ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    เพนตาก้อนเยี่ยวปริครั้งที่สอง ชี้นิ้วที่หน้าจอเรดาร์พร้อมกับพูดเหมือนคนติดอ่างว่า "Tha tha tha… that's Russian spy shi.. shi.. ship!"

    [​IMG]

    -----------------
    Sputniknews ได้รายงานข่าวเมื่อ 9 ส.ค.2558 เพนทากอนพบเห็นเรือรัสเซีย ใกล้ๆเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ของบริษัทน้ำมันเชลล์ - เนื้อข่าวก็ตามพาดหัวครับ เป็นการกล่าวอ้างจากโฆษกเพนทากอนโดยแถลงว่าพบเห็นเรือ Kurily ของกองทัพรัสเซีย ซึ่งเป็นเรือชนิด intelligence ship หรือ เรือสืบราชการลับ หมายถึงเรือสอดแนม ที่อเมริกาชอบทำเป็นประจำนั่นละครับ ...พอคนอื่นจะทำบ้าง กลับออกมาโวยวาย จุดที่พบเรือรัสเซียอยู่ใกล้ๆกับเรือของบริษัทน้ำมันเชลล์ สัญชาติอเมริกัน ที่กำลังสำรวจน้ำมันอยู่ในบริเวณอาร์คติก
    - ลองไปหาข้อมูลเรือKurily แทบไม่พบรายละเอียดอะไรเลยครับ มีเล็กน้อย จัดอยู่ใน Vishnya-class intelligence ship สร้างมาตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1980 จำนวน 7 ลำ เซ็นเซอร์และระบบประมวลผล : Sonar: Pamyat hull mounted arrays, HF dipping , ระบบสงครามอิเลคทรอนิคส์ : Intercept arrays ข้อมูลที่ถูกรวบรวมจะถูกส่งผ่านการเชื่อมโยงกับ radomes ขนาดใหญ่ 2 อัน ส่งตรงเข้าดาวเทียม และมีอาวุธป้องกันตนเองเพียงเล็กน้อย ...แค่เอาไว้ส่องบินรบตระกูล F กับ Sea Hawk ก็พอ ...คริ คริ ตรงนี้หมายความว่าข้อมูลจะถูกส่งทันทีไปยังหน่วยบัญชาการ เรือไม่จำเป็นต้องกลับเข้าฝั่งเอาข้อมูลไปส่ง ...สหรัฐถึงกับดิ้น 555
    Jeff Davis บอกกับ CNN เมื่อ 7 ส.ค." เรารับทราบดี ถึงเส้นทางการแล่นของเรือKurily อยู่ในละแวกเดียวกับ the Nobel Discoverer ".. หมายถึงผู้ค้นพบรางวัลโนเบล? อ๊ะ ๆ ..ไม่ใช่หรอกครับ Jeff Davis กำลังหมายถึงเรือขุดเจาะสำรวจน้ำมันกลางทะเล ( Drillship ) แถบอลาสก้าที่ชื่อ Noble Discoverer ต่างหาก " เราตระหนักดีถึงสิทธิของประเทศอธิปไตย ในการเดินเรืออย่างเป็นอิสระในน่านน้ำสากล " ..แล้วจะออกมาพูดทำไม อ่านแล้วเลี่ยนจริงๆกับลิ้นเฮเก้ ว่างๆช่วยเอาคำนี้ " We recognize the rights of all sovereign nations " ไปถามแถวๆซีเรีย อิรัค ยูเครน หน่อยนะ!!
    - เชื่อกันว่าชั้นหินบริเวณอาร์ติก เป็นที่เก็บสะสมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติขนาดมหึมาเป็นปริมาณมหาศาล รัสเซียได้อ้างสิทธิ์พื้นที่บริเวณนี้ ว่าอยู่ในเขตพื้นที่ชายแดนไกลฝั่ง ( offshore border areas ) เช่นเดียวกับอีก 4 ประเทศ สหรัฐฯ, แคนาดา, นอร์เวย์ และเดนมาร์ก
    ...ภาพเรือ Kurily ของรัสเซีย ป่านนี้ปูตินคงนั่งอมยิ้ม ปล่อยให้เรือ Noble Discoverer ลงทุนเจาะสำรวจไป เจอน้ำมันเมื่อไหร่ ข้อมูลถึงมอสโคว์ทันที 555
    ขอบคุณผู้แปล: Noraseth Tuntasiri
    The Eyes
    0909/2558

    ภาพจาก © Wikipedia/ Photographer's Mate 2nd Class William H. Ramsey

    Read more: Pentagon Spots Russian Ship Near Shell Vessel in Arctic

    ----------
    Pentagon Spots Russian Ship Near Shell Vessel in Arctic
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    กรีซโดนสหรัฐฯกดดันหนักไม่ให้เครื่องบินส่งของบรรเทาทุกข์บินผ่านน่านฟ้าไปช่วยซีเรีย รัสเซียบอกว่าจำไว้นะบัลแกเรียที่ไม่ให้รัสเซียบินผ่านน่านฟ้าเพื่อส่งการช่วยเหลือมนุษยธรรมไปให้ซีเรีย ทางเลือกของรัสเซียยังมีอีกไหม?

    [​IMG]

    -----------------
    ว้าววว! มีข่าวเยอะมากกกกก เล่าไม่ทันขอเลือกมาเป็นบางข่าวก่อนนะครับ จะทะยอยเล่าไปเรื่อยๆตามแต่เวลาและเรี่ยวแรงจะเอื้ออำนวย เริ่มที่ข่าวสหรัฐฯบีบไข่กรีซไม่ได้รัสเซียใช้น่านฟ้าเพื่อส่งเสบียงไปให้ซีเรียก่อนเลย ก่อนหน้านี้ก็ได้รายงานให้ทราบไปแล้วว่าสหรัฐฯมีคำสั่งตรงไปที่กรีซว่าไม่ให้เครื่องบินขนสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปช่วยรัฐบาลอัสซาดในซีเรีย และทางการกรีซก็ออกมาบอกว่ามันเป็นสิทธิ์ของกรีซ แต่เมื่อวานนี้ดูจากรายงานข่าวแล้วเหมือนกับว่ากรีซกำลังถูกกดดันอย่างหนัก สำนักข่าวรอยเตอร์สบอกว่า โฆษกรัฐบาลกรีซบอกว่ารัสเซียไม่จำเป็นต้องเข้าถึงน่านฟ้าของกรีซเพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ซีเรีย (Russia no longer needs access to Greek airspace to deliver humanitarian aid to Syria) แปลว่ากรีซจะไม่อนุญาตให้เครื่องบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าของกรีซไปยังซีเรีย นี่ตามรายงานข่าวของรอยเตอร์สนะครับ
    และในบรรทัดต่อมา Sputnik ก็อ้างรอยเตอร์สอีกว่า "ตามรายงานข่าวของรอยเตอร์ส กรุงเอเธนได้กล่าวว่าเครื่องบินของรัสเซียที่จะส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังซีเรียนั้นอาจจะหลีกเลี่ยงกรีซในการใช้เส้นทางอากาศไปยังตะวันออกของประเทศ" (ก็แปลว่าไม่อยากให้ผ่านน่านฟ้ากรีซอีกนั่นแหละ)
    อย่างไรก็ตาม Konstantinos Koutras โฆษก ก.ต่างประเทศของกรีซให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Sputnik news ว่ากรุงเอเธนไม่สามารถยืนยันรายงานดังกล่าวได้ (Athens cannot confirm the reports) อ้าว! มันยังไงหละนี่รอยเตอร์ส?
    Konstantinos Koutras กล่าวว่า "ณ ตอนนี้ผมสามารถยืนได้เพียงว่าพวกเราได้รับการร้องขอ (เชิงบังคับ) เช่นนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และกำลังอยู่ในการปรึกษาหารือกัน ผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้" (หมายถึงกรีซยืนยันว่าสหรัฐฯได้ส่งคำร้องขอไม่ให้กรีซเปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินรัสเซียส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังซีเรียจริง แต่ยังไม่ยืนยันว่ากรีซได้ตัดสินใจทำตามคำร้องขอจากสหรัฐฯแล้วหรือไม่)
    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Vladimir Jabbarov รองหัวหน้าอันดับที่1คณะกรรมาธิการนานาชาติจารัฐสภาสหพันธรัฐรัสเซียได้กล่าวว่า "รัสเซียอาจจะให้เส้นทางการบินเส้นทางใหม่ไปยังซีเรีย หากกรีซปิดน่านฟ้าไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่าน"
    ส่วนอีกประเทศหนึ่งที่สหรัฐฯและตะวันตกสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ตามต้องการนั้นก็คือบัลแกเรีย (Bulgaria) เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า "โฆษกหญิงของ ก.ต่างประเทศของบัลแกเรียกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า กระทรวงต่างประเทศของบัลแกเรียได้ปฏิเสธเที่ยวบินต่างๆของรัสเซียเหนือน่านฟ้าของบัลแกเรียที่จะส่งสัมภาระไปยังซีเรีย"
    Daniel Stefanov โฆษกกลาโหมของรัสเซียออกมายืนยันว่า "ใช่ พวกเราขอยืนยันว่าบัลแกเรียได้ปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่านไปยังซีเรีย"
    เป็นเรื่องแน่งานนี้... กลยุทธ์สหรัฐฯเคยนำมาใช้แล้วเมื่อเร็วๆนี้ในกรณีสงครามเยเมน โดยห้ามไม่ให้ทั้งเครื่องบินและเรือจากรัสเซียและอิหร่านส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปให้เยเมน งานนี้สหรัฐฯงัดมุกนี้มาใช้อีก แผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวคือ สะกัดไม่ให้รัสเซียช่วยเหลือซีเรียได้ ในขณะเดียวกันเมื่อรัสเซียถูกขัดขวางโดยประเทศที่สามแบบนี้ แน่นอนว่ารัสเซียจะต้องจดจำแผลนี้ไม่มีวันลืม ต้องเอาคืนด้วยมาตรการบางอย่าง อย่างที่เคยตอบโต้ในการทำสงครามแซงชั่นมาแล้ว จนเศรษฐกิจและเกษตรกรของอียูอ่วมมาจนถึงทุกวันนี้ กรีซเองก็โดนหนักไม่ใช่น้อย จึงต้องวิ่งแจ้นเข้าหารัสเซียขอให้ยกเลิกการแซงชั่นบางอย่างไม่งั้นเกษตรกรกรีซอยู่ไม่ได้แน่ แลกกับให้ท่อแก๊สของรัสเซียผ่านจากตรุกีเข้ากรีซไปยังยุโรปตะวันตกได้ ซึ่งรัสเซียก็หยวนๆให้
    ส่วนบัลแกเรียนี้ต้านโครงการท่อแก๊สของรัสเซียมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนแรกก็มีโครงการว่าจะสร้างผ่านบัลแกเรียไป แต่บัลแกเรียถูกสหรัฐฯและอียูกดดันอย่างหนักจึงไม่อนุญาตให้ท่อแก๊สของรัสเซียผ่านไปได้ คราวนี้ก็มาเรื่องไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียผ่านไปยังซีเรียอีก ก็ทำให้ประเทศพวกนี้ระหองระแหงกับรัสเซียอยู่เรื่อยๆ (การสร้างความร้าวฉานคืองานของจักรวรรดิเฮเก)
    ในวันเดียวกันนี้สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "รัสเซียจะตอบโต้การปิดน่านฟ้าของบัลแกเรียที่ห้ามไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่านไปยังซีเรีย - ส.ส.รัสเซียกล่าว" รายงานข่าวบอกว่า นาย Nikolay Levichev รองโฆษกและสมาชิกคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศสภาดูม่าของรัสเซียกล่าว่า "พวกเรา (รัสเซีย) จะจดจำการดำเนินการที่ไม่เป็นมิตรในครั้งนี้ และจะหาคำตอบที่เหมาะสมให้อย่างเพียงพอ วุฒิภาวะความเป็นผู้นำของบัลแกเรียซึ่งได้กระทำการตัดสินใจในครั้งนี้ - ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลังก็ตาม - ได้เข้าร่วมค่ายเดียวกันกับฝ่ายตรงข้ามของระบบความสัมพันธ์ต่างประเทศที่มีอยู่ การปิดน่านฟ้าเพื่อไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียส่งคาร์โกบรรเทาทุกข์ไปยังซีเรียถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและขาดวิสัยทัศน์" (สหรัฐฯได้ยินหรือเปล่า?)
    Levichev กล่าวต่ออีกว่า "กรุงดามัสกัสต่อต้านการใช้ความรุนแรงจากพวกไอซิส กรุงมอสโคว์ก็กำลังจะส่งความช่วยเหลือไปให้กรุงดามัสกัส และกรุงเตหะรานก็พร้อมที่จะเปิดน่านฟ้าให้กับเครื่องบินของรัสเซีย แต่ตะวันตกไม่ได้ทำอะไร นอกจากงัดซี่คันล้อ รัฐบาลบัลแกเรียทำได้แค่ยืนรอรับคำสั่งจากกรุงวอชิงตันเท่านั้น" (มันเป็นเช่นนี้มานานแล้ว)
    คราวนี้รัสเซียช่วยเตือนสติบัลแกเรียบ้าง โดยนาย Levichev กล่าวต่ออีกว่า "ก็รัสเซียนี่แหละที่ได้ปลดปล่อยบัลแกเรียจากจักรวรรดิอ็อตโตมันในศตวรรษที่19 และมีส่วนในการก่อตั้งความเป็นรัฐของบัลแกเรียขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลบัลแกเรียมีความจำสั้น แต่ความจำของรัสเซียดีกว่า" (Apparently, the Bulgarian government has a short memory. But the Russian memory is good) (อูยยยยยส์ ไม่รู้ว่ารัฐบาลบัลแกเรียจะรู้สึกอย่างไรบ้างนะ ตอนนี้รัสเซียเริ่มทวงบุญคุณแล้วอ่ะ)
    แล้วรัสเซียจะส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและอื่นๆไปให้ซีเรียได้อย่างไรหละคราวนี้? สหรัฐฯส่งเงินส่งอาวุธและกำลังหนุนท้องถิ่นเข้าไปให้กลุ่มติดอาวุธที่สหรัฐฯตั้งชื่อให้ว่า "กบฏสายกลาง" ได้แต่พอรัสเซียจะส่งความช่วยเหลือไปให้ฝ่ายรัฐบาลซีเรียบ้างสหรัฐฯกลับห้ามซะงั้น
    ติ๊กต็อกๆๆ... มีทางไหนเป็นไปได้บ้างเอ่ยยยยย... วันที่ 8 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "รัสเซีย, อิหร่าน อาจจะสร้างเส้นทางใหม่เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังซีเรีย" (Russia, Iran May Create New Way to Deliver Humanitarian Aid to Syria) จริงๆแล้วรัสเซียเผื่อทางเลือกไว้อีกสองช่องทางคือ บินผ่านอิหร่านกับตุรกี
    Emad Abshenass นักวิเคราะห์กล่าวว่า "ผมคิดว่ารัสเซียและอิหร่านควรจะสร้างเส้นทางใหม่เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังซีเรีย ซึ่งอาจจะได้รับการอนุมัติโดยองค์กรระหว่างประเทศ" (องค์กรไหนหละครับที่ไม่ถูกสหรัฐฯควบคุม?) นักวิเคราะห์มองว่าแม้จะหันไปพึ่งตุรกี แต่เนื่องจากตุรกีเป็นหนึ่งในชาติสมาชิกของนาโต้ด้วย จึงยากที่ตุรกีจะอนุญาตให้เครื่องบินของรัสเซียบินไปยังซีเรียได้ ก็เหลือแต่อิหร่านเท่านั้นที่หนุนซีเซียโดยตรง
    เส้นทางจากกรุงมอสโคว์ผ่านกรีซไปยังซีเรียนั้นใกล้กว่าผ่านอิหร่าน แต่ถ้ากรีซไม่ให้รัสเซียบินผ่านตามคำสั่งของสหรัฐฯ งั้นรัสเซียก็คงต้องเลือกเส้นทางอิหร่านแทน โดยอาจจะบินจากกรุงมอสโคว์ไปยังอิหร่าน จากนั้นก็บินจากอิหร่านข้ามอิรัคเข้าไปยังซีเรีย ถ้าไม่ถูกพวกไอซิสในอิรัคสอยร่วงก่อนนะ เพราะตอนนี้รัฐบาลอิรัคเป็นมิตรกับอิหร่่านและรัสเซียด้วย
    เพื่อทำให้รัฐบาลอัสซาดและฝ่ายค้านบางพรรคที่มีฐานเสียงมากของซีเรียมั่นใจว่าจะไม่ถูกรัสเซียหรอกให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ตามที่สื่อฯตะวันตกประโคมข่าว รัสเซียจะต้องให้หลักประกันกับรัฐบาลและกองทัพของซีเรียให้ได้ในระดับหนึ่ง เช่นการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และทางด้านเทคนิคต่างๆ แม้จะถูกสหรัฐฯและตะวันตกกดดันอย่างมากเพื่อกีดกันรัสเซียออกจากซีเรียเพราะไปขัดลาภเขา รัสเซียก็ต้องทุ่มกำลังเข้าช่วยเหลือซีเรียเต็มที่ แต่… ยังไม่ได้พูดถึงว่าจะส่งเครื่องบินรบเข้าไปเปิดสงครามใหญ่อย่างที่มีหลายคนคาดการณ์ เพราะนั่นก็เท่ากับว่ารัสเซียได้ประกาศทำสงครามกับสหรัฐฯและนาโต้อย่างเป็นทางการแล้ว นั่นไม่ใช่วิธีการของปูติน ถ้าปูตินคิดจะทำอย่างนั้นคือส่งกองทัพของตนเองและเครื่องบินรบไปโจมตีตามที่มีข่าวลือนั้นจริงๆ รัสเซียก็คงจะทำไปนานแล้วตั้งแต่สงครามในยูเครนตะวันออก ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของรัสเซียโดยตรงด้วย ไม่เห็นจะต้องรอที่ซีเรียเลย และไหนจะที่เยเมนอีก ถ้าทั้งรัสเซียและอิหร่านคิดจะเปิดสงครามใหญ่ตามการยั่วยุของสหรัฐฯและฝ่ายตะวันตกจริง อิหร่านก็คงส่งเครื่องบินรบไปช่วยกองทัพเยเมนกับกลุ่มฮูติและซีเรียตั้งนานแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ ก็แสดงให้เห็นในระดับหนึ่งว่าแนวทางของรัสเซียไม่ใช่ความก้าวร้าวอย่างสหรัฐฯและนาโต้แน่นอน
    The Eyes
    09/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Andrei Stenin

