ติดตามสถานะการณ์

ไอซิสจ่อสร้างฐานทัพในแอฟริกาเหนือเพื่อโจมตียุโรป
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 3, 2016



islamtimes – หนังสือพิมพ์ อัลฮะยาอ์ อัลอาราบียะห์ รายงานว่า องค์กรยุติธรรมและการพัฒนาสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรระดับภูมิภาคสำหรับการวิจัยในด้านของกลุ่มก่อการร้าย ออกมาเปิดเผยกรณีที่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสจะเข้าไปครอบงำประเทศในแถบจะงอยแอฟริกา คือ โซมาเลีย จิบูตี เอริเทรี เคนยาและเอธิโอเปีย เพื่อสร้างรัฐอิสลามตามที่ได้กล่าวอ้างให้เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้

ไอซิสมีเป้าหมายที่จะใช้ควบคุมของช่องแคบ Bab El-Mandeb และทะเลสีแดง หลังจากที่พวกเขาถูกจำกัดอิทธิพลในอิรักและซีเรีย

สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีได้วางแผนใหม่ภายใต้กรอบในความพยายามที่จะดึงดูดคนยากจนในทวีปแอฟริกา เพื่อใช้บุคคลเหล่านี้ในการเป็นเครื่องมือทำสงครามและเผยแพร่ขยายอิทธิพลในแอฟริกา

องค์ยุติธรรมและการพัฒนาสิทธิมนุษยชนยังได้ชี้ถึงประเด็น ที่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสมีวางแผนที่จะเข้าไปครอบงำประเทศ ชาด มาลี ไนจีเรีย มอริเตเนีย Burkina Faso เพื่อสถาปนารัฐอิสลามขึ้นมาตามประเทศแถบชายหาดดังกล่าว

กลุ่มนี้ที่ยังมีแผนในการย้ายสมาชิกก่อการร้ายจากชาติต่างๆเหล่านี้เข้าไปในลิเบีย โดยในเร็ว ๆ นี้เนื่องด้วยการแผ่อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของอัลกออิดะห์จะทำให้ลิเบียเป็นเมืองหลวงใหม่ของกลุ่ม ก่อการร้ายไอซิสในทวีปแอฟริกา

ซัยดาน อัลกอนาอีย์ โฆษกองค์ยุติธรรมและการพัฒนาสิทธิมนุษยชน กล่าวย้ำในเรื่องนี้ว่า ไอซิสพยายามที่จะเจาะฐานไปยังประเทศแอฟริกาเหนือโดยเฉพาะโมร็อกโก ตูนิเซีย และแอลจีเรียโดยผ่านเส้นทางจากลิเบีย เพื่อประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามในทวีปแอฟริกาซึ่งจะสามารถล้อมรอบแอฟริกาจากทุกด้าน และจากประเทศเหล่านี้เป็นฐานสำหรับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในยุโรปและสามารถใช้ประโยชน์จากการปิดล้อมช่องแคบยิบรอลตา

ตามคำอ้างของเจ้าหน้าที่ขององค์ยุติธรรมและการพัฒนาสิทธิมนุษยชน ว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสมีแผนที่จะสร้างเรือรบของตัวเองในแอฟริกาเหนือ เพื่อสามารถใช้เส้นทางนี้ในการโจมตียุโรปโดยเฉพาะฝรั่งเศสและอิตาลี

ก่อนหน้านี้มีไอซิสมีความพยายามที่จะจัดตั้งรัฐอิสลามในแอลจีเรียแต่ด้วยการความชาญฉลาดของกองทัพและอาสาสมัครในประเทศ ได้ทำการสังหารแกนนำ อับดุลมาลิก โกรีย์ ทำให้แผนดังกล่าวล้มเหลวซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ผู้ก่อการร้าย

นอกจากนี้ทางตำรวจยุโรปได้ออกมาเตือนแผนการใหม่ของกลุ่มก่อการร้ายในการโจมตีประเทศยุโรป

รายงานระบุว่า มีผู้ก่อการร้ายประมาณ 400 กว่าคน ส่วนใหญ่มาจากเยอรมนีอังกฤษ ใช้เส้นทางจากเบลเยียมข้ามไปสู่ภูมิภาคในเอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ไอซิสจ่อสร้างฐานทัพในแอฟริกาเหนือเพื่อโจมตียุโรป | abnewstoday

 

อเมริกามอบเงินช่วยเหลือ100 ล้านดอลลาร์แก่อิสราเอลเพื่อสำรวจและทำลายอุโมงค์ในฉนวนกาซา โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 3, 2016



แฟ้มภาพ ทหารอิสราเอลในอุโมงค์ใต้ดินของชายแดนฉนวนกาซา
presstv – ศูนย์ข่าวสารปาเลสไตน์ รายงานจากวิทยุอิสราเอล ว่า อเมริกาได้จัดสรรงบประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ให้กับอิสราเอลเพื่อโครงการร่วมในการตรวจสอบและทำลายอุโมงค์ในฉนวนกาซา

Amos Gilad หัวหน้าคณะมนตรีด้านการเมืองและความมั่นคงของกระทรวงกลาโหมอิสราเอล เผยว่า อเมริกาให้การสนับสนุนภายใต้กรอบของโครงการร่วมกัน และเพื่อค้นหาอุโมงค์ที่ขุดจากฉนวนกาซาไปยังดินแดนในปี 1948

ในการนี้ Ofer Shlh สมาชิกรัฐสภาอิสราเอลฝ่ายกิจการความมั่นคงและต่างประเทศอิสราเอล เผยว่า แทนที่อิสราเอลจะเข้าไปยังดินแดนของฉนวนกาซาและก่อสงครามในสถานการณ์ระดับนานาชาติขณะนี้ที่ไม่เอื้ออำนวยนั้น สามารถใช้เครื่องที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงในการตรวจสอบอุโมงค์ในฉนวนกาซาเพื่อช่วยกองทัพในการทำลายอุโมงค์

Gadi Yrkvny ประธานสภาภูมิภาค Eshkol เผยว่า หากทางสภารับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากอุโมงค์ที่ขุดภายใต้การตั้งถิ่นฐานดังกล่าว ก็จะรีบแจ้งให้กับกองทัพทราบทันที

ขณะเดียวกัน อาตี ชะลาฮ์ นายทหารอิสราเอล เผยว่า ฮามาสก็ยังคงสร้างอุโมงค์เพิ่มมากขึ้นและกำลังมุ่งในการการสร้างโครงสร้างขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่


อเมริกามอบเงินช่วยเหลือ100 ล้านดอลลาร์แก่อิสราเอลเพื่อสำรวจและทำลายอุโมงค์ในฉนวนกาซา | abn

 

ปอกเปลือก ทรราช
ตัวอย่างความจริงใจสไตล์นาโต้... ตุรกีไม่อนุญาตให้เครื่องบินของรัสเซียบินสังเกตการณ์ตามแนวชายแดนของซีเรียตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ



-------------
วันที่ 4 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การปฏิเสธการบินสังเกตการณ์ของตุรกีมีแต่จะเติมเชื้อความกังวลว่าตุรกีให้การสนับสนุนดาอิชเท่านั้น" (Turkey's Refusal of Observation Flight Only Fuels Worries It Supports Daesh) ส่วน RT news พาดหัวข่าวว่า "แบบอย่างที่อันตราย: ตุรกีปฏิเสธเที่ยวบินสังเกตการณ์ของรัสเซียตามแนวชายแดนของซีเรีย" (‘Dangerous precedent’: Turkey denies Russian observation flight along Syrian border)
รายงานข่าวบอกว่า ตุรกีได้กำหนด "แบบอย่างที่เป็นอันตราย" (Dangerous precedent) ขึ้นมาด้วยการปฏิเสธเที่ยวบินสังเกตการณ์เหนือดินแดนของตุรกีตามแนวชายแดนซีเรีย กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าว ซึ่งให้สัญญาว่าจะ "ตอบโต้ในประเด็นนี้" ต่อการละเมิดพันธกรณีของกรุงอังการาภายใต้สนธิสัญญาการเปิดน่านฟ้า (Open Skies Treaty) ระหว่างประเทศ
สนธิสัญญาว่าด้วยการเปิดน่านฟ้า (Treaty on Open Skies) (ร่างขึ้นในปี 1992) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2002 ได้อนุญาตให้เที่ยวบินสังเกตการณ์ทางอากาศที่ไม่ติดอาวุธบินเหนือดินแดนของประเทศสมาชิกที่ร่่วมลงนามร่วมกันจำนวน 34 ประเทศซึ่งรวมทั้งตุรกีด้วย อย่างไรก็ตามเครื่องบิน An-30B ของรัสเซียถูกห้ามไม่ให้ปฏิบัติการบินสอดแนมเหนืออาณาเขตของตุรกี ซึ่งมีกำหนดการระหว่างวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์นี้ โดยไม่ได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
"หลังจากที่คณะผู้แทนของรัสเซียได้เดินทางไปถึงตุรกี และได้ประกาศเส้นทางที่ต้องการ (จะสำรวจ) เจ้าหน้าที่ทางกองทัพของตุรกีได้ปฏิเสธที่จะอนุญาให้มีการบินตรวจสอบ โดยอ้างคำสั่งจากกระทรวงการต่างประเทศของตุรกี" Sergey Ryzhkov ประธานศูนย์ลดความเสี่ยงด้านอาวุธนิวเคลียร์แห่งชาติจากกลาโหมของรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์
นี่เป็นครั้งแรกที่ตุรกีปฏิเสธการบินสังเกตการณ์ (observation flight) เหนืออาณาเขตของตนเองจากฝ่ายรัสเซีย นับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมาภายใต้สนธิสัญญาการเปิดน่านฟ้า รัสเซียได้ดำเนินการบินสังเกตการณ์อย่างประมาณปีละสองครั้ง ตุรกีได้บินเหนือน่านฟ้าของรัสเซียประมาณปีละสี่ครั้ง
เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างตุรกีและรัสเซียได้ขยายออกไปหลังจากที่เครื่องบินทิ้งระเบิด (Su-24) ของรัสเซียถูกตุรกียิงตกในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา กรุงอังการาได้ปฏิเสธที่จะดำเนินการตามสนธิสัญญาดังกล่าว
"การกำหนดเส้นทางการบินรวมถึงการสังเกตการณ์พื้นที่ที่อยู่ติดกันระหว่างชายแดนตุรกีและซีเรีย ซึ่งรวมทั้งสนามบิน (ของตุรกี) ที่นาโต้ใช้งานด้วย" Ryzhkov กล่าว แถลงการณ์ก่อนหน้านี้ได้เผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งได้กำหนดเอาไว้ว่า การบินสำรวจจากฝ่ายรัสเซียจะจัดขึ้นตามเส้นทางที่ได้มีการตกลงกันไว้ นอกจากนี้แล้ว เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ของตุรกีที่อยู่บนเครื่องบินยังมีโอกาสที่จะควบคุมการใช้อุปกรณ์สอดแนมได้ด้วย
สถานการณ์ความตึงเครียด (ระหว่างสองประเทศ) ได้เสื่อมทรามลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อทั้งกรุงอังการาและพันธมิตรนาโต้ของตุรกีไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆออกมาหลังจากที่ได้กล่าวหาว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-34 ของรัสเซียได้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกี กรุงมอสโคว์มองว่าการพัฒนาครั้งล่าสุดนี้ เป็นการละเมิดสนธิสัญญา และได้เตือนว่า "การเอาคืน" (relevant action) จะเกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้
"เนื่องจากผลของการละเมิดข้อกำหนดในสนธิสัญญา และการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์ในส่วนของตุรกี แบบอย่างที่เป็นอันตรายได้ถูกสร้างขึ้นมาเกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารที่ไม่มีการควบคุมของประเทศสมาชิกในสนธสัญญาการเปิดน่านฟ้า" Ryzhkov กล่าว "พวกเราจะไม่จากไปโดยไม่ให้ความสนใจเลย และปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องในการละเมิดสนธิสัญญาเปิดน่านฟ้าในส่วนของสาธารณรัฐตุรกี"
[ชัดนะครับ Erdogan และนาโต้ เห็นได้ชัดว่านาโต้กำลังพยายามยั่วยุและหาเรื่องรัสเซีย แม้ว่าจะเป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ได้ลงนามร่วมกันแล้วก็ตาม แต่ สหรัฐฯ อียู และพันธมิตรนาโต้ต่างก็พากันหุบปากเงียเกี่ยวกับกรณีนี้ ถ้ารัสเซียเป็นฝ่ายละเมิดสนธิสัญญาฉบับนี้ก่อน เชื่อได้เลยว่า ฝ่ายที่จะโวยวายเป็นอันดับแรกนั้นก็คือนาโต้และสหรัฐฯนั่นแหละ แต่คราวนี้พรรคพวกของตัวเองเป็นฝ่่ายกระทำ จึงต้องรักษาระบบสองมาตรฐานแบบสหรัฐฯและตะวันตกเอาไว้ รัสเซียบอกว่า งานนี้ไม่มีลืมครับ เดี๋ยวมีจัดหนักให้แน่ๆ Erdogan รอรับได้เลย อย่าร้องเจี๊ยก! ทีหลังละกัน คบกับพวกอัลไซเมอร์ที่ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาสัญญานี่น่าปวดหัวและน่าเบื่อจริงๆ - ผู้แปล]
Konstantin Kosachev ประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศแห่งสภาสูงของรัสเซียกล่าวว่า การละเมิดสนธิสัญญาของตุรกีมีแต่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกีมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก
"นี่ถือว่าเป็นรางร้าย (unfortunate) และไม่ได้นำไปสู่ทางออกจากวิกฤตนี้เลย ในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกีที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ กรณีนี้เป็นการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศจากฝ่ายตุรกีภายใต้สนธิสัญญาเปิดน่านฟ้าอย่างเห็นได้ชัด" Konstantin Kosachev กล่าวกับสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย
ในการพัฒนาย่อย ซึ่งกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ประกาศเมื่อวันอังคารนี้ว่า จะมีคณะผู้ตรวจสอบจากฝ่ายรัสเซียอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางไปเยือนกองทัพตุรกี ซึ่งจะมีการเข้าฟังสรุปบรรยายโดยผู้บัญชาการจากกองทัพของตุรกี เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความร่วมมือตามเอกสารเวียนนา 2011 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย
[เมื่อเร็วๆนี้รัสเซียได้ส่งคณะผู้ตรวจสอบทางกองทัพของตนเองไปตรวจสอบการดำเนินงานในกองทัพของเยอรมันมาแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวของตุรกีบ้างที่จะถูกตรวจสอบโดยรัสเซีย ไม่รู้ว่างานนี้ตุรกีจะเล่นแง่ งอแงอีกหรือไม่]
2.) มาดูอีกข่าวหนึ่งบ้างนะครับ เพิ่งจะเข้ามาเมื่อตะกี้นี่เอง โดย RT news พาดหัวข่าวว่า "มีมูลที่จะเชื่อได้ว่าตุรกีกำลังวางแผนที่จะรุกรานทางทหารในซีเรีย - กองทัพรัสเซียกล่าว" (Grounds to believe Turkey planning military invasion in Syria - Russian military)
พัฒนาการตามแนวชายแดนระหว่างตุรกีและซีเรียได้สร้างมูลเหตุที่สำคัญที่จะทำให้เกิดความสงสัยได้ว่า กรุงอังการากำลังวางแผนการรุกรานด้วยกองทัพในซีเรีย กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าว
"พวกเรามีมูลเหตุที่ชัดเจนที่จะสงสัยเกี่ยวกับการเตรียมการที่เข้มข้นโดยตุรกีสำหรับการรุกรานทางทหารในดินแดนที่เป็นอธิปไตยของประเทศซีเรีย" พล.ต.Igor Konashenkov โฆษกกลาโหมของรัสเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าว
เมื่อเร็วๆนี้กลาโหมของรัสเซียแสดงหลักฐานว่ามีการยิงปืนใหญ่จากฝั่งตุรกีเข้าใส่ที่พักอาศัยของพลเรือทางภาคเหนือของจังหวัด Latakia ของซีเรียซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนของตุรกี "พวกเรารู้สึกประหลาดใจว่า ผู้แทนขี้จ้อ (the talkative representatives) ของเพนตาก้อน นาโต้ และองค์กรต่างๆจำนวนมากที่อ้างว่าปกป้องสิทธิมนุษยชนในซีเรีย แม้จะมีการเรียกร้องของพวกเราให้ตอบสนองต่อการกระทำเหล่านี้ แต่ก็ยังคงเงียบ [เกี่ยวกับกรณีการยิงปืนใหญ่จากฝั่งตุรกี]" พล.ต.Igor Konashenkov กล่าว
พล.ต.Igor Konashenkov กล่าวว่า "ตุรกีกำลังให้การสนัสนุนผู้ก่อการร้ายในเมืองต่างๆในซีเรีย เช่น Idlib และ Aleppo ด้วยกำลังพล (manpower) และอาวุธ"
โฆษกกลาโหมของรัสเซียได้แสดงภาพถ่ายที่จุดผ่านแดนเมือง Reyhanli ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า "ผ่านจุดผ่านแดนตรงนี้ - ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่วงกลางคืน - พวกผู้ก่อการร้าย ที่ยึดเมือง Aleppo และ Idlib ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย กำลังได้รับการสนับสนุนด้วยอาวุธและนักรบจากดินแดนฝั่งตุรกี"
"ตุรกีพยายามที่จะปกปิดกิจกรรมทางทหารที่ผิดกฎหมายของตนเองตามแนวชายแดนของซีเรีย และได้ยกเลิกการบินสังเกตการณ์ของรัสเซียตามที่ได้มีการตกลงกันไว้เหนือดินแดนของตนเอง ก็เพื่อเรื่องนี้แหละ" Konashenkov กล่าว
"ขั้นตอนเหล่านี้ดำเนินการโดยประเทศนั้น ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ ไม่มีทางที่จะเสริมสร้างความไว้วางใจและความปลอดภัยในยุโรปได้" โฆษกกลาโหมของรัสเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าว
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
04/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/331206-turkey-russian-observation-flight/
Turkey's Refusal of Observation Flight Only Fuels Worries It Supports Daesh
https://www.rt.com/news/331278-turkey-military-invasion-syria/

