ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/XO1U_xepK8s" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ปธน. Rouhani ของอิหร่านเข้าพบโป๊ปฟรานซิสที่วาติกัน (เป็นการเดินเกมที่ไม่ธรรมดาของอิหร่านในยุคนี้จริงๆ)
---------------
https://www.youtube.com/watch?v=XO1U_xepK8s

 

ปอกเปลือก ทรราช
"จะไม่มีการเจรจาหยุดยิงกับขบวนการก่อการร้ายเด็ดขาด" - ทูตยูเอ็นในซีเรียกล่าว, อีแอบเริ่มส่งเสียง กลาโหมของอิสราเอลบอกว่าตุรกีสนับสนุนด้านการเงินให้ขบวนการก่อการร้ายดาอิช



-----------
1.) อัพเดทสถานการณ์ทางการเมืองเกี่ยวกับซีเรียซักหน่อยนะครับ วันที่ 25 ม.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การหยุดยิงกับพวกดาอิชและอัลนุสราฟรอนท์ไม่อยู่บนโต๊ะเจรจาก่อนการเจรจาสันติภาพซีเรีย" (Ceasefire With Daesh or Nusra Front 'Not on Table' Ahead of Syria Talks)
Sputnik news รายงานข่าวจากเจนีวา: การหยุดยิงกับขบวนการก่อการร้ายไอซิส ซึ่งรู้กันโดยทั่วไปว่าเป็นกลุ่มจีฮาดิสต์ดาอิชและกลุ่มอัลนุสราฟรอนท์แนวร่วมของขบวนการก่อการร้ายอัลเคด้า ไม่อยู่ในวาระการประชุมก่อนการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและสมาชิกฝ่ายค้านของซีเรีย นาย Staffan de Mistura ทูตพิเศษของยูเอ็นกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
Staffan de Mistura ได้ประกาศในวันศุกร์ว่า วันที่ 29 มกราคม จะเป็นวันสำหรับการเจรจาที่คาดว่าจะมีความเป็นไปได้เป็นอย่างมาก
"เป็นที่ชัดเจนสำหรับทุกฝ่ายที่กำลังเข้าร่วมในกระบวนการ (เจรจาสันติภาพ) ที่เวียนนา ซึ่งรวมทั้งในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคง (แห่งสหประชาชาติ) ด้วย ว่าการระงับการต่อสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิลและอัลนุสรานั้น ไม่อยู่บนโต๊ะเจรจา" Staffan de Mistura กล่าว
ทูตพิเศษของยูเอ็นยังกล่าวอีกว่า การระงับการต่อสู้จากฝ่ายอื่นๆสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ก่อนการเลื่อนการประชุม หนึ่งในเงื่อนไขต่างๆก่อนที่จะมีการประชุมเจรจาภายในของซีเรียในเจนีวาก็คือ "การหยุดยิงอย่างแท้จริงและไม่ใช่เฉพาะในระดับท้องถิ่นเท่านั้น" de Mistura เน้นย้ำ ทูตพิเศษกล่าวตนมีแผนจะออกหนังสือเชิญ (ให้เข้าร่วมการเจรจา) ไปยังผู้แทนของฝ่ายต่างในวันอังคารนี้
[หลังจากนั้นไม่นาน หลังจากที่ยูเอ็นส่งรถทัวร์เข้าไปอพยพสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายบางส่วนพร้อมทั้งครอบครัวออกไปจากพื้นที่ ที่อ้างว่ามีการเจรจาหยุดยิงในจังหวัด Homs วันที่ 26 ม.ค.59 ก็เกิดเหตุการคาร์บอมบ์ขึ้นมาสองครั้งในพื้นที่พักอาศัยของชาวบ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 100 กว่าคนกลุ่มก่อการร้ายไอซิสอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มตน RT news รายงาน เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เพิ่งจะมีเป็นครั้งแรกในพื้นที่จังหวัด Homs หลังจากที่ยูเอ็นส่งรถทัวร์เข้าไปอพยพกลุ่มก่อการร้ายบางส่วนออกไปจากพื้นที่โดยไม่ปลดอาวุธ เพจนี้เคยลงข่าวให้ทราบแล้ว
คราวนี้มาหาคำตอบว่า ทำไมยูเอ็นถึงประกาศว่าจะไม่มีการเจรจาหยุดยิงกับขบวนการก่อการร้ายไอซิสและอัลนุสราในซีเรีย ท่าทีแบบนี้หมายความว่ายูเอ็นสนับสนุนให้ทำสงครามในซีเรียต่อไปใช่หรือไม่? มันไม่น่าจะมีทางอื่นที่จะพูดได้มากกว่านี้แล้ว เพราะว่านั่นคือจุดยืนของนานาชาติ ทั้งสหรัฐฯ อียู รัสเซีย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย
ต้องเข้าใจก่อนว่าสงครามในซีเรียนั้น อย่างน้อยมีสองสงครามที่คาบเกี่ยวกัน อันแรกก็คือสงครามกลางเมืองระหว่างพวกกบฏฝ่ายค้านซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯตะวันตกและกลุ่มประเทศเศรษฐีน้ำมันอาหรับซึ่งรวมทั้งซาอุดิอาระเบีย กาตาร์และตุรกีด้วย อ้อ… อิสราเอลด้วย กับฝ่ายรัฐบาลนำโดยปธน.บาชาร์ อัสซาด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน รัสเซีย อิรัค นักรบเฮชบอลเลาะห์ และจีน
สงครามที่สองก็คือ การทำสงครามกับขบวนการก่อการร้ายไอซิส (ดาอิช) ซึ่งนานาชาติทั่วโลกต่างก็สนับสนุนให้มีการปราบปราบขบวนการก่อการร้ายเหล่านี้ เป้าหลักของรัสเซียก็คือการกำจัดขบวนการก่อการร้ายดาอิชในซีเรีย พันธมิตรนาโต้นำโดยสหรัฐฯก็อ้างว่าที่ถล่มซีเรียไปแรมปีโดยไม่คืบหน้าจนกระทั่งรัสเซียเข้าไปในซีเรียนั้น ก็เพื่อกำจัดกลุ่มก่อการร้ายดาอิชด้วย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์และได้เรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือกันปราบปรามขบวนการก่อการร้ายดาอิช จึงไฟเขียวให้ฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆทำการโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของดาอิชในซีเรียได้
ถ้าทูตพิเศษของยูเอ็น อ้างแบบโลกสวยว่าไม่ชอบสงคราม ไม่ชอบลูกกระสุน ไม่ชอบลูกระเบิด ในขณะที่กลุ่มก่อการร้ายรุกยึดพื้นที่ต่างๆในซีเรีย อิรัค และก่อเหตุร้ายทั่วโลกอยู่ทุกวัน โดยแนะนำให้หันไปเจรจากับขบวนการก่อการร้ายเหล่านั้นแทน ก็เท่ากับว่ายูเอ็นกลับคำซะเอง และเป็นการไม่รักษาหน้าของสหัฐฯที่กระเหี้ยนกระหือรือที่จะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเขาไปในซีเรียให้ได้ แต่ไม่ใช่ทหารของตนเอง เป็นการยุให้ประเทศอื่นส่งทหารเข้าไปตายแทนทหารของสหรัฐฯ ตามที่นาย Ashton Carter เพิ่งจะพูดไปวันก่อนนี้
หากการเจรจากับขบวนการก่อการร้ายได้ผลจริง สหรัฐฯคงจะไม่เป็นประเทศแรกที่ส่งกองทัพทั้งภาคพื้นดินและอากาศไปถล่มอิรัค ซีเรีย อัฟกานิสถาน และลิเบียเป็นแรมปีจนถึงทุกวันนี้ และก็คงจะไม่มีการลอบโจมตีที่กรุงปารีส และคาร์บอมบ์ หรือระเบิดฆ่าตัวตายรายวันเกิดขึ้นในประเทศต่างๆแน่นอน ด้วยเหตุนี้ทูตพิเศษยูเอ็นจึงบอกว่าไม่มีการเจรจาหยุดยิงกับขบวนการก่อการร้ายเหล่านั้นเด็ดขาด
เมื่อกระบวนการสันติภาพระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลของซีเรียดำเนินไป จนถึงจุดที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสม หรือรัฐบาลเฉพาะการร่วมกันได้ หรือสามารถพัฒนาไปถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ในซีเรีย คราวนี้ฝ่ายที่ยังจับอาวุธสู้กับฝ่ายรัฐบาลก็จะตกอยู่ในฐานะของขบวนการก่อการ้ายดาอิช และอัลนุสราทันที ใครที่ออกมาสนับสนุนหรือพูดแก้ต่างให้กับกลุ่มเหล่านั้นก็จะเป็นการเปิดหน้าออกมาได้อย่างชัดเจนให้ชาวโลกได้รับรู้ว่าคือลูกพี่ใหญ่ของไอซิส ใช่ไหมครับท่านโอบาม่า? - ผู้แปล]
2.) ต่ออีกซักข่าวนะครับ อันนี้น่าจะเป็นการซัดกันเองของฝ่ายที่สนับสนุนฝ่ายค้านซีเรีย (หรือกลุ่มก่อการร้าย?) นะ วันที่ 26 ม.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "รมว.กลาโหมของอิสราเอลกล่าวว่าพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากตุรกี" (Israeli defense minister says ISIS funded with ‘Turkish money’)
รายงานข่าวบอกว่า รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลได้กล่าวหาว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้รับการสนับสนุน "ทางการเงินจากตุรกี" (… the Islamic State terror group has long been funded with "Turkish money.")
"อย่างที่พวกคุณรู้นั่นแหละ พวกผู้ก่อการ้ายดาอิช (Islamic State, previously ISIS/ISIL) ต่างก็มีความสุขกับเงินของตุรกีเกี่ยวกับน้ำมันมาเป็นระยะเวลานานมากๆ ผมหวังว่ามันจะสิ้นสุด" นาย Moshe Yaalon กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเอเธนเมื่อวันอังคารนี้ หลังจากการประชุมร่วมกันกับ Panos Kammenos รมว.กลาโหมของกรีซ รอยเตอร์สรายงาน
นาย Moshe Yaalon กล่าวต่อไปอีกว่า "มันขึ้นอยู่กับตุรกี รัฐบาลตุรกี (และ) ผู้นำของตุรกีเองที่จะตัดสินใจว่าพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ไกลเกินไป"
[นั่นไง Erdogan ถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมซะแล้วครับ ปธน. Erdogan ของตุรกีเพิ่งจะเดินทางจับมือกับบีบี้แห่งอิสราเอลเมื่อไม่นานนี้เอง Erdogan คงจะชินกับการลอบกัดหรือลอบแทงข้างหลังเพื่อนของตนเองอยู่บ่อยๆ วันนี้กลาโหมของอิสราเอลอดสงสาร Erdogan ไม่ได้ คงอยากจะให้ Erdogan ได้รับรู้ว่ารู้ชาติของการถูกลอบกัดแทงข้างหลังนั้นเป็นอย่างไร จึงจัดให้หนึ่งจึ๊ก! ไปก่อน แต่ไม่ต้องห่วง งานนี้เครื่องบินรบของตุรกียังไม่ถูกสอยร่วงในน่านฟ้าของอิสราเอลหรอกนะครับ แต่ระวังไว้บ้างก็ดี - ผู้แปล]
รายงานข่าวจาก RT news กล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางรัสเซียได้กล่าวหาตุรกี ตุรกีได้มีการติดต่ออย่างไม่โปร่งใสกับพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส ในเดือนธันวาคม กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้เปิดเผยแผนที่และภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งพิสูจน์ว่าตุรกีเป็นผู้บริโภคน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ที่ลักลอบนำออกจากซีเรียและอิรัคโดยกลุ่มก่อการร้าย ทางกระทรวงยืนยันว่าประธานาธิบดีของตุรกี และครอบครัวของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดต่อด้านอาชญากรรมด้วย
ทางอิหร่านก็ได้กล่าวไว้เช่นกันว่า อิหร่านมีทั้งภาพถ่ายและคลิปวีดีโอที่เป็นหลักฐานเกี่ยวกับขบวนรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนของไอซิสเข้าไปในตุรกี
[แม้ว่ารัสเซียจะงัดหลักฐานอย่างแน่นหนาออกมาเพียงใจ รัฐบาลของตุรกีก็ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับ แต่ชอบออกมาโวยวายตอนที่เครื่องบินรบของรัสเซียทิ้งระเบิดถล่มขบวนรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนของพวกผู้ก่อการร้าย - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
27/01/2559
----------
Ceasefire With Daesh or Nusra Front 'Not on Table' Ahead of Syria Talks
https://www.rt.com/news/330062-damascus-opposition-talks-mistura/
https://www.rt.com/news/330204-israel-turkey-isis-oil/
https://www.rt.com/news/328490-syria-turkey-isis-crossing/
https://www.rt.com/news/330141-homs-syria-bombing-killed/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ตำรวจปิดล้อมโรงพยาบาลกองทัพเรือสหรัฐฯในซานดิเอโก้ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ หลังมีรายงานว่ามีการยิงปืนภายในโรงพยาบาล