    ----------
    Pentagon Spots Russian Ship Near Shell Vessel in Arctic
    TASS: Russia - Russia to react to Bulgaria’s closure of airspace to Russian Syria-bound planes — lawmaker
    TASS: World - Bulgaria closes its airspace to Russia’s Syria-bound planes — foreign ministry
    TASS: World - Kremlin silent on US request to Greece to close its air space for Russian aircraft
    Bulgaria denies airspace use for Russian supply flights to Syria — RT News
    Bulgaria Denies Airspace to Russian Aid Flights to Syria
    Athens Says Russia No Longer Needs Greek Airspace for Aid Flights to Syria
    Russia, Iran May Create New Way to Deliver Humanitarian Aid to Syria
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf
    มอลโดวาประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตทหารกับรัสเซีย มันแปลกๆอยู่นาาาา...

    [​IMG]

    -----------------
    ตามที่ได้เล่าให้ฟังในโพสต์ก่อนหน้านี้ว่ามีการประท้วงเกิดขึ้นในประเทศมอลโดว่า โดยกลุ่มผู้ประท้วงเฉียดแสนคนออกมารวมตัวกันเพื่อขับไล่รัฐบาลโดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลคอรัปชั่นอื้อฉาวอย่างมากมาย ส่วนอีกม็อบหนึ่งก็ออกมาเรียกร้องให้มีการรวมประเทศมอลโดวาเข้ากับโรมาเนียอีกครั้งซึ่งพึ่งจะแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตได้ในปี 1991 นี้เอง แน่นอนว่าม็อบหลังนี้จะต้องเป็นพวกโปร-โรมาเนีย หรือมีเชื้อสายโรมาเนียแต่มีถิ่นฐานอยู่ในมอลโดวา ม็อบขับไล่รัฐบาลเป็นม็อบแบบปักหลักค้างคืนบางส่วน บอกว่าถ้าไม่เจรจากันก็จะไม่เปิดทางให้ผู้นำมอลโดวาออกจากทำเนียบได้ เอาหละสิ ปิดล้อมทำเนียบประธานาธิบดีซะแล้ว ก็ว่ากันปะ
    มาดูอีกเรื่องที่น่าสนในเกี่ยวกับมอลโดวาแลรัสเซียบ้างดีกว่าครับ เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ไม่ขอคุยกับคุณอีกต่อไป: (งอลลลล ว่างั้นเหอะ) มอลโดวาขอสิ้นสุดความสัมพันธ์ทางกองทัพทั้งหมดกับรัสเซีย" (ว้าวววว! เอาจริงอ่ะ? จริงครับ เปรี้ยง! เลยหละ งานนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ มันต้องมีอะไรซักอย่าง ใครบอกได้บ้าง? คริๆ)
    สื่อฯรัสเซียอ้างข่าวจากสำนักข่าว Regnum News Agency เอกชนของรัสเซียว่า "กระทรวงกลาโหมของมอลโดวาได้ประกาศสิ้นสุดความสัมพันธ์ต่างๆด้านการทูตอย่างเป็นทางการกับ attaché ทางกองทัพของรัสเซียในกรุง Chisinau สถานีวิทยุ TRM ของรัฐของประเทศมอลโดวารายงาน" (ตะลึงตึงโป๊ะ! ทำไมพักนี้เฮียปูตินถูกหวยบ่อยจังเลยอ่ะ ต้องพาแกไปสะเดาะเคราะห์บ้างหละมั๊ง)
    มันต้องมีเหตุผลหรือสาเหตุอะไรซักอย่างสิที่ทำให้มอลโดวากระทำเช่นนี้ เหตุผลที่ว่านั้นคืออะไร? เอาอย่างเป็นทางการก่อนนะครับ (ข้ออ้าง) Anatoliy Salaru รมว.กลาโหมของมอลโดวากล่าวในรายการวิทยุ TRM ว่า "เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินการที่รุนแรงในครั้งนี้ก็คือ... (คืออะไรครับท่าน? เดี๋ยวขอจิบกาแฟก่อนนะครับ หมายถึงแอ็ดมินหนะ คริๆ ว้าวว! อะหย่อย ต่อนะ...) ก็คือการปรากฎตัวของทูตทหาร (attaché) รัสเซียในขบวนพาเหรดทหารในเมือง Tiraspol ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการฉลองครบรอบการประกาศอิสรภาพของทรานส์นิสเทรียปีที่25 (the 25th anniversary of Transnistrian independence)"
    นี่คือข้ออ้าง/เหตุผลของรัฐบาลมอลโดวาในภาวะที่กำลังถูกม็อบไล่บี้อยู่ในตอนนี้ มอลโดวากับทรานส์นิสเทรียนี่เขามีคดีความกันอยู่ครับ อย่างที่เล่าให้ฟังหลายรอบแล้วว่าทรานส์นิสเทรียนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างมอลโดวาและยูเครน แยกตัวออกมาจากมอลโดวาในปี 1990 แต่มอลโดวาไม่ยอมรับการประกาศเอกราชของทรานส์นิสเทรีย ทรานส์นิสเทรียเป็นกลุ่มชนเชื้อสายรัสเซียพูดภาษารัสเซียต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย แต่สหรัฐฯอียูและนาโต้ไม่ยอมรับยูเอ็นก็ไม่รับรอง มอลโดวาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่ามีรัสเซียหนุนหลังทรานส์นิสเทรียอยู่ จึงคารังคาซังมาจนถึงทุกวันนี้
    อ่านข่าวต่อนะครับ รมว.กลาโหมของมอลโดวากล่าวว่า "กรุง Chisinau ได้พิจารณาแล้วว่าเหตุการณ์นี้เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตร ในนามของรัสเซีย และรัฐบาลมอลโดวาได้ตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กองทัพทุกรูปแบบกับรัสเซีย เรา (มอลโดวา) รู้สึกเป็นกังวลใจเกี่ยวกับสถานการณ์และมุ่งประเด็นไปที่ธรรมชาติของการกระทำเช่นนั้นซึ่งไม่อาจยอมรับได้"
    รายงานข่าวบอกว่าเมือง Tiraspol ได้จัดได้จัดขบวนสวนสนามของกองทัพขึ้นมาในวันที่ 2 ก.ย.58 ที่ผ่านมา มีทหารเข้าร่วมจำนวน 2,000 นาย มียานพาหนะทางกองทัพเข้าร่วมจำนวน 123 คัน (ดูในคลิปจากลิ้งสุดท้าย รถถังทั้งนั้น มีรถบรรทุกของกองทัพด้วย ลากปืนใหญ่ออกมาโชว์ด้วย เพื่อบอกว่าใครก็ตามที่กล้ามารุกรานหรือรังแกลูกรักอีกหนึ่งคนของรัสเซียเป็นได้เจอดีแน่ ที่ไม่ได้เอามาอวดหนะมีเยอะกว่านี้มากๆ ได้เกิดสงครามระหว่างมอลโดวาและทรานส์นิสเทรียขึ้นในปี 1990-1992 และสิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค.1992 แต่มอลโดวาก็ไม่สามารถยึดหรือผนวกทรานส์นิสเทรียได้ โดเน็ทส์กและลูฮานส์กในยูเครนตะวันออกก็กำลังจะมีชะตาเช่นนี้ ขั้นที่หนึ่งผ่านไปแล้วคือสงคราม ต่อไปก็เหลือแต่เจรจากันว่ายูเครนจะยอมรับการปกครองตนองของ DPR/LPR อย่างทรานส์นิสเทรียได้หรือไม่ ถ้าไม่ยอมรับก็คงจะซัดกันอีกซักตั้ง หรือจะปล่อยให้คาราคาซังไว้แบบนี้)
    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการประท้วงที่เมืองหลวงของมอลโดวาไหม? นั่นสิ... น่าคิดนะครับ ลองมโนเล่นๆนะ ขอย้ำ นี่คือการมโนหนุกๆ ฮ่าๆๆ ไม่ควรจริงจังนะครับ คืออย่างนี้รัฐบาลมอลโดวามีชนักติดหลังเรื่องปัญหาคอรัปชั่นจนมีม็อบมาขับไล่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นม็อบจริงๆหรือม็อบแอบแฝงแบบมีเลศนัย แน่นอนฝ่ายค้านอยู่เบื้องหลังและเบื้องหน้าของม็อบนี้ แต่จะมีมือที่สามเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่นั้นก็ไม่สามารถตอบได้
    สมมุติว่ามีมือที่มองไม่เห็นชักใยอยู่เบื้องหลัง โดยตอนแรกก็ป้อนขนมหวานให้รัฐบาลมอลโดวาสวาปามเข้าไปเต็มเปาอย่างเอร็ดอร่อย เมามันส์ วันหนึ่งก็ออกมาแฉว่าคุณคอรัปชั่น ผมมีหลักฐานนะ ลูกไม้นี้มาเลเซียพึ่งจะโดนไปหยกๆ หลังจากที่นายกฯของมาเลเซียหนีไปตีกอล์ฟกับโอบาม่าช่วงเกิดน้ำท่วมใหญ่ในมาเลเซียปีที่แล้ว
    ถ้าไม่อยากถูกแฉมากกว่านี้ คุณรัฐบาลมอลโดวาก็ช่วยแกล้งยั่วยุให้รัสเซียโมโหหาเรื่องก่อสงครามให้หน่อยสิ? ทำอย่างไรถึงจะเนียนคนจับพิรุธไม่ได้ อ้าวก็ทรานส์นิสเทรียไง ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตไปเลยสิ ทางมอลโดวาก็พูดกับมือที่มองไม่เห็นว่าครับลูกพี่ เดี๋ยวน้องจะรีบจัดการให้ทันทีเลย ว่าแล้วรัฐบาลมอลโดวาก็ทำเป็นเรียกผู้แทนจากสถานทูตของรัสเซีย (ไม่เอ่ยนาม) เข้าไปพบเพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วก็เตี้ยมกันให้ดี ให้เนียน ว่าเดียวมอลโดวาจะเล่นยิงมุกนี้ (มุกตัดสัมพันธ์ทูตทหาร) ไปก่อนนะ ฝากบอกเฮียปูตินด้วยว่าไม่ต้องกังวลมาก แค่เล่นตามน้ำของพวกนาโต้เอง พอเรื่องซาแล้วพวกเราก็ค่อยมาจับมือกันใหม่นะครับ
    ก็แค่นี้เอง ถ้ามอลโดวากล้าตัดขาดกับรัสเซียจริงๆ แล้ววันข้างหน้าใครจะออกหน้าปกป้องให้ในกรณีโรมาเนียปลุกกระแสรวมดินแดนขึ้นมาอีกรอบหละ? และที่สำคัญมอลโดวาก็อยากจะเข้าร่วมเห็นสมาชิกของอียูด้วย จำใจต้องเล่นละครไปก่อน เออ… ถ้าตัดสัมพันธ์ทางการทูตและการค้าทั้งหมดกับรัสเซียจริงๆ อันนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที
    The Eyes
    09/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Stringer

    ----------
    Not Talking to You Anymore: Moldova Ends All Military Relations With Russia
    https://en.wikipedia.org/wiki/Transnistria
    https://en.wikipedia.org/wiki/Moldova
    https://www.youtube.com/watch?v=5jZ69svmOZ8
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    รัสเซีย - ยูเครน - ไครเมีย. เมื่อ ดินแดนหลังม่านเหล็ก ถอยไม่ได้!