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/6iAGFQnQvCM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ผู้ประท้วงด่านายจอห์น แคร์รี่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลีว่า "คุณสร้างดาอิชขึ้นมา" (You created Daesh!) ชัดเจนมากครับ อ้าว คนแสดงความคิดเห็นต่างถูกหิ้วออกนอกห้องประชุมซะแล้ว เสรีภาพแบบไหนหละนี่?
----------------
https://www.youtube.com/watch?v=6iAGFQnQvCM

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/DHUNf0soADU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
ประชาชนชาวนิวซีแลนด์ราย 1,000 กว่าคนพากันเดินขบวนประท้วงข้อตกลง TPP ของสหรัฐฯ (4 ม.ค.59) ถ้ามันดีจริง แล้วเขาจะประท้วงกันในหลายประเทศทำไมครับท่านโอบาม่า?
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=DHUNf0soADU

 

ปอกเปลือก ทรราช
ซาอุดิอาระเบียประกาศพร้อมจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าร่วมกับพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯในซีเรีย, ลีลาลิ้นของอิสราเอล: "ดาอิชเป็นศัตรูของอิสราเอล" หลังจากเดือนก่อนเพิ่งประกาศว่าหากให้เลือกระหว่างอิหร่านกับผู้ก่อการร้ายดาอิช อิสราเอลขอเลือกดาอิช



-------------
1.) วันที่ 5 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ซาอุดิอาระเบียประกาศพร้อมส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปรุกรานซีเรีย" (Saudi Arabia Declares Its Ground Forces Ready to Invade Syria) ส่วน RT news พาดหัวข่าวว่า "ซาอุดิอาระเบียพร้อมจะเข้าร่วมในปฏิบัติการภาคพื้นดินนำโดยสหรัฐฯในซีเรีย - โฆษกกองทัพกล่าว" (Saudi Arabia ready to take part in any US-led ground operations in Syria – military spokesman)
RT รายงานว่า ซาอุดิอาระเบียได้แสดงความพร้อมของตนเองที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย หากกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯตัดสินใจว่าปฏิบัติการเช่นนั้นมีความจำเป็น ที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมของซาอุดิอาระเบียกล่าว
"ราชอาณาจักรพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในปฏิบัติการภาคพื้นดินที่พันธมิตร [ต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิส] อาจจะตกลงให้ดำเนินการในซีเรีย" พลจัตวา Ahmed Asseri ซึ่งเป็นโฆษกของกองกำลังพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียในเยเมนกล่าวกับสำนักข่าว al-Arabia (และโพสต์ในทวิตเตอร์ด้วย)
Asseri กล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียเป็นสมาชิกที่มีความกะตือรือร้นในพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ตั้งแต่เครื่องบินรบของประเทศได้ปฏิบัติภารกิจทางอากาศ 190 กว่าเที่ยวใส่เป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส
[ใส่พลเรือนและบ้านเรือนของประชาชน รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างโครงสร้างพื้นฐานของชนเผ่าฮูติในเยเมนสิไม่ว่า เด็ก ผู้หญิง คนชราชาวเยเมนเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบของพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียแทบจะทุกวัน - ผู้แปล]
"หากมีฉันทามติจากผู้นำของพันธมิตร ราชอาณาจักรก็มีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมในภารกิจเหล่านี้ เนื่องจากพวกเราเชื่อว่าปฏิบัติการทางอากาศไม่ใช่แนวทางที่ดีเลิศ (…we believe that aerial operations are not the ideal solution) และจะต้องมีการผสมผสานกันทั้งสองด้านทั้งจากปฏิบัตการทางอากาศและภาคพื้นดินด้วย" โฆษกกองทัพของซาอุดิอาระเบียเน้นย้ำ
เมื่อ (นักข่าว) ถามความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอของฝ่ายซาอุดิอาระเบีย นายจอห์น เคอร์บี้ (John Kirby) โฆษกก.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้เห็นข้อเสนอนนั้น แต่เน้นย้ำว่า โดยปรกติแล้วกองกำลังพันธมิตรสนับสนุนการมีหุ้นส่วนที่จะมีส่วนร่วมมากขึ้นในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายไอซิส
[ก็รัสเซีย กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย อิหร่าน และนักรบเฮชบอลเลาะห์ไงครับคุณ Kirby แต่ไม่เห็นสหรัฐฯบอกว่ายินดีที่มีรัสเซียเข้าไปต่อสู้ปราบปราบขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียนิ? - ผู้แปล]
"ผมจะไม่แสดงความคิดเห็นแบบจำเพาะเจาะจงในเรื่องนี้ จนกว่าพวกเราจะได้มีโอกาสทบทวนมันเสียก่อน" Kirby กล่าวในการสรุปข่าวต่อสื่อมวลชน
กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐ (US-led coalition) ได้มีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่ขบวนการก่อการร้ายไอซิสตั้งแต่กลางปี 2014 ตลอดเวลาของปฏิบัติการนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าของสหรัฐฯ ได้แถลงอยู่บ่อยๆว่า จะไม่มีกองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐฯบนแผ่นดินของซีเรีย (…there will be no US boots on the ground in Syria.)
[ส่วนกลาโหมของสหรัฐฯ ก็ออกมามาขู่ยิกๆรายสัปดาห์ว่าสหรัฐฯจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปเพิ่มในซีเรียและพยายามเดินสายล็อบบี้สมาชิกอื่นๆในพันธมิตรนี้ให้ส่งทหารของตนเองเข้าไปในซีเรียด้วย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ - ผู้แปล]
2.) มาดูความจริงอีกด้านหนึ่งบ้างว่าซาอุดิอาระเบียมีศักยภาพที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปในซีเรียร่วมกับพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯตามที่โม้ไว้หรือไม่ วันที่ 4 ก.พ.59 สำนักข่าว FNA ของอิหร่านพาดหัวข่าวว่า "รายงานข่าว: กองทัพเยเมนได้ทำลายเรือรบของซาอุดิอาระเบียจำนวน 4 ลำ" (Reports: 4 Saudi Boats Destroyed by Yemen’s Armed Forces)
เรือรบเหล่านั้นถูกทำลายโดยขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีนี้ สถานีโทรทัศน์ Al-Masirah TV รายงานเป็นภาษาอาระบิก ในขณะที่เรือรบของซาอุดิอาระเบียกำลังเข้าใกล้ท่าเรือ Mocha ในพื้นที่จังหวัด Ta'iz ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยเมน รางานข่าวยังบอกอีกว่ากองทัพเยเมน (และนักรบฮูติ) ได้ยิงโดรนสอดแนมของซาอุดิอาระเบียที่อำเภอ Harad ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด Hajjah เมื่อวันพุธนี้ [เยเมนถ่ายคลิปซากโดรนสอดแนมของซาอุดิที่กองอยู่บนพื้นดินมาเป็นหลักฐานด้วย เพิ่งจะลงคลิปให้ดูวันก่อนเอง - ผู้แปล]
วันที่ 3 ก.พ.59 FNA พาดหัวข่าวว่า "กองทัพเยเมนได้ทำลายรถถังและยานพาหนะหุ้มเกราะของซาอุดิอาระเบียจำนวนมากในจังหวัด Ma'rib และ Ta'iz" (Yemeni Forces Destroy More Saudi Tanks, Armored Vehicles in Ma'rib, Ta'iz Provinces)
[ข่าวนี้กองทัพเยเมนและนักรบชนเผ่าฮูติก็มีคลิปมาแสดงเป็นหลักฐานอีกเช่นกัน ระเบิดทั้งรถถังและรถหุ้มเกราะรวมมั้งป้อมค่ายทหารของฝั่งซาอุดิอาระเบียทิ้งต่อหน้าต่อตา ทั้งถ่ายคลิปจากระยะไกลที่เห็นจรวดทำลายรถถังกำลังลอยระลิ่วไปตูมใส่พาหนะทางกองทัพเหล่านั้น และภาพถ่ายระยะใกล้ด้วย
ฝ่ายทหารของซาอุดิอาระเบียแค่ได้ยินเสียงระเบิดและลูกกระสุนจากสไนเปอร์นักรบฮูติยิงกระทบรถเท่านั้นก็ตีรถกลับทันที และวิ่งกันป่าราบเลย หลังจากที่ติดตามสถานการณ์การสู้รบภาคพื้นดินระหว่างกองกำลังพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบียซึ่งส่วนมากจ้างทหารต่างชาติจากลาตินอเมริกามาตายแทน กับกองทัพเยเมนและนักรบชนเผ่าฮูตินั้น ซาอุดิอาระเบียเทียบไม่ติดเลย ฝ่ายที่เสียเปียบและถ่อยร่นตลอดก็คือฝ่ายซาอุดิอาระเบีย
ตอนนี้ฮูติและกองทัพเยเมนรุกเข้าไปในพื้นที่สามจังหวัดของซาอุดิได้มากขึ้นเรื่อยๆ เน้นทำลายเป้าหมายฐานที่มั่นทางทหารของฝ่ายซาอุดิอาระเบียเป็นหลัก ซาอุดิอาระเบียจะเอาอะไรไปสู้กับกำลังลังภาคพื้นดินของฝ่ายรัฐบาลที่มีทั้งนักรบของอิหร่านและเฮชบอลเลาะ์ในซีเรีย และยังมีการสนับสนุนทางอากาศจากรัสเซียด้วย? ถ้าสหรัฐฯกล้าส่งเข้าไปจริง จะออกมาขู่รายวันทำไม คงจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนเองเข้าไปตั้งนานแล้ว
อีกอย่างถ้าซาอุดิอาระเบียแบ่งกำลังของตนเองบางส่วนเข้าไปในซีเรีย ก็แสดงว่าแนวรับของซาอุดิอาระเบียภายในประเทศของตนเองก็จะอ่อนแอลงด้วย ก็เข้าทางกองทัพเยเมนอีกนั่นแหละ คราวนี้นักรบฮูติยิ้มร่าและได้เซิ้งกระจายแน่ๆ - ผู้แปล]
3.) คราวนี้มาดูฝั่งอิสราเอลบ้างนะครับ วันที่ 5 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เปลี่ยนคลื่อน? อิสราเอลกล่าวว่าตนเองเป็นส่วนสำคัญของพันธมิตรต่อต้านดาอิชนำโดยสหรัฐฯ" (Changing Tune? Israel Says It's Essentially Part of US Anti-Daesh Coalition) [อัยย๊ะ! ลิ้นไม่มีกระดูกจริงๆอ่ะ - ผู้แปล]
เมื่อวันพุธนี้ท่านนายพลของอิสราเอลเรียกขบวนการก่อการร้ายดาอิชว่า "ศัตรูของพวกเรา" (our enemy) และกล่าวว่าอิสราเอลเป็นหนึ่งในสมาชิกที่มีศักยภาพของพันธมิตรต่อต้านขบวนการก่อการร้ายดาอิช เนื่องจากอิสราเอลแชร์ข่าวกรองกับประเทศต่างๆที่ต่อสู้ขบวนการก่อการร้าย
พล.ต.Nitzan Alon ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสาขาปฏิบัติการทางกองทัพของอิสราเอลได้กล่าวว่า ในขณะที่อิหร่านยังคงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่ออิสราเอล ขบวนการก่อการร้ายดาอิชก็ถือว่าเป็นศัตรูที่อันตรายด้วยเช่นกัน
"จากมุมมองของอิสราเอล แน่นอนว่าพวกเรามองว่าดาอิชเป็นศัตรู" Alon กล่าว
เมื่อเดือนที่ผ่านมา Moshe Ya'alon รมว.กลาโหมของอิสราเอลกล่าวว่า อิหร่านเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าขบวนการก่อการร้ายดาอิช และหากซีเรียพังลง อิสราเอลจะยินดีให้ที่ขบวนการก่อการร้ายดาอิชเข้าควบคุมดินแดนแห่งนั้นมากกว่าตัวแทนของอิหร่าน (Iran poses a greater threat than Daesh, and that if Syria fell, Israel would prefer that Daesh be in control of the territory rather than an Iranian proxy.)
Nitzan Alon กล่าวในตอนท้ายว่า "ผมไม่คิดว่าพวกดาอิชจะล่มสลายในไม่กี่เดือนหรือปีที่จะถึงนี้ มันจะไม่ง่ายอย่างนั้น ไม่เร็วและไม่ง่ายเลย"
[ปูตินก็คงจะบอกว่า อย่ากระพริบตาเชียวนะน้อง ต่อไปก็คงจะเป็นการทวงที่ราบสูงโกลานของซีเรียคืนมาหละ น่าจะหลังจากที่ยึดพื้นที่ทั้งหมดคืนจากกลุ่มก่อการร้ายต่างๆได้แล้ว ซีเรียก็จะหันไปคิดบัญชีเก่ากับอิสเอลแน่ อิสราเอลเริ่มหนาวๆร้อนๆแล้ว - ผู้แปล]
อ้อ… มีข่าวล่าสุดออกมาว่า The Guardian ของอังกฤษลงข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียอาจจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินจำนวนหลายพันนายเข้าไปในซีเรีย ดูเหมือนว่าจะเป็นการประสานงานร่วมกันกับตุรกี (อ้างว่า) เพื่อเข้ามีส่วนร่วมในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายหัวรุนแรงไอซิส โดยอ้างคำพูดของเอกอัครราชทูตของซาอุดิอาระเบียประจำกรุงวอชิงตันดีซีที่ประกาศผ่านทวีตเตอร์ [ให้ไวครับซาอุดิอาระเบีย หลายฝ่ายกำลังเตรียมจับงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ในสนามรบซีเรียใจจะขาดอยู่แล้ว แต่ระวังหลังบ้านของตัวเองเอาไว้บ้างก็ดีนะ เพราะว่าตอนนี้นักรบโสร่งรองเท้าแตะชนเผ่าฮูติมีกำลังใจฮึกเหิมมาก
และ Sputnik news ของรัสเซียเพิ่งจะรายงานเข้ามาตะกี้นี่เองว่า คาดว่าการโจมตีทางอากาศโดยสหรัฐฯในภาคใต้ของเยเมนจะสังหารระดับหัวหน้าของขบวนการก่อการร้ายอัลเคด้าในแหลมอาระเบีย (AQAP) ไปแล้วอ้างรายงานข่าวท้องถิ่น อ้อข่าวนี้ The New York Times ของสหรัฐฯก็รายงานด้วย
ส่วน FNA ของอิหร่านรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.พ.59 ว่า แหล่งข่าวหลายแห่งรายงานว่าเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ หัวหน้าขบวนการก่อการร้ายไอซิส (Jalal Baleedi) และผู้ต้องสงสัยไอซิสอีกเจ็ดคนถูกสังหารในเยเมน ข่าวเดียวกันแต่สื่อฯบางสำนักบอกว่าเป็นหัวหน้าอัลเคด้า - ผู้แปล]
แถมให้อีกข่าวหนึ่ง... วันที่ 5 ก.พ.59 Sputnik news รายงานว่า จีนจะบริจาคอาหารจำนวน 10,000 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อซีเรีย นาย Wang Yi รมว.ต่างประเทศของจีนกล่าว
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
05/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/331322-saudi-us-ground-operations-syria/
Saudi Arabia Declares Its Ground Forces Ready to Invade Syria
Saudi Arabia May Deploy Thousands of Troops to Syria
Changing Tune? Israel Says It's Essentially Part of US Anti-Daesh Coalition
Saudi Arabia May Deploy Thousands of Troops to Syria
Farsnews
China to Donate Over 20 Million Pounds of Food to Syria – Foreign Minister

