ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 13 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    น้ำท่วมสูงถึงเอว! ไต้ฝุ่นคปปุถล่มฟิลิปปินส์ อพยพชาวบ้านแล้วกว่า 2 หมื่นคน

    [​IMG]

    ชาวฟิลิปปินส์อ่วม ไต้ฝุ่นคปปุถล่มเกาะลูซอน ตอนเหนือของประเทศ ฝนตกหนัก พายุรุนแรง เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ทางการอพยพประชาชนหนีพายุแล้วกว่า 2 หมื่นคน

    เมื่อวันที่ 19 ต.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น คปปุ (Koppu) เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเกาะลูซอน ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 18 ต.ค.ว่า นอกจากเกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ต้นไม้กิ่งไม้หัก ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย ซึ่งรายหนึ่ง เป็นหญิงสาวเคราะห์ร้าย โดนต้นไม้ทับตายแล้ว ยังทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันตามมาด้วย ขณะที่ทางการได้อพยพประชาชนหนีภัยแล้วกว่า 20,000 คน โดยเฉพาะที่เมืองซาน แอนโตนิโอ ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ประสบภัยน้ำท่วมทั้งเมือง เป็นเหตุให้ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน

    บีบีซี แจ้งว่า จากการที่ไต้ฝุ่นคปปุ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ อันเนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นอีกลูกนั้นจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักนานกว่าปกติ โดยจะตกต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธที่ 21 ต.ค. ขณะที่ปริมาณน้ำฝนที่สะสมทำให้เกิดอุทกภัยขึ้นในบางพื้นที่แล้ว ซึ่งจะเป็นอุปสรรคของรถทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ที่น้ำท่วมหนักสุด

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์แจ้งว่า เมื่อเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) ความเร็วของพายุใกล้จุดศูนย์กลางลดลงมาอยู่ที่ 150 กม./ชม. หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไต้ฝุ่นคปปุได้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วใกล้จุดศูนย์กลาง เกือบ 200 กม./ชม. จนทำให้เกิดฝนตก และถล่มในเมืองคาซิกูรัน บนเกาะลูซอน เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ต.ค. 2558

    มะกันโจมตีทางอากาศดับชีพหัวหน้าสาขาอัลเคดาในซีเรีย

    [​IMG]

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า พวกเขาโจมตีทางอากาศสังหารหัวหน้ากลุ่ม คอราซัน สาขาของกลุ่มอัลเคดาในประเทศซีเรียแล้ว...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ว่า กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯโจมตีทางอากาศในประเทศซีเรีย สังหารนาย ซานาฟี อัล-นาซาร์ ชาวซาอุดีอาระเบียและหัวหน้าของกลุ่ม 'คอราซัน' สาขาของกลุ่มก่อการร้ายอัลเคดาแล้ว

    แถลงการณ์ของเพนตากอน ระบุว่า อัล-นาซาร์ เป็นนักรบญิฮาดที่มีประสบการณ์มากในเรื่องการลำเลียงเงินและนักรบให้อัลเคดา โดยเขาขนย้ายเงินจากผู้บริจาคในอ่าวเปอร์เซียเข้าสู่อิรัก จากนั้นจึงส่งให้แก่แกนนำอัลเคดามาปากีสถานและซีเรีย ในเบื้องต้นเขาทำงานให้เครือข่ายอัลเคดาในอิหร่าน ก่อนจะรับหน้าที่ควบคุมการเงินให้แก่กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ในปี 2012 และย้ายไปซีเรียในปี 2013

    แถลงการณ์ระบุด้วยว่า อัล-นาซาร์ยังจัดสรรเส้นทางสำหรับให้นักรบที่เกณฑ์มาใหม่เดินทางจากปากีสถานเข้าสู่ซีเรียผ่านประเทศตุรกี ก่อนที่เขาจะถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ นายอัล-นาซาร์นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่ม คอราซัน รายที่ 5 ที่ถูกสังหารในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา โดยนาย แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหรัฐฯ แถลงว่า ปฏิบัติการนี้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อแผนของกลุ่ม คอราซัน ที่ต้องการโจมตีสหรัฐฯและพันธมิตรของพวกเขา

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ต.ค. 2558

    สหรัฐฯร่วมญี่ปุ่นโชว์แสนยานุภาพทัพเรือ

    [​IMG]

    จากกรณีสถานการณ์พิพาทหมู่เกาะทะเลจีนใต้ส่อเค้าตึงเครียด ภายหลังรัฐบาลจีนประกาศปกป้องอธิปไตย เพื่อตอบโต้การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯที่จะส่งเรือรบเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวนั้น

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค. รัฐบาลญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพจัดแสดงแสนยานุภาพของกองทัพเรือครั้งยิ่งใหญ่ ในทะเลนอกชายฝั่งญี่ปุ่น โดยมีการระดมเรือของกองกำลังป้องกันตนเอง และกองเรือนานาชาติไม่ว่าจากสหรัฐฯ เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส รวมทั้งหมด 50 ลำ

    การแสดงแสนยานุภาพ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาลญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงที่จะอนุญาตให้กองกำลังป้องกันตนเองไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างแดน ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯออกแถลงการณ์ด้วยว่า การตัดสินใจเข้าร่วมแสดงแสนยานุภาพ มีขึ้นหลังจากกองทัพเรือสหรัฐฯเพิ่งมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของกองเรือที่ 3 และกองเรือที่ 7 ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนกำลัง สามารถส่งกองเรือเข้าไปในพื้นที่สำคัญต่างๆในภูมิภาคแปซิฟิกได้อย่างรวดเร็ว วันเดียวกัน คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเข้าสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิในกรุงโตเกียว โดยเป็นการเข้าสักการะก่อนหน้าการประชุมกับเกาหลีใต้และจีนในสัปดาห์นี้.

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 ต.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มอบเสื้อ 'คนดีที่เรายกย่อง' ฮีโร่กระบี่ ช่วยนักท่องเที่ยวติดโคลน

    [​IMG]

    สำนักงานอัยการสูงสุด มอบเสื้อ 'คนดีที่เรายกย่อง' เป็นกำลังใจให้ฮีโร่กระบี่ ช่วยนักท่องเที่ยวติดโคลน ด้านเทศบาลฯ จ่อทำถนนสาธารณะ ก่อนให้ กฟภ. เข้ามาลงเสาไฟให้ ขณะที่เหล่ากาชาด นำแพทย์ ตรวจอาการเจ็บหลัง ...

    เวลา 14.00 น. วันที่ 19 ต.ค.58 ที่บ้านของ นายชัช อุบลจินดา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/30 ถ.คู่เมือง ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ ฮีโร่ชาวกระบี่ที่เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ติดโคลนหน้าเมืองกระบี่ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน วันนี้ทางสำนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ และสำนักงานจังหวัดได้เข้าไปแจ้งถึงการที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานกิจการและโครงการในพระดำริฯ สำนักงานอัยการสูงสุด ขอยกย่องนายชัช คนดีที่ไม่เพิกเฉยต่อเหตุร้ายและความรุนแรงต่อผู้อื่น พร้อมมอบเสื้อคนดีที่เรายกย่อง กระดิ่งประทาน หมวก จากโครงการในพระดำริฯ เพื่อเป็นกำลังใจแก่คนดี และบันทึกความดีไว้ เพื่อพิจารณานำเข้าเฝ้ารับประทานเกียรติบัตรต่อไป

    นอกจากนั้นทางสำนักงานจังหวัดกระบี่ แจ้งว่าสำหรับมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราวที่บ้านของนายชัชและญาติๆ ที่ปลูกติดกัน 5 หลัง และใช้ไฟฟ้าร่วมกันแต่ต้องเสียค่าไฟฟ้าในอัตราสูงเดือนละเกือบ 1 หมื่นบาท ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเข้ามาดำเนินการให้ โดยเบื้องต้นทางเทศบาลเมืองกระบี่ จะทำถนนสาธารณะเข้ามาเพื่อให้มีการลงเสาไฟฟ้าให้ ส่วนด้านการช่วยเหลืออื่นๆ นายชัช บอกว่า หากได้ไฟฟ้าถาวรจะเป็นการดี เพราะจะประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว ประกอบกับช่วงนี้มีอาการเจ็บหลัง และไม่มีงานตอกเสาเข็ม

    ต่อมา ทางเหล่ากาชาดจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยแพทย์ได้เดินทางไปเยี่ยมและตรวจดูอาการของนายชัช พร้อมทั้งมอบยารักษาคลายกล้ามเนื้อให้ ซึ่งนายชัชยังมีอาการเจ็บจากการให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 เหยียบขึ้นมาจากโคลนด้วย.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ต.ค. 2558

    สงสารชาวนา! เจอหลอกปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ถูกเบี้ยวเงินเกือบ 2 ล้านบาท

    [​IMG]

    ชาวนาจังหวัดสุโขทัย เดือดร้อน บริษัทค้าข้าวโน้มน้าวให้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ เหตุผลได้ราคาดี หลังเก็บเกี่ยวบริษัทจะรับซื้อทั้งหมด สรุปเบี้ยวจ่าย เจ้าของบริษัทอ้าง! ตกลงราคากับโรงสีไม่ได้ ตัดสินใจขนข้าวกลับ วอนผู้ใจดีรับซื้อ

    เวลา 11.00 น. วันที่ 19 ต.ค.2558 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวนา ได้รับความเดือดร้อนถูกบริษัทส่งออกข้าว ชักชวนให้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ แล้วขโมยไปขายโดยไม่ยอมจ่ายเงิน ต้องดิ้นรนไปขนข้าวคืน มาเร่ขายเอง เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ บ้านเกาะน้อย หมู่ที่ 5 ต.หนองอ้อ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย พบกลุ่มชาวนาทั้งชายและหญิงจำนวนหนึ่ง รอให้ข้อมูลอยู่

    นางเสนาะ มีศรี อายุ 46 ปี เป็น ส.อบต. หมู่ 5 อยู่บ้านเลขที่ 98/3 ม.5 ต.หนองอ้อ เปิดเผยว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ตนพร้อมชาวนาในกลุ่มทั้งหมด 49 คน ได้รับการชักชวนจาก บริษัทส่งเสริมการปลูกข้าวหอมนิลอินทรีย์เพื่อการส่งออกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ให้ปลูกข้าวหอมนิลปลอดสารเคมีเพื่อส่งออก โดยจะรับซื้อในราคาข้าวเปลือกตันละ 10,000 บาท

    "เค้าอ้างข้อดีสารพัดมาโน้มน้าวใจ เช่นราคาที่สูงกว่าข้าวชนิดอื่น มีตลาดรองรับแน่นอน พวกดิฉันจึงตัดสินใจปลูกตามคำชวน ต่อมาทางบริษัทส่งเมล็ดพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มาให้ปลูก โดยแจ้งว่าราคาดีกว่า โดยจะรับซื้อคืน ตันละ 12,000 บาท พวกเราก็ปลูกตามคำแนะนำทุกประการ โดยปลูกกันกว่า 400 ไร่ ใช้เวลา 4 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวได้ผลผลิต 43 ตัน" นางเสนาะ กล่าว

    นางเสนาะ กล่าวต่อว่า ต่อมาทางบริษัทแจ้งให้พวกตนขนข้าวไปอบและเก็บไว้ที่โกดังโรงอบข้าวแห่งหนึ่งใน อ.ศรีสัชนาลัย พวกตนก็ขนไปไว้ให้ จู่ๆ ทราบข่าวว่าทางบริษัทแอบมาขนข้าวส่งไปโรงสีใน จ.สุพรรณบุรี โดยไม่แจ้งให้พวกตนทราบ หนำซ้ำไม่ยอมจ่ายเงินค่าข้าวจำนวนกว่า 1,920,000 บาท ให้พวกตนอีกด้วย จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความอายัดข้าวทั้งหมดไว้ที่ สภ.ศรีสัชนาลัย

    "จากนั้นจึงมีการเจรจากัน จนทราบว่าเป็นปัญหาของบริษัทฯ กับโรงสี ซึ่งตกลงกันไม่ได้เรื่องราคาขาย โดยบริษัทฯ ต้องการขายในราคาสูงกว่าราคาที่ทางโรงสีจะขาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราเลย พวกเราต้องการเพียงเงินค่าข้าวตามที่ตกลงกันเท่านั้น ส่วนใครจะเอาไปขายได้กำไร ร่ำรวยเพียงใดพวกเราไม่เกี่ยว" นางเสนาะ กล่าว

    นางเสนาะ กล่าวต่อว่า ในที่สุดเห็นว่าคงไม่ได้เงินแน่ๆ พวกตนจึงไปขนข้าวกลับมาเมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นจึงปรึกษากันว่าคงต้องเร่ขายกันเอง ซึ่งก็มีการเสนอขายให้กับสหกรณ์ต่างๆ บ้างแล้ว แต่ก็เงียบๆ ไป ทั้งที่ราคาขายถูกกว่าท้องตลาดมาก คือ กก.ละ 40 บาทเท่านั้น โดยแพ็กสุญญากาศใส่กล่องอย่างดีกล่องละ 10 กก. ราคา 400 บาทเท่านั้น และยินดีจัดส่งให้ตามต่างจังหวัดไม่ว่าใกล้หรือไกล โดยโทร.มาสั่งได้ที่เบอร์ 087-5240379 และเบอร์ 096-6034023 ตอนนี้เดือดร้อนและเครียดกันหมดเพราะเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ทุกวัน นางเสนาะกล่าว

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ต.ค. 2558

    ด.ญ.10 ขวบ เปิดแอร์นอนในรถ เคาะเรียกกว่าชั่วโมงไม่ตื่น แจ้งเจ้าหน้าที่ช่วย

    [​IMG]

    เด็กหญิงวัย 10 ขวบ นอนหลับเปิดแอร์รอญาติบนรถ เวลาผ่านไปกว่า ชม. เคาะเรียกให้เปิดประตูแต่ไม่ตื่น ญาติแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยงัดประตู สุดท้ายทนเสียงดังไม่ไหว ตื่นเปิดประตูออกมาเอง พร้อมสภาพอิดโรย เป็นลมล้มพับ นำตัวส่งโรงพยาบาล

    เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2558 เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร รับแจ้งขอความช่วยเหลือ เด็กติดในรถบริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวก ป้าเล็ก มหาชัย ถ.เอกชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบพบรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กน 6837 สุราษฎร์ธานี ที่ยังติดเครื่องยนต์อยู่ โดยมีญาติๆ กำลังร้องเรียกให้เด็กหญิงวัย 10 ปี ที่นอนอยู่เบาะด้านหน้าให้ตื่นมาเปิดประตู แต่เด็กไม่ยอมตื่น

    จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ได้นำเครื่องมืออุปกรณ์ทำการงัดกระจกฝั่งคนขับ ส่วนอีกฝั่งที่เด็กหญิงนอนอยู่ ญาติๆ ก็เคาะประตูเรียกไปด้วย จังหวะที่มีคนมุงดูจำนวนมาก เสียงก็ดังขึ้นมาก เด็กหญิงจึงตกใจตื่น แล้วเปิดประตูออกมาได้เอง ลงมายืนด้วยอาการมึนงง จะเป็นลม เนื่องจากนอนในรถเป็นเวลานาน

    ด้านนายปฐม ศรีเนตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 1 ต.หนองคู อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร เป็นน้าชายของ น้องไอซ์ (นามสมมติ) กล่าวว่า พวกตนเดินทางมาจากบ้านพัก ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อมารับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าว แต่หลานสาวบอกว่าหนูไม่หิว หนูง่วง ขอนอนรอในรถ ตนเองเห็นว่าหลานอ่อนเพลียจากการเดินทาง จึงลงไปรับประทานอาหารกัน 4 คน แล้วบอกหลานสาวว่าถ้าหิวก็ตามลงไปนะ

    "ประกอบกับจังหวะที่ฝนตก พวกเราจึงนั่งรับประทานกันไปเรื่อยๆ เกือบชั่วโมง จึงกลับมาที่รถ พบว่าหลานสาวล็อกประตูนอน ส่องที่กระจกดูพบว่าหลานยังมีลมหายใจอยู่ ได้เคาะประตูเรียกนานเกือบชั่วโมงก็ไม่ยอมตื่น เกรงว่าหลานจะไม่ปลอดภัย จึงประสานขอความช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่ จากนั้น โรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนปลอดภัยดีแล้ว ก่อนที่จะเดินทางกลับที่พักต่อไป" นายปฐม กล่าว

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ต.ค. 2558

    เหนือมีหมอกตอนเช้า ใต้ฝนเพิ่มขึ้น กทม.โอกาสฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30%

    [​IMG]

    ประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้าและมีฝนเล็กน้อย พื้นที่ภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่างมีโอกาสเกิดฝน โดยเฉพาะในช่วงเย็น ส่วน กทม.และปริมณฑล มีเมฆมากและฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30% ของพื้นที่...