    [​IMG]

    -----------------
    โดย… Tor Teerawat
    คำแถลงการณ์ ต่อรัฐสภา ของ ประธานาธิบดี วราดิเมียร์ ปูติน (18 มีนาคม 2557) เกี่ยวกับไครเมีย ที่เป็นเอกราชเดียวกันมากับ รัสเซีย ร่วม 200 ปี ก่อนที่จะเกิดการยกดินแดน ไครเมีย ให้กับ ยูเครน ไปด้วยเหตุผล บางประการ
    มิตรสหายทั้งหลาย พวกเราได้มารวมกันในวันนี้ ในโอกาศอันสำคัญยิ่ง ประวัติศาสตร์ อันมีความหมาย ต่อพวกเราทุกคน การลงประชามติ ที่จัดขึ้น ในไครเมีย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา มีกระบวนการซึ่งเป็นไปตามหลักการของ ประชาธิปไตย และเป็นที่ยอมรับ ตามมาตรฐานสากล
    ประชาชน ชาวไครเมีย มีผู้ออกมาลงคะแนนประชามติ ถึง 82 เปอร์เซ็นต์ และ 96 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ออกมาใช้ สิทธิ ได้สนับสนุน ให้มีการรวมดินแดน เข้ากับรัสเซีย ตัวเลขเหล่านี้ ได้พูดแทนใจ ของพวกเขาออกมาได้ อย่างดี
    เพื่อให้เข้าใจ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง การตัดสินใจนี้ ดีขึ้น เราต้องรู้ ประวัติศาสตร์ ของไครเมีย ซึ่งสำหรับรัสเซีย และไครเมีย มีความหมายอย่างยิ่ง ต่อกันและกัน
    ทุกสิ่งทุกอย่าง ในไครเมียนั้น สะท้อนประวัติศาสตร์ และความภาคภูมิใจ ที่มีร่วมกัน ดินแดนแห่งนี้ เป็นสถานที่ตั้ง ของ Khersones (เคอร์โซเนส) สถานที่ ที่เจ้าชาย วลาดีมีร์ ได้เข้าพิธีรับศิล วิญญาณและร่างกาย ของพระองค์ ที่รับ เอาคริสต์ศาสนา นิกาย ออโธดอกซ์ เข้ามาเป็นพื้นฐานทั้งหมด วัฒนธรรม รวมถึง อารยธรรม และคุณค่าความเป็นมนุษย์ และหลอมรวม ประชาชน เข้าด้วยกัน เป็นรัสเซีย สุสานของทหารรัสเซีย ก็ยังคงตั้งอยู่ในไครเมีย และดินแดน Sevastopol เมืองแห่งการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ กำแพงเมืองที่ตั้งตระหง่าน คือจุดกำเนิดของกองทัพเรือรัสเซีย ในทะเลดำ
    ไครเมีย นั้นมีอัตลักษณ์ ของตัวเอง ที่หล่อหลอม ผู้คนในหลาย วัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งคล้ายกับรัสเซียในภาพรวม ดินแดนของพวกเรา ไครเมีย ไม่ได้มีคนเพียงเผ่าพันธุ์เดียว ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา พลเมืองเชื้อสายต่างๆ อาศัยเคียงข้างซึ่งกันและกัน โดยดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ประเพณี ภาษาและความเชื่อ เอาไว้ได้ ประชากร บนคาบสมุทร ไครเมียในปัจจุบัน มีอยู่ 2.2 ล้านคน และ 1.5 ล้านคน เป็นเชื้อสายรัสเซีย และอีก 350,000 คน เป็นยูเครน ซึ่งพูดภาษารัสเซีย เป็นภาษาหลัก และอีก 300,000 คน เป็นไครเมียตาตาร์ ซึ่งผลการทำประชามติ ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาสนับสนุนรัสเซีย
    เป็นความจริงที่ว่า ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ชาวไครเมียตาตาร์ ได้รับการปฏิบัติ อย่างไม่เป็นธรรม เช่นเดียวกับผู้คนอีกมากมาย ในยุคของสหภาพโซเวียต แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าสามารถ ยืนยันได้ในที่แห่งนี้ได้ คือ ในบรรดาคนจำนวนมากมาย หลายชาติพันธุ์ ที่เคยเจ็บปวดในช่วง เวลานั้น มีคนรัสเซียรวมอยู่ไม่น้อย ด้วยเช่นกัน
    ไครเมียตาตาร์. ได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่ง ของแผ่นดินแม่ พวกเรามีความเคารพอย่างสูง ต่อประชาชน ทุกเผ่าพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินไครเมีย มันเป็นบ้าน มันเป็นมาตุภูมิ ของพวกเขา และพวกเขาควรได้รับสิทธิ ซึ่งข้าพเจ้า ทราบว่าประชาชน ทุกคนที่สนับสนุน ให้ไครเมีย มีภาษาทางการ 3 ภาษา อย่างเท่าเทียมกัน คือ รัสเซีย ยูเครน และ ตาตาร์.
    ท่านทั้งหลาย ในหัวใจ และจิตใจ ของประชาชน ไครเมีย เป็นส่วนหนึ่ง ที่ไม่สามารถแยกออก จากกันได้ กับ รัสเซีย และการตัดสินใจ ที่เกิดขึ้นของประชาชนชาว ไครเมีย ที่จะเข้ารวมกับรัสเซีย นั้นเป็นการยืนยัน ข้อเท็จจริง และความยุติธรรม ซึ่งจะส่งผ่าน ไปจากคนรุ่น หนึ่ง ไปสู่ คนอีกรุ่นหนึ่ง ตลอดกาล ไม่ว่าจะเกิด ภยันตราย ไดๆ ขึ้นมา แม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ภายในประเทศ ของเราอย่างมากมาย ตลอด ศตวรรษ ที่ 20
    ภายหลัง จากการปฏิวัติ บอลเซวิค ด้วยหลายเหตุผลด้วยกัน ได้นำเอาดินแดนขนาดใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ทางตอนใต้ของ รัสเซีย เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ของยูเครน การตัดสินใจในครั้งนั้น เกิดขึ้นโดยไม่ได้มี การพิจารณาถึง ชาติพันธุ์ ที่ประกอบขึ้นมาเป็นประชาชน ในดินแดนนั้น ซึ่งในปี 1954 มีการตัดสินใจให้ ไครเมีย กลายเป็นส่วนหนึ่ง ของ ยูเครน พร้อมๆกับ เซวาสโตโพล ผู้ที่ทำการตัดสินใจในครั้งนั้น คือผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ นิกิต้า ครุสเชฟ (Nikita Khrushev) สื่งที่อยู่เบื้องหลัง การตัดสินใจ ก็คือ ความพยายามที่จะดึง เอาคะแนนเสียง ทางการเมือง จาก ยูเครน เพื่อชดเชยความผิดช่วงที่มี การกดขี่ชาวยูเครน ในช่วงปี ค.ส. 1930.
    นัยยะสำคัญ คือการตัดสินใจ ในเรื่องดังกล่าว ขัดแย้งต่อบริบท ของรัฐธรรมนูญ ในขณะนั้นด้วย การตัดสินใจเกิดขึ้นอย่างมีเบื้องหลังคลุมเครือ และเป็นเผด็จการที่ไม่ใส่ใจ ที้จะถามความเห็นของประชาชน เหล่านั้นใน ไครเมีย หรือ เซวาสโตโพล เลย พวกเขาต้องทนรับ ชะตากรรม แน่นอนว่าพวกเขา สงสัย ว่าทำไมถึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของ ยูเครน แม้ว่าในภาพรวมแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ยังคงอยู่รวมกัน ภายใน อาณาจักรเดียวกัน (สหภาพโซเวียต) ซึ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ยูเครน และรัสเซีย ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่ง ของกันและกัน จะแยกจากกัน เป็นสอง ประเทศ อย่างไรก็ตามแต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว.
    โชคร้าย ที่เราคิดว่า สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่กลายมาเป็นความจริง โซเวียตแยกออกเป็น ส่วนๆ สิ่งเหล่านั้น เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีน้อยคน ที่ตระหนักถึงความจริง และผลที่ตามมา ของเหตุการณ์นั้น หลายคนในรัสเซีย และยูเครน เอง รวมถึงอีกหลายๆคน ในสาธารณรัฐ ต่างๆ ต่างก็หวังว่าเครือจักภพ รัฐอิสระที่ตั้งขึ้น ในเวลานั้น จะกลายเป็นรูปแบบของรัฐใหม่ ที่มีควมมั่นคง พวกเขาได้รับการบอกว่า จะมีการใช้สกุลเงินเดียวกัน มีเศรษฐกิจร่วมกัน มีกองทหารร่วมกัน แต่อย่างไรก็ดี เหล่านั้นเป็นคำสัญญา ที่ว่างเปล่า ไม่มีดินแดนที่ยิ่งใหญ่อยู่อีกแล้ว และเมื่อไครเมีย กลายเป็นดินแดนชอวอีกประเทศหนึ่ง รัสเซียได้ตระหนัก ดีว่า มันไม่ใช่เหมือนถูกปล้นธรรมดา แต่เหมือนกับการถูกทุบตี
    ในเวลาเดียวกัน เมื่อเกิดการล้มสลาย ทุกคนลืมนึกถึง ไครเมีย และ เซวาสโตโพล ฐานทัพหลัก ของกองทัพเรือในทะเลดำ ประชาชนหลายล้านคน เข้านอนในประเทศหนึ่ง และได้ตื่นขึ้นมาพบว่า อยู่ในอีกประเทศหนึ่ง ภายในเวลาค่ำคืนเดียว พวกเขาได้กลายเป็นชนกลุ่มน้อย ของอดีตสหภาพโซเวียต ในขณะที่รัสเซียกลายเป็นชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
    ทุกวันนี้ หลังจากผ่านมาหลายปี ข้าพเจ้ายังได้ยิน ประชาชน ไครเมียพูดว่า เมื่อย้อนกลับไปในปี 1991 เราต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม ประเทศต้องเดินผ่านช่วงเวลา ที่ยากลำบากที่สุด ประชาชนไม่สามารถยอมรับ กับความไม่เป็นธรรม ในประวัติศาสตร์ นั้นได้ และหลายปีมานี้ ประชาชน ไครเมีย ต่างพากันพูดในที่สาธารณะเกี่ยวกับ ประเด็นนี้ พูดว่าไครเมีย เป็นดินแดนประวัติศาสตร์ ของรัสเซีย และ เซวาสโตโพล เป็นเมืองของ รัสเซีย ใช่! พวกเขายอมรับกันอยู่แล้ว ด้วยหัวใจ และ จิตใจ แต่พวกเราต้องดำเนินสิ่งต่างๆ ไปบนพื้นฐานของความเป็นจริง และรักษาความสัมพันธ์ ฉันท์เพื่อนบ้าน กับ ยูเครน
    พวกเราไม่เพียงเอาใจ ยูเครน ด้วยการต้องเสียไครเมีย แต่ว่ายังมีปัญหาทับซ้อน อื่นๆอีก เช่นเส้นพรมแดน ในทะเล เอซอฟ และที่บริเวณช่องแคบ เคิร์ซ ซึ่งพวกเราพยายาม ดำเนินการ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ อันดีกับ ยูเครน และพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ในขณะเดียวกันเราก็หวังให้ ยูเครน เป็นเพื่อนบ้าน ที่ปฏิบัติตนที่ดี เช่นเดียวกัน เราหวังว่าประชาชน เชื้อสายรัสเซีย ในยูเครน โดยเฉพาะ ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของยูเครน และไครเมีย จะได้รับอนุญาติ ให้มีชีวิตอย่างมีเสรีภาพ ประชาธิปไตย และมีความเป็นธรรม ที่จะได้รับการปกป้อง คุ้มครอง สิทธิ ของพวกเขา ในฐานะพลเมืองของยูเครน ตามระเบียบปฏิบัติแบบสากล และกฎหมายที่เป็นแบบสากล กำหนดไว้
    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ ได้เปลี่ยนแปลงไป ชาวยูเครนต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง พวกนักการเมือง ที่ครองอำนาจอยู่ ในขณะที่ยูเครนเป็นเอกราช มีการเปลี่ยน ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และ รัฐสภา หลายครั้ง แต่นักการเมืองที่เข้ามากลับมา ต่อสู้เพื่อแย่งชิง อำนาจ และละเลย ไม่สนใจประชาชนชาวยูเครน ในปี 2013 เพียงปีเดียว ชาวยูเครน กว่า 3 ล้านคน เข้ามาหางานทำในรัสเซีย เพราะปัญหาความยากจน
    ข้าพเจ้า เข้าใจประชาชน ชาวยูเครน เหล่านั้น ที่ออกไปประท้วง ด้วยความสันติ เพื่อต่อต้าน การ คอร์รัปชัน การบริการประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพ ปัญหาความยากจน พวกเขามีสิทธิ์ ที่จะประท้วงอย่างสงบ อย่างไรก็ตามมีคนที่อยู่ เบื่องหลังเหตุการณ์ รุนแรงที่เกิดขึ้น คนเหล่านั้น มีเป้าประสงค์ต่างออกไป พวกเขาได้มีการเตรียมรัฐบาลใหม่ เอาไว้แล้ว พวกเขาต้องการยึดอำนาจ โดยไม่สนใจสิ่งอื่นได พวกเขาใช้วิธีการก่อการร้าย การเข่นฆ่า และการจราจล พวกชาตินิยมหัวรุนแรง พวกนีโอนาซี พวกวิตกจริตที่หวาดกลัวรัสเซีย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารนี้ และพวกเขายังคง ชักใยอยู่ในยูเครน จนถึงทุกวันนี้
    พวกที่เข้ามายึดครองอำนาจ ได้ออกกฏหมาย เพื่อที่จะปรับ นโยบายเกี่ยวกับภาษา ซึ่งกฏหมาย นี้ได้ละเมิด ต่อสิทธิของ ประชากรกลุ่มน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้ให้การสนับสนุน ในต่างประเทศ ที่สันสนุนการยึดอำนาจ กลับบอกว่า มันเป็นแค่ "หลักการ" เท่านั้น มีบางคนยอมรับว่า ผู้ชี้นำให้เกิดสถานการณ์ อย่างในปัจจุบันนี้ เป็นผู้ที่ฉลาด และเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าจะจัดการให้ยูเครน ไปในทิศทางใด ร่างกฏหมายนั้น ได้ถูกระงับไว้ชั่วคราว แต่ชัดเจนว่ามันจะถูกนำกลับมาใช้ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม พวกเราได้ตระหนักดีว่า ความพยายามนี้ เป็นอุดมการณ์ ที่สืบทอดมาจาก บันเดร่า (Stepan Bandera) ผู้สนับสนุนฮิตเลอร์ ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2
    เป็นที่น่าสังเกตุว่า ไม่มีผู้มีอำนาจ ในการบริหารประเทศที่ถูกต้อง ตามกฏหมาย ในยูเครน ขณะนี้ ไม่มีใครที่สามารถ เป็นตัวแทน เจรจา หน่วยงานหลายแห่ง ของรัฐบาลยูเครน ถูกยึดครอง โดยผู้ไม่หวังดี แต่พวกเขาไม่สามารถแสดงตัว ออกมาได้ ข้าพเจ้า อยากจะย้ำตรงนี้ว่า พวกเขาเหล่านั้นส่วนใหญ่ เป็นพวกหัวรุนแรง ซึ่งคุณต้องได้รับอณุญาติเป็นพิเศษ จากกลุ่มกองกำลังติดอาวุธก่อน ที่จะได้ เข้าพบกับรัฐมนตรี ของรัฐบาล ปัจจุบัน เพื่อเจรจา เรื่องต่างๆได้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นความจริง
    ใครก็ตามที่ต่อต้าน การปฏิวัติ จะถูกตอบโต้ ด้วยความรุนแรง ซึ่งกลุ่มแรกคือชาวไครเมีย ประชาชนชาวไครเมีย และ เซวาสโตโพล จึงได้หันมาหา รัสเซีย เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ปกป้องสิทธิ และ ชีวิต ของพวกเขา ช่วยป้องกันสถานการณ์ ต่างๆ ในภายหน้า ที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ และที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น เคียฟ / โดเนสท์ / คารคอฟ / และเมืองอื่นๆ ในยูเครน
    เราจึง ไม่สามารถ ที่จะทนนิ่งเฉย ต่อคำวิวรณ์เหล่านี้ โดยไม่ตอบสนองได้ เราไม่สามารถละทิ้ง ไครเมีย และ ประชาชน ในยามวิกฤต ได้ มิอย่างนั้นจะ เท่ากับเราทรยศต่อตัวเอง
    ประการแรก เราจำเป็นต้องช่วย ทำให้ ประชาชนไครเมีย สามารถแสดงเจตจำนงค์ ของพวกเขาได้อย่างสันติ เพื่อกำหนดอนาคต ของตัวเอง ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
    อย่างไรก็ตาม เรากลับไม่ได้ยินมิตรสหาย ของเราในยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ พูดถึงสิ่งเหล่านี้เลย พวกเขาพูดแต่เพียงว่า เราละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ แต่มันก็ยังถือว่าดีอยู่บ้าง ที่อย่างน้อย พวกเขายังจำได้ ว่ามีกฏหมายระหว่างประเทศ อยู่ด้วย ดีกว่าที่พวกเขา จะจำอะไรไม่ได้เลย
    "แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเราละเมิดสิ่งใดกัน?"
    เป็นความจริงว่า ประธานาธิบดี ของรัสเซีย ได้รับอำนาจจากสภาสูง ในการใช้กำลังทหาร ในดินแดนยูเครน ได้ แต่ข้าพเจ้า ขอบอกอย่างชัดเจนว่า ยังไม่มีการกระทำใดๆ เช่นนั้นเลย แม้ว่าจะได้รับ อนุญาต มาแล้วก็ตาม...
    ป.ล. เป็นที่น่าสังเกตุว่า ความช่วยเหลือของรัสเซีย ที่หยิบยื่นให้ ไครเมีย และ เซวาสโตโพล ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นดั่งพี่น้องร่วมชาติกันมาก่อน โดยรัสเซีย มีความจำเป็น ต้องมีความเคลื่อนไหว ทุกวิถีทาง เพื่อความมีเสถียรภาพ ความสงบสุบ และสันติ ของภูมิภาคนี้ แต่กลับถูกมิตรสหาย (ไม่น่าจะใช่มิตร) ทางฝั่งตะวันตก กล่าวหาว่าละเมิด กฎหมายระหว่างประเทศ แบบหน้าตาเฉย ด้วยเหตุที่มีผู้อยู่เบื้องหลัง กับความพยายาม ทำให้เกิดความวุ่นวาย ด้วยไฟสงคราม และ ความไม่สงบต่างๆ และทำให้มันแผ่ขยายตัว เข้าไป ใกล้ๆบ้านของ รัสเซีย ซึ่งไม่เป็นผลดีกับรัสเซีย ทั้งทางตรง และทางอ้อม การยื่นมือ เพื่อเข้าไปจัดการกับปัญหา จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ และต้องรีบทำ การปกป้องอธิปไตย ของรัสเซีย จึงมีความถูกต้อง มากกว่าเกมส์การเมืองระหว่างประเทศ ที่แสนสกปรกมากมายนัก ^^
    ป.ล. หนึ่งในแฟนเพจของพวกเราได้เขียนบทความนี้ขึ้นมา แอ็ดมินจึงนำมาเผยแพร่ให้แฟนเพจท่านอื่นๆได้อ่านด้วยกันครับผม
    The Eyes
    09/09/2558
    ----------
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    [​IMG]

