ร่วมทำบุญบูชา ชุดเก่าตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ) พ่ออาจารย์พล

วันไหว้

วันนี้ก็เป็นวันสารทจีน

ถือโอกาสไหว้ขอพรผีปู่ย่าบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งคนเคยไหว้จะทราบว่าวันนี้หากไหว้จะมีการไหว้หลายที่และหลายจุดมาก อาจจะกินเวลาทั้งวัน บางบ้านถึงกับให้ลูกหลานหยุดเรียนมาช่วยเลยทีเดียว เพราะเครื่องไหว้แต่ละที่ไม่ใช่เล็กๆ ไหว้ที่บ้านเสร็จบางคนต้องไปตามศาลเจ้าจีนที่ตนนับถือต่อ เพื่อขอพรเทพเจ้าเหล่านั้น

วันนี้เราจะไม่พูดเรืองอื่นเพราะพูดไปแล้ว จะพูดแต่เฉพาะเรื่องที่เป็นความเชื่อในส่วนของการไหว้บรรพบุรุษ

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ต่อให้เราตั้งเครื่องเซ่นมากเพียงไหน เป็ดไก่ปูปลา กุ้งพล่าปลายำ เหล้ายาทั้งหลาย ตั้งก็ไปก็เท่านั้นเพราะเขาตายไปแล้ว ถ้าไหว้เพื่อความสบายใจ เพื่อเจริญรอยในวัฒนธรรมที่ดีงาม ให้ลูกหลานได้คิดถึงคุณของบรรพบุรุษ ว่าที่เรามีชีวิตกันอยู่ทุกวันนี้ เจริญรุ่งเรืองในทุกวันนี้ก็เพราะบารมีคนรุ่นปู่รุ่นย่าแต่เก่าก่อนท่านบุกเบิกไว้

เราไหว้ท่านเพื่อระลึกถึงด้วยความเป็นห่วงของชนรุ่นหลัง ด้วยน้ำจิตน้ำใจและความปรารถนาดีที่อยากส่งไปให้พวกเขา ว่าเขาสบายดีหรือไม่ มีอยู่มีกินมั๊ย อยู่ในภพภูมิไหน ได้สุขหรือทุกข์ยากอย่างไร มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะสอนให้คนรุ่นหลังไม่ลืมคุณบรรพบุรุษ สอนสั่งปลูกฝังเขาไว้มันไม่มีอะไรที่จะเสียหาย เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุณท่าน

แต่หากอยากแสดงกตเวทิตาคุณให้ยิ่งขึ้นไปอีก เธอพอมีเวลากันซักนิดมั๊ย วัดใกล้บ้านลองไปกันดูรึยัง ปีหนึ่งๆลองทำให้พวกเขาเสียสองครั้งก็ได้ ก็ถือโอกาสในวันตรุษวันสารทนี้แหละ พวกเธอทั้งหลายไปเตรียมพระพุทธรูป ผ้าไตรจีวร และสังฆทานไว้ นิมนต์พระซัก 4 รูป ของพวกนี้เวลาซื้อมา จำไว้นะว่าอย่าไปต่อราคา เลือกซื้อแต่ของที่ดีที่ประณีตอย่าซื้อขอไปที ให้ทำด้วยความชอบความเบิกบาน จิตใจให้มันรู้สึกแจ่มใส จะทำวัดไหนก็ได้กับภิกษุรูปใดก็ได้อย่าไปเจาะจง แต่ให้นิมนต์ท่านมารับเสียซัก 4 รูป จะจัดถังสังฆทาน 4 สำรับก็ได้มันควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ให้มีไตรจีวรกับพระพุทธรูปอย่างละ 1 ไปด้วย ถ้ามีทุนทรัพย์มากจะเอาให้ครบองค์เลยก็ไม่ผิด

เวลาทำบอกพระเสียด้วยว่ามาทำให้บรรพบุรุษของเรา บอกชื่อเขาไปหากจำได้ว่ามีใครบ้างทำแบบเฉพาะเจาะจงเช่นนี้อานิสงค์แรงกล้านัก เขาจะมีรัศมีกายที่สว่างไสวมากขึ้น มีปัญญาที่แจ่มใสมากขึ้นซ้ำยังมีอยู่มีกินในความเป็นทิพย์ไม่ใช่ของไหว้เพียงชั่วมื้อชั่ววัน

สมมติปีนึงให้เธอกินข้าวเสียสองวันเป็นอย่างไร อีกสามร้อยกว่าวันที่เหลือเธอจะเอาอะไรกิน นี่ในกรณีที่อยู่ในนรกญาติไม่ค่อยทำบุญให้ไม่ได้พูดถึงเทวดานะ ให้เค้าอิ่มยาว อิ่มนานแบบอิ่มทิพย์เสียดีกว่าอื่น ถ้ารักเขาจริงปรารถนาดีต่อเขาก็ไปทำซะ อานิสงค์มันมากกว่านี้มากนัก ทำได้บ่อยยิ่งดีกับชีวิตเธอทั้งหลายเอง ทำให้เค้าออกจากกองทุกข์เค้าย่อมแทนคุณลูกหลานที่ช่วยเหลืออยู่ร่ำไป

