เราจะทดสอบความโกรธตัวเองได้อย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมมะชนะอธรรม, 8 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. ธรรมมะชนะอธรรม

    ธรรมมะชนะอธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +30
    เช่น ถ้าเราฝึกกรรมฐาน แล้วในช่วงนึงเราฝึกไปจนคิดว่าเรา หมด ความโลภ ความโกรธ และความหลงได้แล้ว และเราทดสอบหรือไปเจอสถานการณ์พื้นฐานในชีวิตประจำวัน เราก็ไม่รู้สึกว่าเรามีความ โลภ โกรธ และหลงแล้ว แต่อันที่จริง ความโกรธต่างๆ มันอาจจะฝังอยู่โดยไม่เจอเหตุการณ์ที่จะกระตุ้นความโกรธ ที่ฝังอยู่ลึกมาก

    ดังนั้นอยากทราบว่าเราจะสามารถทดสอบได้อย่างไรครับว่า เราเป็นผู้ที่ไร้ซึ่งความโกรธนั้นๆแล้ว...เพราะบางคน คิดว่าตัวเองหมดแล้ว ก็คิดว่าหมดจริงๆ แต่อันที่จริง หาเป็นเช่นนั้นไม่
     
  2. nai_sit

    nai_sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +166
    ขอโทษนะครับ ที่ถามมานี้ เอาส่วนไหนมาคิดครับ
     
  3. อาหลี_99

    อาหลี_99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +2,992
    *-*
     
  4. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    เจ้าของกระทู้อ่านแล้วเป็นงัยบ้าง ....โดนมั้ย
    ถ้าไม่ขุ่นก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  5. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +1,093
    ถ้าถูกเขาด่า หรือถูกขัดใจ ไม่รู้สึก ความโกรธอาจจะลดน้อยลงจริง
     
  6. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    ถ้าผ่านคำว่า "ขอโทษนะครับ ที่ถามมานี้ เอาส่วนไหนมาคิดครับ" ของคุณ nai sit ได้ ก็หมดไปเยอะครับ
     
  7. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ตอนนี้ผมก็โกรธเนี่ยะ กับบางคนที่เอาหมามาเลี้ยงแต่ไม่เคยดูแล ไม่เคยแม้จะเหลียวแล แถมจะให้ขังหมาอยู่กับที่ ให้ผมดูแลแทน (ค..ว......) เอามาทำไมไม่ดูแล หมามันไม่เคยมีใครสอน เพราะผมก็ไม่กล้าไปยุ่ง เพราะไม่ใช่เรื่องตัวเอง มันก็ทำเรื่องตลอด สรุปคือหมาตัวเองทำผิดมาโทษผมอีก บัดซบชิบหาย ที่คอยดูแล พาไปเดินเล่น ให้อาหาร เพราะสงสาร เจ้าของมันไม่เคยสนใจเลย เอามาทำไมก็ไม่รู้ ต่อจากนี้ผมจะไม่ให้อาหาร ไม่พาไปวิ่งเล่น คงต้องปล่อยมันถูกขังอยู่แต่ในกรง ผมจะดูแลแต่หมาผมเท่านั้น ถือว่าเป็นกรรมของมัน เราคงไม่ยุ่งอีกต่อไป(เมื่อก่อนสงสาร เพราะคนมันเลวไม่ใช่หมามันเลว เลยดูแลมันให้ แต่ตอนนี้คงจะไม่สนใจ จะดูซิว่าเจ้าของมันจะดูแลมั้ย)
     
  8. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    [​IMG]

    นิสัยไม่ดี
     
  9. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ไม่ต้องทดสอบครับ

    เพียงแต่เมื่อใดเกิดสงสัยว่า มีโกรธหรือเปล่า ก็คือ มีอยู่

    เหมือนการพิสูจน์พรหมจรรย์ของพระพุทธองค์ จะประยุกต์ได้ดังนี้
    - เมื่อสบตาแล้วยังเห็นเป็นเพศตรงข้ามที่มีกริยา แล้วรู้สึก ก็ไม่สิ้นพรหมจรรย์
    ---> เมื่อสบตาอริ หรือเห็นสิ่งไม่ชอบแล้ว เบือนหน้าหนี หรืออึดอัดใจ ข่มใจอยู่ ก็ถือว่า มีโทษะอยู่

    - เห็นเขาครองคู่กัน หรือมีกามคุณในการได้รับสิ่งของบำเรอ แล้วยินดี ก็ถือว่า พรหมจรรย์ไม่สิ้น
    ---> เห็นเขาทะเลาะกัน แล้วไม่ยินดี ขุ่นมัวด้วย ส่ายหน้า หรือ มีปฏิกริยา ก็แปลว่า มีโทษะอยู่

