ขออุบายให้จิตเข้าวิมุตติหน่อยค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 18 พฤศจิกายน 2015.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ถ้าคุณเอกวีร์ไม่พอใจอะไร ข้าน้อยขอกราบขออภัยด้วย แต่ข้าน้อยเชื่อว่าต้องมีคนที่พร้อมจะคุยเป็นกัลยาณมิตรกับข้าพเจ้าแน่นอน ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    สังเกตให้ดีๆ นะ ว่า เข้ามาเสวนา เพื่ออะไร

    เพื่อธรรมะ หรือ เพื่อหน้าตา ตัวตน กลุ่ม คณะ

    ถ้ากล่าวแบบนี้ แล้วยังเห็นว่า มีการเบียดเบียน เกิดขึ้น
    ไม่ใช่การเสวนาเพื่อธรรม ต้องการ จำแนก คนดี คนชั่ว รู้จริง ไม่รู้จริง

    ก็ให้เตรียมตัวเป็น กล้วยไข่เบอร์2 ได้เลย

    ถ้าเป็น กล้วยไข่เบอร์2 เสียแล้ว ก็ขออภัย กราบเท้าลา ไม่ยุ่งอีก
     
  3. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ทั้งเพื่อธรรมะ และ คณะ ค่ะ นอกนั้นคุณเข้าใจข้าน้อยผิดแล้ว ^_^
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ทัพพี ไม่อาจรู้รสชาติของแกงได้ฉันใด

    หม้อหุงข้าว ย่อมไม่อาจรู้รสข้าวสวยที่หุงสุกแล้วได้ฉันนั้น

    วิมุตติ คือะไร ท่านผู้รู้ได้ขยายธรรมให้ทราบมากมาย คงน่าจะเข้าใจได้มากแล้วนะครับ

    คุณนวลปราง ลองตักน้ำคลองขุ่นๆมาแก้วหนึ่ง สักเกตุจดจำหน้าตาลักษณะของน้ำขุ่นๆในแก้วให้ดี ถ่ายรูปไว้ก็ได้
    แล้ววางทิ้งไว้ 1คืน เช้าวันรุ่งขึ้่น ให้นำแก้วน้ำใบนั้นมาพิจารณาดูให้ดี จะเห็นความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นครับ

    ลองพิจารณาเป็นธรรมชาติว่า หากจิตใจเราคือน้ำในแก้ว ที่ขุ่นมัวด้วยอวิชา สกปรกด้วยเครื่องเคร้าหมองปรุงแต่งจิต การที่เราจะชำระให้น้ำสะอาด เราแค่วางแก้วน้ำดังกล่าวไว้นิ่งๆเฉยๆ ผลที่ได้คือมันจะเกิดการแยกชั้นตกตะกอนออกมา เราจะเห็นว่าน้ำส่วนบนวสุดนั้นจะใสสะอาด ส่วนตะกอนก็นอนก้น ลองพิจารณาให้ดีนะครับ

    วิถีแห่งจิตเรา ก็เหมือนกับน้ำ อัน วิมุตติคือความหลุดพ้นได้ เพราะความสงบนิ่ง หยุดการเคลื่อนไปมาของจิต นั้นเอง

    การชำระน้ำให้ขาวสะอาดเบื้องต้น คืออาการหรือความสงบ นั่นเอง เมื่อนั้น จึงระงับอธิกรณ์ ระดับตะกอน ระงับกิเลส

    ความสะอาดของน้ำในแก้ว มีหลายระดับ เช่นเดียวกับความสะอาดของจิตที่เราชำระ
    วิมุตติมีหลายระดับหลายสภาวะ ทั้งแบบโลกียะและโลกุตระ ต้องฝึกฝนก้าวผ่านไปตามลำดับขั้นนะครับ

    ดังนั้นหากท่านต้องการวิมุตติในแบบโลกุตระหลุดพ้นทุกข์ ท่านต้องเริ่มจากการฝึกฝน คือการฝึกระงับตะกอน คือสร้างจิตให้เกิดความสงบนิ่ง นั่นหมายถึง