    จากการตรวจสอบสภาพอากาศโดยระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐ เดอะเวตเตอร์ คอมพานี ประจำวันที่ 19 ต.ค.2558 เช้านี้พบว่ามวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้าและมีฝนเล็กน้อย ส่วนลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20-24 ตุลาคมนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง

    ส่วนสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “คปปุ” (KOPPU) เป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 2 โดยเคลื่อนที่ข้ามเกาะฟิลิปปินส์ ด้านทะเลจีนใต้ บริเวณอ่าวซานโจส์ บนเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากอุบลราชธานี 1,711 กม. มีความเร็วลมศูนย์กลาง 167 กม./ชม. คาดว่าจะลดความเร็วลมศูนย์กลางเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 ในบ่ายวันนี้ (วันที่ 19 ต.ค. 2558) เป็นพายุโซนร้อน ในบ่ายวันพรุ่งนี้ (วันที่ 20 ต.ค. 2558) และคาดว่าพายุนี้เคลื่อนตัวทางตะวันตะวันออก แล้วเปลี่ยนทิศทางไปทางเหนือ ด้วยความเร็ว 3 กม./ชม. โดยจะวกกลับขึ้นสู่ฝั่งฟิลิปปินส์อีกครั้งในวันนี้ แล้วจะผ่านลงทะเลบริเวณทางเหนือของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ในเช้าวันที่ 22 ต.ค. 2558 หลังจากนั้นพายุนี้มีจะเคลื่อนเข้าสู่เกาะไต้หวันในระยะต่อไป ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย

    ส่วนพายุไต้ฝุ่น "จำปี" เป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะมารีนาส์-กวม อยู่ห่างจากอุบลราชธานี 3,937 กม. มีความเร็วลมศูนย์กลาง 231 กม./ชม. คาดว่าจะลดความเร็วลมศูนย์กลางเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 3 ในเช้าวันที่ 21 ต.ค.2558 เป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 ในเช้าวันที่ 22 ต.ค. 2558 พายุนี้เคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็ว 14 กม./ชม. คาดว่าจะเปลี่ยนทิศทางวกกลับสู่มหาสมุทรแปซิฟิก โดยไม่กระทบประเทศญี่ปุ่น

    จากการตรวจสอบทิศทางของกระแสลมก็พบว่า ในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง มีการชนของกระแสลมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในบริเวณดังกล่าว ยังคงมีโอกาสเกิดฝน โดยเฉพาะในช่วงเย็น เพราะเป็นช่วงที่กระแสลมจะแรงเป็นพิเศษ จึงทำให้พื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมเยอะที่สุดอย่างต่อเนื่อง รองลงมาก็คือบริเวณภาคเหนือตอนบน ซึ่งเป็นผลมาจากการแผ่ลงมาของมวลอากาศเย็นในช่วงแรกที่มาปะทะกับความชื้นที่มีอุณหภูมิสูงที่ยังคงมีอยู่ในชั้นบรรยากาศ

    ในขณะที่อุณหภูมิทางตอนบนอากาศยังคงเย็นๆ ในช่วงเช้าสายๆ เริ่มอุ่นขึ้น ในขณะที่ตอนกลางยังคงเป็นพืนที่ที่ร้อนที่สุด โดยเฉพาะในช่วงบ่าย 2 ถึงบ่าย 3 อุณหภูมิประมาณ 35-36 องศาเซลเซียส

    และจากการตรวจสอบแต่ละภาคคาดการณ์ดังนี้

    ภาคเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนทางตอนล่างมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

    ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่าง และด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 ต.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตือนภัยติดเครื่องเปิดแอร์นอนในรถอันตรายถึงชีวิต


    เผยแพร่เมื่อ 18 ต.ค. 2015
    เตือนภัยติดเครื่องเปิดแอร์นอนในรถปิดกระจ­กขาดอากาศหายใจอันตรายถึงชีวิต​
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฟิลิปปินส์เตือนประชาชนระวังภัยน้ำท่วม-ดินถล่ม


    เผยแพร่เมื่อ 19 ต.ค. 2015​

    อิทธิพลพายุไต้ฝุ่น "คปปุ" ทางการฟิลิปปินส์เตือนประชาชนระวังภัยน้ำท่วม­-ดินถล่ม

    วันนี้ (19 ต.ค.58) พายุไต้ฝุ่น "คปปุ" ได้อ่อนกำลังลงแล้วในวันนี้ ภายหลังจากที่พัดเข้าถล่มพื้นที่ทางตอนเหน­ือของฟิลิปปินส์อย่างหนักเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนกว่า 16,000 ราย แม้ว่า พายุลูกนี้จะอ่อนกำลังลง แต่ทางการเตือนว่า อาจจะเกิดเหตุดินถล่มและน้ำท่วมตามมา ทั้งนี้ หมู่บ้านจำนวนมากต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วม โดยกองทัพฟิลิปปินส์ได้เข้าช่วยเหลือประชา­ชนที่ติดค้างอยู่บนหลังคาเรือนแล้ว
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตือนประชาชนระวังโรค-อัคคีภัย ในฤดูหนาว !!


    เผยแพร่เมื่อ 2 ก.พ. 2015​

    เตือนประชาชนระวังโรค-อัคคีภัย ในฤดูหนาว !! :: เจาะโลกพิบัติภัย 31-1-2015 (ช่วงเช้า)

    ข่าวทางไลน์

    20 ต.ค. 58

    นิมิตเช้า เห็นรถบรรเทาทุกข์สาธารณะภัยวิ่งผ่านเปิดหวอ มองแต่ไกลเห็นควันพวยพุ่งขึ้นฟ้า

    เทพบดี ๙๗

    ที่มา แจ้งข่าวเตือนภัยโดยคุณ k_97
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ชาวฟิลิปปินส์ยังเดือดร้อนแม้"คปปุ"เคลื่อนตัวออกไปแล้ว

    [​IMG]

    ลาปาซ 20 ต.ค.- ชาวฟิลิปปินส์ในพื้นที่การเกษตรทางตอนเหนือของประเทศยังคงเดือดร้อนจากน้ำท่วมสูง แม้ว่าไต้ฝุ่นคปปุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 คน ไร้ที่อยู่อาศัยหลายหมื่นคนได้อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนตัวออกไปยังทะเลจีนใต้แล้ว

    พายุคปปุเคลื่อนตัวออกไปในเช้าวันนี้ แต่แถบเมฆฝนขนาดใหญ่จะทำให้เกิดฝนตกหนักต่อไปอีก ซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมที่กินวงกว้างในรัศมี 40 กิโลเมตรรอบกรุงมะนิลา ครอบครัวเกษตรกร 5 ชีวิต ต้องใช้โต๊ะกินข้าวแทนเตียงนอน ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่าระดับน้ำท่วมจะสูงขึ้นอีก และหวังว่าข้าวที่เก็บเกี่ยวไว้จะพอยังชีพเนื่องจากนาข้าวที่มีอยู่จมน้ำหมด

    ไต้ฝุ่นคปปุเป็นพายุที่ถล่มฟิลิปปินส์แรงเป็นอันดับสองของปีนี้ สำนักงานจัดการภัยพิบัติแจ้งว่า มีประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย 70,0000 คน เดือดร้อนทั่วเกาะลูซอน 230,000 คน เสียชีวิตแล้ว 22 คนจากน้ำท่วม ดินถล่ม เรือล่ม และถูกสิ่งของตกใส่ หมู่บ้านการเกษตรจมน้ำกว่า 200 แห่ง บางแห่งระดับน้ำสูงกว่า 1.5 เมตร.-สำนักข่าวไทย

    อนามัยโลกเผยจีนมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรปีละ 250,000 คน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 20 ต.ค. – องค์การอนามัยโลกรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตปีละกว่า 250,000 คน จากอุบัติเหตุบนท้องถนนในจีน ซึ่งสูงกว่าสถิติของทางการจีนถึง 4 เท่าตัว

    รายงานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนทั่วโลกขององค์การอนามัยโลกคาดว่า มีผู้เสียชีวิตราว 261,367 คน เมื่อปี 2556 ในจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก นอกจากนี้จีนยังเป็นตลาดรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก และคนชั้นกลางมีกำลังซื้อมากขึ้นด้วย ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรมีจำนวน 58,539 คน เมื่อปี 2556 อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นปัญหาสำคัญในจีนซึ่งมักไม่เคารพกฏจราจร .-สำนักข่าวไทย

    หมอเถื่อนกัมพูชาขึ้นศาลคดีทำให้กว่า 100 คน ติดเชื้อเอชไอวี

    [​IMG]

    พนมเปญ 20 ต.ค.- แพทย์ชาวกัมพูชาที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะขึ้นศาลในวันนี้ข้อหาฆาตกรรม หลังจากถูกกล่าวหาว่าทำให้คนไข้กว่า 100 คน ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และบางคนเสียชีวิตไปแล้ว

    นายเย็ม ชริน วัย 53 ปี ต้องหาทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทุรกันดารแห่งหนึ่งในจังหวัดพระตะบอง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้เข็มฉีดยาซ้ำ ทนายจำเลยเผยว่า ศาลกำหนดไต่สวนเป็นเวลา 5 วัน ลูกความของเขาให้การยืนยันต่อศาลว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้จงใจหรือเจตนาทำให้คนไข้ติดเชื้อ เขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จงใจทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี และเปิดคลีนิกที่ไม่มีใบอนุญาต หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจะมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต

    อัยการกล่าวหานายเย็มว่า ปกปิดความจริงและแต่งเรื่อง อัยการจะต้องรวบรวมข้อมูลและหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดจากพยานทุกปากมาดำเนินคดีกับเขา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปใด ๆ ผู้ป่วยบางรายเดินทางมาให้การในฐานะพยานด้วย ชายวัย 51 ปี คนหนึ่งเผยว่า เขาและสมาชิกในครอบครัว 4 คนติดเชื้อเอชไอวีเพราะแพทย์เถื่อนรายนี้ ผู้ติดเชื้อมีตั้งแต่ทารกวัย 3 ขวบ ไปจนถึงคนชราวัย 82 ปี มีชาวบ้านเสียชีวิตไปแล้ว 10 คน ส่วนใหญ่เป็นคนชรา

    ข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า กัมพูชามีอัตราส่วนแพทย์เพียง 0.2 คนต่อประชากรทุก 100,000 คน เท่ากับอัฟกานิสถาน และใกล้เคียงกับเมียนมาร์ที่มีแพทย์ 0.4 คน ต่อประชากรทุก 100,000 คน เทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างฝรั่งเศสที่มีแพทย์ 3.2 คนต่อประชากรทุก 100,000 คน.-สำนักข่าวไทย

    กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเผยรัสเซียโจมตีทางอากาศ เสียชีวิต 45 คน

    [​IMG]

    เบรุต 20 ต.ค. – กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียมีแถลงการณ์วันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คนจากการโจมตีทางอากาศหลายระลอกของรัสเซียในจังหวัดลาตาเกียทางเหนือของซีเรีย

    นายรามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่มสิทธิฯกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คน จากการโจมตีทางอากาศในเขตจาบัล อัล-อัคราดเมื่อบ่ายวานนี้ ผู้เสียชีวิตมีทั้งพลเรือน ผู้บัญชาการกลุ่มกบฏ และครอบครัวของกลุ่มกบฏ รวมทั้งยังมีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน คาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคน กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียซึ่งประกอบด้วยกลุ่มสายกลางและกลุ่มนักรบมีที่มั่นอยู่ในเขตจาบัล อัล-อัคราด ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของจังหวัดลาตาเกียที่เป็นที่มั่นของรัฐบาลและเป็นพื้นที่ทางตระกูลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดผู้นำซีเรีย .-สำนักข่าวไทย

    คุณภาพอากาศที่สิงคโปร์แย่ลงอีกในวันนี้

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 20 ต.ค. – สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสิงคโปร์รายงานว่า คุณภาพอากาศในพื้นที่หลายแห่งของสิงคโปร์แย่ลงมากเนื่องจากควันทึบปกคลุมนับตั้งแต่ช่วง 21.00 น.ของคืนวันจันทร์

    แถลงการณ์สำนักงานสิ่งแวดล้อมสิงคโปร์ระบุว่า กระแสลมพัดเอาควันทึบจากตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาทางใต้ โดยเมื่อเวลา 23.00 น.วันจันทร์ ดัชนีมาตรฐานมลภาวะทางอากาศ(พีเอสไอ) อยู่ที่ 104-152 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ส่วนในช่วงเวลา 08.00 น.วันนี้ ค่าพีเอสไออยู่ที่ระดับ 105-171 ถือเป็นระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพเช่นกัน คาดว่าสภาพควันทึบปกคลุมสิงคโปร์จะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีกระแสลมพัดจากตะวันออกเฉียงใต้หรือทางใต้อีก และทัศนวิสัยจะลดลงด้วย .-สำนักข่าวไทย

    รัฐมนตรีมาเลเซียเตือนความพยายามในการดับไฟป่าในอินโดนีเซียจะล้มเหลว

    [​IMG]

    รัฐมนตรีมาเลเซียเตือนความพยายามในการดับไฟป่าในอินโดนีเซียจะล้มเหลว

    กัวลาลัมเปอร์ 19 ต.ค. – นายวัน จูไนดี ตวนกู จาฟาร์ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของมาเลเซียกล่าววันนี้ เตือนว่า ความพยายามของนานาประเทศในการดับไฟป่าในอินโดนีเซียจะประสบความล้มเหลวและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องเผชิญกับสภาพหมอกควันปกคลุมไปอีกหลายสัปดาห์จนกว่าฤดูฝนจะเริ่มขึ้น

    นายวัน จูไนดี กล่าวว่า วิกฤติการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่าในอินโดนีเซียจะดำเนินต่อไปอีก 1 เดือน เขากล่าวว่า หากไม่มีฝนตกมาช่วยดับไฟแล้ว ความพยายามของมนุษย์ไม่สามารถที่จะดับไฟที่เกิดขึ้นจากเผาป่าเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกได้ เขายังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้เพลิงได้ลุกไหม้ขยายวงกว้างในอินโดนีเซียและแม้นานาประเทศจะพยายามร่วมมือกัน แต่ก็ไม่เพียงพอในการดับไฟที่เกิดขึ้นได้ นายวัน จูไนดี กล่าวว่า เขาหวังว่าฝนจะเริ่มตกในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และจะช่วยดับไฟได้.-สำนักข่าวไทย

    ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หมอกควันอินโดฯ ปกคลุมใต้ระลอกใหม่ เตือนประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

    [​IMG]

    หมอกควันไฟป่าจากอินโดฯ ปกคลุมพื้นที่ภาคใต้ระลอกใหม่ หลายจังหวัดทัศนวิสัยแย่ เรือประมงควรงดออกจากฝั่ง สสจ. เตือน ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจงดกิจกรรมกลางแจ้ง หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัย ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง รวมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด...

    เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงได้เกิดควันไฟป่า จากประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาปกคลุมทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราช จนท้องฟ้าขาวโพลนไปด้วยควันไฟป่าดังกล่าว หลังจากได้จางหายไปหลายวันแล้ว กลับมาปกคลุมอีกรอบ ทำให้ถนนสายต่างๆ ทั่ว จ.นครศรีธรรมราช มองทัศนวิสัยไม่ค่อยชัดเจน รถยนต์ต้องเปิดไฟหน้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่าน วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เผยว่า หมอกควันที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และมีกลิ่นเหม็นไหม้จนแสบจมูก กระทบกับชาวบ้านที่เป็นภูมิแพ้อย่างมาก

    ส่วนพื้นที่ริมฝั่งอ่าวไทย ด้าน อ.ปากพนัง และ อ.หัวไทร หมอกควันมีปริมาณหนาแน่นมาก ทำให้เรือประมงต้องงดนำเรือออกจากฝั่ง เนื่องจากทัศนวิสัยในการเดินเรือต่ำมาก ไต้ก๋งเรือมองเห็นระยะทางด้านหน้าเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อการเดินเรือเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพ ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยมาปิดจมูก เพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจ และหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน หากมีอาการวิงเวียนศีรษะรุนแรงก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน

    ด้านพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หากมองจากมุมสูงบนยอดเขาคอหงส์ พบว่า หมอกควันปกคลุมทั่วทั้งตัวเมืองหาดใหญ่ ค่อนข้างหนาแน่น ท้องฟ้าหลัว คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย โดย นายฮาเล็ม เจะมาริกัน ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 เผยว่า ปริมาณหมอกควันในรอบนี้ยังไม่รุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านมา คุณภาพอากาศทั้งหาดใหญ่และทุกจังหวัดของภาคใต้ตอนล่างยังปลอดภัย ปริมาณค่าฝุ่นละอองในอากาศทั้งรายชั่วโมง และเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และคาดว่าจะปกคลุมในระยะเวลาเพียงสั้นๆ 1-2 วันนี้เท่านั้น

    ด้าน นางสาวพะเยาว์ เมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้หมอกควันพัดเข้ามาในภาคใต้อีกครั้ง เนื่องจากมีพายุโซนร้อน “คปปุ” (KOPPU) ในทะเลจีนใต้ ดูดลมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามันขึ้นไปเลี้ยงพายุ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนอ่อนกำลังลง ส่งผลทำให้ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดเอาหมอกควันจากเกาะสุมาตร ประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาปกคลุมในพื้นที่ จ.สงขลา และจะเริ่มคลี่คลาย จนกว่าพายุโซนร้อน “คปปุ” จะขึ้นฝั่ง ประมาณวันที่ 22–23 ตุลาคม นี้ ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ภาคใต้มีฝนตกลงมาประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ช่วยชะล้างหมอกควันที่ปกคลุมเจือจางลงได้

    พื้นที่ จ.สตูล ตามถนน ทั้งในเมืองและนอกตัวเมือง ถูกหมอกควันปกคลุมหนาแน่น รวมทั้งบริเวณทุ่งหญ้าและตามภูเขา โดยเฉพาะบริเวณภูเขา ถูกหมอกควันพัดปกคลุมปิดบังภูเขา มองเห็นแค่รางๆ แต่ภูเขาบางแห่งปิดบังหมดไม่สามารถมองเห็นได้ ทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องระมัดระวัง หมอกควันดังกล่าวยังคงส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน เช่น มีอาการเป็นหวัด คัดจมูก เจ็บคอ บางคนถึงกับมีไข้ขึ้น ทั้งนี้ นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ต่อไป

    ที่ จ.พัทลุง ตั้งแต่ช่วงเช้า หมอกควันแผ่ปกคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว อำเภอตะโหมด และพื้นที่อำเภอเมืองพัทลุง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เกิดหมอกควันหนาทึบ สภาพอากาศขมุกขมัวตั้งแต่เช้า ตลอดทั้งวันก็ยังไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้ ในขณะที่รถยนต์ และจักรยานยนต์ ต้องเปิดไฟส่องทางตลอดทั้งวัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับขี่ไม่สามารถเห็นเส้นทางจราจรได้อย่างชัดเจน ด้าน นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ออกประกาศเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ให้หลีกเลี่ยงออกกำลังกายในที่แจ้ง และควรสวมใส่หน้ากากป้องกันทุกครั้งเมื่อต้องออกในที่แจ้ง ส่วนประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมเปิดไฟหน้ารถ หากต้องขับรถบนถนนที่มีหมอกหนา

    ที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีหมอกควันกระจายเต็มท้องฟ้า ไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะในตัวเทศบาลเมืองเบตง มีความหนาแน่น และสามารถมองเห็นหมอกควันได้อย่างชัดเจน มีปัญหาด้านการมองเห็นในทางการจราจร ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ด้านนายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง เผยว่า หมอกควันที่พัดเข้าปกคลุมใน อ.เบตง จ.ยะลา เป็นผลมาจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย จึงทำให้เกิดหมอกควันในพื้นที่ อ.เบตง สาธารณสุข อ.เบตง ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน และแนะนำวิธีป้องกันตนเองในภาวะหมอกควัน โดยให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูก ขณะต้องออกไปนอกบ้าน พร้อมให้เฝ้าระวังสุขภาพของตนเองและผู้ใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็ก คนชรา และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เป็นต้น

    ทั้งนี้ นางกัลยา โตะแวอายี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดยะลา กล่าวว่า จากข้อมูลดาวเทียม NOAA-18 เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา มีจุดที่เกิดไฟไหม้ บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 2 จุด สำหรับคุณภาพอากาศในวันนี้ ที่จังหวัดยะลาคุณภาพอากาศวัดได้ 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายภายนอกอาคาร

    ด้าน บรรยากาศในเขตนครภูเก็ต และทั้ง 3 อำเภอ บนท้องฟ้าเริ่มสลัว และถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันบางๆ ทั่วบริเวณ แต่ยังไม่ได้กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา แสงแดดเริ่มไม่สามารถส่องทะลุชั้นบรรยากาศได้ ส่งผลให้ในพื้นที่ไม่มีแสงแดด ขณะที่บนจุดชมวิวเขารัง ถ.แม่หลวน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขึ้นไปชมทัศนียภาพของเมือง และอ่าวภูเก็ตตามปกติ โดยยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ต่างๆ ได้ แต่เริ่มไม่ชัดเจนในระยะไกล

    ทั้งนี้สถานีตรวจสอบสภาพอากาศ กองอนามัยและสาธารณสุข เทศบาลนครภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวกับการตรวจวัดสภาพอากาศ โดยมีแอพพลิเคชั่น air 4 thai ที่ประชาชนทั่วไปสามารถโหลดมาไว้กับโทรศัพท์มือถือ เพื่อเช็กสภาพอากาศ และฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศได้ ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. วัดคุณภาพอากาศได้ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าคุณภาพอากาศดี แต่มีการขยับตัวของค่าฝุ่นละอองที่วัดได้ตามลำดับ ส่งผลให้ประชาชนต่างเริ่มตรวจสอบสภาพอากาศทุกชั่วโมง ซึ่งเกรงว่าจะมีความหนาแน่นของฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศมากขึ้นตามลำดับ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ต.ค. 2558

    ลมหนาวเยือนมุกดาหาร เสื้อหนาว-ผ้าห่มมือสองขายดี

    [​IMG]

    มุกดาหาร สภาพอากาศเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลผู้ค้าเริ่มนำเสื้อกันหนาว-ผ้าห่มมือสอง ราคาถูก ออกมาจำหน่าย มีชาวบ้านไปเลือกซื้อคึกคัก ขณะที่ สสจ. เตือน ทำความสะอาดก่อนนำมาสวมใส่ป้องกันโรคติดต่อต่างๆ ...

    เวลา 09.00 น. วันที่ 20 ต.ค. จากสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ช่วงเช้ากลับมีหมอกลง ส่งผลให้มีประชาชนเริ่มทยอยออกมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาว และผ้าห่มมือสอง บริเวณตลาดนัดสินค้ามือสอง เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร กันเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศการจำหน่ายกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากมีราคาถูก โดยเฉพาะผ้าห่มนวมกันหนาว จำหน่ายกันในราคาชิ้นละ 25 ไปจนถึง 260 บาท ซึ่งแล้วแต่สภาพความสมบูรณ์ของสินค้า จึงทำให้ประชาชนที่นิยมสินค้ามือสอง และผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ รวมถึงประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน (แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว) มาเลือกซื้อกันเป็นจำนวนมาก

    โดยแม่ค้าสินค้ามือสองรายหนึ่ง กล่าวว่า ปีนี้ได้ติดตามทาง กรมอุตุนิยมวิทยา ที่คาดการณ์อากาศว่า ปีนี้จะหนาวมากและยาวนาน จึงได้ตัดสินใจสั่งเสื้อกันหนาว และผ้าห่มกันหนาวมือสองมาจำหน่ายมากกว่าปกติในช่วงต้นฤดู หากไปสั่งซื้อในช่วงที่มีอากาศหนาว สินค้าพวกนี้จะมีราคาแพง และบางครั้งอาจขาดตลาด ซึ่งจะทำให้เสียโอกาสได้

    ขณะที่ หน่วยงานด้านสาธารณสุข ออกมาประกาศเตือนให้ประชานที่นิยมเครื่องนุ่งห่มมือสอง ระวังโรคติดต่อที่จะติดมากับเสื้อผ้ามือสอง โดยเฉพาะโรคผิวหนัง และโรคระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากเสื้อผ้าดังกล่าวนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งอาจจะไม่มีการป้องกัน หรือควบคุมโรคที่ดี จึงขอให้ประชาชนที่นิยมใช้เสื้อผ้ามือสอง ให้ทำความสะอาดโดยการนำไปซัก หรือนำไปต้มฆ่าเชื้อก่อนที่จะนำไปสวมใส่ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคต่างๆ ได้.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ต.ค. 2558

    เด็กไทยสูบบุหรี่มากที่ 3 อาเซียน หนุนเลิกด้วย 8 บทเรียน

    [​IMG]

    ผลการสำรวจสถานการณ์การสูบบุหรี่ในเด็กไทย สูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน โครงการวิจัยเลิกบุหรี่ หนุน 'โปรเจกต์เอ็กซ์' 8 บทเรียนใน 6 สัปดาห์ ย้ำ บุหรี่เลิกยาก แต่สามารถเลิกได้ด้วยบทเรียน และการฝึกฝน เพื่อเอาชนะอิทธิพลทางสังคม...

    เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 58 ทพญ.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากการสำรวจสถานการณ์การสูบบุหรี่ในเด็กไทย พบว่า มีอัตราสูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน เมื่อเทียบจากการสำรวจการสูบบุหรี่ในเยาวชน ระหว่างปี 2550-2556 อัตราการสูบบุหรี่ของเด็กชายไทยอายุ 13-15 ปี ที่สำรวจในปี 2552 เป็น ร้อยละ 20 ซึ่งรองมาจากประเทศอินโดนีเซีย ที่ร้อยละ 41 กับมาเลเซีย ร้อยละ 31 ส่วนอัตราการสูบบุหรี่ของเด็กหญิงไทยอายุ 13-15 ปี คือ ร้อยละ 3.8 ซึ่งต่ำกว่าเด็กหญิงในประเทศบรูไน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย กัมพูชา และสิงคโปร์ แม้ว่าแนวโน้มการสูบบุหรี่ในภาพรวมไม่ได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2557 และปี 2552 อยู่ที่ร้อยละ 20.7 แต่จำนวนคนสูบบุหรี่มีมากขึ้น ซึ่งการติดบุหรี่ในเยาวชน หากติดเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จะไม่สามารถเลิกไปได้ราว 20 ปี

    ผศ.ดร.ปัญญรัตน์ ลาภวงศ์วัฒนา อาจารย์คณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าโครงการวิจัยเลิกบุหรี่ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (โปรเจกต์เอ็กซ์) ปี 2557 สนับสนุนโดย ศจย. กล่าวว่า โปรเจกต์เอ็กซ์ใช้บทเรียน 8 บท ครั้งละ 40 นาที ในเวลา 6 สัปดาห์ และวัดผลซ้ำ 3 เดือน เน้นในเรื่องการจัดการความเครียด การเผชิญการขาดนิโคติน เทคนิคการผ่อนคลาย การจัดการความโกรธ ควบคุมตนเอง จัดการอารมณ์ เพื่อลดความเสี่ยงการกลับมาสูบซ้ำ ซึ่งพบว่า ปัจจัยที่ทำให้เยาวชนอ้างว่าไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ คือ อิทธิพลของสังคม การติดสารเคมีของบุหรี่ และขาดแรงจูงใจ ซึ่งจำเป็นต้องสอนทักษะการเอาชนะอิทธิพลเหล่านี้

    ทั้งนี้ จากการทดลองกลุ่มตัวอย่างที่สูบบุหรี่ 52 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้เข้าโครงการ 46 คน พบว่า ความพยายามในการเลิกบุหรี่ในกลุ่มทดลอง ที่ตอบว่าวางแผนเลิกเดี๋ยวนี้ และเลิกบุหรี่ได้แล้วขณะนี้ ในช่วงก่อนการทดลองกลุ่มตัวอย่างที่สูบบุหรี่ มีร้อยละ 3.8 และ 1.9 เพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 15.4 และ 13.5 ตามลำดับหลังการทดลอง 3 เดือน ส่วนนักเรียนกลุ่มเปรียบเทียบที่ตอบว่า วางแผนเลิกเดี๋ยวนี้ และเลิกบุหรี่ได้แล้วขณะนี้ มีร้อยละ 0.0 และ 2.2 ช่วงก่อนการทดลอง เป็นร้อยละ 8.7 และ 2.2 หลังการทดลอง 3 เดือน พบว่า ร้อยละ 44.2 ของกลุ่มทดลองสูบบุหรี่ลดลง และร้อยละ 7.7 เลิกบุหรี่ได้ต่อเนื่อง 3 เดือน ส่วนกลุ่มเปรียบเทียบมีร้อยละ 19.6 ที่สูบบุหรี่ลดลง และร้อยละ 2.2 เลิกบุหรี่ได้ต่อเนื่อง 3 เดือน ทำให้สามารถสรุปได้ว่า เริ่มสูบแล้วเลิกยาก แต่สามารถเลิกได้ด้วยบทเรียนฝึกฝน ความสามารถทางสังคม และทักษะการเอาชนะอิทธิพลของสังคม อย่างน้อย 6 สัปดาห์

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ต.ค. 2558

    เหนือ-อีสานหมอกบางในตอนเช้า ตะวันออกและใต้ยังมีฝน อันดามันคลื่นลมแรง

    [​IMG]

    ภาคเหนือและอีสานมีหมอกบางในตอนเช้า และมีโอกาสฝนตกได้เป็นแห่งๆ ในขณะที่พื้นที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ ก็จะยังคงมีฝนตกอยู่ในระยะนี้ โดยจะหนักฝั่งอันดามันทำให้ทะเลมีคลื่นลมแรง กทม.และปริมณฑล เมฆมากและฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30%...

    จากการตรวจสอบสภาพอากาศโดยระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐ เดอะเวตเตอร์ คอมพานี ประจำวันที่ 20 ต.ค.2558 เช้านี้พบว่า หลายพื้นที่คงจะได้สัมผัสกับสายหมอกบางๆ ที่มาเยือนก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนหน้าแล้วนะครับ ขณะที่พื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวันก็เกิดหมอกปกคลุมในหลายพื้นที่ ทำให้หลายคนสงสัยว่าหมอกเหล่านี้คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร วันนี้ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์มีคำตอบให้

    สำหรับหมอกดังกล่าว คือ 'ปรากฏการณ์ฟ้าหลัวชื้น' ที่มีลักษณะเหมือนหมอกบางๆ ปกคลุมอยู่ตามยอดตึก เกิดจากการที่ช่วงเย็นของวันก่อนหน้านั้น กระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดันมันประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น จึงได้พัดเอาไอน้ำมาปกคลุมในบริเวณภาคกลางตอนล่าง รวมถึงกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก ไอน้ำส่วนหนึ่งสามารถก่อตัวกลายเป็นกลุ่มเมฆฝน และตกได้ในหลายพื้นที่ ขณะที่ไอน้ำที่เหลืออยู่ในอากาศ ประกอบกับไอน้ำที่เกิดจากการระเหยของน้ำฝน ได้ลอยขึ้นไปปะทะกับอากาศเย็นที่อยู่ในระดับสูง จนเกิดการควบแน่นกลายเป็นละอองน้ำจับตัวกันเป็นหมอกบางๆ ในขณะที่กระแสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นมรสุมฤดูหนาวค่อนข้างที่จะมีกำลังอ่อน จึงไม่สามารถพัดหมอกดังกล่าวไปยังจุดอื่นได้ จึงทำให้เกิดหมอกปกคลุมเป็นระยะเวลานาน ปรากฎการณ์ในลักษณะนี้ สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงที่มวลอากาศเย็นจากจีนอ่อนกำลังลง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้หรือ มรสุมฤดูฝนเริ่มมีกำลังแรงขึ้น และจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงปลายฤดูเข้าสู่ฤดูหนาว

    ส่วนเช้านี้ ก็พบว่ามวลอากาศเย็นกำลังอ่อนกำลังอ่อน ยังคงแผ่ปกคลุมอยู่บริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกบางในตอนเช้า และมีโอกาสฝนตกได้เป็นแห่งๆ ในขณะที่พื้นที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ ก็จะยังคงมีฝนตกอยู่ในระยะนี้ และอาจจะมีฝนตกหนักในฝั่งอันดามัน ซึ่งบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นก็จะสูงขึ้นด้วย เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงเหนือได้พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ซึ่งตอนนี้คาดการณ์ว่าจะแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเหนี่ยวนำของพายุโซนร้อน "คปปุ" ที่ ขณะนี้ มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโลวาก (Laoag) บนเกาะลูซอนทางตอนเหนือ ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากอุบลราชธานี 1,755 กม. มีความเร็วลมศูนย์กลาง 102 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางเหนือด้วยความเร็ว 3 กม./ชม.แล้วลงทะเลทางด้านเหนือของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์จากนั้นจะเคลื่อนตัวไปทางเหนือถึงทะเลด้านตะวันออกของไต้หวันในค่ำวันที่ 23 ต.ค.2558 ดังนั้นใครจะเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าวต้องตรวจสอบสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด

    ในขณะที่การคาดการณ์สถานการณ์ฝนสะสมในบ้านเราตลอด 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ คือตั้งแต่เช้าวันนี้ไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ ก็พบว่าพื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นบริเวณที่มีปริมาณฝนสะสมเยอะ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนกลาง ในขณะที่ภาคตะวันออก ก็มีการสะสมของฝนบ้างในบางพื้นที่