    - เขาประพฤติพรหมจรรย์โดยเพราะมีจุดมุ่งหมายในการบรรลุอะไรสักอย่าง ก็ถือว่า มีพรหมจรรย์ไม่บริสุทธิ
    ---> ถ้าเราถือการโกรธเป็นเรื่องกระทำไม่ได้ เพราะฐานะนั้น ฐานะนี้ต้องไม่โกรธ ก็แปลว่า มีโทษะอยู่

    จริงๆ มี 6 ข้อ ดัดแปลงนิดหน่อย ไม่ตรงพุทธพจน์นัก แต่เพื่อให้โยงเข้ากับ
    การดัดแปลงมาดูเรื่องโทษะได้ง่ายๆ ก็ขออภัยไว้ด้วยครับ

    ถ้าต้องการทราบพุทธพจน์เรื่องการประกาศพรหมจรรย์ ก็ สัตตัพพิธเมถุนสํโยคสูตร สตฺตก. อํ. 23/55/47

    ที่ยกเทียบเรื่อง ทรงยืนยันพรหมจรรย์ของพระองค์ว่าบริสุทธิ์เต็มที่ เพราะมีนัย
    ยะการตรวจสอบเรื่องความบริสุทธิ์เต็มที่นั้นเอง การดูโทสะบริสุทธิ์(ไม่มี) ก็
    เลยน่าจะเทียบเคียงได้

    * * * * *

    อีกนัยหนึ่ง

    ถ้าวันนี้ยังรู้สึกว่า ตัวคุณนั้นชื่อ.... อันนี้มีอยู่แน่ๆ
    ถ้าวันนี้ยังรู้สึกอยู่ว่า ดวงจิตนี้มีอยู่มีพลัง อันนี้มีอยู่แน่ๆ
    ถ้าวันนี้รู้สึกว่า ดวงจิตนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ อันนั้นเริ่มหมดแล้วครับ
     
  10. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973

    ใช้วาจา ไม่สุภาพเลยค่ะ เหอะๆๆ ^^
     
  11. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    ขอแสดงความคิดเห็นนะครับว่า "ท่านไม่ต้องไปกังวลเมื่อไหร่เราจะหมดความรู้สึกโกรธหรือจะหาแบบทดสอบอะไรดี เพราะบททดสอบความโลภ โกรธ หลงนั้น มีเข้ามาในชีวิตประจำวันเราทุกวัน จะมากจะน้อยแค่นั้นเอง ขอท่านจง หมั่นรักษาศีล และเจริญพรหมวิหาร 4 ให้เป็นปกตินิสัย และตั้งสติชอบไว้เสมอความโกรธนั้นจะเบาบางลงไปเอง"

    ตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ขึ้นไปจนถึงพระอนาคามีนี่จะมีความโลภ โกรธ หลง น้อยลงไปเบาบางลงไป แต่ยังไม่หมด มีเพียงพระอรหันต์เท่านั้นที่จะกำจัดความโลภ โกรธ หลงได้หมดจดไม่มีเหลือ ได้ชื่อว่า เป็นผู้หมดซึ่งกิเลสและกองทุกข์อย่างสิ้นเชิงแล้ว
    .................................................................................

    ขออนุโมทนากับความดีทุกอย่างที่ทุกๆ ท่านได้กระทำแล้ว กำลังกระทำ และจะกระทำต่อไปในอนาคตจวบจบเข้าสู่แดนทิพย์พระนิพพานบรมสุข สาธุ ๆ
    .................................................

    นิพพานนั้น เป็นสุขอย่างยิ่ง
     
  12. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ลองถูกโดนด่าต่อหน้าบ่อยๆดูครับ

    เราต้องมีเมตตาก่อน..

    ถ้าช่วงนี้ใช้เจโตฯ หรือดูจิตเขาพิจารณาประกอบ มันส์เลย ดูความเป็นไปของคนโกรธ และคนหลงโกรธ ผลและโทษของความโกรธ ความหลงใช้เหตุผลปนไปในความโกรธ และความไม่ได้สาระประโยชน์ของความโกรธ ยิ่งโกรธยิ่งไม่ได้อะไร

    ใช้เมตตาเสียก่อน ตามใจเขา ให้เย็นๆเพื่อดับไฟก่อน ปัญญาค่อยว่าทีหลัง..ตามอารมร์โกรธไม่ทันหรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กุมภาพันธ์ 2008
  13. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    ลองตามดูจิตของตัวเองสิครับ ว่าในวันที่เราถูกใครก็แล้วแต่กระแหน่ะกระแหน หรือว่าค่อนขอด ตกกลางคืนก่อนหลับ เราคิดถึงมันหรือเปล่า คิดจนทำให้เรานอนไม่หลับหรือเปล่า หรือหลับไปแล้วเอาเก็บไปฝันหรือเปล่า

    ถ้าเราไม่คิดเรื่องดังกล่าวก่อนหลับ หรือไม่ได้เก็บไปฝัน ผมคิดว่า หน้าจะไม่มีโกรธติดอยู่ในจิตของเรานะครับ

