเถื่อนแล้วก็ยังมีค้ามนุษย์อีกด้วย โชคดีนะ Erdogan แต่เรื่องนี้ก็สามารถมองได้หลายมุม ซึ่งอาจจะรวมถึงการเคลื่อนไหวของนาโต้เพื่อข่มขู่หรือสะกัดรัสเซียในระแวกนั้นด้วย เดี๋ยวค่อยวิเคราะห์กันต่อไป - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่า ในการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศสมาชิกนาโต้ในสัปดาห์นี้ ที่ประชุมกำลังวางแผนเพื่อหารือ "เกี่ยวกับการขยายต่อสิ่งที่นาโต้สามารถจะช่วยเหลือในการเฝ้าระวังสถานการณ์ในทะเล และสนับสนุนงานของ Frontex (องค์กรรักษาชายแดนของอียู) และกองกำลังยามชายฝั่งของตุรกี" นายกรัฐมนตรี Angela Merkel ของเยอรมันกล่าวเมื่อวันจันทร์นี้ หลังจากหารือกับนาย Ahmet Davutoglu นายกรัฐมนตรีของตุรกีที่กรุงอังการา
นายกฯ Angela Merkel ยังได้ประกาศแผนการเพื่อดำเนินการการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างตำรวจเยอรมันและตุรกี ต่อต้านการลักลอบข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมาย (illegal border crossing) ในตุรกีด้วย โดยปฏิบัติการต่างๆจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบว่าการทำงานของยามชายฝั่งของตุรกีและองค์กร Frontex รักษาชายแดนของอียูสามารถที่จะประสานงานกันได้ดีอย่างไร
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ของเยอรมันกล่าวว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของแนวความคิดใหม่นี้ และเสริมกำลังของนาโต้ให้เข้มแข็งขึ้นในภูมิภาค ยังไม่ชัดเจน
สื่อฯเยอรมันตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเร็วๆนี้ นางแองเกล่า แมร์เกิล ได้วิพากษ์วิจารณ์ปฏิบัติการของรัสเซียในภาคเหนือของซีเรีย และตำหนิว่าทำให้เกิดคลื่นผู้อพยพรอบใหม่ขึ้นมา นายกรัฐมนตรีของเยอรมันประนามการโจมตีจากกองทัพอากาศของรัสเซีย และกองทัพซีเรีย ใกล้เมือง Aleppo ด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนแบบผิดปรกติ:
"เมื่อไม่กี่วันมานี้ พวกเราไม่เพียงได้รับการแจ้งเตือนเท่านั้น แต่ยังได้ตกใจกับความทุกข์ยากของมนุษย์จำนวนหลายหมื่นคน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทิ้งระเบิด โดยส่วนใหญ่มาจากฝั่งรัสเซีย" Merkel แถลงเมื่อวันจันทร์นี้ในกรุงอังการา หลังจากที่ได้พบกับนาย Ahmet Davutoglu นายกรัฐมนตรีของตุรกี
สื่อฯรัสเซียกล่าวปิดท้ายว่า นับตั้งแต่เริ่มมีปฏิบัติการทางอากาศในซีเรียเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว รัสเซียได้ดำเนินการ (โจมตีใส่) เป้าหมายผู้ก่อการร้ายหลายพันเที่ยวบิน ได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้ายดาอิช และกำจัดผู้ก่อการร้ายต่างๆเป็นจำนวนมาก สื่อฯตะวันตกบางสำนักได้วิจารณ์ปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรีย ซึ่งกล่าวหาว่า การโจมตีจากกองทัพอากาศของรัสเซียส่งผลให้มีการเสียชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์หลายร้อยคน อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวเหล่านี้ ไม่มีการยืนยันโดยหลักฐานจริงเลย
[นั่นคือการตอบกลับแบบสั้นๆจากสื่อฯรัสเซียในการปกป้องชื่อเสียงประเทศตัวเอง คราวนี้ มาค้นหาดูซิว่าทำไม นายกฯ Angela Merkel ของเยอรมันถึงแสดงท่าทีแบบนั้นต่อรัสเซีย? เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดการเดินขบวนประท้วงต่อต้านผู้อพยพในยุโรปหลายประเทศ นำโดยขบวนการเพจิด้า ฝ่ายขวาจัด และก็มีม็อบสนับสนุนผู้อพยพเช่นกัน มีการลักลอบเผ่าที่พักผู้อพยพในประเทศเยอรมันด้วย
ในขณะเดียวกันก็มีข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศจากผู้อพยพที่กระทำต่อผู้หญิงชาวยุโรปในประเทศเยอรมัน ข่าวในลักษณะนี้เข้าทางกลุ่มที่ต่อต้านผู้อพยพอยู่แล้ว และยังมีการปลุกกระแสต่อต้านศาสนาอิสลามให้เกิดขึ้นในยุโรปหลายประเทศด้วย สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง และมีคลื่นผู้อพยพรอบใหม่ทะลักเข้าไปในยุโรปด้วย โดยเฉพาะเยอรมัน คะแนนนิยมของ นายกฯ Angela Merkel ก็กำลังตกต่ำลงเรื่อยๆ ผู้นำเยอรมันจะต้องทำอะไรซักอย่าง ไม่อย่างนั้นกรุงอังการาอาจจะปล่อยคลื่นผู้อพยพจากตุรกีและตามแนวชายแดนฝั่่งซีเรียเข้าไปในยุโรปมากกว่านั้น
แน่นอนว่าหนึ่งในสาเหตุของการอพยพในครั้งนี้เกิดจากสงครามในซีเรีย โดยเฉพาะในจังหวัด Aleppo ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากบางส่วนอพยพไปอยู่ตามค่ายผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนของซีเรียซึ่งอยู่ในการดูแลของตุรกี แต่ประชาชนชาวซีเรียบางส่วนโดยเฉพาะในพื้นที่ของจังหวัด Aleppo ก็ไม่ได้อพยพหนีไปไหน กลับออกมาแสดงความดีอกดีใจหลังจากที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศรัสเซียขับไล่กลุ่มก่อการร้ายออกไปจากพื้นที่ได้ และเข้าไปยึดพื้นที่แทน
หากผู้นำเยอรมันต้องการความร่วมมือจากตุรกีไม่ให้ส่งผู้อพยพเข้าไปในยุโรปอีก ก็จำเป็นต้องทำทีเป็นตำหนิรัสเซียเพื่อเอาใจตุรกีซึ่งกำลังขัดแย้งกับรัสเซีย มิฉะนั้นตุรกีก็จะมองว่าเยอรมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ก่อนที่นายกฯเยอรมันจะเดินทางไปเยือนตุรกีนั้น นายกฯเยอรมันได้ยกหูคุยกับปูตินเรียบร้อยแล้ว น่าสนใจใช่ไหมหละครับ?