    ท่านต้องละบาป หมั่นทำความดีและตั้งมั่นในศีล 5เป็นเบื้องต้น แล้วเจริญสติและสมาธิ

    วิมุตติจะเกิดแก่จิตท่านตามลำดับขั้น ตามความสามารถของสติและสมาธิที่ท่านหยั่งถึง

    เมื่อท่านปูพื้นฐานดีมั่นคงได้แล้ว ที่เหลือย่อมหมายถึงท่านต้องฝึกฝนเสริมสติและสมาธิ ให้ก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป จนเมื่อใดที่ท่าน ได้โคตรภูญาณ จิตท่านจะมุ่งตรงต่อนิพพาน หรือโลกุตระวิมุตติ ซึ่งด้วยพื้นฐานของโคตระภูญาณจะเป็นเป้าหมายแน่นอนไปสู่นิพพาน นั่นเองครับ

    ในเรื่องการมีสามีและบุตรหรือการมีครอบครัว ต้องถามว่ามีไปเพื่ออะไร ต้องดูเจตนา ทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน เพื่อทราบทิศทางหรือเป้าหมาย ทำความเข้าใจจุดนี้ก่อน

    อุปมาเหมือนเราจะขับเรือ เป้าหมายหางเสือและหัวเรือ ต้องตั้งให้ถูกทิศถูกทางก่อน

    เมื่อเราจูนเป้าหมายให้ถูก สร้างให้เขาคิดเป็นในการตั้งเป้าหมายที่ถูกต้อง ที่เหลือจึงค่อนเสริมวิธีการให้เขาตามลำดับ เสริมกำลัง
    1กำลังบุญ
    2กำลังใจ
    3กำลังปัญญา

    ทำควบคู่กันไป ค่อยๆพัตนา สติ สมาธิ จิต ก้าวหน้ายิ่งขึ้น วิมุตติก็จะก้าวหน้ายิ่งขึ้นด้วยครับ สาธุ









     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2015
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ขอบพระคุณมากค่ะ พระอาจารย์ท่านสอนเหมือนที่คุณเปรียบเทียบเรื่องน้ำในแก้วเลยค่ะ ยังงั้นคงต้องเลิกคลุกคลีกับหมู่คณะจริงๆ -_-
     
  6. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๑๔.๓๕

    แหม..เขียนตั้งแยะ ขี้เกียจตัดบรรทัดให้อ่านง่ายแหล่ะ

    ยกตัวอย่างได้ดีครับ สามารถสร้างภาพตามติดเพื่อพินิจตามได้ โดยง่าย
    ไม่เหมือนท่านเอก นักปราชญ์ ปัญญานิ่ม หึหึหึ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ๕๕๕ 555

    รายโน้น ไม่รู้ว่าจะพูดจาบ้าบอไปถึงไหน อ่านแล้วคิดตามไม่ได้ ไปไม่เป็นเลยอ่ะ ขอบอก
    ไม่รู้ว่าเค้าเคยคิดเช่นนี้บ้างไม๊หว่า สมองคนเรา คิดเป็นภาพนะ เคยอ่านเจอไม๊เนี่ย ฮึ

    ท่านพ่นพ่นพ่น คนก็งงงงงง แม่มมม พูดไรวะ หึหึหึ
    ปราชญ์นิ่ม ท่านลองเอาที่ท่านเขียน ไปอ่านให้คนแถวบ้านฟังบ้างดิ๊
    แล้วดูว่า จะมีใครเข้าใจบ้างไม๊ หรือจะมีคนทนฟังจนจบได้ ซักกี่คน วะ โว้ย ๕๕๕

    แหม..เสียดาย ความรู้ ความจำก็แยะ ไม่แพ้ใคร เดาเอานะ อย่าได้ใจไป หึหึหึ
    แต่ดันพูดจาไม่รู้เรื่อง เฮ้อ..
    เราว่านะ บางโพสท์เนี่ย อ่านรู้เรื่องกว่าท่านบุญยง โคกกะทานิดเดียวเองอ่ะ ๕๕๕

    หนอยแน่..ดันไปรังแกผู้หญิง ฮีโร่อย่างเรา ต้องออกมาผดุงความยุติธรรมซะหน่อย เนอะ ๕๕๕


    ไอ้มดแดง ข้างวัด / ชาวหมู่บ้านในนิทาน

    .
     