    ในขณะที่กลุ่มผู้อพยกำลังพากันวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณชายแดนของฮังการีวันนี้ (9 ก.ย.58) ก็มีคนบันทึกภาพของตากล้องของสถานีข่าวท้องถิ่นของฮังการี N1TV ผู้หญิงคนหนึ่งพยายามถีบและเตะผู้อพยพที่บางคนวิ่งไปชนหรือเข้าใกล้เธอ และมีชายผู้อพยพคนหนึ่งอุ้มเด็กวิ่งหนีตำรวจก็ถูกตากล้องคนดังกล่าวเตะตัดขาจนล้มลงหัวทิ่มเลย รายงานข่าวล่าสุดบอกว่าเธอถูกไล่ออกจากงานเนื่องจากต้นสังกัดรับพฤติกรรมของเธอไม่ได้
    The Eyes
    09/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Marko Djurica

    ----------
    https://www.youtube.com/watch?v=e2kdd-B_RQg
    Camerawoman Fired After Tripping Refugees Fleeing Police in Hungary (VIDEO)
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

    ข่าวบันเทิง: คำก็รัสเซีย สองคำก็รัสเซีย Oopz! ที่แท้ก็เรือดำน้ำอังกฤษนี่เองที่เกือบจมเรือประมงอังกฤษด้วยกัน ฮ่าๆๆ

    [​IMG]

    -----------------
    สุดจะฮาครับท่าน เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวได้ยียวนมากกกกว่า "‘Oops, it was us’: Military concedes British sub, not Russian, damaged UK trawler in April" แปลว่า "โอ๊ะโอ... ฝีมือพวกเราเองนิ: กองทัพ (เรือ) อังกฤษสารภาพว่ามันเป็นเรือดำน้ำของอังกฤษ ไม่ใช่ของรัสเซีย ที่ทำให้เรือลากอวนของอังกฤษเสียหายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา" เอ… คุ้นๆว่าเคยลงข่าวนี้ไปแล้วนะ ที่อังกฤษออกมาโวยวายว่าเรือดำน้ำอังกฤษได้ไล่ล่าเรือดำน้ำรัสเซียจนไปชนเข้ากับก้อนน้ำแข็งใต้ต้ำจนทำให้ส่วนบนของเรือดำน้ำอังกฤษได้รับความเสียหายในน่านน้ำของยุโรปเอง ประมาณนี้แหละ
    วันนี้อังกฤษออกมาสารภาพว่า ไม่ใช่รัสเซีย พวกเราเองนี่แหละ ฮ่าๆๆ... โอยยย จะเอาฮาไปถึงไหนครับนาโต้ ก่อนหน้านั้นรู้สึกว่าจะเป็นสวีเดนอีกประเทศหนึ่งหรือไงนี่แหละที่เห็นเรือลากจูงของเพื่อนบ้านปริ่มน้ำก็รีบด่วนสรุปไปว่า "ผมเห็นเรือดำน้ำรัสเซียอยู่ในน่านน้ำของเรา" จนนำไปสู่ปฎิบัติการไล่ล่าเรือดำน้ำรัสเซียกันยกใหญ่ และหลังจากที่มีการอนุมัติงบกลาโหมก้อนใหม่แล้วก็ออกมายอมรับว่า อ้อ… ที่แท้เป็นเรือพาณิชย์ของเอกชน ไม่ใช่เรือดำน้ำของรัสเซียเด้อออออ ชื่อเสียงของรัสเซียก็เน่าไปแล้วครับ
    รายงานข่าวบอกว่า กระทรวงกลาโหมของอังกฤษออกมายอมรับว่า "เรือดำน้ำที่ทำให้เรือลากอวนชาวไอริชได้รับความเสียหายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาปีนี้ เป็นฝีมือของพวกเราเอง ไม่ใช่ของรัสเซีย" ก่อนหน้านี้สำนักข่าวในถนน Fleet Street กรุงลอนดอน ได้จมอยู่กับการคาดเดาว่าเป็น "เรือดำน้ำศัตรูชาวรัสเซีย" ซึ่งเกือบจะทำลายเรือประมงไปซะแล้ว (สื่อฯรัสเซียชอบเสียดสีสื่อฯตะวันตกว่าเป็นพวก Russian hysteria หมายถึงเป็นโรคประสาทหวาดผวารัสเซีย หรือโรคสะดุ้งรัสเซีย แม้กระทั่งเห็นบิ๊กไบค์รัสเซียพวกตะวันตกก็ยังพากันตกใจหวาดผวาเลย เป็นเอามาก)
    Penny Mordaunt รัฐมนตรี State for the Armed Forces ของอังกฤษออกกล่าวในแถลงการณ์ว่า "…บัดนี้กองทัพเรืออังกฤษขอยืนยันว่าในความเป็นจริงแล้วเรือดำน้ำของอังกฤษขอแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีเป็นอุปสรรคของอวนของเรือ KAREN (ชื่อเรือประมง)"
    รายงานข่าวบอกว่าเรือประมง KAREN ได้รับความเสียหายอย่างหนักทั้งต่ออวนและและอุปกรณ์บนดาดฟ้าเรือในขณะที่อยู่ในทะเลไอริช (Irish Sea) หลังจากที่ถูกลากไปอย่างรุนแรงโดยเรือที่ไม่ปรากฏสัญชาติ
    แถลงการณ์บอกว่า "มันเป็นนโยบายของกระทรวงกลาโหมที่จะไม่แสดงความคิดเห็นในรายละเอียดเกีี่ยวกับปฏิบัติการ แต่โดยข้อยกเว้น ฉันสามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเนื่องจากเรือดำน้ำของอังกฤษไม่ได้ระบุเรือ KAREN ว่าเป็นเรือประมงที่มีอวนอยู่ในน้ำได้อย่างถูกต้อง และดังนั้นจึงไม่ได้ให้ตำแหน่งที่เรือลำน้ำควรจะอยู่"
    ตามแถลงการณ์ของ Penny Mordaunt นั้นกล่าวว่า ถ้าเรือดำน้ำของอังกฤษรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น "ซึ่งมันไม่ได้รับรู้เลย" นั่นคือระเบียบปฏิบัติ... อาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้เรือดำน้ำขึ้นสู่ผิวน้ำ และยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุในขณะที่มีการตรวจสอบเรื่องนี้ กระทรวงกลาโหมได้ติดต่อเจ้าของเรือ KAREN เพื่อหาเรือค่าเสียหายตามความเหมาะสม
    รายงานข่าวบอกว่าก่อนที่จะมีแถลงการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการนี้ สื่อฯของอังกฤษก็พากันประโคมข่าวด้วยการคาดเดาว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเรือ KAREN นั้นจะต้องเป็นฝีมือของเรือดำน้ำของรัสเซียแน่ๆ (Many media reports were certain it must have been a ‘Russian submarine’.)
    และแล้วได้ทีของสื่อฯรัสเซียที่จะเอาคืนบ้างหละ RT ก็ขุดมาหมดเลย มีกี่คดีที่พวกยุโรปเคยกล่าวหาว่าเป็นเรือดำน้ำของรัสเซียและในที่สุดแล้วก็พิสูจน์ว่า ไม่ใช่! แต่แปลกนี้ ไม่เห็นมีรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นออกมากล่าวขอโทษรัสเซียอย่างเป็นทางการเลย สื่อฯหน้าด้านของพวกตะวันตกก็เช่นกัน อย่างมากก็แค่บอกว่ารอบนี้ไม่ใช่เรือรัสเซียอ่ะ (แต่รอบหน้าไม่แน่ ฮ่าๆๆ) ครั้นจะให้พวกนี้ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการออกแถลงการณ์ว่าขออภัยนะชาวรัสเซียที่สื่อฯปากมอมอย่างพวกเรากล่าวหาให้ร้ายพวกท่านมาก่อนเพราะเข้าใจผิด แบบนี้ไม่มีหรอก ฝันไปเหอะ
    The Eyes
    09/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ UK Ministry of Defence

    ----------
    ‘Oops, it was us’: Military concedes British sub, not Russian, damaged UK trawler in April — RT UK
    Royal Navy Operations:Written statement - HCWS177 - UK Parliament
    Breaking the Ice: British Sub Suffers $750K Damage Tracking Russian Ships
    https://en.wikipedia.org/wiki/Penny_Mordaunt
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    พั๊วะ! หมัดที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้นะนี่... จีนมุ่งมั่นเขี่ยดอลล่าร์ออกจากการซื้อขายน้ำมัน

    [​IMG]