ดีกว่าอาหารเสียโต๊ะหนึ่งไหว้ปีละครั้งสองครั้งเป็นไหนๆ ไหว้เสร็จก็เอามากินกันเอง ตั้งวงกินเหล้ากุ้งพล่าปลายำสนองปากสนองตัณหาตนเอง ไอ้ที่ซื้อๆก็เลือกแต่ที่ชอบๆกินกันเองทั้งนั้นจริงหรือไม่เล่า จะทิ้งก็ทิ้งไม่ลง เสียดายเงินเอามากินมาเสพย์กันต่อทั้งๆที่ให้เขาไปแล้ว บรรพบุรุษเขาคงชอบเนื้อพึงใจกันอยู่นักหรอก กับน้ำใจที่แลดูผิวเผินและหยาบกระด้างถึงเพียงนี้ของลูกหลาน

ที่ไหว้แล้วไม่ใช่ด้วยว่าจะให้เลิกไหว้ ก็ควรไหว้ต่อไป แต่จะดีกว่านี้มาก หากเอาเวลาเสียส่วนหนึ่งไปวัดทำสังฆทานตามที่บอกให้กับพวกเขา ก็ลองตรองดูเถิด การไหว้คือการแสดงความรักความคิดถึงต่อดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ขึ้นชื่อว่าความรักแล้ว เราจะกระทำให้ยิ่งขึ้นไปอีกแม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรเสียหาย เราจะกระทำไม่ได้กันเลยหรืออย่างไร หากทำได้เขาจะดีใจกว่านี้มากนัก ทำไปเถิดจะเจอเรื่องดีๆเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองในเวลาไม่ช้าไม่นานนักหรอก

วันนี้ก็เอาเรื่องการไหว้มาลงไว้แต่เพียงคร่าวๆ ถ้าทำไม่ได้ก็ผ่านไปแต่ถ้าทำได้จะดีมากๆเลย ท่านว่าไม่จำเป็นต้องเชื้อจีน คนไทยก็ทำได้ถ้าคิดจะทำ บุญใครทำคนนั้นก็ได้

 

ได้รับ พระตรีเนตรปุราลี เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณครับ

 

ตะกรุดพญาหนู

อรุณสวัสดิ์นะครับ

ก็มีเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟังที่จริงฟังมาตั้งแต่เมื่อวาน ถือโอกาสเล่าเลยกันลืม

มีพี่ท่านหนึ่งที่บูชาตะกรุดพญาหนูขนคำไปโทรมาเล่ากับผม โดยบอกว่าเค้าได้บูชาตามวิธีทุกอย่างปักใส่ข้าวสาร ถวายของมิเคยขาดรู้สึกเอ็นดูตะกรุดดอกนี้มาก จนงวดก่อนหวยจะออกวันที่ 16 ที่ผ่านมา พี่เค้าได้อธิษฐานขอโชคลาภกับตะกรุดพอจะให้ได้ชื่นใจบ้าง ซึ่งเค้าก็ไม่ได้คิดอะไรพอตกกลางคืนเค้านอนเค้าก็ฝัน ว่าฟันของเค้าหักออกมาครึ่งนึง พี่ท่านว่าหักครึ่งนะไม่ใช่หลุดยังมีฟันซี่เดิมอยู่ในปาก พี่แกว่าเอาลิ้นแตะๆดูหักได้ราบเรียบมาก ในฝันพี่เค้าก็ตกใจเพราะไม่เคยฟันหัก พี่เค้าว่าพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรจะไปหาหมอมั้ย

แต่พอตั้งสติได้ ก็เอาฝันที่หักของตนเองหยิบขึ้นมาดู พี่ท่านว่าท่านเห็นตัวเลขสีแดงๆค่อยๆลอยขึ้นมาบนฟันซีกที่หักทีละตัว พอพลิกอีกด้านก็ลอยขึ้นมาอีกตัวพลิกสสามทีได้สามตัวแล้วท่านก็ตื่น

ท่านว่าจำที่ผมเล่าลงในกระทู้ได้ ถ้าเห็นเลขแดงๆนี่เป็นมงคลให้ลองเสี่ยงโชคดู แต่ท่านไม่ลองท่านว่าเรื่องแบบนี้ชีวิตไม่ได้เจอบ่อยเพิ่งเจอครั้งแรก ท่านจึงตัดสินใจทุ่มหมดหน้าตักเลย แล้วเรื่องนี้ท่านก็ไม่ได้บอกใครว่าท่านฝันอะไรปกติท่านไม่เล่นมาคราวนี้ท่านแอบคนในบ้านซื้อใต้ดิน

พอหวยวันที่ 16 ออก ท่านถูกสามตัวตรงๆเราก็ไม่กล้าถามว่าได้เงินเท่าไหร่ แต่พี่เค้าบอกว่ามหาศาล เพราะเค้าทุ่มหมดหน้าตัก ที่จริงอยากจะแย้งว่าไม่สนับสนุนให้คนเล่นหวยนะยิ่งพูดว่าหมดหน้าตักนี่ คือถ้ามันไม่ถูกล่ะ มันไม่ดีนะ แต่นี่เค้าเล่นไปแล้วถูกแล้วถึงเพิ่งมาบอกเราก็จะพูดเลยพูดไม่ได้

