ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Pst Nong ผ่าน จส. 100

    [​IMG]

    คณะผู้สังเกตการณ์จากองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือโอเอสซีอี ยังพยายามที่จะเดินทางเข้าเมืองเดบัลเซเว ในภูมิภาคตะวันออกของยูเครน เพื่อติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ตามที่กองทัพยูเครนระบุว่า แม้จะผ่านช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นในภูมิภาคไปนานหลายชั่วโมง แต่ฝ่ายกบฎยูเครนก็ยังยิงจรวดโจมตี และไม่ยินยอมให้คณะผู้สังเกตการณ์เข้าไปในพื้นที่
    เดบัลเซเวเป็นเมืองยุทธศาสตร์การคมนาคม และมีการสู้รบรุนแรงมานานหลายสัปดาห์ ซึ่งแกนนำกลุ่มกบฏ ยืนกรานว่า ข้อตกลงหยุดยิงมีผลเพียงรอบนอกของพื้นที่ แต่ไม่มีผลครอบคลุมถึงเมืองนี้ โดยในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ โอเอสซีอี ระบุว่าในช่วง 18 ชั่วโมงแรกของข้อตกลงหยุดยิงหลายพื้นที่กลับสู่ความสงบ มีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ ยกเว้นที่เดบัลเซเว , ไรโอรอดก้า และ ลูฮานส์ก จากนั้นในช่วงเช้าของวันนี้ โอเอสซีอี ก็ประกาศว่าจะพยายามหาทางเข้าไปตรวจสอบเมืองเดบัลเซเว
    และในเวลาเดียวกัน กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียูเตรียมออกประกาศรายชื่อบุคคลที่เป็นชาวรัสเซีย และยูเครนอีก 19 คนที่ห้ามการเดินทางเข้ายุโรปและระงับการทำธุรกรรมบัญชีธนาคารเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง นอกจากนี้ผู้นำยุโรป ยังเตือนรัสเซียว่าจะต้องพบกับการลงโทษเพิ่มเติม หากรัสเซีย ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง 13 ข้อที่เป็นความเห็นพ้องของที่ประชุมที่กรุงมินส์ก ประเทศเบราลุส

    จส. 100
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Pst Nong ผ่าน จส. 100

    [​IMG]

    แม้ว่าประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชงโก ผู้นำยูเครน จะประกาศให้กองทัพยูเครนหยุดยิงตามข้อตกลงระหว่างรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศส และเยอรมนี ในการประชุมร่วมที่กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส แต่ยังพบการสู้รบเกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกของยูเครน ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 2 ศพ เมื่อกลุ่มกบฎยูเครน ยิงจรวดโจมตีเมืองโปปาสนา แคว้นลูฮานสก์ และพยายามปิดล้อมกองทัพยูเครนในเมืองเดบาลเซเว ซึ่งกองทัพยูเครนแจ้งว่า แม้จะเข้าสู่ช่วงเวลาหยุดยิงก็ยังถูกยิงโจมตีอีก 60 ครั้ง ทำให้ทางการยูเครนและสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้รัสเซียและฝ่ายกบฏเคารพข้อตกลงหยุดยิง โดยเมืองเดบาลเซเวเป็นยุทธศาสตร์การคมนาคม เพราะเป็นชุมทางรถไฟ จึงมีการสู้รบมาหลายสัปดาห์
    ด้านทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ว่า ทั้งฝรั่งเศส และ เยอรมนี จะติดตามการหยุดยิงในภูมิภาคตะวันออกของยูเครนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจนถึงขณะนี้คณะผู้สังเกตการณ์ของโอเอสซีอี ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่เมืองเดบาลเซเวได้

    จส. 100
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Pst Nong ผ่าน komchadluek become a fan

    [​IMG]

    จับตาวิกฤติภัยแล้ง'ลุ่มเจ้าพระยา-แม่กลอง'ระทมทุกข์ในรอบ20ปีจับตาวิกฤติภัยแล้ง'ลุ่มเจ้าพระยา-แม่กลอง'ระทมทุกข์ในรอบ20ปี : พัฐอร พิจารณ์โสภณ เรื่อง/วัชรชัย คล้ายพงษ์ ภาพ
    ปัญหา "ภัยแล้ง" มาเร็วกว่าที่คิด ทำให้หลายจังหวัดประสบภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนัก โดยเฉพาะบ่อน้ำตามธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งเขื่อนขนาดใหญ่ กำลังมีปริมาณน้ำเหลือเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ในบางพื้นที่ประสบปัญหาน้ำประปาไม่พอใช้ ทำให้กรมชลประทานต้องออกประกาศให้เกษตรกรงดทำนาปรัง เพื่อรักษาน้ำไว้ใช้ตลอดหน้าแล้งของปีนี้
    สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้เริ่มลุกลามอย่างเห็นได้ชัด หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาน้ำไม่พอใช้ โดยเฉาะพื้นที่ ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ชาวบ้านประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอด ส่วนน้ำประปาก็ไม่มีใช้ ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านต้องแก้ปัญหาด้วยการจ้างช่างมาขุดเจาะบ่อบาดาล
    "อำนวย รื่นอายุ" ครูโรงเรียนบ้านหนองกก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา บอกว่า ตอนนี้โรงเรียนแทบจะไม่มีน้ำใช้ เพราะน้ำประปาจะไหลเฉพาะเวลากลางคืน จึงต้องจ้างช่างมาเจาะน้ำบาดาลเพื่อเก็บให้นักเรียนใช้ โดยที่ผ่านมาทางโรงเรียนแก้ปัญหาด้วยการให้ครูเวร หรือภารโรงรองน้ำประปาในเวลากลางคืน แต่ยังไม่เพียงพอ ส่วนน้ำดื่มต้องไปขอจากหน่วยงานอื่นๆ เพื่อมาเติมให้นักเรียนดื่ม
    "โรงเรียนประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก น้ำฝนที่เคยรองไว้ระยะหลังไม่สามารถดื่มได้ เราต้องผชิญกับปัญหาดังกล่าวทุกปี แต่ในปีนี้คาดว่าจะหนักมากที่สุด จึงต้องจ้างช่างมาขุดบ่อบาดาลเพื่อรองรับสถานการณ์"
    ความเดือดร้อนจากภัยแล้ง นอกจากจะกระทบต่อครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองกก แต่ปัญหาดังกล่าวยังเกิดขึ้นกับชาวบ้านแทบทุกอำเภอของ จ.นครราชสีมา เช่นกัน ซึ่งทางแก้หนทางเดียวที่จะช่วยบรรเทาไปได้ คือ การขุดบ่อบาดาลให้ได้มากที่สุด
    "มานะ เจ๊กแตงพะเนา" ช่างขุดเจาะบ่อบาดาล บอกว่า ปีนี้แล้งมาก บางที่แล้งถึงขนาดผืนดินแตกระแหง น้ำประปาไหลบ้างไม่ไหลบ้าง ทำให้ชาวบ้านจ้างชุดบ่อบาดาลกันมากมาย โดยคนที่มาจ้างมีทั้งเกษตรกร ชาวบ้าน และหน่วยงานต่างๆ ตอนนี้คิวเยอะมาก จึงกำหนดไม่ได้ว่า ชาวบ้านจะได้คิวในวันไหน
    แม้ปีนี้จะเพิ่งย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ภัยแล้งกลับสร้างผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะเขื่อนสำคัญในพื้นที่ต่างๆ อาทิ เขื่อนลำคอง ขณะนี้มีน้ำเหลือเพียงร้อยละ 37 ซึ่งน้ำที่เหลือในตอนนี้ใช้เพื่ออุปโภค บริโภค และทำน้ำประปาเป็นหลักเท่านั้น
    ไม่ต่างจากพื้นที่ในลุ่มเจ้าพระยา ใน จ.ลพบุรี ที่ปีนี้มีข้อมูลระบุว่า แล้งหนักในรอบ 20 ปี
    จากการสำรวจพบว่า "แม่น้ำบางขาม" แหล่งน้ำสายหลักกลับแห้งขอด เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก ถึงขนาดต้องรวมตัวว่าจ้างผู้รับเหมาสร้างคันดินกั้นน้ำให้เป็นแอ่ง ก่อนจะนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ขณะที่เกษตรกรหลายรายต้องเปลี่ยนไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อย่างเช่น มันสำปะหลัง เผือก หรือแตงกวา ทดแทน
    ทั้งนี้ ตามปกติในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี จะเป็นช่วงการทำนาปรังของชาวนา แต่ปีนี้ชาวนาหลายรายต้องหยุดทำนา เพราะปริมาณน้ำไม่เพียงพอ
    "สุเทพ น้อยไพโรจน์" รองอธิบดีกรมชลประทาน บอกว่า เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนกรมชลฯ จะประเมินว่า น้ำในปีนี้มีเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคหรือไม่เป็นอันดับแรก จากนั้นจะประเมินถึงสถานการณ์น้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ ก่อนจะมาประเมินถึงการใช้น้ำเพื่อการเกษตร ส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลอง ยืนยันว่า น้ำเพียงพอที่จะเริ่มเพาะปลูกได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม ส่วนพื้นที่อื่นๆ กรมชลฯ ประเมินว่า จะมีน้ำส่งไปเช่นเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค ตลอดฤดูแล้ง
    "เป็นภัยแล้งที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ครั้งก่อนเกิดขึ้นระหว่างรอยต่อปี 2537-2538 สำหรับฤดูแล้งปีนี้กรมชลฯ งดส่งน้ำในการทำนาปรังตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา เพราะการจัดสรรน้ำต้องคำนึงถึงเรื่องอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ จากนั้นจึงมาพิจารณาน้ำเพื่อการเกษตร"
    สุเทพ บอกว่า ตามวงรอบของระบบนิเวศจะมีภัยแล้งต่อเนื่องกัน 3 ปี และน้ำดี 2 ปี ซึ่งกรมชลฯ ได้วิเคราะห์ถึงวงรอบที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยวางแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยกรมชลฯ อาศัยข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า หากฝนมาช้าเล็กน้อยก็จะเก็บน้ำเผื่อไว้ ดังนั้นยืนยันว่า หากสถานการณ์ฝนมาช้าไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ประชาชนจะมีใช้เพียงพอไปถึงเดือนกรกฎาคม ขอให้มั่นใจในสิ่งที่กรมชลฯ วางแผนไว้
    อย่างไรก็ตาม วิกฤติภัยแล้งในปีนี้ทำให้น้ำในเขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้อย กรมชลประทานต้องขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดทำนาปรังในหลายจังหวัด เพื่อต้องการเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคและบริโภค รวมถึงใช้ผลักดันน้ำเค็มในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งนอกจากจะมีผลต่อการผลิตน้ำประปาแล้ว ยังส่งผลต่อระบบนิเวศของแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
    "ในปีนี้จะไม่นำน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาช่วยผลักดันน้ำเค็ม เพราะน้ำจากแม่กลองน้อยมาก เราจะใช้น้ำจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามาควบคุม ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 เมื่อรวมกันแล้วต้องได้ปริมาณประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีขึ้นไป เรานำบทเรียนจากปีที่แล้วมาแก้ไข เพราะปีที่แล้วเราวางแผนการใช้น้ำไหลมาที่บางไทรให้ได้ในปริมาณ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหมือนกัน แต่ปรากฏว่า เกษตรกรนำน้ำไปใช้ในการเพาะปลูก ทำให้แผนที่วางไว้ผิดพลาด ส่งผลให้น้ำที่ไหลมาจากบางไทรมีน้อยมาก ดังนั้นในปีนี้เราต้องปรับใหม่เลย"
    จากบทเรียนปัญหา "น้ำเค็ม" เข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปาเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ในปีนี้การประปานครหลวงต้องประสานกรมชลประทาน โดยเพิ่มความเข้มในการบริหารจัดการน้ำในเขื่อน เพื่อผลักดันน้ำเค็มในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
    ขณะเดียวกันในส่วนของเจ้าหน้าที่การประปาต้องตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันน้ำเค็มเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปา
    "ธนศักดิ์ วัฒนฐานะ" ผู้ว่าการการประปานครหลวง ให้ข้อมูลว่า ทุกหน้าแล้งน้ำจะมีความเค็มขึ้นมา โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้แก้ปัญหาด้วยการไม่สูบน้ำดิบเข้าคลองประปา หรือไม่สูบน้ำดิบบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล ทำให้น้ำเข้าไม่ได้ แต่ในต้นปีน้ำเค็มขึ้นมามาก การประปานครหลวงได้ประสานงานกับกรมชลฯ เพื่อนำน้ำมาผลักดันไล่น้ำเค็มไปได้
    "ปีนี้เราได้บทเรียนแล้วจึงเอาน้ำมายันไว้แต่ต้น ทั้งนี้หากค่าความเค็มในสถานีสูบน้ำดิบสำแลสูงเกินกว่า 0.25 กรัมต่อลิตร จะส่งผลให้น้ำประปามีรสกร่อย แต่จะรู้สึกได้ก็ต่อเมื่อความเค็มมีค่าสูงถึง 0.5 กรัมต่อลิตร ปัจจุบันน้ำประปามีค่าความเค็มไม่เกิน 0.19 กรัมต่อลิตร"
    จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อาจเป็นแค่ช่วงของการเผาหลอก ซึ่งจากนี้ไปยังไม่รู้ว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะรุนแรงเพิ่มทวีคูณขึ้นมากแค่ไหน ดังนั้นการวางแผนใช้น้ำในแต่ละปีจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดประชาชนและเกษตรกรต้องให้ความร่วมมือในการร่วมกันจัดสรรน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะมิฉะนั้นแล้วปัญหาภัยแล้งจะเกิดขึ้นซ้ำรอยอย่างนี้ตลอดไป