    โดยการคาดการณ์ช่วงเวลาการตกของฝนในวันนี้ก็พบว่า ช่วงสายมีการกระจายตัวของฝนในบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ตามแนวชายฝั่ง หลังจากนั้นช่วงบ่าย ยังคงมีฝนตกเล็กน้อยประปราย ในบริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศ ตั้งแต่ตอนบนจนถึงตอนกลาง หลังจากนั้นฝนก็จะค่อยๆซาลง ยังคงมีตกเล็กน้อยในบ้างพื้นที่เท่านั้น

    ส่วนสถานการณ์ฝนในภาคใต้วันนี้นั้น ช่วงเช้ามีกลุ่มฝนก่อตัวในบริเวณตอนล่างของภาค ช่วงเที่ยงเริ่มพบกลุ่มฝนบริเวณทางตอนกลางของภาคในฝั่งอันดามัน ก่อนที่ช่วงบ่ายยังคงเน้นตกในฝั่งอันดามัน ตั้งแต่บริเวณตอนบนจนถึงตอนล่าง โดยจะตกหนักหน่อยบริเวณพังงา กระบี่ หลังจากนั้นก็จะตกกระจายตัวไปจนถึงช่วงค่ำ

    ซึ่งจากฝนที่ลดลงทางตอนบนของประเทศ เมฆที่น้อย รวมถึงมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนที่แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ทำให้ฝนช่วงเช้าพื้นที่บริเวณขอบของภาคเหนือและตามยอดดอยยอดภู ยังคงมีอากาศเย็นๆ หลังจากนั้นจะเริ่มอุ่นขึ้นในช่วงสาย ในขณะที่พื้นที่ที่คาดการณ์ว่าจะมีอากาศร้อนที่สุดในวันนี้ ยังคงเป็นพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง โดยอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 35-36 องศาเซลเซียส

    การคาดการณ์ลักษณะอากาศในแต่ละภาควันนี้ ดังนี้

    ภาคเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในช่วงเช้า ส่วนทางตอนล่างมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

    ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่าง และด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ต.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    00.30 น. 21 ต.ค. 58 เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคารคลองถมเซ็นเตอร์ ถนนยมราชสุขุม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงได้ระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยต้นเพลิงนั้น มาร้านขายอุปกรณ์ประดับยนต์ กล้องติดหน้ารถ เอ็มดี คาร์ออดิโอ ตั้งอยู่ห้องที่ E13-1 บริเวณชั้น 1 ของอาคาร ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถดับเพลิงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เพื่อนต่างดาวเตือนภัย ปลายปีนี้จะมีเรื่องวุ่นวายมาก


    ข่าวทางไลน์

    21 ต.ค. 58

    07:37 นิมิตเช้านี้ เห็นตัวเองและคนอื่นๆ หลบอยู่ในบริเวณวัดแห่งหนึ่งใน กทม. เสียงอาวุธสงครามดังเป็นระยะ ถามเด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอก...มีชายถืออาวุธสงครามออกมากราดยิง

    ภาพตัดมาที่ทหารรุกยิงและถอยร่นขึ้นๆลงๆ แต่ไม่ทราบว่ายิงสู้กับผู้ใด?

    ต้องเตรียมหาซื้ออาหารตุนไว้อีกแล้วละซิ

    เทพบดี ๙๗

    ที่มา แจ้งข่าวเตือนภัยโดยคุณ k_97
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ค่าเงินจ๊าตทรุดหนัก! เมียนมาหันคุมดอลลาร์

    [​IMG]

    เมียนมาออกกฎควบคุมจำกัดการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการทำธุรกรรมการเงินภายในประเทศของภาคเอกชน เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินจ๊าต สกุลเงินหลักของประเทศที่อ่อนค่าลงกว่า 20% แล้วในปีนี้

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ธนาคารกลางของเมียนมา (ซีบีเอ็ม) ได้ประกาศจะเพิกถอนใบอนุญาตแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของภาคเอกชนไล่ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจจำพวกโรงแรม ร้านอาหาร สโมสรกอล์ฟไปจนถึงโรงพยาบาล และอื่นๆ หลังมีการใช้เงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรมภายในประเทศมากเกินไปนับแต่ยอมให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวสำหรับเงินจ๊าตมาตั้งแต่ปฏิรูปเศรษฐกิจการเมืองหลังสิ้นสุดการปกครองของทหารในปี 2554 ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนไร้เสถียรภาพ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งใช้ดอลลาร์อย่างแพร่หลาย อีกทั้งทำให้ค่าเงินจ๊าตอ่อนค่าลงกว่า 20% ในปีนี้ จนเงินจ๊าตกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุดในภูมิภาค โดยอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันอยู่ที่ 1,283 จ๊าตต่อ 1 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าไม่ทำธุรกรรมด้วยดอลลาร์ก็ต้องถือธนบัตรเงินจ๊าตเป็นปึกๆ

    “ระเบียบใหม่มีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้เงินจ๊าตชำระค่าสินค้าและบริการภายในประเทศ และเพื่อลดการใช้เงินสด ภาครัฐจะสนับสนุนให้ใช้บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัตรชำระสินค้าภายในและระบบจ่ายเงินออนไลน์ภายในประเทศแทน” ซีบีเอ็มระบุ

    อย่างไรก็ดี ภายใต้กฎระเบียบใหม่นี้ ภาคธนาคารและบริษัทผู้รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ยังสามารถแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ได้อยู่ แต่บริษัทอื่นๆทั้งภาคเอกชนและที่กองทัพดำเนินการอย่าง เมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิ้ง ต้องส่งคืนใบอนุญาตภายในปลายเดือน พ.ย.นี้

    ข่าวระบุว่าเมียนมาไม่ใช่ประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียที่เงินดอลลาร์ถูกใช้เป็นสกุลเงินหมายเลข 2 ของประเทศอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อทดแทนสกุลเงินท้องถิ่นเมื่อต้องทำธุรกรรมมูลค่าสูงๆ อย่างในกัมพูชา มีการใช้ดอลลาร์ควบคู่กับเงินเรียลซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในกรณีเกี่ยวข้องเงินดอลลาร์เศษย่อยหรือจำนวนไม่มาก

    วันเดียวกัน เมียนมาอนุญาตให้ทีมสังเกตการณ์การเลือกตั้งของสหภาพยุโรป (อียู) เข้าตรวจสอบคูหาเลือกตั้งที่อยู่ในอาคารหรือสำนักงานของกองทัพได้ระหว่างการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 พ.ย.นี้ เว้นแต่ว่าจะมีความวิตกเรื่องความมั่นคงที่ร้ายแรงถึงจะไม่อนุญาต.

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 21 ต.ค. 2558

    มะกันเสียกำลังสำคัญไปหนึ่ง! ผู้นำใหม่แคนาดาจะถอนฝูงบินรบร่วมถล่มไอซิส กลับบ้าน

    [​IMG]

    จัสติน ทรูโด นายกฯ ใหม่แคนาดา โทร.คุยประธานาธิบดีสหรัฐฯ​ทันที หลังคว้าชัยเลือกตั้ง แจ้งแคนาดาจะถอนฝูงบินรบ CF-18 ที่ถูกส่งไปร่วมโจมตีทางอากาศถล่มไอซิสในอิรักและซีเรีย กลับแคนาดา ตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนระหว่างหาเสียง

    เมื่อ 21 ต.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ยืนยัน รัฐบาลแคนาดาภายใต้การนำของเขา จะถอนฝูงเครื่องบินรบของกองทัพอากาศแคนาดา จากการเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ในอิรักและซีเรีย

    บีบีซี รายงานด้วยว่า นายทรูโด ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวต่อประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ แล้ว ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ หลังจากนำพรรคเสรีนิยมชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เอาชนะพรรคอนุรักษนิยมภายใต้การนำของอดีตนายกรัฐมนตรีสตีเฟน ฮาร์เปอร์ ที่บริหารประเทศมานาน 9 ปีได้สำเร็จ เนื่องจากนายทรูโดได้ให้คำมั่นสัญญากับชาวแคนาดาระหว่างหาเสียงว่า จะนำฝูงเครื่องบินรบ CF-18 กลับบ้าน เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ระบุวันเวลาแน่ชัด

    อย่างไรก็ตาม นายทรูโด อดีตครูโรงมัธยม ที่ผันตัวเองเข้าสู่เส้นทางการเมือง ตามรอยพ่อ ในฐานะบุตรชายคนโตของอดีตนายกรัฐมนตรีปิแอร์ ทรูโด จะยังคงกำลังทหารแคนาดาที่ปฏิบัติภารกิจฝึกสอนด้านการทหารให้แก่ทหารอิรักทางภาคเหนือต่อไป

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ต.ค. 2558

    ฟิลิปปินส์ยังเฝ้าระวังน้ำท่วม แม้ 'คปปุ' อ่อนกำลังเป็นโซนร้อน

    [​IMG]

    [​IMG]

    ฟิลิปปินส์ยังเฝ้าระวังน้ำท่วม แม้ 'คปปุ' อ่อนกำลังเป็นโซนร้อน

    ไต้ฝุ่น “คปปุ” ที่อ่อนกำลังลงเหลือระดับพายุโซนร้อน ยังคงเคลื่อนตัวช้าๆผ่านเกาะลูซอน ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ความเร็วลมประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ส่งผลให้หน่วยงานรับมือภัยพิบัติประกาศคงคำสั่งเตือนภัยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เมืองนูเอวา เอซิฮา ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา ที่หมู่บ้านกว่า 800 แห่ง เสี่ยงต่อเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และเหตุน้ำป่าไหลหลาก

    ทั้งนี้ ทางการฟิลิปปินส์รายงานปรับยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ เพิ่มเป็น 20 คน สูญหายอย่างน้อย 2-3 คน ขณะยอดผู้ได้รับผลกระทบบ้านเรือนเสียหาย มีมากกว่า 290,000 คน ในจำนวนนี้ 70,500 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยตามที่หลบภัยชั่วคราว นอกจากนี้ พายุยังสร้างความเสียหายแก่พื้นที่ไร่นาการเกษตรที่พร้อมจะเก็บเกี่ยวหลายแห่ง

    ขณะที่นายเบนิกโน อาคิโน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้เดินทางลงพื้นที่เมืองนูเอวา อีซิฮา ในวันเดียวกัน เข้าประเมินสถานการณ์ความเสียหายพร้อมแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย ซึ่งต่อมามีรายงานว่า ฝนเริ่มหยุดตกในบางพื้นที่ เปิดโอกาสให้ผู้ประสบภัยเก็บกวาดซากปรักหักพัง.

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 21 ต.ค. 2558

    สารเคมีในครีมกันแดด อาจทำลายปะการัง ไหลลงทะเลปีละ 4-6 พันตัน

    [​IMG]

    นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ในอิตาลี พบสารเคมีที่อยู่ในครีมกันแดด อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พืดหินปะการังและแนวปะการังในทะเล-มหาสมุทรลดลง ขณะที่แต่ละปี มีนักท่องเที่ยวชอบอาบแดดชโลมครีมกันแดดทั่วตัวจนไหลลงทะเลมากถึงปีละ 4-6 พันตัน

    เมื่อวันที่ 21 ต.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ผลจากการค้นคว้าวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคอันโคนา ประเทศอิตาลี พบว่า นักท่องเที่ยวที่ชอบอาบแดดและใช้ครีมกันแดดอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พืดหินปะการัง (Grande barrière de corail) และแนวปะการังอื่นๆ ทั่วโลกลดจำนวนลง ขณะที่ นักวิทยาศาสตร์อิตาลีประเมินว่า แนวปะการังร้อยละ 10 ที่ถูกคุกคามโดยสารที่มีอยู่ในครีมกันแดด ซึ่งในแต่ละปีมีครีมกันแดดจำนวน 4,000-6,000 ตัน ไหลลงไปในทะเลและมหาสมุทร โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถบประเทศเขตร้อนที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว

    นักวิทยาศาสตร์อิตาลีค้นพบว่า ครีมกันแดดหลายยี่ห้อ ใช้สารที่เป็นตัวเร่งการเกิดไวรัสในสาหร่าย algues zooxanthelles หรือ zoox ที่อยู่ร่วมกับปะการัง สาหร่ายดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญอาหารของปะการัง เมื่อสาหร่ายดังกล่าวเหี่ยวเฉา ปะการังก็จะซีดขาวและตายไป สารเคมี เช่น พาราเบน กรดทรานส์-ซินนามิค เบนโซโฟน และการบูร เป็นตัวเร่งให้เกิดไวรัส และทำให้สาหร่ายและปะการังเหี่ยวเฉาตายไป

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ต.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน! ยะลา-สงขลา-สตูล-ปัตตานี แนะสวมหน้ากากอนามัย

    [​IMG]

    ผอ.สิ่งแวดล้อมที่ 16 เตือน ปชช. 4 จังหวัด ได้แก่ ยะลา สงขลา สตูล ปัตตานี ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เด็ก และผู้สูงอายุ เลี่ยงการออกจากบ้าน และทำกิจกรรมกลางแจ้ง แนะ ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา...

    เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 58 นายฮาเล็ม เจะมาริกัน ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 กล่าวถึง สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคใต้ กับทางทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ขณะนี้หมอกควันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ระลอกนี้ถือว่ารุนแรงเป็นพิเศษ โดยหมอกควันกระจายไปทุกพื้นที่ จากการติดตามผลทุกๆ 3 ชม. พบว่า แนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้พื้นที่ที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานมีอยู่ 4 จังหวัด คือ สงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล ซึ่งต้องติดตามตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ ทางภาคใต้ ฝนที่เกิดค่อนข้างจะกระจาย ปริมาณน้ำฝนปานกลางถึงเล็กน้อย อิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก รวมถึงความเร็วลมค่อนข้างเบา เฉลี่ยประมาณ 20-30 กม./ชม. ซึ่งส่งผลให้หมอกควันไม่กระจายออกมากนัก ส่วนการสัญจรทางอากาศยังคงปกติ เครื่องบินสามารถขึ้นลงได้ อีกทั้งทัศนวิสัยในการเดินเรือช่วงนี้ สามารถมองเห็นในระยะ 3 กม. เรือเล็กควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้อยากฝากไปถึงกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เด็ก และผู้สูงอายุ ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย

    ด้าน สถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ระลอกใหม่ ที่พัดปกคลุมในหลายพื้นที่ จ.สงขลา มีปริมาณหมอกควันหนาแน่นต่อเนื่อง ค่าฝุ่นละอองในอากาศรายชั่วโมงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน อ.หาดใหญ่ เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว จากปริมาณหมอกควันหนาแน่นทั่วเมืองหาดใหญ่ ทำให้ไฟส่องทางบนถนนทำงานตลอดทั้งวัน เนื่องจากแสงอาทิตย์ไม่สามารถส่องผ่านลงมา และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้ ปริมาณหมอกควันที่หนาแน่นขึ้น ยังส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางอากาศ โดยที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เที่ยวบินเส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ของนกแอร์ที่จะลงในเวลา 07.40 น. และไทยสมายล์ที่จะลงในเวลา 07.50 น. ต้องล่าช้าออกไปประมาณ 10 นาที

    พื้นที่ จ.สตูล ค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐาน ทัศนวิสัยในการมองลดลงอย่างมาก ทั้งทางบกและในทะเล ซึ่งในส่วนของประชาชนเองก็มีการดูแลสุขภาพ และตื่นตัวในการป้องกันตนเองมากขึ้น จำนวนประชาชนที่ไปออกกำลังกาย บริเวณสนามกีฬารัชกิจประการ ลดลงบางตาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งช่วงเช้าและเย็น เพื่อเลี่ยงพื้นที่กลางแจ้งที่มีหมอกควันปกคลุมหนาแน่น ขณะที่ตามท้องถนนสภาพมืดครึ้ม แม้แต่ไฟส่องสว่างบริเวณเกาะกลางถนนก็ไม่ยอมดับ เนื่องจากสภาพมืดครึ้ม ส่วนทัศนวิสัยทางทะเล เรือที่สัญจรไป-มา โดยเฉพาะเรือเล็ก ในตอนกลางวันต้องวิ่งอย่างระมัดระวัง เนื่องจากทัศนวิสัยมองได้ไม่เกิน 200 เมตร ส่วนในตอนกลางคืน เรือประมงขนาดเล็กจำนวนมากไม่สามารถออกหาปลาได้

    สำหรับผู้ขับขี่ยานยนต์และชาวเรือ ควรเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี ให้ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ ปิดจมูกและปาก กรณีที่อยู่ในบริเวณที่มีหมอกควัน ปิดหน้าต่างประตูเพื่อป้องกันฝุ่นควันเข้าที่พัก ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคปอด เด็ก และคนชราควรพักผ่านในบ้าน หากมีอะไรผิดปกติควรรีบพบแพทย์ ควรดื่มน้ำบ่อยๆ ช่วงมีฝุ่นละออง งดเว้นการสูบบุหรี่ งดการรองรับน้ำฝนเพื่อการอุปโภคและบริโภคชั่วคราว หากจะรองรับน้ำฝน ให้ฝนตกลงมาอย่างน้อย 1 ชม. ทั้งนี้ ติดตามข้อมูลทางราชการอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงกิจกรรมพื้นที่ที่มีหมอกควัน