ก็เป็นประสบการณ์ที่พี่ท่านหนึ่งซึ่งเค้าบอกว่าไม่เคยมีโชคทางนี้เลยบูชาอะไรก็ไม่เคยฝันตรงๆแบบนี้มาก่อน เป็นประสบการณ์ที่ได้จากตะกรุดพญาหนูขนคำ เราก็ดีใจด้วยได้เงินมาก็แนะนำให้เอาไปฝากธนาคารอย่าลืมถอนมาทำบุญบ้างอุทิศให้ครูบาอาจารย์บ้างจะได้ยิ่งมียิ่งเจริญยิ่งๆขึ้นไป

เช้านี้ก็เล่าไว้เท่านี้ เอาไว้มาพูดคุยกันต่อ

 

เปิดอ่านและตอบกลับครบแล้วนะครับ ใครจะPMถามหรือสั่งจองอะไรก็ส่งข้อความกันเข้ามาได้เลย วันนี้ไปข้างนอกมา ผมตั้งชื่อให้พี่พยนต์ว่าพี่เป้ง ก็อาราธนาตะกรุดเสร็จแล้วสอดไว้ในขาหนีบ เมตตาดีมากๆเลย ไปนั่งคุยงานปรากฏว่าเค้าพูดไม่หยุดเลยเกือบสองชั่วโมงอ่ะ พูดไปขำไปมีความสุขมาก เสร็จแล้วขึ้นแท๊กซี่กลับ แท๊กซี่ก็ยังพูดไม่หยุดชวนเราคุยเล่านั่นเล่านี่เล่าไปขำไปมาตลอดทาง ตะกรุดนี้เมตตาโคตรจะดีเลย รับรองใครเจองานยากๆหนักๆนี่ผ่านฉลุย คุยกับใครนี่เค้านึกว่าเราเป็นเพื่อน ถ้ามันจะบังเอิญก็ไม่น่าติดกันถึงสองครั้ง ปกติขึ้นแท้กซี่จะเจอแต่เงียบๆ นี่มาแนวเดียวกันเลย ขนาดเราเงียบใส่ก็ยังไม่หยุดพูด ยกให้พี่เป้งเขาเลย คนเอ็นดูเราทั้งนั้น

 

กุมารทอง

มีใครเคยเลี้ยงกุมารทองบ้าง ยกมือขึ้น

ก็มันเป็นเรื่องของผมเองแหละพอดีเอาเจ้าขรัวแสงมาห้อย ก็เลยนึกได้ ว่าเราฝันเห็นเด็กๆสี่ห้าคนหน้าตาน่ารักนั่งอยู่รอบๆหลวงปู่เจ้าขรัวแสงท่าน เหมือนท่านจะสอนเด็กๆให้เราอยู่ เด็กๆเรียกเราว่าพี่ เค้าบอกว่าเค้าหิว พี่ไม่เคยให้อะไรเค้ากินเลย เวลาพี่กินข้าวก็ไม่เคยเรียก หนูอยากกินก๋วยเตี๋ยว คืออารมณ์ว่าเด็กแย่งกันพูดเลย ท่าทางเราจะเลอะเลือนไปนาน

น้องๆเค้าบอกว่าถ้าพี่ยังไม่ให้เค้ากินอะไรอีก เค้าจะหนีกลับไปอยู่กับหลวงปู่แสง (เออ ดูความคิด คงงอลน่าดู) เราก็ตื่นมา รีบสวดมนต์ ไม่ลืมสวดยอดพระกัณและชินบัญชรถวายหลวงปู่เจ้าขรัวแสงด้วย เสร็จแล้วก็ซื้อก๋วยเตี๋ยวมาสามชาม เอาไปให้กับกุมารทองอธิษฐานถึงน้องๆทุกคนที่อยู่ในบ้านให้มากิน ให้สามชามเลยเพราะอดมานาน แล้วก็ไปซื้อไก่จ๊อห้าดาวแบบเป็นแพ๊คถุงใหญ่ๆอ่ะมาเก็บไว้

ตอนเช้ามาเราก็จะคดข้าวใส่ถ้วยเล็กๆ เอาไก่จ๊อวางไว้โปะข้าวให้หนูๆเขากินวันละลูก ลืมไม่ได้แล้ว ลืมงวดนี้คงหนีกลับหมด เพราะไม่ได้เลี้ยงเค้ามาหลายเดือนจริงๆ

แต่เรื่องกุมารนี่ไม่เท่าไหร่ เรานึกขอบใจและนึกศรัทธาหลวงปู่แสงมากกว่า ได้เห็นท่านอีกรอบนี่เป็นวาสนาเหมือนถูกหวยจริงๆ คือเราสวดยอดพระกัณสวดชินบัญชรอธิษฐานตลอดว่าสวดถวายท่านพระครูมหิทธิเมธาจารย์ หลวงปู่เจ้าขรัวแสงผู้บูรพาจารย์ในองค์สมเด็จโต พอได้เห็นท่านมันก็มีกำลังใจจะสวดมนต์ภาวนามากขึ้น เหมือนครูบาอาจารย์ท่านไม่ทิ้งเรา ไอ้ที่สวดๆถวายไปท่านรู้ท่านเห็นนะ ท่านก็อยู่รักษาเรานะ เรื่องเล็กๆน้อยของเราท่านก็จัดการให้ ผมคิดว่าแม้แต่กุมารของเรา เรื่องในบ้านของเรา ท่านยังเมตตามาสอนมาสั่งให้ นี่แหละมันตื้นตันใจ น้ำใจของดวงวิญญาณครูบาอาจารย์ท่านไม่ทิ้งศิษย์จริงๆ