แต่ในวันที่ 9 ก.พ.59 Sputnik news ก็พาดหัวข่าวว่า "การมีส่วนร่วมของรัสเซียในซีเรีย: ในที่สุดก็มีบางคนต่อสู้พวกผู้ก่อการร้าย" (Russian Involvement in Syria: ‘Finally Someone is Fighting Terrorists’) Carla Del Ponte สมาชิกของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศแห่งยูเอ็นด้านการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซีเรียกล่าวว่า เธอชื่นชมการดำเนินการทางทหารของรัสเซียในซีเรีย
ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ RTS (ของ Switzerland)นาง Carla Del Ponte ได้พูดถึงการมีส่วนร่วมของรัสเซียในซีเรีย และว่าได้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปในทางที่เป็นบวก "โดยส่วนตัวแล้วนั้น ดิฉันเชื่อว่าการมีส่วนร่วมของรัสเซียในซีเรียเป็นสิ่งที่ดีมาก เมื่อมาถึงการรับมือกับกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ"
3.) บทวิแคะเสริมจากผู้แปล
--------------
นั่นคือส่วนที่ตัวแทนของยูเอ็นชื่นชมรัสเซีย ซึ่งตรงข้ามกับท่าทีล่าสุดของผู้นำเยอรมันและตุรกี คราวนี้มาดูในส่วนที่เธอตำหนิรัสเซียบ้าง "พวกเขา (รัสเซีย) อาจจะไม่เก่งในเรื่องของการแบ่งแยกผู้ก่อการร้ายต่างๆออกจากกลุ่มอื่น ดังนั้น จึงไม่ใช่ข้อดีเท่าไรนักในเรื่องนั้น แต่พวกเราก็กำลังติดตามดูสถานการณ์"
เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในการกล่าวรายงานต่อสหประชาชาติ นาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียได้แสดงความคิดเห็นต่อข้อกล่าวหาที่ว่า "เครื่องบินของรัสเซียได้โจมตีผิดเป้าหมายในซีเรีย" โดยแย้งว่า "หากมันดูเหมือนผู้ผู้ก่อการร้าย หากมันปฏิบัติเหมือนผู้ก่อการร้าย หากมันเดินเหมือนผู้ก่อการร้าย หากมันต่อสู้เหมือนผู้ก่อการร้าย มันก็คือผู้ก่อการร้าย ถูกต้องไหมครับ?" (If it looks like a terrorist, if it acts like a terrorist, if it walks like a terrorist, if it fights like a terrorist, it's a terrorist, right?)
สั้นๆ แต่ได้ใจความ และชัดเจน และปูตินก็เคยกล่าวไว้แล้วว่า รัสเซียจะไม่แบ่งแยกว่าใครเป็นผู้ก่อการร้ายฝ่ายดี หรือผู้ก่อการร้ายฝ่ายเลว ผู้ก่อการร้ายก็คือผู้ก่อการร้ายเหมือนกัน รัสเซียจะตามไปเด็ดหัวพวกมันให้หมด ไม่ว่ามันจะซ่อนอยู่ที่ไหนก็ตาม (เท่าที่จำได้ก็ประมาณนี้แหละ เคยลงข่าวนี้ให้อ่านแล้ว) จบนะครับคุณ Carla Del Ponte
จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้าเกี่ยวกับท่าทีของเยอรมันและนาโต้ก็คือ เยอรมันสนับสนุนให้ส่งกองกำลังของนาโต้เข้าไปยังชาวฝั่งของตุรกี ซึ่งก็คือทะเลอีเจี้ยน ที่อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะอ้างเพื่อสะกัดกั้นผู้อพยพและการลักลอบค้าสิ่งผิดกฎหมายก็ตาม ถ้านาโต้เริ่มขยับเข้าให้ทะเลเมดิตเตอร์เนียนแบบนี้ รัสเซียจะต้องเกิดความระแวงและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นอยู่แล้ว
เพราะว่าปัจจุบันนี้กองเรือรบของรัสเซียกำลังลาดตระเวนอยู่ตามแนวชายฝั่งของซีเรียเพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหารของรัสเซียในซีเรีย ด้านหนึ่งเหมือนสหรัฐฯตุรกีกำลังแตกคอกันกรณีชาวเคิร์ด แต่อีกด้านหนึ่งอียูกำลังขยับกองกำลังของนาโต้เข้าประชิดกองกำลังของรัสเซียในละแวกนั้นซะงั้น ขนาดก่อนหน้านี้กองเรือบรรทุกเครื่องบินของฝรั่งเศสและสหรัฐฯที่ประกาศว่าจะส่งไปประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียยังต้องย้ายไปประจำการอยู่ในอ่าวอาหรับติดกับอิหร่านโน่น
งานนี้เยอรมันคิดอย่างไรที่จะส่งนาโต้เข้าไปเบียดสีข้างรัสเซียในทะเลอาเจี้ยน รัสเซียก็มีเรือรบลาดตระเวนอยู่แถวนั้นด้วย ก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีข่าวว่าเรือประมงลำหนึ่งของตุรกีมุ่งหน้าเข้าหาเรือรบของรัสเซียในทะเลอาเจี้ยน แม้ว่าฝ่ายรัสเซียจะแจ้งเตือนหลายครั้งก็ไม่ยอมเปลี่ยนทิศทาง
สุดท้ายรัสเซียยิงปืนขู่ถึงได้วิ่งขนานสวนทางกับเรือรบของรัสเซีย (เคยลงข่าวนี้แล้ว) อีกแง่มุมหนึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า เยอรมันก็กำลังจะล้วงตับ Erdogan เกี่ยวกับการลักลอบค้าสิ่งผิดกฎหมายซึ่งรวมทั้งขบวนการค้ามนุษย์ผ่านผู้อพยพด้วย เพราะว่านี่คือปัญหาใหญ่ของเยอรมัน แต่ทำไมต้องเอานาโต้ออกหน้าด้วยหละ? อ่านต่อในตอนที่ 3 นะครับ
ป.ล.ในโพสต์ต่อไปจะพูดถึง รัสเซียตอบโต้เยอรมัน และตุรกีขู่ว่าจะปล่อยให้ผู้อพยพไหลเข้าไปในยุโรปหากยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือผู้อพยพจากอียูตามที่เคยคุยกันไว้เมื่อปีที่ผ่านมา รวมทั้งการซ้อมรบของอังกฤษในจอร์แดนและการซ้อมรบฉุกเฉินของรัสเซียด้วย
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
10/02/2559
----------
Ankara Summons US Ambassador Over Washington’s Stance on Kurds
Controversial Move: Merkel Wants to Deploy NATO Forces to Turkish Coast
Russian Involvement in Syria: ‘Finally Someone is Fighting Terrorists’
https://www.youtube.com/watch?v=5Z_6YV2fjkA
https://www.youtube.com/watch?v=cGFN89ZS_4A
https://www.youtube.com/watch?v=9so8la_nmOc

