ใครมีวิธีแก้วิตกจริต

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย VERAJAK, 25 พฤษภาคม 2015.

  1. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ใครมีวิธีแก้วิตกจริตบ้าง แนะนำหน่อยคิดว่าช่วยคนเอาบุญ มีคนบ้างคนเสวยวิตกจริตอย่างไม่รู้ตน ทำให้จิตใจคอยพร่ำเพ้อมีภัยต่างๆนาๆ แต่ไม่รู้ความสามารถตนว่ามีแค่ไหนทำอะไรได้บ้าง เปรียบเสมือนพรุ่งนี้พระอาทิตย์จะขึ้น เค้าพยายามบอกให้ทุกคนว่าพรุ่งนี้จะร้อนตับแตก แล้วมีปัญญาดึงไม่ให้พระอาทิตย์ขึ้นรึไง? ก็ไม่มี อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อะไรจะดับ ก็ต้องดับ แค่นี้ยังไม่เข้าใจจะทำอะไรได้ ช่วยๆกันแสดงความคิดเห็นให้สามารถแก้วิตกจริตได้เค้าจะได้ไม่พร่ำเพ้อต่อไป สาธุ
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ในเมื่อรู้ว่านั่นเป็นวิตกจริต ก็อย่าไปเต้นตามเขาสิ
     
  3. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    วิตกจริต ถ้าหมายถึง อาการที่ตรึกตรองเป็นห่วงงาน ห่วงกิจการ หรือกิจกรรมที่ทำไป ว่าจะเป็นอย่างไร จะดีไหม จะเสียไหม แต่มีมากกว่าปกติ ยังไม่น่ามีผลเสีย เป็นผลดีเป็นการเอาใจใส่งาน การติดตามหรือทบทวนงาน หรือกิจกรรม อาจจะเหนื่อยสักหน่อยถ้าไม่รู้จักคิดวิธีติดตาม กำกับดูแล หรือวัดผลการดำเนินงาน แต่ถ้าเป็นห่วงมากเกินไป เป็นห่วงเล็กห่วงน้อย กลัวไปทุกเรื่อง ไม่คิดถึงวิธีการวัดผลการดำเนินงาน การติดตามงาน แยกแยะเหตุปัจจัยความล้มเหลวและสำเร็จของงานไม่ออก คือ อาจต้องฝึกการใช้ความคิดเหตุผลตามหลักวิชาชีพ แต่ถ้าเข้าขั้นเป็นอาการกลัวว่าจะเกิดเหตุในทางร้ายๆ ในทางเสียหายแก่ตนในทุกเรื่องโดยไม่อิงกับเหตุปัจจัย ไม่อิงกับการงาน เป็นอาการวิตกจริต ที่อาจมาจากประสบการณ์ชีวิตที่เคยผิดพลาดมา หรือพบเจอเหตุการณ์เลวร้าย แล้วเกิดความทุกข์แก่กายและใจอย่างแสนสาหัส ไม่อยากประสบพบเจอความทุกข์นั้นอีก เป็นอาการเข็ดขยาดของจิต ความกลัวความทุกข์และความผิดหวังทำให้จิตตก ขาดการมองเหตุและผลไปแล้ว ระดับความรุนแรงของอาการวิตกจริต แล้วแต่เหตุปัจจัยต่าง อาทิ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นเพของจิตผู้นั้น สภาพแวดล้อมบุคคลหรือสังคมผู้นั้น การที่จะแนะนำได้หรือไม่ จึงแล้วแต่ระดับความรุนแรงของอาการวิตกจริตของคนนั้นๆ วิธีที่จะช่วยได้ คือ คนใกล้ตัว ต้องศึกษาเค้าก่อน ศึกษารากเหง้าของอาการ ศึกษาสภาพจิตใจของเค้า ใจผู้ที่จะช่วยต้องมีเมตตาจิต ยิ่งสูงยิ่งจะช่วยให้เค้าสงบจิตสงบใจได้ง่าย ถ้าเค้ายังมองเห็นหรือพูดคุยเหตุผลได้
    ต้องช่วยให้คิดตามความเป็นจริง ให้ยอมรับความจริง บทสวดมนตร์แปลจะช่วยได้ครับ สำหรับตัวเราคือ สวดมนตร์แปลในช่วงทำวัตรเช้า

    มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ : -
    พวกเราเมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว, จึงได้รู้อย่างนี้ว่า : -
    ชาติปิ ทุกขา,
    แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ ;
    ชะราปิ ทุกขา,
    แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์ ;
    มะระณัมปิ ทุกขัง
    แม้ความตายก็เป็นทุกข์ ;
    โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา,
    แม้ความโศกความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกายความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจก็เป็นทุกข์ ;
    อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข
    ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ ;
    ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข,
    ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ ;
    ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง,
    มีความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์ ;
    เต (ตา) มะยัง โอติณณามหะ,
    พวกเราทั้งหลาย เป็นผู้ถูกครอบงำแล้ว ;
    ชาติยา,
    โดยความเกิด ;
    ชะรามะระเณนะ,
    โดยความแก่และความตาย ;
    โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปยาเสหิ,
    โดยความโศกความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกายความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจทั้งหลาย ;
    ทุกโขติณณา,
    เป็นผู้ถูกความทุกข์หยั่งเอาแล้ว ;
    ทุกขะปะเรตา,
    เป็นผู้มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว ;
    อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขันขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ.
    ทำไฉน การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ จะพึ่งปรากฏชัดแก่เราได้.
    จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา,
    เราทั้งหลาย ผู้ถึงแล้วซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ปรินิพพานนานแล้วพระองค์นั้นเป็นสรณะ ;
    ธัมมัญจะ ภิกขุ สังฆัญจะ,
    ถึงพระธรรมด้วย, ถึงพระภิกษุสงฆ์ด้วย ;
    ตัสสะ ภะคะวะโต สาสะนัง ยะถาสะติ ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ,
    จักทำในใจอยู่ ปฏิบัติตามอยู่ ซึ่งคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตามสติกำลัง ;
    สา สา โน ปะฏิปัตติ,
    ขอให้ความปฏิบัตินั้น ๆ ของเราทั้งหลาย ;
    อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุ.
    จงเป็นไปเพื่อการทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ เทอญ.

    สรุป บอกให้เค้ายอมรับความจริงที่ว่า คนเรายังไงก็ทุกข์ครับ ต้องอยู่กับมัน ไม่ต้องกลัวมัน แต่เราบอกไปมันง่ายแต่เค้าเชื่อเรายาก ถ้าพอไปได้จะพาไปวัด ชวนบวชเนกขัมมะ ถือศีล ๘ สัก ๓ วัน ไต่เป็น ๕ วัน ไต่เป็น ๗ วัน เพราะต้องสวดมนตร์ พาไปวัดที่สวดมนตร์แปลอย่างนี้ จะเป็นการบอกจิตตัวเองทุกเช้า จะดีกว่าบอกสอนเค้า เพราะคนไปวัดส่วนใหญ่เค้ารู้จักทุกข์กัน มาทำการยอมรับความจริงว่าคนเรามันทุกข์เป็นธรรมดา

    ถ้าเป็นหนัก หาหมอจิตแพทย์นะครับ เพราะคนที่วิตกจริตบางคนที่มีสติปํญญามากจะไม่ค่อยเชื่อใคร ดื้อมาก ถ้าไม่เก่งกว่าเค้าเค้าไม่ฟังฮะ ส่วนบางคนความกลัวมีมากคนจะช่วยต้องมีจิตเมตตาสูงเพื่อให้จิตเค้าสงบ คลายความกลัวในใจของเค้าก่อน พ่อแม่ญาติพี่น้อง แฟน เพื่อนสนิทจะช่วยแนะนำได้ดีกว่า แล้วค่อยบอกค่อยแนะนำวิธีการต่อไป
    หาจิตแพทย์ดีสุดครับ

    ขอจบการร่วมแสดงความเห็นเท่านี้ครับ
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    บางคนไม่ยอมรับพระพุทธศาสนาไปแล้ว
    เพราะเข็ด ไปโดนหมู่นักกรรมฐานยำมาเหมือนกะ ช้างเขาใหญ่ไรงี้ โดนไฟฟ้าช๊อต

