คีโมกับมะเร็ง....เรื่องจริงที่หมอไม่ได้บอก

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 24 เมษายน 2015.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]


    หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะลองและใช้ในการกำจัดโรคมะเร็งในที่สุด โรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆ อีก.....

    # ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

    1.ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐานจนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล)เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้วมันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้ เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอจนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

    2.เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

    3.เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

    4.เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็งมันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการซึ่งอาจเกิดจากยีนสิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

    5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

    6.การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันมันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูกทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลายเช่นตับ ไต หัวใจปอดฯลฯ

    7.การบำบัดโดยคีโมและการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

    8.เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

    9.การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

    10.วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็งคือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว


    อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง....


    - A.น้ำตาลคือ อาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให กับเซลมะเร็งสารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น"" นิวตร้าสวีต"" "" อีควล"" "" สปูนฟูล "" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวานซึ่งเป็นอันตรายสารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า คือน้ำผึ้ง มานูคา(จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อยแต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้"" แบรก อมิโน"" หรือเกลือทะเลแทน

    - B.นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้ เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร

    - C.เซลมะเร็งเติบโตได้ดีในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวก เนื้อ จะสร้างสภาวะกรดขึ้นดังนั้นจึงควรหันไปรับประทาน ปลา จะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทน เนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ซึ่งล้วนเป็นอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

    - D.อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้พืช จำพวกหัวเมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อยจะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่างอาหารอีก 20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่วน้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดีให้พยายามดื่มน้ำผักสด (ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน)และรับประทานผักสดดิบ2-3 ครั้งต่อวันเอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ140 องศาF (ประมาณ 4 องศา C)

    - E.ให้หลีกเลี่ยงกาแฟน้ำชาและช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง...
    ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งน้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์หรือที่ผ่านการกรองเพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปาน้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรดให้หลีกเลี่ยง

    11. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยากและต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อยเนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

    12. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลงจะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตี กำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็งและช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดี ขึ้น

    13. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน (สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สารEssiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน, เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้นสารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอีเป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซลหรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซลซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลายซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

    14. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณการป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัยและความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้นให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัยเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

    15. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมากการออกกำลังกายทุกวันและการหายใจลึกๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับ เซลการบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง


    https://www.facebook.com/photo.php?...862.1073741834.100006506174769&type=1&fref=nf
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2015
  2. Supapongw

    Supapongw สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +6
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    5555__เพิ่งรู้เพิ่งมาบอก

    แต่คีโมฆ่าผู้ป่วยโรคมะเร็งมาเป็นล้านๆคน
    บริษัทผู้ผลิตรวยกันสนั่นโลก เสร็จแล้วเพิ่งมาบอกว่าคีโมไม่ดี

    ถามว่าถ้าคุณป่วยเป็นมะเร็งในวันนี้ ไป รพ. หมอจะให้ทำอะไร
    ก็ไม่พ้นให้ยาพิษคีโมอีกนั่นแหละ เพราะนี่คือ ระเบียบแบบแผนการรักษา
    ที่วางไว้ (โดยบริษัทยาผู้ผลิต + แพทย์ ?!?!)
    ขืนหมอคนไหนไปรักษาวิธีอื่น อาจมีสิทธิโดนเพิกถอนใบประกอบโรคศิลป์
    ได้ง่ายๆ นี่คือ การฆาตกรรมประเภทวัดดวง ครับ

    วันนี้ถ้าคุณเป็นมะเร็ง ควรคิดหาทางออกวิธีอื่นดีกว่า ครับ
    จะตายก็ควรตายด้วยฝีมือตัวเองประเสริฐกว่าไปจ่ายเงินให้คนอื่นมาฆ่า
     
  4. may uk

    may uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +178
    ขอบคุณกับความรู้ดีๆด้วยนะค่ะ เพื่อนเมรีพึ่งเสียไปเมื่ออาทิตย์ก่อนด้วยโรคมะเร็ง ส่วนเพื่อนอีกคนพึ่งกลับจากทำคีโมวันนี้ เศร้าใจจัง :(((
     