 

ความต่างใน “ของขวัญ” ที่ปูตินมอบให้กับผู้นำประเทศ
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 10, 2016



มอบ“ม้าแข่ง” ให้กษัตริย์บาห์เรน มอบ”เหยี่ยว”ให้กษัตริย์กาตาร์ แต่มอบ “อัลกุรอาน” ให้กับผู้นำสูงสุดอิหร่าน
sputniknews / alalam – วลาดีเมียร์ ปูติน ผู้นำแห่งรัสเซียได้มอบของขวัญชิ้นสำคัญให้กับ ฮัมด์ บิน อิซา อาลีคอลีฟะห์ กษัตริย์บาห์เรนในวันที่มาเยือนรัสเซียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 กุมภาพันธ์)
ปูติน ได้มอบม้าตัวหนึ่งอายุ ประมาณ 3- 4 ปี สายพันธุ์ Akhal-Teke ให้กับกษัตริย์บาห์เรน ม้าตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Haji Beg ซึ่งเคยคว้าแชมป์มาหลายรายการในการแข่งขันระดับนานาชาติ
ส่วนกษัตริย์บาห์เรนได้มอบดาบที่ทำมาจากกรุงดามัสกัส ซึ่งใบมีดของดาบทำมาจากเหล็กเมืองดามัสกัสและด้ามฝักทำจากโลหะมีค่าและประดับด้วยทองและเงิน
การพบปะครั้งนี้มีขึ้นในเมืองตากอากาศ Sochi ในรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ ครั้นที่กษัตริย์กาตาร์เยือนรัสเซีย ปูตินได้มอบ “เหยี่ยว” ตัวหนึ่งเป็นขอขวัญให้กับกษัตริย์กาตาร์
แต่สำหรับของขวัญที่ปูติน มอบให้กับอยาตุลลอฮ์ คาเมนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ในการมาเยือนอิหร่านนั้นมีความแตกต่างกับของขวัญที่มอบให้ผู้นำชาติอาหรับอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากของขวัญที่ปูตินมอบให้ผู้นำสูงสุดอิหร่านคือพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่ทรงค่า
นักวิเคราะห์บางคนได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ ว่า การที่ปูตินนำเอาอัลกุรอานที่ทรงค่ามอบให้กับผู้นำการปฏิวัติอิสลามนั้น บ่งชี้ว่าชาวรัสเซียเชื่อว่า “อิสลามที่อิหร่านกำลังปฏิบัติและยึดมั่นนั้น คือ “อิสลามที่แท้จริง”
บ้างวิเคราะห์ว่า การที่ปูตินมอบของขวัญที่ต่างกันให้กับผู้ประเทศต่างๆนั้น อาจจะยึดหลักเกณฑ์หนึ่งที่ว่า “จงพูดและสนทนาตามสติปัญญาของเขา” หมายความว่า จะปฏิบัติกับฝ่ายตรงกันข้ามตามขีดความสามารถ ความรอบรู้และสติปัญญาคนนั้น เนื่องจากสติปัญญาของผู้นำชาติอาหรับล้วนแต่หมกมุ่นอยู่กับความสนุกสนานและความบันเทิงในแต่ละวัน
หากพิจารณาอีกมุมหนึ่ง ท่าในการนั่งที่นอบน้อมของปูตินในการเข้าพบกับผู้นำสูงสุดอิหร่าน และนำมาเปรียบเทียบการท่านั่งของปูตินในการพบปะกับบรรดาผู้นำชาติต่างๆนั้นก็สามารถเห็นข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างดีและเป็นที่จับตามองของบรรดาสื่อทั่วโลก
(แฟ้มภาพ ความแตกต่างในท่านั่งของปูตินต่อหน้าผู้นำสูงสุดอิหร่าน กับท่านั่งของปูตินต่อหน้าผู้นำอเมริกา จีน และอิสราเอล”

تفاوت هدیه پوتین به رهبر انقلاب با دیگر هدایا
پوتین به پادشاه بحرین اسب مسابقه هدیه داد



เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ความต่างใน “ของขวัญ” ที่ปูตินมอบให้กับผู้นำประเทศ | abnewstoday

 

ปอกเปลือก ทรราช
รอยร้าวสหรัฐฯ-ตุรกี กรณีชาวเคิร์ดซีเรีย, เยอรมันหนุนนาโต้เสริมทัพเข้าตุรกีอ้างสะกัดการลักลอบขนผู้อพยพผิดกฎหมาย, อังกฤษส่งกองทัพ 1,600 นายพร้อมอาวุธหนักซ้อมรบในจอร์แดนใกล้ซีเรีย, รัสเซียจัดซ้อมรบฉับพลัน (ตอนที่ 3)


-------------

4.) มาลุยตอนที่ 4 ต่อเลยนะครับ หลังจากที่ นายกฯ Angela Merkel ของเยอรมันออกมากล่าวหารัสเซียที่กรุงอังการาว่ารัสเซียเป็นสาเหตุให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่จากซีเรียเข้าไปในตุรกีและยุโรป มาดูว่ารัสเซียจะตอบโต้เยอรมันอย่างไรบ้าง

วันที่9 ก.พ.59 สำนักข่าว DW ของเยอรมันพาดหัวข่าวว่า "มอสโคว์ตอบโต้ในทางลบต่อการแสดงความคิดเห็นของ Merkel กรณีการทิ้งระเบิดในซีเรีย" (Moscow reacts adversely to Merkel's comments over Syria bombing)

โฆษกประจำตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่านายกรัฐมนตรี Angela Merkel ของเยอรมันควรที่จะระมัดระวังสิ่งที่เธอพูดเกี่ยวกับวิกฤตซีเรียด้วย

"พวกเราขอเรียกร้องอีกครั้ง ให้ทุกคนโปรดจงระมัดระวังเป็นอย่างมาก และมีความรับผิดชอบในการเลือกใช้คำพูด ต่อสถานการณ์ที่มีความละเอียดอ่อนอยู่แล้วในซีเรียในปัจจุบันนี้ และการยุติปัญหาในซีเรีย" นาย Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวเมื่อวันอังคารนี้

Dmitry Peskov กล่าวต่ออีกว่า รัสเซียไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศ ในทางตรงกันข้าม ไม่มีการประท้วงต่อสิ่งที่ Dmitry Peskov เรียกว่า "การกระทำที่ป่าเถื่อนของผู้ก่อการร้าย" เมื่อพวกเขา (ผู้ก่อการร้าย) ได้โจมตีกองกำลังของซีเรียในอดีต "ไม่มีใครออกแถลงการณ์ใดๆเกี่ยวกับการกระทำในลักษณะนั้นในเวลานั้นเลย รัสเซียมีเป้าหมายเฉพาะที่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสเท่านั้น" สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียก็รายงานข่าวนี้เช่นกัน

[ตอนนี้อียูหันมากดดันรัสเซียโดยใช้ข้ออ้างในการโจมตีผู้ก่อการร้ายที่จังหวัด Aleppo ซึ่งทำให้กองกำลังฝ่ายรัฐบาลมีชัยเหนือฝ่ายผู้ก่อการร้ายเป็นอย่างมากเพื่อโจมตีรัสเซีย เป็นที่น่าแปลกใจว่า ก่อนหน้าที่รัสเซียจะเข้าไปในซีเรีย กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯเข้าเริ่มแคมเปญจ์โจมตีทางอากาศในซีเรียนานแรมปีเช่นกัน ทำให้ประชาชนชาวซีเรียต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น เช่นรอบฐานทัพอากาศในเมือง Latakia และในกรุงดามัสกัส ตามแนวชายแดนซีเรีย-ตุรกี ในตุรกี และเข้าไปในยุโรป และประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบด้วย

แต่นายกรัฐมนตรีของเยอรมันไม่ออกมาตำหนิกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯซักคำ และไม่เคยตำหนิพวกกบฏฝ่ายค้านสายกลางตามที่สหรัฐฯและตะวันตกเรียกซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มทำสงครามกลางเมืองมาตั้งแต่ปี 2011 ซักคำเช่นกัน แต่หลังจากที่กองทัพรัสเซียเข้าไปช่วยกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียตามคำร้องขอของฝ่ายรัฐบาล ได้สามารถยึดคืนพื้นที่จากเหล่าผู้ก่อกการร้ายเพิ่มมากขึ้น และสามารถสังหารผู้ก่อการร้ายได้เป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีของเยอรมันออกมาชี้หน้าด่ารัสเซียว่าเป็นสาเหตุของการอพยพครั้งใหม่ซะอย่างนั้น

ถ้ารัสเซียไม่เข้าไปปราบปราบพวกผู้ก่อการ้าย คิดว่าการอพยพจะหยุดลงหรือไม่? ไม่มีทาง! และยิ่งกว่านั้น ประเทศซีเรียก็จะกลายเป็นประเทศไอซิสหรือประเทศดาอิชไปในที่สุด อย่างนั้นใช่ไหมที่ผู้นำเยอรมันต้องการ ยิ่งรัสเซียปราบไอซิสได้มากเท่าไร ฝ่ายที่ออกอาการกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือสหรัฐฯ ตะวันตก ตุรกี ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้นที่ให้การสนับสนุนกลุ่มที่ตัวเองเรียกว่ากบฏฝ่ายค้านซีเรีย และรวมไปถึงกลุ่มก่อการร้ายด้วย - ผู้แปล]

5.) วันที่ 9 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ปธน.Erdogan แบล็คเมล์อียู 3 หมื่นล้านยูโรกรณีแผนการแก้วิกฤตผู้อพยพ" (Erdogan Blackmailed EU for €30 Bln Over Migrant Crisis Plan)