    ------------
    วันที่ 8 ก.ย.58 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "China intends to oust dollar from oil trade" อ้างข่าวจากรอยเตอร์สของแคนาดาและซินหัวของจีน (เสร็จเลย จักรวรรดิเฮเกจอมเกเร)
    รายงานข่าวบอกว่า จีนกำลังวางแผนกำหนดเกณฑ์มาตรฐานราคาน้ำมันดิบ (Crude oil benchmark) ของตนเองขึ้นมาในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งก็คล้ายกับราคาน้ำมันดิบ Brent ของอังกฤษและ WTI ของสหรัฐฯ โดยมุ่งมั่นสู่การมีบทบาทที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นในการกำหนดราคาน้ำมันดิบ ไม่เหมือนกับ benchmark ของตะวันตก จีนจะเสนอให้มีการทำสัญญาซื้อขายเป็นสกุลเงินหยวน (Yuan) ไม่ใช่เงินดอลล่าร์สหรัฐฯ (กรรม! หละสิสหรัฐฯ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ มิน่าหละ พักหลังมานี้พี่แกถึงได้ดิ้นหนักเหลือเกิน)
    ตลาดซื้อขายพลังงานระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ (Shanghai International Energy Exchange) ของจีนได้ส่งร่างสัญญาการซื้อขายล่วงหน้าไปยังผู้เล่นในตลาดตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รอยเตอร์สรายงาน
    ส่วนสำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า การซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าจะเป็นสัญญาฉบับแรกของจีนที่จะอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามีส่วนร่วมโดยตรง อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ก้าวแรกสำหรับการเปิดตลาดน้ำมันมากเพิ่มมากขึ้นในจีน ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมากรุงปักกิ่งได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนนำเข้าน้ำมันดิบได้ ซึ่งการน้ำเข้าน้ำมันดิบก่อนหน้านี้กระทำได้เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีรัฐเป็นเจ้าของเท่านั้น เช่น Sinopec, China National Petroleum Corporation และ China National Offshore Oil Corporation
    การซื้อขายที่มีฐานอยู่ในเซี่ยงไฮ้จะเป็นการแข่งขันกันในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า (crude futures market) ซึ่งมีมูลค่าเป็นล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (trillions) และถูกครอบงำโดยตลาดสองแห่งคือ Brent ของอังกฤษซึ่งถูกมองว่าเป็น benchmark โลก และ WTI ซึ่งเป็นราคาหลักของสหรัฐฯ (ส่วนในภูมิภาคเอเซียโดยเฉพาะอาเซียนนี้ก็มีน้ำมันดิบดูไบที่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร ไทยใช้ bencmark ของที่นี่)
    มีการพัฒนาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือขึ้นมาในปี 1970s การซื้อขายล่างหน้าของ ICE Brent ได้มีการพัฒนาขึ้นในปี 1998 ซึ่งมีการส่งออกประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน การผสมผสานกันนี้ได้รับการพิจารณาให้เป็น benchmark และปัจจุบันนี้สัญญาการซื้อขายก็ถูกนำไปกำหนดราคาให้กับน้ำมันโลกโดยคร่าวๆประมาณ 2/3
    จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือว่าเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เกือบ 60% ของการบริโภคน้ำมันมาจากการนำเข้าจากต่างประเทศ
    ก็เมื่อให้ผู้ผลิตเป็นผู้กำหนดราคามาแต่ไหนแต่ไร และมีความรู้สึกว่าไม่ค่อยจะเป็นธรรมกับจีนสักเท่าไรนักเพราะว่าจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ และการซื้อของจีนก็มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกด้วย เรื่องอะไรจะปล่อยให้ต่างชาติมีสิทธิกำหนดมาตรฐานราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว วันนี้ในฐานะผู้บริโภครายใหญ่จีนก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกบ้าง และที่่สำคัญก็คือไม่ต้องไปยุ่งกับตลาดอื่นเลย สร้างตลาดของตัวเองขึ้นมาใหม่ซะเลย หนักกว่านั้นก็คือตลาดนี้ไม่รับดอลล่าร์ของสหรัฐฯครับ รับแต่เงินหยวน ซื้อขายกันเป็นเงินหยวน นี่คือกลยุทธ์ในการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนอีกรูปแบบหนึ่ง ลดความสำคัญและบทบาทของดอลล่าร์ลงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวดอลล่าร์ก็จะแห้งตายเองในที่สุด จริงๆแล้วเริ่มมีการใช้คำว่า "PetroYuan" เพื่อเปรียบเทียบกับ "Petrodollar" ของสหรัฐฯมาได้สักพักหนึ่งแล้วนะ และจีนก็กำลังจะทำให้มันเป็นจริงในเร็วๆนี้ เพราะพักหลังนี้รู้สึกว่าจักรวรรดิเฮเกจะออกอาการก้าวร้าวหาเรื่องจีนบ่อยครั้งมากขึ้น จึงต้องสั่งสอนแบบเอาจริงบ้าง
    The Eyes
    10/09/2558

    ภาพจาก © Carlos Garcia Rawlins / Reuters

    ----------
    China intends to oust dollar from oil trade — RT Business
    China oil market reform paves way for new crude benchmark | Reuters
    China opens up crude oil import to private refineries - Xinhua | English.news.cn
    https://www.theice.com/publicdocs/futures/ICE_Brent_FAQ.pdf
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    BRICS ควรจะเข้าไปแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง - อดีตรมว.กลาโหมของเลบานอนกล่่าว

    [​IMG]

    ------------
    เอาแล้วไง... มีคนชงมุกนี้ขึ้นมาจนได้ เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า Abdul Rahim Mourad อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเลบานอนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า "งานของกลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้) ในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งต่างๆในตะวันออกกลางน่าจจะสามารถต่อสู้กับความพยายามของสหรัฐฯได้ในเร็วๆนี้" (ว้าววว! รู้ได้ไงว่าเฮียปูตินกับเฮียสีกำลังคิดแผนนี้อยู่อ่ะ ฮ่าๆๆ)
    Abdul Rahim Mourad กล่าวในการแถลงข่าวต่อคณะผู้แทนของสมัชชาแห่งชาติเลบานอน (Lebanese National Assembly) ว่า "ประเทศสมาชิกของกลุ่ม BRICS สามารถที่จะกลายเป็นคู่ปรับที่ทรงคุณค่าของสหรัฐฯและอาจจะนำไปสู่การยุติสถานการณ์ในตะวันออกกลางได้ด้วย พวกเราต้องการให้กลุ่มประเทศสมาชิกของ BRICS เป็นพลังขับเคลื่อนหลักในภูมิภาคนี้"
    อดีตรมว.กลาโหมของเลบานอนกล่าวเพิ่มเติมว่า "ระเบียบเก่าของเจ้าอำนาจสหหรัฐฯแต่เพียงผู้เดียวในตะวันออกกลางนั้นได้มีชีวิตมาอย่างยาวนานเพื่อผลประโยชน์ของตนมากพอแล้ว"
    สหรัฐฯได้เข้าไปมีส่วนร่วม (/แทรกแซง) ในความคิดริเริ่มต่างๆเพื่อพยายามแก้ไขความขัดแย้งจำนวนมากในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงการเริ่มโจมตีทางอากาศใส่พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสทั้งในอิรัคและในซีเรีย รวมถึงอิสราเอลและปาเลสไตน์ด้วย เพื่อจะอยู่ร่วมได้โดยสันติเคียงข้างกัน (อันนี้เขาประชดนะครับ โปรอเมริกาไม่ต้องยิ้ม คริๆ)
    รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่ม BRICS ได้ร่วมกันลงนามยอมรับคำประกาศอูฟ่า (Ufa Declaration) ซึ่งแสดงจุดยืนพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาสงครามกลางเมืองในซีเรียในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงหลายฉบับ
    ไหน… มาวิเคราะห์ดูซิว่าแนวความคิดนี้มีความเป็นมาอย่างไร เหมาะสำหรับการเดินเกมจากฝั่งรัสเซียและพันธมิตรใหม่บ้างหรือไม่? เท่าที่สังเกตดูนี่พักหลังมานี้หลังจากสงครามเวียตนามแล้ว จักรวรรดิเฮเกจะไม่กล้าบุกเดี๋ยวประเทศไหนอีก เวลาจะไปหาเรื่องรุกรานประเทศไหนก็จะพาพวกมหาอำนาจในอียูและสมาชิกนาโต้ไปร่วมด้วยเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้นานาชาติรุมประนามว่าไปรุกรานประเทศอื่น ซึ่งมันก็ได้ผลมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่โคโซโว อิรัค อัฟกานิสถาน ลิเบีย ซีเรีย พวกนี้จะพากันไปรุมกินโต๊ะประเทศที่พวกเขาไปก่อสงครามร่วมกัน
    เนื่องจากรัสเซียไม่ต้องการให้ซีเรียกลายเป็นลิเบียสอง ดังนั้นจึงต้องเข้าสะกัดแผนร้ายของจักรวรรดิเฮเกกับพวกเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ส่งกองทัพของตนเองเข้าไปลุยอย่างออกหน้าออกตาเหมือนกับที่จักรวรรดิเฮเกทำในตะวันออกกลางในช่วงแรกๆ รัสเซียให้การสนับสนุนด้านอาวุธ การฝึกทหาร และทางด้านเทคนิคอื่นๆแทน ครั้งรัสเซียจะเดินเกมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มีโอกาสที่รัฐบาลซีเรียจะชนะกองทัพตัวแทนของฝ่ายจักรวรรดิเฮเกได้น้อย เพราะในระยะยาวมีแต่ซีเรียเท่านั้นที่จะสูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันจะกลายเป็นสงครามตัวแทนแบบนี้ไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด แน่นอนว่าฝ่ายจักรวรรดิเฮเกกับพันธมิตรนั้นมีเงินหนากว่า ถ้ายืดเยื้อ รัสเซียก็อาจจะเพรี่ยงพร้ำมากกว่านี้ก็ได้ เพราะกลุ่มจักรวรรดิเฮเกก็จะหาทางตัดแขนตัดขารัสเซียทุกช่องทางเช่นเพิ่มมาตรกรแซงชั่นให้แรงขึ้นไปอีก หรือขยายเวลาออกไปอีก แบบนี้ไม่เป็นผลดีกับรัสเซีย
    แต่ถ้ารัสเซียพลิกเกมให้กลยุทธแบบจักรวรรดิเฮเกบ้าง โดยหาพรรคพวกเพิ่มซึ่งนั่นก็คือกลุ่ม BRICS, SCO, CIS เป็นต้นก็จะสามารถทานอำนาจของจักรวรรดิเฮเกกับพวกได้ ถ้าจีน หรือ BRICS เข้าร่วมด้วย หมายถึงร่วมกันปกป้องซีเรียและต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย ก็จะทำให้พันธมิตรของจักรวรรดิเฮเกโดยเฉพาะตะวันตกเร่ิมจะลังเลใจบ้างหละ เพราะพวกนั้นคงจะไม่อยากมีศัตรูเพิ่มขึ้นด้วยแน่ๆ และที่สำคัญจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ทั้งของจักรวรรดิเฮเกและอียูด้วย และถ้ายิ่งได้ BRICS เข้าไปร่วมด้วยทั้งกลุ่มเลย งานนี้อียูไม่กล้าชนแน่ จะเหลือก็แต่จักรวรรดิเฮเกหัวโด่อยู่คนเดียว ดูซิว่ายังจะกล้าเข้าไปถล่มซีเรียอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับท่าทีของ BRICS ว่าจะเริ่มลงมือได้เมื่อไร คงจะปล่อยให้รัสเซียกรุยทางไปก่อน และเมื่อพบว่าจักรวรรดิเฮเกไม่ยอมเลิกลาพฤติกรรมอันธพาลชอบเที่ยวระรานชาวบ้านไปทั่วแบบนั้น ก็คงจะถึงคราว BRICS เดินหน้าเต็มตัวบ้างหละ จุดประสงค์ก็เพื่อกดดันให้จักรวรรดิเฮเกถอยออกจากซีเรียนั่นเอง
    The Eyes
    10/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo

    ----------
    BRICS Should Resolve Middle East Conflicts – Lebanese Ex-Defense Minister
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    รัสเซียยึดอกรับว่า "ใช่, คนของกรุงมอสโคว์ฝึกชาวซีเรียให้อุปกรณ์ทางทหารของรัสเซีย" (Yes, Moscow's Men Are Teaching Syrians to Use Russian Military Equipment) แล้วจะทำไม?

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Yes, Moscow's Men Are Teaching Syrians to Use Russian Military Equipment" Maria Zakharova โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงข่าวเมื่อวันพุธนี้ว่า "ปัจจุบันนี้เจ้าหน้าที่พิเศษทางกองทัพของรัสเซียได้ปฏิบัติการอยู่ในซีเรีย เพื่อช่วยสอนการใช้อาวุธและยุทโธปกรณ์ทางทหารของรัสเซียให้กับ (ทหาร) ซีเรียซึ่งกำลังมีการจัดส่งไป"
    เมื่อไม่กี่วันมานี้ สื่อฯต่างๆหลายสำนักพากันออกมาเผยแพร่ภาพซึ่งพบจากบัญชีผู้ใช้งานในโลกโซเชียลมีเดีย ได้แสดงให้เห็นว่ามีกองทัพรัสเซียประจำการอยู่ทั่วซีเรีย โฆษกหญิง ก.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "ฉันสามารถยืนยันและขอเน้นย้ำว่า มีเจ้าหน้าที่พิเศษทางกองทัพของรัสเซียอยู่ในซีเรียจริง ซึ่งกำลังช่วยฝึกสอน (การใช้) อุปกรณ์ต่างๆที่ถูกส่งไป"
    ก่อนหน้านี้ Zakharova ได้เน้นย้ำแถลงการณ์ของนาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียว่า "รัสเซียได้ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ (equipment) แก่รัฐบาลซีเรียเสมอมาในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย"
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินก็ได้ออกมายืนยันว่า "รัสเซียได้ให้การสนับสนุน 'เป็นจำนวนมาก' (considerable) แก่ซีเรียในแง่ของอุปกรณ์ การฝึกซ้อม และยุทโธปกรณ์"
    ซีเรียได้เผชิญกับสงครามกลางเมือง (civil war) มาตั้งแต่ปี 2011 ความขัดแย้งหลักมาจากการต่อสู้กันระหว่างรัฐบาลซีเรียกับฝ่ายตรงกันข้ามที่เรียกว่า "moderate opposition/rebels" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด แต่มันถูกทำให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นโดยกลุ่มหัวรุนแรง เช่นพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส ที่ปฏิบัติการก่อเหตุอยู่ภายในประเทศซีเรีย
    ทีสหรัฐฯกับพันธมิตรยังฝึกและสนับสนุนพวกกบฏสายกลางให้ต่อต้านรัฐบาลซีเรียได้ แล้วทำไมรัสเซียจะสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลซีเรียให้ต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายและพวกกบฏที่คิดจะล้มล้างรัฐบาลอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้งเช่นกันบ้างไม่ได้?
    The Eyes
    10/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Alexey Kudenko