  5. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    ใช่ค่ะ..พระครูท่านคงทราบดีถึงผลข้างเคียงของคีโมกับมะเร็ง..ท่านจึงเลือกที่จะผลิตยาสมุนไพรไทย17ชนิดรักษาโรคร้ายเหล่านี้..อาหารการกินและจิตใจ เพื่อไม่ให้สภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้นก็มีผลดีมากมายเลยทีเดียว

    แห่รับสมุนไพรรักษาสารพัดโรค แน่นสำนักสงฆ์ควนตม เมืองคอน

    ผู้ป่วยระยะสุดท้ายยังมีหวังเดินทางข้ามจังหวัด แน่นสำนักสงฆ์ควนตม เมืองคอน รับยาสมุนไพรรักษาโรคร้าย เจ้าสำนักเผยมีสูตรรักษาสารพัดโรค ช่วยคนเอาบุญตามรอยบรรพบุรุษ

    เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่สำนักสงฆ์ควนตม หมู่ 9 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช มีการรักษาโรคร้ายให้หายขาดโดยมีผู้มารับการรักษากันจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่ารอบ ๆ บริเวณสำนักสงฆ์ควนตม เต็มไปด้วยรถยนต์จอดเรียงรายภายในสวนยางของชาวบ้านโดยเสียค่าที่จอดรถคันละ 20 บาทต่อ 1 วัน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้เจาของสวนยางในบริเวณดังกล่าว เมื่อเดินเข้าในบริเวณสำนักสงฆ์มีร้านค้ามากมายเรียงรายเหมือนมีงาน นับร้อยร้าน มีทั้งอาหาร เครื่องดื่มเสื้อผ้าขายกันคึกคัก ภายในสำนักสงฆ์มีประชาชนประมาณ 2,000 คนกำลังต่อแถวลงชื่อรับบัตรคิวเพื่อรับแจกสมุนไพรโดยมีอาสาสมัครเป็นประชาชนในพื้นที่คอยจัดคิวอำนวยความสะดวกมีผู้เข้ารับบริการมาจากในพื้นที่ และต่างจังหวัดมากมาย รวมถึงชาวมาเลเซีย

    จากการสอบถามผู้ที่มารับยาสมุนไพรส่วนมากเป็นโรคต่างๆที่รักษาจากหมอแผนปัจจุบันไม่หายขาดบางรายเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย รักษาไม่ได้แต่พอมารับการรักษาด้วยยาสมุนไพรที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวพบว่าอาการดีขึ้น บางรายเคยมารักษาและรับยามาแล้วหลายครั้ง และอาการก็ดีขึ้น

    พระครูปลัดกฤษณ กตปุญโญ อายุ 46 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ และเจ้าตำรับสมุนไพรเปิดเผยว่าได้บวชเป็นพระมาแล้ว13 ปี ในอดีตคุณปู่ และคุณพ่อ เป็นหมอยาสมุนไพรโบราณ มีสูตรสมุนไพรรักษาคนให้หายไข้สารพัดโรคโดยมีส่วนผสมของสมุนไพรไทย 17 ชนิด ทั้งนี้คนที่มารับการรักษาส่วนมากหาย หรือไม่ก็ทุเลาบางรายก็บอกต่อ จนเป็นที่เลื่องลือคนในพื้นที่ก็มีมากคนต่างจังหวัดเดินทางมาจองคิวตั้งแต่เช้าเพราะเปิดทำการแจกจ่ายยาเพียงเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ทำมาแล้ว 8 เดือนมีผู้ที่มาลงทะเบียนรับการรักษาทุดเพศ ทุกวัย รวมแล้วได้ประมาณ 50,000 คนไม่มีค่าใช้จ่ายไดๆทั้งสิ้น มีเพียงแต่รับบริจาคตามกำลังศรัทธา เพื่อนำเงินไปซื้อสมุนไพรน้ำผึ้ง และอื่นๆในการผลิต ยาสมุนไพรแจกจ่ายเพื่อเอาบุญเท่านั้น.