-----------
วันที่ 26 ม.ค.59 RT news พาดัวข่าวว่า "ศูนย์การแพทย์กองทัพเรือซานดิเอโก้ถูกปิดล้อมหลังมีรายงานว่ามีการยิงปืน" (San Diego naval medical center on lockdown after shots reported)
รายงานข่าวบอกว่า ทางการได้สั่งให้ทุกคนที่อยู่ในศูย์ "วิ่ง ซ่อน หรือ ต่อสู้" (to run, hide or fight) ได้มีการโพสต์การแจ้งเตือนดังกล่าวในโซเชียลออนไลน์ของศูนย์ด้วย
ในเฟซบุคของศูนย์การแพทย์กองทัพเรือซานดิเอโก้ของสหรัฐฯซึ่งโพสต์ในเวลา 8.10 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่นกล่าวว่า มีการยิงปืนตามรายงานบอกว่าเกิดขึ้นในอาคารหมายเลข 26 ของ Naval Medical Center San Diego ผู้ที่อยู่ภายในอาคารทั้งหมดได้รับคำแนะนำให้วิ่ง หลบซ่อน หรือต่อสู้
สำนักงานตำรวจซานดิเอโกกล่าวว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรายงานว่าได้มีการยิงปืนในสถานที่ แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ
"ตามที่มีการรายงานเบื้องต้นจากพยานหนึ่งคน ณ เวลาประมาณ 8 นาฬิกา เช้าวันนี้ รายงานบอกว่าได้ยินเสียงยิงปืนสามนัดในห้องใต้ดินของอาคารหมายเลข 56 ซึ่งประกอบด้วยโรงยิม/ห้องพักทหาร ในสิ่งปลูกสร้าง Navy’s Medical Center Balboa Park" กองทัพเรือประจำภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้กล่าวในแถลงการณ์
"หนึ่งกู้ภัยและหน่วยสุนัขทหารเรือกำลังเคลียร์พื้นที่ในที่เกิดเหตุในอาคารหมายเลข 26 โรงพยาบาลทหารเรือถูกปิดล้อม และมีคำสั่งให้ติดตั้งค่ายพัดพิงด้วย" รายงานข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกลับ "ไม่พบอะไรเลย" เพื่อสนับสนุนรายงานที่กล่าวว่ามีการยิงปืนในอาคารของโรงพยาบาลของกองทัพเรือกัปตัน Curt Jones กล่าว อ้างโดยสำนักข่าว CNN [น่าเชื่อถือตายหละ - ผู้แปล]
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ตำรวจลาดตระเวนทางหลวงและหน่วยสวาทได้เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยตรวจสอบอาชญากรรมของกองทัพเรือ (NCIS)
[สรุป ตอนแรกบอกว่ามีการยิงปืนสามนัดในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทุกคนวิ่งหลบหรือที่ปลอดภัยหลบซ่อนหรือไม่ก็สู้ตาย เหตุเกิดภายในเขตของกองทัพเรือสหรัฐฯ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ คุณทหารเรืออเมริกันบอกว่าไม่มีอะไร คนที่พูดในตอนแรกแค่หูฝาดไปเท่านั้น เสียงปงเสียงปืนอะไรที่ไหน ไม่มี๊! กลับบ้านไปนอนได้แล้วครับ อึ่มมมม! ก็ว่ากันไป สงสัยมือปืนคนดังกล่าวคงจะเส้นใหญ่หรือระดับที่ไม่ธรรมดา ถึงได้ปิดข่าวกันซะดังลั่นขนาดนั้น - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
27/01/2559
----------
https://www.rt.com/usa/330217-shooter-naval-medical-center/
Navy: No gunfire at San Diego medical center - CNN.com

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/gY_dPTuRb58" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สหรัฐอเมริกา: ประเทศที่อวดอ้างว่ามีเสรีภาพมากที่สุดในโลก สนับสนุนและส่งเสริมด้านสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศ แต่ถ้ามีการเดินขบวนประท้วงขึ้นในประเทศ ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแบบนี้ทันที! ประเทศตะวันตกและสหัฐฯชอบออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยผ่อยคลายกฎหมายให้มีการเดินขบวนประท้วงแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะในเรื่องประชาธิปไตย เสรีภาพและอื่นๆได้ แต่ถ้าเป็นที่ประเทศสหรัฐฯเองก็จะ เข้าคุกไปเลย! (Los Angeles 26 ม.ค.59)
----------------

https://www.youtube.com/watch?v=gY_dPTuRb58

 

ตำรวจมาเลเซียจับตัว 7 สมาชิกไอซิสขณะวางแผนก่อเหตุ
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 25, 2016



farsnews – ทางการมาเลเซีย เผยว่า ในการปฏิบัติการของกำลังตำรวจตลอดระยะสามวันที่ผ่านมา ในสี่รัฐของประเทศ สามารถจับตัว 7 สมาชิกไอซิส และสำนักงานของไอซิสหนึ่งแห่ง

ตำรวจมาเลเซียแถลงในวานนี้ (24 ม.ค.) ว่า ได้จับกุม 7 สมาชิกไอซิส ในในสี่รัฐของประเทศ หลังจากมีการปฏิบัติการของตำรวจตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา

รอยเตอร์ รายงาน ทางการมาเลเซีย เผยว่า ในการปฏิบัติการของกำลังตำรวจตลอดระยะสามวันที่ผ่านมา ในสี่รัฐของประเทศ สามารถจับตัว 7 สมาชิกไอซิส และสำนักงานของไอซิสหนึ่งแห่ง

กรมดีเอสไอของมาเลเซียเผยว่า กลุ่มไอซิสที่สามารถจับกุมตัวในครั้งนี้ กำลังวางแผนก่อเหตุก่อการร้ายศูนย์กลางที่มีความสำคัญและตามจุดยุทธ์ศาสตร์ต่างๆของมาเลเซียและในเขตพื้นที่ต่างๆของประเทศ


خبرگزاری فارس - پلیس مالزی از دستگیری هفت عضو داعش در این کشور خبر داد


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ตำรวจมาเลเซียจับตัว 7 สมาชิกไอซิสขณะวางแผนก่อเหตุ | abnewstoday

 

ไอซิสมาเลย์ออกคลิปขู่ก่อเหตุหลังสมาชิกถูกจับ
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 26, 2016



ไอซิสในมาเลเซีย รู้จักในนาม “กะตีบะห์ นูซันตารา” ออกคลิปวิดีโอขู่จะก่อเหตุโจมตีหลังรัฐบาลจับกุมสมาชิกไอซิสในประเทศ

irna – ตำรวจมาเลเซียสามารถทำลายแผนการปฏิบัติก่อการร้ายของไอซิสสำเร็จ เมื่อสิบวันก่อน และล่าสุดก็สามารถจับกุมสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ในสี่รัฐของประเทศ

หนังสือพิมพ์ เดอะสตาร์ของมาเลเซีย เผยวันนี้ (25 มกราคม ) ว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิส “กะตีบะห์ นูซันตารา” ส่งข้อความและคำขู่ที่น่ากลัวยังรัฐบาลมาเลเซีย

กลุ่มก่อการร้าย “กะตีบะห์ นูซันตารา” ซึ่งเป็นสมาชิกของไอซิสประกอบด้วยสมาชิกภาษามลายูซึ่งมีสมาชิกจากชาติมาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นหลัก ในคลิปวิดีโอได้ออกมาขู่ว่าจะแก้แค้นให้กับสมาชิกที่ถูกจับกุมตัว

บางสถิติเผยว่า มี ชาวอินโดนีเซียและมาเลเซีย 600 -1,000 กว่าคนเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในอิรักและซีเรีย ในขณะที่ข้าราชการระดับสูงมาเลเซียออกมายืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มีผู้ให้การสนับสนุนไอซิสในประเทศราว 50,000 กว่าคน

กลุ่มก่อการร้าย “กะตีบะห์ นูซันตารา” ได้ย้ำในคลิปวิดีโอ “สาส์นสำหรับชาวมาเลเซีย” ว่า “เราจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ระบอบประชาธิปไตยของรัฐบาลและเราจะปฏิบัติตามกฎหมายของพระเจ้าเท่านั้น”

ในวิดีโอนี้ซึ่งเป็นภาษามลายูซึ่งมีเนื้อหาไม่เกินหนึ่งนาทีที่ได้เรียกร้องให้กลุ่มก่อการร้าย “อัลชะบาบ” ในโซมาเลีย ให้การสัตยาบันกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

ในวิดีโอยังเตือนเกี่ยวกับการจับกุมสมาชิกผู้ก่อการร้ายอีกด้วย และเป้าหมายสูงสุดของกลุ่มนี้คือการจัดตั้งรัฐอิสลาม

ในวิดีโอยังแสดงให้เห็นว่า อับดุล ฮะลีด ดารี สมาชิกกลุ่ม “กะตีบะห์ นูซันตารา” ได้เผยถึงความจงรักภักดีต่ออะบู บักร์ อัลบักดาดีย์ หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายไอซิส อีกทั้งประกาศตนว่าเป็นเพื่อนกับ “มุฮัมมัด อารีฟีน”

มุฮัมมัด ลุตฟี อารีฟีน รู้จักในนาม “อบู มัศอับ” อดีตสมาชิกพรรค บาส และอดีตสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ซึ่งถูกฆ่าตายในซีเรียเมื่อปีที่ผ่านมา

Ayob Khan หัวหน้าฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของตำรวจมาเลเซีย กล่าวว่า เป็นภัยคุกคามและความท้าทายโดยตรงกับรัฐและสะท้อนให้เห็นถึงปฏิกิริยาที่ห้าวหาญและรุนแรงของกลุ่มกะตีบะห์ นูซันตารา มากยิ่งขึ้น

Ayob Khan กล่าวว่าข้อความดังกล่าวไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการตอบโต้ความอับอายหลังจากการดำเนินการของกองกำลังความมั่นคงมาเลเซียต่อพวกเขา

Ayob Khan แม้ว่าคลิปดังกล่าวทำขึ้นเพื่อดึงดูดสมาชิกและแนวร่วม ซึ่งมีการเขียนซับไตเติ้ลภาษาอาหรับด้วยส่วน อับดุล ฮะลีด ดารี พูดภาษามาลายู และตามการคาดการณ์ของหน่วยข่าวกรองมาเลเซีย มีชาวมาเลเซียจำนวนหนึ่งเป็นสมาชิกลุ่มก่อการร้ายอัลชะบาบ

หัวหน้าฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของตำรวจมาเลเซีย ก่อนหน้านี้เคยเห็นคลิปมาก่อนที่โพสต์บน Facebook และเครือข่ายทางสังคมต่าง ๆ แต่สำหรับคลิปนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ากลุ่มกะตีบะห์ นูซันตาราในส่วนหนึ่งของกลุ่มก่อการร้ายที่ใหญ่โตในต่างประเทศที่กำลังปฏิบัติการ

Ayob Khan กล่าวว่าวิดีโอนี้ยังเป็นข้อบ่งชี้ชัดเจนครั้งแรกของการดำรงอยู่ของอัลชะบาบในสมาชิกอาสาสมัครชาวมาเลเซียหรืออย่างน้อยการเคลื่อนไหวในภาคภาษามลายู

Ayob Khan กล่าวว่า หากการจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างแน่นอน และกล่าวเสริมว่า กลุ่มดังกล่าว จะใช้บาฮาซามาลายู (ภาษามาลายู) ในการสนทนา

เป็นที่เชื่อกันว่า กะตีบะห์ นูซันตารา มีสมาชิกประมาณ 200 กว่าคนจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย และจะได้รับภารกิจพิเศษเช่นซุ่มยิงและระเบิดฆ่าตัวตาย

กลุ่มก่อการร้ายนี้ถูกเรียกขึ้นเป็นครั้งแรกประมาณสองปีที่ผ่านมาโดยหน่วยข่าวกรองมาเลเซีย

ایرنا - بخش مالایی زبان گروه تکفیری داعش، مالزی را تهدید به انتقام کرد

แท็กก่อการร้ายข่าวโลกมุสลิมมาเลเซียไอซิส


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ไอซิสมาเลย์ออกคลิปขู่ก่อเหตุหลังสมาชิกถูกจับ | abnewstoday