    ----------
    Yes, Moscow's Men Are Teaching Syrians to Use Russian Military Equipment
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เสือย่อมไม่เปลี่ยนลายของมัน: สหรัฐยังคงเดินหน้าสร้างความขัดแย้งไปทั่วโลก ('Tiger Hasn’t Changed Its Stripes': US Continues Creating Global Conflicts)

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวตามที่เขียนไว้ข้างบนนั้น มาดูเนื้อข่าวซิว่าทำไมบางคนถึงพูดอย่างนั้น และใครที่เป็นคนพูดแบบนี้ เขาเป็นชาวรัสเซียหรือเปล่า?
    Sputnik news ของรัสเซียเกริ่นนำนิดหน่อยว่า "รัฐบาลของนายโอบาม่าได้เปลี่ยนแปลงนโยบายของตนเองที่มีต่ออิหร่าน และได้ทำข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์ เพื่อมุ่งเป้าไปยังภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก บางทีอาจจะเตรียมการเพื่อ (ก่อ) ความขัดแย้งขึ้นมาในประเทศจีนก็ได้ ตามความเห็นของนักกิจกรรมต่อต้านสงคารในชิคาโก" (เริ่มแพรมออกมาบ้างแล้วว่าคนที่พูดนี้อยู่ในสหรัฐฯ)
    นาย Joe Iosbaker ผู้นำขององค์กรพันธมิตรต่อต้านสงครามแห่งสหประชาชาติ (United National Antiwar Coalition - UNAC) กล่าวว่า "หลังจากยุคของนาย George W. Bush แล้ว นายโอบามาก็ได้มีจุดยืนที่แตกต่างออกไปต่อนโยบายสงครามเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง" (จริงเหรอ Joe Iosbaker? นายคิดอย่างนั้นจริงๆหรือว่ามีบางคนจ้างให้นายมาพูดประเหลาะโอบาม่ากันแน่? นายมองไม่เห็นหรือว่าเกิดอะไรขึ้นในซีเรียบ้าง หรือว่านายเสพสื่อฯอเมริกาและสื่อฯตะวันตกจนทำให้สมองนายเพี้ยนไปแล้ว?)
    Joe Iosbaker กล่าวในกับสถานี Press TV ในวันพุธที่ผ่านมาว่า "เขาได้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่นโยบายสงครามจากนโยบายเก่าในยุคบุชที่มีการเตรียมการเพื่อการต่อสู้ในสงครามครั้งยิ่งใหญ่สองสงคราม เพื่อเตรียมการสำหรับการต่อสู้เพียงสงครามเดียว" (มันก็ไม่ต่างกันหรอก เพียงแต่เปลี่ยนสองสงครามไปเป็นสงครามเดียวเท่านั้น สรุปมันก็บ้าสงครามพอกันนั่นแหละ)
    นาย Joe Iosbaker กล่าวว่า "คุณไม่สามารถที่จะเข้าใจข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านได้ ยกเว้นคุณจะจะปักหมุดลงในเอเซียได้ซะก่อน" (แต่จีนกับรัสเซียและตะวันตกเข้าใจดีทุกอย่าง ไม่งั้นคงไม่ผลักดันให้เกิดข้อตกลงยุติปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านลงได้)
    นักกิจกรรมต่อต้านสงครามชาวอเมริกันยังได้จดจำความทรงจำที่สร้างโดยนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯที่มีต่อนายเบญจามิน เจทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลที่รับปากว่าจะยังคงให้การสนับสนุนต่อสหรัฐฯต่อไป ขีดเส้นใต้ว่ากรุงวอชิงตันจะยังคงเดินหน้าสร้างความขัดแย้งไปทั่วโลก (underscoring that Washington will continue to create conflicts around the world)
    นาย Joe Iosbaker กล่าวว่า "สหรัฐฯได้เข้าไปพัวพันในสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น (endless war) มาเป็นเวลาถึง 14 ปีแล้ว และนั่นก็จะดำเนินต่อไปอีก เสือจะไม่มีทางเปลี่ยนลายของมัน (เด็ดขาด!)" (งั้นก็คอยดูฉากหมีรัสเซียกับแพนด้าถลกหนังเสือของนาย Joe Iosbaker ก็แล้วกัน ตอนนี้กำลังเริ่มต้นเตรียมประกอบพิธีบูชายันตร์กันอยู่)
    นายแคร์รี่ได้เจรจาข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์ (ของอิหร่าน) ที่กรุงเวียนนา กับนายเนทันยาฮู และยันยืนในพันธกรณีของกรุงวอชิงตันที่มีต่อความมั่นคงของอิสราเอลทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย John Kirby โฆษก ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันอังคารนี้
    รายงานข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการทูตของสหรัฐฯได้โทรศัพท์ (แจ้งข่าวให้ทราบ) หลังจากที่ทำเนียบขาวชนะโหวตในวุฒิสภาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน
    สรุป… ในบทความสั้นๆนี้ นาย Joe Iosbaker ออกมายกย่องนโยบายของนายโอบาม่าว่าการหันไปเตรียมการก่อสงครามเพียงสนามเดียวคือมุ่งไปที่จีน (เอเซีย) นั้นดีกว่าการเตรียมการก่อสงครามสองสนามตามนโยบายของรัฐบาลที่แล้วของจักรวรรดิเฮเกว่างั้นเถอะ เขาไม่ได้บอกตรงๆว่าเขาเห็นด้วยกับนโยบายของโอบามาหรือไม่ แต่ฟังจากสำเนียงของเขาแล้วดูเหมือนว่าเขาจะเชียร์โอบาม่ามากกว่าบุช คำถามก็มีอยู่ว่า แล้วคุณจะก่อตั้งองค์กรต่อต้านสงครามขึ้นมาทำแป๊ะอะไร หากคุณยังทำตัวเหมือนเห็นดีเห็นงามกับการก่อสงครามอยู่แบบนี้?
    The Eyes
    10/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Stephen Melkisethian

    ----------
    'Tiger Hasn’t Changed Its Stripes': US Continues Creating Global Conflicts
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ข่าวเล็กๆในมุมหนึ่งของอเมริกา... เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานผลิตวัตถุอันตรายในเมือง Phoenix, Arizona สหรัฐฯ

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อวานนี้ก็พึ่งจะเกิดเหตุไฟไหม้เครื่องบินโดยสารของอังกฤษในสหรัฐฯ วันนี้ก็มีข่าวล่าสุดจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งตามที่พาดหัวข่าวข้างบนนั้น RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "รายงานข่าวบอกว่าเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งไฟลุกท่วมวัตถุอันตรายในเมืองฟีนิกซ์" (Explosions reported as 'hazardous material' fire rages in Phoenix)
    สำนักข่าวท้องถิ่น (ของสหรัฐฯ) รายงานว่าเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซน่า มีเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกท่วมวัตถุอันตรายและมีการอพยพประชาชนในพื้นที่
    ยังไม่ระบุสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ แต่รายงานข่าวบอกว่าเปลวไฟได้เผาไหม้โรงงานน้ำมันยางมะตอย (tar plant) ท้องถิ่น อ้างรายงานข่าวจาก CBS News สถานที่เกิดเหตุระเบิดอยู่ที่ 19th Avenue and Broadway
    อึ่มมมม! ป.ล. Arizona เป็นรัฐหนึ่งที่อยู่ในแผนปฏิบัติการซ้อมรบภายในประเทศภายใต้ปฏิบัติการ Jade Helm 15
    The Eyes
    10/09/2558

    ภาพจาก © azfamily.com

    ----------
    Explosions reported as 'hazardous material' fire rages in Phoenix — RT USA
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    [​IMG]

    Arizona เป็นรัฐหนึ่งที่อยู่ในแผนปฏิบัติการซ้อมรบภายในประเทศภายใต้ปฏิบัติการ Jade Helm 15
     
  13. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    รอเมื่อยแล้ว
     
  14. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    เท่าที่ติดตามมา ..... แหมมัน งวดเข้าๆ แต่ก็ยัง ง้างๆ เงือมๆ งึกๆ งักๆ กันอยู่ สุดยอดเกมส์ การเมืองระดับโลก สามก๊ก ซุนวู ฯ แล้วแต่จะเรียก ไม่รู้สิ รู้สึกว่าปัญหาในประเทศนี้เล็กไปเลย เพราะมันเกี่ยวกันไปหมดเลย วุ่นวายดีแท้ โลกมนุษย์
     
  15. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    :boo::boo::boo: อย่าให้ถึงเวลานั้นเลย
    ยังสะสมสะเบียงไม่พร้อมเลย
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    10 ก.ย.58 ครบรอบ 1 ปีโอบาม่าแถลงการณ์เปิดการโจมตีทางการอากาศใส่ซีเรียอ้างว่าเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

    [​IMG]

    -----------
    เมื่อวานนี้สื่อฯรัสเซียช่วยรัฐบาลสหรัฐฯฟื้นฟูความทรงจำ โดยทำภาพการ์ตูนล้อเลียนบางคนและมีข้อความบรรยายว่า "ขอแสดงความยินดีด้วย! หนึ่งปีผ่านไปนับตั้งแต่การประกาศของนายโอบาม่าเกี่ยวกับยุทธศาสตร์แห่งชาติในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายไอซิส ยุทธศาสตร์นี้ผลาญเงิน (ภาษีของประชาชนชาวอเมริกัน) ไปหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน และไอซิสก็ยังอยู่ที่นั่น (จนถึงทุกวันนี้)..."
    Sputnik news ของรัสเซียสรุปว่า มีประเทศพันธมิตรทั้งในตะวันตกและในตะวันออกกลางถึง 12 ประเทศเข้าร่วมแคมเปญจ์การทิ้งระเบิดที่นำโดยสหรัฐฯเพื่อต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิส กองกำลังพันธมิตรได้มีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถึง 6,700 ครั้งทั้งในอิรัคและในซีเรีย อย่างไรก็ตาม 12 เดือนต่อมา ดูเหมือนว่าการโจมตีที่นำโดยสหรัฐฯต่อพวก jihadist กำลังทำให้อาหรับเป็นง่อยพิการ
    รู้หรือเปล่าว่า มีโปรอเมริกาบางคน (เห็นบอกว่าอยู่ที่แอลเอ) ออกมาบอกว่าอเมริกาไม่ได้เข้าไปทำอะไรในซีเรียเลย กรรม! คุยกันมาตั้งนาน สรุปได้ว่าเขารับรู้ข้อมูลแบบนั้นมาจากสื่อฯของสหรัฐฯและเขาก็เชื่ออย่างนั้นจริงๆ น่าเศร้าอ่ะ ขนาดเอาคลิปที่โอบามาแถลงการณ์ให้เขาดูพร้อมลิ้งอ้างอิงจากเว็บไซต์ของทำเนียบขาวด้วย เขาก็ไม่เชื่อว่าเป็นจริง แต่เขาเชื่อว่าสหรัฐฯและตะวันตกไม่ได้บุกหรือรุกรานซีเซียทั้งๆที่รัฐบาลสหรัฐฯประกาศอยู่ปาวๆว่า มีกองกำลังพันธมิตรโจมตีทางอากาศใส่ซีเรียไปกี่ครั้งแล้วแทบจะทุกวันเขาก็ไม่เชื่อ
    ก็จนปัญหาข้าน้อยจะอธิบายให้เข้าใจได้หละ เพราะคุยไปคุยมาเขาบอกว่าไม่มีเวลาใช้ตรรกะ (logic) หรือเหตุผลในการดูข่าวหรือเสพข่าว ซะงั้น ฮ่าๆๆ ครับเป็นความผิดของแอ็ดมินเองที่ไปให้ข้อมูลกับคนที่เข้ามาเถียงในบ้านคนอื่นโดยไม่ต้องใช้เหตุผล มีคนประเภทนี้อยู่บนโลกใบนี้จริงๆด้วย และไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนไทยด้วยอ่ะ ยังดีที่ตอนนี้เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินไทยแล้ว โล่งอกไปที เขาไปอยู่เป็นเพื่อนกับโอบาม่าแล้ว โชคดีนะโอบ่ามา ฮ่าๆๆ
    The Eyes
    11/09/2558

    ภาพจาก Sputnik International

    ----------
    Pricey Promise
    http://sputniknews.com/…/Obama-ISIL-terrorism-jihadists.html
    https://www.youtube.com/watch?v=spIWGoNZnaU
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    มหกรรมลดแลกแจกแถมครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นในตลาดน้ำมันโลกแล้ว... ไนจีเรียประกาศยกเลิกแบนเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของต่างชาติร้อยกว่าลำให้เข้าสู่น่านน้ำของตนเองได้

    [​IMG]