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สยดสยองต้องอ่าน ! เมื่อทะเลกลืนกินแผ่นดิน
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ก.พ. 2558 16:05

    [​IMG]
    --
    @
    --
    แฟรงก์ เบห์เรนส์ เป็นโฆษกของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติดัตช์ที่มองเห็นลู่ทางทำเงิน ไม่ใช่การขาดทุนจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เขาดับเครื่องยนต์เรือสปีดโบ๊ตขนาด 6.5 เมตร และปล่อยให้เรือลอยตามน้ำไปยังกลางมอลเลก ทะเลสาบส่วนบุคคลในนอร์ทไมแอมีบีช

    ทะเลสาบแห่งนี้เคยเป็นเหมืองหิน ไม่ต่างจากทะเลสาบอื่นๆ อีกหลายแห่งในรัฐฟลอริดา และตลอดหลายปีนับจากนั้น ก็เป็นทั้งสถานที่จัดการแข่งเรือ ท้องน้ำให้เหล่ามานาทีแหวกว่าย และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สองแห่ง ผุดโครงการถมทะเลสาบบางส่วนเพื่อสร้างคอนโดมิเนียม เบห์เรนส์กำลังประชาสัมพันธ์หมู่บ้านลอยน้ำบนเกาะเทียมส่วนตัว 29 เกาะ แต่ละเกาะเป็นที่ตั้งของบ้านเดี่ยวหรูหราสี่ห้องนอน หาดทราย สระว่ายน้ำ ต้นปาล์ม และท่าจอดเรือยาวพอให้เรือยอชต์ขนาด 25 เมตรจอดได้สบาย สนนราคาทั้งหมดอยู่ที่ 12.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    บริษัท ดัตช์ด็อกแลนด์สของเบห์เรนส์ เลือกพัฒนาทะเลสาบแห่งนี้ และทำแคมเปญการตลาดขายเกาะส่วนตัวเหล่านี้ประหนึ่งเป็นที่หลบภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของคนมีเงิน ความเสี่ยงต่างๆ จากระดับทะเลที่สูงขึ้นน่ะหรือ นั่นแหละคือเสน่ห์ดึงดูดของบ้านลอยน้ำ เกาะต่างๆ จะยึดหรือถ่วงไว้กับก้นทะเลสาบด้วยสมอที่ยืดหดได้ตามระดับน้ำในทะเลสาบ

    โครงการของบริษัท ดัตช์ด็อกแลนด์ส ฟังดูเหมือนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพี้ยนๆ อีกโครงการหนึ่งในประวัติศาสตร์อันยาวนานของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพี้ยนๆในฟลอริดา แต่การออกแบบที่คำนึงถึงสภาพภูมิอากาศทำให้โครงการนี้แตกต่างจากตึกระฟ้าส่วนใหญ่ที่อยู่รายรอบซึ่งสร้างขึ้นโดยแทบไม่คำนึงถึงการเพิ่มขึ้นของระดับทะเลที่คาดการณ์ ว่าจะทำให้น้ำท่วมเซาท์ฟลอริดาบ่อยครั้งในช่วงหลายสิบปีข้างหน้า และอาจถึงกับทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่จมอยู่ใต้น้ำเมื่อสิ้นศตวรรษ

    แนวคิดและวิธีการที่ขัดแย้งกันเหล่านี้ ทั้งการเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อไป และการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต สะท้อนให้เห็นจุดเปลี่ยนในการถกเถียงอภิปรายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อคำเตือนเรื่องภาวะโลกร้อนกลายเป็นเร่งด่วนยิ่งขึ้น และผลกระทบเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจห้างร้านและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น จำนวนมากขึ้นเริ่มนำปัญหานี้มาเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจต่างๆเกี่ยวกับอนาคต พวกเขาหันไปสนใจเรื่องการปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาพอากาศรุนแรงและภาวะน้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นแล้วเมื่อระดับทะเลสูงขึ้น

    ---
    @โครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 65,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกิดขึ้นในฟลอริดา
    ---
    ฟลอริดาเป็นทำเลเหมาะสำหรับการศึกษาต้นทุนและผลกำไรที่เป็นไปได้จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมืองชายฝั่งอื่นๆ มีความเสี่ยง แต่ฟลอริดาถือว่าเปราะบางที่สุดแห่งหนึ่ง ขณะที่ผู้นำรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก ในกรุงวอชิงตัน และแม้กระทั่งในศาลาว่าการรัฐฟลอริดาในเมืองแทลลาแฮสซียังลังเลสงสัยในเรื่องนี้ แต่ ณ ที่ แห่งนี้ตรงปลายติ่งด้านใต้สุดของฟลอริดา ผู้นำท้องถิ่นหลายคนเตรียมพร้อมรับมือแล้ว อนาคตของฟลอริดาจะเป็นรูปเป็นร่าง ขึ้นจากการถกเถียงอภิปรายอย่างกว้างขวางและเผ็ดร้อนตั้งแต่เรื่องเรื่องภาษี การจัดการเขตพื้นที่หรือโซนนิ่ง โครงการก่อสร้าง สาธารณะต่างๆ ไปจนถึงสิทธิในทรัพย์สิน ทั้งหมดนี้มีแรงผลักดันมาจากระดับทะเลที่สูงขึ้น

    นอกเหนือจากระดับทะเลที่สูงขึ้น ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าฟลอริดายังต้องเผชิญศึกหนักจากสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว ทั้งภัยแล้งในฤดูแล้งและน้ำท่วมในฤดูฝน ตามการทำนายของสำนักประเมินสภาพภูมิอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นซีเอ (National Climate Assessment: NCA) ความร้อนและภัยแล้งส่อแววคุกคามอุตสาหกรรมการเกษตรซึ่งหล่อเลี้ยงพื้นที่แถบชายฝั่งตะวันออกของประเทศด้วยพืชผลเมืองหนาว และอาจส่งผลต่อพืชหลักสามชนิดของฟลอริดา ได้แก่ มะเขือเทศ อ้อย และพืชสกุลส้ม ขณะที่ฤดูฝนจะเกิดพายุบ่อยขึ้น ทั้งเฮอร์ริเคนที่รุนแรงขึ้นและคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) ที่สูงขึ้น

    ความเสียหายหนักหน่วงที่สุดจะเกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งความยาว 2,170 กิโลเมตรของรัฐ สามในสี่ของประชากรฟลอริดา 18 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขตหรือเคาน์ตีริมชายฝั่งซึ่งสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนถึงสี่ในห้าของระบบเศรษฐกิจ โครงการพัฒนา ริมชายฝั่ง รวมถึงอาคาร ถนน และสะพาน มีมูลค่าราวสองล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการประเมินเมื่อปี 2010 และเกือบครึ่งหนึ่งของชายหาดความยาว 1,330 กิโลเมตรของรัฐเริ่มเผชิญกับการกัดเซาะแล้ว

    ตามข้อมูลของเอ็นซีเอ ระดับน้ำในมหาสมุทรต่างๆ อาจสูงขึ้น 60 เซนติเมตรภายในปี 2060 เนื่องจากน้ำอุ่นขึ้น และขยายตัว รวมไปถึงการละลายของพืดน้ำแข็งกรีนแลนด์และพืดน้ำแข็งขั้วโลก พอถึงปี 2100 ระดับทะเลอาจสูงขึ้นได้ถึง สองเมตรซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของไมแอมี-เดดจมอยู่ใต้น้ำ ระดับทะเลที่สูงขึ้นทุกๆ 30 เซนติเมตรจะทำให้ แนวชายทะเลขยับลึกเข้าสู่แผ่นดินระหว่าง 150 ถึง 610 เมตร

    ระดับทะเลที่สูงขึ้น 60 เซนติเมตรเพียงพอที่จะทำให้โรงบำบัดน้ำเสียของไมแอมี-เดดเคาน์ตีบนเกาะเวอร์จิเนียคีย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่เทอร์คีย์พอยต์ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวบิสเคย์นทั้งคู่ ไม่สามารถเดินเครื่องต่อไปได้