 

อียู : เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีทันที
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 26, 2016



เจ้าหน้าที่การเมืองต่างประเทศของสหภาพยุโรปได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีจากการปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในพื้นที่อาศัยของชาวเคิร์ดทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี

Federica Mogherini ได้ออกมาแถลข่าวร่วมกับรัฐมนตรีตุรกีในวันจันทร์ที่ผ่านมาในอังการา โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า เราเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีทันทีและเราขอประณามการก่อการร้ายในทุกๆรูปแบบ

กองทัพตุรกีได้เริ่มปฏิบัติการอย่างกว้างขวางเมื่อเดือนธันวาคม 2015 ที่ผ่านมาโดยครอบคลุมพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศซึ่งเป็นพื้นที่อาศัยของชาวเคิร์ดโดยประกาศเป้าหมายของปฏิบัติการคือการต่อสู้กับพรรคแรงงานชาวเคิร์ด PKK

โยฮันเนฮาห์น คณะกรรมาธิการพัฒนายุโรป ได้กล่าวว่า เราพร้อมที่จะมีบทบาทสำคัญในกระวนการสันติภาพ เรามีความกังวลและให้ความสำคัญกับเรื่องรวดังกล่าว เนื่องจากมันมีผลต่อความปลอดภัยในภูมิภาคและมีอิทธิพลในวงกว้างในยุโรป

หลังจากเกิดการปะทะที่มีเวลายาวนานกว่าสองปีของการปะทะกันระหว่างกองกำลังตุรกีกับสมาชิกขบวนการ PKK จากช่วงฤดูร้อน ทำให้ความหวังของการสงบศึกเลือนหายไปตั้งแต่ปี 1984 มีผู้คนกว่าสี่หมื่นคนต้องเสียชีวิตไปเนื่องจากวิกฤติดังกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุโรปของตุรกีได้ให้คำมั่นสัญญาว่า ปฏิบัติการที่รุนแรงและจริงจังต่อกลุ่ม PKK จะไม่มีการลดลง และตุรกีจะยังคงต่อสู้กับองค์กรก่อการร้ายต่างๆรวมทั้งกลุ่ม PKK ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

เขายังได้กล่าวต่ออีกว่า เราจะพยายามปกป้องสิทธิของประชาชนของเราที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ในขณะที่ปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในพื้นที่อาศัยของชาวเคิร์ดมีพลเรือนไม่ต่ำกว่า 162 คนที่เสียชีวิตเป็นเด็ก 32 คนและผู้หญิง 29 คน

ในขณะที่เดียวกันสำนักงานรักษาความปลอดภัยของตุรกีได้ออกมากล่าวว่าตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการมีผู้คนมากกว่าแสนคนที่กลายเป็นคนพลัดถิ่น

PressTV-موگرینی خواهان

 

ปอกเปลือก ทรราช
สัญญาณเตือนภัยระดับที่1: สหรัฐฯอาจจะถูกโดดเดี่ยวด้วยการถูกแซงชั่นกลับจากหลายประเทศ ดาบนั้นคืนสนอง



-------------
วันที่ 26 ม.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวที่น่าสนใจดังนี้ "แซงชั่นต่อต้านสหรัฐฯ? อเมริกาอาจจะติดหล่มในเกมโดดเดี่ยว (ซะเอง)" (Anti-US Sanctions? How America Could Get Caught in the Isolation Game) [เป็นไปได้ไง? ฟังดูแล้วมันก็น่าสนใจดีนะครับ ใครน๊าาาา ถึงจะกล้าจับพญาอินทรีย์ยัดใส่กรงได้ และจะด้วยวิธีใด? ลองอ่านดูครับ - ผู้แปล]
สื่อฯรัสเซียเกริ่นนำว่า สหรัฐฯจะเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างมากมายในอนาคต: แทนที่จะเป็นผู้ยุยงปลุกปั่น (instigator) ให้มีการแซงชั่นประเทศอื่นๆ ตำแหน่งของการแซงชั่นอาจจะย้อนกลับในเร็วๆนี้ เห็นได้ชัดว่าชาติมหาอำนาจกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะขจัดการแซงชั่นที่ถูกกระทำต่อตนเองโดยชาติอื่นๆ
"สหรัฐฯควรที่จะเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตใหม่ ในกรณีที่ตนเองจะถูกกดดันให้ป้องกันตนเองจากการแซงชั่น แทนที่จะเที่ยวออกมาตรการแซงชั่นประเทศอื่นๆ" Peter Harrell อดีตรองผู้ช่วยเลขาธิการการต่อต้านภัยคุกคามทางการเงินและการแซงชั่นของสหรัฐฯเขียนไว้ในบล็อกของเขาในเว็บไซต์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ส
"การข่มขู่จากจีนเมื่อเร็วๆนี้ในการคว่ำบาตรบริษัทด้านความมั่นคงหลายแห่งของสหรัฐฯซึ่งขายอาวุธให้กับใต้หวัน ไม่ควรที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ของอเมริกา หรือเหล่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเหล่านั้น: กรุงวอชิงตันได้ทำการแซงชั่นในลักษณะนี้มาหลายปีแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น ก่อนที่คู่แข่งของสหรัฐฯจะเริ่มก็อปปี้กลยุทธของสหรัฐฯเอง (ไปใช้)" Peter Harrell กล่าว [อุบ๊ะ! อ่านแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวยยังไงก็ไม่รู้สินี่ - ผู้แปล]
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จีนได้ข่มขู่ว่าจะออกมาตรการแซงชั่นต่อบริษัทต่างๆที่มีส่วนร่วมในการขายเรือรบฟริเกตของกองทัพเรือ และยุทโธปกรณ์อื่นๆซึ่งมีมูลค่า 1.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) ของรัฐบาลสหรัฐฯให้กับใต้หวัน คำเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กรุงวอชิงตันที่อนุมัติการขายแม้จะมีการคัดค้านจากจีนก็ตาม
"จีนคัดค้านการขายอาวุธให้กับใต้หวันจากสหรัฐฯอย่างเต็มที่" Zheng Zeguang รองรมว.ต่างประเทศของจีนกล่าวระหว่างการพบกับนาย Kaye Lee เจ้าหน้าที่ทางการทูตระดับสูงของกรุงวอชิงตันในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
"เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ฝั่งจีนได้ตัดสินใจดำเนินมาตรการที่จำเป็น ซึ่งรวมทั้งการดำเนินการคว่ำบาตรต่อบริษัทต่างๆที่มีส่วนร่่วมในการขายอาวุธต่างๆให้ใต้หวัน โดยไม่คำนึงว่าจีนจะดำเนินการตามที่ได้ข่มขู่ไว้หรือไม่ กรุงวอชิงตันจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องเหล่านั้นด้วย" Peter Harrell เตือน
Peter Harrell กล่าวต่อไปอีกว่า "การข่มขู่จากกรุงปักกิ่งได้สะท้อนแนวทางของกรุงวอชิงตันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีต่ออิหร่าน" [รัสเซียด้วย ตอนนี้สหรัฐฯ อียู และตุรกี ก็กำลังโดนรัสเซียแซงชั่นกลับเช่นกัน - ผู้แปล]
Peter Harrell อธิบายว่า "ระหว่างปี 2010 ถึงปี 2015 สหรัฐฯได้ให้ทางเลือกแก่บริษัทต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ: ถ้าบริษัทเหล่านั้นดำเนินธุรกิจต้องห้ามกับอิหร่าน เช่นการซื้อน้ำมัน พวกเขาก็จะถูกตัดออกจากการดำเนินการทางธุรกิจในประเทศสหรัฐฯ เป็นการบังคับให้เลือกระหว่างการเข้าถึงระบบการเงินที่สำคัญที่สุดในโลก และตลาดของอิหร่านที่มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 30 บริษัทส่วนใหญ่ได้ยึดติดอยู่กับกรุงวอชิงตัน และหลีเลี่ยงกรุงเตหราน"
[อ้อ… ขอเสริมให้อีกนิดหนึ่งนะครับ คุณ Peter Harrell คงจะอธิบายไม่หมด ในช่วงที่อิหร่านถูกแซงชั่นและถูกอายัดทรัพย์สินในต่างประเทศอยู่นั้น อิหร่านก็ไม่ได้งอมืองอเท้ารอวันตายหรือรอขอความเมตตาจากสหรัฯเท่านั้นหรอกนะครับ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ อิหร่านก็หมุมเงินในอนาคตที่อยู่ในต่างประเทศเหล่านั้นโดยเฉพาะในจีน ทำการค้าในอนาคตกับจีนแบบสัญญาลูกผู้ชาย เช่นถ้าอิหร่านได้รับการยกเลิกการแซงชั่นแล้ว ก็จะมีการชำระเงินให้จีนทุกเหรียญ
ส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่กำลังถูกแซงชั่นอยู่นั้นแม้จะไม่สามารถโอนเข้าไปในประเทศอิหร่านได้ อิหร่านก็นำไปลงทุนต่อ ก็ธนาคารของจีนเป็นใจ ไม่ต้องมีการโอนเงินออกจากบัญชีอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการทำบัญชีขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง ทุกอย่างยังดำเนินการไปตามปรกติ หมุนเงินค้ากำไรอยู่ในต่างประเทศ รอวันปลดแอกเท่านั้น และวันนั้นก็เกิดขึ้นจริงๆด้วย นี่ไม่ได้โม้นะครับ อ่านบทความมาเมื่อสัปดาห์่ก่อนประมาณนี้แหละ - ผู้แปล]
อ่านข่าวต่อนะครับ... คราวนี้กลายเป็นว่าจีนเป็นกำลังพยายามบังคับให้บริษัทต่างๆของสหรัฐต้องเลือกระหว่างการขายอาวุธด้านความมั่นคงให้ใต้หวันและการเข้าถึงเศรษฐกิจของจีนที่มีขนาดใหญ่กว่าเกือบ 20 เท่า [ฮี่ๆ ชอบครับ - ผู้แปล]
Peter Harrell ยังได้อธิบายอีกว่าทำไมมันถึงอาจจะเป็นหมัดหนักสำหรับสหรัฐฯ: "ในขณะที่บรรดาบริษัทของสหรัฐฯในปัจจุบันนี้ไม่ได้ขายยุทโธปกรณ์ให้กับจีนเลย เหล่าผู้รับเหมาสัญญาจ้างเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯหลายแห่งได้ขายอากาศยานโดยสารของพลเรือน ชิ้นส่วนเกี่ยวกับการบิน และอุปกรณ์ด้านพลเรือนอื่นๆในจีน และอาจจะพบว่าความสามารถของบริษัทเหล่านั้นในการที่จะเดินหน้าขายของจะถูกหั่นลงโดยกรุงปักกิ่งนะสิ" Peter Harrell กล่าว
Peter Harrell กล่าวต่อไปอีกว่า "ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนเข้าใจดีว่า เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตและอิทธิพลทางการเงินของจีนทำให้ภัยคุกคาม (/การข่มขู่) ด้วยการแซงชั่นมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เนื่องจากว่าจีนเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับสินค้าของสหรัฐฯ ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงชิปคอมพิวเตอร์ และบริษัทต่างๆเช่น Wal-Mart, Apple, MasterCard และ Starbucks ก็อยู่ในกลุ่มบริษัทชั้นนำของอเมริกันที่ทำธุรกิจอยู่ในจีนอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นของธุรกิจของบริษัทเหล่านั้น ข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักวิจัย Factset Research เมื่อปีที่ผ่านมา"
Peter Harrell ได้เตือนว่าประเทศอื่นๆ เช่น รัสเซียต่างก็ได้เริ่มประเมินพื้นที่ที่ประเทศเหล่านั้นจะมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สามารถใช้ต่อต้านกรุงวอชิงตันและพันธมิตรของสหรัฐฯได้แล้วด้วย
[เห็นว่าพายุหิมะตกหนักในสหรัฐฯ อากาศมันหนาวใช่ไหมครับท่านโอบาม่า แต่ถ้าถูกจีนแซงชั่นกลับนี้ อุณหภูมิที่นั่นจะติดลบมากกว่านี้ก็ได้นะครับ อย่าลืมเตรียมกัญชาไว้เยอะๆนะครับ จะได้อุ่นปลอด แต่ถ้าเยอะเกินไปอาจจะเกิดอาการปอดแhกก็ได้นะครับ คริๆ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
27/01/2559
----------
Anti-US Sanctions? How America Could Get Caught in the Isolation Game

 