พ่ออาจารย์ท่านว่าครูดี จะไม่มีวันทิ้งศิษย์ ถ้าศิษย์จะเผลอจะลืมไปอย่างไรก็ตาม ถึงจะทำตัวเสื่อมเสียไปแล้วอย่างไร แม้นึกออก เพียงเจ้ายกมือขึ้นไหว้ระลึกถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ แรงครูก็จะกลับมาปกเกล้าปรกหัวไม่ไปไหน คุณครูก็เหมือนพ่อแม่ เป็นความปรารถนาดีที่มีให้ สายใยนี้ตัดกันไม่ขาดทิ้งกันไม่ได้ เพียรระลึกถึงท่านบ้าง มันก็เหมือนกับคลื่นโทรศัพท์ เมื่อความปรารถนาดีของครูอาจาริย์เจ้าทั้งหลายที่เปรียบเสมือนคลื่น เชื่อมต่อกับความระลึกนึกถึงของเจ้าที่เหมือนตัวรับ ไฟมันก็ติด ระบบมันก็ใช้งานได้

นึกถึงคำท่านแล้วเราก็สบายใจนัก แต่ก็ได้บทเรียนไก่จ๊อห้าดาวมาเพิ่มว่าน้องกุมารนี่หิวข้าวบ่อยๆ ตู้เย็นจะขาดไก่จ๊อไม่ได้ เพราะผมคิดว่าถวายง่ายที่สุดแล้ว

 

ได้รับพระตรีเนตรปุราลีและพระพิชัยมาลาแล้ว ขอบคุณครับ

 

แจ้งโอนเงินทาง pm แล้วครับ

 

แจ้งโอนเงินเรียบร้อยแล้วครับเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31ส.ค. 2558

 

ได้รับของละครับ

 

ก็มีพี่ท่านนึงได้จองตะกรุดตันตระมหาสังวาสได้ไลน์มาคุย หู้ว อยู่ตั้งพะเยาว์นู่นแหนะ ตามไปอุดหนุนร้านอาหารไม่ไหวทีเดียว

ทีแรกถามพี่เค้าว่าจะเอาไปทำอะไรเพราะโปรไฟล์ถ่ายคู่กับสาวงามเลยคิดว่ามีแฟนแล้ว เค้าว่าจะเอาไปค้าขาย ซึ่งมันก็ใช้ได้นะเพราะเป็นมหาเมตตาด้วยเลยอนุมัติ

เค้าว่าเคยร่วมทำบุญบูชาลูกอมด้ายสาวพรหมจรรย์ไป เขาเล่าว่าใช้ดีกว่าขุนแผนอีก ก็ไม่ได้ถามว่าใช้อะไร แต่ถามว่าใช้ขุนแผนที่ไหน พี่เค้าว่าสายปู่ทิม ระฆังทองกับเจดีย์ทอง

ได้ฟังก็ชื่นใจที่ลูกอมด้ายสาวลูกเล็กๆน่าจะไปสร้างประสบการณ์ดีๆให้คนอื่น ก็ไม่ได้ถามว่าใช้ไปทางไหนเมตตาหรือเสน่ห์ เพราะว่าเอาที่สบายใจเลย ความต้องการความปรารถนาของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ก็เอามาเล่าให้ฟังกัน เดี๋ยวจะเงียบก่อนแจกหลวงปู่ใหญ่

 

ได้รับของแล้ว ขอบคุณครับ

 

อรุณสวัสดิ์ วันนี้แจกหลวงปู่เทพโลกอุดร ติดตามกันนะ

 

คุยกันรอบเช้า

ก่อนจะแจกของ ก็มาคุยกันก่อน

จำได้หรือไม่ว่าเคยแจกตะกรุดมหาสงกรานต์(โองการมหาเย็น)กันไป ถึงจะเป็นของแจกฟรีก็ใช้ดีเลยทีเดียว

มีพี่ที่รับแจกท่านหนึ่งมาปรึกษาผม ว่าเค้าอยากจะอาบน้ำมนต์ทุกวัน เค้ารู้สึกว่าเป็นสิริมงคลดี จะทำยังไงดี ผมเลยบอกว่าที่บ้านถ้ามีแท๊งค์น้ำ ก็เอางี้เลย ตั้งใจอธิษฐานดีๆตอนอาราธนาตะกรุดนะ เอาไปใส่ในแท๊งค์ไว้ เเค่นี้เเหละ น้ำในบ้านจะน้ำทำอะไรก็กลายเป็นน้ำมนต์หมด

แต่พี่เค้าว่าแท๊งค์มันใหญ่ ถ้าใส่ไปคงหาไม่เจออีกแน่ๆ พี่เค้าเลยทำเครื่องกรองน้ำแบบง่ายๆด้วยตัวเอง เปิดหาวิธีทำจากในเน็ตนี่แหละ ผมก็เรียกไม่ถูกนะไอ้ตรงที่มีหินรึกรวดอะไรเนี่ย เค้าก็อาราธนาตะกรุดมาเสียบไว้ ก็เป็นอันว่ามีตะกรุดอยู่ในเครื่องกรองน้ำ เวลากดน้ำกินรึทำอะไรก็เหมือนได้กินน้ำมนต์ทุกวัน อยากอาบก็จะมารองไปซักขันผสมอาบ