 

ปอกเปลือก ทรราช
เครื่องบินรบ T-50 PAK FA สุดยอด Top Gun ของรัสเซียจะประจำการในปี 2559, และอัพเดทสถานการณ์เกี่ยวกับซีเรีย



-------------
หันมาดูเทคโนโลยีทางทหารเพื่อผ่อนคลายกันบ้างนะครับ ก็ประมาณว่า "รู้ไว้ ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม" หละนะเกี่ยวกับเครื่องบินรบสุดทันสมัยของรัสเซีย
1.) วันที่ 4 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Top Gun แห่งปี 2016: เครื่องบินรบซุปเปอร์แอ็ดวานซ์ของรัสเซียจะเข้าประจำการในปีนี้" (Top Gun 2016: Russia's Super-Advanced Fighter Jet Enters Service This Year)
[Top Gun โดยทั่วไปหมายถึงความมีอิทธิพลอำนาจเหนือกว่าผู้อื่น ในที่นี้หมายถึง "เจ้าเวหา" เดิมทีรัสเซียมีกำหนดการผลิต T-50 ในปีนี้และจะประจำการในปี 2017 แต่ข่าวล่าสุดบอกว่าจะประจำการในปี 2016 ว้าวววว เร็วกว่าที่คิดซะอีก จะเอาไปทดลองแถวน่านฟ้าซีเรียด้วยไหมครับท่านปูติน? - ผู้แปล]
รัสเซียได้พัฒนาเครื่องบินรบรุ่นที่ห้า (G5) ซึ่งก็คือ T-50 ที่มีกำหนดการจะเข้าประจำการภายในสิ้นปีนี้ และจะติดตั้งครูซมิสไซล์ประจำอากาศยานรุ่นใหม่ด้วย สื่อฯรายงาน
เครื่องบินรบ T-50 รุ่นที่ห้า ซึ่งเรียกโดยทั่วไปว่า PAK FA มีกำหนดการเข้าประจำการในกองทัพของรัสเซียปลายปีนี้ คาดว่าเครื่องบินดังกล่าวจะติดตั้งครุซมิสไซล์ X-74M2 ตามรายงานของ Zvezda เครือข่าวข่าวกองทัพรัสเซีย
X-74M2 เป็นขีปนาวุธซุปเปอร์โซนิค ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า 4 มัค หมายควมว่าขีปนาวุธดังกล่าวสามารถที่จะเข้าถึงเป้าหมายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ก่อนที่ระบบเรดาร์ในอากาศยานของข้าศึกจะตรวจจับได้ Zvezda กล่าว
[ข้อมูลเพิ่มเติมจากวิกิพีเดีย โดยทั่วไปมาตรวัตความเร็วเท่ากับความเร็วเสียงถือว่า 1 มัค (Mach) ประมาณ 1,235 กม./ชม. ความเร็วที่จัดอยู่ในระดับ Supersonic ก็คือระหว่าง 1.2-5.0 มัค หรือ ระหว่าง 1,470-6,150 กม./ชม. หรือ 410-1,710 เมตร/วินาที - ผู้แปล]
"มันเหมือนกับการถูกฟาดด้วยดาบสายฟ้าที่คุณไม่มีทางที่จะหลบหนีไปไหนได้ เมื่อติดตั้งขีปนาวุธแบบนี้ไว้บนเครื่องด้วย T-50 ก็จะทำให้ความพยายามทั้งหมดของนาโต้ที่จะเป็นเจ้าเวหากลายเป็นโมฆะไปเลย" Zvezda กล่าว
[ไม่ได้โม้ นาโต้จะลองดูก็ได้ครับ รัสเซียน่าจะยินดีสาธิตให้ดู แต่ถ้า F-22 หรือ F-35 ร่วงแล้ว ห้ามโวยวายนะครับ คริๆ - ผู้แปล]
นอกจากขีปนาวุธ X-74M2 แล้ว เครื่องบินรบสเตลท์ T-50 ยังติดตั้งขีปนาวุธที่มีความซับซ้อนสูงอย่าง X-58USHK ด้วยซึ่งจะถูกติดตั้งอยู่ภายในลำตัวของเครื่องบินรบ Zvezda รายงานว่าขีปนาวุธต่อต้านเรด้าร์รุ่นนี้มีความเร็วเหนือ 3.5 มัค เป็นครูซมิสไซล์ขนาดเล็ก
นอกจากนี้ T-50 ยังติดตั้งด้วย ขีปนาวุธขาดเล็ก X-35UE อากาศสู่เรือ (tactical X-35UE air-to-ship missile) ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 154 กิโลกรัม และสามารถที่จะพึ่งชนเป้าหมายในระยะ 260 กม.โดยที่ระบบเรดาร์ไม่สามารถตรวจจับได้
สำหรับการสู้รบอากาศสู่อากาศนั้น คาดว่า T-50 จะติดตั้งขีปนาวุธที่อยู่เหนือการมองเห็นจำนวน 4 ลูกในห้องเก็บอาวุธ (weapons bays) หลักของตนเอง และขีปนาวุธพิศัยใกล้อีกสองลูก ที่ห้องเก็บอาวุธบริเวณโคนปีกของเครื่องบิน
เครื่องบินรบ T-50 เป็นแบบนักบินเดี่ยว (single-seat) สองเครื่องยนต์ และเป็นอากาศยานระดับปฏิบัติการในกองทัพอากาศรัสเซียที่ใช้เทคโนโลยีสเตลท์เป็นครั้งแรก ได้รับการออกแบบโดย Sukhoi Design Bureau อากาศยานลำดังกล่าวจะกลายเป็นเจ้าเวหา (air superiority) และสนับสนุนการโจมตีภาคพื้นดินด้วย
นอกจากศักยภาพที่สามารถบิดได้เร็วเหนือกว่า 2 มัคแล้ว T-50 ยังภูมิใจนำเสนอคุณสมบัติอื่นๆที่สำคัญอีกมากมาย เช่นระบบเรดาร์ไม่สามารถตรวจจับได้ (invisibility to radar) และอาวุธที่ทรงพลัง T-50 ติดตั้งด้วยระบบการบินชั้นสูง และระบบเรดาร์ที่ทันสมัยด้วย
2.) จากเรื่องเครื่องบินรบ T-50 (G5) เจ้าเวหาของรัสเซีย มาอัพเดทเกี่ยวกับกรณีออกมาประกาศว่าพร้อมที่จะเข้าร่วมพันธมิตรต่อต้านขบวนการก่อการร้ายนำโดยสหรัฐฯ หากสหรัฐฯอนุญาต ตามที่ได้เสนอไว้ในโพสต์ก่อนหน้านี้ ล่าสุด Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯยินดีต้อนรับแผนของซาอุดิอาระเบียที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียเพื่อต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายดาอิช" (US Welcomes Saudi Plans to Send Ground Troops to Syria to Fight Daesh) [พูดจริงหรือเปล่าครับท่านคาร์เตอร์? - ผู้แปล]
นายแอชตัน คาร์เตอร์ รมว.กลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐอเมริกายินดีต้อนรับเจตจำนงค์ของซาอุดิอาระเบียที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียเพื่อต่อสู้กลุ่มจีฮาดิสดาอิช
"ข่าวแบบนั้นเป็นเรื่องที่น่่ายินดี ผมกำลังรอที่จะเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้กับทางรมว.กลาโหมของซาอุดิอาระเบีย (Mohammad bin Salman) ในสัปดาห์หน้า - การมีส่วนร่วมในลักษณะนั้นและแบบอื่น ที่ซาอุดิอาระเบียสามารถกระทำได้" คาร์เตอร์กล่าว ซึ่งอ้างในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน คาร์เตอร์กล่าวว่า คณะผู้แทนของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯมีกำหนดการหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ในสัปดาห์หน้า
"ดังนั้นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงจะต้องเดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ในสัปดาห์หน้า ก็คือดึงน้ำหนักทั้งหมดของพันธมิตรไปอยู่เบื้องหลังของการเริ่งความเร็วในการทำให้พวกดาอิชพ่ายแพ้" คาร์เตอร์ฝอย
[ก็นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯเพิ่งจะบินไปประชุมร่วมกันกับพันธมิตรตะวันตกที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ไอซิส ในกรุงโรมหยกๆ นายแคร์รี่คุยยังไง ถึงต้องให้นายคาร์เตอร์ไปคุยหรือกดดันยุโรปอีกคนหนึ่งด้วย หรือว่าแคร์รี่ทำงานไม่บรรลุเป้าหมายตามที่กลาโหมของสหรัฐฯต้องการ? ก่อนหน้านั้นคาร์เตอร์เคยขู่ว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐฯเข้าไปในอิรัคและซีเรียหากการเจรจาของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลซีเรียล้มเหลว ซึ่งก็เหลวจริงๆ
แต่ทางยูเอ็นบอกว่าจะมีการคุยกันในครั้งต่อไป ยังไม่ล้มความตั้งใจซะทีเดียว คราวนี้ก็เข้าแผนคาร์เตอร์พอดี คาร์เตอร์จึงเดินสายล็อบบี้พันธมิตรวันตกให้เอาอย่างซาอุดิอาระเบียบ้าง ประมาณว่า เห็นไหมนั่น ขนาดทหารซาอุดิอาระเบียที่เจอกับนักรบโสร่งรองเท้าแตะเคี้ยวใบคัดอย่างฮูติแห่งเยเมนทีไรก็วิ่งหนีฮูติหัวซุกหัวซุน เขากล้าประกาศที่จะส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียเลยนะ ไม่อายซาอุดิอาระเบียกันหรือชาวยุโรป?
คิดหรือว่าซาอุดิอาระเบียจะเอาจริง? ขนาดรบให้ประเทศตัวเองยังตั้งจ้างทหารรับจ้างจากประเทศอื่นไปเป็นเป้าให้กับนักรบฮูติเลย ยูเออีพันธมิตรของซาอุดิอาระเบียที่ว่าแน่ๆ เจอนักรบฮูติสั่งสอนเข้าให้ถึงกับถอนทัพกลับประเทศแทบไม่ทัน อย่างดีที่สุดก็คือใช้ทหารรับจ้างของต่างชาติให้เข้าไปสู้รบแทน พวกนี้ฉลาดมากหลังจากที่กองทัพซีเรีย นักรบเฮชบอลเลาะห์และกองทัพอากาศรัสเซียถล่มกลุ่มก่อการร้ายต่างๆในซีเรียจนพ่ายยับ และสามารถยึดคืนพื้นที่ได้เป็นจำนวนมาก
ก็จะถือโอกาสส่งทหารของตนเองเข้าไปชิงพื้นที่มาจากกองทัพซีเรีย พอทหารชุดใหม่เข้าไป (ถ้ามีนะ) พวกสปอนเซอร์ของไอซิสก็จะสั่งให้ไอซิสถอยออกจากพื้นที่ ที่กองทัพซีเรียยังเข้าไม่ถึง จากนั้นก็จะประกาศว่าพื้นที่ตรงนี้อยู่ในการครอบครองของกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯแล้ว กองทัพซีเรียห้ามเข้าใกล้ หากเกิดการปะทะกันก็จะเท่ากับว่าซีเรียงัดกับนาโต้และพันธมิตร ซวยสิซีเรีย อ๊ะๆ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกกครับท่านคาร์เตอร์
เพราะว่าล่าสุดกลาโหมของรัสเซียออกมาประกาศว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียที่ประจำการอยู่ในซีเรีย จะตอบโต้ภัยคุกคามใดๆที่อาจจะเป็นไปได้ต่ออากาศยานของรัสเซียที่กำลังปฏิบัติภารกิจสู้รบอยู่ในซีเรีย และเรียกร้องให้กองทัพอากาศของตรกีปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยด้านการบินระดับทวิภาคีที่ได้ตกลงกันไว้ระหว่างรัสเซียกับตุรกีด้วย
กล่าวคือรัสเซียได้เน้นย้ำและเตือนอีกครั้งว่า ถ้าใครซ่าที่จะลองดีกับระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียในซีเรียก็เข้ามาเลย เดี๋ยวเด็กๆของปูตินจัดให้ - ผู้แปล]
และในวันที่ 5 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "กองทัพบกของซีเรียตัดเส้นทางการจัดส่งกำลังสนับสนุนของกลุ่มก่อการร้ายอัลนุสราระหว่างจังหวัด Aleppo ของซีเรียกับตุรกีได้แล้ว" (Syrian Army Cuts Al-Nusra Militants' Supply Line Between Aleppo and Turkey)
รายงานข่าวบอกกว่า กองทัพบกของซีเรียและกองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (NDF) ได้ทำการตัดเส้นทางหลักหลายสายในการจัดส่งเสบียงสนับสนุนของกลุ่มก่อการร้ายอัลนุสราในเมือง Mayer ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัด Aleppo และตามแนวชายแดนของประเทศที่ติดกับตุรกีทางภาคเหนือของประเทศ นอกจากนี้แล้วกองทัพของซีเรียยังสามารถจับกุมผู้ก่อการร้ายอย่างน้อยสามคนได้ในบริเวณใกล้เมือง Maarasta al-Khan ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด Aleppo ด้วยแหล่งข่าวกล่าว
[นั่นแหละคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตุรกี สหรัฐฯ ซาอุดิอาระเบีย ร้อนรนยิ่งนัก เพราะว่ากองทัพของซีเรียและพันธมิตรได้ปิดตายชายแดนในจังหวัด Aleppo ได้แล้ว การส่งกองกำลังสนับสนุนและเสบียงให้ผู้ก่อการร้ายถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง และที่สำคัญก็คือกองทัพซีเรียมีเหล่านักรบชาวเคิร์ด YPG เป็นพันธมิตรอีกแรงด้วย คู่กัดกับเติร์กเลยหละ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
05/02/2559
----------
Top Gun 2016: Russia's Super-Advanced Fighter Jet Enters Service This Year
«Кинжал» для ПАК-ФА: Т-50 ударит новой ракетой с любой дистанции - Телеканал «Звезда»
New Russian Missile Mach 3.5 | Novorossia Today
https://en.wikipedia.org/wiki/Hypersonic_speed
US Welcomes Saudi Plans to Send Ground Troops to Syria to Fight Daesh
https://www.rt.com/news/331366-air-defense-syria-russian-planes/
Syrian Army Cuts Al-Nusra Militants' Supply Line Between Aleppo and Turkey