ปอกเปลือก ทรราช



นาย Stéphane Dion รมว.ต่างประเทศของแคนาดาประกาศจะยกเลิกการแซงชั่นอิหร่าน เมื่อยุโรปขาย Airbus ให้อิหร่านได้แล้วทำไมแคนาดาจะขาย Bombardier ของตนเองให้กับอิหร่านบ้างไม่ได้? สหรัฐฯไม่อยากขาย Boing ของสหรัฐฯให้อิหร่านก็ช่างหัวสหรัฐฯสิ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกแบบนี้ใครมือยาวสาวได้สาวเอา มนต์ดำของทำเนียบขาวเสื่อมแล้วครับ แล้วพี่ไทยเราตื่นบ้างหรือยังนี่?
--------------

Canada to Lift Sanctions Against Iran, Looks to Export Aircraft

 

ปอกเปลือก ทรราช



ยิงกันแล้วครับท่าน ม็อบไรเฟิลโอเรกอนที่บุกยึดสำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่าตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.59เป็นต้นมา ในขณะช่วงที่มีการบุกเข้าไปจับกุม Ammon Bundy แกนนำม็อบ รายงานข่าวเบื้องต้นบอกว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บหนึ่งคน และอีก 5 คนถูกจับกุมซึ่งรวมทั้งแกนนำม็อบด้วยจากการดำเนินการของ FBI และตำรวจรัฐ Oregon
------------
https://www.rt.com/usa/330249-ammon-bundy-oregon-arrest/
One Killed, One Injured in Oregon Militia Standoff

 

ปอกเปลือก ทรราช



รัสเซียบอกว่าอาจจะสั่งห้ามนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวโพดจากสหรัฐฯเนื่องจากปนเปื้อน องค์การ Rosselkhoznadzor เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารของรัสเซียกล่าว สินค้าต้องห้ามดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อรัสเซียเท่านั้น ยังสร้างความเสียหายให้กับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียด้วย แถลงการณ์กล่าว ทางองค์การของรัสเซียได้แจ้งให้ทางการของสหรัฐฯระงับการส่งออกข้าวโพดที่ปนเปื้อนด้วยโรคผุเน่ามายังรัสเซียแล้ว คาดว่าสินค้าที่ถูกกักกันไว้ที่เตรียมจะส่งมายังรัสเซียมีมูลค่าราว $125 - $188 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทางการของรัสเซียยังกล่าวต่ออีกว่ามีแผนที่จะเจรจาเกี่ยวกับปัญหานี้กับสหรัฐฯ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาด้วย จบเลย นี่ดาบนั้นคืนสนองของจริงจาการัสเซีย
------------
https://www.rt.com/business/330198-us-corn-soybean-ban/

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯคิดจะกดดันให้จีนขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ จีนบอกว่าจีนไม่โง่ให้สหรัฐฯมาจูงจมูกได้หรอก!



-------------
โพสต์ก่อนหน้านี้ได้พูดถึงเรื่องความกังวลว่าสหรัฐฯอาจจะถูกโดดเดี่ยวจากนานาประเทศที่ถูกสหรัฐฯแซงชั่นโดยนักวิเคราะห์ชาวอเมริกันเอง คราวนี้มาดูลีลาการทูตผ่่านสื่อฯระหว่างสหรัฐฯจีนจากสื่อฯจีนบ้างนะครับ
วันที่ 27 ม.ค.59 บทบรรณาธิการของสำนักข่าว Global Times ของจีนพาดหัวข่าวว่า "การลงโทษแซงชั่นควรจะกำหนดเป้าหมายไปที่ความทะเยอทะยานในเรื่องนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ไม่ใช่การดำรงชีวิตของประชาชน" (Sanctions should target North Korea's nuclear ambition, not public livelihoods) [ว้าววว! นี่จีนกำลังสอนเรื่องมนุษยธรรมกับจักรวรรดิเฮเกโมนี่เอาแต่ใจตัวเองหรือเปล่านี่? - ผู้แปล]
ในบทบรรณาธิการของสื่อฯ Global Times มีรายละเอียดดังนี้... การเดินทางของนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯมายังประเทศจีนตามรายงานข่าวนั้นมีจุดประสงค์เพื่อกดดันจีนในเรื่อง (อาวุธ) นิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ส่วนเรื่องทะเลจีนใต้ และเรื่องความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ (Cross-Straits ties ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับใต้หวัน) ก็จะรวมอยู่ด้วย บรรยากาศทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐฯยังไม่มีการผ่อนคลายลง (ยังตึงเครียดกันอยู่)
สาระสำคัญของปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออยู่ที่การเผชิญหน้ากันระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ [โปรดฟังอีกครั้ง "อยู่ที่การเผชิญหน้ากระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ" - ผู้แปล] โดยที่ฝ่ายแรกยืนยันว่ารับไม่ได้กับการกดดันทางทหารของฝ่ายหลังในแนวทางที่ผิด แต่ด้วยการชี้นำทัศนคติในระดับนานาชาติ กรุงวอชิงตันได้สร้างความประทับใจขึ้นมาว่า จีนเป็นกุญแจสำคัญเพื่อปลดเงื่อนตายเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ (ซะงั้น)
คราวนี้ทางตะวันตกก็กำลังกลั่นกรองว่ากรุงปักกิ่งจะดำเนินการกดดันกรุงเปียงยางหรือไม่
การตัดสินจากการรั่วไหลของสื่อฯ จีนจะไม่ยอมรับมติที่เสนอโดยสหรัฐฯ เช่นการยกเลิกการส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ และการกีดดันอากาศยานพลเรือนของเกาหลีเหนือจากการบินเหนือดินแดนของจีน มาตรการเหล่านี้สร้างภาระที่หนักหนาสาหัสให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเกาหลีเหนือ
จีนประสงค์ที่จะดำเนินมาตรการที่มีเป้าหมายไปที่ความทะเยอทะยานในเรื่องนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมากกว่า หากมีวิกฤตด้านมนุษยธรรม (เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือ) มันก็จะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน ซึ่งก็คือจีนนั่นเอง
[สหรัฐฯกำลังยุให้จีนขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ ถ้าจีนทำตามเห็นได้ชัดว่าเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองชัดๆ ปัญหาจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเกาหลีเหนือเท่านั้น แต่จะมีผลกระทบต่อพลเรือนของจีนด้วย ไม่หลงกลหลอกจ้า - ผู้แปล]
แต่พวกเราเชื่อว่า จีนและสหรัฐฯสามารถที่จะก้าวข้ามสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นความคลาดเคลื่อนขนาดใหญ่นี้ไปได้ และหาทางที่จะประนีประนอมว่าจะแซงชั่นกรุงเปียงยางกันอย่างไร กรุงวอชิงตันต้องการที่จะเป็นผู้นำในกระบวนการแซงชั่นเกาหลีเหนือ และยังหวังให้จีนแสดงความรับผิดชอบทั้งหมดต่อกรุงวอชิงตัน กรุงโตเกียว และกรุงโซลด้วย เปลี่ยนปัญหามาเป็นการเผชิญหน้าระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือแทน โดยตัวเองนั่งอยู่นิ่งๆ (/โดยไม่ต้องออกแรงทำอะไร)
แต่กรุงวอชิงตันก็ควรที่จะมีความชัดเจนด้วยว่า กรุงวอชิงตันไม่สามารถที่จะปั่นหัวจีนไปรอบๆ (ตามใจชอบ) ได้ (But Washington should be clear that it cannot push China around.) มันอาจจะเป็นเรื่องที่หน่อมแน้มเกินไปสำหรับสหรัฐที่ (คิด) จะจูงจมูกจีน (It would be too naïve for the US to lead China by the nose.) การทูตของมหาอำนาจในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้อยู่บนตรรกะข้อนี้
[จีนกำลังจะบอกว่า ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับลุงแซม ตรรกะของคุณไม่สามารถใช้กับการทูตสั่วๆแบบนั้นในยุคนี้ได้อีกต่อไปแล้วนะครับ นั่นคือส่วนที่สื่อฯจีนสั่งสอนสหรัฐฯ ตรงไปตรงมาชัดเจน คราวนี้มาดูว่าแล้วจีนจะมีอะไรโต้กลับไปยังสหรัฐฯบ้าง... - ผู้แปล]
สื่อฯจีนกล่าวต่ออีกว่า เกาหลีใต้ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ระบบขีปนาวุธ THAAD (ของสหรัฐฯ) ในการงัดข้อกับจีนซะ ระบบดังกล่าวจะก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคงของจีน หากกรุงโซลทำอย่างนั้น (ใช้ THAAD ของสหรัฐฯ) มันก็จะเป็นการทำร้ายความไว้ใจซึ่งกันและกันระหว่างจีนกับเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง
[Oh my gosh! สหรัฐฯอุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจจะหากินจากการขายอาวุธล็อตใหญ่ให้เกาหลีใต้ จีนดันเตะหมูออกจากหมาซะงั้น โอบาม่า เซ็งเบย คริๆ - ผู้แปล]
กรุงเปียงยางเหล่ามหาอำนาจต่างก็แข่งขันกันไปทั่ว มโนทัศน์เกี่ยวกับสงครามเย็นที่ยังมีอยู่ และยังมีการแข่งขันกันในระดับนานาชาติอยู่ด้วย แนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของตน ควรจะมีเป้าหมายไปที่ด้านความมั่นคงมากกว่าท่าทีที่กว้างไปกว่านั้น แนวคิดเชิงปฏิบัตินิยมของจีนควรจะได้รับการเคารพ
ความสัมพันธ์ด้านยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯได้เผชิญกับปัญหาต่างๆในเอเซีย-แปซิฟิก และแม้กระทั่งทั่วโลกด้วย การทำให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้มีการเติบโตเต็มที่และมีความสำคัญนั้น เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเลย กรุงวอชิงตันควรที่จะตระหนักในเรื่องนี้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแลกเปลี่ยนระหว่างนายแคร์รี่กับรมว.ต่างประของจีนจะครอบคลุมเรื่องต่างๆและสร้างสรรค์ได้
[ในย่อหน้าที่สาม นับจากล่างขึ้นบน เห็นได้ชัดว่าปกป้องเกาหลีเหนือ และใช้ปัญหาเกี่ียวกับอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นข้อต่อรองในการแผ่ขยายอิทธิพลของสหรัฐฯในคาบสมุทรเกาหลี ก่อนหน้านี้จีนแสร้งทำเป็นฮึ่มใส่เกาหลีเหนือกรณีคิมน้อยอ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดลองระเบิดไฮโดรเจน จากนั้นสหัฐฯก็กดดันให้จีนกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น คิมน้อยออกมารับลูกว่า ถึงไม่พึ่งพาเศษฐกิจของจีนเกาหลีเหนือก็อยู่ได้
จีนรู้ว่า ไม่ควรออกแรงกดดันไปที่พันธมิตรของตนเองมากเกินไป ผลเสียอาจจะมีมากกว่าผลดี ขืนคิมน้อยคลุ้มคลั่งขึ้นมา กดปุ่นนิวเคลียร์เล่น มันจะยุ่งไปกันใหญ่ทั้งโลกเลยนะนั่นหนะ ไหนๆก็จะถูกทำลายอยู่แล้ว คิดว่าคิมน้อยคงจะไม่ยอมตายคนเดียวแน่ จะลากเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ลงไปด้วยนะสิ ญี่ปุ่นก็เสียวอยู่เช่นกัน
ดังนั้นจีนจึงมีท่าทีที่ผ่อนคลายลงเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และหันมาใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสว่า ถ้าอยากให้จีนคุมเกาหลีเหนือให้ได้จริง ซึ่งจีนไม่ใช่คู่ขัดแย้งที่มีข้อพิพาทกับเกาหลีเหนือเลย สหรัฐฯต่างหากที่ไม่ยอมลงนามสิ้นสุดสงครามกับเกาหลีเหนือซักที อ้างโน่นอ้างนี่ไปเรื่อย
จึงชิ่งไปที่ประเด็นการเตรียมจะขาย THAAD ของสหรัฐฯให้เกาหลีใต้ซะเลย ถ้าสหรัฐฯยกเลิกเรื่องนี้ และหยุดยุ่มย่ามกับใต้หวัน อาจจะคุยกันรู้เรื่องเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ได้ แต่ถ้ายิ่งปล่อยเวลาให้นานออกไปเรื่อยๆ ฝ่ายที่จะแกร่งขึ้นมาเรื่อยๆ ก็คือคิมน้อยต่างหาก คิดให้ดีนะคุณแคร์รี่ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
28/01/2559
----------
Sanctions should target North Korea's nuclear ambition, not public livelihoods - Global Times
UNSC Must Adopt New Resolution Over N Korean Nuclear Test
http://sputniknews.com/politics/20160122/1033562419/china-north-korea.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯคิดจะกดดันให้จีนขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ จีนบอกว่าจีนไม่โง่ให้สหรัฐฯมาจูงจมูกได้หรอก!