  7. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    ถ้าพ่อแม่ไม่อรหันต์ไงก็วิมุตติไม่ได้ครับ
    อย่าทิ้งพ่อแม่ครับ
     
  8. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    Oops..! แค่มา Like ♥
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ไม่จริง ไม่เอา ....อย่าไปเชื่อกล้วยไข่ไม่มีเบอร์
    ถ้าเคยเป็นแมว # 1 ก็จริงแต่ก็มีแมว# 2 มาแข่ง
    เลยมาเป็นกล้วยไข่ไม่มีเบอร์นะฮะ
    อย่าไปเชื่อกล้วยไข่ไม่มีเบอร์ เหมือนแมวหรอกนะจ๊ะ
     
  10. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    เป็นธรรมดาครับ ไม่ว่าหญิงหรือชาย
    ล้วนอยากได้ในสิ่งที่ตนเอง คิดว่าพอได้มาแล้ว จะเป็นสุข
    ไม่ว่าจะคนรัก ลูก หรือสิ่งของใดก็ตาม
    ลองสังเกตุตามความเป็นจริง
    ตอนที่อยากได้ในสิ่งนั้น แล้วยังไม่ได้มา ใจมันก็บีบคั้น นี้คือ "ทุกข์"
    พอได้มาก็ต้องพยายามรักษาไว้ นี้ก็ "ทุกข์"
    วันดีคืนดี สิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไป ไม่คงที่อย่างใจเรา นี้ก็ "ทุกข์"อีก
    จริงๆธรรมชาตินี้อยู่กับเราตลอด แต่เราเองชินไปกับมันจนไม่เห็นว่ามันคือ "ทุกข์"

    ถ้าอยากจะหลุดพ้น จึงต้องกลับหากันที่ต้นทาง
    "ทุกข์" นั่นแหละครับที่ต้องเห็นให้ได้
    พอเห็นทุกข์แล้ว จึงทำให้อยากพ้นไป

    บางคนเจอทุกข์หนัก ล้มละลาย อกหัก หรือเสียคนรักไป
    ใจมันบีบคั้นเหลือเกิน เห็นทุกข์จนอยากพ้นๆไป
    แต่ธรรมชาติ ของทุกข์ มันก็เกิดขึ้น และดับไป เช่นกัน
    พอมีเรื่องให้ดีใจ สุขใจ ก็ลืมทุกข์สาหัสที่ผ่านมา
    จนลืมความรู้สึกอยากพ้นจากทุกข์ไป ในตอนนั้น
    วัฏสงสารมันน่ากลัวอย่างนี้ มันฉาบทาด้วยรสของสุข
    สัตว์จึงหลง ใฝ่หาสุขเวทนา ซึ่งถ้าเห็นอย่างพระพุทธองค์ทรงเห็น
    ก็จะเห็นอย่างพระพุทธองค์ เห็นโลกนี้ไปตามความจริง
    ว่าสุขเวทนาที่คนใฝ่หากันนี้ ก็มีสภาพทุกข์ คือ ไม่คงที่ เกิดแล้วดับ
    เมื่อสุขเวทนาดับไป ก็ใฝ่คว้า หาสุขเวทนาอันใหม่
    ก็ให้เกิดการสร้างทั้งกรรมดีและไม่ดี สร้างอุปทานความยึด สร้างภพชาติไม่สิ้นสุด
    แล้วก็มาเวียนเกิดเวียนตาย ในวัฏสงสารนี้ไม่จบสิ้น
    เกิดเป็นหมาก็สุขแบบหมา เป็นเทวดาก็สุขแบบเทวดา
    สุขเหล่านี้หลอกล่อให้สัตว์ทั้งหลายติดยู่ในวัฏสงสารนี้