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ระหว่างการประชุมกับนาย Donald Tusk ประธานสภายุโรป และนาย Jean-Claude Juncker ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นาย Recep Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีของตุรกีได้เรียกร้องเงินจำนวน 30 หมื่นล้านยูโรจากกรุงบรัสเซลส์เพื่อแก้ไขวิกฤตปัญหาผู้อพยพในยุโรป เอกสารเปิดเผย การเจรจากันเกิดขึ้นที่เมือง Antalya (ตุรกี) ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 เอกสารลับได้รับการเผยแพร่โดย Greek website Euro2Day

เอกสารดังกล่าวบอกว่า Erdogan ข่มขู่ว่าจะส่งผู้อพยพเข้าไปในยุโรป ในช่วงเวลานั้น อียูและตุรกีได้ตกลงกันเกี่ยวกับแผนการในการสนับสนุนเงินจำนวน 3 พันล้านยูโร (€3 billion) ให้กับกรุงอังการาเพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพ

อย่างไรก็ตาม Erdogan ได้ข่มขู่อีกว่า ตนเองจะใช้มาตรการต่างๆ หากอียูมีความล่าช้าในการรับตุรกีเข้าร่วมเป็นสมาชิกของอียู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Erdogan กล่าวว่า ตุรกีจะนำผู้ลี้ภัยขึ้นรถบัสส่งไปยังยุโรป และจะส่งผลให้ยุโรปกลายเป็น "มากกว่าเด็กชายคนหนึ่งที่เสียชีวิต" บนชายฝั่งตุรกีซะอีก

Erdogan ปฏิเสธที่จะรับเงินจำนวน 3 พันล้านยูโรภายในสองปี ซึ่งเขาได้ตกลงก่อนหน้านี้ Erdogan กล่าวว่าข้อเสนอควรจะเป็นอย่างน้อย 3 พันล้านยูโรต่อปี ไม่เช่นนั้นจะไม่มีข้อตกลงใดๆที่เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยที่จะได้ผลเลย เอกสารกล่าว

[สรุป แสบพอกันทั้ง Erdogan และอียู Erdogan อยากจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพอียูจนใจจะขาด แต่อียูก็ยังไม่ไว้่ใจหมอนี่ จึงทำทีเป็นจะรับ จะรับ แต่ก็ยังไม่รับซักที Erdogan ก็บอกว่าถ้าไม่รับ และไม่จ่ายตามที่พี่เรียกร้องไป งั้นพี่ก็จะปล่อยให้คลื่นผู้อพยพไหลเข้าไปในอียูหละนะ ซวยสิแมร์เกิล! สิ่งที่อียูกลัวมากที่สุดตอนนี้ก็คือเรื่องผู้อพยพนี่แหละ ปัญหาเหล่านี้ประเทศเหล่านั้นร่วมกันสร้างขึ้นมาเอง จะโทษใครหละครับ?

ขนเข้าไปอีกสิอาวุธหนะ ขนไปให้พวกกบฏฝ่ายค้านและพวกผู้ก่อการร้ายเยอะๆ จากนั้นจำนวนผู้อพยพก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การประท้วงต่อต้านผู้อพยพในยุโรปก็จะมีมากขึ้นด้วย แล้วก็มาโทษรัสเซียที่่เข้าไปปราบปรามผู้ก่อการร้ายในซีเรีย มาตรฐานยุโรปเขาหละ - ผู้แปล]

6.) เดี๋ยวขอเล่าข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกองทัพอังกฤษซักหน่อยนะครับ วันที่ 8 ก.พ.59 RT news เขียนคำบรรยายใต้คลิปในยูทูปของตนเองว่า "ดูเหมือนว่าจะมุ่งเผชิญหน้ากับรัสเซียมากกว่านะ: อังกฤษจัดซ้อมรบครั้งใหญ่ในประเทศจอร์แดน" (‘More likely aimed at countering Russia’: UK to hold large scale drills in Jordan)

สำนักข่าว The Telegraph ของอังกฤษรายงานว่า ทหารอังกฤษจำนวน 1,600 นายมุ่งหน้าสู่จอร์แดนสำหรับเกมสงคราม โดยเกมสงครามด้านโลจิสติกนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มั่นใจว่า กองทัพจะยังคงสามารถจัดส่งกองกำลังที่เข้มแข็งจำนวน 30,000 นายเข้าในในเขตวิกฤตที่ไหนในโลกก็ได้ แม้ว่าจะถูกปรับลดอย่างมากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา รายงานข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่ามีการขนยานพาหนะทางทหารจำนวน 300 คนเข้าไปยังจอร์แดนด้วย

[จอร์แดน มีชายแดนติดกับภาคใต้ของซีเรีย ส่วนชายแดนด้านอื่นติดกับอิรัค อิสราเอล และซาอุดิอาระเบีย - ผู้แปล]

เมื่อรัสเซียได้ยินข่าวว่าอังกฤษซึ่งเป็นพันธมิตรของนาโต้จัดซ้อมรบขนาดใหญ่ใกล้ซีเรีย รัสเซียก็สั่งให้มีการซ้อมรบกระทันหันขึ้นมาทันที สำหรับกองเรือทะเลดำและทะเลแคสเปี้ยน เรือรบหลายลำติดขีปนาวุธนำวิถี ซึ่งรวมทั้งเครื่องบินรบ Su-27 ที่ไคร์เมียด้วย

7.) ล่าสุด วันที่ 10 ก.พ.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "มีแผนจะบุกรุกซีเรียหรือเปล่า? ตุรกีจะปกป้อง 'พี่น้องในจังหวัด Aleppo' ของตนเอง นายกฯ Davutoglu (ของตุรกีกล่าว)" (Syria invasion plan? Turkey will defend its ‘Aleppo brothers,’ says PM Davutoglu)

รายงานข่าวบอกว่านาย Ahmet Davutoglu นายกรัฐมนตรีของตุรกีให้คำมั่นว่าจะคืน "หนี้แห่งประวัติศาสตร์" (historical debt) ให้กับ "พี่น้องชาวจังหวัด Aleppo" ของตุรกี (Turkey’s “Aleppo brothers”) ผู้ที่ช่วยปกป้องกประเทศในต้นศตวรรษที่ 20 เพียงไม่กี่วันหลังจากที่รัสเซียได้เตือนความตั้งใจของกรุงอังการาที่จะรุกรานซีเรียในขณะที่พวกกบฎในที่นั่นกำลังพากันอ้ำๆ อึ้งๆ