    พื้นที่ จ.ยะลา ปริมาณหมอกควันมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกาย ควรสวมหน้ากากอนามัยปิดจมูกขณะออกไปนอกบ้าน พร้อมให้เฝ้าระวังสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะเด็ก คนชรา และผู้ป่วยโรคภูแพ้ ทั้งนี้ น.พ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า คุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดยะลาเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย การอยู่ในที่แจ้งและภายนอกอาคาร โดยให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกขณะต้องออกไปนอกบ้าน ส่วนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีหมอกควันกระจายเต็มท้องฟ้ามากขึ้น มองเห็นหมอกควันได้อย่างชัดเจน ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเพิ่มความระมัดระวังเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

    ทั้งนี้ อยากขอความร่วมมือจากประชาชนห้ามเพิ่มปริมาณหมอกควันในอากาศ เช่น ห้ามเผาขยะ เศษใบไม้ กิ่งไม้ จุดธูปเทียน หรือสูบบุหรี่ ส่วนเกษตรกรก็ต้องไม่กำจัดเศษวัสดุการเกษตร โดยการเผาควรเปลี่ยนเป็นการกำจัดโดยทำเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลหรือผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์

    ด้าน น.พ.บุญแสง บุญอำนวยกิจ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 12 จ.ยะลา กล่าวว่า ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทุกคนต้องสังเกตและเฝ้าระวังตนเอง โดยไม่รองรับน้ำฝนไว้อุปโภคบริโภค เพราะฝุ่นละอองที่ลอยอยู่มากในอากาศอาจตกลงไปปนเปื้อนในอาหาร ควรล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ ที่อยู่ในมือผ่านเข้าสู่ร่างกายจากการหยิบจับอาหารรับประทาน

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ต.ค. 2558

    สดร.ชวนคนไทย 25-27 ต.ค. ชมปรากฏการณ์ ดาวเคราะห์ชุมนุมบนท้องฟ้า

    [​IMG]

    สดร. ชวนคนไทย ชมปรากฏการณ์ 3 ดาวเคราะห์ พฤหัสบดี-พุธ-ศุกร์ ชุมนุมยามเช้ามืด เริ่มวันที่ 25-27 ต.ค.นี้ ทิ้งทวนส่งท้ายเดือนตุลาคม

    วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. เปิดเผยว่า ก่อนสิ้นสุดเดือนตุลาคมนี้ ยังคงมีปรากฏการณ์ดาวเคราะห์ชุมนุมมาให้ได้ชมกันอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2558 ดาวศุกร์ จะอยู่เคียงชิดดาวพฤหัสบดี มีระยะห่างปรากฏเชิงมุมบนท้องฟ้า เพียง 1.35-1.0 และ 1.26 องศา ตามลำดับ สังเกตเห็นได้ทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลาประมาณ 04.30 น. จนถึงรุ่งเช้า

    ที่น่าสนใจ คือ ในวันที่ 26 ตุลาคม จะเป็นช่วงที่ดาวศุกร์เคลื่อนที่มาอยู่ชิดกับดาวพฤหัสบดีมากที่สุด ห่างเพียง 1.0 องศา เท่านั้น

    “ปรากฏการณ์ดาวเคราะห์ชุมนุม” หมายถึง ดาวเคราะห์ตั้งแต่ 2 ดวงขึ้นไป ปรากฏใกล้กันบนท้องฟ้าที่ระยะห่างเชิงมุม 1-5 องศา (1 นิ้วก้อยของเราเมื่อเหยียดสุดแขนจะมีระยะเชิงมุมประมาณ 1 องศา) ดังนั้น หากมองด้วยตาจะเห็นดาวทั้งสองห่างเพียงปลายนิ้วก้อย หากผู้สังเกตใช้กล้องโทรทรรศน์กำลังขยายไม่เกิน 30 เท่า จะเห็นดาวศุกร์อยู่ใกล้กับดาวพฤหัสบดีในช่องมองภาพเดียวกันได้

    อย่างไรก็ตาม นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงดังกล่าวจะมีดาวอังคารปรากฏอยู่ใกล้เคียงกันด้วย ห่างจากดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดี ประมาณ 3 องศา นับเป็นปรากฏการณ์ดาวเคราะห์ชุมนุมที่สวยงามน่าชมมากอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ดาวพุธยังปรากฏอยู่ถัดลงมาอีกด้วย หากท้องฟ้าปลอดโปร่งไม่มีเมฆฝน ชาวไทยจะมีโอกาสได้เห็นความสวยงามของปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ยามเช้านี้ได้ทั่วประเทศ

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ต.ค. 2558

    ผอ.2 เขื่อนยักษ์ย้ำน้ำเหลือน้อย!

    [​IMG]

    ผอ.2 เขื่อนยักษ์ย้ำน้ำเหลือน้อย!

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ต.ค. นายวีระศักดิ์ ศรีกาวี ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พร้อมนายประเสริฐ ธำรงวิศว ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน เจ้าหน้าที่ทรัพยากรน้ำภาค 7 พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขื่อนศรีนครินทร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงเขื่อนวชิราลงกรณ และ พ.อ.เรืองศักดิ์ อรรคทิมากูล รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 พ.อ.สมจิตร คำประพันธ์ หัวหน้าสำนักงานผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (หน.สง.ผบ.พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ ร่วมประชุมเพื่อหารือเรื่องแนวทางการประชาสัมพันธ์การบริหารการจัดการน้ำในลุ่มน้ำแม่กลองให้มีประสิทธิภาพ ที่ห้องประชุม 2 อาคารสำนักงานเขื่อนศรีนครินทร์ หมู่ 4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยมีนายพิศิษฐ์ ยินดีวี เครือข่ายประชาชนภาคประชาสังคม จ.กาญจนบุรี พร้อมทีมงานเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นสำหรับการประชุมในครั้งนี้

    การประชุมเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานได้กล่าวถึงปัญหาสถานการณ์น้ำที่มีอยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ผลสรุป พบว่าปริมาณน้ำที่เหลือใช้ในลุ่มน้ำแม่กลอง เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2558 ที่เขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบันมีน้ำใช้งานได้ จำนวน 2,613 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 34.94% ส่วนที่เขื่อนวชิราลงกรณ ปัจจุบันมีน้ำใช้งานได้ จำนวน 2,577 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 44.06% ซึ่งปริมาณน้ำจากทั้ง 2 เขื่อนที่ระบายลงสู่แม่น้ำแม่กลอง จำนวน 5,190 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ เมื่อสิ้นสุดฤดูฝน วันที่ 31 ต.ค.2558 กรณีน้ำน้อยที่สุด อยู่ที่จำนวน 4,433 ล้านลูกบาศก์เมตร กรณีน้ำน้อย อยู่ที่จำนวน 5,333 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อนำมาเฉลี่ยกันจะมีปริมาณน้ำต้นทุนที่จะนำไปใช้ในช่วงฤดูแล้งปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 5,752 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าน้อยมาก

    ดังนั้น ต้องประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องภาคเกษตรกรให้หยุดทำนาปรัง และหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยทดแทน และจะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการน้ำต้นทุนที่มีอยู่จะต้องรับฟังข้อมูลข่าวสารจากกรมชลประทานเป็นหลัก นายวีระศักดิ์ ศรีกาวี ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์กล่าวท้ายสุด.

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 21 ต.ค. 2558

    เหนือ อีสาน และกลางมีหมอกในตอนเช้า ใต้ยังมีฝนกระจาย กทม.มีฝน 20%

    [​IMG]

    ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนบนของภาค และมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ภาคใต้ ทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีฝนกระจาย และหนักบางแห่ง กทม.และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20% ของพื้นที่...

    จากการตรวจสอบสภาพอากาศโดยระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐ เดอะเวตเตอร์ คอมพานี ประจำวันที่ 21 ต.ค.2558 เช้านี้พบว่า มีหมอกหนาตาในบางพื้นที่ ดังนั้นใครออกจากบ้านเช้าๆขับขี่ผ่านสายหมอกต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยการที่มีหมอกต่อเนื่องแบบนี้ก็เกิดจากปัจจัยของบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อน จากประเทศจีน ยังคงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง

    ขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ซึ่งเป็นผลมาการเหนี่ยวนำของพายุจากพายุโซนร้อน "คปปุ" ตอนนี้มีศูนย์กลางอยู่ในทะเลทางเหนือของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากประเทศไทย จ.อุบลราชธานี 1,865 กม. มีความเร็วลมศูนย์กลาง 65 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 4 กม./ชม. และจะสลายตัวเป็นดีเปรสชั่นในบ่ายวันนี้ (วันที่ 21 ตุลาคม 2558) แต่ยังคงเคลื่อนตัวต่อไปทางเหนือถึงทะเลด้านตะวันออกของไต้หวัน ในเช้าวันที่ 23 ต.ค. 2558

    และจากการเหนี่ยวนำกระแสลมของพายุคปปุนี้ จึงทำให้หลายพื้นที่ ได้แก่ บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และอาจจะมีฝนตกหนักได้ในฝั่งอันดามัน ซึ่งบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นก็จะสูงขึ้นด้วย ดังนั้นใครที่จะออกเดินเรื่องต้องเพิ่มความระมัดระวังในระยะนี้ไว้ด้วย

    นอกจากนี้สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ จากการตรวจสอบทิศทางและกระแสลม ก็พบว่าอิทธิพลจากกระแสลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่เป็นตัวการสำคัญในการพัดพากลุ่มหมอกควันจากประเทศอินโดนีเซีย เข้าสู่ประเทศไทยยังคงมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง โดยจะจะแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำเป็นต้นไป ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่มีโอกาสพบกลุ่มหมอกควันเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือก็มีกำลังแรงขึ้นเช่นกัน จึงทำให้เกิดแนวปะทะของ 2 กระแสลมบริเวณฝั่งอันดามัน และทำให้มีโอกาสเกิดฝนได้ในช่วงเวลาดังกล่าว

    โดยหากพิจารณาโอกาสเกิดฝนตามช่วงเวลาในพื้นที่ภาคใต้ก็พบว่าช่วงบ่ายวันนี้มีโอกาสเกิดฝนบริเวณตอนกลางจนถึงตอนล่างของภาค โดยเน้นตกในฝั่งอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ตรัง สตูล หลังจากนั้นช่วงเย็นกลุ่มฝนจะไปตกบริเวณพังงา กระบี่ ตรัง และสุราษฎร์ธานี ก่อนที่ช่วงค่ำจะพบกลุ่มฝนในบริเวณสตูล สงขลา และยะลา

    ในขณที่การคาดการณ์สถานการณ์ฝนสะสมก็พบว่า พื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นบริเวณที่มีปริมาณฝนสะสมเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนกลาง ในขณะที่ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ก็มีการสะสมของฝนบ้างในบางพื้นที่

    ส่วนอุณหภูมิในวันนี้นั้น จากมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนที่แผ่ลงมาปกคลุม ทำให้ช่วงเช้าพื้นที่บริเวณขอบของภาคเหนือ ตามยอดดอยยอดภู และภาคอีสาน ยังคงมีอากาศเย็น หลังจากนั้นในช่วงสายจะเริ่มอุ่นขึ้น ในขณะที่พื้นที่ที่ภาคกลางตอนล่างจะเป็นบริเวณที่ร้อนที่สุดในช่วงเที่ยง อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 36-37 องศาเซลเซียส

    ส่วนคาดการณ์ลักษณะอากาศในแต่ละภาควันนี้ดังนี้

    ภาคเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า ตอนบนของภาคมีอากาศเย็น ส่วนทางตอนล่างมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส

    ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ วันนี้มีโอกาสเกิดฝน 26 เปอร์เซนต์ ในร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ต.ค. 2558

    ที่มา https://www.thairath.co.th
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ชาวฟิลิปปินส์ยังเดือดร้อนจากคปปุ ขณะยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 54 คน

    [​IMG]

    มะนิลา 22 ต.ค.- น้ำท่วมในฟิลิปปินส์ที่เกิดจากฝนตกหนักเพราะไต้ฝุ่นคปปุกระหน่ำเมื่อต้นสัปดาห์เริ่มไหลลงใต้ไปยังหมู่บ้านริมชายฝั่ง ทำให้ประชาชนต้องอพยพอีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นเพิ่มเป็น 54 คน แล้วจนถึงวันนี้

    ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนท้องถิ่นเผยว่า กระแสน้ำจากฝนที่ตกต่อเนื่อง 2-3 วัน ในพื้นที่เทือกเขาไหลลงมายังหมู่บ้านประมงและการเกษตรทำให้น้ำท่วมสูงถึง 3 เมตร ชาวบ้านเกือบ 60,000 คน ในพื้นที่รับน้ำต้องเร่งเดินเท้าอพยพไปยังศูนย์พักพิงเนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงกลางดึก คาดว่าน้ำจะท่วมอยู่นาน 1 สัปดาห์

    ไต้ฝุ่นคปปุขึ้นฝั่งตะวันออกของเกาะลูซอนเมื่อเช้าวันอาทิตย์ด้วยความเร็ว 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นพายุแรงอันดับสองของปีนี้ เคลื่อนตัวเหนือเกาะลูซอนอยู่ 3 วัน ทำให้ฝนตกหนักเป็นเหตุให้น้ำท่วมและและดินถล่มเป็นวงกว้าง สำนักงานติดตามภัยพิบัติแห่งชาติประเมินว่า มีชาวบ้านไร้ที่อยู่อาศัยร่วม 500,000 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 47 คนเมื่อวันพุธเป็น 54 คนในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

    ปฏิบัติการในซีเรียหนุนคะแนนนิยมผู้นำรัสเซียพุ่งเป็นประวัติการณ์

    [​IMG]

    มอสโก 22 ต.ค. – ศูนย์วิจัยของทางการรัสเซียสุ่มสำรวจพบว่า คะแนนนิยมประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียทะยานขึ้นถึงเกือบร้อยละ 90 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผลมาจากการตัดสินใจในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย

    ผลสุ่มสำรวจในรัสเซียพบว่า ประธานาธิบดีปูตินได้รับความนิยมถึงร้อยละ 89.9 ในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นจากระดับสูงร้อยละ 89.1 เมื่อเดือนมิถุนายน หลังจากเดือนมกราคมปี 2555 มีคะแนนนิยมที่ร้อยละ 58.8 รายงานระบุว่า ความนิยมในประธานาธิบดีรัสเซียที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียยังที่มั่นกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย ก่อนหน้าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวมีผลสำรวจพบว่า ชาวรัสเซียกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะต้องพัวพันกับเหตุขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่จากการสุ่มสำรวจเมื่อต้นเดือนนี้พบว่า ร้อยละ 72 มีทัศนะในเชิงบวกต่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรีย .-สำนักข่าวไทย

    อาเจะห์จะลงโทษโบยคู่รักเพศเดียวกันหากจับได้ว่ามีเพศสัมพันธ์

    [​IMG]

    บันดาอาเจะห์ 22 ต.ค. – เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พวกรักร่วมเพศที่ถูกจับได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กันในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย จะต้องถูกลงโทษโบย 100 ครั้ง นับตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นกฎหมายที่โหดร้ายทารุณ

    เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายอิสลามท้องถิ่นกล่าวว่า ตามหลักกฎหมายอิสลามแล้ว ทั้งชายและหญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันถือว่าผิดกฎหมาย โดยมีผลบังคับใช้กับชาวมุสลิมและชาวต่างชาติทุกคนในจังหวัดอาเจะห์ ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการลงมติอนุมัติเมื่อปี 2557 ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากกลุ่มสิทธิ ขณะเจ้าหน้าที่ใช้เวลาช่วงปีที่ผ่านมาเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับกฎหมายฉบับใหม่ก่อนมีผลบังคับใช้ นายไซอาไรซัล อับบาส เจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า กฎหมายใหม่มีขึ้นเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และปกป้องชาวมุสลิมในจังหวัดอาเจะห์จากความประพฤติผิดศีลธรรม โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้จังหวัดอาเจะห์เป็นพื้นที่เดียวในอินโดนีเซียที่บังคับใช้กฎหมายอิสลามอย่างเข้มงวด .-สำนักข่าวไทย

    พายุโซนร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกทวีกำลังขึ้นเป็นเฮอริเคนแล้ว

    [​IMG]

    วอชิงตัน 22 ต.ค.- ศูนย์เฮอริเคนสหรัฐแจ้งว่า พายุโซนร้อนแพทริเซียนอกชายฝั่งเม็กซิโกด้านมหาสมุทรแปซิฟิกทวีกำลังขึ้นเป็นเฮอริเคนแล้วในวันนี้ คาดว่าจะเข้าใกล้ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกในวันพรุ่งนี้

    พายุแพทริเซียมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ห่างจากฝั่งเมืองอากาปุลโก เมืองตากอากาศยอดนิยมของเม็กซิโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 365 กิโลเมตร เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 26 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ศูนย์เฮอริเคนสหรัฐพยากรณ์ว่า พายุจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกในวันศุกร์และจะทวีกำลังขึ้นเป็นเฮอริเคนกำลังแรงในวันนั้น คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกสะสม 6-12 นิ้ว ในรัฐฮาลิสโก โกลีมา มิโชอากัง และเกร์เรโรตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนถึงวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น บางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึง 20 นิ้ว.-สำนักข่าวไทย

    ยูเอ็นเผยพบผู้ป่วยอหิวาต์กว่า 1,600 คน ในอิรักเมื่อเดือนที่แล้ว

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 22 ต.ค. – สหประชาชาติแถลงว่า พบผู้ป่วยโรคอหิวาต์กว่า 1,600 คน ในอิรักเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเลวร้ายลงมากขึ้น โดยมีประชาชนกว่า 8.6 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือ

    สำนักงานประสานงานกิจการมนุษยธรรมยูเอ็นแถลงว่า ภารกิจเร่งด่วนคือการจัดหาน้ำสะอาด และยังขาดแคลนคลอรีนเพื่อทำให้น้ำสะอาดในอิรัก องค์การอนามัยโลกรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายน พบว่ามีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 54 คน กระทรวงสาธารณสุขอิรักแถลงว่า มีกว่า 1,600 คน เมื่อ 15 ตุลาคม และเกือบร้อยละ 40 พบที่เมืองบาบิลอน สหประชาชาติแถลงว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเลวร้ายลงมากขึ้นจากความขัดแย้งในอิรัก ทำให้ขาดแคลนสิ่งของและยังไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้ .-สำนักข่าวไทย

    สหรัฐเผย 9 เดือนแรกของปีนี้ ทั่วโลกเผชิญอากาศร้อนเป็นประวัติการณ์

    [​IMG]

    ไมอามี 22 ต.ค. – คณะนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 นับว่าทั่วโลกมีอาการร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา ซึ่งเป็นสัญญาณของผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนที่อันตราย

    สำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐมีรายงานประจำเดือนกันยายนว่า จากบันทึกอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วพื้นดินและทางทะเลทั่วโลกล่าสุดพบว่า ปีนี้ทั่วโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากเป็นประวัติการณ์กว่าปี 2557 โดยเมื่อเดือนที่แล้วถือเป็นเดือนกันยายนที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดในช่วงปี 2423-2558 แซงหน้าสถิติเมื่อปีที่แล้ว ส่วนใหญ่มีรายงานแถบตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกา ตะวันออกกลาง พื้นที่บางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ นอกจากนี้ในพื้นที่หนาวเย็นยังพบว่าอุณหภูมิสูงขึ้นในอเมริกาใต้ ภาคตะวันตกสุดของแคนาดา อแลสกา และเอเชียกลาง ทั้งในแคนาดา สหรัฐ และนอร์เวย์ ขณะที่พบว่าสเปนและอังกฤษมีอากาศเย็นลงเมื่อเดือนกันยายน .-สำนักข่าวไทย

    ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฝนถล่มกรุงเที่ยงวัน ทิ้งทวนออกเจ ท่วมขังหลายจุด สูงกว่า 20 ซม.

    [​IMG]

    ฝนตกหนักเมืองกรุงช่วงเที่ยงวัน สำนักการระบายน้ำ รายงานจุดท่วมขังหลายเขต ระดับตั้งแต่ 10-20 ซม. ด้าน โฆษก สตช. สั่ง ตร. ลงช่วยเหลือเขตปทุมวัน-พระนคร แล้ว

    เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 58 พื้นที่โดยทั่วไปของกรุงเทพมหานคร มีฝนตกหนักหลายพื้นที่รวมถึงมีน้ำท่วมขังหลายจุด สำนักการระบายน้ำ รายงานดังนี้ เขตราชเทวี ถนนศรีอยุธยา หน้าวังสวนผักกาด น้ำท่วมผิวจราจร 2 เลน สูง 15-20 ซม. เขตดินแดง ถนนประชาสุข แยกประชาสุข น้ำท่วมผิวจราจรสูง 15-20 ซม. เขตพระนคร รอบสนามหลวง น้ำท่วมขังสูง 15-20 ซม. เต็มผิวจราจร ถนนสนามไชย หน้าวัดโพธิ์ ระดับน้ำ 15-20 ซม. เขตบางกอกน้อย ถนนอิสรภาพ บริเวณตลาดพรานนก น้ำท่วมขัง 10-15 ซม. เต็มผิวถนน

    ด้านเขตบางกะปิ ถนนรามคำแหง ช่วงซอย 1-3 โค้งไฟฟ้า น้ำท่วมสูง 10-15 ซม. เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน ตัดถนนราชปรารภ น้ำท่วมเต็มผิวถนน 10-15 ซม. เขตราชเทวี ถนนศรีอยุธยา หน้ากรมทางหลวง น้ำท่วมขัง 10-15 ซม. เขตพระนคร ถนนมหาราช เขตสวนหลวง ถนนพัฒนาการ หน้าตึกทรู น้ำท่วมขัง 20 ซม. และเขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์ ซอยนวมินทร์ 68-เกษตรนวมินทร์ น้ำท่วมขัง 10-15 ซม.

    ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินมาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมเขตปทุมวัน และเขตพระนคร ในเวลานี้แล้ว

    ส่วนที่ จ.สมุทรปราการ พบฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ นานกว่า 2 ชม. ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาจำนวนมาก ทำให้ระบายไม่ทัน ส่งผลให้มีปัญหาน้ำท่วมขัง ถนนหลักหลายสาย โดยเฉพาะช่วง ถนนสุขุมวิท เขตพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งผิวถนนสูงกว่า 20 ซม. นอกจากนี้ ยังทำให้มีปัญหาจราจรติดขัด เนื่องจากรถเล็กสัญจรได้ลำบาก

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ต.ค. 2558

    หมอกควันในพัทลุง เลวร้ายสุดรอบ 12 ปี! ยะลากระทบท่องเที่ยว

    [​IMG]

    ปัญหาหมอกควันยังวิกฤติ! จ.พัทลุง เลวร้ายในรอบ 12 ปี คุณภาพอากาศน่าห่วง ขณะที่ อ.เบตง จ.ยะลา นทท.บางส่วนยกเลิกการเดินทาง กระทบท่องเที่ยว-สูญรายได้ ประมาณ 20 ล้าน เตือน ปชช.ระวังสุขภาพ หลีกเลี่ยงออกกำลังกายกลางแจ้ง ...

    วันที่ 22 ต.ค. 58 นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.พัทลุง เผยว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.พัทลุง มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะนี้ จังหวัดพัทลุงยังไม่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ จึงจำเป็นต้องขอข้อมูลคุณภาพอากาศของจังหวัดข้างเคียง คือ จังหวัดสตูล และ จังหวัดสงขลา เพื่อประเมินคุณภาพอากาศ ซึ่งพบว่า ปริมาณฝุ่นละออง มีค่าระหว่าง 190-210 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับปานกลาง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั่วไป และมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งได้ประสานงานให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนประชาชนให้ป้องกันภัยจากหมอกควันในครั้งนี้ รวมทั้งแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน

    ด้าน เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุงรายหนึ่ง เผยว่า ขณะนี้จังหวัดพัทลุงได้รับแผ่นกรองใยหินเพียง 2 แผ่นเท่านั้น จึงไม่สามารถตรวจวัดคุณภาพอากาศได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ยื่นการสนับสนุนแผ่นกรองใยหินไปยัง กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพฯ แล้ว สำหรับปีนี้ การเกิดหมอกควันมีระยะเวลายาวนาน และมีความรุนแรงในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ส่วนการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดพัทลุงนั้น ได้ยื่นของบประมาณไปแล้ว คาดว่า น่าจะได้รับการติดตั้งในปีงบประมาณ 2560

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันของ จังหวัดพัทลุง มีแนวโน้มหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ตามโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน ขณะที่ จังหวัดยะลา สถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง ผู้ขับรถต้องเปิดไฟตัดหมอกช่วย และใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เพราะทั้งเมืองขาวโพลนเต็มไปด้วยหมอกควัน โดยเฉพาะเส้นทาง 410 ยะลา-เบตง ตั้งแต่บ้านคอกช้าง ต.แม่หวาด อ.ธารโต จนถึง อ.เบตง

    ร.ต.ต.อุดม ลักษณะ นายกสมาคมการท่องเที่ยวอำเภอเบตง กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากอินโดนีเซีย กลุ่มนักท่องเที่ยวได้มีการขอเลื่อนเข้าพักโรงแรมคิดเป็นสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นต์ และบางส่วนขอยกเลิกการเดินทาง เมื่อประเมินเบื้องต้นแล้ว รายได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองเบตงในเดือนที่ผ่านมาลดลงไป ประมาณ 20 ล้านบาท

    ด้าน นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง เผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ได้ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน พร้อมทั้งแจกหน้ากากอนามัย และแนะนำวิธีป้องกันตนเองในภาวะหมอกควัน โดยให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูก ขณะต้องออกไปนอกบ้านให้เฝ้าระวังสุขภาพของตนเอง และผู้ใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็ก คนชรา และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้ติดตามข่าวสาร และปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาครัฐ หากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งขณะนี้ ปัญหาหมอกควันอยู่ในระดับมีผลต่อสุขภาพแล้ว

    ส่วน นางกัลยา โตะแวอายี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากข้อมูลดาวเทียม NOAA-18 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2558 มีจุดที่เกิดไฟไหม้ บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 35 จุด ลดลงจากวันที่ 20 ตุลาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 36 จุด สำหรับคุณภาพอากาศในวันที่ 22 ตุลาคม 2558 ของพื้นที่ภาคใต้ พบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่าระหว่าง 121-356 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ส่วนจังหวัดยะลาคุณภาพอากาศวัดได้ 164 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ต.ค. 2558

    อลังการ! แมงกะพรุนถ้วยนับแสน ลอยแน่นทะเลตราด

    [​IMG]

    แมงกะพรุนถ้วยหลากสีนับแสนลอยแน่นเหนือผิวทะเลตราด หลายหาดบ้านแหลมกลัด อวดโฉมนักท่องเที่ยวชม ห่างจากฝั่งเพียง 20 เมตร ขณะรองนายก อบต. แนะ ไม่ควรจับ หวั่นเกิดอาการแพ้ได้ พร้อมชวนดูโลมาและหิ่งห้อย

    เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหาดพลอยแดง ม.9 บ้านแหลมกลัด ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด มีแมงกะพรุนถ้วยหลากสีจำนวนมาก พากันลอยน้ำอวดโฉมอยู่ในทะเล ห่างจากชายหาดประมาณ 20-30 เมตร ซึ่งแมงกะพรุนถ้วยเหล่านี้จะอยู่กันเป็นกลุ่มๆ โดยปีนี้ออกมาให้เห็นค่อนข้างช้ากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศใน จ.ตราด ที่มีฝนตกติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่ฝนเริ่มหยุดตก แมงกะพรุนถ้วยก็จะเริ่มเข้ามาใกล้ฝั่ง และลอยติดผิวน้ำทำให้เห็นได้ชัด ประกอบกับน้ำทะเลเริ่มใสขึ้น อีกทั้งขณะนี้ชาวบ้านต่างก็เตรียมพร้อมที่จะนำเรือประมงออกมารับบริการให้นักท่องเที่ยวออกไปชมแมงกะพรุนแล้ว

    นายสมนึก หงษ์วิเศษ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมกลัด กล่าวว่า ปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะสามารถนั่งเรือชมแมงกะพรุนได้ตั้งแต่เดือน ต.ค. ถึงต้นเดือน ธ.ค. แต่ก็ต้องประกอบอยู่กับสภาพอากาศด้วย โดยขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะแมงกะพรุนเข้าใกล้ชายฝั่งมากที่สุด โดยเฉพาะที่ ม.5, ม.6, ม.9, ของตำบลแหลมกลัด จนไปถึงย่านหาดราชการุณย์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาชม แนะนำว่าไม่ควรจับหรือถูกตัวแมงกะพรุน เพราะหากไม่มีความรู้อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้

    นอกจากนี้ใน ต.แหลมกลัด นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเรือชมโลมา ในทะเลได้อีกด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่สามารถเห็นได้ และยามค่ำคืนยังมีสถานที่ชมหิ่งห้อยอีกด้วย.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ต.ค. 2558

    ไฟไหม้ร้านแก๊สกลางเมืองศรีราชา เร่งสกัด หวั่นบึมลุกลาม

    [​IMG]

    เกิดเหตุเพลิงไหม้ ร้านจำหน่ายแก๊สกลางเมืองศรีราชา จนท.เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ หวั่นลุกลาม หลังเพลิงสงบพบจุดต้นเพลิง เป็นกองกระดาษในร้าน คาดไฟฟ้าลัดวงจร เร่งสอบ ...

    เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ต.ค. 58 ร.ต.ท.ยุทธนา กองตา พงส. สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ภายในร้านตันตยาภัณฑ์แก๊ส ตั้งอยู่เลขที่ 8/68 ถ.สุรศักดิ์ 1 เขตเทศบาลเมืองศรีราชา ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองศรีราชา เพื่อสนับสนุนรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ

    ที่เกิดเหตุบริเวณร้านแก๊สดังกล่าว เป็นอาคารขนาด 3 ชั้น 6 คูหา ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองศรีราชา พบเพลิงกำลังลุกไหม้ในคูหาห้องที่ 2 ซึ่งเป็นที่วางอุปกรณ์แก๊สจำนวนมาก และเพลิงกำลังลุกไหม้กองกระดาษที่วางอยู่ใกล้กันจนลุกลามมาติดอุปกรณ์แก๊ส และใกล้ๆ กันยังมีถังแก๊สขนาดต่างๆ จำนวนนับ 100 ถัง วางเรียงรายอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งระดมฉีดน้ำเข้าสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ หวั่นหากลุกลามไปติดถังแก๊สก็อาจจะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

    สอบถาม นายสุกิจ อาจยายนต์ เจ้าของร้าน ได้ให้การด้วยอาการตกใจว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่ร้าน ไปส่งแก๊สให้กับลูกค้าเพียงไม่นาน กลับมาก็มาพบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านแล้ว และมีกลุ่มควันจำนวนมาก จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ ซึ่งในเบื้องต้นไม่ทราบว่ามูลค่าความเสียหายที่แน่ชัดเท่าไร เนื่องจากต้องตรวจสอบก่อนว่าสินค้า เตาแก๊ส อุปกรณ์แก๊สต่างๆ และทรัพย์สินภายในร้านมีอะไรเสียหายบ้าง

    นายปิยะพงษ์ ประเสริฐรัตน์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด ฝั่งตรงข้าม เล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งอยู่ภายในร้าน จู่ๆ ก็เห็นว่าคนงานภายในร้านแก๊ส หยิบกล่องกระดาษที่ไฟกำลังลุกไหม้ออกมาวางที่บริเวณหน้าร้านเพื่อดับโดยใช้ถังดับเพลิง แต่ร้านเกิดเหตุนั้น มีกล่องกระดาษที่มีจำนวนมาก จึงทำให้เพลิงลุกลามไปยังจุดอื่นๆ อย่างรวดเร็ว จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

    ด้าน ร.ต.ท.ยุทธนา กองตา ร้อยเวร สภ.ศรีราชา กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรแล้วสะเก็ดไฟอาจจะกระเด็นตกลงมาที่จุดวางกล่องกระดาษจึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้กันพื้นที่ในส่วนที่เกิดเหตุไว้ก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมกับจะเรียกสอบลูกจ้างที่อยู่ภายในร้าน เพื่อหาสาเหตุของต้นเพลิงที่แน่ชัดต่อไป.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ต.ค. 2558

    ม.นเรศวรผลิตไฟฟ้าใช้เองเป็นแห่งแรก

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ดร.สุขฤดี สุขใจ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก (มน.) เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการสถานีผลิตไฟฟ้าในหน่วยงานราชการ ซึ่งวิทยาลัยฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณประจำปี 2557 จากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยผ่านกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)

    เป็นผลให้การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กับระบบการเก็บและจ่ายกระแสไฟฟ้าด้วยกำลังไฟ 400 kW สำเร็จลุล่วงเรียบร้อย โดยเปิดใช้งานระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ โดยจ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าสู่ระบบ “สมาร์ทกริด” ซึ่งนอกจากจะป้อนให้วิทยาลัยพลังงานทดแทน ใช้ทั่วบริเวณแล้วยังเหลือพลังงานสำหรับป้อนเข้าสู่ระบบจ่ายไฟฟ้าในมหาวิทยาลัยนเรศวรบางส่วนอีกด้วย