    เมื่อวันพุธ ผมก็เพิ่งโดนทดสอบมาเองครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมทำงานปัจจุบันนี้ ยังคงเป็นลูกจ้างชั่วคราวในบริษัทเอกชน วันพุธที่ผ่านมา มีการจัดอบรมและเลี้ยงอาหารกลางวันแก่พนักงานประจำของบริษัท ผมเองเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวไม่ได้รับอีเมล์เชิญอบรมจากทาง แผนกบริหาร แต่อย่างใด แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาอบรม และรับประทานอาหารกลางวัน หัวหน้างานของผม และพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ปกติจะทานข้าวกลางวันด้วยกัน ก็มาชวนให้ผมขึ้นห้องอบรมและกินอาหารกลางวันด้วยกัน ผมก็เลยขึ้นไปที่ห้องอบรมด้วย

    ก็รับอาหารกลางวันและนั่งทานไปด้วยอบรมไปด้วย มาถึงตอนอบรมเสร็จ มีการแจกของที่ระลึก เป็น ทรัมไดร์ 2 GB ผมก็ไม่กล้าไปเข้าแถวรับหรอก เพียงแต่ไปยืนรอเพื่อน พอดีพี่ที่เป็นคนแจกของ เค๊ามองหน้าผม ผมเลยทำท่าทำทาง ถามแก่ไปว่า "ผมได้ด้วยไหม" แก่ตอบกลับมาว่าต้องดูรายชื่อก่อน ผมก็เลยเดินไปต่อท้ายแถวเพื่อรับของที่ระลึกนั้น พอแถวขยับไปเรื่อย ๆ มาถึงคิวผม ปรากฎว่า พี่คนนั้น ไม่ส่งของให้ผม แต่กลับยื่นให้กับคนที่ต่อท้ายผม แล้วหันมามองหน้าผมแล้วบอกกับผมว่า "เธอไม่มีรายชื่อ เพราะเธอไม่ได้คลิกปุ่มตอบรับการเข้าอบรม" ผมเลย ตอบพี่คนนั้นกลับไปว่า "ผมจะคลิก Accept ได้ยังไง เพราะผมไม่ได้รับอีเมล์เชิญจากแผนก Admin" พี่คนนั้นได้ตอบผมกลับมาว่า "อ๋อ ใช่สิ เพราะเธอเป็นแค่ ลูกจ้างชั่วคราว" ผมก็เลยบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ" และผมก็เดินออกประตูห้องอบรม ขณะนั้น น้องผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังยืนแจกสมุดโน๊ต ก็ยื่นมาให้ผม แต่ผมไม่รับ และบอกกับน้องไปว่า "ไม่เป็นไรครับน้อง พี่ไม่เอาหรอก เพราะพี่ไม่มีสิทธิได้รับนะครับ" น้องเค๊าก็ งง

    ขณะกำลังลงลิฟต์ หัวหน้าผมก็มองว่า ทำไมผมไม่ได้ของ จึงถามผมว่า "ทำไม เอ็ง ไม่ได้ของล่ะ" ผมก็เลยตอบไปว่า "ก็เค๊าบอกว่า เป็นเพราะผมเป็นลูกจ้างชั่วคราว" หัวหน้าก็เลยจะยื่นของหัวหน้ามาให้ผม ผมเลย บอกไปว่า "ขอบคุณครับ ไม่เป็นไรหรอกครับพี่"

    พอผมลงมาถึงโต๊ะ น้องผู้หญิงที่ยืนแจกสมุดโน๊ต ก็โทร. ลงมาหา และบอกผมว่า "อย่าเพิ่งไปไหนนะ เดี๋ยวจะลงไปหา" ผมรู้อยู่แล้วว่าน้องเค๊าจะเอาของลงมาให้ และน้องเค๊าก็เอาลงมาให้จริง ๆ

    ถ้าเป็นผมในสมัยที่ยังไม่ได้เรียนรู้ธรรมะของพุทธองค์ ผมจะโกรธที่พี่คนแจกของพูดเช่นนั้น และผมคงจะไล่ให้น้องเค๊าเอาของกลับไป ผมจะไม่รับเด็ดขาด แต่ตอนนี้ ผมไม่โกรธ ไม่ได้เก็บมาคิดอะไร และก็รับของนั้นจากน้องเค๊าไว้ ผมคิดแต่เพียงว่า "เค๊าให้ก็รับไว้ เค๊าไม่ให้ก็แล้วไป"

    เนี่ยะครับ เป็นประสบการณ์อันหนึ่งที่นำมาเล่าสู่กันฟัง...เจริญธรรม
     
  14. nai_sit

    nai_sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +166
    ขออนุโมทนากับความมีสติและมีขันติ กับทุกๆท่านด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...