-------------
โพสต์ก่อนหน้านี้ได้พูดถึงเรื่องความกังวลว่าสหรัฐฯอาจจะถูกโดดเดี่ยวจากนานาประเทศที่ถูกสหรัฐฯแซงชั่นโดยนักวิเคราะห์ชาวอเมริกันเอง คราวนี้มาดูลีลาการทูตผ่่านสื่อฯระหว่างสหรัฐฯจีนจากสื่อฯจีนบ้างนะครับ
วันที่ 27 ม.ค.59 บทบรรณาธิการของสำนักข่าว Global Times ของจีนพาดหัวข่าวว่า "การลงโทษแซงชั่นควรจะกำหนดเป้าหมายไปที่ความทะเยอทะยานในเรื่องนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ไม่ใช่การดำรงชีวิตของประชาชน" (Sanctions should target North Korea's nuclear ambition, not public livelihoods) [ว้าววว! นี่จีนกำลังสอนเรื่องมนุษยธรรมกับจักรวรรดิเฮเกโมนี่เอาแต่ใจตัวเองหรือเปล่านี่? - ผู้แปล]
ในบทบรรณาธิการของสื่อฯ Global Times มีรายละเอียดดังนี้... การเดินทางของนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯมายังประเทศจีนตามรายงานข่าวนั้นมีจุดประสงค์เพื่อกดดันจีนในเรื่อง (อาวุธ) นิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ส่วนเรื่องทะเลจีนใต้ และเรื่องความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ (Cross-Straits ties ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับใต้หวัน) ก็จะรวมอยู่ด้วย บรรยากาศทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐฯยังไม่มีการผ่อนคลายลง (ยังตึงเครียดกันอยู่)
สาระสำคัญของปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออยู่ที่การเผชิญหน้ากันระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ [โปรดฟังอีกครั้ง "อยู่ที่การเผชิญหน้ากระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ" - ผู้แปล] โดยที่ฝ่ายแรกยืนยันว่ารับไม่ได้กับการกดดันทางทหารของฝ่ายหลังในแนวทางที่ผิด แต่ด้วยการชี้นำทัศนคติในระดับนานาชาติ กรุงวอชิงตันได้สร้างความประทับใจขึ้นมาว่า จีนเป็นกุญแจสำคัญเพื่อปลดเงื่อนตายเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ (ซะงั้น)
คราวนี้ทางตะวันตกก็กำลังกลั่นกรองว่ากรุงปักกิ่งจะดำเนินการกดดันกรุงเปียงยางหรือไม่
การตัดสินจากการรั่วไหลของสื่อฯ จีนจะไม่ยอมรับมติที่เสนอโดยสหรัฐฯ เช่นการยกเลิกการส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ และการกีดดันอากาศยานพลเรือนของเกาหลีเหนือจากการบินเหนือดินแดนของจีน มาตรการเหล่านี้สร้างภาระที่หนักหนาสาหัสให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเกาหลีเหนือ
จีนประสงค์ที่จะดำเนินมาตรการที่มีเป้าหมายไปที่ความทะเยอทะยานในเรื่องนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมากกว่า หากมีวิกฤตด้านมนุษยธรรม (เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือ) มันก็จะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน ซึ่งก็คือจีนนั่นเอง
[สหรัฐฯกำลังยุให้จีนขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ ถ้าจีนทำตามเห็นได้ชัดว่าเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองชัดๆ ปัญหาจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเกาหลีเหนือเท่านั้น แต่จะมีผลกระทบต่อพลเรือนของจีนด้วย ไม่หลงกลหลอกจ้า - ผู้แปล]
แต่พวกเราเชื่อว่า จีนและสหรัฐฯสามารถที่จะก้าวข้ามสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นความคลาดเคลื่อนขนาดใหญ่นี้ไปได้ และหาทางที่จะประนีประนอมว่าจะแซงชั่นกรุงเปียงยางกันอย่างไร กรุงวอชิงตันต้องการที่จะเป็นผู้นำในกระบวนการแซงชั่นเกาหลีเหนือ และยังหวังให้จีนแสดงความรับผิดชอบทั้งหมดต่อกรุงวอชิงตัน กรุงโตเกียว และกรุงโซลด้วย เปลี่ยนปัญหามาเป็นการเผชิญหน้าระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือแทน โดยตัวเองนั่งอยู่นิ่งๆ (/โดยไม่ต้องออกแรงทำอะไร)
แต่กรุงวอชิงตันก็ควรที่จะมีความชัดเจนด้วยว่า กรุงวอชิงตันไม่สามารถที่จะปั่นหัวจีนไปรอบๆ (ตามใจชอบ) ได้ (But Washington should be clear that it cannot push China around.) มันอาจจะเป็นเรื่องที่หน่อมแน้มเกินไปสำหรับสหรัฐที่ (คิด) จะจูงจมูกจีน (It would be too naïve for the US to lead China by the nose.) การทูตของมหาอำนาจในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้อยู่บนตรรกะข้อนี้
[จีนกำลังจะบอกว่า ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับลุงแซม ตรรกะของคุณไม่สามารถใช้กับการทูตสั่วๆแบบนั้นในยุคนี้ได้อีกต่อไปแล้วนะครับ นั่นคือส่วนที่สื่อฯจีนสั่งสอนสหรัฐฯ ตรงไปตรงมาชัดเจน คราวนี้มาดูว่าแล้วจีนจะมีอะไรโต้กลับไปยังสหรัฐฯบ้าง... - ผู้แปล]
สื่อฯจีนกล่าวต่ออีกว่า เกาหลีใต้ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ระบบขีปนาวุธ THAAD (ของสหรัฐฯ) ในการงัดข้อกับจีนซะ ระบบดังกล่าวจะก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคงของจีน หากกรุงโซลทำอย่างนั้น (ใช้ THAAD ของสหรัฐฯ) มันก็จะเป็นการทำร้ายความไว้ใจซึ่งกันและกันระหว่างจีนกับเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง
[Oh my gosh! สหรัฐฯอุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจจะหากินจากการขายอาวุธล็อตใหญ่ให้เกาหลีใต้ จีนดันเตะหมูออกจากหมาซะงั้น โอบาม่า เซ็งเบย คริๆ - ผู้แปล]
กรุงเปียงยางเหล่ามหาอำนาจต่างก็แข่งขันกันไปทั่ว มโนทัศน์เกี่ยวกับสงครามเย็นที่ยังมีอยู่ และยังมีการแข่งขันกันในระดับนานาชาติอยู่ด้วย แนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของตน ควรจะมีเป้าหมายไปที่ด้านความมั่นคงมากกว่าท่าทีที่กว้างไปกว่านั้น แนวคิดเชิงปฏิบัตินิยมของจีนควรจะได้รับการเคารพ
ความสัมพันธ์ด้านยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯได้เผชิญกับปัญหาต่างๆในเอเซีย-แปซิฟิก และแม้กระทั่งทั่วโลกด้วย การทำให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้มีการเติบโตเต็มที่และมีความสำคัญนั้น เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเลย กรุงวอชิงตันควรที่จะตระหนักในเรื่องนี้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแลกเปลี่ยนระหว่างนายแคร์รี่กับรมว.ต่างประของจีนจะครอบคลุมเรื่องต่างๆและสร้างสรรค์ได้
[ในย่อหน้าที่สาม นับจากล่างขึ้นบน เห็นได้ชัดว่าปกป้องเกาหลีเหนือ และใช้ปัญหาเกี่ียวกับอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นข้อต่อรองในการแผ่ขยายอิทธิพลของสหรัฐฯในคาบสมุทรเกาหลี ก่อนหน้านี้จีนแสร้งทำเป็นฮึ่มใส่เกาหลีเหนือกรณีคิมน้อยอ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดลองระเบิดไฮโดรเจน จากนั้นสหัฐฯก็กดดันให้จีนกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น คิมน้อยออกมารับลูกว่า ถึงไม่พึ่งพาเศษฐกิจของจีนเกาหลีเหนือก็อยู่ได้
จีนรู้ว่า ไม่ควรออกแรงกดดันไปที่พันธมิตรของตนเองมากเกินไป ผลเสียอาจจะมีมากกว่าผลดี ขืนคิมน้อยคลุ้มคลั่งขึ้นมา กดปุ่นนิวเคลียร์เล่น มันจะยุ่งไปกันใหญ่ทั้งโลกเลยนะนั่นหนะ ไหนๆก็จะถูกทำลายอยู่แล้ว คิดว่าคิมน้อยคงจะไม่ยอมตายคนเดียวแน่ จะลากเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้ลงไปด้วยนะสิ ญี่ปุ่นก็เสียวอยู่เช่นกัน
ดังนั้นจีนจึงมีท่าทีที่ผ่อนคลายลงเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และหันมาใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสว่า ถ้าอยากให้จีนคุมเกาหลีเหนือให้ได้จริง ซึ่งจีนไม่ใช่คู่ขัดแย้งที่มีข้อพิพาทกับเกาหลีเหนือเลย สหรัฐฯต่างหากที่ไม่ยอมลงนามสิ้นสุดสงครามกับเกาหลีเหนือซักที อ้างโน่นอ้างนี่ไปเรื่อย
จึงชิ่งไปที่ประเด็นการเตรียมจะขาย THAAD ของสหรัฐฯให้เกาหลีใต้ซะเลย ถ้าสหรัฐฯยกเลิกเรื่องนี้ และหยุดยุ่มย่ามกับใต้หวัน อาจจะคุยกันรู้เรื่องเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ได้ แต่ถ้ายิ่งปล่อยเวลาให้นานออกไปเรื่อยๆ ฝ่ายที่จะแกร่งขึ้นมาเรื่อยๆ ก็คือคิมน้อยต่างหาก คิดให้ดีนะคุณแคร์รี่ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
28/01/2559
----------
Sanctions should target North Korea's nuclear ambition, not public livelihoods - Global Times
UNSC Must Adopt New Resolution Over N Korean Nuclear Test
Pyongyang: Absence of Chinese Assistance 'Will Strengthen Our Resolve'

 

ปอกเปลือก ทรราช
ลุงบันศิษย์โสมขาว vs บีบี้ จอมไล่ที่: เลขาธิการยูเอ็นจวกนายกฯอิสราเอลกรณีไล่ที่ชาวปาเลสไตน์ บีบี้สวนกลับทันทีว่าท่านเลขาฯสนับสนุนผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์