    แห่รับสมุนไพรรักษาสารพัดโรค แน่นสำนักสงฆ์ควนตม เมืองคอน | ((( Voice ))) ข่าวชาวนครฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpeg
      1.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      60.5 KB
      เปิดดู:
      220
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53 KB
      เปิดดู:
      191
    • 3.jpeg
      3.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      53.9 KB
      เปิดดู:
      186
    • 4.jpeg
      4.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      144
    • 5.jpeg
      5.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      55.3 KB
      เปิดดู:
      147
    • 6.jpeg
      6.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      52.3 KB
      เปิดดู:
      140
    • 7.jpeg
      7.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      125
  6. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    ขอเสริมอีกนิด..เกี่ยวกับการกินกับผู้ป่วยมะเร็ง เห็นว่าดีมีประโยชน์เช่นกัน


    คนเป็นมะเร็งจะไม่ตายแล้ว
    คนเป็นมะเร็งจะไม่ตายแล้ว : รายงาน

    เฟซบุ๊ก Leeprapan Lee ได้รายงานว่า มหาวิทยาลัยไถต้า ประเทศไต้หวัน นายแพทย์หวังเจิ่นอิ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระเพาะอาหารและลำไส้ได้บอกด้วยความปราถนาดีว่าให้กินผลไม้ ในช่วงที่เวลาท้องยังว่างนั่นก็คือก่อนอาหารนั่นเองและหลังอาหารให้ดื่มเครื่องดื่มที่ร้อน เท่านี้ คนที่เป็นมะเร็งก็จะไม่ตายแล้วไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ซึ่งวิธีการรักษาได้ถูกค้นพบแล้ว

    ศาสตราจารย์ นายแพทย์หวังเจิ่นอิ ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยไถต้าพูดต่อว่าการนำวิธีดังกล่าวมาใช้นั้น สัมฤทธิ์ผลถึง 80% ซึ่งคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมีโอกาสจะหาย ไม่ว่าท่านจะเชื่อ หรือไม่ก็ตาม ผมเชื่อว่าวิธีการรักษาได้ถูกค้นพบแล้ว

    สำหรับผู้ที่บำบัดและรักษาด้วยวิธีที่ใช้อยู่โดยทั่วไปซึ่งสุดท้ายผู้ป่วยต้องเสียชีวิตไปและข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่ง หลังบำบัดมีคนไข้ไม่กี่คนที่สามารถอยู่รอดได้เกิน 5 ปี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่รอดได้ 2-3 ปีเท่านั้น จึงถูกมองว่าการรักษาที่ใช้โดยทั่วไปแล้วดูแล้วไม่น่าจะได้ผล ปกติ ผู้ป่วยไม่รับการรักษาใดใดทั้งสิ้น ผู้ป่วยก็สามารถอยู่รอดได้ถึง 2-3 ปีอยู่แล้ว การรักษาที่ใช้โดยทั่วไปนั้น คนไข้จะถูกบำบัดด้วยเคมีหรือระบบฉายแสง ซึ่งทำให้เซลที่ดีของคนไข้ พลอยได้รับพิษเข้าไปด้วย มีผลทำให้ร่างกายยิ่งอ่อนแอลง เซลจะไม่มีแรงต่อต้านอีด้วย จึงทำให้เชื้อแพร่กระจายเร็วขี้น และมีผลต่อการร่วมและการก่อกำเนิดปฎิกิริยาในด้านอื่นๆอีก