 

ปอกเปลือก ทรราช

สองประมุขแห่งคริสตศาสนจักรกำลังจะพบกันเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่คิวบา



-------------
วันที่ 5 ก.พ.59 RT new พาดหัวข่าวว่า "ครั้งประวัติศาสตร์: สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสและสมเด็จพระสังฆราชคิริลล์แห่งรัสเซียจะพบกันในคิวบา เพื่อเยียวยารอยร้าวในรอบหนึ่งพันปี" (Unprecedented: Pope Francis, Russian Patriarch Kirill to meet in Cuba to heal 1,000yr rift)
สมเด็จพระสังฆราช Kirill ประมุขโบสถ์นิกาย ออร์ธอดอกซ์ (Orthodox Church) แห่งรัสเซียจะเดินทางไปพบกับสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสแห่งนิกายโรมันคาธอลิก (Roman Catholic) ระหว่างการเยือนลาตินอเมริกาครั้งประวัติศาสตร์ การพบกันครั้งปฐมฤกษ์นี้จะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ในประเทศคิวบา
การพบกันระหว่างสองผู้นำนิกายหลักแห่งศาสนาคริสต์จะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่จะสมานรอยแยกที่มีมายาวนานเป็นสหัสวรรษระหว่างสาขาของศาสนาฝ่ายตะวันตกและฝ่ายตะวันออก ซึ่งได้เกิดขึ้นจาก "มหาสังฆเภทปี 1054" [Great Schism of 1054 - จะแปลว่า "มหาสังฆเภท" หรือ "มหาศาสนเภท" หรือ "การแตกแยกครั้งใหญ่" ก็ได้ - ผู้แปล]
การรังแกชาวคริสต์ในโลกสมัยใหม่เป็นประเด็นสำคัญในการหารือกันระหว่างผู้นำศาสนาทั้งสองท่าน โบสถ์ออร์ธอดอกซ์ของรัสเซียกล่าว ชาวคริสต์อยู่ในชนกลุ่มน้อยที่ประสบกับความทุกข์ยากในมือของกลุ่มต่างๆที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของลัทธิหัวรุนแรงในสถานที่ต่างๆเช่นอิรัค ซีเรีย และโซมาเลีย
นอกจากจะไปเยือนคิวบาแล้ว การไปเยือนกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาของสังฆราชคิริลล์ระหว่างวันที่ 11-22 กุมภาพันธ์จะรวมถึงการไปเยือนประเทศปารากวัย ชิลี และบราซิลด้วย โดยจะพบกับโป๊ปฟรานซิสในวันที่ 12 กุมภาพันธ์
สมเด็จพระสันตปาปา (pontiff) จะหยุดพักที่คิวบาในระหว่างที่เดินทางไปเยือนประเทศเม็กซิโก
สำหรับโบสถ์ออร์ธอดอกซ์แห่งรัสเซียนั้น การพบกันในครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์ด้านกิจการต่างประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการรวมตัวกันของนิกายออร์ธอดอกซ์ที่อยู่ภายนอกรัสเซียเข้ากับรัสเซียในปี 2007 หลังเกิดการแบ่งแยกกันนานถึง 90 ปี
[วันก่อนนี้อ่านเจอข่าวหนึ่ง (ดูคลิป) เกี่ยวกับปูติน ซึ่ง RT รายงานว่าปธน.ปูตินเดินทางไปแสดงความยินดีกับสมเด็จพระสังฆราชคิริลล์ในกรุงมอสโคว์เนื่องในวันครบรอบการรับตำแหน่งปีที่ 7 (วันที่ 1 ก.พ.59) ไม่กี่วันต่อมาก็มีข่าวนี้ออกมาว่าสังฆราชรัสเซียมีนัดพบกับสังฆราชฝ่ายตะวันตกที่คิวบา ประเทศคอมมิวนิสต์ซะด้วย น่าสนใจครับ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
05/02/2559
----------
https://www.rt.com/news/331391-russian-patriarch-meet-pope/
Catholic Pope, Orthodox Patriarch to Hold Historic Meeting in Cuba Feb 12
https://www.youtube.com/watch?v=P8X00VpsoOc

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/P6MEV6-judI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สหรัฐฯยิงจรวดขึ้นฟ้าปล่อยดาวเทียมของตนเองได้ แต่พอเกาหลีเหนือจะปล่อยเดียวเทียมบ้าง บอกว่าเป็นการคุกคามสหรัฐฯและพันธมิตร จะยิงให้ร่วงเลย เออ… เสรีภาพที่มีได้เฉพาะสหรัฐฯเท่านั้น
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=P6MEV6-judI

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียประกาศกำลังจับตาตุรกีว่าจะรุกรานดินแดนซีเรียหรือไม่ สั่งฝูงบินรบ Su-35 ติดอาวุธเต็มที่เตรียมพร้อมตลอด 24/7