-------------
1.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนไปเยือนอียิปต์และได้กล่าวในที่ประชุมของสันนิบาตอาหรับที่กรุงไคโรว่า จีนสนับสนุนให้เยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ ต่อมาวันที่ 26 ม.ค.59 ท่านบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติคนปัจจุบันก็ได้ออกแถลงการที่มีเนื้อหาตำหนิอิสราเอลกรณีการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลในพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์ โดยมีชื่อว่า "หัวหน้ายูเอ็นได้ออกแถลงการณ์วิงวอนที่เร่าร้อนต่ออิสราเอลและปาเลสไตน์เพื่อประนีประนอมสันติภาพ" (UN chief delivers impassioned plea to Israelis and Palestinians to compromise for peace) [เป็นแถลงการณ์ที่ค่อนข้างยาวนะครับ ขอแปลจากสำนักข่าวต่างๆที่เลือกมาเป็นบางประเด็นที่น่าสนใจแทนนครับ - ผู้แปล]
วันเดียวกันนี้สำนักข่าว DW ของเยอรมันก็ลงข่าวนี้เช่นกันโดยพาดหัวข่าวว่า "เนธันญาฮูกล่าวว่าหัวหน้ายูเอ็น 'ส่งเสริมการก่อการร้าย' หลังตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับพื้นที่เขตเวสต์แบงค์" (Netanyahu says UN chief 'encouraging terror' after West Bank remarks)
ส่วน Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การอนุมัติของอิสราเอลให้สร้างบ้านเรือนใหม่จำนวน 150 หลังในเวสต์แบงค์เป็นการยั่วยุ - เลขายูเอ็นกล่าว" (Israel's Approval of 150 New Homes in West Bank 'Provocative' - UN Chief) 26 ม.ค.59
2.) วันที่ 26 ม.ค.59 RT news พาดหัวว่า "บีบี้ ปะทะ บัน? นายกฯอิสราเอลกล่าวหาหัวหน้ายูเอ็นที่จวกเรื่องการตั้งถิ่นฐานว่าเป็นการสนับสนุนเหล่าผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์" (Bibi vs. Ban? Israeli PM accuses settlements-slamming UN chief of backing Palestinian ‘terrorists’) [ขอเลือกข่าวจาก RT news มาแปลนะครับ พาดหัวได้มันหยดติ่งดี - ผู้แปล]
RT news รายงานว่า นายบัน คีมูน เลขาฯยูเอ็นได้จวกการตั้งถิ่นฐาน "เชิงยั่วยุ" ของอิสราเอล โดยกล่าวว่าการโจมตีจากฝ่ายปาเลสไตน์ที่เขาประนามนั้นเป็นปฏิกิริยาตอบโต้โดยธรรมชาติต่อการยึดครอง (ที่คนอื่น) กรณีนี้ได้ขยายไปสู่สงครามน้ำลาย เนื่องจากนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลได้กล่าวหาลุงบันว่าให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้าย
[ลุงบันสู้ๆ มีเฮียสีกับเฮียปูเป็นแบล็กให้ซะอย่าง พักนี้ลุงบันแกกล้ามากขึ้นเรื่อยๆนะ ตั้งแต่ยูเอ็นได้รับเงินบริจาคจากจีนประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หวังว่าท่านบันคงจะไม่ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกแบบ Dag Hammarskjöld อดีตเลขาธิการยูเอ็นคนที่ 2 (1961) นะครับ - ผู้แปล]
ในการพูดต่อหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นายบัน คีมูนเลขาธิการสหประชาชาติได้กล่าวว่า ตนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก (deeply troubled) กับรายงานฉบับใหม่ที่ว่า รัฐบาลอิสราเอลได้อนุมัติแผนการเพื่อสร้างบ้านเรือนที่พักอาศัยจำนวน 150 กว่าหลังขึ้นมาใหม่ ซึ่งเลขาฯยูเอ็นมองว่าเป็น "การกระทำที่ยั่วยุ" (provocative acts) โดยเยรูซาเลม [อิสราเอลประกาศว่า เยรูซาเลมคือเมืองหลวงของอิสราเอล แต่นานาชาติไม่ยอมรับ - ผู้แปล]
นายบัน คีมูนกล่าวว่า การกระทำนี้และกิจกรรมอื่นๆ เช่นการประกาศพื้นที่ 370 เอเคอร์ในเขตเวสต์แบงค์ทางทิศใต้ของ Jericho ให้เป็น "แผ่นดินของรัฐ" (อิสราเอล) เป็นการผูกพันกับการเพิ่มขึ้นของประชากรที่เข้าไปอยู่อาศัย ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นการบั่นทอนโอกาสใดๆสำหรับเส้นทางทางการเมืองในวันข้างหน้า (ยูเอ็นออกแถลงการณ์)
ในขณะที่เลขาฯยูเอ็นได้แตะต้องสถานการณ์ที่ปะทุขึ้นได้ง่ายระหว่างสองรัฐนั้น นายบันยังได้ประนามการโจมตีเพื่อล้างแค้นที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยชาวปาเลสไตน์ต่อพลเรือนชาวอิสราเอลด้วย
"การใช้อาวุธมีจ้วงแทง การโจมตียานพาหนะ และการยิงกันโดยชาวปาเลสไตน์ซึ่งมีเป้าหมายที่พลเรือนชาวอิสราเอล - ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมประนาม - และการปะทะกันระหว่างชาวปาเลสไตน์และกองกำลังรักษาความปลอดภัยของอิสราเอล ได้ดำเนินต่อไปจนทำได้เกิดการสูญเสียชีวิต" นายบันกล่าว โดยกล่าวต่อไปอีกว่า "มาตรการรักษาความปลอดภัยจะไม่ช่วยอะไรได้เลย การทำลายล้างโดยฝั่งปาเลสไตน์กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้แรงกดดันของการยึดครองที่มีมาครึ่งศตวรรษ และทำให้กระบวนการสันติภาพเป็นอัมพาต"
[ถ้ามีกองกำลังสันติภาพสากลแบบที่ใช้กับเกาะไซปรัส (Cyprus) คั่นกลางตามจุดต่างๆระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ตั้งแต่แรกเพื่อป้องกันไม่ให้อิสราเอลขยายอาณาเขตยึดครองดินแดนของชาวปาเลสไตน์ ปัญหาก็อาจจะไม่บานปลายมาขนาดนี้ แต่สหรัฐฯซึ่งเป็นแบ็กให้กับอิสราเอลไม่เอาแบบนั้น บอกว่าต้องเจรจากันต่อไป ในระหว่างที่กำลังเจรจากันอยู่นี้ อิสราเอลก็รุกที่ชาวปาเลสไตน์เข้าไปเรื่อยๆ ส่วนชาวปาเลสไตน์ที่ไม่มีอาวุธที่จะไปต่อกรกับกองทัพของอิสราเอลได้ ก็หันไปใช้วิธีลอบทำร้ายพลเรือนและกองทัพของอิสราเอลบ้างตามที่เป็นข่าวในสื่อฯต่างสๆอยู่บ่อยๆ แล้วอย่างนี้เมื่อไรสันติภาพจึงจะเกิดขึ้นได้ - ผู้แปล]
นายบันกล่าวต่อไปอีกว่า การโจมตีโดยชาวปาเลสไตน์เป็นปฏิกิริยาตอบโต้โดย "ธรรมชาติของมนุษย์" แบบหนึ่ง (a human nature) ต่อผู้ที่เข้าไปยึดครอง (occupation จริงแล้วคือรุกราน) ซึ่งได้กดขี่ประชาชนที่ได้ดำเนินชีวิตมาแล้วหลายชั่วอายุคน และมักจะเป็นศูนย์รวมของการบ่มเพาะความเกลียดชังและลัทธิคลั่งไคล้สุดโต่งด้วย
เลขาฯยูเอ็นยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า "ความรู้สึกที่ลึกซึ้งของความแปลกแยกและความสิ้นหวังกำลังขับเคลื่อนชาวปาเลสไตน์บางส่วน - โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกคนหนุ่มสาว"
"กิจกรรมการสร้างที่อยู่อาศัยที่ยังเดินหน้าต่อไป เป็นปรามาสประชาชนชาวปาเลสไตน์ และต่อประชาคมนานาชาติ พวกเขาได้พากันตั้งคำถามพื้นฐานขึ้นมาอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของอิสราเอลต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐ (a two-state solution)" นายบันกล่าว
เลขาธิการยูเอ็นได้ใช้มุกเทศนาโปรดคนพาลเพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลและปาเลสไตน์ดำเนินการเพื่อปกป้องทางออกแบบสองรัฐจากการลื่นไถลออกจากกันอย่างถาวรในขณะนี้ โดยเตือนว่า กระบวนการสันติภาพจะต้องมี "การประนีประนอมที่ยากลำบาก"
[ถ้ายังให้สองฝ่ายประนีประนอมกันแบบที่เป็นมา ไม่มีทางที่กระบวนการสันติภาพจะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะว่าเป้าหมายของอิสราเอลก็คือกินรวบปาเลสไตน์ทั้งหมดเพียงคนเดียว ปาเลสไตน์เพียงลำพังที่เหลือเพียงหยิบมือเดียวจะไม่มีแรงพอที่จะไปงัดกับอิสราเอลและสหรัฐฯได้เด็ดขาด ความหวังของปาเลสไตน์อยู่ที่ ยูเอ็น อียู จีน รัสเซีย และอิหร่านเท่านั้น เพราะว่าถ้าปาเลสไตน์นิ่ง อิสราเอลรุกคืบ ถ้าปาเลสไตน์ประท้วง ต่อต้าน ตอบโต้ อิสราเอลจะปราบปรามและจัดหนักให้ทันที ถ้ารบกันอีกปาเลสไตน์ก็แพ้อีก และผลที่ตามมาก็คือถูกไล่ที่อีก เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง - ผู้แปล]
อย่างไรก็ตาม การตั้งข้อสังเกตของเลขาฯยูเอ็นได้จุดชะนวนปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็วจากนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ซึ่งได้กล่าวหาลุงบันเลขาฯยูเอ็นว่า กำลังสนับสนุนพวกผู้ก่อการร้ายอย่างเห็นได้ชัด
[นั่นแหละ มุกเขาหละ ใครเชียร์หรือพูดแก้ต่างหรือพูดเข้าข้างปาเลสไตส์ก็จะถูกมองว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนผู้ก่อการร้ายซะงั้น แล้วเฮียสีของจีนจะโดนแบบเดียวกันบ้างไหมนี่? บีบี้ช่างกล้าเล่นแรงนะนี่ - ผู้แปล]
นาย Benjamin Netanyahu กล่าวตอบโต้ว่า "การตั้งข้อสังเกตของท่านเลขาธิการฯ เป็นการถือหางขบวนการก่อการร้าย ไม่มีการพิจารณาตัดสินที่สมเหตุสมผลสำหรับขบวนการก่อการร้าย ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นผู้ที่เป็นฆาตกร ไม่ได้ต้องการสร้างรัฐ พวกเขาต้องการที่จะทำลายรัฐ และพวกเขาก็พูดเรื่องนี้อย่างเปิดเผยด้วย"
[อึ่มมมมม! คุณบีบี้หลงประเด็นหรือเปล่าครับ ท่านเลขายูเอ็นกำลังพูดถึงเรื่องที่อิสราเอลรุกล้ำที่ดินและยึดที่ดินของชาวปาเลสไตน์อยู่นะครับ ไม่ใช่เรื่องการปราบปรามการก่อการร้ายนะครับ การต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายจะต้องไล่ยึดบ้านของชาวปาเลสไตน์มาเป็นของตนเอง (อิสราเอล) ด้วยหรือ? เนียนเชียวนะบีบี้! เอ… ถ้าบีบี้จะเสอนไปปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมด้วยวิธีการไล่ที่แบบนี้ ทางอียูจะรับได้หรือไม่หนอ? บีบี้อยากให้รัสเซีย และจีน ไปช่วยปราบปรามผู้ก่อการร้ายในอิสราเอลในแบบฉบับของบีบี้บ้างไหมครับ? - ผู้แปล]
นายกรัฐมนตรี (ของอิสราเอล) กล่าวหาชาวปาเลสไตน์ว่าเป็นพวกต่อต้านชาวยิว (anti-Semitism) (น้านนนน!) ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นแรงบรรดาลใจหลักของการโจมตีต่อต้านอิสราเอล มากกว่านโบายที่เป็นปัญหาของอิสราเอล [นั่นแหละนักการเมือง - ผู้แปล]
"พวกเขาต้องการที่จะฆาตกรรมชาวยิวที่เป็นยิว และพวกเขาก็พูดอย่างเปิดเผย พวกเขาไม่ได้ทำฆาตกรรมเพื่อสันติภาพ และพวกเขาก็ไม่ได้ทำการฆาตกรรมสำหรับสิทธิมนุษยชน" บีบี้กล่าวในขณะที่กำลังกล่าวหายูเอ็นว่าลำเอียง
"สหประชาชาติได้สูญเสียความเป็นกลางและอำนาจด้านศีลธรรมของตนเองมานานแล้ว และการตั้งข้อสังเกตของท่านเลขาธิการ ก็ไม่ได้ทำให้จุยืนนั้นดีขึ้นเลย" บีบี้กล่าว [ต้องให้ยูเอ็นบอกว่าให้ปาเลสไตน์ทั้งหมดตกเป็นของอิสราเอล อย่างนั้นหรือถึงจะเรียกว่าสหประชาชาติมีความเป็นกลาง? หรือว่าต้องให้สหรัฐฯและอิสราเอลเท่านั้นที่มีสิทธิ์บงการยูเอ็นได้ถึงจะเรียกว่ายูเอ็นไม่ลำเอียง? บีบี้หนอบีบี้... แต่ที่แน่ๆตอนนี้ลุงบันกำลังไล่บี้นายบีบี้อยู่นะครับ คริๆ - ผู้แปล]
ในนิวยอร์ก นาย Danny Danon เอกอัครราชทูตของอิสราเอลประจำยูเอ็นก็ได้วิพากษ์วิจารณ์เลขาธิการยูเอ็นด้วย โดยกล่าวหานายบันว่า "สนับสนุนขบวนการก่อการร้าย แทนที่จะต่อสู้ขบวนการก่อการร้าย" [นั่นประไร มากันเป็นชุดเชียว - ผู้แปล]
"มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในการสนับสนุนขบวนการก่อการร้าย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม" Danon กล่าว
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า แม้ว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะโดยยูเอ็นเท่านั้น ยังรวมถึงสหรัฐฯพันธมิตรที่ใกล้ชิดของอิสราเอลด้วย แต่อิสราเอลก็ยังเดินหน้าขายการตั้งถิ่นฐานของตนเองในพื้นที่ยึดครอง (ของชาวปาเลสไตน์) ในเขตเวสต์แบงค์ต่อไปโดยไม่ใยดี
[อิสราเอลมองว่า ยูเอ็นหรือสหรัฐฯจะตำหนิหรือประนามก็ว่าไป อิสราเอลก็จะเล่นเกมน้ำลายด้วย แต่ในทางปฏิบัติ อิสราเอลจะเดินหน้าไล่ที่ต่อไป ใครจะทำไม? สหรัฐฯหนะหรือจะกล้าหือกับอิสราเอล อย่าลืมสิว่าคลังอาวุธขนาดใหญ่ของสหรัฐฯในตะวันออกกลางก็เก็บไว้ที่อิสราเอลด้วย บีบี้จะเดินทางไปไถเงินจากรัฐบาลของโอบาม่ามาหยกๆ - ผู้แปล]
รายงานข่าวสรุปว่า ปัจจุบันนี้มีชาวยิวเข้าไปตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ในเขตเวสต์แบงค์และเยรูซาเลมตะวันออกราว 550,000 คน ตามข้อมูลทางสถิติของรัฐบาลอิสราเอและพวกเอ็นจีโอ think-tank
มีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 350,000 คนอาศัยอยู่ในเยรูซาเลมตะวันออก และ 2.7 ล้านคนในเขตเวสต์แบงค์ เป็นการคาดการณ์จากสื่อฯของอิสราเอล
[สงสัยลุงบันจะคึกเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าไปโด๊ปอะไรมา หลังจากที่ซัดกับบีบี้แล้ว แกก็ไปฉะกับซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรที่ก่อสงครามรุกรานเยเมนต่ออีก น่าสนใจครับ - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
28/01/2559
----------
https://www.rt.com/news/330246-netanyahu-ban-settlements-palestinians/
Netanyahu says UN chief ′encouraging terror′ after West Bank remarks | News | DW.COM | 26.01.2016
United Nations News Centre - UN chief delivers impassioned plea to Israelis and Palestinians to compromise for peace
Israel's Approval of 150 New Homes in West Bank 'Provocative' - UN Chief