    ---
    @น้ำในคลองหลากท่วมถนนในเมืองฟอร์ตลอเดอร์เดลช่วง “คิงไทด์”
    ---

    แนวชายฝั่งทะเลที่มีลักษณะภูมิประเทศราบต่ำและยาวของฟลอริดาอาจล่อแหลมมากกว่าที่อื่นก็จริง แต่ไม่มีภูมิภาคใด ของโลกที่พูดได้ว่าปลอดภัยจากระดับทะเลที่สูงขึ้น เมื่อปี 2012 น้ำท่วม ไฟป่า ภัยแล้ง และพายุ ซึ่งเกิดขึ้นทั่วสหรัฐฯ ก่อความเสียหายคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสูงเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และท่ามกลางการพยากรณ์ที่เลวร้ายลงว่า สภาพอากาศรุนแรงจะเกิดขึ้นทั่วโลก พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่พัดกระหน่ำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2013 คร่าชีวิตผู้คน 6,200 คน ในฟิลิปปินส์ ในปีเดียวกันนั้น ภัยแล้งยังทำลายพืชผลในเกือบทุกทวีปทั่วโลก โดยเฉพาะแอฟริกาและเอเชียใต้ เขตไฮแลนด์สหรือที่ราบสูงของบราซิลซึ่งตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคมรสุมของอเมริกาใต้ เผชิญภัยแล้งหนักหนาสาหัสที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 จนต้องมีการปันส่วนน้ำ การละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งในเทือกเขาแอนดีสและหิมาลัยจะส่งผลให้ปัญหาขาดแคลนน้ำในเปรู อินเดีย และเนปาล รุนแรงขึ้น

    ธนาคารโลกออกมาทำนายว่า ในช่วงหลายสิบปีข้างหน้า ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง การขาดแคลนอาหาร และภาวะทุพภิกขภัย จะทำให้คนหลายล้านต้องอพยพย้ายถิ่น ชายฝั่งทะเลที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจจมน้ำ ที่เลวร้ายกว่านั้น ระดับทะเลที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ สายหลักๆ เนื่องจากน้ำเค็มรุกคืบแทรกซึมเข้าทำลายพื้นที่เกษตรกรรมอันอุดมสมบูรณ์ที่สุดของโลกบางแห่ง ทุกวันนี้ ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในเวียดนาม ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวครึ่งหนึ่งของประเทศและมีผู้คน 17 ล้านคนอาศัยอยู่ เผชิญปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำแล้ว

    เรื่อง ลอรา ปาร์กเกอร์ ภาพถ่าย จอร์จ สไตน์เมตซ์ นิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก

    สยดสยองต้องอ่าน ! เมื่อทะเลกลืนกินแผ่นดิน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พลูโตเนียม: ธาตุอันตรายที่สุดในโลกแต่มีประโยชน์
    โดย สุทัศน์ ยกส้าน 13 กุมภาพันธ์ 2558 07:08 น.

    [​IMG]
    พลูโตเนียมไฮดรอกไซด์บริสุทธิ์ 20 ไมโครกรัม (Berkeley-Laboratory)

    สัญลักษณ์เคมีของพลูโตเนียมคือ Pu (จาก plutonium) เมื่อบริสุทธิ์มีสีเทา มีความหนาแน่นโดยเฉลี่ย 19,820 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร และมีจุดหลอมเหลว 640 องศาเซลเซียส

    เมื่อ 4,500 ล้านปีก่อนที่โลกเพิ่งถือกำเนิด พลูโตเนียมและยูเรเนียมในโลกเป็นธาตุกัมมันตรังสีที่มีในปริมาณพอๆ กัน แต่พลูโตเนียมสลายตัวเร็วกว่า ดังนั้นปัจจุบันโลกจึงมีพลูโตเนียมธรรมชาติน้อยกว่ายูเรเนียมธรรมชาติ

    นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนว่าโลกปัจจุบันมีพลูโตเนียมประมาณ 2,500 ตัน ส่วนใหญ่มาจากการสังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการของรัสเซีย อเมริกา จีน อินเดีย ปากีสถาน เกาหลีเหนือ รัสเซีย ฝรั่งเศส อิสราเอล และอิหร่าน เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์ปรมาณู และสร้างระเบิดนิวเคลียร์

    พลูโตเนียมมีไอโซโทป 15 ชนิด ตั้งแต่ Pu-232, Pu-233… จนกระทั่งถึง Pu-246 ตัวเลข 232..... แสดงจำนวนนิวตรอนและโปรตอนในนิวเคลียสของพลูโตเนียม 232 ว่ามีทั้งหมด 232 อนุภาค และทุกไอโซโทปมีอนุภาคโปรตอน 93 อนุภาค และมีจำนวนนิวตรอนแตกต่างกัน ทุกชนิดเป็นธาตุกัมมันตรังสี ดังนั้น เวลาสลายตัวจะปล่อยอนุภาคแอลฟา ไอโซโทปเหล่านี้มีค่าครึ่งชีวิตต่างๆ กัน คือตั้งแต่ 20 นาทีจนกระทั่งถึง 76 ล้านปี

    แม้จะมีจำนวนไอโซโทปมาก แต่ไอโซโทปที่สำคัญที่สุดคือ Pu-239 เพราะเวลา Pu-239 สลายตัว ในที่สุดจะได้ U-235 ที่สามารถใช้ทำระเบิดปรมาณูได้ ทั้งนี้ เพราะเมื่อนิวเคลียสของ Pu-239 ถูกอนุภาคนิวตรอนความเร็วต่ำพุ่งชน มันจะแยกตัวแบบ fission ออกเป็นสองส่วน ในทำนองเดียวกับนิวเคลียสของ U-235 และในเวลาเดียวกันนั้นก็มีอนุภาคนิวตรอนเกิดขึ้นด้วยทุกครั้งในปริมาณ 2 นิวตรอนบ้าง และ 3 นิวตรอนบ้าง ทำให้โดยเฉลี่ยจะมีอนุภาคนิวตรอนเกิดขึ้น 2.92 อนุภาค ทุกครั้งที่นิวเคลียส Pu-239 แยกตัว ในขณะที่ U-235 เวลาได้รับนิวตรอนความเร็วต่ำเข้าไปจะแบ่งแยกตัว และมีอนุภาคนิวตรอนเกิดใหม่โดยเฉลี่ย 2.42 ตัว

    เมื่อจำนวนนิวตรอนที่เกิดจากการแยกตัวของ Pu-239 มีมากกว่าที่เกิดจากการแยกตัวของ U-235 ดังนั้น พลังงานที่เกิดจากปฏิกริยาลูกโซ่จึงมากกว่ากรณีของ U-235 และนั่นหมายความว่าระเบิดปรมาณูที่ทำจาก Pu-239 มีพลังงานในการทำลายล้างสูงกว่าระเบิดปรมาณูที่ทำจาก U-235

    ในปี 1939 Glenn Seaborg และ Edwin McMillan (ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีร่วมกันประจำปี 1951) แห่งมหาวิทยาลัย California ที่ Berkeley ได้ยิงนิวเคลียสของ beryllium (Be-9) ด้วยอนุภาค deuteron (H-2) ทำให้ได้อนุภาคนิวตรอน (1 0 n) กับ boron-10 ดังปฏิกิริยา
    94 Be + 2 1H ---> 1 0n + 10 5 B

    หลังจากนั้นก็ให้อนุภาคนิวตรอนที่เกิดขึ้นใหม่พุ่งชนนิวเคลียสของ U-238 ซึ่งจะทำให้เกิดปฏิกิริยา
    238 92U + 1 0n ---> 239 92U ---> 239 93Np + 0-1e

    ทำให้ได้ Np-239 ซึ่งเป็นธาตุใหม่ชื่อ neptunium กับอิเล็กตรอน หลังจากนั้น McMillan และ Seaborg ก็ได้พบว่า ธาตุ neptunium จะสลายตัวต่อให้พลูโตเนียม-239ดังปฏิกริยา
    239 93Np ---> 239 94Pu + 0 -1e

    การพบ Pu-239 ได้ชี้นำให้ F. Houtermann ทดลองยิงนิวเคลียส Pu-239 ด้วยนิวตรอน (1 0n) และพบว่า Pu-239 แบ่งตัวแบบ fission ในทำนองเดียวกับ U-235 แต่ส่วนดีที่เด่นของ Pu-239 คือ นักเคมีสามารถแยก Pu-239 จากของผสมระหว่าง Pu-239 กับ U-238 ได้ง่ายกว่าที่จะแยก U-238 จาก U-235

    ทันทีที่นักวิทยาศาสตร์ฝ่ายสัมพันธมิตรตระหนักในองค์ความรู้ใหม่นี้ ทุกคนได้พยายามปกปิดข้อมูลเรื่องนี้มิให้นักวิทยาศาสตร์นาซีรับรู้ เพราะเกรงว่ากองทัพฝ่ายนาซีจะผลิตระเบิดปรมาณูได้สำเร็จก่อนฝ่ายสัมพันธมิตร
    ในที่สุดคณะนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีในโครงการ Manhattan ของสหรัฐอเมริกาก็สามารถผลิตระเบิดปรมาณูที่ทำจาก Pu-239 ได้สำเร็จ และได้นำไปใช้ถล่มเมือง Nagasaki จนราบเรียบเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1945

    การศึกษาสมบัติกายภาพของ Pu-239 ในเวลาต่อมาทำให้พบว่า มันมีผลึก 6 รูปแบบ โดยเฉพาะไอโซโทป Pu-239 แบบ delta นั้นมีเสถียรภาพมากถ้ามีธาตุ gallium เจือปน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ Cyril Stanley Smith พบและมีความสำคัญมากในการนำ Pu-239 ไปสร้างระเบิดปรมาณู เพราะ Pu-239 จะต้องมีชีวิตยืนนานพอให้ปฏิกิริยาลูกโซ่สามารถดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์

    ผลที่ตามมาคือ นักวิทยาศาสตร์ได้ระดมกันสร้าง Pu-239 จนพบว่า Pu-239 ที่มีมวลเพียง 8 กิโลกรัม สามารถนำไปสร้างระเบิดปรมาณูได้หนึ่งลูก ดังนั้น Pu-239 ที่หนัก 2,000 ตัน ก็จะมากพอที่จะสร้างระเบิดปรมาณูได้ถึง 250,000 ลูก

    ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า Pu-239 เป็นธาตุมหันตราย Pu-238 ก็กำลังแสดงบทบาทของธาตุที่ประเสริฐ เพราะเมื่อ NASA ส่งยานอวกาศ VoyagerⅠออกไปนอกระบบสุริยะ สู่อวกาศที่เวิ้งว้างว่างเปล่า และมีอุณหภูมิต่ำถึง 3 องศาสัมบูรณ์ (-270 องศาเซลเซียส) เพราะยานต้องใช้เวลาในการเดินทางอย่างน้อย 40 ปี และเมื่อถึงเวลานั้นยานจะอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์มาก เซลล์สุริยะและระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งบนยานจะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป ที่อุณหภูมิต่ำมาก ดังนั้น NASA จึงได้ตัดสินใจแก้ปัญหานี้ โดยนำธาตุกัมมันตรังสีพลูโตเนียม-238 ใส่ในอุปกรณ์ชื่อ radioisotope thermoelectric generator และปล่อยให้ Pu-238 สลายตัวโดยการปล่อยอนุภาคแอลฟาออกมา การสลายตัวที่ช้า เพราะ Pu-238 มีครึ่งชีวิต 87 ปี ทำให้ Pu-238 เป็นธาตุที่ค่อนข้างเสถียร และทุกครั้งที่สลายตัว มันจะปล่อยพลังงานความร้อนออกมาด้วย ซึ่งจะถูกนำไปให้ความร้อนแก่อุปกรณ์ thermocouple เพื่อสร้างไฟฟ้าที่จะไปขับเคลื่อนวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป

    วิศวกรได้พบว่า Pu-238 1 กรัม สามารถให้กำเนิดกำลังไฟฟ้าได้ประมาณครึ่งวัตต์ ดังนั้น โดยเฉลี่ยแล้ว NASA มีโครงการใช้ Pu-238 ประมาณ 2.5 กิโลกรัมทุกปีเพื่อติดตั้งในยานอวกาศ Cassini, Pioneer และ Voyager ทั้ง ⅠและⅡ

    แต่ Pu-238 เป็นธาตุที่ไม่มีในธรรมชาติเหมือน Pu-239 ที่ใช้ทำระเบิด และนักวิทยาศาสตร์พบ Pu-238 ในเตาปฏิกรณ์ที่ใช้สร้างวัสดุสำหรับทำระเบิดปรมาณู ดังนั้นเมื่อรัฐบาลสหรัฐสั่งปิดโรงงานสร้างวัสดุระเบิดในปี 1988 อเมริกาซึ่งต้องการ Pu-238 มาก จึงต้องสั่งซื้อจากรัสเซีย จนกระทั่งปี 2009 สัญญาซื้อ-ขาย ก็ได้ยุติ เพราะเกิดความขัดแย้งระหว่าง 2 มหาอำนาจ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลสหรัฐจึงต้องตัดสินใจว่า จะเริ่มโครงการสร้าง Pu-238 เองหรือไม่ เพราะสภาวิจัยแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้สำรวจสต็อก Pu-238 ที่สหรัฐฯ มี และพบว่ามีเหลืออยู่ประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้ได้จนถึงปี 2020 และถ้าสหรัฐฯ ผลิต Pu-238 ได้ปีละ 2 กิโลกรัม โดยเริ่มผลิตในปีนี้ทันที ความเดือดร้อนก็จะไม่บังเกิดแก่ NASA

    เพราะงบประมาณที่ต้องใช้ในการผลิต Pu-238 อาจสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ ดังนั้น NASA จึงต้องหางบประมาณจากหน่วยงานอื่นมาสนับสนุนการสร้างธาตุที่แพงมากเช่นนี้

    วิธีหลักที่นิยมใช้ในการสร้าง Pu-238 คือ การนำธาตุ neptunium-237 ใส่ในเตาปฏิกรณ์ปรมาณู แล้วระดมยิงด้วยอนุภาคนิวตรอนเป็นเวลานานหนึ่งปี จนได้ Pu-238 ในปริมาณพอสมควร จึงนำไปสกัดมันออกจากของผสมที่มีธาตุอื่นๆ ปน ดังนั้นเทคนิครูปแบบนี้จึงยุ่งยาก และแพงมาก Steven Howe แห่ง Innovative Advanced Concepts ของ NASA จึงเสนอเทคนิคใหม่ให้สร้างท่อรูปเกลียวพันไปรอบแกนของเตาปฏิกรณ์ปรมาณู แล้วใส่กล่องขนาดเล็กที่มี neptunium-237 อยู่ภายในลงไปในท่อ จากนั้นก็ดันท่อให้เคลื่อนที่ไปตามเกลียว จนทะลุถึงปลายเกลียว ซึ่งอาจใช้เวลานานเป็นวัน แต่ก็ไม่ถึงปีดังวิธีแรก แล้วก็สกัด Pu-238 ที่ได้ จากนั้นนำ Np-237 ที่เหลือใส่กลับเข้าไปในท่อเกลียวใหม่ และ Howe ก็ได้พบว่า ในแต่ละครั้ง neptunium ประมาณ 0.01% จะถูกเปลี่ยนไปเป็น Pu-238 ดังนั้นเขาต้องทำการทดลองนี้ซ้ำนับพันครั้ง จึงจะได้ Pu-238 ในปริมาณที่ต้องการ

    วิธีนี้ก็ยังนับว่าดี เพราะนักทดลองใช้เวลาในการอาบรังสีไม่นาน เมื่อธาตุที่เกิดใหม่มีปริมาณไม่มาก การสกัดแยกจึงไม่ยาก นอกจากนี้ กากกัมมันตรังสีที่เกิดขึ้นก็มีน้อย และเตาปฏิกรณ์ที่ใช้ในการสร้างก็ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ และถ้าสามารถผลิตได้มาก NASA ก็จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ของการผลิต


    เทคนิคของ Howe นี้ มิได้สร้างความตื่นเต้นหรือความยินดีให้ทุกคนเพราะนักวิทยาศาสตร์บางคนก็ยังมีความกังวลที่ Pu-238 เป็นสารกัมมันตรังสีที่เป็นพิษต่อชีวิต ดังในปี 1964 ที่ดาวเทียมของราชนาวีสหรัฐซึ่งมี Pu-238 อยู่ภายใน ได้ประสบอุบัติเหตุ เมื่อจรวดนำดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศได้ระเบิด ทำให้ Pu-238 1 กิโลกรัมถูกแพร่กระจายไปในชั้นบรรยากาศในปริมาณที่มากกว่าปริมาณกัมมันตรังสีที่เกิดจากการทดลองปรมาณูหลายเท่า ผลกระทบนี้ทำให้คนอเมริกันทุกคนหวั่นกลัวมาก

    ดังนั้น ในปี 2006 เมื่อ NASA ส่งยาน Cassini ไปดาวพฤหัสบดี และบนยานมี Pu-238 ประชาชนและองค์กรสิ่งแวดล้อมต่างๆ จึงได้ออกมาประท้วง เพราะเกรงจะเกิดภัยกัมมันตรังสีรั่วไหล แต่นับเป็นโชคดีมากที่ไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้น

    แม้ Pu-238 ตามปรกติจะไม่สามารถนำไปสร้างระเบิดปรมาณูได้ แต่ neptunium-237 ก็สามารถสร้างได้ เพราะเวลา Np-237 ถูกยิงด้วย อนุภาคนิวตรอนความเร็วสูง จะเกิดปฏิกริยาลูกโซ่ ดังนั้นความคิดใดๆ ที่จะสร้างโรงงานผลิต Pu-238 จะต้องคำนึงถึงผลได้ และผลเสียอย่างรอบคอบ

    ครั้นจะหันไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อนการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนยานอวกาศ นี้ก็มิใช่ทางออก เพราะยานอวกาศที่จะถูกส่งไปสำรวจดาว เช่น พลูโตอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มาก แผงเซลล์สุริยะที่สามารถรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างพอเพียงจะต้องมีพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร นี่จึงเป็นการตอกย้ำว่า เซลล์แสงอาทิตย์มิสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการสำรวจอวกาศที่ระยะทางไกลเกินวงโคจรของดาวพฤหัสบดี

    ณ วันนี้นักเทคโนโลยีจึงกำลังคิดหาแหล่งพลังงานใหม่ เช่น ใช้แบตเตอรี่ที่มี lithium เป็นเชื้อเพลิง และเทคโนโลยีการแปลงผงโลหะเป็นเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนยานอวกาศ ทั้งในการสำรวจอวกาศไกลๆ และสำรวจใต้น้ำลึก รวมถึงใช้ในเครื่องปั้มหัวใจด้วย เพราะวัสดุใหม่จะไร้สารกัมมันตรังสี และนั่นก็หมายความว่า ถ้าแบตเตอรี่ lithium ที่สร้างใหม่มีประสิทธิภาพดีจริงๆ จุดจบของ Pu-238 ก็จะมาถึงในอีกไม่นาน

    อ่านเพิ่มเติมจาก Plutonium – A History of the World’s Most Dangerous Element โดย Jeremy Bernstein จัดพิมพ์โดย Joseph Henry Press ปี 2007

    เกี่ยวกับผู้เขียน

    สุทัศน์ ยกส้าน
    ประวัติการทำงาน-ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ และ ศาสตราจารย์ ระดับ 11 ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขากายภาพและคณิตศาสตร์ ประวัติการศึกษา-ปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยลอนดอน, ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย

    อ่านบทความ สุทัศน์ ยกส้าน ได้ทุกวันศุกร์

    http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9580000016518
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ซ้ำซาก!! คราบน้ำมันเหนียว เกยหาดระยอง ยาว 3 กม.
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 ก.พ. 2558 20:12

    [​IMG]

    คราบน้ำมันเกยหาดลานหินขาว-หินดำ เป็นทางยาว 3 กม.ไปถึงหาดแม่รำพึง นายอำเภอระยอง ลงสำรวจพบจับตัวเป็นก้อนเหนียว คล้ายยางมะตอย พร้อมเร่งทำความสะอาด...

    เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 ก.พ. นายอินทรี เกิดมณี นายอำเภอเมืองระยอง นำเจ้าหน้าที่ลงสำรวจชายหาดบริเวณลานหินขาว-หินดำ ม.1 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง หลังจากรับแจ้งมีชาวบ้านพบคราบน้ำมันลอยมาเกยหาด

    จากการสำรวจบริเวณลานหินขาว-หินดำ พบคราบน้ำมันเป็นก้อนเล็กๆ เต็มชายหาดยาวไปถึงหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ความยาวประมาณ 3 กม. โดยคราบน้ำมันจับตัวเป็นก้อนเหนียวคล้ายยางมะตอย จึงได้รายงานต่อ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง

    พร้อมแจ้งให้ นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านเพ นำกำลังเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดบริเวณชายหาด โดยนายสุเมท สายทอง หัวหน้าอุทยานเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จะนำกำลังเจ้าหน้าที่มาร่วมเก็บคราบน้ำมันในวันพรุ่งนี้เช้า (16 ก.พ.) ขณะที่นักท่องเที่ยว ยังคงลงเล่นน้ำทะเลตามปกติ.