    รับประทานผลไม้สด

    เมื่อพูดรับประทานผลไม้สดก็จะนึกถึง ผลไม้หั่นเป็นชิ้นๆ เคี้ยวแล้วรีบกลืนลงท้อง ความจริงไม่ง่ายเช่นนั้น ถ้าต้องการกินที่ได้ผล ต้องพิถีพิถันในเวลารับประทานผลไม้ดังกล่าว อะไรคือการกินแบบถูกวิธี ? อย่ากินผลไม้หลังอาหาร ควรกินช่วงเวลาที่ท้องว่างเปล่าเท่านั้น เช่นนี้แล้ว ผลไม้ถึงจะได้บรรลุผลในการฆ่าเชื้อ และสามารถให้พลังงานแก่ร่างกาย รวมถึงลดความอ้วนได้อีกด้วยและมีผลต่อการร่วมและการก่อกำเนิดปฎิกิริยาในด้านอื่นๆอีก ผลไม้จึงจัดได้อาหารที่มีส่วนสำคัญต่อการดำรงชีวิต

    ลองนึกภาพดู เรากินขนมปัง 2 แผ่น หลังจากนั้น กินผลไม้ 1 ชิ้น ตามหลักแล้ว ผลไม้จะผ่านผนังกระเพาะอาหารก่อนเข้าสู่ลำไส้ แต่กลับถูกกีดกันจากอาหารอื่นที่รับประทานก่อนหน้าที่จะรับประทานผลไม้ เมื่อผลไม้ที่กินเข้าไปได้ถูกผสมกับอาหารและน้ำย่อยที่เป็นกรดในกระเพาะอาหารสรรพคุณผลไม้ก็ถูกเปลี่ยนไปด้วย


    การรับประทานผลไม้ก่อนอาหาร

    หลังอาหารแล้วรับประทานผลไม้ คุณคงเคยได้ยินคนบ่นว่า ทุกครั้งที่กินแตงโมก็จะสอึก ถ้ากินทุเรียน ท้องจะจุก หากกินกล้วยหอม จะระบายอ่อนๆ เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่มาจากผลไม้และอาหารที่ที่เริ่มย่อยสลายผสมผสานจนเกิดแก๊สขี้น แต่ทว่า ถ้ารับประทานผลไม้ก่อนรับประทานอาหารก็จะไม่เกิดเหตุดังกล่าว ผมขาว ผมร่วงศรีษะล้าน เคร่งเตรียด นอนหลับน้อยจนขอบตา ดำ เมื่อทานผลไม้ในขณะท้องว่าง ลักษณดังกล่าวเบื้องต้น ก็จะจางหายไป

    ดร. เฮ่อโป๋ ได้บอกผลวิจัย ไว้ว่าเมื่อผลไม้เข้าสู่ร่างกายจะมีผลเป็นด่าง ดั่งเช่น ผลส้ม หรือมะนาวที่มีรสเปรี้ยวก็ตาม แต่ก็ล้วนเป็นอาหารที่มีความเป็นด่างนั่นเอง ประเด็นสำคัญ คือการรับประทานผลไม้ในเวลาที่ว่างเปล่า เพื่อให้ผลไม้ได้ช่วยเสริมความสวยงาม และอายุจะได้ยืนยาวนาน สุขภาพที่แข็งแรง มีพลามัยที่ดี มีความสุขและหุ่นดีอีกด้วย เมื่อคุณคิดจะดื่มน้ำผลไม้ ก็อย่าดื่มน้ำผลไม้กระป๋อง อย่านำผลไม้หรือน้ำผลไม้ไปอุ่นให้ร้อน เพราะจะเหลือเพียงรสชาติ คุณประโยชน์ที่ดีของผลไม้จะถูกทำลายสิ้น การรับประทานผลไม้ทั้งลูกย่อมดีกว่าดื่มน้ำผลไม้ แต่ถ้าต้องดื่มน้ำผลไม้ ต้องดื่มเป็นคำคำไปเพื่อให้น้ำลายได้คลุกเคล้ากันให้ทั่ว ก่อนดื่มลงไป คุณสามารถรับประทานผลไม้ 3 วัน ติดต่อกัน เพื่อชะล้างร่างกายให้สะอาด ผิวพรรณจะนวลผ่อง ผู้พบเห็นจะตื่นตาตื่นใจ

    กีวี่

    ผลเล็กแต่มากด้วยสรรพคุณ ประกอบด้วยสาร โปรตัสเซี่ยม แมกเนเซี่ยม วิตามินE และไฟเบอร์ มีวิตามินC เป็น 2 เท่าของผลส้ม