 

ปอกเปลือก ทรราช

ก็เชื่อใจนะ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องตรวจสอบ: รัสเซียเตรียมตรวจสอบฐานทัพทหารเยอรมันตามข้อตกลง OSCE



-------------
หันมาดูข่าวเกี่ยวกับรัสเซียและเยอรมันบ้างนะครับ วันที่ 26 ม.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Trust But Verify: Russia Plans to Inspect German Military Installation" (แปลตามชื่อโพสต์ข้างบน)
เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของรัสเซียมีกำหนดการที่จะทำการตรวจสอบฐานทัพของเยอรมันอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้ การดำเนินการนี้เป็นไปตามมาตรฐานสากล Sergey Ryzhkov ประธานศูนย์ลดความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์แห่งชาติ (National Nuclear Risk Reduction Center) ของรัสเซียกล่าว
ฐานทัพต่างๆของเยอรมันจะเปิดประตูต้อนรับคณะผู้ตรวจสอบชาวรัสเซียในวันพฤหัสบดีนี้ ตามข้อตกลงเวียนนาปี 2011 ในส่วนที่ว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางกองทัพ Sergey Ryzhkov กล่าว อ้างโดยสำนักข่าว RIA Novosti (ของรัสเซีย)
"ในเอกสารข้อตกลงเวียนาปี 2011 ว่าด้วยมาตรการการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย คณะผู้ตรวจสอบชาวรัสเซียมีแผนที่จะไปเยือนฐานทัพของเยอรมันเพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมิน" Ryzhkov กล่าว
Ryzhkov กล่าวต่ออีกว่า การทำการประเมินดังกล่าวก็เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับกองทัพและแผนการสำหรับติดตั้งระบบอาวุธหลัก และยุทโธปกรณ์ด้วย
"คณะผู้ตรวจสอบจะไปเยือนสถานที่สำคัญของกองทัพในเยอรมัน ในสถานที่ในช่วงเวลาที่สงบตามปรกติ ซึ่งจะตามด้วยการบรรยายสรุป ซึ่งฝ่ายกองบัญชาการจะให้ข้อมูลไปยังบุคคลากร ซึ่งรวมทั้งระบบอาวุธหลัก และอุปกรณ์หนักทางทหารด้วย" Ryzhkov กล่าว
การออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยของยุโรป รวมถึงข้อตกลงต่างๆเกี่ยวกับการลดอาวุธ การควบคุมอาวุธ และมาตรการสำหรับสร้างความเชื่อมั่นในส่วนของกองทัพด้วย
ตราบเท่าที่สนธิสัญญาเวียนนา 2011 มีความเกี่ยวข้อง ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ได้รับการยืนยันจากรัฐต่างๆที่มีส่วนร่วมในองค์กรเพื่อความปลอดภัยและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe - OSCE) และมีจุดประสงค์เพื่อดำเนินการตามความเชื่อมั่นและมาตรการการสร้างความปลอดภัย
เอกสารดังกล่าวได้กำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้ว่าให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางทหารเกี่ยวกับกองทัพที่ประจำการอยู่ในยุโรป การแจ้งเตือนเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งรวมทั้งการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารที่ไม่ปรกติ และเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นอันตราย การสังเกตการณ์เกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารบางอย่าง ซึ่งรวมทั้งแนวทางในการปฏิบัติและกฎต่างๆที่มีความจำเป็นสำหรับยืนยัน ผ่านการตรวจสอบและการเยี่ยมชมเพื่อทำการประเมิน - จบข่าว
[เอกสารหรือสนธิสัญญา VIENNA DOCUMENT 2011 ON CONFIDENCE- AND SECURITY-BUILDING MEASURES ของ OSCE มีความยาว 60 หน้าสำหรับประเทศสมาชิกที่ร่วมลงนามในการใช้บริการขององค์กรนี้ อย่างที่กำลังตรวจสอบการหยุดยิงในยูเครนตะวันออกอยู่ในขณะนี้ ด้วยข้อบังคับในเอกสารฉบับนี้จึงทำให้รัสเซียสามารถที่จะเข้าสังเกตการณ์ซ้อมรบของนาโต้ในยุโรปได้ และยังสามารถเข้าไปตรวจสอบการติดตั้งระบบอาวุธต่างๆของยุโรปและกลุ่มประเทศสมาชิกของ OSCE จำนวน 57 ประเทศได้ด้วย ในทางกลับกันอียูก็สามารถเข้ามาตรวจสอบฝ่ายรัสเซียได้เช่นกัน - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
28/01/2559
----------
Trust But Verify: Russia Plans to Inspect German Military Installation

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/0JuVudqfgXA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เป็นไงครับฝีมือของทหารเยเมนและนักรบฮูติสามารถยึดรถถัง M1 Abrams ของกองทัพฝ่ายซาอุดิอาระเบียที่ซื้อมาจากสหรัฐฯได้ง่ายๆแบบนี้เลยนะ ณ จังหวัด Jizan ในแผ่นดินของประเทศซาอุดิอาระเบียเองด้วย ยึดได้แล้วทำไงต่อ ดูให้จบ เป็นอย่างนี้ทุกที (27 ม.ค.59)
------------------
https://www.youtube.com/watch?v=0JuVudqfgXA

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/xL2kwtFGCQQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

กองทัพเยเมนยึดอาวุธหลายรายการซึ่งรวมทั้งจรวดทำลายรถถังของพันธมิตรซาอุดิอาระเบียได้ที่เมือง Al Hudaydah ของตะวันตกของเยเมนฝั่งทะเลแดง ซาอุดิใจดี คงจะเกรงว่านักรบฮูติจะไม่มีอาวุธเอาไว้ต่อสู้กับทหารรับจ้างของฝั่งซาอุดิอาระเบียหรือใช้ยิงโจมตีรถถังของกองทัพซาอุดิอาระเบีย จึงได้ส่งอาวุธเหล่านี้มาให้เหล่านักรบฮูติ
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=xL2kwtFGCQQ

 

ปอกเปลือก ทรราช
จีนสอนมวยจอร์จ โซรอสคิดจะเล่นสงครามเงินตรากับจีนคิดผิดคิดใหม่ได้นะโซรอส (ตอนที่ 1)