    -----------
    เอาหละสิ... ใครบางคนกำลังเล่นเกมถล่มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกรอบใหม่อีกครั้ง เมื่อสัปหาด์ก่อนซาอุดิฯพึ่งจะประกาศว่าจะรดราคาน้ำมันที่นำเข้าไปยังสหรัฐฯลงในราคาพิเศษ (แลกกับใบเขียวในการเปิดทางให้ซาอุดิฯเดินหน้าถล่มเยเมนต่อไป? โดยซื้ออาวุธจากสหรัฐฯและอียู) วันนี้ (11 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียก็พาดหัวข่าวว่า "ไนจีเรีย ยกเลิกการห้ามเรือบรรทุกน้ำมันดิบและแก๊ซของต่างชาติ 100 กว่าลำ" (Nigeria Lifts Ban for Over 100 Foreign Tankers to Load Crude Oil, Gas)
    รายงานข่าวบอกว่า ประเทศไนจีเรียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกโอเปกได้ยกเลิกการแบนเรือบรรทุกน้ำมันของต่างประเทศจำนวน 113 ลำซึ่งมีอายุ 2 เดือนให้เข้าสู่น่านน้ำเพื่อบรรทุกน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติของไนจีเรียได้ สำนักข่าว Lloyd’s List รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยอ้างจดหมายจากบมจ.ปิโตรเลียมแห่งชาติของไนจีเรีย (Nigerian National Petroleum Corp - NNPC)
    ประธานธิบดี Muhammadu Buhari ของไนจีเรียได้ลงนามคำสั่งโดยตรงเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมาเพื่อแบนเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 113 ลำไม่ให้เข้าสู่น่านน้ำของประเทศไนจีเรีย ซึ่งมีรายงานว่าเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะปราบปรามการค้าน้ำมันดิบเถื่อน (crack down illegal crude oil trading)
    รายงานข่าวบอกว่าจดหมายลงวันที่ 8 กันยายน ได้กล่าวว่า ปธน. Buhari ได้ตัดสินใจอนุญาตให้เรือบรรทุกน้ำมันดิบมากกว่า 100 ลำเข้าสู่น่านน้ำของประเทศไนจีเรียได้ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการภายในประเทศต้องออกหนังสือรับประกันว่าเรือเหล่านั้นจะไม่ถูกนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย (แคนี้? ฮ่าๆๆ เฮ้อ… โปร่งใสจริงๆครับท่าน อ่ะอยากจะเล่นเกมอะไรก็เล่นไปครับ ประเทศของพวกคุณ น้ำมันของพวกคุณนิ)
    ในวันที่ 27 กรกฎาคม ปธน.ไนจีเรียแถลงว่ามีการขโมยน้ำมันดิบในประเทศอย่างน้อย 250,000 บาร์เรลต่อวัน (ว้าววว!) คราวนี้ก็จะเท่ากับว่าจะมีน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในตลาดอีกราววันละ 250,000 บาร์เรล คงจะยากที่จะคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้
    The Eyes
    11/09/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ STEPHANE DE SAKUTIN

    ----------
    Nigeria Lifts Ban for Over 100 Foreign Tankers to Load Crude Oil, Gas
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียสั่งสอนรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกรณีซีเรีย

    [​IMG]

    ------------
    วันที่ 10 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ลุงลารอฟยืนยันว่า กองทัพรัสเซียปรากฎตัวในซีเรียจรงิเพื่อขนอาวุธไปให้กองทัพ (ซีเรีย)" (Lavrov Confirms Russian Military Present in Syria to Deliver Arms to Army)
    นาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อฯว่า "มีบุคคลากรทางกองทัพของรัสเซียอยู่ในซีเรีย (จริงๆ) พวกเขาอยู่ที่นั่นมาหลายปีแล้ว (ฮ่าๆๆ ถูกต้องครับท่าน แอ็ดมินยังรู้เลย ก็อยู่ที่ท่าเรือเมือง Tartus มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ ทั่วโลกเขารู้กันทั้งนั้น มีแต่โปรอเมริกาเท่านั้นที่ยังไม่รู้) การปรากฎตัวของพวกเขาเกี่ยวเนื่องกับการขนส่งอาวุธไปให้กองทัพซีเรียซึ่งมีการต่อสู้กับพวกขบวนการก่อการร้ายอย่างรุนแรงจากพวกไอซิสและกลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่ม ดังนั้น บุคคลากรด้านกองทัพของรัสเซียจึงอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยฝึกซ้อมการใช้อุปกรณ์ให้กับทหารซีเรีย และเตรียมการเพื่อใช้ในการต่อสู้ต่อต้านการก่อการร้าย"
    เนี่ย! ก็แค่นี้ ทีสหรัฐฯ แคนาด อังกฤษ ยังส่งทหารของตนไปฝึกให้กับกองทัพยูเครนได้เลย แล้วทำไมรัสเซียจะส่งไปฝึกให้กับทหารของซีเรียบ้างไม่ได้? สหรัฐฯส่งทหารของตนไปฝึกให้กับกลุ่มติดอาวุธที่สหรัฐฯตั้งชื่อให้ว่า "กบฏสายกลางซีเรีย" ได้ แล้วทำไมสหรัฐฯถึงต้องออกมาโวยวายกับการที่รัสเซียส่งทหารของตนไปฝึกให้กับทางซีเรียซะหละ? กลัวไอซิสจะสูญพันธุ์ไปหมดหรือไง? เออ… อันนี้น่าคิดนะ พอรัสเซียประกาศว่าจะส่งทหารเข้าไปช่วยฝึกการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับทหารซีเรียเท่านั้นและทั้งรัฐบาลสหรัฐฯและโปรอเมริกาต่างออกพากันฟึดฟัดออกมากวัดแกว่งเขาไล่ขวิดเพจชาวบ้านเขาไปทั่ว (อันนี้พูดจริงนะ หนุกเลยหละ ฮ่าๆๆ)
    ท่านรัฐมนตรีลารอฟกล่าวต่ออีกว่า "[รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ] ได้เสนอคำแนะนำแปลกๆว่าการสนับสนุนปธน.บาชาร์ อัสซาด ในการต่อสู้ต่อต้านการก่อการร้ายมีแต่จะทำให้จุดยืนของพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสเข้มแข็งขึ้นเท่านั้น (หือ? แปลกจริงๆด้วยอ่ะ ทำไมนายแคร์รี่ถึงพูออย่างนั้นนะ? พูดยังกะว่ายิ่งปราบไอซิสเท่าไร พวกไอซิสก็ยิ่งแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นอย่างนั้นหรือ? อุ้ยยยย นี่รัสเซียช่วยซีเรียปราบนะ มันคนละตำรากับที่สหรัฐฯปราบมาตั้ง 4 ปียังไม่สามารถปราบไอซิสได้หมดเลย เปิดการโจมตีทางอากาศจนบ้านเรือในซีเรียเละไม่เหลือชิ้นดีแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าไอซิสจะลดลง และสหรัฐฯยังไม่สามารถระบุได้ด้วยว่าใครคือหัวหน้าไอซิสตัวจริง สงสัยต้องไปรื้อทำเนียบขาวหากันหละมั๊ง อาจจะเจอก็ได้นะ คริๆ มาดูซิว่านายแคร์รี่จะให้เหตุผลอย่างไรบ้าง) เนื่องจากว่าในการตอบโต้นั้นพวกสปอนเซอร์ของพวกไอซิสจะสนับสนุนองค์กรนี้ด้วยเงินอาวุธและเงินเป็นจำนวนมาก และทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้แผนปฏิบัติการอันชั่วร้ายบรรลุผล (ฮึ่มมม ดูเหมือนว่าสหรัฐฯจะรู้ใจพวกผู้ก่อการร้ายและสปอนเซอร์ของผู้ก่อการร้ายดีจังเลยนะ)"
    ลุงลารอฟกล่าวต่ออีกว่า "ตรรกะถอยหลัง (แบบพิลึกพิลั่นของรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ) นี้และความพยายามที่จะช่วยเหลือพวกที่กำลังใช้งานผู้ก่อการร้ายในการต่อสู้กับระบบที่ (พวกเขา) ไม่ต้องการ ผมคิดว่านี่เป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่"
    รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวเพิ่มอีกว่า "เครื่องบินของรัสเซียได้ขนทั้งอุปกรณ์ทางกองทัพตามสัญญาที่มีอยู่ในปัจจุบันและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (ไปให้กองทัพของรัฐบาลซีเรีย)" นี่รัสเซียก็พูดตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมไม่ต้องโกหกเล่นลิ้นให้เสียเวลา ก็บอกหลายครั้งแล้วว่าขนอาวุธและอุปกรณ์ทางกองทัพและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ซีเรีย ไม่ได้ขนไปให้ซาอุดิหรืออิสราเอลนะ
    คำถามก็มีอยู่ว่าใครนะคือสปอนเซอร์ของพวกไอซิสที่รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯหมายถึง? ติ๊กต๊อกๆๆ... โปรอเมริกาเริ่มจะใจคอไม่ค่อยดีหละสิ ฮ่าๆๆๆ สวนมนต์เข้าไว้ ภาวนาเข้าไว้นะว่า "เจ้าประคู้ณณณณณ ขอให้เป็นอเมริกาทีเถอะ! Oopz! ฮี่ๆๆ"
    ในวันเดียวกันนี้ Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Pentagon Promises to 'Fix' US Program to Train Rebel Forces in Syria" แปลว่า "เพนตากอนสัญญาว่าจะแก้ไขโปรแกรมของสหรัฐฯเพื่อฝึกกองกำลังกบฏในซีเรีย" (ฮ่าๆๆ เริ่มมีเค้าลางขึ้นมาบ้างแล้วครับพี่น้อง)
    Sputnik เกริ่นนำว่า "หลังจากการเริ่มต้นที่วุ่นวายยุ่งยากและน่าขายหน้าและรายงานสดๆบอกว่าเจ้าหน้าที่ทางกองทัพได้สูญเสียการติดตามกลุ่มกบฏซีเรียที่ฝึกโดยสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทางเพนตากอนก็ได้ออกมากล่าวว่า กำลังมองหาหนทางในการแก้ไขโปรแกรมมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.77 หมื่นล้านบาท) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกอบรมและเตรียมการกองกำลัง 'กบฏสายกลาง' เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส" (อ้าววว! ก่อนหน้านี้บอกว่าฝึกพวกกลุ่มติดอาวุธกบฏสายกลางมาเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย ตอนนี้บอกว่าเพื่อต่อสู้กับไอซิสซะงั้น ทำไมพลิกลิ้นกันเร็วจังอ่ะ)
    นาย Peter Cook โฆษกเพนตากอนกล่าวถึงแผนในการส่งพวกกบฏตามที่กรุงวอชิงตันระบุว่าเป็นพวกสายกลางทีจะเข้าไปสู่สนามรบกับกลุ่มติดอาวุธไอซิสว่า "เรากำลังจะปรับแต่โปรแกรม ทำการปรับเปลี่ยน จากนั้นพวกเราก็เดินหน้า"
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พวกนักรบที่ฝึกให้โดยสหรัฐฯซึ่งได้เข้าไปในซีเรียได้เผชิญหน้ากับพวกไอซิสได้พบกับความพ่ายแพ้อย่างราบคาบอย่างรวดเร็วกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า Nusra Front รายงานข่าวแบบผิวเผินบอกว่าหน่วยข่าวกรองของตุรกีได้แจ้งเตือนไปยังพวก Nusra Front ให้ปฏิบัติการ และว่า อาวุธของพวกกบฏสายกลางและอุปกรณ์ต่างๆถูกยึดไปหมดเลย
    มันง่ายไปมั๊ง? แน่ใจนะว่าเขาได้เอาเงินไปซื้ออาวุธจริงๆ คองเกรสตรวจได้หรือเปล่า? เปล่า! เพราะว่ามันเป็นภาระกิจลับ เขาอาจจะแต่งเรื่องขึ้นมาก็ได้จากนั้นเงินก็ไหลเข้าสู่กระเป๋าพวกนักการเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามข่าวที่ถูกปล่อยออกมานี้เหมือนอยากให้ผู้อ่านและประชาชนทั่วไปคิดว่าตุรกีหักหลังสหรัฐฯนะ และกำลังจะบอกว่าตุรกีอาจจะอยู่เบื้องหลงของ Nusra Front ก็ได้จากนั้นเมื่อเสร็จธุระกับซีเรียแล้วจะได้หาข้ออ้างไปถล่มตุรดีต่อด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อปรามปรามกลุ่มก่อการร้ายชุดใหม่ซึี่งก็คือ Nusra Front นั่นเอง ซวยเลยตุรกีดันไปคบกับพวกลิ้นหลายแฉกพวกนี้เข้าให้ซะแล้ว
    กัปตัน Chris Connolly ได้ส่งอีเมลถึงหนังสือพิมพ์ The New York Times ว่า "เช่นเดียวกับความพยายามที่ยากลำบากใดๆ เราคาดหวังทั้งความพ่ายแพ้และความสำเร็จ และเราจะต้องจริงจังกับความคาดหวังเหล่านั้น เรารู้ว่าภาระกิจนี้จะยากตั้งแต่เริ่มต้นเลย"
    รายงานข่าวบอกว่ามีกลุ่มกบฎสายกลางอยู่สองกลุ่ม ซึ่งมีประมาณ 200 คนกำลังฝึกซ้อมอยู่ในเวลานี้ที่ฐานในจอร์แดน และตุรกี และหนึ่งในสองชุดนี้กำลังจะเข้าร่วปฏิบัติในเร็วๆนี้ สภาครองเกรสได้สำรองเงินในโปรแกรมนี้ถึง $500 million ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมได้มีการใช้เงินไปแล้วถึง 42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
    เป็นไงครับสปอนเซอร์และผู้อยู่เบื้องหลังของกบฎสายกลาง ตอนฝึกก็ติดป้ายว่าเป็น "Morderate Regls" แต่พอฝึกเสร็จจะเป็นอะไรบ้างนั้นก็ไม่รู้เช่นกัน ก็ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมปราบเท่าไรก็ไม่หมดซะอีก เพราะว่าเขาฝึกแล้ก็ส่งออกมาเรื่อยๆอย่างนี้ไง วันดีคือนดีพวกไอซิสนก็ขับรถฮัมวี่ของทหารสหรัฐฯออกมากโชว์ซะงั้น แล้วสหรัฐฯก็ทำเป็นออกข่าวว่าถูกไอซิสปล้นไป จริงดิ? เต็มใจให้ปล้นหรือเปล่า?
    The Eyes
    10/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Andrei Stenin

    ----------
    Lavrov Confirms Russian Military Present in Syria to Deliver Arms to Army
    Pentagon Promises to 'Fix' US Program to Train Rebel Forces in Syria
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    รัสเซียจัดซ้อมรบฉุกเฉินในทะเลแคสเบียน บัลแกเรียเปลี่ยนใจอนุญาตให้เครื่องบินรัสเซียผ่านน่านฟ้าได้แต่ขอตรวจคาร์โก้ก่อน

    [​IMG]