-------------
1.) วันที่ 5 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Su-35 ใหม่ล่าสุดจะยังคงเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงทั้งทุกวันที่ฐานทัพอากาศ Hmeymim" (Newest Su-35 Will Remain on Standby 24/7 at Hmeymim Airbase)
"เครื่องบินรบจะอยู่ในสถานะการเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง โดยที่เครื่องบินรบ Su-35 สองลำจะขึ้นบินทันทีที่ได้รับการแจ้งให้ทราบถึงการสนับสนุนต่ออากาศยานลำอื่นๆ ส่วน Su-35 อีกสองลำก็สามารถที่เพิ่มการตรวจจับเครื่องบินลำอื่นๆได้ 360 องศาซึ่งมีรัศมีไกลถึง 400 กม." ผู้แทนจากกองทัพอากาศของรัสเซียซึ่งประจำการอยู่ในซีเรียกล่าวกับนักข่าว
[รัศมีเรดาร์ของ S-400 อยู่ที่ 600 กม. ส่วนพิสัยการยิงอยู่ที่ 400 กม. เรดาร์ของ Su-35 อยู่ที่ 400 กม. เท่ากับพิสัยการยิงของ S-400 เลย - ผู้แปล]
ผู้แทนของกองทัพอากาศรัสเซียกล่าวว่า Su-35 เป็นเครื่องบินต่อสู้หลากบทบาท (multirole combat aircraft) ที่จะใช้สำหรับคุ้มกันการบินของรัสเซียในซีเรีย รวมทั้งการโจมตีทั้งบนดินและใต้ดินด้วย
"ณ เวลาปัจจุบันนี้ พวกเรามีภารกิจที่จะต้องใช้เครื่องบินรบเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เครื่องบินรบเหล่านี้สามารถบรรทุกระเบิดได้ทุกชนิด" ผู้แทนกองทัพอากาศรัสเซียกล่าว
ส่วนอีกข่าวหนึ่ง Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ดูนะ: เครื่องบินรบ Su-35 จอมบดขยี้ดาอิช ที่ฐานทัพอากาศ Hmeymim" (WATCH: Russia’s Daesh-Crushing Su-35 Fighter Jets at Hmeymim Airbase) เนื้อหาข่าวก็คล้ายกับข่าวข้างต้นที่ได้เล่ามาแล้ว
2.) วันที่ 5 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวอีกว่า "ตุรกีจะรุกรานซีเรียหรือไม่? กรุงมอสโคว์กำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวของกรุงอังการา" (Turkey's Invasion of Syria? Moscow Keeping an Eye on Ankara's Moves)
ดูเหมือนว่ารัฐบาลของ Erdogan จะไม่ประสบความสำเร็จในการยั่วยุให้กรุงมอสโคว์และกรุงดามัสกัสเข้าสู่การเผชิญหน้าโดยตรงกับกรุงอังการา Stephen Lendman คอลัมนิสต์จากสื่อฯของสหรัฐฯกล่าวพร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า เมืองหลวงทั้งสองแห่งจะไม่ยอมอดทนอดกลั้นกับการรุกรานใดๆอย่างเปิดเผยของตุรกีเด็ดขาด [มุมมองนี้น่าสนใจ - ผู้แปล]
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้แสดงออกถึงความกังวลต่อการเตรียมพร้อมที่มีความเป็นไปได้ของตุรกีในการรุกรานซีเรีย "กลาโหมของรัสเซียกำลังบันทึกตัวเลขของสัญญาณเกี่ยวกับการเตรียมการที่ซ่อนเร้นซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆของกองทัพตุรกีในปฏิบัตการในดินแดนของซีเรีย" กระทรวงกลาโหมของรัสเซียโพสต์ข้อความในทวีตเตอร์
"พวกเรามีมูลเหตุจะนำไปสู่ความสงสัยเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเตรียมการอย่างเข้มข้นจากฝ่ายตุรกีสำหรับการรุกรานทางทหารในดินแดนที่เป็นอธิปไตยของซีเรีย พวกเรากำลังทำการบันทึกสัญญาณต่างๆมากมายเกี่ยวกับการเตรียมการที่ซ่อนเร้น โดยกองทัพตุรกี" Igor Konashenkov โฆษกกลาโหมของรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์
ในบทความของ Stephen Lendman ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ Global Research ซึ่งมีฐานอยู่ที่ชิคาโก้ คอลัมนิสต์คนนี้ได้ให้ความสนใจปที่ข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อหลายวันก่อนหน้านี้ ตุรกีได้ยิงปืนใหญ่ถล่มหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัด Latakia ทางตอนเหนือของซีเรียซึ่งมีพลเรือนอาศัยอยู่
เพื่อทำให้เรื่องนี้มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เมื่อเร็วๆนี้กรุงอังการาได้ปฏิเสธที่จะให้เครื่องบินสังเกตการณ์ของรัสเซียบินเหนือดินแดนของตนเอง ตามที่ได้รับอนุญาตภายใต้สนธิสัญญาเปิดน่านฟ้า (Open Skies Treaty - OST)
[แล้วคุณตุรกีจะไปร่วมลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวทำไมหละครับ? Erdogan อาจจะบอกว่าก็เพื่อที่จะได้ส่งเครื่องบินของตนเองเข้าไปสำรวจน่านฟ้าของรัสเซียก่อนไง พอรัสเซียจะไปบินสำรวจน่านฟ้าของตุรกีบ้าง ตุรกีก็บอกว่าไม่อนุญาตเฉยเลย มันเป็นมาตรฐานของประเทศสมาชิกนาโต้ที่นำโดยสหรัฐ ซึ่งมีเพียงมาตรฐานเดียว คือ "ข้าทำได้ คนอื่นห้ามทำ!" ใช่ไหมครับโอบาม่าและ Erdogan? - ผู้แปล]
Koshenkov กล่าวว่า นั่นเป็น "แบบอย่างที่เป็นอันตราย" (a dangerous precedent) และเป็นความพยายามที่จะอำพรางกิจกรรมทางทหารที่ผิดกฎหมายใกล้ชายแดนของซีเรีย ซึ่งอันที่จริงแล้ว การกระทำของกรุงอังการาก็ได้ก่อให้เกิดความสงสัยอยู่แล้ว (มีพิรุธ)
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงให้เห็นว่า พวกผู้ก่อการร้ายที่ยึดครองพื้นที่ในจังหวัด Aleppo และ Idlib ในซีเรียได้รับการสนับสนุน (ด้านอาวุธและอื่นๆ) ผ่านจุดผ่านแดนระหว่างตุรกีกับซีเรียใกล้เมือง Sarmada - Reyhanli
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2015 ลานจอดรถบรรทุกในฝั่งตุรกีและพื้นที่ภายใต้การยึดครองของผู้ก่อการร้ายในชายแดนซีเรียว่างเปล่าตลอดทั้งกลางวัน
กลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า แถบสีฝั่งตุรกีที่แสดงอยู่บนภาพถ่ายนั้นใช้เพื่อสนับสนุนขบวนรถบรรทุกของกองทัพอย่างรวดเร็ว ซึ่งพบว่ามีอยู่เป็นจำนวนมากตามแนวชายแดนซีเรีย-ตุรกี "รถบางคันมีทั้งอาวุธหนักและบุคคลากรด้วย"
ภาพถ่ายในวันที่ 30 ม.ค.2016 แสดงให้เห็นถึงลานจอดรถที่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วและมีการคุ้มกันด้วย และพื้นผิวถูกใช้งานจนได้รับความเสียหาย
"ดังนั้น การห้ามการบินเปิดน่านฟ้าเพื่อสังเกตการณ์ของพวกเราโดยกรุงอังการาจะไม่สามารถซ่อนเร้นกิจการทางทหารของตุรกีที่ผิดกฎหมายในพื้นที่แห่งนั้นได้" กลาโหมของรัสเซียโพสต์ในทวีตเตอร์ [ทุกวันนี้เขาใช้ทวีตเตอร์ทำสงครามระหว่างประเทศกันด้วยนะครับ - ผู้แปล]
น่าสนใจมากพอหรือยัง? เจ้าหน้าที่ของนาโต้ และกลุ่มต่างๆที่เรียกว่า พวกฮิวแมนไรท์ในดินแดนของซีเรียกลับทำเป็นหูหนวกไม่ได้ยินเสียงการแสดงความกังวลจากฝ่ายรัสเซียเลย
"การดำเนินการทางทหารทั้งหมดของตุรกีได้รับการอนุมัติโดย หรือมีการสมรู้ร่วมคิดกับกรุงวอชิงตัน นาย [Recep Tayyip] Erdogan จะไม่มีทางดำเนินการด้วยตัวเองตามลำพังเด็ดขาด ไม่แม้แต่จะต่อต้านอย่างก้าวร้าวต่อประชากรชาวเคิร์ดของเขาเองด้วย ซึ่งเป็นการเข่นฆ่าพลเรือนอย่างเลือดเย็น" Lendman (พูดเหน็บ) กล่าว และกล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยข่าวกรองของรัสเซียจะจับตาดูกรุงอังการาอย่างไม่กระพริบเลยหละ
ในการตอบโต้ข้อกล่าวหาจากกรุงมอสโคว์นั้น ผู้นำของตุรกีก็ (แถ) กล่าวอ้างว่า ตุรกีไม่ได้วางแผนที่จะโจมตีทางทหารในซีเรียเลย
"ตุรกีไม่ได้มีแผนหรือแนวความคิดใดๆเกี่ยวกับการแสดงละครแคมเปญจ์ทางทหารหรือการโจมตีภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียเลย" เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลของตุรกีกล่าวกับสำนักขาวรอยเตอร์สเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ [ใครเชื่อไก่งวงอันธพาลพวกนี้ก็บ้าแล้ว - ผู้แปล]
แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้แสดงออกถึงการรับประกันอะไรเลย ในทางตรงกันข้าม บุคคลควรจะจำเอาไว้ด้วยว่า กรุงอังการาไม่ได้เรียก "การรุกรานอิรัคทางทหารโดยพฤตินัย" (de-facto military invasion of Iraq) ของตนเอง ว่าเป็น "การรุกล้ำดินแดน" (ground incursion) แต่กลับเรียกว่า "การพัฒนาของหน่วยพิทักษ์" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายต่อต้านขบวนการก่อการร้ายดาอิช
[พวกลิ้นสองแฉก ปากว่าตาขยิบนี้จะต้องระวังให้มาก พวกนี้เก่งเรื่องการปั้นน้ำเป็นตัว เก่งเรื่องการออกมาพูดสร้างภาพที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ทำ เก่งเรื่องการทำให้ดำกลายเป็นขาว หรือขาวกลายเป็นดำ ไม่รู้ว่าไปเรียนมาจากสำนักไหน แต่ถ้าติดตามหรือสังเกตคำพูดของคนพวกนี้อย่างต่อเนื่อง ก็จะจับพิรุธและจับผิดได้ในที่สุด มันมักจะมีบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่าคำพูดเหล่านั้นบางคำไม่มีความจริงใจ และไม่ตรงกับความเป็นจริงเลย - ผู้แปล]
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ปมปัญหาในเรื่องนี้ก็คือว่า กรุงมอสโคว์และกรุงอังการาจะตอบโต้ต่อการแทรกแซงที่อาจจะเป็นไปได้ของตุรกีอย่างไร Lendman ตั้งข้อสังเกต
Lendman เชื่อว่า ระบอบ Erdogan จะล้มเหลวต่อการยั่วยุปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน และปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาด ให้เข้าสู่การเผชิญหน้ากัน (กับตุรกี) ในขณะเดียวกัน ทั้งสองคน (ปูตินกับอัสซาด) ก็จะไม่ "อดทนอดกลั้นต่อการรุกรานที่เปิดเผย ซึ่งคุกคามความมั่นคงของประเทศของพวกเขา" เช่นกัน
[หมายความว่าอย่างไรหละนี่? รัสเซียและซีเรียจะไม่เผชิญหน้าหรือไม่เปิดศึกกับตุรกี หมายความว่าจะไม่หลงกลตุรกีและสหรัฐฯที่จะทำสงครามกับตุรกี แต่ผู้เขียนก็ตั้งข้อสังเกตว่า รัสเซียก็จะไม่ยอมให้ตุรกีลูบคมอย่างเปิดเผยแน่ ครั้นรัสเซียจะเป็นฝ่ายโจมตีตุรกีก่อนจากการยั่วยุหลายครั้ง ซึ่งหลักฐานยังไม่แน่นหนาพอ
แต่ถ้าพบว่าตุรกี ยกกองทัพของตนเองรุกเข้ามาในซีเรียอย่างที่กระทำในอิรัคเมื่อไรหละก็ นั่นแหละที่รัสเซียกำลังรออยู่ รอให้ตุรกีติดกับดักที่ตัวเองวางเอาไว้ สหรัฐฯอาจจะแสร้งผลักหลังตุรกีให้เดินหน้าเติมที่ เพื่อชนกับรัสเซีย ประมาณว่า ลุยเลยน้อง เพ่จะหนุนหลังเอง
ถ้าตุรกีห้าวเป้งซ่ามากกว้านี้ เจอสวนกลับหนักๆจนหน้าหงายลงไปนับสิบ สหรัฐฯก็อาจะบอกว่า ตูบอกแล้วว่าอย่าไปกวนเขาก็ไม่ฟัง เห็นไหมหละเจ็บตัวฟรีเลย หรืออาจจะเสี้ยมต่ออีกว่า ปล่อยให้เขาลูบคมได้อย่างไร สุลต่าน Erdogan ผู้ยิ่งใหญ่ต้องเอาคืนบ้างสิ เป็นต้น
แล้วคิดว่าตุรกี สหรัฐฯ และนาโต้ แม้กระทั่งซาอุดิอาระเบียจะกล้าเปิดหน้าซัดกับรัสเซียอย่างเปิดเผยไหม? ยากครับ ที่ทำได้ก็คือสนับสนุนผู้ก่อการร้ายให้มาต่อสู้กับรัสเซียและกองทัพรัฐบาลกลางของซีเรียอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้แหละ ใครส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่น ถือว่าผิดกฎหมาย ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาประกันไม่รับเคลม - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
06/02/2559

ภาพจาก © AFP 2016/ OZAN KOSE

----------
Newest Su-35 Will Remain on Standby 24/7 at Hmeymim Airbase
WATCH: Russia’s Daesh-Crushing Su-35 Fighter Jets at Hmeymim Airbase
'We Expect A Military Escalation in Syria': Turkey’s True Motives
Turkey's Invasion of Syria? Moscow Keeping an Eye on Ankara's Moves

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/Mzth1oulzHA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>



ตอนนี้ตุรกียอมจุดผ่านแดนเมือง Kilis ติดกับจังหวัด Aleppo ของซีเรีย มีขบวนรถบรรทุกจอดรอเป็นแถวยาวเหยียดจากฝั่งตุรกีเตรียมจะเดินทางเข้าไปในซีเรีย และมีผู้อพยพจำนวนมากจากฝ่ายซีเรียกำลังหนีภัยสงครามจากจังหวัด Aleppo เข้าไปในฝั่งตุรกี และก็มีชาวซีเรียและผู้คนจำนวนมากจากฝั่งตุรกีรอจะเข้าไปในซีเรียด้วย
----------------
https://youtu.be/Mzth1oulzHA

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/gpVEWipSx5k" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

Su-35 กำลังติดเขี้ยวเล็บที่ฐานทัพอากาศ Hmeymim ในจังหวัด Latakia ในซีเรีย รอต้อนรับแขกผู้มาเยือน ว่าแต่ว่าใครจะเป็นรายแรกเอ่ย? อีโมติคอน smile
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=gpVEWipSx5k

 

ปอกเปลือก ทรราช
นายว่า ขี้ข้าพลอย: บาห์เรนประกาศว่าพร้อมจะกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียเข้าร่วมกับสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบีย



-------------
1.) วันที่ 6 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "บาห์เรนพร้อมเข้าร่วมปฏิบัติการภาคพื้นดินกับสหรัฐฯในซีเรีย" (Bahrain Ready to Join US Ground Operations in Syria)
[ให้ไวครับ อย่าได้ช้าเชียว ทางกองทัพซีเรีย เฮชบอลเลาะห์ และเครื่องบินรบของรัสเซียกำลังรอ เดี๋ยวจะตลาดจะวายซะก่อน เพราะว่าตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลซีเรียยึดพื้นที่ได้มากแล้ว กลุ่มก่อการร้ายที่จังหวัด Aleppo แพ้ยับ - ผู้แปล]
ซี้คห์ Fawaz bin Mohammed al-Khalifa เอกอัครราชทูตของบาห์เรนประจำสหราชอาณาจักรออกแถลงการณ์ว่า "ราชอาณาจักร (บาห์เรน) จะส่งกองทัพเข้าไปปฏิบัติการร่วมคอนเสิร์ตกับซาอุดิอาระเบีย" (…the kingdom would commit troops to operate "in concert with Saudis") รอยเตอร์สรายงาน
[ว้าวววว ร่วมคอนเสิร์ตหรือว่าร่วมงานสวดอภิธรรมครับท่าน มีดนตรีเหมือนกันนะครับ จะนิมนต์หลวงพี่จากวัดเส้าหลินไปสวดด้วยไหม มีทั้งปี่ทั้งกลองและฉี่ฉาบด้วยนะ - ผู้แปล]
ทูตบาห์เรนกล่าวต่ออีกว่า "สหรัฐฯอาหรับเมริเรตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะมนตรีความร่วมมือแห่งรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council) ก็พร้อมที่จะส่งกองทัพเข้าไปด้วยเช่นกัน"
[สองประเทศนี้เปรียบเสมือนลูกระเป๋งของซาอุดิอาระเบียอยู่แล้ว ซาอุดิอาระเบียว่าอย่างไร มีหรือที่ขุนพลอยพยัก(หน้า) จะไม่ว่าตาม แต่เอ... ตอนนี้ได้ยินข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ของบาห์เรน ยูเออี และกาตาร์ กำลังโดนนักรบฮูติแห่งเยเมนถล่มยับเลยนะครับ บาห์เรนไม่คิดจะส่งทหารของตนเองเข้าไปช่วยลูกพี่ปกป้องอธิปไตยจากกองทัพเยเมนและนักรบฮูติบ้างหรือ? ไม่ใจดำไปหน่อยหรือที่ปล่อยให้ลูกพี่รับมือนักรบฮูติอยู่ฝ่ายเดียวหนะ - ผู้แปล]
2.) วันที่ 6 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวอีกว่า "ซาอุดิอาระเบียต้องการที่จะส่งกองทัพเข้าไปในซีเรียเพื่อ 'สนับสนุน' พวกผู้ก่อการร้าย" (Saudis Want to Send Troops to Syria to 'Support' Terrorists)
ซาอุดิอาระเบียได้เสนอที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในสนามรบในซีเรียซึ่งโอ้อวด (ostensibly) ว่าเพื่อต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายดาอิช แต่ในความเป็นจริงแล้วกรุงริยาดห์จะให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในประเทศที่กำลังเกิดสงครามกลางเมืองต่างหาก Akil Mahfoud หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากกระทรวงการศึกษาระดับสูงของซีเรียกล่าวกับสำนักข่าว RIA Snovosti
ราชอาณาจักรน้ำมัน "จะให้การสนับสนุนขบวนการก่อการร้ายอัลนุสราฟร้อนท์ Ahrar ash-Sham และกลุ่มที่คล้ายกันนี้ที่ชอบอยู่ภายใต้หน้ากากการต่อสู้กับพวกดาอิช อย่างเต็มที่ การแทรกแซงใดๆในซีเรียจะเปลี่ยนวิถีของสงครามในซีเรียอย่างไม่ต้องสงสัย มันจะเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของกองทัพบกของซีเรีย ฝ่ายที่จะเข้ามาเพิ่ม ก็จะไม่ได้ต่อต้านพวกดาอิชตามที่ตุรกีและซาอุดิอาระเบียกล่าวอ้างเลย" Akil Mahfoud กล่าว
3.) อันนี้เป็นข้อมูลเสริมนะครับ มาดูว่าบาห์เรน มีศักยภาพทางกองทัพมากขนาดไหน พอที่จะต่อกรกับกองทัพซีเรียและรัสเซียในสนามรบซีเรียได้หรือไม่ ข้อมูลคร่าวๆจากเว็บไซต์ globalfirepower บอกว่าบาห์เรนมีเขี้ยวเล็บดังนี้...
- มีประชากรทั้งหมดราว 1,346,613 คน
- มีกำลังพลทั้งหมดประมาณ 800,000 คน
- พร้อมประจำการ 680,000 คน
- เข้ารับราชการทหารประจำปี 17,120 คน
- มีบุคคลากรที่พร้อมรบในแนวหน้า 15,000 คน
- กำลังพลสำรอง 112,500 คน
- รถถัง M60 A3 Patton (Main battle tanks - ปืนใหญ่ 105 mm) ของสหรัฐฯตั้งแต่สมัย 1961 จำนวน 180 คัน
- พาหนะสำหรับสู้รบอื่นๆ 277 คัน
- ปืนใหญ่อัตราจร (SPGs) 13 ชุด
- ปืนใหญ่ลากจูง (Towed Artillery) 26 ชุด
แสนยานุภาพทางอากาศและทางเรือไม่ต้องพูดถึงเพราะว่าไม่สามารถนำมาใช้งานในซีเรียได้เนื่องจากถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 และเครื่องบินรบของรัสเซียสะกดเอาไว้หมดแล้ว ทางทะเลก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ขนาดเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯและฝรั่งเศสยังต้องไปประจำการอยู่ในอ่าวเปอร์เซียโน่น ไม่ใช่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้ชายฝั่งของซีเรียเลย ด้วยกำลังเท่านี้ อาจจะรวมกับซาอุดิอาระเบียด้วยก็ไม่น่าจะมากเท่าไรนัก ยังกล้าคิดจะไปงัดกับรัสเซียในซีเรียอยู่อีกรึ? เคยฟังนิทานเรื่องอึ่งอ่างกับวัวไหมครับคุณบาห์เรน?
อ้อ… ในเว็บไซต์ดังกล่าว ได้จัดอันดับแสนยานุภาพของประเทศต่างๆทั่วโลกโดยไม่รวมอาวุธนิวเคลียร์เอาไว้ด้วย ซีเรียอยู่อันดับที่ 42 บาห์เรนอยู่อันดับที่ 83 กาตาร์ได้อันดับที่ 77 ส่วนอันดับที่หนึ่งนั้นไม่ต้องแปลกใจครับ จักรวรรดิเฮเกที่มีฐานทัพกระจายอยู่ในต่างประเทศมากที่สุดในโลกนั่นแหละ อันดับที่สองคือรัสเซีย อันดับที่สามคือจีน สี่คืออินเดีย ห้าคืออังกฤษ พี่ไทยอยู่อันดับที่ 20 ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะนี่ ถ้าได้ S-300, S-400 และเรือดำน้ำมาเสริมบารมีด้วยนี่ น่าจะใกล้ๆกับท็อปเทนอยู่นะครับ แต่ถ้ามี Su-35 ประจำการซักฝูงนี่ฉลุยเลย ฮี่ๆๆ [ตื่นได้แล้วครับคุณแอ็ดมิน คริๆ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
06/02/2559
----------
Bahrain Ready to Join US Ground Operations in Syria
Saudis Want to Send Troops to Syria to 'Support' Terrorists
Global Firepower Military Ranks - 2016
http://www.globalfirepower.com/country-military-strength-de…
http://www.globalfirepower.com/countries-comparison-detail.…
https://en.wikipedia.org/wiki/Bahrain_Defence_Force
https://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Bahraini_Army