    ซ้ำซาก!! คราบน้ำมันเหนียว เกยหาดระยอง ยาว 3 กม. - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  7. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    ขอแสดง ความคิดเห็น เหมือนจะ คุ้นๆเรื่อง การค้นพบ หรือ การรู้จักใช้พลังงาน บางชนิด ซึ่งในอนาคต จะมีประโยชน์มาก ซึ่งก็มีมากในประเทศ ??? นี่เอง ทรัพยากรต่างๆ ตามมาอีกเพียบ
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 17 ก.พ.58 นักวิทยาศาสตร์พบกลุ่มเมฆปริศนาเหนือดาวอังคาร
    เมื่อปี 2555 ทีมนักดาราศาสตร์สมัครเล่น จากมหาวิทยาลัยแห่งแคว้นบาสก์ ในเมืองบิลเบา ทางตอนเหนือของสเปน ค้นพบปรากฏการณ์กลุ่มเมฆ ที่ก่อตัวขึ้นในชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร แต่เพิ่งรายงานเป็นทางการ ยิ่งทำให้ปริศนาเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศของดาวแดงดวงนี้ ยิ่งลึกลับมากขึ้นไปอีก
    การค้นพบกลุ่มเมฆปริศนา ในชั้นบรรยากาศของดาวอังคารเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นระหว่างการสังเกตการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างกลางวันและกลางคืนของดาวอังคาร เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2555 โดยส่วนหนึ่งของเปลวที่มีลักษณะคล้ายควัน เริ่มเปลี่ยนรูปทรง กลายเป็นกลุ่มก้อนที่ยื่นออกมา ก่อนจะรวมตัวกันเป็นลักษณะแท่ง ซึ่งกินระยะเวลาราว 10 ชั่วโมง และคงอยู่ในสภาพนั้นประมาณ 11 วัน
    จากนั้นปรากฏการณ์ในลักษณะคล้ายกันก็เกิดขึ้นอีก เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2555 และคงอยู่เป็นเวลา 10 วัน มันขยายตัวออกไปกินบริเวณกว้างระหว่าง 500 - 1,000 กิโลเมตร ในทิศทางตะวันออก-ตะวันตก และเหนือ-ใต้ โดยเกิดในระดับความสูงที่ 200 - 250 กิโลเมตร ในบริเวณเหนือพื้นที่สูงที่ขรุขระทางตอนใต้
    จากการศึกษาดาวอังคาร พบว่า มันมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของน้ำ และการเกิดภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจนำไปสู่การก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตได้ ในอดีตที่ผ่านมา มีการตรวจสอบพบกลุ่มเมฆฝุ่นหรือผลึกน้ำแข็ง เกิดขึ้นเหนือดาวอังคารบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยมีครั้งใดใหญ่เท่านี้
    และส่วนใหญ่มักเกินที่ระดับความสูงไม่เกิน 100 กิโลเมตร งานวิจัยระบุว่า กลุ่มเมฆดังกล่าว อาจประกอบไปด้วยอนุภาคของน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ แต่อีกหนึ่งความเป็นไปได้คือ มันอาจเป็นเพียงแสงออโรรา หรือปรากฏการณ์แสงเหนือ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นบนโลก จากการปะทะกันของอนุภาคสุริยะและสนามแม่เหล็กโลก
    โดยจากการตรวจสอบของยานสำรวจอวกาศในอดีตพบว่า ในบริเวณนี้ปรากฏมีแนวสนามแม่เหล็กที่มีกำลังรุนแรงอยู่ ซึ่งหากสิ่งที่ค้นพบเป็นแสงออโรราจริง มันจะมีความสว่างกว่าแสงออโรราที่เกิดบนโลกถึง 1,000 เท่า แต่นักวิจัยชี้ว่า ความน่าจะเป็นทั้ง 2 ประการนี้ ยังขัดกับความเข้าใจที่เรามีเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศส่วนบนของดาวอังคาร
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 17 ก.พ.58 ไขปริศนาลึกลับดำมืดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
    เมื่อปลายปีที่แล้ว ศจ.โจเซฟ โมนาแกน และคณะนักวิทยาศาสตร์สามารถวิจัยค้นพบปริศนาลึกลับดำมืดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ที่สร้างปรากฎการณ์ดูดกลืนเรือและเครื่องบิน ที่บินผ่านบริเวณดังกล่าวจนหายสาบสูญ และถูกกล่าวขานเรียกว่าเป็น "สามเหลี่ยมผีสิง" ที่ร่ำลือกันว่า ได้ดูดกลืนสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาทะลุไปยังอีกมิติหนึ่ง
    โดยพบว่าสาเหตุแท้จริงมาจากการการก่อตัวของก๊าซธรรมชาติ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มีก๊าซมีเธนเป็นจำนวนมาก ขนาดปะทุเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ลอยเหนือบริเวณดังกล่าว ก๊าซดังกล่าวอยู่ใต้ท้องทะเลในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
    โดยเมื่อก๊าซเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ และขยายตัวเป็นวงกว้าง และก่อตัวเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ เมื่อเรือลำใดผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น ก็จะเข้าไปสู่ฟองก๊าซมีเธนขนาดยักษ์ จนทำให้เรือเหล่านี้สูญเสียการควบคุม และจมลงสู่ห้วงทะเล
    และหากฟองก๊าซดังกล่าวมีขนาดยักษ์มาก ๆ ที่สามารถครอบคลุมความหนาแน่นระดับสูงบนผืนฟ้าเพียงพอ มันก็จะทำให้เครื่องบินที่บินอยู่บนน่านฟ้าเหนือสามเหลี่ยมฯ สูญเสียการควบคุม ตกทะเลและจมลงสู่ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว
    ----------------------------------->
    เป็นอีกความรู้หนึ่งที่มีการล่ำรือกันมานาน วิทยาศาสตร์จะไม่คงที่ เมื่อคนพบความรู้ใหม่ ความรู้เดิมก็ตกยุคไป ความรู้ล่าสุดก็จะค่อยๆ มาแทนความรู้และความเชื่อเดิม
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 17 ก.พ.58 แผ่นดินไหวแรงที่ญี่ปุ่น อพยพหนีซึนามิ 1 หมื่นคน
    เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ขนาด 6.9 ริกเตอร์ ลึกลงไปใต้ทะเล 10 กิโลเมตร นอกชายฝั่งเกาะฮอนชู ทางเหนือของญี่ปุ่น มีการออกประกาศเตือนสึนามิ และอพยพผู้คนราว 1 หมื่นคน ออกจากชายฝั่งทะเล เนื่องจากคาดว่าจะมีคลื่นสึนามิขนาดเล็ก คือสูงประมาณ 1 เมตร เข้าสู่ชายฝั่งอิวาเตะ ในเวลาต่อมามีคลื่นสึนามิขนาดเล็กพัดเข้าสู่ฝั่ง
    ส่วนผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น แจ้งว่ายังไม่พบความผิดปกติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย
    ------------------------------->
    เมื่อวานก็มีแผ่นดินไหวที่เชียงราย ของไทย เด็กนักเรียนต้องหลบภัยกันวุ่น ช่วงนี้มีภัยธรรมชาติหลายที่ แต่บอกไปแล้วหลายคน ก็ไม่เชื่อ เอาไปปรามาสเสียอีก แต่กลับไปเชื่อหมอดู และคนทรงเจ้า
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 17 ก.พ.58 นครพนมเจอพายุหลงฤดูหนักสุดในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา
    เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา จังหวัดนครพนม ได้เกิดพายุฝนหลงฤดู ถล่มลงมาอย่างหนัก ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ 2 อำเภอคือ อ.ท่าอุเทน กับ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้รับความเสียหายอย่างหนักรวมกว่า 500 หลังคาเรือน ซึ่งถือว่าหนักสุดในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา
    ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) นครพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้าตรวจสอบ สำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแล้ว
    ------------------------------->
    ช่วงนี้มีภัยธรรมชาติหลายที่ แต่บอกไปแล้วนักวิชาการหลายคน ก็ไม่เชื่อ เอาไปปรามาสโจมตีเสียอีก แต่ก็ไม่เคยใช้ความรู้นั้นมาแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าเหมือนเพจนี้ และก็อ้างแต่ว่ามันเป็นแบบนี้มานานแล้ว..สุดท้ายก็บลา ๆๆ..แล้วความรู้เดิมจะมีประโยชน์อะไร ถ้าชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์จากการเตือนภัยล่วงหน้า
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 17 ก.พ.58 สภาพบ้านเมืองภายหลังเกิดสงครามสู้รบคนชาติเดียวกัน
    หลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา กลุ่มนักรบนิยมรัสเซีย ได้หยุดยิงเพื่อให้สอดคล้องกับผลที่ประธานาธิบดีปูติน รัสเซีย ได้ไปร่วมเจรจามา 4 ฝ่าย ช่วงนี้กลุ่มนักรบนิยมรัสเซีย ของเมืองโดเนตสค์ และ ลูฮาน ร่วมมือกันเริ่มเก็บกวาดซากศพทหารยูเครน และสำรวจความเสียหายของอาคารบ้านเรือน ที่ถูกทำลายจากการสู้รบ แต่ยังมีบางจุดที่ยังปะทะกันประปราย
    อเมริกา ก็ยังประกาศว่าไม่สนผลการเจรจา 4 ฝ่าย แต่ยืนยันจะส่งอาวุธสนับสนุนให้กองทัพยูเครน ซึ่งถ้ารัสเซีย ตรวจพบเช่นนั้นอีก ก็จะทำให้ผลการเจรจาหยุดยิง อาจเป็นหมัน และปะทุความรุนแรงขึ้นรอบใหม่มาอีก
    แต่น่าแปลก คือ อเมริกากลับไม่ขนอาวุธดีๆ แบบยูเครนนี้ไปให้รัฐบาลของซีเรีย อิรัก ลิเบีย ไนจีเรีย อาฟกานิสถาน เพื่อต่อสู้กับ IS ฮอลีวู๊ด และกลุ่มก่อการร้ายประเทศนั้นๆ บ้าง..แต่กลับใช้วิธีเอาเครื่องบินตนเองและชาติพันธมิตร ละเมิดมติ UN เอาไปทิ้งระเบิดใส่ดินแดนประเทศอื่น โดยรัฐบาลเจ้าของประเทศไม่ยินยอม
    แบบนี้เรียกประชาธิปไตยแบบ 2 มาตรฐาน..นี่แหละคือผลแห่งสงคราม จากการที่คนในชาติทรยศ ดึงต่างชาติมาแทรกแซง คนไทยดูตัวอย่างไว้เป็นบทเรียน ว่ามีแก๊งค์การเมืองใดทำแบบนี้ในไทย ??
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 17 ก.พ.58 ตัวอย่างภาพที่ NGO จัดฉากใส่ร้ายผู้นำซีเรีย
    ที่เห็นในภาพไม่ใช่เหตุการณ์จริง แต่เป็นการจัดอีเว้นท์ของ NGO ที่รับทุนจากชาติตะวันตก จัดฉากประท้วง เพื่อกล่าวหาประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรียว่า ตอนนี้เด็ก ๆ ผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายกำลังกลายเป็นเหยื่อของปฏิบัติการโจมตีของรัฐบาลซีเรีย
    กลุ่ม NGO ด้านสิทธิมนุษยชน ได้ออกมากล่าวหารัฐบาลภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ว่า รัฐบาลได้ใช้ระเบิดถังน้ำมันเข่นฆ่าประชาชนของตัวเองตลอด 4 ปี นับตั้งแต่สงครามความขัดแย้งภายในประเทศได้เริ่มต้นขึ้น แต่ประธานาธิบดีซีเรีย ก็รีบออกมาปฏิเสธแบบทันควันว่า รัฐบาลไม่ได้ใช้ระเบิดถังน้ำมันเข่นฆ่าประชาชนของตัวเองแต่อย่างใด
    --------------------------------->
    มุกนี้คุ้นๆ ไหม ใครเคยโดนมาก่อน ?? ซัดดัม แห่งอิรัก กับ กัดดาฟี แห่งลิเบีย อเมริกาก็ใช้นักสิทธิมนุษยชน ออกมากล่าวหาแบบนี้แหละ และอ้างว่าซัดดัมมีอาวุธนิวเคลียร์บ้าง ใช้อาวุธเคมีบ้าง..แต่ตั้งแต่ซัดดัม ถูกฆ่าตาย จนบัดนี้ อเมริกาไม่เคยเจอนิวเคลียร์ในอิรัก เพียงเสี้ยวเล็บ..และเงียบกริ๊บ ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย
    แต่มะกัน กลับมุ่งไปเอาทองคำในธนาคารกลาง ที่เป็นทรัพย์สินของชาวของอิรัก ราว 33 ล้านล้านบาท แล้วก็ยึดเอาไป..จนป่านนี้หายไปเกลี้ยง ?? การให้ร้ายต่อภาพลักษณ์ของผู้นำซีเรีย โดย NGO ก็เพื่อให้สอดรับกับการจัดอีเว้นท์ของกลุ่ม IS ฮอลีวู๊ด ที่เผาตัวประกันจอร์แดน แล้วใช้เป็นข้ออ้างละเมิดอธิปไตย ของซีเรียนั่นเอง ??
    อเมริกา และ NGO คงลืมไปแล้ว ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเกิน 90% แล้วจะโค่นล้มเขาลงได้อย่างไร ในเมื่อเขามาจากการเลือกตั้ง..เอาซิ
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    https://www.facebook.com/thailandcoup
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เอบีนิวส์ทูเดย์ abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์