พี่เค้าโทรมาเล่าให้ฟังว่าตะกรุดมหาสงกรานต์นี่ใช้ดีมาก ตั้งแต่ได้กินได้อาบน้ำมนต์ที่ทำจากตะกรุดนี้ทุกวัน เวลาอาบก็จะอาราธนาคาถาที่ให้มาใช้กับตะกรุดไปด้วย รู้สึกว่าตัวโล่งเบาสบาย ไม่รู้สึกว่าข้างในมันหนักมันอมทุกข์ ทำให้ตัวเองสดชื่นขึ้น เวลาทำงานออกไปติดต่อใครก็ไหลลื่นไปหมดไม่ค่อยพบเจออุปสรรคอะไรเหมือนก่อนที่จะได้ตะกรุดมา

พี่เค้าว่าเท่านี้ยังไม่พอนะ เค้าบอกว่าข้างบ้านเค้าคนงานถูกผีเข้า ทำอย่างไรก็ไม่ออก เหมือนคนบ้าเสียสติเลยใครก็สู้แรงผู้หญิงคนนี้ไม่ไหว มีคนเอาพระไปคล้องคอมากมายหลายสิบเส้นทำอย่างไรวิธีการไหนก็ไม่ออก ลองมาทั้งเบี้ยแก้มีดหมอ พอพี่เค้าทราบ จุดใต้ตำตอ พี่เค้ารองน้ำจากเครื่องกรองน้ำมาขันหนึ่ง ตั้งใจอาราธนาคาถาโองการมหาเย็น เสร็จแล้วก็นำไปราดรดตัวสาวคนงานปรากฏว่าถึงกับล้มหมดสติไปเฉยๆ พอช่วยกันพญาบาลตื่นขึ้นมาอาการก็กลับเป็นปกติ

นี่อานุภาพตะกรุดมหาเย็นที่เคยแจกไป กะจะเล่ามาวันสองวันแล้ว เราได้ฟังก็ชุ่มชื่นหัวใจ คือดีใจที่มีคนเอาไปใช้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระเครื่องหรือเครื่องรางต่างๆนี่ ยิ่งใช้ยิ่งขลังอย่าเก็บไว้เฉยๆจะเสียของ ถ้าใช้ด้วยสวดมนต์หรือสวดคาถากำกับด้วยจะยิ่งขลังกว่าอะไร เหมือนมีดนั่นแหละ ลับบ่อยๆมันก็ยิ่งคม เก็บไปนานๆมันก็ทื่อ

ใครมีตะกรุดมหาเย็นก็เก็บไว้ให้ดี ใครที่พลาดก็หมดไปนานแล้วตั้งแต่สงกรานต์ วันนี้มาลุ้นพระผงโลกอุดรกันใหม่

 

เรื่องของครุฑ

นี่ของใคร แสดงว่าวาสนาเค้าถึง

ก็มีพี่ท่านหนึ่งโอนร่วมทำบุญองค์ครุฑพญาสุเรนทร์มา แล้วพ่ออาจารย์ท่านก็เอาไปจารไปเสกเพิ่มให้ ท่านว่าคนที่เอาครุฑไว้นี่วาสนาเค้านับว่าดีจริง เหมือนตอนที่ท่านพูดว่า นี่ของใคร แสดงว่าวาสนาเค้าถึง

เราก็ถามท่านว่าทำไมครับเจออะไรมารึเปล่า ทำไมท่านถึงพูดขนาดนั้น ท่านว่าตอนเสกครุฑนี้ ท่านเห็นองค์สุเรนทรชิตมาเต็มองค์ ตัวท่านสูงเท่าฟ้า ตัวเราเหมือนยืนอยู่ก้นเหว (อุปมาว่าครุฑองค์ต้นสูงใหญ่ถึงขนาดนั้น) ท่านยกแขนขึ้นมาเหมือนจะกระพือปีก และกล่าวกับพ่ออาจารย์ท่านว่า รู้มั๊ย ใครก็สู้พลังของเราไม่ได้หรอก เพราะเราไม่เคยแพ้ใคร ถึงมีชื่อว่าสุเรนทรชิต

พ่ออาจารย์ท่านเหมือนจะมีอะไรดีๆที่ยังไม่ยอมเล่าออกมาให้หมดเกี่ยวกับรูปหล่อองค์ครุฑนี้ แต่ท่านพูดว่าดีแน่ เคราะห์หามยามร้ายวิบากกรรม เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายแตกกระเจิงหมด บอกเค้าว่าเลี่ยมห้อยคอให้ดี หนทางข้างหน้านี้ราบลื่นทุกอย่าง ถ้าเหมือนจะเจออุปสรรคอะไรขึ้นมาที่คิดว่าทำให้ตัวเองลำบาก ด้วยว่าสิ่งนั้นแม้จะเป็นวิบากกรรม ก็ให้หยิบองค์ครุฑพ่อพญาสุเรนทร์ขึ้นมาอธิษฐานบอกกล่าวท่าน ให้ท่านใช้แขนทั้งสองข้างโอบป้องอุ้มชูเรา ให้ท่านใช้ปีกบันดาลมหาวายุพัดพาอุปสรรคขวากหนามเวรกรรมทั้งหลายเสียให้พ้นให้สิ้นไป เมื่อตนเองมีกำลังใจคงที่แล้ว จะทำอะไรก็เร่งทำเถิด ทางข้างหน้านั้นไร้อุปสรรคแล