"พวกเราจะคืนหนี้แห่งประวัติศาสตร์ของพวกเรา ณ เวลาหนึ่ง พี่น้องของพวกเราจากจังหวัด Aleppo ที่ปกป้องเมือง Sanliurfa, Gaziantep, Kahramanmaras ปัจจุบันนี้พวกเรจะปกป้องเมือง Aleppo ทางประวัติศาสตร์ ชาวตุรกีทั้งหมดจะยืนอยู่ข้างหลังผู้ปกป้องของตนเอง" นาย Davutoglu กล่าวในที่ประชุมพรรคยุติธรรมและพัฒนาฝ่ายรัฐบาลซึ่งเขาเป็นหันหน้าพรรค

[แหมเริ่มต้้นซะสวย จะเป็นพิทักษ์เมือง Aleppo แต่ตอนท้ายบอกว่า "ชาวตุรกีทั้งหมดจะยืนอยู่ข้างหลังผู้ปกป้องของตนเอง" (All of Turkey stands behind its defenders.) แล้วจะให้ใครอยู่ข้างหน้าหละครับ? ก็ชาวเมือง Aleppo ไง เขาไม่ได้บอกว่า เขาจะนำหน้าชาวเมือง Aleppo ของซีเรียซะหน่อย เห็นได้ชัดว่าหมอนี่ฝันสูงมาก กะจะฮุบจังหวัด Aleppo ซึ่งเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของซีเรียไปหมดเลยแน่ๆ เวลาจะปลุกระดมหลอกให้คนอื่นไปตายแทนตัวเองนี่ พวกนี้มักจะใช้วาทกรรมแบบนี้แหละ - ผู้แปล]

คราวนี้มาดูสื่อฯรัสเซียสั่งสอนนายกฯ Davutoglu ของตุรกีบ้างนะครับ RT news ก็เอาความจริงที่เกิดขึ้นในอดีตมาเล่าซ้ำอีกครั้งว่า เห็นได้ชัดว่านาย Davutoglu กำลังอ้างถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (28 July 1914 – 11 November 1918) และเหตุการณ์ที่ตามก็คือสงครามประกาศอิสระภาพในตุรกี (Turkish War of Independence) ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการสรรเสริญเยินยอการป้องกันและยึดเมืองต่างๆของตุรกีคืนจากกองกำลังฝ่ายพันธมิตร (Allied forces)

Davutoglu ไม่ได้พูดถึงว่าชาวเติร์กได้ลากเข้าสู่สงครามโดยความทะเยอทะยานของจักรวรรดิอ็อตโตมันอย่างไร ตุรกีได้เขาสู่ความขัดแย้งโดยยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองท่า Odessa ของรัสเซียจากทะเล จากนั้นก็ประสบกับความพ่ายแพ้ที่น่าอดสูในเงื้อมมือของกองทัพรัสเซียในสนามรบทางใต้ของสงคราม ในช่วงเวลานั้น เมืองทั้งสามแห่งที่นาย Davutoglu เอ่ยชื่อมาได้เห็นชาวอาร์เมเนียและชนกลุ่มน้อยอื่นๆหลายพันคนถูกสังหารโหดโดยพวกชาตินิยมชาวเติร์ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวอาร์เมเนีย (Armenian Genocide) ซึ่งกรุงอังการาได้ปฏิเสธมาจนถึงทุกวันนี้ [ชัดนะครับท่านนายกฯ - ผู้แปล]

- จบ -

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
10/02/2559
----------
Kremlin Comments on Merkel's Statement on Russia's Airstrikes in Syria
Moscow reacts adversely to Merkel′s comments over Syria bombing | News | DW.COM | 09.02.2016
1,600 British troops head to Jordan for war game - Telegraph
https://www.rt.com/news/331886-erdogan-threatened-flood-migrants/
Erdogan Threatened to Flood Europe With Refugees Unless EU Deal Agreed
Erdogan Blackmailed EU for €30 Bln Over Migrant Crisis Plan
https://www.rt.com/news/331695-uk-war-games-war-russia/
Russian Warships Begin Mine Detection Drills in Caspian, Black Seas
https://www.rt.com/news/331968-turkey-syria-intervention-aleppo/
https://www.youtube.com/watch?v=n2JsdWrg1u0

 

ปอกเปลือก ทรราช

จีนประกาศ TPP ของสหรัฐฯไม่มีทางคว่ำเศรษฐกิจจีนได้ (US-led TPP can’t crush Chinese economy)



------------

วันนี้ขอนำเสนอข่าวเกี่ยวกับ TPP จากมุมมองของจีนบ้างนะครับ จริงๆแล้วอ่านเจอบทบรรณาธิการนี้ใน Global Times ของจีนตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.มาแล้ว ตั้งใจว่าจะแปลให้แฟนเพจได้อ่านบ้าง แต่ก็ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง จึงยังไม่มีโอกาสได้แปลซักที วันนี้ได้ฤกษ์หละ ลองอ่านกันดูนะครับเผื่อจะมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่อง TPP ของสหรัฐฯมากขึ้น

อ้อ… ข่าวเดียวกันนี้ Sputnik news ของรัสเซียก็นำไปลงเช่นกัน โดยพาดหัวข่าวว่า "การแข่งขันการค้าเชิงยุทธศาสตร์: ทำไม TPP นำโดยสหรัฐถึงไม่สามารถโดดเดี่ยวจีนได้" (Strategic Trade Rivalry: Why US-Led TTP Cannot Isolate China) น่าสนใจใช่ไหมหละครับ มาดูกันเลย...