    แอปเปิล

    มีวิตามีC ต่ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยให้วิตามินCตื่นตัว ช่วยลดการเกิดมะเร็งในลำใส้โรคหัวใจและโรคลมชัก
    จึงมีคำพังเพยที่ว่า “รับประทานแอบเปิลวันละผล แพทย์จะจน เพราะทุกคน สุขภาพดี”

    สตรอเบอรี่

    เสมือนหนึ่งเป็นผู้คุ้มกันปกป้องร่างกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี จึงได้รับฉายาว่า ราชาแห่งผลไม้ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องมิให้เกิดมะเร็ง การแข็งตัวของเลือดที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดและสารอนุมูลอิสระ

    ส้ม

    รับประทานวันละ 2-4 ผล สามารถต่อต้านไข้หวัด ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันหรือสลายนิ่วในไตลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำใส้

    แตงโม

    ประกอบด้วยน้ำถึง 95% :ซึ่งแก้กระหายได้ดี มีกลูตาไธโอนเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีตัวสำคัญของไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน Cและโปแทสเซี่ยม

    ฝรั่งและมะละกอ

    มีวิตามิน C มากที่สุด ฝรั่งมีไฟเบอร์มากซึ่งแก้ท้องผูกได้ดี มะลกอ จะมีคาระตินส่งผลดีต่อดวงตา

    เชื่อหรือไม่ ดื่มน้ำเย็นหลังอาหารก็จะเกิดมะเร็งได้ง่าย ดังนั้นหลังอาหารแล้วควรดื่มน้ำร้อน เพราะน้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่กินเข้าไปแข็งตัว ซึ่งส่งผลเสียต่อการย่อย ไขที่แข็งตัว ทำปฎิกิริยากับกรดในกระเพาะ ทำให้ไขเป็นเกล็ดเล็ก ซึ่งง่ายต่อการดูดซึมในลำใส้ และจะฝังในผนังของลำใส้ ก่อตัวเป็นไขมัน ก่อให้เกิดมะเร็งนั่นเอง

    สุภาพสตรีต้องรู้ว่า การเป็นโรคหัวใจกำเริบมิได้เริ่มต้นมาจากอาการปวด ของไตด้านซ้ายมือ แต่กลับต้องระวังเมื่อเพดานปากล่าง มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง และการปวดหน้าอกอยู่เนืองๆ อาการที่ตามมาก็คือพะอืดพะอม เหงื่อออกมาก และ60%ของคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจ มักกำเริบในช่วงเวลาที่หลับสนิท จนไม่ตื่นอีกเลย การเกิดอาการปวดเพดานล่างของช่องปากจนตื่นขึ้น ต้องเอาใจใส่ และต้องยกระดับการเฝ้าระวังให้มากขึ้น หากเรามีความรู้ยิ่งมากเท่าไหร่ อัตราการมีชีวิตอยู่รอดก็มากขึ้นตาม

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.4 KB
      เปิดดู:
      113
  7. 1จุดแดง

    1จุดแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +337
    เป็นเรื่องในชีวิตจริงที่น่ากลัวมากครับ:'(
     
  8. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    งานวิจัยทางการแพทย์ ยืนยัน เนื้อสัตว์ ต้นเหตุของโรคมะเร็งร้ายกว่า 15 ชนิด

    ชัดเจน ผลงานวิจัย ทางการแพทย์ และ ทางวิทยาศาสตว์
    สถาบันโรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ ได้ยืนยัน ชัด โรค มะเร็งเต้านม
    ยอดฮิตของหมู่ชนสตรี ทั้งร่นใหม่ และ รุ่นเก่า เสียชีวิตปีละ หลาย ๆ สิบ ล้านคน
    ต้นเหตุ สาเหตุ หลักที่สำคัญ อัน ผลมาจาก การบริโภคเนื้อสัตว์ ยิ่งบริโภคมาก
    ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วย มากขึ้น คาดการณ์อีกประมาณ 8-10 ปี จะมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง
    กว่า 400-500 ล้านคน ผลพวง จาก คนรุ่นใหม่ ๆ ในเอเชียซึ่งมีเศรษฐกิจ ดี มีรายได้สูง ได้พลิก
    วิถีชีวิต ตามประเทศตะวันตก ที่นิยม ชมชอบอาหารแนวฝรั่ง ซึ่งมีเนื้อสัตว์ เป็นอาหารหลัก แตก
    ต่างจาก วิถีชีวิตตะวันออก ที่มี พืช ผัก ผลไม้ เป็นอาหารมื้อหลัก


