ทำอย่างไร ให้ปรับสมดุลระหว่าง ทางธรรมกับทางโลกได้ เพราเป็นคนสุดโต่งมาก และจะต้องไปทางใดทางนึง

เอ๊า ก็ไปคิดถึงตัวเลข ตัวเลขมันก็เกิดขึ้นมานะสิคร้าบบบ

เอ๊า ก็ไม่ไปคิดถึงตัวเลข ตัวเลขมันก็ไม่เกิดขึ้นมานะสิคร้าบบบ

โอ๊ววว....มันจะไปนับยังงัยล่ะคร้าบบบ
นับมันก็อยู่ส่วนนับ มันจะไปเห็นเกิดดับอะไรของมันกันเล่า

การนับ ก็นับเพื่อให้มันมีอารมณ์อันเดียวสัญญาอันเดียวแค่นั้นแหละ
แต่ว่าจะให้ไปเห็นเกิดดับ มันไม่ได้อยู่ที่การนับ
ถ้าเอาการเห็นไปอยู่ที่การนับ งั้นเวลาที่การนับมันดับ แล้วจะไปคว้าเอา ลูกชายสิบคน อะไรมาเห็นการเกิดดับเล่า
มันก็ไม่มีการเห็นอะไรเลยนะจิฮับ
มันอยู่ที่ "สติ" นู่นต่างหาก
ที่เข้าไปช่วยเห็นความเกิดดับของการนับน่ะ แม่นก่? :boo:

 

ก็ท่านว่าเขาไม่ยกเห็น กระผมก็ถามท่านว่า

ท่านก็ตอบว่า

แล้วคำตอบที่ว่าน่ะ ท่านจะตอบว่าอย่างไรล่ะ
ไปบอกว่าเขาไม่ยกเห็น ทั้งๆที่ตัวก็พูดอยู่ว่าเขาเห็นเกิดดับ
ถ้าเขาไม่ยกเห็น แล้วเขาจะเห็นเกิดดับได้อย่างไร
แล้วถ้าเขายกเห็น แล้วเราไปบอกว่าเขาไม่ยกเห็น ไปว่า "มะอึง เป็นเดรัจฉาน" อะไรนั่นน่ะ เราจะไปเที่ยวกล่าวอะไรอย่างนั้นสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร

 

บอกไป มันก็ งง อีกแหละ

คุณอ้างว่า " ยกแล้ว เห็นเกิดดับแล้ว " ถ้าเป็น ตรรกศาสตร์ ก็จะถือ ทิฏฐิว่า รู้แล้ว
พร้อมด้วย ทำแล้ว ปฏิบัติแล้ว

แต่ทำไม นักปฏิบัติเขา ตรวจจับได้ว่า พูดอ้างลอยๆ ไม่ได้ลงมือปฏิบัติ

เพราะว่า

หาก เห็นไตรลักษณ์จริงๆ เนี่ยะ ป่านนี้ คุณต้องสำเร็จเป็น อริยะเจ้า ประเภทใดประเภทหนึ่ง

ดังนั้น พวกที่เห็น " ไตรลักษณ์ " แล้ว ยังมา ทะลึ่งถกเถียง เน้นทิฏฐิว่า " เท่านี้ใช่
อย่างอื่นเปล่า " เราจะทราบกันโดยนัยอยู่แล้วว่า " โดนสัญญามันหลอกเอา "

ขันธ์5 มันสร้างสภาวะ ให้เข้าไปยึดถือ อย่างใดอย่างหนึ่ง

แต่หาก ยังปรารภความเพียรอยู่ มันจะมี ความแหลมคม ฝันฝ่า มายาของขันธ์5 ออกไปได้

ดังนั้น หากยังไม่สำเร็จธรรม ยังเพียรอยู่ ไม่มีหรอกว่า จะอ้างว่า กูรู้ถูก

 

เขาเรียกว่ามีสติรับรู้รับทราบไปตามสภาพชั่วคราว
ไม่ใช่เห็นอะไรที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ก็นั่งแช่ทับไว้เพราะกลัวจะเสียภาพของผู้เห็นไตรลักษณ์ ตื่นเช้าแหกขี้ตาขึ้นมาก็โดนสัญญามันหลอกแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ถกเถียงกันแล้วจะไม่โดนมันหลอก แต่ถ้าเรามีสติรับรู้รับทราบไปตามสภาพชั่วคราวเราก็อยู่กับมันไปชั่วทุกเวลานาที ก็อยู่กับมันไป รู้เห็นรับทราบสภาวะเกิดดับอย่างมีสติกับมันไป ไม่ใช่ว่ามันจะมีจะโผล่กะอีแค่ตอนมาถกเถียงกัน

 

ดีขึ้นมาหน่อย

แต่.....ภาวนาได้เฉพาะ ตอนแหกขี้ตา หรือฮับ ....

เนี่ยะ อาการมันฟ้องทันทีเลยว่า โดน สัญญาแหกขี้ตาตื่นรู้ไตรลักษณ์
จึงภาวนาได้แค่ตอน หลังจากแหกขี้ตา


แนะนำว่า คืนนี้ ให้ลองนับแกะ

 

ฮุ่นแน่ ปิ๊จานาดีๆนะฮาบ
จะลืมตาหลับตา
ถ้ายังนับได้
นั่นก็ยังเป็นสภาวะหลังจากแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาอยู่นาาาาาา
เพราะฉะนั้น
ที่บอกว่า “จึงภาวนาได้แค่ตอน หลังจากแหกขี้ตา“ นั้น
ต่อให้คืนนี้ข้าน้อยจะลองไปนับแกะดู
มันก็ไม่พ้นสภาวะหลังจากแหกขี้ตาอยู่ดีนั่นแหละ ใช่เป่า

 

ตรงกลางทำอย่างไร ถ้าหาตรงกลาง จะไม่เจอะครับ แต่มีวิธี คือ ตอนนี้คุณเจ้าของกระทู้มีความชอบใจ หรือ ไม่ชอบใจมั้ยครับ ถ้ามีก็ให้ละ ความชอบใจ ไม่ชอบใจ และมีสติรู้สึกตัว เพียงเท่านี้ ความเป็นกลางก็จะปรากฏเอง โดยไม่ต้องหา ไม่ต้องทำอะไรครับ ลองดูนะครับ เมื่อความเป็นกลางปรากฏ คุณเจ้าของกระทู้จะทราบเลยว่า ทางโลกกับทางธรรม ไปด้วยกันได้ อย่างไม่ขัดแย้ง ส่วนผู้ที่ขัดแย้งอยู่ เค้าเพียงยังไม่เข้าใจธรรมเท่านั้นครับ

 

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น มีประโยชน์มากเลยครับ

 

ขอบคุณคะ ตอนนี้เข้าใจได้แล้วคะไม่น้อยไม่มาก