-------------
โพสต์นี้จะค่อนข้างยาวสักหน่อยนะครับ เพราะว่าจะเอาสองบทความจากสื่อฯจีนมาแปลรวมกัน เกี่ยวกับสงครามเงินตรา (Currency War) ของจอร์จ โซรอสพ่อมดการเงินค่ายเจ้าแม่เทพีเสรีภาพ กับสี จิ้นผิง แห่งแดนมังกร
วันที่ 27 ม.ค.59 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "สงครามเงินตราในเอเซีย: ดูเหมือนว่าแคมเปญจ์ของโซรอสในการต่อต้านเงินหยวนของจีนจะล้มเหลว" (Currency War in Asia: Soros’ Campaign Against Chinese Yuan Likely to Fail) สื่อรัสเซียเอาข่าวมานี้มาจาก People's Daily Online ของจีนและจาก The Financial Times ของอังกฤษ ตามไปอ่านต้นฉบับของจีนเลยดีกว่า
วันที่ 27 ม.ค.59 People's Daily Online พาดหัวข่าวว่า "บทความกล่าวว่า: คิดผิดคิดใหม่ได้นะ ก่อนที่จะประกาศทำสงครามสกุลเงินกับจีนหนะ" (Op-ed: Think twice before declaring war on Chinese currency)
นักลงทุนอภิมหาเศรษฐีนามว่า จอร์จ โซรอสได้ฉกฉวยสปอร์ตไลท์ส่องหน้าในงาน Davos World Economic Forum มาเป็นระยะเวลาถึงสองปีแล้ว
เมื่อปีที่ผ่านมา โซรอสได้ประกาศว่า "ในที่สุด" ตนเองก็ได้เกษียณจากการจัดการด้านการเงินเพื่ออุทิศตนให้กับงานกุศลด้านการเมือง (political philanthropy) ปีนี้ ในเวทีเดียวกันนี้ ตาแก่โซรอสคนนี้ก็ได้ประกาศ "สงคราม" ในประเทศจีน โดยอ้างว่าเขาได้ทำชอร์ตเซล/การขายชอร์ต (short sell) สกุลเงินต่างๆในเอเซียไปแล้ว
[การขายชอร์ต คือ การยืมหุ้นจากบริษัทโบรกเกอร์มาขายก่อน จากนั้นค่อยมาซื้อคืนภายหลังในราคาที่ต่ำกว่า โดยจะได้กำไรจากส่วนต่างราคา นักลงทุนจะใช้วิธีนี้เมื่อมีเหตุการณ์ที่คาดการณ์ได้ว่าราคาหุ้นจะต้องตกลงไปมากอย่างแน่นอน
การจะขายชอร์ตได้นั้น นักลงทุนจะต้องทำในบัญชีมาร์จิ้นเท่านั้น และหุ้นที่จะขาบชอร์ตได้ต้องเป็นหุ้นของบริษัที่อยู่ใน SET 100 Index เท่านั้น (หลักเกณฑ์การขายชอร์ต 2540) และ (ประกาศ ตลท เรื่องกำหนดหลักทรัพย์ที่ขายชอร์ตได้ 2553)
เช่น นาย ก. ไม่มีหุ้นอยู่ในมือแต่อยากทำการค้าหุ้นจึงไปยืมหุ้นมาจากโบรกเกอร์มันก้อนหนึ่งในราคา 100 บาท จากนั้นนาย ก.นำไปขายให้นาย ข. ในราคา 80 บาท ซึ่งคาดว่าหุ้นตัวนี้จะลดลงมากกว่านี้ พอหุ้นลดลงได้ที่ 50 บาท นาย ก.ก็ไปซื้อคืนมาจากนาย ข. ส่วนต่างระหว่าง 80-50 = 30 นั้นเป็นกำไรที่นาย ก.ได้จากการขายชอร์ตในครั้งนี้ จากนั้นนาย ก.ก็นำเอาหุ้นไปคืนให้โปรกเกอร์ในราคาเดิม (100 บาท) อาจจะมีการแบ่งผลกำไรให้บ้าง สรุปนาย ก.มีเงินทั้งหมด 100 + 30 บาท ถ้าโชคดีนะ - ผู้แปล]
จากอิทธิพลของเขา ตลาดการเงินทั่วโลกได้ประสบกับความผันผวนอย่างรุนแรง และสกุลเงินต่างๆในเอเซียก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันในการเก็งกำไรมากขึ้น [ตัวหายนะชัดๆ - ผู้แปล]
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของโซรอสต่อสกุลเงินหยวน (RMB) และดอลลาร์ฮ่องกงก็ถึงวาระที่จะประสบความล้มเหลวโดยไม่ต้องสงสัย
แม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะฝืดในปี 2558 จากอัตราการเติบโตที่ลดลง ตลาดหุ้นที่ผันผวน และการเสื่อมค่าของเงินหยวนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (แต่) ปัจจัยพื้นฐานอื่นๆของจีนก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ในกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่
เมื่อปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลดลงสองเท่าเมื่อเทียบกับสหรัฐฯที่ลดลงมาที่ 10 เปอร์เซ็นต์ในการค้าโลก การส่งออกของจีนลดลงเพียง 1.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นอกจากนี้แล้ว จีนยังได้อัพเกรดโครงสร้างทางอุตสาหกรรมของของตนเอง และกำลังเป็นผู้นำอยู่ในพื้นที่ต่างๆอีกมาก
สถิติเหล่านี้ได้ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจระดับมหภาคของจีนมีความมั่นคงมากกว่าของประเทศอื่นๆในกลุ่ม BRICS และกว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว อาการช็อคทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถคว่ำจีนได้
เป็นเรื่องจริงที่ว่าในปี 2558 เงินหยวนได้ประสบกับการลดค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงแค่การแก้ไขเล็กๆน้อยๆตั้งแต่นั้นมา ยกเว้นความผันผวนขนาดย่อมในปี 2543 (2000) สกุลเงินหยวนได้มีการแข็งค่าต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี
ในขณะเดียวกัน จีนได้กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และจำเป็นจะต้องยุติการตรึงเงินหยวนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯโดยพฤตินัย ในตลาดการเงินทั่วโลกนั้น จีนสามารถที่จะทนทานต่อการหมุนกลับเพียงชั่วคราวของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ของความอิสระในนโยบายด้านการเงิน บรรดานักลงทุนในตลาดจะคุ้นเคยกับความผันผวนไม่ชาก็เร็ว และน้อยนักที่จะมีปฏิกิริยาตอบโต้ [จีนกำลังจะบอกโซรอสว่า ลูกไม้เดิมจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะว่าเขาเริ่มรู้ทันเกมนี้มากขึ้นเรื่อยๆ - ผู้แปล]
ดูเหมือนว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งแกร่งต่อสกุลเงินอื่นของมหาอำนาจเกิดใหม่มาเป็นเวลานานแล้ว แต่มันก็เป็นการยากสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่จะแข็งแกร่งต่อเงินหยวนในระยะยาว เนื่องจากจีนยังคงรักษาการขยายยอดเกินดุลการค้าของตนออกไปเรื่อยๆ
[นี่คืออีกจุดหนึ่งที่จีนได้เปรียบสหรัฐฯ ในการค้าขายกันระหว่างสองประเทศนี้ สหรัฐฯขาดดุลการค้าให้จีนตลอดมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ตามที่มีการบันทึกข้อมูลไว้ตั้งแต่ปี 1985 - 2015 จากเว็บไซต์ United State Census Bureau พบว่ายอดส่งออกของสหรัฐไปยังจีนน้อยกว่ายอดนำเข้าจากจีนตลอด - ผู้แปล]
อ่านบทความต่อนะครับ... อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังประสบกับปัญหา "โรคดัช" (Dutch disease) อย่างรุนแรง ซึ่งหมายถึงการเสื่อมถอยในภาคส่วนอื่นๆ (ของธุรกิจ) ที่มีสาเหตุมาจาก การพัฒนาเพียงภาคส่วนเดียวเป็นพิเศษ
[ความรู้เพิ่มเติม โรคดัช หรือ ปรากฎการณ์ Dutch disease ในประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) ในช่วงทศวรรษที่ 1950s และ '60s ได้มีการค้นพบแหล่งแก๊สธรรมชาติบริเวณนอกชายฝั่ง แต่เงินที่ไหลเข้ามา กลับทำให้การพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงักลง จะมีการลงทุน ก็จะไปในทิศทางการสร้างเรือบันทุกแก๊สและน้ำมัน
การทีมีทรัพยากรใหม่เสริมเข้ามาทำให้ค่าเงินของประเทศแข็งเพิ่มขึ้น จนทำให้การผลิตและบริการใดๆที่เคยแข่งขันได้ ก็กลายเป็นทำอะไรก็ไม่คุ้มกับการลงทุน ความสามารถของประเทศในการแข่งขันในกิจการอื่นๆ ก็สูญเสียไป สภาพการเหล่านี้เขาจึงเรียกว่า โรคดัช (Dutch Disease)
โรคดัช (Dutch disease) เป็นแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่พยายามอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ จะไปทำลายโอกาสทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมอื่นๆของประเทศ การทำให้ค่าของเงินแข็งเกินไป (exchange rate) ทำให้ธุรกิจภาคที่ต้องมีการส่งออกขาดความสามารถในการแข่งขัน
ส่วนที่จะทำให้ค่าของเงินแข็งอย่างไม่เป็นธรรมชาตินี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากทรัพยากรธรรมชาติที่ได้ขุดพบ การที่มีทรัพยากรใดๆ ที่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ มีเงินจากนอกประเทศไหลเข้ามามาก การที่ราคาหรือมูลค่าของทรัพยากรนั้นๆ ได้เพิ่มค่าขึ้น หรือการที่มีเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศไหลเข้า หรือมีเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาเพื่อการลงทุนอย่างผิดปกติ ดังในประเทศไทยช่วงก่อนเศรษฐกิจตกต่ำในปี ค.ศ. 1999 เมื่อเงินได้มาง่าย ไม่มีวิธีการนำเงินไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม ปล่อยให้ค่าของเงินส่งเสริมให้คนจับจ่ายใช้สอยอย่างไม่เป็นประโยชน์ ท้ายสุดก็นำไปสู่วิกฤติในช่วงต่อไป
เอามาบางส่วนจากบทความ "โรคดัช โรคที่ประเทศไทยไม่ควรมี " ของคุณ ประกอบ คุปรัตน์ (2008) ในอินเตอร์เน็ท - ผู้แปล]
อ่านข่าวต่อนะครับ... แม้ว่าสหรัฐฯกำลังพยายามที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่แท้จริงของตนเองให้อู้ฟู่อีกครั้ง สหรัฐฯกำลังดิ้นรนเพื่อกลับไปสู่ยุคอุตสาหกรรมของตนอีกครั้ง (re-industrialization) ดังนั้นดุลการค้าของสหรัฐฯจึงเสื่อมโทรมลงตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โมเมนตัมที่แข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับเงินหยวนของจีนเป็นภาวะเพียงชั่วคราวเท่านั้น
จากมุมมองที่แตกต่าง "สงคราม" ของโซรอสในสกุลเงินต่างๆในเอเซียจะช่วยให้จีนมีความร่วมมือทั้งด้านการคลังและการเงินอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะในเอเซียตะวันออก หรือตามโครงการ "Belt and Road" (ของจีน)
เนื่องจากความร่วมมือในเงินตราในเอเซียตะวันออก (จีน ฮ่องกง มาเก้า ใต้หวัน ญี่ปุ่น มองโกเลีย เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้) ส่วนใหญ่แล้วมุ่งตรงไปที่การทำสวอพส์เงินตราและการซื้อคืน การโจมตีของโซรอสในเอเซีย จะเป็นโอกาสสำหรับเศรษฐกิจของจีนและของประเทศอื่นๆในเอเซียตะวันออกให้ปรับปรับความร่วมมือด้านการเงินของประเทศเหล่านี้ ท่ามกลางความอลหม่านในตลาดเกิดใหม่ทั้งหลาย
[เดิมทีตั้งใจว่าจะเอาสองบทความมารวมไว้ในโพสต์เดียวกัน พอแปลบทความแรกจบ เฮ้อออออ ยาวจัง งั้นขอแปลบทความที่สอง เกี่ยวกับหมอนี่แหละ (โซรอส) ในโพสต์ต่อไปนะครับ - ผู้แปล]
ป.ล.บทความนี้แปลมาจาก m 海外版望海楼：向中国货币宣战？“呵呵” จาก People's Daily Overseas Edition ผู้เขียน (Mei Xinyu) เป็นนักวิจัยจากสถาบันวิจัยกระทรวงพาณิชย์ของจีน
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
29/01/2559
----------
Currency War in Asia: Soros’ Campaign Against Chinese Yuan Likely to Fail
Op-ed: Think twice before declaring war on Chinese currency - People's Daily Online

 

ตำรวจยุโรปยอมรับ ไอซิสมีฐานฝึกในยุโรป
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 29, 2016



al-alam – ตำรวจยุโรป ออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดี ที่ 28 ม.ค. ) ว่า บางค่ายฝึกอบรมอยู่ในประเทศซีเรีย นอกจากนั้นยังมีค่ายฝึกขนาดเล็กในยุโรปและคาบสมุทรบอลข่าน ซึ่งเป็นฐานที่พวกกลุ่มก่อการร้ายไอซิสเรียนรู้วิธีการต่อสู้และการเอาตัวรอด

รายงานยังระบุอีกว่า ฐานดังกล่าวจะเป็นแหล่งของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในการเรียนรู้วิธีการใช้อาวุธ และรูปแบบการเผชิญหน้าเมื่อถูกจับตัวและสอบสวน เพื่อสามารถปฏิบัติการทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งการฝึกอบรมนี้จะทำในที่ลับและการเรียนรู้ในระดับขั้นที่แตกต่างกันไป

สำหรับเบลเยี่ยมจะมีความกังวลมากขึ้น เนื่องจากหนังสือพิมพ์ในประเทศมีการนำเสนอรายงานกรณีที่มีฐานและค่ายฝึกของกลุ่มหัวรุนแรงในป่าแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศ และตำรวจเบลเยียมก็เริ่มการสอบสวนและตรวจสอบในเรื่องนี้

รายงานระบุว่า เฉพาะชาวเบลเยียม มีประชาชนของตนจำนวน 400 คนได้เข้าร่วมกับกลุ่มไอซิสในตะวันออกกลาง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า หนึ่งล้านคนของชาวเบลเยี่ยมจะมี 40 คนเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย

ในรายงานนี้ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อประเทศในแถบบอลข่านที่กำลังเผชิญปัญหาด้านความปลอดภัยอย่างรุนแรง เพราะตำรวจถือว่าปัญหาต่างๆเหล่านี้เกิดจากการไม่เคารพกฏและปฏิบัติตามกฎ


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ตำรวจยุโรปยอมรับ ไอซิสมีฐานฝึกในยุโรป | abnewstoday

 

คลังยาของกระทรวงสาธารณสุขเยเมนขาดแคลนเวชภัณฑ์ยาอย่างหนัก
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 29, 2016



แฟ้มภาพ
tasnimnews – กระทรวงสาธารณสุขเยเมน เปิดเผยกรณีที่ผู้ป่วยโรคไต 1700 คน มีความเสี่ยงจะต้องเสียชีวิตกรณีที่คลังยาในกระทรวงสาธารณสุขขาดแคลนและไม่มียาที่จะให้การรักษา

รายงานจาก อัลมะนาร์ ว่า กระทรวงสาธารณสุขเยเมน ออกมาเรียกร้องความช่วยเหลือจากประชาคมโลกให้ช่วยเหลือ ผู้ป่วยโรคไต 1700 คน มีความเสี่ยงที่จะต้องเสียชีวิต

ตามคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ขณะนี้คลังยาในประเทศขาดยาอย่างหนัก เนื่องจากการโจมตีและการรุกรานอย่างต่อเนื่องของซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตร

ซาอุดิอาระเบียพร้อมกับชาติอาหรับบางประเทศในอ่าวเปอร์เซียบุกโจมตีเยเมน ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2015 ทั้งภาคพื้นดิน อากาศและทางทะเล

ตลอดช่วงเวลาแห่งการโจมตีของซาอุดีอาระเบียทำให้พลเรือนเยเมนต้องประสบกับภาวะความทุกข์ยากและเดือดร้อน ต้องอพยพลี้ภัยนับพันคน ขาดแคลนอาหารและยา น้ำมันเชื้อเพลิง ทำลายโครงสร้างขั้นพื้นฐานรวมทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน ถนน สะพาน สนามกีฬาและประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าตาย มากกว่า 6,000 คน


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

คลังยาของกระทรวงสาธารณสุขเยเมนขาดแคลนเวชภัณฑ์ยาอย่างหนัก | abnewstoday