    ------------
    วันที่ 10 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่ากองทัพมเรือณฑลทหารภาคกลางรัสเซีย (Central Military District) ส่งเรือรบจำนวน 40 ลำ! เตรียมพร้อมสำหรับการยิงขีปนาวุธบอกว่าเป็นการซ้อมรบฉุกเฉิน (Snap Drills) ในทะเลแคสเปียน (Caspian Sea) - แถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย
    กลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า "จะมีทหารเข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ทั้งหมดประมาณ 3,000 นาย และมียุทโธปกรณ์ต่างๆอีก 120 หน่วยเข้าร่วมในการซ้อมรบฉุกเฉินที่ทะเลแคสเปียนในครั้งนี้"
    รายงานข่าวบอกว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้มีคำสั่งให้เตรียมพร้อมสำหรับการซ้อมรบฉุกเฉินจากกองเรือภาคกลางของกองทัพเรือรัสเซีย
    กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า จะมีการยิงขีปนาวุธด้วย (missile firing) การซ้อมรบของกองทัพเรือในครั้งนี้จะรวมถึงการป้องกันทุ่นระเบิด และฝึกการก่อวินาศกรรมใต้น้ำด้วย (ว้าววว! พี่หมีเริ่มหงุดหงิดขยับไปเล่นบทโหดบ้างแล้ว) ทหารหน่วยนาวิกโยธินของรัสเซียจะฝึกซ้อมการขับไล่โจมตีเป้าหมายทางทหารในภูมิภาค Astrakhan และสาธารณรัฐ Dagestan ด้วย
    มณฑลทหารภาคกลางของรัสเซียมีบุคคลากรทางกองทัพจำนวนทั้งหมดเกือบ 100,000 นาย และมีอาวุธหนักกว่า 7,000 ชิ้น เครื่องบิน 170 ลำ จะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมความพร้อมการต่อสู้ฉุกเฉินในครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะมีไปถึงวันที่ 12 ก.ย.58
    เอาแล้วไง... ใครคิดจะสะกัดหรือก่อกวนเพื่อไม่ให้เครื่องบินส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของรัสเซียบินผ่านแถวนั้นเพื่อไปยังซีเรียบ้าง เป็นได้เจอดีแน่งานนี้
    และแล้วก็มีข่าวมาจากทางประเทศบัลแกเรียว่า "Daniel Mitov รมว.ร่างประเทศของบัลแกเรียกล่าวที่กรุง Sofia เมืองหลวงของบัลแกเรียว่าประเทศบัลแกเรียอาจจะเปิดน่านฟ้าของตนเพื่อให้มีการลำเลียงขนส่งทางกองทัพของรัสเซียเพื่อสนับสนุนสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังซีเรียหลังจากการตรวจเช็กคาร์โกอย่างละเอียดโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรของบัลแกเรียแล้ว"
    รัฐมนตรีต่างประเทศของบัลแกเรียกล่าวว่า "หากเพื่อนชาวรัสเซียของเราตกลงที่จะให้มีการตรวจสอบที่สนามบินบัลแกเรีย พวกเขาก็จะได้รับอนุญาตให้เดินหน้าต่อไปได้" (ก็แค่น้านนนน จะไปมีปัญหาอะไรมากมาย ก็แค่รัสเซียจะส่งอาหารไปยังซีเรียเช่น เม็ดป๊อบคอน น้อยหน่า หัวปลีรุ่นใหม่พร้อมลำต้นเสริมใยเหล็กเอง ไม่เห็นว่าจะผิดกฎหมายระหว่างประเทศตรงไหนเลย เจ้าหน้าที่บัลแกเรียอยากจะตรวจก็ตรวจไป แล้วก็เขียนรายงานไปว่าพบแต่อาหารประเภทธัญพืชและผลไม้ประเภทขว้างเองไม่มีอะไรน่าอันตรายหากไม่ถอดสลักออก คริๆ)
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบัลแกเรียได้ปฏิเสธที่จะให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าไปยังซีเรีย ท่ามกลางความหวาดกลัวของตะวันตกว่า กรุงมอสโคว์กำลังสนับสนุนกำลังทหารของตนไปยังซีเรีย (ทีพวกตัวเองส่งไปได้นะ แต่พอรัสเซียจะส่งไปช่วยปราบไอซิสบ้างกลับบอกว่าไม่ได้ ตกลงว่าสหรัฐฯกับตะวันตกห่วงประชาชนชาวซีเรียหรือว่าห่วงพวกไอซิสจะได้รับอันตรายมากกว่ากันนี่?)
    ส่วนนาย Nicolas Sarkozy อดีตปธน.ฝรั่งเศสออกมาแสดงความคิดเห็นว่า "การก่อสงครามเย็นรอบใหม่กับรัสเซียถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่ง... (แสดงว่าจริงๆแล้วพวกผู้นำตะวันตกก็มองออกว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น) เราต้องการให้รัสเซียยุติความขัดแย้งในซีเรีย และการต่อสู้ของพวกเรากับพวกไอซิส แน่นอน สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะเห็นด้วยกับกรุงมอสโคว์ในทุกด้าน หรือยอมรับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโดเน็ทส์ก"
    กรณีความขัดแย้งในซีเรีย เป็นความขัดแย้งและปัญหาที่สหรัฐฯและตะวันตกไปก่อไว้ แต่พอแก้ไม่ได้ก็ขอให้รัสเซียเข้าไปช่วยแก้ไขให้ ครั้นจะเชิญหรือเปิดโอกาสดีๆก็เกรงว่าจะเสียหน้า ฉากหน้าก็เลยต้องทำขึงขังเอาไว้ก่อน แต่จริงๆแล้วกระซิบบอกปูตินว่าใส่เกียร์ห้าไปโลดลูกเพ่! แหม… พอพูดถึงยูเครนหละทำเป็นเสียงแข็งขึ้นมาอีกหละ สุดท้ายนายก็ต้องยอมรับความจริงอยู่ดี อย่างที่หลายคนในตะวันตกได้ออกมายอมรับแล้วว่าไคร์เมียเป็นของรัสเซีย และที่สำคัญยูเครนก็ยอมตัดแผนที่ไคร์เมียออกจากการเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนในตำราเรียนของเด็กๆในยูเครนแล้วด้วย แต่ทั้งสหรัฐฯและตะวันตกก็ยังไม่ยอมยกเลิกแซงชั่นรัสเซียกรณีไคร์เมีย แต่แถไปที่กรณีของยูเครนตะวันออกแทน
    Sarkozy พยายามกล่อมรัสเซียว่า "รัสเซียควรจะกลับเข้าสู่กลุ่ม G8 อีกครั้ง (เพื่อให้พวก G7 รุมยำต่อ) และยกเลิกการห้ามนำเข้า (จากอียูและสหรัฐฯเพราะว่าตอนนี้ภาคเกษตรกรของอียูจะตายอยู่แล้วเนื่องจากถูกรัสเซียตอบโต้ไม่ให้นำเข้าสินค้าการเกษตรจากอียูที่ไปแซงชั่นรัสเซียก่อน) ในขณะเดียวกันยุโรปก็จำเป็นต้องเริ่มต้นเจรจาระดับทวิภาคีร่วมกันกับกรุงมอสโคว์ด้วย" (ฮึ่มการเจรจาเพื่อร่วมมือกันนั้นก็พอจะฟังได้ แต่การบอกให้รัสเซียกลับเข้าไปร่วมแก๊ง G8 อีกครั้งในขณะที่ BRICS และ EEU กำลังไปได้สวยนี่ มันแผนเสี้ยมให้กลุ่มใหม่เขาแตกกันชัดๆนิ คงจะคิดว่าถ้ารัสเซียหันมาร่วมกับ G8 แล้วประเทศอื่นๆใน BRICS และ EEU ก็จะมองว่ารัสเซียเป็นนกสองหัวอย่างพวกอียูที่ทำอยู่ประจำหละสิ แล้วประเทศพันธมิตรของรัสเซียก็จะลดความน่าเชื่อถือที่มีต่อรัสเซียลง ว้าาาา แผนนี้ตื้นไปนะ ปูตินอ่านออกอีกแล้ว เพราะอะไร? ก็ดูที่คุณเสนอมาสิ เสนอให้รัสเซียยกเลิกการห้ามนำเข้าสินค้าจากอียู แต่ไม่เสนอหรือพูดให้ชัดบ้างว่าอียูก็ต้องยกเลิกการแซงชั่นต่อรัสเซียเช่นกัน แบบนี้เขาเรียกว่าพูดเอาแต่ได้นี่นา)
    และแล้ววันนี้ Sputnik news ก็รายงานว่ารัสเซียได้ส่งการสนับสนุนด้านอาวุธไปให้กองทัพของรัฐบาลซีเรียแล้วซึ่งประกอบด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด และอาวุธประจำกาย (grenade launchers and armored personnel carriers) (นั่นไง... บอกแล้วว่าไม่มีอะไรมาก มีแต่ผักกับผลไม้ เช่นหัวปลี และต้นข้าวโพดพันธ์ AK-47 และเม็ดป๊อบคอนเท่านั้นเองทำเป็นตกอกตกใจไปได้)
    อ้อ… แถมให้อีกข่าวหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 ก.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า รัสเซียจัดซ้อมรบขึ้นที่หมู่เกาะคูริลซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทกับญี่ปุ่น มีทหารเข้าร่วมหนึ่งพันกว่านาย พร้อมด้วยอาวุธหนักเช่นรถถัง เครื่องบินรบ Sukhoi (ไม่ได้บอกรุ่น) เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ดูจากคลิป (ลิ้งค์สุดท้าย) เห็นว่ามีเฮลิค็อปเตอร์ด้วย ที่ญี่ปุ่นกับสหรัฐฯเสียวด้วยนี้ก็คือมี S-300s ด้วยนะอย่าบินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปในรัศมีหละ เดี๋ยวเครื่องบินรบจะร่วงเอาง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ยินข่าวว่าญี่ปุ่นหรือสหรัฐฯออกมาเอะอ่ะโวยวายอะไรเกี่ยวกับการซ้อมรบในครั้งนี้เลย แปลก… พอตอนที่นายกฯรัสเซียเดินทางไปเยี่ยมพื้นที่ดังกล่าวญี่ปุ่นทำเป็นรีบออกมาโวยวายเชียวไม่ได้พกปืนหรือแบกข้าวหลามยักษ์ไปด้วยซะหน่อย แต่นี่มีข้าวหลามไปโชว์เห็นๆกลับเงียบกริ๊บ
    อ้อมีอีกข่าวหนึ่ง... สื่อรัสเซียเขาทำภาพการ์ตูนล้อเลียนลุงแซมจอมเกเรกำลังติดใบปลิวประกาศตามหาพิทบูลจอมดุที่มีป้ายแขวนคอว่า "moderate rebel" ซึ่งฝึกโดยกองทัพสหรัฐฯ ไม่รู้ว่าตอนนี้หายไปไหนหมด หาตัวไม่ค่อยเจอในซีเรียเลย ใครบ้างช่วยส่งกลับไปยังทำเนียบขาวด่วนจะมีรางวัลให้ สงสัยว่าถ้าไม่วิ่งหนีก็คงจะโดนกองทัพซีเรียเก็บไปหมดแล้วหละมั๊ง ได้ข่าวว่าตอนนี้จักรวรรดิเฮเกกำลังจะเทรนขึ้นมาใหม่อีกชุด น่าจะใช้เงินอีกซัก 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ก็ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) อันนี้ข่าวจริงนะไม่ใช่ข่าวลือ เพนตากอนพูดเอง (อาจจะเล่าให้ฟังในโพสต์ต่อไป)
    The Eyes
    10/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Vladimir Baranov

    ----------
    Russian Ships Fire Missiles in Caspian Sea as Part of Snap Drills
    Bulgaria to Open Airspace to Syria-Bound Russian Planes After Cargo Checks
    Starting a New Cold War With Russia a Big Mistake – Sarkozy
    Pet Project
    Video: Russia holds drill close to disputed islands - Xinhua | English.news.cn
    Pentagon Promises to 'Fix' US Program to Train Rebel Forces in Syria
    https://www.youtube.com/watch?v=HcBvzOWqPN4
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไอซิส-กบฏซีเรีย ปะทะกันเองดุเดือด ตาย 47 คน
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 7, 2015

    [​IMG]

    แฟ้มภาพ
    บีบีซี /รอยเตอร์ – กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีฐานในอังกฤษ เปิดเผยว่า เกิดการปะทะอย่างหนักทางตอนเหนือของซีเรีย ระหว่างนักรบของกลุ่มไอซิสและกลุ่มกบฏที่ควบคุมฐานที่มั่นของฝ่ายค้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน

    ตามรายงานระบุ จากเหตุการณ์ประทะครั้งรุนแรงครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน

    การสู้รบส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองมารีอา เมืองอเลปโป ทางเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญของฝ่ายกบฏที่กลุ่มไอซิสพยายามที่เข้ายึดมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
เมืองมารีอาเป็นเมืองหนึ่งที่สำคัญที่สุดของฝ่ายกบฏในตอนเหนือของอเลปโป ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเส้นทางเสบียงสำคัญที่มุ่งสู่พรมแดนตุรกี
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มไอซิสได้รุกคืบเข้ายึดพื้นที่ 5 หมู่บ้านจากกองกำลังกลุ่มกบฏรอบเมองมารีอา

    กลุ่มติดอาวุธในซีเรีย รวมถึงกลุ่มญับฮะตุลนุศเราะฮ์ ไอซิส และอีกหลายๆกลุ่ม ด้วยกับความขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ จนเกิดการปะทะเลือดกันเป็นครั้งคราว และยังพบว่ามีการรายงานข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ในสื่อๆต่างอีกด้วย
    รอยเตอร์ รายงานว่า กลุ่มสังเกตการณ์ฯระบุว่า การสู้รบกำลังดำเนินอยู่รอบๆ เมืองนี้ ซึ่งกองกำลังกบฏยังควบคุมไว้อยู่ และในหมู่บ้านหลายแห่งในพื้นที่โดยรอบ
กลุ่มไอซิสซึ่งเพ่งเล็งเมืองนี้มาหลายปีพยายามที่จะขยายอาณาเขตที่ตนยึดครองในจังหวัดอเลปโปไปทางตะวันตก

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มไอซิสได้รุกคืบในพื้นที่นี้ โดยยึดหมู่บ้าน 5 แห่งจากกองกำลังกบฏรอบเมืองมารีหลังจากมีรายงานว่าพวกเขาใช้สารเคมีซึ่งอาจเป็นแก๊สมัสตาดในการโจมตีดังกล่าวการรุกคืบดังกล่าวของไอซิสมีขึ้นทั้งๆ ที่ตุรกีและสหรัฐฯ ทำข้อตกลงกันไว้ว่าจะพยายามจัดตั้งเขตปลอดไอซิสในตอนเหนือของอเลปโป

    ในช่วงไม่กี่วันมานี้ กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯในซีเรียได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศหลายครั้งต่อกลุ่มไอซิสใกล้เมืองมารีอา ทั้งนี้อ้างจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
นับตั้งแต่ความขัดแย้งในซีเรียปะทุขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2011 ด้วยการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างสงบสันติ จนถึงตอนนี้มันได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 240,000 คน

    درگیری‌های سنگین بین داعش و سایر گروه‌های شورشی در شمال سوریه - BBC Persian


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ไอซิส-กบฏซีเรีย ปะทะกันเองดุเดือด ตาย 47 คน | abnewstoday
     

แชร์หน้านี้

Loading...