    ถ้าโดนมาหนักก็ต้องให้เวลาเหยื่อ ปรับตัวอีกหน่อย

    ปรกติถ้ามีคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ใหม่
    มีที่เกาะใหม่ อาการวิตกจริตจะคลายไป เหมือนเที่เราไว้ใจเชื่อใจลมหายใจ

    มันจะไปเกาะลมหายใจแทน ถ้าทำอานาปานุสติได้
    ฌานในอานาปานุสติยากมาก
    ผมขอทำนายว่าคนแถวๆนี้ทำไม่ได้หรอก
    ใช้วัตถุอาถรรพ์ ทำของใส่คนอื่นให้เชื่อว่าตนทำได้หนะเยอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2015
  5. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    การที่เราไปเชื่อคนที่ภาวนา อานาปานุสติไม่ได้ แน่ๆ
    และเป็นความผิดของคนอื่นแน่ๆ หาเหยื่อแน่ๆ
    เชื่อคนแบบนี้

    อาการวิตกจริต จะไม่เกิดกเหยื่อ
    แหม..
    เดินบนน้ำยังง่ายกว่า
     
  6. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ที่บอกว่าอานาปานุสติยากมาก
    เพราะคนสมันปัจจุบัน มีกระัแสไฟฟ้า เข้าก่อกวนกลไกการหายใจเยอะมาก

    เช่นต้องสูดควัยพิษ หรือไปเชื่อกรรมวิธีหายใจที่บังเอิญ
    ไปเอากระแสไฟฟ้า มาฉาบย้อม ประสาทการรับรู้ลมหายใจพอดี

    หรือไปโดนไสยะ โดนอวิชชา จากคนที่ภาวนาไม่ได้แน่ๆ
    รู้กันชัดว่าไม่ได้แน่ๆ
    แต่จงใจให้เหยื่อเชื่อ

    ภาวนาเอาอานาปานในยุคนี้ยากมากกกกกกกก

    ผมแนะนำสวดอิติปิโสเยอะๆๆๆๆๆ เพราะในคำสวดอิติปิโสมีอะไรให้เชื่อให้เกาะเยอะ

    และให้หายใจเข้า ภาวนาพุทธ
    หายใจออกภาวนาโธ ถ้าอยากจะกำหนดรู้ลมหายใจพร้อมคำภาวนา
     
  7. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เอางี้โดนคนที่ทำไสยะใส่
    คนที่ทำจงใจให้จิตไปเกาะคนที่ภาวนาเอาอานาปานุสติไม่ได้แน่ๆ
    ก็จะเหมือนคนจมน้ำ โดนมัดถ่วงน้ำทั้งคู่

    วิธีแก้ ก็คือต้องบูชาพระรัตนตรัย
    กล่าวคำ รับไตรสรณคม อาราธนาศีล อาราธนา พระกรรมฐาน
    สวดอิติปิโสให้เยอะสุดๆๆๆๆๆๆ
    แล้วหายใจเข้าภาวนาว่าพุทธ หายใจออกภาวนาว่าโธ

    ไม่มีวิธีอื่น
    มีแค่นี้

    ใครหาวิธีอื่นได้อีก ก็คือคนวิตกจริต
     
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    จริยา แปลว่า ความประพฤติปกติ หมายถึงพื้นเพของจิต พื้นนิสัย ลักษณะความประพฤติที่หนักไปทางใด ทางหนึ่ง ตามสภาพจิตที่เป็นปกติของบุคคลนั้นๆ
    - ตัวความประพฤติ หรือ ลักษณะนิสัยนั้น เรียกว่า "จริยา"
    - บุคคลผู้มีลักษณะนิสัยและความประพฤติอย่างนั้นๆ เรียกว่า "จริต"
    ตัวอย่าง เช่น คนมีราคจริยา เรียกว่า ราคจริต เป็นต้น

    โดยประเภทใหญ่ๆ จัดเป็นจริต 6 คือ

    1. ราคจริต ผู้มีราคะเป็นความประพฤติปกติ มีลักษณะนิสัยหนักไปทางราคะ ประพฤติหนัก ไปทางรักสวยรักงาม ละมุนละไม ควรใช้กรรมฐานคู่ปรับ คือ อสุ ภะ (และกายคตาสติ)