    [​IMG]

    ขนลุกไปกับสัญลักษณ์ลึกลับ และการทำนายโลกปี 2015 บนปกนิตยสารระดับโลก The Economist !! เรื่องเด่นประเด็นร้อนby ดุอาอฺ กุเมล - ก.พ. 16, 2015 2955

    นิตยสาร ดิ อิคอนอมิสต์ (The Economist) ตีพิมพ์เล่มนิตยสารใหม่ ภายใต้ชื่อ “The World in 2015” (โลกในปี 2015) ที่มาพร้อมกับภาพปกดีไซน์สุดประหลาด อันประกอบไปด้วย “เมฆรูปเห็ด- ฉายาเรียกควันระเบิดนิวเคลียร์ที่ใช้ถล่มเกาะฮิโรชิม่า และนางาซากิสะเทือนโลกเมื่อยุคสงครามเย็น- หรือ กระดานเกมที่มีชื่อว่า “Panic” (ตื่นตระหนก) อันปรากฏชื่อของผู้ร่วมเล่น อย่าง “สหภาพ VS จีน” เป็นต้น

    โดยปกติ ผู้เขียนจะอุทิศตนในการเขียนบทความทั้งดุ้นให้กับการวิเคราะห์ที่มาที่ไปของ สำนักพิมพ์ แต่นี่ไม่ใช่สำนักพิมพ์ที่ไหน นี่คือ ดิ อิคอนอมิสต์ และใครๆ ก็รู้ว่า นิตยสารชื่อนี้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับกลุ่มคนชั้นสูงของโลกนี้ (the world elite)

    เดอะ อิคอนอมิสต์ มีหุ้นส่วนร่วมกับ เครือข่ายครอบครัวร๊อตไชด์แห่งอังกฤษ (Rothschild family) ตระกูลร่ำรวยควบคุมการคลังโลก ผู้เป็นเจ้าของตลาดค้าทองคำลอนดอน ปล่อยและทำกำไรจากเงินกู้ในสงครามเกือบทั้งหมดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ฯลฯ และมีหัวหน้ากองบรรณาธิการคือ นาย จอห์น มิกเกิลท์เวท ผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม Bilderberg หรือ การประชุมลับประจำปี ที่จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1954 เพื่อการปรึกษาหารือ อย่างเป็นส่วนตัวระหว่าง 120- 150 ผู้นำทางการเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม, ด้านการเงิน, ด้านวิชาการ และด้านสื่อระดับสากล อันมีจุดประสงค์ เพื่อระดมความคิดวางนโยบายให้แก่โลก โดย 2 ใน 3 ของผู้เข้าร่วมประชุมจะมาจาก ยุโรป และที่เหลือจะมาจาก อเมริกาเหนือ และ 1 ใน 3 จะเป็นนักการเมืองและรัฐบาล ส่วนที่เหลือจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจากด้าน อื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่า ผลการประชุมของพวกเขาย่อมถูกปิดเป็นความลับ ดังนั้นจึงไม่ผิดที่จะกล่าวว่า คนของนิตยสาร The Economist ย่อมรู้เห็นถึงสิ่งที่คนส่วนมากไม่รับรู้ ด้วยเหตุนี้เอง ดีไซน์แปลกๆ อันเกี่ยวข้องกับ“การทำนายโลกในปี 2015” ที่เผยอยู่บนปกนิตยสารดังกล่าวนี้ จึงค่อนข้างที่จะน่าสนใจอยู่ไม่มากก็น้อย

    ปกนิตยสารที่ดูน่าขนลุกขน พองนี้ ประกอบไปด้วยภาพนักการเมืองผู้มีชื่อเสียงมากมาย และ ภาพการ์ตูนที่บ่งบอกคาเร็กเตอร์ต่างๆ รวมไปถึงไอคอนที่มีชื่อเสียงต่างๆ ที่เชื่อกันว่า จะเป็นข่าวดังระดับโลกอย่างแน่นอนในปี 2015 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ภาพปกนี้ ได้รวมภาพวาดต่างๆ ที่แสดงให้เห็นอย่างสุดโต่งถึงสัญลักษณ์อันส่อความหมายบางอย่าง นัยว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งในแผนการคุมโลกของพวกคนชั้นสูงเหล่านั้น และนี่คือภาพปกดังกล่าว:

    เมื่อลองมองดูแวบแรก แน่นอนเราจะเห็น ภาพนักการเมืองชั้นสูงมากมาย อย่างโอบาม่า และปูติน หรือจะเป็น ภาพของไอ้มนุษย์แมงมุม จากภาพยนตร์ สไปเดอร์แมนภาคใหม่ แต่เมื่อมองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เราจะพบเห็น องค์ประกอบอื่นๆ ที่ค่อนข้างจะรกหูรกตา แถมยังมีมากเกินไปอีกด้วย เช่น:

    Two-Faced Globe (ภาพโลก 2 หน้า)

    ตาม ที่มองเห็นได้ คือ สายตาของใบหน้าข้างหนึ่งของโลกจะมีความเยือกเย็น และเพ่งไปทางทิศตะวันตก ขณะที่ใบหน้าอีกข้างหนึ่ง มีลักษณะหน้าตาฉุนเฉียว แสดงอาการ โกรธเป็นฟืนไฟ – หรือนี่จะเป็นสัญลักษณ์อันชี้ให้เห็นว่า จะเกิด การเผชิญหน้ากัน ระหว่าง ตะวันออก กับ ตะวันตก? กระนั้น ภาพปกนี้ก็ยังประกอบไปด้วยสัญลักษณ์อื่นๆ อีก ที่พาดพิงไปถึง “การลุกขึ้นของตะวันออก” ทว่าสิ่งที่น่าขบคิดที่สุด เห็นจะเป็นภาพ เมฆรูปเห็ด ที่ตั้งอยู่อย่างพอดิบพอดีใต้รูปโลกหน้าโกรธ รวมไปถึงภาพ ดาวเทียมสอดแนมที่กำลังถูกปล่อยขึ้นไปสู่ชั้นอวกาศด้วย

    ดาวเทียมสอดแนม กับ สงครามนิวเคลียร์

    The Color of the Faces (สีของใบหน้าบุคคลต่างๆ)

    เมื่อ เราลองมองดูใกล้ๆ เราจะเห็นหน้าตาของบุคคลสำคัญต่างๆของโลก ปรากฏอยู่บนภาพปกนิตยสาร เดอะ อิคอนอมิสต์ ฉบับนี้ ซึ่งภาพของบางคนจากพวกเขา ถูกกำหนดให้มีสีสัน ในขณะที่อีกบางคนจะอยู่ในรูปของภาพขาว-ดำ … ทำไมหรือ?

    ec4

    จาก หมู่ของผู้ที่อยู่ในรูปของภาพขาว-ดำ ได้แก่ ปูติน, เมอเคล, โอบาม่า, ฮิลารี่ คลินตัน เดวิดคาเมรอน ฯลฯ ส่วนผู้ที่อยู่ในรูปสี มี เดวิด เบลน, เด็กหนุ่มสวมหมวกแก็ปที่ถือป้ายเบนเนอร์คำว่า “สิงคโปร์” (สิงคโปร์คือ เจ้าภาพซีเกมส์ประจำปี 2015) จากการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างคร่าวๆ เราจะเห็นได้ว่า ผู้ที่อยู่ในรูปขาว-ดำ ก็คือสมาชิกส่วนหนึ่งจากสมาคมของกลุ่มคนชั้นสูง (ตรงนี้รวมไปถึง นักรบ ISIS ที่เป็นไปได้ว่า กำลังทำงานให้กับพวกเขา) ส่วนพวกที่อยู่ในรูปสีก็คือ “คนนอก” หรือนี่คือการมองโลกในมุมของพวกคนชั้นสูง?


    Pied Piper (ไพด์ ไพเพอร์)

    การ ปรากฏตัวของ ไพด์ ไพเพอร์ (Pied Piper) ตัวละครหนึ่งในนิทานปรัมปรา และในบทกลอนเก่าแก่ของเยอรมัน โดย โรเบิร์ต บราวนิง ทำให้ธีมของปกนิตยสารฉบับนี้ดูซับซ้อนขึ้นอย่างสิ้นเชิง ไพด์ ไพเพอร์แห่ง ฮามาลิน เป็นชายคนหนึ่งที่ใช้เครื่องดนตรีฟลุท หรือขลุ่ยวิเศษของเขา เป่าทำนอง หลอกล่อให้เด็กๆแห่งเมือง ฮามาลิน ละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง และหายสาบสูญไปตลอดกาล

    ภาพไพด์ เพเพอ กำลังเป่าขลุ่ยวิเศษของเขา หลอกล่อเด็กๆแห่งเมือง ฮามาลิน

    ว่า กันว่า ตัวละครในนิทานปรัมปราจากยุคกลางนี้ เป็นตัวแทนของ มัจจุราชที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก ด้วยโรคระบาดหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ บ้างก็ว่า เป็น สัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวเพื่ออพยพผู้คนจำนวนมาก ซึ่งมันค่อนข้างจะเหมาะเจาะที่จะชี้ว่า ตัวละครนี้ กำลังฉายให้เราเห็นภาพ เยาวชนในปัจจุบัน ที่กำลังถูกหลอกล่อด้วยบทเพลงต่างๆ จากสื่อมวลชน ตามที่เราเห็นได้จากภาพปก คือจะ มีเด็กผู้ชายตัวน้อยคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ใต้ขลุ่ยของไพด์ ไพเพอร์อย่างพอดิบพอดี

    Clueless Boy (เด็กชาย ผู้ไร้เดียงสา)

    ตาม ที่กล่าวไว้ ข้างใต้ภาพ ไพด์ ไพเพอร์ เราจะเห็นเด็กชายคนหนึ่ง ที่มีลักษณะหน้าตาแสดงความงงงวยเป็นอย่างมาก กำลังยืนมองดูเกม ที่ถูกเรียกว่า “Panic” หรือ ตื่นตระหนก ซึ่งบนกระดานเกมปรากฏคำว่า “Federal Reserve” หรือ สหภาพ และ “Chi” ที่น่าจะมาจาก China หรือ จีน อยู่ตรงส่วนบน ขณะที่มีคำว่า “Green light!” หรือ ไฟเขียว และ SIS ที่น่าจะมาจาก ISIS หรือไม่ก็ Crisis ที่แปลว่า วิกฤตกาล อยู่ตรงส่วนล่าง เด็กน้อยกำลังยืนดูกระดานเกมชิงไหวพริบนี้อย่างงงงวย เหมือนกับที่ มวลชนตาดำๆ มากมายกำลังมองดูสถานการณ์มากมายที่ถูกเผยแพร่จากสื่อมวลชนอย่างไร้เดียงสา และตามชื่อของเกมนี้ ก็ได้แสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้วเป้าหมายของมันคือการทำให้โลกทั้งใบปั่นป่วน หรือตื่นตระหนกด้วยวิกฤตการณ์มากมาย ที่ถูกสุ่มให้เกิดขึ้นโดยผู้ที่ควบคุมเกมนี้นี่เอง- และนี่คือสิ่งที่ปรากฏอยู่บนปกนิตยสารที่ตระกูล ร็อตไซด์เป็นเจ้าของกิจการ

    Crop-O-Dust

    ข้าง หน้าของปูติน มีรูปเครื่องบินเล็กๆลำหนึ่ง ซึ่งบนลำตัวของมันมีคำเขียนว่า Crop-O-Dust ที่อ้างอิงไปถึงคอนเซป crop dusting หรือก็คือ “กรรมวิธี พ่นยายาฆ่าแมลงต่างๆบนไร่ธัญพืชด้วยเครื่องบิน” ซึ่งตามภาพเราจะเห็น เด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ ภายใต้ภาพเครื่องบินลำนั้นอย่างน่าพิศวง

    เด็ก คนนี้กำลังนั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชามโต อยู่ใต้เครื่องบิน crop-o-dust – หรือจริงๆแล้ว เขากำลังบริโภค ยาพิษที่ถูกพ่นผ่านเครื่องบินลำนั้น?