    คนที่จะอยากออกจากทุกข์จริงๆได้จึงมีน้อยมาก
    และคนที่ออกจากทุกข์ได้จริงๆ จึงมีน้อยลงไปอีก
     
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    กั๊กๆๆๆๆ เดี๋ยวก่อนท่าน โซดาดาวเหนือ

    ไอ้ตรงนี้ ฟ้องเลยนะฮับว่า ยังภาวนาไม่เป็น จะเอาอะไรไปทำ โซดา

    การเห็นเวทนาเกิดดับ หากไปเปิดพระสูตร ตรงนี้จะ ขมวดจบ แล้วครับ

    หากเห็น เวทนาเกิดดับได้ จะเริ่มสรุปแล้วว่า " รู้พร้อมซึ่งอุบายนำออก "

    ดังนั้น ให้เสพเวทนาให้มากๆ เพื่อตามเห็น ความรู้พร้อมซึ่ง อุบายนำออก ให้มากๆ
    [ โดยจะแบ่งเป็นสองทาง พวกอัตตกลิมัถาก็ไปโน้น เสพ เหาะเหิน เดิน อากาศ ฯลฯ
    หากเป็นพวก กามสุขขัลฯ ก็อีกอย่างหนึ่ง ไม่หนีโลก แต่ก็ไม่ใช่เอาโลกมาถมหนทางการภาวนา ]


    ทำไมต้องมากๆ ก็อยู่ที่ ความรู้จริงในการเห็น เวทนาเกิดดับ หากด้นเด้า
    เดาเอา หาความเป็น โซดา ไม่เจอ ภาวนานามรูปปริเฉทญาณ หาไม่ได้ ก็
    ด้นเด้าเกาหมัดดาวเหนืออยู่นั่น ไร้สามัญผล ไม่ได้กินโซดา หลอก
     
  12. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เวทนาดับจะได้เจโตวิมุติครับ
    แต่ยังต้องไปต่อเพื่อปัญญาวิมุติครับ
    ด้วยความนับถือ
     
  13. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ปกติ เจโตวิมุตติ เขาแปลว่า พ้นด้วยเจโต(จิต,ความคิด หมายถึงพ้นได้ด้วยอำนาจการบำเพ็ญ ฌาน สมาบัติ)
    ปัญญาวิมุตติ เขาแปลว่า พ้นด้วยปัญญา(ความรู้ หมายถึงปัญญาพิจารณากองสังขารจนรู้เท่าทันกิเลสและปล่อยวางได้)

    แต่ถ้าแปลใหม่ อาจจะได้ความหมายอีกแบบ

    เจโตวิมุตติ พ้นจากเจโต(จิต,ความคิด)
    ปัญญาวิมุตติ พ้นจากปัญญา(ความรู้)

    บางครั้งการแปลที่คลาดเคลื่อน ก็ทำให้ตีความหมายและอธิบายความคลาดเคลื่อน
    เขาถึงต้องให้คงพระไตรปิฎกต้นฉบับภาษาบาลีเอาไว้
    เพื่อรอผู้รู้ในอนาคตมาแปลอีกที
    อย่าพึ่งปักใจเชื่อในพระไตรปิฎกที่แปลโดยปุถุชน
    เพราะเมื่อผู้แปลๆคลาดเคลื่อน ผู้มาเรียนต่อก็พลอยเข้าใจคลาดเคลื่อนไปด้วย
    เหอะๆๆๆๆๆๆ

    นักโต้ธรรมวาทีสมัยนี้ชอบอ้างแต่พระไตรปิฎกฉบับคำแปล ที่แปลโดยสำนวนปุถุชน ซึ่งตีความผิดเพี้ยนได้
    โดยไม่สนใจว่าพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีเขียนไว้เช่นไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2015
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คนแปลพระคัมภีร์ไตรปิฎกต้องจบหลักสูตรบาลีถึงจะแม่นจริงมิจริงฮะ
     