 

ปอกเปลือก ทรราช



รายงานข่าวบอกว่า เกาหลีเหนือยอมเลื่อนวันปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรออกไปก่อน ตามคำแนะนำของจีนและรัสเซีย เนื่องจากไม่อยากให้สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ช็อกตายซะก่อน เพราะหวาดระแวงว่าจรวดส่งดาวเทียมของคิมน้อยจะติดหัวรบนิวเคลียร์ไปตกใส่หนึ่งในสามประเทศนั้น ซึ่งแม้ว่าวันก่อนนี้คิมน้อยจะออกมาประกาศว่าเกาหลีเหนือจะมียิงนิวเคลียร์ถล่มเกาหลีใต้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เกาหลีใต้วางใจได้ งั้นก็เปิดลำโพงยักษ์ก่อกวนเขาไปเรื่อยๆสิ มีเดือดแน่ ฮี่ๆ

ภาพจาก © AP Photo/ JUNG YEON-JE

---------------
North Korea Changes Satellite Launch Dates

 

ปอกเปลือก ทรราช



รัสเซียประกาศว่าเครื่องบินรบ Mikoyan MiG-35 (Fulcrum-F) ของรัสเซียจะลงนามร่วมกับกองทัพของรัสเซียในปีนี้ หมายความว่า รัสเซียจะสั่งผลิต MiG-35 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องบินรบ G4++ จากค่าย MiG ของรัสเซียซึ่งพัฒนามาจาก MiG-29M/M2 และ MiG-29K/KUB ในเร็วๆนี้ มี Su-35 แล้วก็มี MiG-35 เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพอากาศรัสเซียอีก ฉลุย!

ภาพจาก © Flickr/ mashleymorgan

-----------
Russian MiG to Sign MiG-35 Fighter Contract With Defense Ministry This Year
MiG-35 Multi-Role Fighter | Military-Today.com
MiG-35 / MiG-29M OVT / Fulcrum F
https://en.wikipedia.org/wiki/Mikoyan_MiG-35
Bell OH-58 Kiowa - Armed Scout and Reconnaissance / Light Attack Helicopter - History, Specs and Pictures - Military Aircraft...

 

ปอกเปลือก ทรราช
คิมน้อยเอาจริง... เกาหลีเหนือยิงจรวดยาวส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรรอบโลกหลังเลื่อนเวลาหนึ่งวัน



-------------
วันที่ 7 ก.พ.59 Sputnik news และ RT new พาดหัวข่าวว่า "เกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยไกลแล้ว" (North Korea Fires Long-Range Rocket)
เกาหลีเหนือปล่อยจรวดบอลลิสติกพิสัยไกล (a "long-range" ballistic rocket) ซึ่งเชื่อว่าบรรทุกดาวเทียมดวงหนึ่ง กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้กล่าว
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า จรวด (rocket) ดังกล่าวถูกปล่อยออกไปในเวลา 12.30 น (GMT) ตามคำพูดของผู้บัญชาการเสนาธิการร่วม ซึ่งกำลังติดตามเส้นทางการบินของเป้าหมายของจรวดบอลลิสติก ผู้บัญชาการกองกำลังยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯยังได้ตรวจจับและติดตามการยิงขีปนาวุธขึ้นสู่อวกาศด้วย รอยเตอร์สรายงาน
[นี่ก็ปอดเกินไป ก็คิมน้อยแจ้งกับสหประชาชาติแล้วว่าไม่ใช่ขีปนาวุธข้ามทวีป เกาหลีใต้ก็ยังพยายามที่ใช้คำว่า "จรวดบอลลิสติกพิสัยไกล" เพื่อป้ายสีเกาหลีเหนือและสร้างความกังวลแตกตื่นให้เกิดขึ้นทั่วโลกอยู่ได้ ไอซีทีครับวานไปออกหมายจับรมว.กลาโหมเกาหลีใต้ฝ่ายเสธด้านยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ได้ไหมครับ - ผู้แปล]
"NORAD ระบุว่าไม่มีโอกาสที่ขีปนาวุธจะเป็นภัยคุกคามต่ออเมริกาเหนือ (NORAD determined that at no time was the missile a threat to North America.)" แถลงการณ์จากกองกำลังด้านยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯกล่าว
[อ้าว! ถ้าอย่างนั้นแล้วสหรัฐจะโวยวายทำไมหละครับ? ก็เขาบอกว่าจะปล่อยจรวดขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อส่งดาวเทียมออกไป มันจะเป็นภัยคุกคามต่ออเมริกาเหนือได้อย่างไร? - ผู้แปล]
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า มีการคำนวนว่าชิ้นส่วนแรกของจรวดจะไปตกที่ ["ทำเนียบขาว?" Oopz! ท่านโอบาม่าไม่ต้องตกใจนะครับ แอ็ดมินแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง - ผู้แปล เอาจริงหละนะคราวนี้ ชิ้นส่วนแรกของจรวดจะตกลงไปในทะเลตะวันตก (West Sea) ตามคำเตือนของเกาหลีเหนือก่อนหน้านี้ที่แจ้งไปยังยูเอ็น และตามความคิดเห็นของกองทัพกรุงโซลมองว่า ไม่มีอันตรายจากชิ้นส่วนขยะ (debris) หรือส่วนอื่นๆของจรวดในดินแดนของเกาหลีใต้
ดูเหมือนว่าในขณะที่จรวด (ของเกาหลีเหนือ) จะประสบความสำเร็จในการแยกตัวในขั้นตอนที่หนึ่ง และที่สอง และชิ้นส่วน (debris) เหล่านั้นก็ได้ตกลงในพื้นที่ที่มีการกำหนดไว้ ทางกรุงโซลยังพิจารณาว่าการปล่อยจรวดในครั้งนี้ประสบความล้มเหลว สำนักข่าว Yonhap รายงาน โดยกล่าวว่า จรวดดังกล่าว "ได้ลุกเป็นไฟ" (burned up) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Jeju ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดนอกชายฝั่งทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี
ขีปนาวุธหายไปจากเรดาร์ ระหว่างที่กำลังทำการแยกส่วน สำนักข่าว Yonhap กล่าว เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกลาโหมของสหรัฐฯยังได้ยืนยันเกี่ยวกับการปล่อยจรวดในครั้งนี้ด้วย โดยกล่าวว่า วิถีการบิน (flight trajectory) "ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯหรือพันธมิตรของพวกเรา" (…does not pose a threat to the US or our allies.)
[ครับ! แต่ว่า ก่อนหน้านี้ใครนะที่ดาหน้าออกมาดิ้นเร่าๆจะเป็นจะตายให้ได้ว่า การปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯและพันธมิตรของสหรัฐฯหนะ? จำได้ไหมเอ่ย? หรือว่าเป็นอัลไซเมอร์กันหมดแล้วนี่ - ผู้แปล]
อย่างไรก็ตามคุณ Susan Rice ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯได้เรียกการปล่อยจรวดในครั้งนี้ว่า "เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง" (a serious threat) ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา
หญิงไรซ์ กล่่าวว่า "ขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้แสดงว่าเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อผลประโยชน์ของพวกเรา ซึ่งรวมทั้งความปลอดภัยของพันธมิตรที่ใกล้ชิดบางประเทศของพวกเราด้วย และเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคในวงกว้าง"
[หล่อนก็เลี่ยงบาลีซะด้วย กล่าวคือหล่อนไม่ได้บอกตรงๆว่า จรวดลูกนี้เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯหรือไม่ แต่หล่อนพูดแบบรวมๆครอบจักรวาลว่าทั้งขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ - ผู้แปล]
ก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือได้แจ้งต่อองค์กรทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) เกี่ยวกับการปล่อยจรวดเพื่อนำส่งดาวเทียมสอดแนมเข้าสู่วงโคจรรอบโลก ซึ่งอ้างว่าจะปล่อยในช่วงวันที่ 8-25 กุมภาพันธุ์
[เมื่อวานนี้เกาหลีเหนือประกาศว่าจะขอเลื่อนการปล่อยจรวดหนึ่งวัน นึกว่าจะเลื่อนออกไป ที่ไหนได้ คิมน้อยเลื่อนเข้ามาเป็นวันที่ 7 ซะงั้น เล่นเอาสหรัฐฯและเกาหลีใต้รวมทั้งญี่ปุ่นรับมุกไม่ทันเลยครับ - ผู้แปล]
อย่างไรก็ตาม การปล่อยจรวดดังกล่าวได้สร้างควมกังวลระดับนานาชาติให้เกิดขึ้นมา เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล (long-range missile test) เกาหลีเหนือถูกห้ามจากการใช้เทคโนโลยีบอลลิสติกมิสไซล์ ภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ไม่มีขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธบอลลิสติกถูกยิงออกมาเนื่องจากจรวดได้ผ่านเหนือเกาะโอกินาว่าทางภาคใต้ของญี่ปุ่น สถานีโทรทัศน์ NHK รายงาน ในขณะเดียวกันนาย Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นก็ได้ออกมาประนามการปล่อยจรวดในครั้งนี้ด้วย โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "พวกเราไม่สามารถที่จะอนุญาตเรื่องนี้อย่างแน่นอน พวกเราจะดำเนินการเพื่อปกป้องความปลอดภัยและการอยู่ดีกินดีของประชาชนของพวกเราให้ถึงที่สุด" อาเบะกล่าว
[เฮ้อ… ทำยังกะว่าคิมน้อยจะสนอย่างนั้นแหละ คิมน้อยบอกว่า ผมไม่ได้ขอข้าวญี่ปุ่นกินนะครับ ผมปลูกข้าวกินเอง และพวกคุณก็ห้ามการค้าขายกับเกาหลีเหนือด้วย ทำไมเกาหลีเหนือจะต้องให้ความสนใจต่อความกังวลของญี่ปุ่นและสหรัฐฯด้วย ญี่ปุ่นอ้างแต่ความปลอดภัยและความอยู่ดีกินดีของประชาชนของตนเอง แล้วประชาชนเกาหลีเหนือหละ ญี่ปุ่นไม่ห่วงบ้างหรือ? จะให้สหรัฐฯเข้าไปตั้งฐานทัพในประเทศตัวเองแล้วก็ยังเรียกเก็บค่าบริการจากการเข้าไปตั้งฐานทัพจากเจ้าของประเทศอย่างญี่ปุ่นหนะหรือ เกาหลีเหนือไม่เอาแบบนั้นหรอกนะครับ เชิญญี่ปุ่นตามสะบายละกัน - ผู้แปล]
อ้อ… Sputnik news อ้างคำพูดของสำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ว่า จรวดของเกาหลีเหนือในครั้งนี้มีพิสัยการยิงไกลถึง 10,000 กิโลเมตร (6,213 ไมล์) [ว้าวววว นี่ขนาดถูกแซงชั่นจากสหรัฐฯและนานาชาติหลายสิบปี เกาหลีเหนือยังพัฒนาศักยภาพของตนเองได้ขนาดนี้เลยนะนี่ หลายประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังทำไม่ได้ขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ - ผู้แปล]
ป.ล. อ่ะฮ้าาาาา! อัพเดทข่าวล่าสุดจาก RT และ Sputnik news ซึ่งรายงานว่า เกาหลีเหนือประกาศว่าการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจรในครั้งนี้ประสบความสำเร็จแล้วครับ งานนี้สื่อฯเกาหลีใต้หน้าแตกยับ ฮิ้วววว
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
07/02/2559
----------
North Korea Fires Long-Range Rocket
https://www.rt.com/news/331613-north-korea-rocket-launch/
North Korea Changes Satellite Launch Dates