    China (จีน)

    หมี แพนด้าสวมใส่กางเกงสปีโด ลายธงชาติจีน ในท่าเบ่งกล้าม แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ภาพนี้กำลังพูดถึงบทบาทความจริงที่ว่า จีนกำลังรวบรวมอำนาจอยู่ในขณะนี้ และข้างๆของหมีแพนด้า ก็คือ นักมวยปล้ำซูโม่ ที่กำลังถือถ่านไฟฉายขนาดใหญ่ อันที่ระบุสัญลักษณ์ขั้วบวก-ลบ ชัดเจน – หรือเหล่านี้คือการเปรียบเปรยว่า ความเป็นที่นิยมของชาติมหาอำนาจกำลังจะถูกสับเปลี่ยนจาก ชาติตะวันตก มาเป็นชาติตะวันออก?

    Ghost (ผี)

    โผล่ มาจากทางด้านหลังขาของโอบาม่า คือ ผีตนหนึ่งกำลังอ่านแม็กกาซีน ที่มีชื่อว่า “Holiday” (วันหยุด) – ทำไมผีตนนี้ หรือแน่นอน คือสัญลักษณ์ของคนที่ตายไปแล้ว ถึงคิดแผนการไปเที่ยววันหยุด? หรือภาพนี่กำลังแสดงให้เห็นถึงความจริงที่ว่า มวลชนจะเผชิญกับวิกฤตความยากลำบาก ขนาดที่ว่า เวลาเดียวที่พวกเขาจะมีโอกาสหยุดงาน คือตอนที่พวกเขาได้ตายจากไปแล้วเท่านั้น? – หรือนี้จะเกี่ยวพันกับผู้คนนับไม่ถ้วนที่ต้องจบชีวิตลงจากการเดินทาง (ทางอากาศ) ผ่านมาในปี 2014…

    Turtle (เต่า)

    ยืน อยู่เบื้องหน้าของทุกๆอย่าง ด้วยสายตาเพ่งตรงเข้ากระชากวิญญาณผู้อ่าน คือเต่า ตัวที่มีเส้นกำกับรอบๆ เน้นตัวมันอยู่- มันมีความหมายว่าอย่างไร?

    ตาม ที่ทราบกันว่า “เต่าดุ” คือ สัญลักษณ์ ของสมาคมเฟเบียน สมาคมสังคมนิยม มหาอำนาจสุดโต่ง ในอังกฤษ มีประวัติการทำงานช้านานมากว่า ศตวรรษ ด้วยกับจุดประสงค์หลักคือ เพื่อก่อตั้ง รัฐบาลหนึ่งเดียวของโลกใบนี้

    คติพจน์ของ สมาคมเฟเบียนคือ “คราเราบุก เราบุกอย่างแข็งขัน”


    ซึ่ง โดยพื้นฐานแล้ว ปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังสังคมนิยมเฟเบียน ก็คือ พิมพ์เขียวของ อะไรในปัจจุบันที่เราเรียกมันว่า “ระเบียบโลกใหม่” นั่นเอง

    สมา คมเฟเบียนเคยให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยในแผนการสร้างสังคมด้วยวิทยาศาสตร์ ทั้งยังผลักดันให้มีการปรับปรุงลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์ให้ดีขึ้นตาม นิยามของพวกเขา โดยอนุญาตให้คนที่มียีนส์ที่เป็นที่ต้องการเท่านั้นสามารถมีลูกได้ โลโก้ดั่งเดิมของสมาคมเฟเบียน คือรูปหมาป่าในชุดขนแกะ (ซึ่งในทัศนะของผู้เขียนเดาเอาว่า มันคงจะไม่ใช่โลโก้ดีเด่นที่สามารถปกปิดความเป็นหมาป่าของสมาคมนี้ ต่อมวลชนได้สักเท่าไหร่…ก็ไม่รู้สินะ)

    โลโก้ดั่งเดิมของสมาคมสังคมนิยม เฟเบียน

    นำพา กฎเกณท์หรือระบบ ระเบียบ ต่างๆของโลกนี้ก้าวเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลง คือ สิ่งที่พวกคนชั้นสูงได้กระทำมา ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน นี่กระมัง คงจะเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไม เจ้าเต่าดุตัวนี้ จึงถูกจัดวางให้อยู่เบื้องหน้าความยุ่งเหยิงทั้งหลายบนหน้าปก นิตยสารของสำนักพิมพ์ที่เกี่ยวพันโดยตรงกับการประชุมลับ Bilderberg นี้

    11.3 and 11.5

    ใน มุมขวาล่างของภาพปก เราจะเห็นสัญลักษณ์ที่มีความกำกวมมากยิ่งขึ้นไปอีก คือ มีพะเนินทรายถูกวางกองอยู่บนพื้น เยื้องมาข้างหน้าพะเนินทราย มีลูกธนูสองดอกถูกปักอยู่ ซึ่งบนตัวลูกธนูจารึกหมายเลข 11.5 และ 11.3 – หรือตัวเลขเหล่านี้คือ วันที่ ที่เราควรจะต้องจดจำ? แล้วทำไมมันถึงอยู่ข้างๆกับพะเนินทราย? แล้วถ้าหากคุณลองตีความ องค์ประกอบในส่วนนี้เป็นระยะพิกัด มันกำลังชี้ไปสถานที่แห่งหนึ่งในประเทศไนจีเรีย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ปรากฏและองค์ประกอบต่างๆในภาพส่วนนี้ ก็ยังคงเป็นปริศนาที่เข้าใจได้โดย“คนที่รู้” เท่านั้น

    และนั่น ที่ยืนอยู่ข้างหน้าพะเนินทรายก็คือ “อลิซในแดนมหัศจรรย์” กำลังจ้องมองดู แมว เชสเชียร์ แคท


    ตาม ที่รู้กันดีว่า แมวตัวนี้เป็นหนึ่งในตัวละครเอกของนวนิยาย และภาพยนตร์ชื่อดัง อลิซในดินแดนมหัศจรรย์ ที่มีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง คือ สามารถล่องหน หายไปทั้งตัว และจะเหลือทิ้งไว้เพียงแต่ รอยยิ้มยียวนเท่านั้น ดังนั้น เราจึงสามารถมองทะลุเห็นโลกอีกโลกหนึ่ง ณ ที่นี่ คือ โลกแห่งแฟนตาซี, ภาพลวงตา หรือ โลกแห่งมายา ตามที่อลิซ -หรือ ตัวแทนของมวลชนส่วนมาก- เข้าใจได้ เรายังเห็นภาพปรากฏของ เดวิด เบลน ประกอบอยู่ข้างหลังแมวเชสเชียร์อย่างไม่จำเป็นอีกด้วย –หรือ เขาคือ ผู้วิเศษ (นักมายากล) เหมือนกับแมววิเศษตัวนี้? …. อย่างไรก็ดี มันค่อนข้างจะเห็นได้ชัดว่า ภาพปกนี้กำลังนำเสนอภาพผสมกันระหว่าง เหตุการณ์ในความเป็นจริง กับเรื่องราวในนวนิยาย

    อีกสัญลักษณ์ที่ สังเกตเห็นได้บนปกนิตยสาร ดิ อิคอนอมิสต์ ฉบับนี้ คือ หมูออมสินติดปีก ที่บินมาจาก กระเป๋าเสื้อของ เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับหนังชื่อดัง หรือ นายแบบในภาพที่สวมใส่ ครีเอชั่นเสื้อผ้าจาก Alexander McQueen ดีไซน์เนอร์ชื่อดังที่เป็นที่โปรดปรานของคนชั้นสูง (ผู้ที่เสียชีวิตลงในสภาพการณ์ที่ผิดปกติ) ไปจนถึงภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวเอเชีย สวมใส่หน้ากากเพื่อปกป้องตัวเองจากโรคระบาด ที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิต

    สรุป

    ดิ อิคอนอมิสต์ไม่ใช่หนังสือพิมพ์กระจอกๆ ที่ตีพิมพ์คำทำนายประจำปีแปลกๆ เพียงแค่อยากจะขายหนังสือจากบริษัทตัวเองให้ได้เพิ่มขึ้น ทว่า มันคือนิตยสารที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกลุ่มชนชั้นสูงที่คอยวางนโยบาย กำหนดทิศทางต่างๆให้กับโลกใบนี้ และทำให้มั่นใจว่า นโยบายเหล่านี้จะถูกนำมาใช้จริง อีกทั้ง หนึ่งในหุ้นส่วนหลักของ สำนักพิมพ์ ที่ตีพิมพ์ เดอะ อิคอนอมิสต์ ก็คือตระกูลร่ำรวย ร็อตไซด์ แห่งอังกฤษ รวมไปถึงหัวหน้าของบรรณาธิการ ที่เป็นถึงหนึ่งในผู้มีสิทธิ์ เข้าร่วมการประชุมลับ Biderberg ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือ เดอะ อิคอนอมิสต์ มีการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นทางการ กับผู้ที่มีอำนาจมากพอที่จะเปลี่ยน “คำทำนาย” ให้กลายเป็น “เรื่องจริง” นั่นเอง..