    2. โทสจริต ผู้มีโทสะเป็นความประพฤติปกติ มีลักษณะนิสัยหนักไปทางโทสะ ประพฤติหนัก ไปทางใจร้อนหงุดหงิดรุนแรง กรรมฐาน ที่เหมาะ คือ เมตตา (รวมถึงพรหมวิหารข้ออื่นๆ และกสิณ โดยเฉพาะวรรณกสิณ)

    3. โมหจริต ผู้มีโมหะเป็นความประพฤติปกติ มีลักษณะนิสัยหนักไปทางโมหะ ประพฤติหนัก ไปทางเขลา เหงาซึม เงื่องงง งมงาย ใครว่าอย่างไรก็คอยเห็นคล้อยตาม ไป พึงแก้ด้วยมีการเรียน ไต่ถาม ฟังธรรม สนทนาธรรมตามกาล หรืออยู่กับครู (กรรมฐานที่เกื้อกูลคือ อานาปานสติ)

    4. สัทธาจริต ผู้มีศรัทธาเป็นความประพฤติปกติ มีลักษณะนิสัยมากด้วยศรัทธา ประพฤติ หนักไปทางมีจิตใจซาบซึ้ง ชื่นบาน น้อมใจเลื่อมใสโดยง่าย พึงชักนำไปใน สิ่งที่ควรแก่ความเลื่อมใส และความเชื่อที่มีเหตุผล เช่น ระลึกถึงคุณ พระรัตนตรัย และศีลของตน (กรรมฐานอนุสติ 6 ข้อแรกได้ทั้งหมด)

    5. พุทธจริต หรือ ญาณจริต ผู้มีความรู้เป็นความประพฤติปกติ มีลักษณะนิสัยความประพฤติหนักไปทางใช้ ความคิดพิจารณา และมองไปตามความจริง พึงส่งเสริมด้วยแนะนำให้ใช้ความคิด พิจารณาสภาวธรรม และสิ่งดีงามที่ให้เจริญปัญญา เช่น พิจารณาไตรลักษณ์ (กรรมฐานที่ เหมาะ คือ มรณสติ อุปสมานุสติ จตุธาตุววัฏฐาน อาหาเร ปฏิกูล สัญญา)

    6. วิตกจริต ผู้มีวิตกเป็นความประพฤติปกติ มีลักษณะนิสัยความประพฤติ หนักไปทางชอบครุ่นคิดวกวน นึกคิดจับจดฟุ้งซ่าน พึงแก้ด้วยสิ่งที่สะกด อารมณ์ เช่น เจริญอานาปานสติ (หรือ เพ่งกสิณเป็นต้น)
    อาการแสดงออกต่างๆ กัน ในทางความประพฤติของจริตเหล่านี้ เช่น เมื่อพบเห็นสิ่งของสักอย่าง

    - ถ้าของนั้นมีอะไรเป็นส่วนดีน่าชมอยู่บ้าง ใจของคนราคจริต จะไปจับอยู่ที่ส่วนนั้น ติดใจ เล็งแลอยู่ได้นานๆ ส่วนอื่นที่เสียๆ ไม่ได้ใส่ใจ

    - ส่วนคนโทสจริต แม้ของนั้นจะมีส่วนดีอยู่หลายอย่าง แต่ถ้ามีส่วนเสียหรือข้อบกพร่องอยู่สักหน่อย ใจของเขา จะกระทบเข้ากับส่วนที่เสียนั้นก่อน ไม่ทันได้พิจารณาเห็นส่วนดี ก็จะไปเสียเลย

    - คนพุทธิจริต คล้ายคนโทสจริตอยู่บ้าง ที่ไม่ค่อยติดใจอะไร แต่ต่างกันที่ว่าคนโทส จริต มองหาส่วนเสียหรือมองให้เสียทั้งที่ ไม่เป็นอย่างนั้นจริง และผละไปอย่างหงุดหงิดขัดใจ ส่วนคนพุทธิจริต มองหาส่วนเสียข้อบกพร่องที่เป็นจริงและเพียงแต่ไม่ติดใจผ่านไป