 

ปอกเปลือก ทรราช



วันเดียวกันนี้รัสเซียก็ปล่อยจรวด Soyuz-2.1B นำส่งดาวเทียม Glonass-M ขึ้นสู่วงโคจรรอบโลกเช่นกัน

ภาพจาก © Sputnik/ Mikhail Voskresenskiy

-----------
Russia Launches Soyuz-2.1B Carrier Rocket Carrying Glonass-M Satellite

 

ปอกเปลือก ทรราช
กินเงียบ... ชอบส่งคนมาปั่นตลาดหุ้นจีนดีนักใช่ไหม งั้นจีนก็จะซื้อตลาดหุ้นชิคาโก้ของสหรัฐฯซะเลย



-------------
วันที่ 7 ก.พ.59 Xinhua และ Chinadaily ของจีน พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐจะขายตลาดหุ้นชิคาโก้ให้กลุ่มบริษัทจีน" (Chicago Stock Exchange to be sold to a Chinese group)
รายงานข่าวบอกว่าตลาดหลักทรัพย์ชิคาโกของสหรัฐฯประกาศในเว็บไซต์ของตนเองเมื่อวันศุกร์นี้ว่าได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายที่จะขายกิจการให้กับกลุ่มนักลงทุนซึ่งนำโดยกลุ่มบริษัทฉงชิ่ง (Chongqing Casin Enterprise Group (Casin Group)) ของจีน รอยเตอร์สกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นชิคาโกเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ
คณะกรรมการผู้บริหารของ Chicago Stock Exchange ได้มีมติอนุมัติในการเปลี่ยนถ่ายอย่างเป็นเอกฉันท์ คำประกาศกล่าว แต่ก็ยังต้องรอการอนุมัติจากฝ่่ายควบคุมตลาดหลักทรัพย์ด้วย และคาดว่าจีนจะเข้ายึดครองตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขในการซื้อขายในครั้งนี้
นาย John Kerin CEO และประธานบริษัทตลาดหลักทรัพย์ชิคาโก้กล่าวว่า การขายกิจการออกไปเป็นผลที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ผู้ถือหุ้น และประชาคมการค้า เนื่องจากเป็นการตรวจสอบในเชิงชึกเกี่ยวกับทางเลือกอื่นๆด้านยุทธศาสตร์สำหรับตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด
ตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้ได้เรียนรู้ว่า บริษัทชาวจีนจะรักษาการดำเนินการทางธุรกิจในปัจจุบัน และแพลตฟอร์มการค้าที่มีการจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ชิคาโก้ และทีมบริหารจัดการก็จะยังคงอยู่ที่เดิมจนกว่าจะมีการปิดการซื้อขาย
Casin Group ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มณฑลฉงชิ่ง (ในประเทศจีน) เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่หลากหลายระดับแนวหน้าในจีน ซึ่งได้มีการลงทุนในการให้บริการด้านการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และการให้บริการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า นี่จะเป็นตลาดหลักทรัพแห่งแรกของสหรัฐฯที่จะถูกซื้อโดยบริษัทจีน ตลาดหลักทรัพย์ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 134 ปี และปัจจุบันนี้มีส่วนแบ่งในการค้าในตลาดหุ้นของสหรัฐฯประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์
[ครับ… มีหนึ่งก็ต้องมีสอง สาม สี่ ห้า… ตามมา จริงไหมครับท่านโอบาม่า? มันเป็นวัฏจักร สมบัติผลัดกันชม อยู่ดีไม่ว่าดี ดันไปป่วนตลาดหุ้นเขาก่อน คราวนี้จีนก็จะเอาคืนบ้าง แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีถูกกระทำ งานนี้จีนฮุบบริษัทหลักทรัพย์ของสหรัฐซะเลย กินลึกนะนี่ มาถึงจุดนี้ทำให้ต้องหยุดคิดว่า เอ… ก็ไหนว่าสหรัฐฯและตะวันตกเก่งเรื่องเศรษฐศาสตร์และการบริหารธุรกิจไม่ใช่รึ ไหนในระยะยาวถึงถูกจีนเข้าเทคโอเวอร์ซะงั้นหละ ตลกลงว่าเราจะต้องส่งลูกหลายไปศึกษา การเงิน การธนาคาร และธุรกิจจากจีนแล้วหละมั๊งนี่? - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
07/02/2559
----------
Chicago Stock Exchange to be sold to a Chinese group - Business - Chinadaily.com.cn
Chicago Stock Exchange to be sold to a Chinese group - Xinhua | English.news.cn
Chinese investor group to buy Chicago Stock Exchange | Reuters

 

ปอกเปลือก ทรราช
ศึกซีเรีย: ยูเออีประกาศพร้อมส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียร่วมกับซาอุดิอาระเบีย, รัสเซียเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพซีเรียด้วยรถถังหลัก T-90A อัพเกรดสำหรับสนามรบในซีเรียโดยเฉพาะหลังจากซุ่มฝึกให้กับทหารซีเรียในรัสเซีย