แต่มองดูแล้วก็สบายตาสวยดีอยู่นะบางองค์นี่ขึ้นเป็นเกล็ดๆเลยเหมือนเงินบริสุทธิ์ แล้วก็เป็นเอกลักษณ์ของสำนักนี้ด้วย ครุฑมือแปรที่แรกของโลก ทุกอย่างท่านทำให้ด้วยเคล็ดวิชา ที่โอนมาแล้วก็รอกันหน่อย พรุ่งนี้จะส่งให้พร้อมกันเลย

 

แจกฟรี พระผงโลกอุดรเนื้อผงเจดีย์100ยอด (หลวงปู่ใหญ่)

ความลับระหว่างพ่ออาจารย์กับองค์หลวงปู่ใหญ่นั้น ดูจะมีอะไรที่ลึกซึ้งมาก แต่ทำอย่างไรท่านก็ไม่ค่อยยอมเล่าเท่าไหร่

รู้และทราบกันดีว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร หรือหลวงปู่ใหญ่นั้นคือเอกองค์อรหันต์ที่ยังอยู่ช่วยงานของพระพุทธศาสนา ดูแลพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ครบถ้วน 5,000 พระวัสสา ซึ่งท่านก็ได้รับศิษย์หลายต่อหลายรุ่น ซ้ำยังคอยสั่งสอนและช่วยเหลือเหล่าผู้ทรงศีลในเวลายากลำบาก

เรื่องของท่านนั้นยิ่งกว่าตำนานของเหล่ามหาเทพ ด้วยว่าหาตัวจับยากและเป็นเรื่องที่เกินจริงทั้งสิ้น

ครั้งนี้จะพูดเพียงสั้นๆเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้พูดอะไรมาก เพราะเป็นของที่ดีจริงๆ เมื่อพ่ออาจารย์ท่านประสงค์จะทำหลวงปู่ใหญ๋ขึ้นมา แจกเป็นทานบารมี ให้กับศิษย์ที่มีบุญและมีวาระตรงกัน ซึ่งท่านได้มีนิมิตรถึงองค์บรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดร

ซึ่งหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือหลวงปู่ใหญ่นั้น ได้ให้พ่ออาจารย์ท่านทำพิธีพลีกรรมขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวบรวมผงสถูปเจดีย์โบราณต่างๆที่แตกหักมีอายุนับร้อยนับพันปีให้ครบ 100 องค์ ซึ่งท่านใช้เวลาหลายปีเพื่อรวบรวมโดยเดินทางไปทั้งทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอีสาน ประกอบพิธีพลีขอกลับมาประกอบเป็นมวลสาร

ด้วยท่านว่าแต่โบราณกาลนั้น พระเจดีย์คือสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา มีพระเจดีย์ที่ไหนแปลว่าพระศาสนาเข้าถึงที่นั้น ซ้ำองค์เจดีย์นั้นจะได้รับการบำรุงรักษาเคารพกราบไหว้อย่างดี เปรียบดั่งพระวรกายแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยว่าในพระเจดีย์เหล่านั้นล้วนประดิษฐานซึ่งพระบรมสารีนิกธาตุของพระองค์

เมื่อรวบรวมมวลสารได้ครบเเละมาประกอบขึ้นเป็นผงเจดีย์ 100 ยอด ท่านว่าจะมีอานิสงค์ให้ผู้บูชานั้นเป็นศูนย์รวมของความเจริญ อยู่ที่ไหนที่นั่นก็เจริญ เดินทางไปไหนก็ได้ดีตรงนั้น ซ้ำยังเป็นยอดคน ทำอะไรก็ดีไปกว่าคนอื่นเค้าหมด ผงเจดีย์100ยอดนี้ท่านว่าทำยากเพราะเดินทางหลายครั้งหลายวาระเสียเวลามาก ต้องขอต้องพลีนำมาตำมาบด กว่าจะเสกเก็บไว้

เมื่อจะขึ้นรูปเป็นหลวงปู่ใหญ่นั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ใช้บล๊อคไม้แกะแม่พิมพ์ขึ้นโดยบอกกล่าวท่านก่อนกดพิมพ์ พิมพ์ทรงจึงดูเหมือนพระแบบโบราณไม่สวยงามเหมือนพระโรงงานแต่ท่านว่าขลังนัก และในวาระการอธิษฐานจิตนั้นท่านก็ได้เชิญองค์หลวงปู่เทพมาทำมาแผ่บารมีให้เต็มขั้นเต็มภูมิ

ท่านว่าบอกเค้าสั้นๆ ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ของดีอย่างไรก็ย่อมดี สายครูบาอาจารย์ของใครก็ของคนนั้น เค้าไม่เอาก็ไม่ต้องไปฝืน

* วัตถุประสงค์ที่ท่านสร้างก็คือเผยแพร่เกียรติคุณของบรมครูองค์หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านว่าให้คนรู้จักและศรัทธาเพิ่มมาเสียซักคนก็เป็นกุศลมหาศาลแล้ว

คาถาบูชา
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร ปะฎิสัมภิทัปปัตโต จะ เตวิชโช พุทธะสาวะโก พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรานุสาสะโก อะมะตัญเญวะ สุชีวะติ อะภินันที คุหาวะนัง
โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต อิธะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเลโน นิโยชะเย ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะเทสสะติ ปะระมะสารีริกะธาตุ วะชิรัญจาปิวานิตัง
โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร อะยังโน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง วะเรนะ สุภาสิตัง
โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา มะหาเถรานุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