    - ส่วนคนโมหจริต มองเห็นแล้วจับจุดอะไรไม่ชัด ออกจะเฉยๆ ถ้าใครว่า ดี ก็พลอยเห็นดีว่าตามเขาไป ถ้าเขาว่า ไม่ดี ก็พลอยเห็นไม่ดีคล้อยตามเขาไป

    - ฝ่ายคนวิตกจริต คิดจับจด นึกถึงจุดดีตรงนี้บ้าง ส่วนไม่ ดีตรงนั้นบ้าง วุ่นไปวุ่นมา ชั่งไม่เสร็จ ตัดสินใจไม่ตก จะเอาหรือ ไม่เอา

    - ส่วนคนศรัทธาจริต มีลักษณะคล้ายคนราคจริตอยู่ บ้าง คือ มักมองเห็น ส่วนที่ดี แต่ต่างที่ว่าคนศรัทธาจริต เห็นแล้วก็ชื่นชมซาบซึ้งใจ เรื่อยๆไป ไม่ติดอ้อยอิ่งอย่างพวกราคจริต

    อย่างไรก็ตาม คนมักมีจริตผสม เช่น ราคะผสมวิตก โทสะผสม พุทธิ เป็นต้น ในการปฏิบัติบำเพ็ญสมาธิ นอกจากเลือกกรรมฐานให้เหมาะกับจริต แล้ว แม้แต่สถานที่อยู่อาศัย บรรยากาศ หนทาง ของใช้ อาหาร เป็น ต้น ท่านก็ยังแนะให้เลือกสิ่งที่เป็นสัปปายะ คือ เกื้อกูลเหมาะกันด้วย

    อนึ่ง ท่านเตือนว่า เรื่องกรรมฐานที่เหมาะกับจริตต่างๆนั้น อย่าถึงกับถือตายตัวทีเดียวว่าเป็นอย่างที่ได้แสดงไว้ พูดอย่างกว้างๆ แล้ว กรรมฐานทุกอย่าง ก็เป็นประโยชน์ช่วยข่มอกุศล และเกื้อกูล หนุนกุศลธรรมได้ทั้งนั้น (วิสุทธิ. 1/145)
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    คือผมเนียะเห็ฯๆๆๆ พิมพ์เองเออเองชัดๆๆๆๆ

    แต่ร่างกายของเราเนียะ มนุษย์เนียะ
    ในที่สุด
    ธรรมที่เรายึดไว้ได้ ขอคืนพื้นที่มากได้ จำมาได้
    ธรรมนี้เราเอาไปบอก เอาไปจำ ให้คนดน้นคนนี้จำ

    แต่ด้วยร่างกายมนุษย์
    กระแส ของธรรมนั้นๆ ต้องคลาย
    วิธีเห็ฯการคลายง่ายๆ คือ ดูมันคลายไปพร้อมๆกะลมหายใจ
     
  10. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมใช้ธงมหาพิชัยสงครามวัดท่าซุง
    เอามาพกไว้กะตัว
    แล้วภาวนาหายใจเข้า พุทธะ
    หายใจออก สังมิ
    ด้วยความบังเอิญมีธงแบบนี้นานพกมานานไม่เคยปลุก
    วันนั้นก็มีอาการทรมานจากอาการจิตเภท จิตประสาทอยู่แล้ว
    ภาวนาอย่างอื่นๆมานานอยู่แล้ว แต่ไม่เคยได้อานาปานุสติมาหลายปีมากทรมานมาก

    พอเอามาภาวนาไม่ทันกีลมหายใจก็ได้อานาปานุสติ แบบอัปปนาเลย

    แต่ท่านก็ช่วยได้แค่ครั้งนั้นๆๆๆๆๆๆๆ

    ในที่สุดเราต้องหาวิธีทรงฌานในอานาปานุสติได้เอง
    มันต้องครายเอง ด้วยลมหายใจเอง

    จะเห็ฯว่าประมาณหลายเดือนมานี้ผมพิม์อะไรดูอ่านได้ใจความขึ้นนิดหน่อย
    เทียบกะเมื่อ ช่วงนี้ๆๆๆ ของปีก่อนๆๆๆ
    ผมภาวนาได้นิดๆอย่างนี้มาได้ประมาณเกือบๆๆๆปี
    เพราะอานุภาพธงมหาพิชัยสงครามวัดท่าซุง
     