    ดร.สุขฤดี สุขใจ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ริเริ่มดำเนินการระบบ “ไมโครกริด” เป็นแห่งแรกของเอเชียเมื่อประมาณ 2-3 ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นรูปแบบของระบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งทำงานภายใต้ระบบควบคุม ระบบนี้จะเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้ากำลังหลักคือเชื่อมกับระบบของการไฟฟ้าฯ ก็ได้ โดยสามารถแยกระบบให้ทำงานต่อเนื่องอย่างเป็นอิสระภายในโครงข่ายไฟฟ้าของตนก็ได้จนกว่าระบบไฟฟ้ากำลังหลักคืนกลับสู่สภาพปกติก็จะกลับมาเชื่อมต่อดังปกติ การดำเนินงานดังกล่าวใน เบื้องต้นได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 120 kW แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของวิทยาลัยจึงได้ค้นคว้าวิจัยเพิ่มเติมพร้อมกับจัดทำโครงการสถานีผลิตไฟฟ้าในหน่วยงานราชการเสนอต่อกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 400 kW

    การที่วิทยาลัยฯ ได้รับงบประมาณสนับสนุนดังกล่าวช่วยให้กำลังผลิตรวมในปัจจุบันเพิ่มขนาดขึ้นเป็น 520 kW พร้อมกับพัฒนาให้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์เชื่อมเป็นระบบเดียวกันในชื่อ “สมาร์ทกริด” โดยมีระบบบริหารจัดการแบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะมาควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าและควบคุมไม่ให้มีการใช้ไฟฟ้าอย่างสิ้นเปลือง โดยมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ในอาคารและห้องเรียนเพื่อหยุดการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้หลอดไฟ และเครื่องปรับอากาศหากไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่ในทางกลับกันระบบควบคุมฯจะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับหลอดไฟ และเครื่องปรับอากาศตามปกติหากมีคนอยู่ ซึ่งช่วยประหยัดกระแสไฟฟ้าได้มากขนาดที่ค่าใช้จ่ายจะลดลงได้ถึงร้อยละ 40 เลยทีเดียว

    “ทั้งนี้ ส่วนประกอบหลักสำหรับระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ในโครงการนี้มีด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกเป็นการติดตั้งบนพื้น กับแบบติดตั้งบนหลังคาโดยมีระบบสะสมพลังงานจากแบตเตอรี่ที่มีความจุ 100 kW ต่อชั่วโมง ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นระบบบริหารจัดการพลังงานแบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (BEM) ที่ให้ประโยชน์ยิ่งกว่าระบบผลิตไฟฟ้าในอดีตโดยที่วิทยาลัยพลังงานทดแทนได้พัฒนาระบบต่างๆให้สามารถสื่อสารเข้ากันได้ทั้งการผลิตไฟฟ้า และการควบคุมการใช้งานที่เราสามารถกำหนดการใช้ในแต่ละวันและแต่ละช่วงเวลาได้ ที่ผ่านมามีหน่วยงานราชการ และหน่วยงานเอกชนเดินทางมาศึกษาดูงานที่วิทยาลัยของเราเกือบทุกวัน ซึ่งต้องถือว่าบรรลุเป้าหมายและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานทุกประการ” ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลังงานทดแทน ม.นเรศวร กล่าว.

    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 22 ต.ค. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปี พ.ศ.2558 ”เศรษฐกิจร่อแร่”

    [​IMG]

    คำเตือนฉบับที่ 2. เตือนครั้งสุดท้าย (ไม่ใช่คำทำนาย) ผู้เขียนอนุญาตให้นำบทความนี้ ไปเผยแพร่ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตแต่อย่างไร

    เกริ่นก่อนอ่าน เพื่อความเข้าใจ บทความนี้มีบางตอนจะเหมือน หรือคล้ายกับคำเตือนครั้งแรก และในวงเล็บที่ว่า (พ.ศ.2558-2561) ประเทศไทยจะเจอเรื่องนั้น เจอเรื่องนี้นั้น ยกตัวอย่างเช่น ปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะเจอ “ภัยเศรษฐกิจ” ปีต่อไปประเทศไทยอาจจะเจอ “ภัยธรรมชาติ” และปีต่อไปอาจจะเจอเรื่อง “การสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ” ปีถัดไปอาจจะเกิด “การชิงอำนาจ” เกิดขึ้นในบ้านเมือง ขอเรียนว่าผู้เขียน...”ไม่สามารถที่จะระบุ และเรียบเรียงได้ว่าปีไหน จะเกิดอะไรขึ้นก่อนหรือหลัง”

    แต่ผู้เขียนมีความมั่นใจว่า สิ่งต่างๆที่ผู้เขียนเตือนไว้นี้...”มันต้องเกิด”...อย่างน้อยก็ถูก 80-90 เปอร์เซ็นต์ และบางปีอาจเกิดพร้อมกัน “สองเรื่อง” ในปีเดียวกันก็เป็นไปได้ ขอให้เข้าใจตามนี้ด้วยครับ......และขอกราบเรียนว่าผู้เขียนไม่มีเจตนา ที่จะทำให้ประชาชนแตกตื่นตกใจแต่ประการใด และเหตุการณ์ต่างๆในบทความนี้ อาจจะตรงกันข้ามกับ “คำทำนาย” ของบรรดาโหราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิหลายๆท่าน อีกทั้งผู้เขียนก็เขียนล่วงหน้าไปหลายปี (พ.ศ.2558-2561ยังมีแถมไปถึงปี พ.ศ.2567) ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดสูงเช่นกัน แต่ผู้เขียนมีความมั่นใจ และเป็นการท้าทายตัวเอง ถ้ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดผิดพลาด คลาดเคลื่อนไป ผู้เขียนขอน้อมรับความผิดที่อาจจะเกิดขึ้นทุกประการ โดยไม่มีข้อแม้แต่ประการใด ขอบคุณครับ

    นับจากนี้เป็นต้นไป (พ.ศ.2558-2561) ประเทศไทยยังไม่มีอะไรดีขึ้น ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องการเมือง ขอให้ทุกคนอดทนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในปีพ.ศ.2558...”เศรษฐกิจร่อแร่”...ถ้าพูดภาษาทางการแพทย์เรียกว่า...”อาการโคม่า”...หรืออาการน่าเป็นห่วง...”รัฐบาลทหาร”...โดยการนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี...และคณะรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ยังไม่สามารถกอบกู้เศรษฐกิจภายในประเทศ ให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ทั้งปัญหาปากท้องของประชาชน ปัญหาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ถีบตัวสูงขึ้น แต่รายได้ของประชาชนได้ไม่พอใช้จ่าย หนี้สินภาคครัวเรือนจะพุ่งสูงขึ้น

    เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด ไม่ควรซื้อสิ่งของที่ฟุ่มเฟือย ท่านใดที่ทำการค้าอยู่ ขอให้ประคับประคองธุรกิจของท่านไปพรางๆก่อน ไม่ควรเพิ่มทุนหรือไปกู้เงินเพิ่มแต่อย่างไร หากไม่มีเงินทุนสำรอง หรือการเงินไม่แข็งแกร่งจริงๆ น่าเป็นห่วงที่สุด...”คนดวงดี”...เท่านั้นจึงจะอยู่รอดได้ ไม่ใช่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี แล้วทุกคนที่ทำธุรกิจต้องเจ๊งหมดประเทศ...“ในดีก็มีเสีย ในเสียก็มีดี”...บางคนดวงดีก็จะไม่กระทบกับธุรกิจที่ทำอยู่ แถมยังอาจจะเพิ่ม / หรือขยายการลงทุนด้วยซ้ำ แม้เศรษฐกิจจะไม่ดีก็ตาม ภาษาทางหมอดูเรียกว่า...”รวยสวนกระแสวิกฤติ”...เพียงแต่มีคนจำพวกนี้เป็นส่วนน้อยเท่านั้น...

    ในฐานะที่ผู้เขียนเป็น...“หมอดูดวง”...ผู้คนมาแล้วมากมาย ในอดีตประเทศไทยเจอวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี พ.ศ.2539-2540 มีนักธุรกิจจำนวนมาก...”ล้มละลาย”...เจ๊งกันเป็นว่าเล่น แม้แต่ธนาคารก็ยัง “เจ๊ง” กันระนาว แต่มีคนส่วนหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบเลย แถมยังรวยขึ้นกว่าเก่า นี่คือเรื่องจริง... ..ท่านใดที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ขอให้ขยัน อดทน ประหยัด อย่าคิดลาออกจากงานมาลงทุนค้าขายเองในปี พ.ศ.2558 นี้ ถ้าดวงยังไม่ดีจริงๆ หรือคนไหนไม่มีดวงเป็นเจ้าของกิจการ อย่าฝืนดวงเป็นอันขาด ถ้าฝืนลงทุนทำไปรับรองมีแต่ “เจ๊ง” เท่านั้น...

    คนเก่งมีเยอะ แต่คนดวงเฮงมีน้อย ส่วนมาก “คนเฮง” จะได้ “คนเก่ง” มาทำงานให้นี่คือความจริง....ถ้าบริษัทที่ท่านทำอยู่มีฐานะการเงินที่มั่นคง ขอให้อดทนทำไป...แต่ถ้าบริษัทที่ท่านทำอยู่ หากฐานะการเงินไม่แข็งแกร่งจริงๆ อาจจะต้องล้มเลิกกิจการ หรือปลดคนงานออกบางส่วน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัท ในปีพ.ศ.2558 เศรษฐกิจในประเทศยังสลบไม่ฟื้นตื่นลำบาก กำลังซื้อจะหดตัวลงต่อเนื่องจากปีพ.ศ.2557 แม้แต่การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นตามเป้าที่ตั้งไว้ มีสินค้าบางประเภทเท่านั้นที่ยังทรงตัวอยู่ได้ พืชผลการเกษตรจะเสียหาย หรือราคาจะตกต่ำไม่คุ้มกับการลงทุนเพาะปลูก...

    “ภัยธรรมชาติ”...เช่น ภัยแล้ง จะสร้างความเสียหายต่อชาวไร่ชาวนาและเกษตรกรทั่วไป ...ดิน ฟ้า อากาศ จะวิปริตแปรปรวนไปทั่ว ไม่เป็นไปตามฤดูกาลเหมือนแต่ก่อน และจะเป็นไปทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น...ปี พ.ศ.2558 จะมีนักการเมือง...หรืออดีต...”นักการเมืองที่มีคดีติดตัว”...เจ็บป่วยหนัก อาจถึงกับ “เสียชีวิต” เพราะปี พ.ศ.2558 เป็น “ปีชง” กับคนที่เกิดปีฉลู ถ้าตัวเองไม่เจ็บป่วย ก็อาจจะเกิดกับคนใกล้ชิดเช่นบุตร ภรรยา ญาติพี่น้อง ทำให้เครียด / เสียเงินหรือเจ็บป่วยแทน และเจออุปสรรคต่างๆ แม้แต่คิดจะทำอะไรก็ไม่สมหวัง มีสิทธิถูกหลอกแดกเงินฟรีๆ

    ถ้าอดีตนักการเมืองที่มีคดีติดตัว ผ่านพ้นปี พ.ศ.2558 มาได้ ก็จะมาเจออายุให้โทษในปีพ.ศ.2560 (อายุ 68) ไม่ถือว่าดีเช่นกัน และดาวเคราะห์ใหญ่จะโหมกระหน่ำ “อดีตนักการเมืองที่มีคดีติดตัว” ในปีพ.ศ. 2562-2563 เพราะเป็นปี “ธาตุน้ำ” ติดต่อกันสองปี จะมาเล่นงาน “ธาตุไฟ” ของอดีตนักการเมืองที่มีคดีติดตัวอย่างรุนแรง ถึงตอนนั้นมีสิทธิ “ต๊ายแหน่ ต๊ายแหน่”...เอ้า แถมให้อีกนิด ยืดเวลาให้อีกหน่อย ถ้าหากว่าอดีตนักการเมืองที่มีคดีติดตัว อึด ทน แข็ง ใหญ่ จนสามารถฟันฝ่ามรสุมชีวิตพ้นปี พ.ศ.2563 มาได้อีกครั้ง ก็จะมาเจอด่านอรหันต์ในปี พ.ศ.2565-2567 คราวนี้คงตายแน่ๆ ไอ้หวังตายแน่ ตายแน่ไอ้หวัง...

    (ผู้เขียนคิดว่า คนที่อ่านเรื่อง อดีตนักการเมืองที่มีคดีติดตัว คงจะหงุดหงิดใจไม่น้อย บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคนชั่วๆจึงตายยาก ตายเย็นอย่างนี้ ขออธิบายว่านับจากนี้เป็นต้นไป “เขาคนนั้น” ดวงตกสุดๆยากที่จะทำการใดสำเร็จ มีแต่ความหายนะรออยู่ มีแต่ความตายรออยู่ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ให้อโหสิกรรมกันดีกว่า อย่าอาฆาตพยาบาทกันเลย อย่าจองเวรต่อกันและกันเลย...”การอโหสิกรรม เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่”...คนเราเกิดมาแล้ว ต้องตายกันทุกคน ช้าหรือเร็วเท่านั้น)...ในขณะเดียวกันปี พ.ศ.2558 ยังต้องเฝ้าระวังสุขภาพของ...”บุคคลสำคัญของประเทศ”...ให้ใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะดวงเมืองของประเทศไทยยังน่าเป็นห่วงสำหรับ...”บุคคลสำคัญของประเทศ”...เป็นอย่างยิ่ง

    ถ้ามีการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศเกิดขึ้น บ้านเมืองจะปั่นป่วนไปหมด ประชาชนจะลำบากมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ เหมือนหญ้าแพรก ถูกช้างเหยียบกระจุยกระจายจนแหลกลาญ...”การชิงอำนาจทางการเมือง”...จะเกิดขึ้นระหว่าง...”คนมีสี”...ด้วยกันจะเรียกว่า “ปฏิวัติซ้อน” ก็ว่าได้ถ้าเกิดเหตุการณ์...”ชิงอำนาจทางการเมือง”...ขึ้น อาจจะมีการใช้อาวุธเข้าปะทะกัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีกำลังพล และมีอาวุธร้ายแรง...”การเลือกตั้งจะไม่มีอีกหลายปี”...เพราะ “คนมีสี” จะเข้ามาคุมอำนาจทางการเมืองต่อ...ขอให้ประชาชนทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าประมาท อย่าใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และใช้สติพิจารณา อย่าตกใจเกินเหตุ เพราะเหตุยังไม่เกิด ผลจึงยังไม่มี บางทีผมอาจจะผิดพลาดก็เป็นไปได้ (น้อยมาก)

    ถ้าบุคคลสำคัญของประเทศ ผ่านวิกฤติปี พ.ศ.2558 ไปได้ การเลือกตั้ง สส.คาดว่าอาจจะมีขึ้นในปีพ.ศ.2559 หรืออาจจะเป็นปี พ.ศ.2560 แต่ไม่ว่าใครจะมาเป็น “นายก” ก็ตาม พรรคไหนจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม หรือแม้แต่ทหารเข้ามาคุมอำนาจทางการเมืองก็ตาม ก็ยังไม่สามารถกู้สถานการณ์เศรษฐกิจให้ดีขึ้นมาได้ เพราะประเทศไทยยังไม่หมดเคราะห์ ยังมีเคราะห์หนักติดต่อกันอีกหลายปี นักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ ส่วนมากไม่มีคุณภาพ ไม่มีฝีมือดีพอ....มีแต่นักการเมืองจำพวก “ดีแต่ปาก เก่งแต่พูด” ทุกตัวล้วนแต่กระสันอยากเป็น “นายก” อยากเป็น “รัฐมนตรี” จนตัวสั่น หางกระดิก...ประชาชนจะไปหวังพึ่งนักการเมืองไม่ได้เพราะ...”คนซวย”...จะได้เป็น “นายก” รวมทั้งคณะรัฐมนตรีต่างๆก็มี...”คนซวย”...จำนวนมาก

    ประเทศไทยจึงต้องเจอกับ...”ภัยพิบัติ”...ครั้งใหญ่ในอีกไม่นานนี้ (พ.ศ.2558-2561) อย่าประมาทเรื่อง...”แผ่นดินไหว”...อย่างรุนแรงจะทำให้เกิด...”ภัยที่มาจากน้ำ”...อย่าประมาทเรื่อง...”ภัยธรรมชาติ”...เป็นอันขาด อาจจะเกิด...”สึนามิ”...ขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่ “สึนามิ” ขึ้นที่ทะเลฝั่งทะเลอันดามัน ก็ให้ระวังทะเลฝั่งอ่าวไทยให้มากอาจจะเกิดจากลมพายุที่รุนแรง...ในอดีตที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 24-25 ต.ค. พ.ศ.2505 เกิดพายุโซนร้อน เป็นพายุหมุนที่รุนแรงมาก เข้าถล่ม จ.นครศรีธรรมราช และ แหลมตะลุมพุก จะกระจุยกระจายราบเป็นหน้ากลองมาแล้ว...และเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2532 เกิดพายุใต้ฝุ่นเกย์ เข้าถล่ม ที่ จ. ชุมพร สร้างความเสียหายย่อยยับเช่นกัน...