*กติกา
พระผงโลกอุดรเนื้อผงเจดีย์100ยอด (หลวงปู่ใหญ่)นี้ จะแจกให้ฟรีโดยจะให้เล่นเกมส์ ผู้ใดอยากได้ให้พิมพ์เรื่องราวประสบการณ์และความศรัทธาที่มีต่อหลวงปู่เทพโลกอุดรไว้หน้าเพจเลย หมดเวลาสองทุ่ม พระมี 20 องค์ จะทำการคัดเลือกและจับฉลากตามรายชื่อผู้ที่พิมพ์ เมื่อประกาศผลแล้วผู้รับต้องโอนค่าส่งไว้ 100 บาท

 

ไม่มีเรื่องเล่า แต่ศรัทธามาก กราบไหว้ท่านเสมอ ขอรับไว้บูชานะครับ

 

ไม่มีเคยประสบการณ์ตรง แต่เคยอ่านบทความว่า
“หลวงปู่เทพโลกอุดร” คือใครนั้นเป็นความลึกลับอย่างหนึ่งในวงการสงฆ์ มีการกล่าวขานถึงท่านมานานว่ามีอยู่จริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวง เรื่องราวของท่านเคยขึ้นหน้า 1 เป็นข่าวครึกโครมเมื่อราวกลางปี 43 เนื้อข่าวระบุว่าเรื่องของ หลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นและดูงมงาย พิสูจน์ไม่ได้ แต่พาดหัวข่าวไม่กี่วันเรื่องก็เงียบไป จริงๆ แล้วพระภิกษุรูปนี้จะมีจริงหรือไม่ ไม่ขอชี้นำ แต่ขอให้ผู้อ่านลองฟังเรื่องราวจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรงได้เล่าไว้ถึงความเป็นมาของพระภิกษุรูปนี้ดูก่อน เมื่อได้สัมผัสพูดคุยกับผู้ที่เคยพบเห็นพระภิกษุรูปนี้หลายๆ คนแล้วจะรู้สึกเหมือนผู้เขียนว่า ถ้าหลวงปู่เทพโลกอุดรไม่มีตัวตนจริงในโลก เหตุใดจึงมีใครหลายๆ คนเคยพบเห็นภาพลักษณ์ของท่านและบรรยายลักษณะของท่านออกมาได้ตรงกัน คือเป็นพระภิกษุที่มีลักษณะเหมือนคนโบราณ มีผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศรี น่าเคารพนับถือ ดูจากรูปร่างภายนอกดูหนุ่มแน่น แต่ศีรษะกลับมีผมหงอกขาวโพลนและมีเท้าใหญ่กว่าคนปกติทั่วไป
จากข้อมูลเกี่ยวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ที่ผู้เขียนได้รวบรวมไว้ กล่าวได้ว่า หลวงปู่ฯมีประวัติความเป็นมาที่ลึกลับซับซ้อน ไม่มีหลักฐานใดมายืนยันได้ว่าท่านเกิดในสมัยใด มาจากไหน ทำให้มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องของท่านกันอย่างกว้างขวาง สำหรับผู้ที่สนใจความลี้ลับมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนา จนมีข้อสรุปและสันนิษฐานว่า “หลวงปู่เทพโลกอุดร” คือพระสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา มีความเป็นอมตะไม่ตาย โดยอาจเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งเมื่อครั้งพุทธพาลที่นิพพานไปแล้ว แต่ยังมีธาตุขันธ์อยู่

คำว่า “นิพพาน” ตามหลักพุทธศาสนา หมายถึง การดับกิเลสและกองทุกข์ ซึ่งเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา ซึ่ง “นิพพาน” นั้นมีอยู่ 2 อย่าง คือ
1. สอุปากิเลสนิพพาน คือการดับกิเลสขณะยังมีเบญจขันธ์เหลืออยู่
2. อนุปาทิเลสนิพพาน คือการดับกิเลสโดยไม่มีเบญจขันธ์เหลืออยู่

พระภิกษุและฆราวาสที่ฝึกจิต ปฏิบัติธรรมหลายท่านที่ต่างเคยได้พบเห็น “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ทั้งเห็นใน “จิต” และเห็นจาก “ตาเนื้อ” เคยถามว่าถ้าหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านอยู่ที่ไหน คำตอบได้มาเหมือนกัน ทุกคนบอกว่า ท่านมักอยู่ในดงลึกที่เงียบสงบและอยู่ในทุกภพทุกภูมิที่ท่านต้องการไป ผู้ที่จะเจอท่านได้ต้องปฏิบัติธรรมให้ได้ญาณและบารมีสูงพอที่จะเข้าไปสู่มิติของท่านได้ และในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมา หลวงปู่เทพโลกอุดร มักนำพาบุคคลที่มีความพิเศษพอที่จะฝึกจิตได้ทั้งพระและฆราวาสไปฝึกในป่าลึก บุคคลเหล่านั้นหลายท่านยั้งมีชีวิตอยู่ในสมัยปัจจุบันที่เรารู้จักก็มี อาทิ หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี พ.อ.ชม สุคันธรัต ครูบาลุ่ม สันตจิตโต วัดจันทาราม จ.เพชรบูรณ์ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล จ.อยุธยา หลวงปู่โงน โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ปู่โทน หลำแพร (เป็นฆราวาส เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2543) ฯลฯ