  11. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    อย่าโกดนะ
    คนที่ถามอารมณืกรรมฐาน อารมร์พระอริยะเจ้าเกือบทั้งหมดที่เห็ฯถามกันในอบณิดพลังจิต

    คืออาการวิตกจริต ทั้งสิ้น

    การที่ยังไม่ครายอาการวิตก ก็ดีไปอย่าง
    ให้เห็ฯว่ามันทุกข์ บางที่เพราะกรรม หรืออาจจะบุญใหญ่ดลอยู่
    ทำให้เราต้องเข็ดแบบเข็ดขยาด กะอาการวิตกจริต

    ไม่งั้นแล้วเราจะยังใช้ ไสยะอยู่ ใช้อวิชชาในการดำเนินชีวิตอยู่
    เค้าจะต้องทำเอาเหยื่อเข็ดแบบ เข็ด เหมือนช้างโดนไฟช๊อต
     
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เหมือนผมเนียะ ตอนนี้ ยังชอบกินเหล้าอยู่
    บางปี ก็เบื่อเลยเห็นเหล้าที่ไหนก็เกลียด
    แต่ถ้ายังชอบอยู่ ก็มีโอกาสที่จะไปเอาเหล้ามากิน


    ทั้งๆที่ก็มีบางเดือนบางปี เราเลิกเหล้าไปแล้วและเกลียดเหล้าด้วย

    วิตกจริตก็เหมือนกัน
    ทั้งๆๆๆๆ ที่เราก็คราย วิตกจริตไปแล้ว
    เกลียดกลัวแล้ว ทุกข์แล้ว ยอมแล้ว แพ้แล้ว
    แล้วก็ครายแล้ว

    แต่ถ้าเรายังชอบ พอใจหนะ ฉันทะอยู่มีเชื่ออยู่

    อาการวิตกจริตก็กลับมาใหม่อยู่ดี

    ตอนนี้ผมอยู่กะอาการวิตกจริต
    ก็เหมือนกะผมยังอยากดื่มเหล้า ยังอยากละเมิดกาม อยากขโมย อยากฆ่า
    อยากโกหก
    ตอนนี้ผมก็แถมมีอาการจิตประสาทด้วย วิตกจริต
    ไม่หายหรอก
     
  13. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เนียะๆๆๆ
    ผมภาวนา จะเอาอานาปานุสติให้ได้
    ทะยานอยากหละ
    ก็ไปนั่งคิดๆๆๆๆๆ ว่าต้องหายใจไงนะ คนอื่นหายใจไงนะ เค้าจะได้ฌานอย่างที่เค้าโฆษณาหรือเปล่านะ
    เราจะได้ฌานอย่างเค้าหรือเปล่านะ ก็ผมชอบคิด

    หายใจให้ตายอย่างไรผมก็ผิด
     
  14. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมไม่ได้พิมพ์เอง เออเอง ด้วยเหตุที่ผมจะเปลี่ยนที่ผมผิดให้เป็ฯถูก
    ผมก็ตั้งใจจะพิมพ์มันผิดๆๆๆนั้นแหละ

    เห็ฯมะ เพราะว่าเราหลายคนคือวิตกจริต มันจะวิตกอย่างนี้แหละ
    จนกว่าจะนิพพานกันไป
     
  15. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมพิมพ์เยอะๆๆๆ
    เพราะผมวิกลจริต
    เพราะผมวิตกจริต