-------------
[หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียประกาศว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย ตามด้วยบาห์เรน อ้างว่าเพื่อเข้าไปปราบไอซิส หลังจากที่กลุ่มก่อการร้ายดาอิชถูกกองทัพซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียบดขยี้อย่างหนักจนสามารถยึดเมืองคืนได้หลายแห่งในจังหวัด Aleppo Latakia และเมืองอื่นๆ ทำให้พวกลูกพี่กลุ่มก่อการร้ายนั่งไม่ติดนอนไม่หลับ ต่างกระวนกระวายใจเป็นอย่างมากที่ดาอิชตกเป็นรองในสนามรบจึงพากันดาหน้าออกมาขู่เป็นรอบที่สองว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปเสริมทัพในซีเรีย
โดยรอบแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียประกาศว่าจะจัดตั้งกองกำลังพันธมิตรร่วมกับกลุ่มประเทศอิสลามประมาณ 34 ประเทศเพื่อต่อต้านขบวนการก่อการร้ายและได้มีการลงนามกันเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มีหลายประเทศที่ถูกอ้างชื่อออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยรู้เรื่องนั้นมาก่อนเลย ซาอุดิอาระเบียพูดเองเออเองทั้งนั้น ทำให้ซาอุดิอาระเบียหน้าแตกยับไปครั้งหนึ่งแต่ก็ยังไม่ละความพยายาม
งานนี้มาแผนใหม่บอกว่าจะส่งทหารเข้าไปในซีเรียเองเลย ในขณะที่ภายในประเทศซาอุดิอาระเบียเองก็กำลังถูกกองทัพเยเมนภายใต้การนำของคณะปฏิวัติชนเผ่าฮูติรุกเข้าไปในแผ่นดินของซาอุดิกินพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดแก๊งเดิมยูเออีหนึ่งในพันธมิตรที่เหนียวแน่นของซาอุดิอาระเบียที่กำลังรวมหัวกันกินโต๊ะเยเมนอยู่ในขณะนี้ก็บอกว่าพร้อมจะร่วมมือกับซาอุดิอาระเบีย - ผู้แปล]
1.) วันที่ 7 ก.พ.59 "ตามรอยซาอุดิอาระเบีย: ยูเออียืนกรานจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย" (In Saudi Arabia’s Footsteps: UAE Poised to Send Ground Troops to Syria)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานาย Anwar Gargash รมว.ต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "พวกเรารู้สึกผิดหวังที่ก้าวช้าไป... ในการเผชิญหน้ากับพวกผู้ก่อการร้ายดาอิช พวกเราไม่ได้พูดถึงกองทัพเป็นพันๆนาย แต่พวกเรากำลังพูดถึงกองทัพภาคพื้นดินที่จะนำทาง... ซึ่งจะสนับสนุน... และผมคิดว่าจุดยืนของพวกเรายังคงเหมือนเดิม และพวกเราจะได้เห็นว่ากระบวนการนี้ดำเนินไปอย่างไร" รอยเตอร์สรายงาน
[ยูเออีและซาอุดิอาระเบียรู้สึกผิดหวังที่เข้าไปช่วยลูกน้องไม่ทันหรือเปล่าครับท่านรัฐมนตรี? อ้างว่าจะส่งกองทัพเข้าไปนำทาง (lead the way) และสนับสนุน (support) นำทางและสนับสนุนใครหรือครับ? ผู้ก่อการร้ายหรือว่าฝ่ายต่อต้านผู้ก่อการร้าย? ดาอิชเปิดศึกกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียมาถึง 4 ปีกว่า เกือบจะยึดประเทศซีเรียได้ทั้งประเทศอยู่แล้ว
ถ้ารัสเซียไม่เข้าไปช่วย ป่านนี้ซีเรียได้กลายเป็นประเทศดาอิชไปแล้ว และก่อนหน้านั้นทำไมถึงไม่เห็นซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรอาหรับกระตือรือร้นที่จะส่งกองกำลังเข้าไปปราบปรามผู้ก่อการร้ายเหมือนตอนที่พวกผู้ก่อการร้ายกำลังได้รับความพ่ายแพ้ในตอนนี้หละครับ? - ผู้แปล]
2.) มาฟังบทวิจารณ์จากสื่อฯฝั่งตะวันตกเกี่ยวกับเรื่องนี้กันบ้างนะครับ วันที่ 7 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การเข้าไปแทรกแซงในซีเรียโดยซาอุดิอาระเบีย จะทำให้ภูมิภาคนั้นกระโจนเข้าสู่กลียุค" (Saudi Arabia's Intervention in Syria ‘Would Plunge Region Into Chaos') หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมันกล่าว
สื่อฯเยอรมันตั้งข้อสังเกตว่า พัฒนาการด้านกองกำลังภาคพื้นดินของซาอุดิอาระเบียที่ปราศจากการยินยอมของรัฐบาลซีเรีย จะนำไปสู่การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ยิ่งกว่านั้น ในความเป็นจริงแล้วกรุงริยาห์ดก็คือ "ผู้เขียน" (author) หลักของความขัดแย้งในซีเรีย เนื่องจากกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียได้กลายเป็นแหล่งสนับสนุนหลักทางการเงินและอาวุธให้กับกลุ่มกบฏต่างๆในภูมิภาค
หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมันกล่าวต่ออีกว่า เจตนาและการดำเนินการของกรุงริยาห์ดก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาเป็นอย่างมาก (/น่าสงสัยมาก) ดูเหมือนว่าเหล่าผู้ปกครองซาอุดิอาระเบียกำลังสนับสนุนพวกกบฏ มากกว่าจะต่อสู้ขบวนการก่อการร้าย และการกระทำแบบนี้ยิ่งจะเป็นการกระโจนเข้าไปสู่กลียุคลึกเข้าไปอีก
สื่อฯเยอรมันรายนี้ฟันธงเลยว่า การส่งกองกำลังภาคพื้นดินจากฝ่ายซาอุดิอาระเบียเข้าไปในซีเรียจะไม่มีทางได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลซีเรียโดยเด็ดขาด
[จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือว่า สมมุติว่าซาอุดิอาระเบียไม่สนคำทัดทานจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะจากฝ่ายรัสเซีย ซาอุดิอาระเบียและพรรคพวกจะใช้ช่องทางไหนในการส่งกองกำลังของตนเองเข้าไปในซีเรียให้ได้? ข้ออ้างที่ซาอุดิอาระเบียและบาห์เรนรวมทั้งยูเออียกขึ้นมาอ้างก็คือ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ กล่าวคือส่งเข้าไปในนามของสหรัฐฯและตะวันตก เพราะอะไร?
ก็เพราะว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ไฟเขียวให้นานาชาติส่งกองกำลังเข้าไปในซีเรียเพื่อปราบปราบผู้ก่อการร้ายได้ โดยมีฝรั่งเศสออกหน้าหลังเกิดการโจมตีในกรุงปารีสเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีประเทศไหนในยุโรปกล้าส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปเลย มีแต่ส่งเครื่องบินรบเข้าไปโจมตีทางอากาศในซีเรียเพื่อสนับสนุนสหรัฐฯเท่านั้น ด้านกลาโหมของสหรัฐฯก็ขู่ว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ส่งเข้าไปจริงๆ ยกเว้นชุดก่อนที่ส่งเข้าไปประมาณ 50 นายอ้างว่าเพื่อไปฝึกให้กับพวกกบฏชาวเติร์กเมนพันธมิตรของตุรกีในซีเรีย
สหรัฐฯพยายามเดินสายผลักให้อียูส่งทหารเข้าไปตายแทนทหารอเมริกัน แต่มหาอำนาจหลักของยุโรปเช่นฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ กลับถอยหลัง ขนาดฝูงบินสอดแนมของเยอรมันที่ส่งเข้าไปในซีเรียซึ่งประจำการอยู่ในตุรกี ก่อนที่จะบินเข้าไปเหนือน่านฟ้าของซีเรียได้ยังได้ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลซีเรียซะก่อน ซึ่งก็คือขออนุญาตจากรัสเซียนั่นแหละ เพราะว่าตอนนี้รัสเซียเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย
แม้ว่ายูเอ็นจะไม่ได้ห้ามไม่ให้มีการส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียก็ตาม แต่ยูเอ็นจะเป็นใหญ่เหนืออธิปไตยของซีเรียได้อย่างไร ยังไงซะถ้ารัฐบาลท้องถิ่นไม่อนุญาต ฝ่ายที่จะส่งเข้าไปก็ตกอยู่ในฐานะผู้รุกรานอยู่ดี งานนี้ซาอุดิอาระเบียแม้จะมีสหรัฐฯหนุนหลัง ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะกระทำเช่นนั้น หากส่งเข้าไปจริง กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียก็มีความชอบธรรมที่จะปราบปรามผู้รุกราน และกองทัพอากาศของรัสเซียก็สนับสนุนกองทัพซีเรียอย่างเต็มที่ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าบังเอิญลูกระเบิดจากเครื่องบินรบของรัสเซียตกใส่กองทหารของฝ่ายซาอุดิอาระเบียในซีเรีย
ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย ก็จะเหมือนกรณีรัสเซีย-ตุรกีขึ้นมาทันที ถ้าซาอุดิอาระเบียตอบโต้ คิดหรือว่า รัสเซียจะอยู่เฉยๆ คราวนี้ฝ่ายที่จะติดหล่มสงครามอย่างแท้จริงก็คือซาอุดิอาระเบียต่างหาก ไหนจะทำศึกในเยเมน ไหนจะรับมือฮูติในแผ่นดินของตนเองด้วย แล้วยังต้องมารับมือกับรัสเซียและอิหร่านในซีเรียอีก นั่นยิ่งเป็นการเร่งเวลาให้ซาอุดิอาระเบียถึงคราวล่มสลายเร็วขึ้นไปอีก
ถ้าซาอุดิอาระเบียอ่อนแอ OPEC ก็จะอ่อนแอตามไปด้วย ยกเว้นอิหร่านที่กำลังจะก้าวขึ้นมาแทนที่ซาอุดิอาระเบีย แล้วสหรัฐฯซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของซาอุดิอาระเบียจะไม่ช่วยเหลือซาอุดิอาระเบียบ้างหรือ? ก็น่าจะช่วยนะครับ คือช่วยขายอาวุธให้ซาอุดิอาระเบียเพื่อไปสุมไฟสงครามให้แรงเข้าไป ตราบเท่าที่ซาอุดิอาระเบียยังสามารถหาเงินมาจ่ายค่าอาวุธได้
ถ้าเงินหมดก็แปรรูปกิจการน้ำมันซะเลย คนที่จะเข้าไปแบ่งเค้กในส่วนนี้รายแรกก็น่าจะเป็ฯสหรัฐฯนั่นแหละ ซึ่งก็เข้าทางสหรัฐฯที่หวังจะควบคุมธุรกิจน้ำมันของกลุ่มโอเปกอยู่แล้วจนได้ กล้าเสี่ยงไหมครับซาอุดิอาระเบีย? - ผู้แปล]
3.) นั่นคือท่าทีล่าสุดจากการออกมาขู่โดยฝ่ายเห็นขบวนการก่อการร้ายกำลังปราชัยแล้วทนไม่ได้ถึงได้แสดงความกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง คราวนี้มาดูการเคลื่อนไหวจากฝั่งรัสเซียและซีเรียบ้างว่ามีอะไรจะเตรียมต้อนรับน้องใหม่หน้าเก่าในสนามรบซีเรียบ้าง
วันที่ 7 ก.พ.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รถถัง T90 ผลิตโดยรัสเซียจะไปทำพิธีล้างบาปด้วยไฟในซีเรีย" (Russian-Made T-90 Tank Goes Through Baptism by Fire in Syria) สื่อฯรัสเซียเกริ่นนำว่า เป็นครั้งแรกที่กองทัพซีเรียใช้รถถัง T-90A ของรัสเซียในการสู้รบ โดยพิธีล้างบาปด้วยไฟให้กับรถถังเหล่านี้ได้จัดขึ้นในสถานที่แห่่งหนึ่งใกล้เมือง Aleppo
[เมื่อฝ่ายซาอุดิอาระเบียกล้าประกาศอย่างชัดแจ้งว่า จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย รัสเซียก็ไม่ขัดศัทธา จึงประกาศว่างั้นรัสเซียก็จะต้อนรับกองกำลังพันธมิตรซาอุดิอาระเบียนำโดยสหรัฐฯด้วยรถถัง T-90A main battle tank ใหม่เอี่ยมอัพเกรดมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะเช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัสเซียเพิ่งจะส่งสุดยอดเครื่องบินรบ Su-35 G4++ รุ่นใหม่จำนวนหนึ่งเข้าประจำการในซีเรียไปหยกๆ
คราวนี้รัสเซียก็จัดหนักด้วย T-90A อีก มีแต่ของเกรดเอที่ประจำการในกองทัพของรัสเซียทั้งนั้น ไม่ใช่เวอร์ชั่นส่งออกอย่าง T-90S ด้วย ให้ไวครับซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน และยูเออี ถ้าตุรกีจะร่วมด้วย รัสเซียก็คงจะไม่ขัดศัทธาเช่นกัน ว่าแต่ว่าตอนนี้ภายในบ้านของทั้งซาอุดิอาระเบียและตุรกีเองก็กำลังรุกเป็นไฟไม่ใช่หรือ? ยังจะอาจหาญมาเปิดศึกอีกด้านในซีเรียด้วย จะไหวหรือครับ? - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่า T-90A เป็นหนึ่งในอาวุธที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดของรัสเซีย ได้ผ่านพิธี baptism ด้วยไฟมาแล้วด้วยการปฏิบัติภารกิจกับกองทัพของซีเรีย ก่อนหน้านี้มีรายงานจากสื่อฯของตุรกีและอิหร่าน (ว่ามี T-90s ของรัสเซียอยู่ในซีเรีย) และต่อมารมว.กลาโหมของรัสเซียก็ออกมายืนยัน
หนังสือพิมพ์ Yeni Safak ของฝ่ายรัฐบาลตุรกีรายงานโดยอ้างคำพูดของผู้บัญชาการกองทัพว่า พบว่ามีรถถึง T-72 และ T-90 จำนวน 80 คันอยู่ในการสู้รบในทางเหนือของจังหวัด Aleppo รายงานข่าวดังกล่าวยังบอกวด้วยว่า กองทัพของซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนโดยเครื่องบินรบของรัสเซีย ได้เข้ายึดเมือง Nubul และ Zehra ทางทิศเหนือของจังหวัด Aleppo ได้แล้ว (จังหวัด Aleppo มีชายแดนอยู่ติดกับตุรกี)
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้กล่าวกับสำนักข่าว RNS ว่า ในช่วงปลายปี 2015 ได้มีการจัดส่งรถถัง T-90 จำนวนมากเข้าไปในซีเรีย แหล่งข่าวกล่าวว่าก่อนหน้านี้ รถถังเหล่านั้นประจำการอยู่ในกองทัพของรัสเซีย กองทัพของซีเรียได้เข้าไปฝึกภาคสนามในประเทศรัสเซีย มีการใช้งานรถถังเหล่านั้นเป็นครั้งแรกในการสู้รบโดยกองทัพซีเรียใกล้จังหวัด Aleppo โดยให้การสนับสนุนการโจมตีภาคพื้นดินให้กับกองทัพซีเรีย
รายงานข่าวบอกว่า รถถัง T-90A ได้ประจำการในกองทัพของรัสเซียอย่างเป็นทางการในปี 2004 T-90A เป็นเวอร์ชั่นที่มีการปรับปรุงให้มีความทันสมัยมากขึ้นจากรถถังรุ่น T-90 Vladimir ซึ่งพัฒนามาจาก T-72B ในปี 1980-1990s ที่ได้ชื่อว่า "Vladimir" (วลาดิเมียร์) นั้นเป็นการตั้งชื่อตามผู้พัฒนาซึ่งมีชื่อว่า "Vladimir Potkin"
T-90A มีจุดเด่นอยู่ที่เครื่องยนต์และป้อมปืนใหม่ และติดตั้งระบบ thermal-vision (การมองเห็นจากการตรวจจับความร้อน) เครื่องยนต์ของรุ่นนี้มีแรงขับ 1,000 แรงม้า ที่ 2,000 รอบต่อนาที และติดตั้งเกราะป้องกันรุ่นที่สามด้วย ซึ่งมีความสามารถทนทานต่อการโจมตีด้วยปืนใหญ่รถถัง M829A2 และ DM43A1 ขนาด 120 มม.ของรถถัง Abrams M1A1 ของสหรัฐฯ และรถถัง Leopard-2 ของเยอรมันตามลำดับ
ระบบป้องกัน (ตนเอง) ของ T-90 (A) มีศักยภาพในการป้องกันรถถังจกาขีปนาวุธทำลายรถถัง (anti-tank missiles) อย่าง TOW-2A และ HOT-2 ได้
สำนักข่าว FARS ของอิหร่านรายงานว่า ในช่วงสี่ปีครึ่งของสงครามกลางเมืองในซีเรีย กลุ่มก่อการร้ายต่างๆได้รับขีปนาวุธทำลายรถถัง TOW ซึ่งผลิตโดยสหรัฐฯจำนวน 9,000 กว่าชุด และเครื่องยิงลูกระเบิด M-79 ด้วย [อ้าวนึกว่าจะมี M-79 ตกใส่ม็อบในประเทศไทยเท่านั้น พวกกบฏฝ่ายค้านซีเรียและกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียก็นิยมใช้เหมือนกันนิ - ผู้แปล]
รายงานข่าวกล่าวต่ออีกว่า กลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการต่อต้านรถถัง T-55 และ T-72 รุ่นเก่าของกองทัพซีเรีย หลังจากที่มีการจัดส่งรถถัง T-90 รุ่นใหม่ล่าสุดเข้าไปในซีเรียแล้วเท่านั้น กองทัพซีเรียจึงเริ่มมีความก้าวหน้าในการต่อต้านกลุ่มก่อกร้ายต่างๆได้
รายงานข่าวบอกว่า กองทัพซีเรียจะใช้รถถัง T-90 ในสนามรบต่างๆในจังหวัด Aleppo, Idlib, Hama และ Homs แต่ปัจจุบันนี้การสู้รบหลักมุ่งเป้าไปที่พื้นที่จังหวัด Aleppo และทางตอนเหนือของจังหวัด Latakia
[ร่ายสรรพคุณของ T-90A ของรัสเซียเพียงคร่าวๆแค่นี้ก็พอนะครับ หากใครสนใจรายละเอียดมากกว่านี้สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากอินเตอร์เน็ทหรือวิกิพีเดีย อ้อ… T-90A ไม่ยังไม่ใช่รุ่นล่าสุดของตระกูล T-90 นะครับยังมี T-90AM/T-90MS] ด้วยโดยเปลี่ยนจากเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด (Explosive Reactive Armour - ERA) แบบ Kontakt-5 ที่ใช้ใน T-72B3 และ T-90A/T-90S มาเป็นเกราะแบบ Relict ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าแบบเดิม เกราะ ERA ไม่ได้ป้องกันตัวรถถังได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นการลดความเสียหายลงเท่านั้น โดยทำให้จรวจทำลายรถถังหรือ RPG เกิดการระเบิดก่อนที่จะเข้าถึงตัวรถถัง - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
08/02/2559
----------
In Saudi Arabia’s Footsteps: UAE Poised to Send Ground Troops to Syria
Saudi Arabia's Intervention in Syria 'Would Plunge Region Into Chaos'
Russian-Made T-90 Tank Goes Through Baptism by Fire in Syria
UAE ready to send ground forces to Syria | News | DW.COM | 07.02.2016
https://en.wikipedia.org/wiki/T-90
https://www.youtube.com/watch?v=Z_vT5xLP378
https://www.youtube.com/watch?v=rbTCtURggb8

 

10 อันดับกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านติดอันดับ 8
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.พ. 6, 2016



farsnews – หนังสือพิมพ์อังกฤษฉบับหนึ่งรายงานโดยชี้ถึง 10 ประเทศในโลกในแง่ของเจ้าหน้าที่และกองกำลังทหารที่มีความพร้อมในการเผชิญหน้าสู้รบและชี้ถึงกองกำลังติดอาวุธของอิหร่านที่เป็นหนึ่งในสิบประเทศที่มีกองทัพใหญ่ที่สุดของโลก

หนังสือพิมพ์ express รายงานภายใต้หัวข้อ “กองทัพใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งไม่ควรที่จะเผชิญหน้าทางทหาร” โดยชี้ถึงกองกำลังติดอาวุธของอิหร่านที่ติดอันดับ 8 ในสิบประเทศที่มีกองทัพใหญ่ที่สุดของโลก

หนังสือพิมพ์ express เริ่มต้นรายงานด้วยการตั้งคำถาม ว่า ประเทศใดที่มีเจ้าหน้าที่ทางทหารที่มีความพร้อมที่สุดสำหรับการต่อสู้ในการเผชิญกับสงครามในระดับโลก?

ตามรายงานระบุว่าหนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้ชี้ถึงประเทศอิหร่านในฐานะเป็นกองทัพอันดับ 8ของโลก ว่า รายงานระบุว่าโดรน(เครื่องบินอากาศยานไร้พลขับ)ของอิหร่านแบบพลีชีพเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธทางทหารที่มีประสิทธิภาพ และเป็นอาวุธที่มีราคาถูกกว่าขีปนาวุธ Cruise เสียอีก

ตามรายงานเอ็กซ์เพรส กองทัพของอิหร่าน มีเจ้าหน้าที่จำนวน 534,000 นายที่มีความพร้อม

หนังสือพิมพ์ เอ็กซ์เพรส ยังรายงาน 10 อันดับกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนี้

อันดับ 1 จีน มีเจ้าหน้าที่ทางทหารที่มีความพร้อมจำนวน 2,285,000 นาย อันถือเป็นเจ้าอันดับหนึ่งของโลก

อันดับ 2 อเมริกา มีเจ้าหน้าที่ทางทหารที่มีความพร้อมจำนวน 1,431,000 นาย

อันดับ 3 อินเดีย 1,325,000 นาย

อันดับ 4 เกาหลีเหนือ 1,190,000 นาย

อันดับ 5 รัสเซีย 768,500 นาย

อันดับ 6 ปากีสถาน 630,400 นาย

อันดับ 7 เกาหลีใต้ 630,000 นาย

อันดับ 8 อิหร่าน 534,000 นาย

อันดับ 9 ตุรกี 510,600 นาย

อันดับ 10 เวียดนาม 482,000 นาย

ก่อนหน้านี้ เว็บ British Forces Face News ได้รายงานถึงขีดความสามารถของกองกำลังติดอาวุธอิหร่าน ภายใต้หัวข้อ “รายการที่ควรทราบเกี่ยวกับการทหารอิหร่าน” ว่า เจ้าหน้าที่ทางทหารอิหร่านมีจำนวน 523,000 นาย ซึ่งยอดจำนวนดังกล่าวรวมถึงกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม

นอกจากนั้น ในตอนท้ายของรายงานฉบับนี้ ได้ชี้ถึงศักยภาพทางทหารของอิหร่านเกี่ยวกับเรือดำน้ำ “Ghadir” และขีปนาวุธ “CGIL” ว่า เรือดำน้ำ Ghadir เป็นภัยคุกคามต่อช่องแคบ Hormuz ซึ่งร้อยละ 20 ของเชื้อเพลิงในโลกต้องผ่านจากจุดนี้ไปยังตลาดโลก และอิหร่านมียุทโธปกรณ์สำรองขาดใหญ่ อาทิเช่น จรวดขีปนาวุธ “CGIL” มีพิสัยไกลถึง 2,000 -2,500 กิโลเมตร

World's biggest armies - How does UK compare to planet's largest armed forces | World | News | Daily Express
خبرگزاری فارس - اکسپرس گزارش داد ایران دارای هشتمین ارتش بزرگ دنیاست که نباید با آن درگیر شد


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

10 อันดับกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านติดอันดับ 8 | abnewstoday