กลุ่มประเทศหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ Trans-Pacific Partnership (TPP) ที่ได้ลงนามร่วมกันโดยรัฐมนตรีจาก 12 ประเทศในนิวซีแลนด์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (12 ประเทศที่ว่านั้นประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร และเวียตนาม) จะมีผลบังคับใช้หลังจากที่สภาของแต่ละประเทศให้สัตยาบันแล้วเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่กระบวนการนี้จะเสร็จสิ้น [แปลว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อไป - ผู้แปล]

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า ทีพีพี (TPP) "จะทำให้สหรัฐฯได้ประโยชน์เหนือมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอื่น กล่าวคือ จีน" โอบามายังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า "TPP จะอนุญาตให้อเมริกา - และไม่ใช่ประเทศต่างๆเช่นจีน - เขียนกฎของถนนในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในภูมิภาคแบบไดนามิกเช่นเอเซีย-แปซิฟิกนี้"

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โอบามาพูดถึงจีนในลักษณะนี้ในที่สาธารณะ ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนใจแคบ (narrow-mindedness) ของเขา ในฐานะผู้นำของมหาอำนาจโลกคนหนึ่ง

กลุ่มประเทศสมาชิกของ TPP ทั้ง 112 ประเทศคิดเป็นเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ของเศรษฐกิจโลก แต่มูลค่าทางการค้าทั่วโลกของประเทศเหล่านั้นมีแค่ 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นักวิเคราะห์หลายคนได้พูดคุยเกี่ยวกับ "มาตรฐานระดับสูง" (high standards) ของ TPP เช่น หุ้นของบริษัทผู้ประกอบการที่เป็นรัฐวิสาหกิจ กฎเกณฑ์สำหรับการปกป้องสิ่งแวดล้อม สิทธิ์ด้านแรงงาน และลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา

ลักษณะที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ TPP ก็คือมันเป็นการรวมศูนย์อยู่ที่สหรัฐฯ (it centers on the US) ด้วยผลประโยชน์ของผู้ประกอบการสหรัฐฯที่จะได้รับความสำคัญสูงสุดในระหว่างคู่เจรจาทั้งหลาย [ฟังไว้นะครับสำหรับท่านที่เชียร์จะให้ไทยเป็นขี้ข้าอเมริกาผ่านการสนับสนุนให้ไทยเข้าร่วม TPP หนะ - ผู้แปล]

ดูเหมือนว่าสหรัฐฯจะได้เปรียบในการเป็นผู้ออกกฎ TPP เพียงแต่แต่งแต้มภาพวาดที่อยู่บนความปรารถนาของสหรัฐฯสำหรับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของเอเซีย-แปซิฟิกในศตวรรษที่ 21 เท่านั้น

สิ่งที่ศตวรรษที่ 21 กำลังมองหาอย่างแท้จริง และสิ่งที่เป็นกฎแท้จริงก็คือจะต้องมีการกำหนดรูปทรงโดยปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างแท้จริง ซึ่งรวมถึงความคึกคักด้านการค้าของกลุ่มประเทศเศรษกิจเกิดใหม่อย่างจีน และทำให้เกิดความต้องการที่หลากหลายในแต่ละประเทศ ซึ่งรวมทั้งประเทศที่เป็นสมาชิกของ TPP ด้วย องค์ประกอบทั้งสองอย่างนี้ยังไม่ได้สะท้อนให้เห็นใน TPP อย่างเพียงพอ

โอบามาได้เน้นย้ำว่า มันจะต้องเป็นสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นจีน ที่จะเป็นผู้กำหนดกฎต่างๆในศตวรรษที่ 21 ซึ่งตอกย้ำความประทับใจของประชาชนที่ TPP มีวัตถุประสงค์ไม่รวมจีนเข้ามาด้วย

[ขี้แมวนี่! อ้างประชาชนอีกแล้ว "ตอกย้ำความประทับใจของพวกนายทุน" สิไม่ว่า เขาประท้วงต่อต้านโครงการ TPP และ TTIP (Transatlantic Trade and Investment Partnership) ของสหรัฐฯกันทั่วโลก คุณโอบามาไม่ได้อ่านข่าวหรือดูข่าวจาก RT news ของรัสเซียบ้างหรือไงครับ แม้กระทั่งในสหรัฐฯเองก็มีการประท้วงต่อต้านมากมายด้วย CNN และ BBC กระทรวง propaganda ของสหรัฐฯและอังกฤษไม่นำเสนอข่าวเหล่านี้ให้ท่านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้รับรู้บ้างเลยหรือ? เพจ "ปอกเปลือก ทรราช" ลงข่าวพวกนี้บ่อยมากนะครับ เข้ามาอ่านได้นะ อ่ะนิดนุง คริๆ - ผู้แปล]

Global Times ของจีนกล่าวต่ออีกว่า ดูเหมือนว่า กรุงวอชิงตันจะมีความโปร่งใสมากที่ไม่ได้ใส่ใจกระตุ้นการแข่งขันการค้าด้านยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่ไปไกลเหนือกว่าการแข่งขันปรกติ [สื่อฯจีนเหน็บสหรัฐฯ - ผู้แปล]

หากว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ TPP ก็อยู่ไกลเกินกว่าที่จะรักษาความปลอดภัยให้กับ "การครอบครอง" (domination) ของสหรัฐฯในเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21 ประเทศสมาชิก TPP ทั้งหลายต่างก็มีผลประโยชน์ของตนเองทั้งนั้น TPP ไม่สามารถที่จะกีดกันประเทศเหล่านั้นออกจากการค้าขายกับจีนได้ และประเทศเหล่านั้นก็จะไม่เลือกข้างระหว่างกรุงปักกิ่งและกรุงวอชิงตันด้วย ในขณะเดียวกัน บางทีมันอาจจะเป็นกระแสที่ว่าอิทธิพลของสหรัฐฯกำลังเสื่อมถอยก็ได้ สหรัฐฯไม่สามารถที่จะผูกประเทศต่างๆเข้ามาอยู่ภายใต้กฎของ TPP ได้