    ทำไงได้
     
  16. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เท่าที่คิดได้ก็ นั่งมองภาพ พระพุทธรูปที่ศรัทธาที่สุด และมีสติกับลมหายใจเข้าออก
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ให้เฉยๆกับการรู้ทุกเรื่อง. ไม่สนใจ และผลักออกจากตัวจิต
    ด้วยการกำหนดคำว่าอโหสิออกจากกลางลิ้นปี่ ลากตัว สิๆๆๆยาวๆ
    ซัก ๒ ถึง ๓ ครั้งจิตจะนิ่งเพราะผลักตัวรู้ได้แต่ยังไม่คลาย
    และตามด้วยการอุทิศส่วนกุศลซ้ำอกกจาก
    ต่ำแหน่งเดิมอีกครั้ง จิตจะคลายและโล่งโปร่งได้เอง
    ปล.รู้เมื่อไร เกิดวิตกจริตเมื่อไร คิดได้ นึกได้ เมื่อไร ก็ทำตอนนั้น.
    แรกๆทำบ่อยหน่อยเรื่องธรรมดา
    จะสังเกตุผลที่เกิดกับจิตได้ด้วยตัวเองครับ
    ไม่เชื่อลองพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนได้ครับ
     
  18. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกุศลที่ท่านมาจากดิน. ท่านนพ. ท่านณฉัตร. ท่านชื่อภาษาอังกฤษ(กลัวเรียกผิด). ที่นำสิ่งดีๆมาแนะนำ นะครับ ผมว่าท่านณฉัตรนั้นตอนท้ายดีมากๆครับ สงสัยต้องไปพบจิตแพทย์ดีที่สุด จะได้ไม่พร่ำเพ้อเป็นที่รบกวนคนอื่นๆที่เข้ามาแสวงหาความรู้ แต่อย่างว่านะครับเค้าไม่รู้ตัวถึงรู้ก็ไม่ยอมรับความจริง. ทนๆเอาหน่อยนะครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2015
  19. overmage

    overmage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +128
    เอาวิธีผมไปใช้ไหมครับ
    มี 2 ทางให้เลือก ถ้าคิดว่าจิตเข้มแข็ง เลือกแบบ เรียนรู้ให้ได้ ไม่ได้ก็ให้มันตาย กรรมฐานทุกกอง ทำตามที่ครูอาจารย์สอนครับ (จับลมหายใจ ให้มันอยู่ที่ลมหายใจจริงๆ นับ 1 - 10 หากมันฟุ้งก็เริ่มใหม่ แรกๆจะยากมาก) วันละนิด วันละหน่อย รู้ตัวที จับลมหายใจที พยายามอย่าฝืนมาก เดี๋ยวเครียด ถ้าเครียดล่ะ เจ๊ง

    ทางที่ 2 แบบ นุ่มนวล กำลังใจไม่แข็ง ก็ให้หาอะไรให้มันยึดหน่อยนึง อย่างเช่น การวางมือ (หารายละเอียดเอาเอง เท่าที่ทราบ เห็นสำนักหลวงพ่อจรัญท่านแนะนำ)

    เพราะพวก วิตกจริต เป็นพวกคิดมาก สมองไม่เคยว่างจากความคิด ดังนั้น ถ้ามันฝืนจริงๆ ก็ไปจับ พุทธานุสติ (จับภาพพระ คิดมากนัก คิดถึงแต่พระพุทธรูปซะเลย) ธรรมานุสติ(คิดตรึกตรองหัวข้อธรรมะ อันนี้ไม่หวังให้บรรลุ หรือเห็นธรรมนั้น เพราะปัญญาในระดับนี้ ยังน้อย ไม่พอ) สังฆานุสติ (คิดถึงหลวงพ่อที่เราเคารพท่าน )
    ที่สำคัญคือ อย่าเครียด ถ้าเครียดเกินไปให้หยุดก่อน ไปทำอย่างอื่นซะ เพราะฝืนไปก็เปล่าประโยชน์ เป็นโทษซะมากกว่า
    อาจพอช่วยได้นะครับ ซึ่งมันอาจไม่ถูกตามตำรา แต่ก็คงพอให้อ่านแก้ท้อในการปฏิบัติได้ครับ

    ขอให้เจริญในธรรม

    รอท่านอื่นมาแนะนำเพิ่มเติมให้ครับ
     
  20. GipBall

    GipBall เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +182
    ในโลกนี้ไม่มีวิธีไหนที่สามารถแก้ ตัวนี้ได้เลย ถ้า
    1ไม่ได้ฌาน4
    2วิญญาณ(ตัวรู้)ใกล้จาแยกขันธ์ทั้ง4ขันธ์
    3เป็นโสดาบัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...