  15. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    จะ บาลี หรือ ภาษาไทย ก็เป็น ภาษามนุษย์

    " วิญญูชน พึงรู้ธรรมด้วย อุปมา "

    หมายความว่า ภาษามนุษย์ก็แค่ อุบายบางอย่าง ชี้ซ้าย ชี้ขวา
    จะผิด จะถูก จะเป็นธรรมวาที อธรรมวาที ก็สามารถ นำมาใส่ใจ ได้

    เพราะอะไร

    เพราะ อาศัยระลึกเป็นอุบาย เขาไปเห็น ธรรมบางประการ ที่ไม่อาจรับรู้ได้
    ด้วย ภาษามนุษย์ (การด้น เด้า คาด เดา สัญญา สังขาร ...ขันธ์5 )


    " คนเรา จึง ลุ ได้ด้วย ความเพียร "


    ึความเพียร ที่เป็นการ กระทำ ลงมือกระทำ ละ สละ สลัด วางกิเลส อุปกิเลส
    อกุศลมูลจิต รู้คุณ และ โทษ พร้อมด้วยอุบายนำออกอย่างถูกวิธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2015
  16. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    การ ยกบาลี มา หาข้อเท็จจริง

    อันนี้ เขาทำกันมาแล้ว

    แล้วก็ไม่จบ


    ทำไมไม่จบ มุขง่ายๆ คือ " พระพุทธองค์ไม่ได้เขียนสิ่งเหล่านั้น แน่นอน "


    อีกข้อหนึ่ง พระพุทธองค์บัญญัติพระวินัยไว้ ใครยกธรรมด้วยภาษาเดียว
    (เท่านั้นที่ให้ใช้ และ แท้จริง) ก็ปรับอาบัติ ทุกกฏ

    ทรงอนุญาติให้ใช้ภาษาทุกภาษาที่มีในโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2015
  17. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    5555555+
    ขำครับ
    เพราะมันมาจากประสบการณ์ของผมเองเลยครับ
    พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านก็สอนมาแบบนี้
    อีกอย่างเรื่องพ้นด้วยอันนี้จะเป็นแบบนี้
    พ้นด้วยอันนั้นจะเป็นแบบนั้น
    ท่านกล่าวว่าคนแปลเป็นคนมีกิเลสรึพระอรหันต์
    อีกอย่างไปค้นในมุติโตทัยนะครับว่าบันทึกไว้อย่างไร
    ด้วยความนับถือ
    ขออภัยที่อวดอุตริมนุษยธรรม
     
  18. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    เอกวีร์ #อุตส่าห์นึกชมว่ามีสัจจะ พูดคำไหนคำนั้น ที่แท้ก็ดีได้ไม่กี่วันก็ดีแตกแล้ว เหอะๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2015
  19. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    แล้วแต่ท่านเถอะครับ
    เส้นทางสายนี้แคบนัก
    เดินได้เพียงผู้เดียว
    ผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะว่าอะไร
    เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
    ไม่เชื่อก็ลองสอบอารมณ์ผมดูสิ
    พิสูจน์กันด้วยสัจจะที่คุณอ้างด้วย
    เพราะผมเป็นห่วงเรื่องการปรามาสตนเองและผู้อื่น
    มันไม่ดี
     
  20. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    มันมีการแปลพลาดได้ บางศัพท์ไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทยจึงต้องคงไว้อย่างนั้น
    เรียกว่าแปลทับศัพท์
    ผมเปิดอ่านพระไตรปิฎก ภาคอภิธรรม โดยหมายจะให้เข้าใจธรรมลึกซึ้งยิ่งขึ้น
    ปรากฏว่ามีแต่คำทับศัพท์เต็มไปหมด อ่านแล้วไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
    มีเฉพาะพระสูตร กับพระวินัย ที่เป็นพวกนิทาน ที่พอจะมีคำแปลที่อ่านเข้าใจได้บ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...