    Breast Cancer Linked to Eating Red Meat | The Physicians Committee
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    อาหารจานเนื้อ ตามแบบ ฝรั่งตะวันตก ต้นเหตุป่วยโรคมะเร็งมีหลักฐานการแพทย์ ยืนยันชัดเจน

    ข่าวล่าสุด อาหารตะวันตก
    ซึ่งมีเมนูจานเนื้อเป็นหลัก เสี่ยงต่อการป่วยโรคมะเร็งร้าย
    สูงถึง 300 เปอรเซนต์
    ซึงถือเป็นภัยคุกคามชีวิตคนชาติตะวันตก สูงมาก ที่กลุ่มคนชนรุ่นใหม่
    และ วัยรุ่นยังนิยมบริโภคเนื้อ ทำให้ทางการสหรัฐ
    โดยสถาบันวิจัยโรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ (AICR)
    ต้องออกโรงเตือนเป็นการเร่งด่วนให้หยุด ละ บริโภคเนื้อสัตว์
    เพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย
    ด้วยโรคมะเร็งร้ายนานาชนิด ตามที่มีการศึกษา วิจัยอย่างกว้างขวาง
    ว่า เนื้อสัตว์เป็นภัยร้าย บ่อเกิดของโรคมะเร็งหลายๆ ชนิด นอกจากโรคหัวใจ
    โรคไขมันอุดตัน ในเส้นเลือด
    ////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
    Western diet boosts colon cancer risk by 300 per cent ...
    Western diet boosts colon cancer risk by 300 per cent - NaturalNews.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • c6.jpg
      c6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.9 KB
      เปิดดู:
      119
    • c4.jpg
      c4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15 KB
      เปิดดู:
      112
  10. kadomasaitou

    kadomasaitou Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +31
    สมุนไพรไทยดีที่สุด
     
  11. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    อาหารตะวันตก
    ซึ่งมีเมนูจานเนื้อเป็นหลัก เสี่ยงต่อการป่วยโรคมะเร็งร้าย หลาย ๆ สิบชนิด
    สูงถึง 300 เปอรเซนต์

    ซึงถือเป็นภัยคุกคามชีวิตคนชาติตะวันตก สูงมาก ที่กลุ่มคนชนรุ่นใหม่
    และ วัยรุ่นยังนิยมบริโภคเนื้อสัตว์ ทำให้ทางการสหรัฐ

    โดยสถาบันวิจัยโรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ (AICR)
    ต้องออกโรงเตือนเป็นการเร่งด่วนให้ลด ละ บริโภคเนื้อสัตว์
    เพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย
    ด้วยโรคมะเร็งร้ายนานาชนิด ตามที่มีการศึกษา วิจัยอย่างกว้างขวาง
    ว่า เนื้อสัตว์เป็นภัยร้าย บ่อเกิดของโรคมะเร็งหลายๆ ชนิด นอกจากโรคหัวใจ โรคไขมันอุดตัน ในเส้นเลือด Western diet boosts colon cancer risk by 300 per cent

    Tags: western diet, colon cancer, processed foods
    Western diet boosts colon cancer risk by 300 per cent - NaturalNews.com

    Learn more: Western diet boosts colon cancer risk by 300 per cent - NaturalNews.com

    ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยโรคมะเร็งแห่งสหรัฐ
    ::
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • cancer news.jpg
      cancer news.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.3 KB
      เปิดดู:
      90

แชร์หน้านี้

Loading...