จีนไม่สามารถที่จะแข่งขันกับสหรัฐฯในการออกกฎ และผลประโยชน์ของจีนก็อยู่ที่ว่าจีนสามารถที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ตราบเท่าที่เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโต มูลค่าของเศรษฐกิจที่เกิดใหม่และโอกาสทางการค้าใหม่ก็จะเป็นสิ่งที่โดดเด่นมากขึ้น ซึ่ง TPP ก็จะต้องมีการปรับตัวในบางแนวทาง

จีนควรจะอยู่กับการดำเนินการทางเศรษฐกิจของตนเองซึ่งจะดีกว่าการบีบคั้นสติปัญญาของตนเองเพื่อแข่งขันกับ TPP - จบ

[แวะเข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการค้าทั่วโลกจากเว็บไซต์ขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งมีข้อมูลเยอะมาก แต่ในรายงานที่ชื่อว่า "Modest trade recovery to continue in 2015 and 2016 following three years of weak expansion" ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2558 ในตารางที่ 3 Leading merchandise exporters and importers, 2014 ในส่วนของภาคผนวก ซึ่งแสดงตัวเลขการจัดอันดับประเทศผู้ส่งออกและผู้นำเข้าจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด 30 อันดับจากทั่วโลก

ในส่วนของประเทศที่ส่งออกมากที่สุด อันดับที่ 1 คือจีน (2,343 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 12%) อันดับที่ 2 คือ สหรัฐฯ มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1,623,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (8.6%) อันดับที่ 3 คือเยอรมัน มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1,551,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (8.0%) ไทยอยู่อันดับที่ 24 มีมูล่าการส่งออกอยู่ที่ 228,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.2%)

ในส่วนของการนำเข้า อันดับที่ 1 ได้แก่สหรัฐฯ มีมูลค่าการนำเข้า 2,409,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (12.7%) อันดับที่ 2 คือจีน 1,960,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (10.3%) อันดับที่ 3 คือเยอรมัน 1,217,000 ล้านเหรียญ (6.4%) ไทยอยู่อันดับที่ 23 มีมูลค่าการนำเข้า 228,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.2%)

เฉพาะข้อมูลในส่วนนี้ แสดงให้เห็นได้ว่า ผู้ประกอบการด้านการส่งออกชาวจีนและเยอรมันมีมูลค่าการส่งออกมากว่านำเข้า ในขณะที่สหรัฐฯเจ้าโลกซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว กลับมียอดการนำเข้าที่สูงกว่าการส่งออก ญี่ปุ่นก็นำเข้ามากกว่าส่งออกเช่นกัน เจริญ!

พูดถึงจีนแต่ไม่ได้พูดถึงรัสเซียก็กะไรอยู่นะ วันที่ 2 สำนักข่าว Russia Insider เขียนคำบรรยายได้คลิปข่าวหนึ่งว่า "ปูตินประกาศสงครามกับ GMO: รัสเซียมุ่งที่จะเป็นฮับด้านอาหารออร์แกนิค (ปลอดสารพิษ) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" (Putin declares war on GMO: Russia aims to be largest organic food hub)

ใต้คลิปนั้นเขียนเอาไว้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินต้องการที่จะเป็นคิงของอาหารปลอด GMO ปธน.ของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียสามารถที่กลายเป็นผู้ให้บริการด้านอาหารที่ทำให้มีสุขภาพดี สะอาดตามระบบนิเวศวิทยา และมีคุณค่าอาหารสูง ที่กำลังขาดแคลนอยู่ในตลาดตะวันตก รายใหญ่ที่สุดในโลกได้ GMO ถูกห้ามในรัสเซียซึ่งผู้ส่งออกสินค้าการเกษตรสามารถทำยอดถึง 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2015 ในขณะที่ 80% ของอาหารอเมริกันปนเปื้อน GMO แต่ก็แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำไป เนื่องจากสภาคองเกรสไม่ได้อนุญาตให้มีการติดฉลากบนผลิตภัณฑ์ GMO ในปี 2558

RT news ได้ลงข่าวนี้ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2558 โดยกล่าวเพิ่มว่า ปูตินได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าประเทศรัสเซียจะเป็นประเทศที่สามารถผลิตอาหารได้อย่างพอเพียงด้วยตนเองภายในปี 2563

ในขณะที่สหรัฐฯกำลังเดินสายล็อบบี้ให้ประเทศต่างๆรับสินค้า GMO ของตนเองผ่าน TPP รัสเซียมองมุมต่างทันทีว่า ฉันจะนี่แหละจะเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารออร์แกนิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดูซิว่า มนุษย์จะนิยมอาหาร GMO โอบาม่าหรือว่าอาหารปลอด GMO กันแน่? เป็นไงครับวิสัยทัศน์ของผู้นำรัสเซีย - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
11/02/2559
----------
Strategic Trade Rivalry: Why US-Led TTP Cannot Isolate China
US-led TPP can’t crush Chinese economy - Global Times
https://www.wto.org/english/news_e/pres15_e/pr739_e.htm
https://www.youtube.com/watch?v=hDcwSd_oYr4
https://www.rt.com/business/324605-russia-putin-healthy-food/

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/yUEJWyq9pT8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

กองทัพอากาศซีเรียและรัสเซียจัดส่งความช่วยเหลือด้านมุษยธรรมไปให้พลเรือนในพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมโดยกลุ่มก่อการร้ายในจังหวัด Deir ez-Zor โดยหย่อนให้ทางอากาศ
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=yUEJWyq9pT8

 

ปอกเปลือก ทรราช



อิหร่านแกล้งปล่อยภาพทหารเรือสหรัฐฯปล่อยโฮหลังถูกองทัพเรืออิหร่านจับกุมละเมิดน่านน้ำของอิหร่าน เมื่อเดือนที่ผ่านมา
-------------
Iran Releases New Photos of Detained US Sailors Crying in Persian Gulf