เรื่องราวของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” มีบุคคลหลายวงการให้ความสนใจและพิสูจน์ เมื่อครั้งที่ท่านมาปรากฏตัวและแสดงฤทธิ์ให้เป็นที่ประจักษ์ที่วัดโนนชาด อ.คำตะกร้า จ.สกลนคร นั้นมีผู้หลักผู้ใหญ่ บุคคลสำคัญ นักวิชาการบางท่าน รวมถึงชาวบ้านได้ไปรอดูเพื่อพิสูจน์กันอย่างมากมาย และก็ได้เห็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ เหตุการณ์ในวันนั้นทางวัดโนนธาตได้จัดให้มีการทอดกฐินเพื่อถวาย หลวงปู่เทพโลกอุดร เมื่อตั้งองค์กฐินเสร็จ ทุกคนก็สวดมนต์ พอทั้งหมดสวดมนต์จบขณะที่ก้มลงกราบพร้อมกันก็ปรากฏเหตุมหัศจรรย์ มีพระภิกษุรูปหนึ่งสูงเกือบ 2 เมตร ห่มจีวรลึกลับเข้มคลุมตลอดศีรษะ ผมของท่านเป็นหางเปียขนาดใหญ่ยาวเกือบถึงพื้น ท่านปรากฏกายให้ทุกคนเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบ ท่านกระแทกไม้เท้ากับพื้นดังสนั่นแล้วชี้ไปที่องค์กฐินที่ทุกคนต้องถวาย กุฎิทั้งหลังสั่นสะเทือน พอทุกคนก้มลงกราบเสร็จเงยหน้าขึ้นมาดู ท่านก็หายไปแล้ว เหลือแต่กลิ่นหอมประหลาด กลิ่นหอมนี้ไม่เหมือนดอกไม้ที่มีในโลกมนุษย์ หอมมาก และสักครู่ทุกคนก็ได้ยินเสียงไม้เท้ากระทบพื้นอีกครั้ง เมื่อต่างเหลียวไปดูที่ทางเดินก็เห็นพระภิกษุรูปนั้นเดินมาบนถนน ท่านเดินผ่านรถทั้งหมด 31 คันที่จอดอยู่ ทุกคนได้ยินเสียงจีวรสะบัดพรืดเดียว ปรากฏว่ารถทั้ง 31 คัน ได้รับการเจิมเป็นอักขระด้วยแป้งที่หอมมาก และแต่ละคันอักขระจะไม่เหมือนกันเลย แต่หอมและติดอยู่นานเป็นเดือน เมื่อท่านเดินขึ้นมาบนศาลา ท่านเดินไปที่ตุ่มน้ำมนต์ แล้วชี้ไม้เท้าไปที่ตุ่มน้ำมนต์เป่าลมเสียงดัง 3 ครั้ง อ่างน้ำมนต์กระเทือนจนน้ำมนต์กระฉอกขึ้นทั้งสามครั้ง พอท่านเอาไม้เท้าชี้ไปที่กองมะพร้าวน้ำหอม 20 กว่าลูก ที่ทุกคนถวาย กองมะพร้าวก็สั่นสะเทือนและแห้งหมดทุกใบ เสร็จแล้วท่านก็เดินวนรอบคณะผู้มาทอดกฐินที่นั่งเรียงแถวกันอยู่ ทุกคนพากันเอาเงินทำบุญใส่ย่ามท่าน มีบางคนเมื่อเอาเงินใส่ไปในย่ามแล้วก็พยายามล้วงไปจนสุดย่าม แต่ปรากฏว่าล้วงเท่าไหร่ก็ไม่ถึงก้นย่าม มีแต่ความว่างเปล่า ทั้งๆ ที่เห็นว่าทุกคนเอาเงินใส่ย่ามถวายท่านจนเต็ม ขณะกลับท่านเดินลงบันได ทุกคนเห็นท่านเดินลงไปที่ถนนแล้วก้าวลอยขึ้นไปบนอากาศหายไปบนท้องฟ้าท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ศรัทธาและผู้ที่มาดูเพื่อพิสูจน์จำนวนมาก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง

 

ไม่มีประสบการณ์เลยครับ เคยแต่อ่านเรื่องเล่าที่ว่าท่านอยู่เหนือกาลเวลา ทุกวันนี้ก็ยังมีความเชื่อกันว่าท่านยังอยู่ เลยศรัทธาท่าน อยากจะขอรับไว้บูชาสักองค์นะครับ

 

เคยเห็นเรื่องของหลวงปู่ผ่านรายการโทรทัศน์ น่าจะตอนเด็กเคยเอาวิธีทำสมาธิของท่านมาลองทำดูแต่ไม่ได้ฝิกเป็นกิจลักษณะ ประสบกราณ์เลยยังไม่มี แต่ก็อยากได้พระของหลวงปู่ไว้บูชาครับ ขอรับบูชาไว้ซักองค์ครับ

 

สวัสดีครับคุณกร ประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่ไม่มีครับ แต่เคารพกราบไว้ท่านมานานหลายปี มีรูปท่านบูชากราบขออัญเชิญบารมีท่านทุกวันครับ ขอร่วมเล่นเกมส์นะครับ