    ผู้เขียนเชื่อว่าช้าหรือเร็ว “มันต้องเกิด” ค่อนข้างแน่นอน นับจากนี้ไปไม่น่าเกินสาม-สี่ปี แม้แต่กรุงเทพฯ ก็ยังเสี่ยงภัยอันตรายจาก...”ภัยธรรมชาติ”...เช่นกัน ความเสียหายจะตามมา ตึกสูงบางแห่งอาจจะถึงกับถล่มหรือเสียหายอย่างหนัก บ้านเรือน-ทรัพย์สินประชาชนจะเสียหาย ผู้คนจะล้มหาย ตายจากไปจำนวนมาก อาหารจะขาดแคลนอย่างหนัก ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ก็จะขาดแคลนเช่นกัน ระบบไฟฟ้า-ประปาบางแห่งจะเสียหาย สะพานและถนนบางแห่ง จะเสียหายเช่นกัน แผ่นดินบางแห่งจะยุบตัวลงเป็นหลุมลึก โรคระบาดจะลามไปทั่ว โจรผู้ร้ายจะชุกชุม การปล้นจี้ ชิงทรัพย์-ข่มขืนจะลามไปทุกแห่ง ความโกลาหลวุ่นวายจะเกิดขึ้น เหมือนผึ้งแตกรัง มันเป็น ...“กรรมของประเทศ”...

    ที่มาซ้ำเติมคนไทย แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่กุมสินค้าอุปโภค-บริโภคไว้ในกำมือ รวมทั้งบรรดามหาเศรษฐี นักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ที่ทำธุรกิจสีเทา และสีดำจะไม่เดือดร้อน กลับจะเฟื่องฟู ร่ำรวยยิ่งขึ้น เหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็ก ประชาชนเหมือนปลาซิว ปลาสร้อย ตาละห้อยเหมือนคนสิ้นหวัง

    ถ้าหากว่า....“บุคคลสำคัญเบอร์ 1. ของประเทศ”...ผ่านพ้นวิกฤติในปี พ.ศ.2558 มาได้ก็ตาม แต่คงไม่สามารถผ่านปี พ.ศ.2560 หรือพ.ศ.2561 ไปได้...ภายในช่วงปี พ.ศ.2558-2561 ประเทศไทยมีเคราะห์แรงมาก มีแนวโน้มว่าจะเกิดการสูญเสีย...”บุคคลสำคัญของประเทศ”...อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้เขียนเกรงว่าในช่วงปีดังกล่าว (พ.ศ.2558-2561) อาจจะมีการสูญเสีย...“บุคคลสำคัญของประเทศ”...ที่เป็นแกนหลักของบ้านเมืองติดต่อกัน 2-3 ท่าน...หนึ่งในนั้นเป็นที่เคารพ ของเหล่าบรรดาขุนทหารมาช้านานแล้ว...ขอย้ำอีกครั้งถ้า...”บุคคลสำคัญ เบอร์ 1 ของประเทศ”...สูญเสียเมื่อไหร่ บ้านเมืองจะร้อนเป็นไฟ...”การแย่งชิงอำนาจจะเกิดตามมา”...พ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ น่าสงสารที่สุด เหมือนลูกขาดพ่อ เหมือนประเทศขาดเสาหลักค้ำจุน บ้านเมืองมืดไปหมด ความโศกเศร้า โศกาดูร จะดังระงมไปทั้งแผ่นดิน

    ประเทศไทย เป็น...“สวรรค์”...ของนักการเมือง และกลุ่มนายทุนใหญ่ รวมถึงข้าราชการระดับสูง และคนที่อยู่ในคราบของนักการเมือง ในช่วงนี้ (พ.ศ.2558-2561) ประเทศไทยจะเหมือน...“นรก”...ของคนระดับล่าง ที่เรียกกันว่า “ชาวรากหญ้า” ที่ครองแชมป์ “ความจน” มาอย่างยั่งยืน ถาวร นานแสนนาน จะยิ่งลำบากมากขึ้น แม้แต่คนระดับปานกลาง และคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนก็หนีไม่พ้น ยังไงก็ต้องได้รับผลกระทบจะมากหรือน้อยเท่านั้น...คำว่าเมตตา-ปราณี หาได้ยากยิ่งในหมู่ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และนายทุนใหญ่ รวมทั้งบรรดามหาเศรษฐีหลายคน...ประชาชนคนธรรมดาจะหากินลำบากยิ่งขึ้น เด็ก-ผู้หญิงต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงชีพ ด้วยการขายตัวจะเพิ่มมากขึ้น

    ความเดือดร้อนจะแผ่กระจายไปทั่วแผ่นดินไทย บรรดาธนาคารต่างๆจะมีหนี้สูญมากขึ้น คนจะเป็นหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นมากมาย...รูดปรี๊ด รูดปรี๊ด รูดแล้วไม่มีเงินจ่าย ธนาคารรับกรรม...ภาคอุตสาหกรรมจะซบเซาลง หรือลดกำลังการผลิต เพราะกำลังซื้อของคนระดับล่าง-และคนระดับปานกลาง ไม่มีเงินซื้อ หรือมีเงินแต่ไม่อยากใช้เงิน จะขายได้เฉพาะสินค้าที่ราคาแพงสำหรับคนรวยเท่านั้น แต่ก็ขายได้น้อยลงเช่นกัน เต็นท์รถมือสอง “เจ๊ง” กันระนาว เพราะพิษรถคันแรกของรัฐบาล “อีเอ๋อ” ที่เธอพ่นพิษไว้เป็นที่ระลึก สะเทือนไปถึง “เชียงกง” ที่จำหน่ายอะไหล่เครื่องยนต์เก่า

    ร้านค้า / ห้างสรรพสินค้าจะเงียบเหงา มีคนเดินดูมากกว่าคนเดินซื้อ...แม้แต่หมู่บ้านจัดสรร อสังหาริมทรัพย์ก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย และ /หรือ คนที่ซื้อบ้านจัดสรร ซื้อคอนโดราคาแพง ซื้อเกินกำลังทรัพย์ จะเดือดร้อนจนไม่สามารถผ่อนต่อไปได้ อาจต้องถูกยึดรถ ยึดบ้าน หรือต้องปรับโครงสร้างการชำระหนี้ใหม่กับสถาบันการเงิน....นับจากปี พ.ศ.2558 เป็นต้นไป เศรษฐกิจประเทศไทยจะตกต่ำไปถึงปี พ.ศ. 2561 ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกสินค้าก็จะลดลง เพราะถูกประเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม เขมร พม่า ลาว แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไปจำนวนมาก ทั้งข้าว อาหารทะเล พืชผลการเกษตรหลายชนิด สิ่งทอต่างๆ

    ไม่เว้นแม้แต่โรงงานผลิตรองเท้าส่งออก รวมทั้งเครื่องประดับ อุปกรณ์อิเล็กเทรอนิกส์ต่างๆ ก็จะถูกประเทศเพื่อนบ้านแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไปครอง...แม้แต่ประเทศจีน ก็จะสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยน้อยลง นอกจากการแลกเปลี่ยนสินค้าของไทยเช่นข้าว ยางพารา (ราคายางพารา ยังไม่สามารถขึ้นราคาได้ง่ายๆ) และผลผลิตการเกษตรบางชนิด แต่ประเทศไทยต้องให้ประเทศจีนเหมาทำรถไฟ ในประเทศไทยเป็นการแลกเปลี่ยน...คนจีนไม่โง่หรอก รัฐบาลจีนฉลาดเรื่องการค้ามากกว่า ทหาร นักการเมือง-ข้าราชการ ของประเทศไทย ร้อยเท่า พันเท่า

    เพราะนักการเมืองไทย ข้าราชการไทย รวมทั้งทหารไทยบางคน เชื่อว่าทหารและนักการเมืองบางคน มีส่วนได้ผลประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้องจำนวนมหาศาล แต่จะอ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน ...ประชาชนตาดำๆ ต้องเป็นหนี้เจ็ดชั่วโคตร เพราะ นักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองอาชีพ หรือ นักการเมืองที่มาจากปากกระบอกปืน คนไทยทั้งประเทศมีหนี้ โดยที่ไม่ได้กู้แม้แต่สตางค์แดงเดียว แต่ต้องก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ ไปถึงลูก หลาน แหลน ลื้อ ตายแล้วเกิดใหม่ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด นี่คือฝีมือและผลงาน นักการเมืองไทย จริงหรือไม่?

    ขอให้เชื่อเถิดว่า...”ไม่มีคำว่าตกต่ำตลอดกาล”...ฝนตกก็มีวันหยุด ฟ้ามืดก็มีวันสว่าง พระอาทิตย์ไม่มีวันตกจนมืดตลอดทั้งปี ฉันใดก็ฉันนั้น ประเทศไทยก็มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เช่นกัน หลังจากที่ประเทศไทยพ้นบ่วงกรรม อย่างหนักหนาสาหัสผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆทั้งเรื่อง ภัยธรรมชาติที่รุนแรง ภัยเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างหนัก การสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ และการแย่งชิงอำนาจผ่านพ้นไปแล้ว จะถึงจุดเปลี่ยนประเทศไทยอีกครั้ง เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เหมือนต้นไม้ผลัดใบ ความเจริญรุ่งเรืองจะกลับมาอีกครั้ง

    พืชผลการเกษตรจะอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยราคาพืชผลการเกษตรจะดีขึ้น ชาวไร่ ชาวนาจะลืมตาอ้าปากได้ พ่อค้าวาณิชย์ นักธุรกิจจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง อุตสาหกรรมต่างๆจะฟื้นตัว และจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น...ประเทศแถบเอเชียเช่นประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศเวียดนาม ประเทศเขมร ประเทศลาว ประเทศพม่าเป็นต้นจะกลายเป็น...“ครัวโลก”...ของการส่งออกอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในทางกลับกันประเทศแถบอาหรับ และประเทศแถบตะวันตก รวมทั้งยุโรปหลายประเทศ จะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก

    ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เกิดวันที่ 4 ส.ค. 1961 (พ.ศ.2504 ปีฉลู) มีดิถีธาตุดิน ในปีพ.ศ.2558 เป็น “ปีชง” กับเจ้าชะตา “ธาตุดิน” ของ บารัค โอบามา ถูก “ธาตุไม้” เล่นงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 แล้ว...ผลงานต่างๆของ ปธน. บารัค โอบามา จะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนชาวอเมริกา ในเมื่อดวง...“ผู้นำประเทศ”...ซวยแบบดับเบิ้ลซวย อย่างนี้จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศอเมริกาเป็นอย่างมาก คนจะตกงานอีกอื้อ ราคาบ้าน / ที่ดินจะตกต่ำอย่างน่าใจหาย

    เชื่อว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา ยังไม่สามารถกู้เศรษฐกิจของประเทศอเมริกาให้ฟื้นขึ้นมาได้อย่างแน่นอน และปี พ.ศ.2559 อายุของ ปธน. บารัค โอบามาให้โทษอีก (อายุ 55) ยังอยู่ในช่วง...”ดวงตกแบบไม่มีหูรูด”... เชื่อว่าประชาชนชาวอเมริกา แทบจะขับไล่ประธานาธิบดีของตนเองด้วยซ้ำ ถ้ากฎหมายหรือรัฐธรรมนูญของประเทศอเมริกา ให้สิทธิประชาชนชาวอเมริกาชุมนุมประท้วงขับไล่นักการเมือง เหมือนประเทศไทยก่อนที่จะมีการรัฐประหารของ คสช...คิดว่า ปธน.บารัค โอบามา คงถูกประชาชนชาวอเมริกาขับไล่ไปนานแล้ว ในช่วงที่ดวงของ ปธน. บารัค โอบามา กำลังตกต่ำอย่างหนัก อาจคิดผิด ทำผิด นำประเทศไปสู่สงครามกับประเทศแถบอาหรับ และความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆจะลดต่ำลงอย่างมาก ประเทศอเมริกายังต้องเสี่ยงกับการถูก...“ก่อวินาศกรรม”...อีกด้วย เมื่อ ปธน. บารัค โอบามา พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ประชาชนชาวอเมริกา จะได้ประธานาธิบดีคนใหม่เป็นผู้หญิง?

    ”นาง ฮิลลารี คลินตัน”...จะได้เป็น...”ประธานาธิบดี”... คนใหม่อย่างแน่นอน หลังจากนั้นไม่กี่ปี หรือไม่นานประเทศ อเมริกาซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ จะเกิดสงครามกับประเทศมหาอำนาจด้วยกัน หรือทำสงครามกับประเทศแถบอาหรับ และสงครามอาจจะลุกลามไปหลายประเทศ และ / หรือ อาจมีประเทศอื่นแอบหนุนหลังช่วยเหลือเรื่องอาวุธในการทำสงคราม หรืออาจจะส่งทหารเข้าไปช่วยรบด้วย...ประเทศแถบเอเชียจะกลายเป็นขุมทรัพย์ทางเศรษฐกิจ และเป็นขุมทองทางด้านอาหาร การเกษตรจะเฟื่องฟูสุดขีด ชาวไร่ชาวนาจะไม่ยากจนอีกต่อไป พืชผลการเกษตรจะมีราคาสูงขึ้น การส่งออกโดยเฉพาะด้านอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะหลายประเทศขาดแคลนอาหาร อาจจะเกิดจากปัจจัยสงคราม

    จึงทำให้หลายประเทศต่างสะสม-กักตุนน้ำมัน และอาหารมากเป็นประวัติการณ์ บางท่านคงสงสัยว่าถ้าเกิดสงคราม ประเทศไทยไม่เดือดร้อนหรือ? / ไม่ได้รับผลกระทบบ้างหรือ?...ขอเรียนว่า ถ้าเกิดสงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจเกิดขึ้น ประเทศทั่วโลกย่อมได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ประเทศที่เป็นแหล่งผลิตอาหาร มีพืชผลการเกษตรสมบูรณ์ จะได้อานิสงส์มากที่สุด สินค้าอื่นๆที่ไม่ใช่ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันทั่วโลกเช่นกัน

    ต้องย้ายเมืองหลวง กรุงเทพฯอยู่ได้อีกไม่กี่สิบปี อาจจะสิบปี หรือยี่สิบปี แต่ไม่น่าจะเกินสี่สิบปีนับจากนี้เป็นต้นไป...”ต้องย้ายเมืองหลวง”...เพราะกรุงเทพฯจะจมบาดาล น้ำทะเลจะสูงขึ้นๆ ทั้งน้ำจากฝนก็จะกระหน่ำจนกรุงเทพฯจมบาดาล หรือเกิดจาก “เขื่อนแตก” เพราะ “แผ่นดินไหว” จนไม่สามารถแก้ไขหรือป้องกันได้...ที่ดินริมแม่น้ำโขง จะถูกน้ำซัดถล่มขาดหายไปจำนวนมาก อาจจะเกิดจากเขื่อนที่ประเทศจีน “แตก” แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเขื่อนแตกเพราะ...”แผ่นดินไหว”...หรือเขื่อนแตกเพราะการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ขอให้ผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ติดริมน้ำโขงให้ระวังเป็นพิเศษ และโปรดอย่าถามว่า...”เขื่อนจะแตกวันไหน? เมื่อไหร่?”...เพราะนี่เป็น...”คำเตือน” (ไม่ใช่คำทำนาย)...”ผู้มีศีล มีธรรม”... จะปลอดภัย จากภัยพิบัติต่างๆ “คนไร้ศีล” จะล้มหายตายจากไปจำนวนมาก // อวสาน

    ปล.อยากให้ทุกคนอ่านซ้ำๆหลายครั้ง จะได้เข้าใจมากขึ้น และจำได้แม่นยำ หรือก็อปปี้บทความนี้เอาไว้ ขอให้ทุกคนใช้สติ อย่าตกใจจนขาดสติ สติเป็นตัวแก้ไขได้ทุกอย่าง พึงสวดมนต์ ภาวนาเอาไว้เป็นประจำ ทาน ศีล ภาวนา หมั่นทำไว้ เพราะจะเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาห้อมล้อมปกป้องคุ้มครองท่านได้อย่างแน่นอน

    ด้วยความเคารพ
    หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ
    28 พ.ย.2557

    ที่มา https://th-th.facebook.com/mornid/posts/672576312858983
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2015
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โครงการ "ครึ่งไร่คลายจน" ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง


    เผยแพร่เมื่อ 14 มิ.ย. 2014​
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การปลูกผักในตะกร้า


    เผยแพร่เมื่อ 8 มิ.ย. 2015​
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า




    เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ค. 2012​
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เศรษฐีเกษตร : ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์


    เผยแพร่เมื่อ 8 มี.ค. 2015​
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รายการหอมแผ่นดิน ตอน ไข่ไก่อินทรีย์



    เผยแพร่เมื่อ 22 ธ.ค. 2014​
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ไข่ไก่อารมณ์ดี/แปลกใหม่ใหญ่ดัง


    เผยแพร่เมื่อ 21 ก.พ. 2013​
     

แชร์หน้านี้

Loading...