    ที่มา: จากเว็ปไซด์ที่มีสโลแกนว่า “ไม่ใช่คำพูด ไม่ใช่กฎหมาย สัญลักษณ์ต่างหากที่ล้างหัวคุณ!!” The Vigilant Citizen
    (The Economist 2015 Cover is Filled With Cryptic Symbols and Dire Predictions - The Vigilant Citizen)

    ขนลุกไปกับสัญลักษณ์ลึกลับ และการทำนายโลกปี 2015 บนปกนิตยสารระดับโลก The Economist !! | abnewstoday
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    CIA อาจจะให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยด้านสภาวภูมิอากาศทางธรรมชาติเพื่อใช้เป็นอาวุธยุคใหม่
    ----------------
    หากใครเคยอ่านหนังสือหรือดูหนังเรื่อง "สามก๊ก" มาบ้างในตอนที่ว่าด้วยโจโฉแตกทัพเรือ ก็จะจำได้ว่ามีอยู่ตอนหนึ่งที่ขงเบ้งใช้วิชาเรียกลมอาคเนย์ (southeast wind) แปลว่าลมที่มาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะพัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่เป็นทิศตรงข้ามกันซึ่งเป็นที่ตั้งทัพเรือของของโจโฉ เพื่อช่วยให้จิวยี่สามารถจุดไฟเผาทัพเรือของโจโฉที่ผูกติดกันไว้เป็นแพจนทัพเรือของโจโฉพังพินาศย่อยยับ พอพูดถึงตอนที่ขงเบ้งใช้วิชาเรียกลมอาคเนย์บางคนอาจจะคิดว่าเวอร์หละ ขงเบ้งจะมีความสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ขนาดนั้นเลยหรือ นั่นไม่ใช่เรื่องของไสยศาสตร์นะแต่เป็นเรื่องของโหราศาสตร์ในการพยากรณ์อากาศที่ขงเบ้งเก็บข้อมูลท้องถิ่นในเวลานั้นไว้จึงคาดว่าจะเกิดลมอาคเนย์ขึ้นในช่วงใดหรือในวันใดของฤดูนั้นบ้าง
    นั่นเป็นเรื่องของสมัยโบราณที่ใช้สภาพภูมิอากาศมาเป็นเครื่องมือในการทำศึกสงครามทำลายฝ่ายข้าศึก แต่ปัจจุบันนี้เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้นก็มีการนำเอาเทคโนโลยีด้านด้านที่เกี่ยวกับดินฟ้าอากาศมาใช้พัฒนาเป็นอาวุธชนิดใหม่เหมือนในหนังฮอลลีวูดกันบ้าง
    ทั้งสื่อฯและสายลับรัสเซียนี่จมูกไว้จริงๆ เพราะฝั่งรัสเซียเริ่มจะได้กลิ่นตุๆจากฝั่งอเมริกาที่กำลังจะสร้างอาวุธรุ่นใหม่ขึ้นมาใช้สำหรับคุกคามประเทศอื่นหรือสร้างความเสียหายแบบจับไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใครโดยอาศัยภัยธรรมชาติเป็นตัวทำลายแทนอาวุธหนักหรืออาวุธร้ายแรงอย่างนิวเคลียร์ โดยเมื่อวานนี้สื่อฯฝั่งรัสเซียเปิดเผยว่า CIA อาจจะเสนอเงินทุนสนับสนุนงานวิจัยสำหรับอาวุธใหม่ที่เกี่ยวกับภูมิอากาศก็ได้ ศาสตราจารย์ Alan Robock ชาวอเมริกัน จากมหาวิทยาลัย Rutgers University กล่าวกับ RT News ว่าเขามีกังวลใจว่าหน่วยข่าวกรอง CIA ของสหรัฐฯอาจจะกำลังพยายามใช้ภูมิอากาศเป็นอาวุธ เพราะ CIA สนใจในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก และได้เสนอที่จะให้เงินทุนสนับสนุนให้แก่นักวิจัยที่ทำงานด้านนี้หลายๆแห่งด้วย
    โดยเขายกตัวอย่างการใช้ภูมิอากาศหรือสภาพอากาศอย่างภัยธรรมชาติมาเป็นอาวุธนั้นย่อมทำได้อยู่แล้วเช่นการบังคับให้กลุ่มเมฆไปรวมตัวกันเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งเป็นจำนวนมากๆ และนานๆ อย่างทำในรูปแบบที่ทำให้ภูเขาไฟเกิดปะทุขึ้นมาหลายลูกหรือให้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะโลกร้อน โดยกลุ่มควันและเถ้าถ่านจำนวนมากก็จะไปบดบังแสงอาทิตย์และทำให้โลกหนาวเย็นลง วิธีการแบบนี้มีราคาไม่แพงและรวดเร็วด้วยแต่จะส่งผลกระทบข้างเคียงหลายอย่าง
    การใช้เทคโนโลยี่ดังกล่าวสามารถบล็อคแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องลงมาถึงประเทศใดประเทศบนโลกเป็นเวลานานๆ ได้ หากกลุ่มควันและฝุ่นนั้นมีปริมาณมากพอ ตัวอย่างก็คือในปี 1883 เกิดการปะทุขึ้นของภูเขาไฟ Krakatoa (Krakatau) มีผลกระทบงต่อรูปแบบของสภาวอากาศของโลกโดยตรงและทำให้โลกเย็นลงและมีหิมะตกมากที่สุดที่เท่าสถิติโลกบันทึกไว้เป็นเวลาถึง 4 ปีติดต่อกัน
    จริงๆ แล้วสหรัฐฯ มีการซึ่งทำโครงการที่เกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือการใช้สภาพภูมิอากาศมาเป็นอาวุธมานานแล้วอย่างโครงการ US’s High Frequency Active Auroral Research Program (HAARP) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีข่าวว่าถูกระงับไปแล้วเมื่อหลายปีมาก่อน แต่อาจจะมีการนำผลงานวิจัยไปพัฒนาด้านอื่นต่อก็ได้
    ส่วนการให้งบสนับสนุนงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องการใช้สภาวอากาศมาเป็นอาวุธของ CIA นั้นมีมานานแล้ว อย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี 2009 ตามข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์ของ CIA โดยตรงที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและงานด้านความมั่นคงของประเทศ คำถามที่น่าสงสัยก็คือแล้ว CIA มันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องดินฟ้าอากาศด้วย หากไม่ใช่เรื่องของอาวุธหนะ งั้นก็แสดงว่าข่าวจากฝั่งรัสเซียก็มีมูลความจริงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์นะสิ
    ทันทีที่สื่อฯฝั่งรัสเซียนำเสนอข่าวนี้ออกมาเมื่อวานนี้ ฝั่งอเมริกาก็รีบออกมาแก้ตัวในเว็บไซต์แห่งหนึ่งทันทีว่าข่าวที่ว่า CIA ให้เงินสนับสนุนการพัฒนาอาวุธใหม่จากสภาพภูมิอากาศนั้นไม่เป็นความจริง แล้วก็กล่าว CIA กลัวว่าทางรัสเซียและเกาหลีเหนืออาจจะใช้การควบคุมสภาวอากาศมาเป็นอาวุธก็ได้ เออ… แล้วที่มันเขียนเอาไว้ว่า "…ภารกิจของหน่วยงานใหม่ของ CIA นี้ไม่ใช่ศาสตร์ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ แต่เกี่ยวกับเรื่องผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติเช่นการเกิดทะเลทราย การขึ้นของระดับน้ำทะเล การเคลื่อนย้ายถิ่นของประชากร และการแข่งขันกันในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติที่สูงขึ้น..." นี้หละจะว่าอย่างไร? ที่อ้างว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศนั้นก็เพื่อจะหลีกเลี่ยงข้อห้ามที่ว่าเกี่ยวกับกฎบัตรการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในปี 1978 ต่างหากหละ ปัจจุบันนี้มีใช้เทคโนโลยีด้านการปรับเปลี่ยนสภาวะอากาศอย่างกว้างขวางขึ้น โดยสามารถค้นความรู้เพิ่มเติดได้จากคีย์เวอร์ดเช่น "geoengineering, weather weapon, weatherization, Weaponized Weather" เป็นต้น
    The Eyes
    --------------
    17/02/2558
    http://rt.com/usa/232687-weather-weapon-fears-cia/
    Research center or weather weapon? US military is shutting down HAARP — RT News
    http://www.irishtimes.com/…/scientist-concerned-over-cia-we…
    Weather warfare - Wikipedia, the free encyclopedia
    Weather modification - Wikipedia, the free encyclopedia
    http://archive.wired.com/…/security/magazine/17-08/mf_haarp…
    http://synapsebristol.blogspot.com/…/haarp-weather-weapon-o…
    1883 eruption of Krakatoa - Wikipedia, the free encyclopedia
    http://www.inquisitr.com/…/weaponized-weather-russia-and-n…/
    http://www.independent.co.uk/…/spy-agencies-could-be-fundin…
    http://www.theguardian.com/…/climate-engineering-money-oppo…
    http://www.theguardian.com/…/geoengineering-should-not-be-u…
    http://www.theguardian.com/…/is-geoengineering-a-bad-idea-c…
    https://www.cia.gov/…/center-on-climate-change-and-national…
    http://www.theguardian.com/…/spy-agencies-fund-climate-rese…
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    รัสเซียแฉเบื้องหลังแผนโจมตี IS ในลิเบีย
    ----------------
    ฝ่ายรัสเซียหรือพวกกบฎนิยมรัสเซียนี่จมูกเร็วจริงๆ ล่าสุดมีข่าวปล่อยออกมาจากโซเชียลมีเดียของฝั่งรัสเซียว่าพวกกองกำลังอิสระ Azov ของยูเครน บางส่วนอยู่ในช่วงพักผ่อนที่ลิเบีย พักผ่อนจากการสู้รบแล้วหนีหนาวไปอาบแดดอยู่ที่ลิเบียว่างั้นเถอะ แล้วจู่ๆ ก็มีข่าวพวก IS เชือดคอตัวประกันชาวอียิปต์ที่นับถือศาสนาคริสต์จำนวน 21 คนบนชายหาดริมทะเลแห่งหนึ่งในลิเบีย จากนั้นทางกองทัพอากาศอีกยิปต์ร่วมมือกับรัฐบาลของลิเบียก็ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดใส่เมือง Derna ประเทศลิเบียเพื่อเป็นการแก้แค้นพวก IS จากการต่อจิ๊กซอของฝ่ายรัสเซียเขามองว่างานนี้ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าอเมริกาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะรัสเซียเขารู้ว่ากองกำลังอิสระนิยมความรุนแรง Azov ในยูเครนนั้นมีอเมริกาหนุนหลังอยู่แน่ๆ และพวก IS มหาโหดที่ชอบถ่ายคลิปตอนฆ่าตัดคอนักโทษหรือตัวประกันโดยให้ใส่ชุดสีส้มนั้นก็ดูเหมือนว่าเป็นชุดสีเดียวกันกับนักโทษของ CIA ที่จับมาทรมานทั้งหลายในคุกลับในต่างประเทศด้วย ส่วนการแต่งตัวของกองกำลัง Azov ในยูเครนก็ช่างเหมือนกันกับของ IS ที่ถ่ายคลิปเหลือเกิน และมันจะบังเอิญอะไรขนาดนั้นที่มีข่าวว่าก่อนหน้านี้พวก Azov ก็ไปพักร้อนที่ลิเบียด้วย แล้วก็มีคลิป IS ฆ่าตัดคอตัวประกัน 21 รายออกมาไม่นานหลังจากนั้น โดยก่อนหน้านี้อเมริกาปฏิเสธว่าไม่มีการส่งกองกำลังภายนอกเข้าไปช่วยทหารยูเครนรบกับกลุ่มกบฎนิยมรัสเซีย พวกนี้อาจจะรู้ความลับของรัฐบาลอเมริกากับ CIA มากเกินไปหรือกลัวว่าจะปากโป้งทีหลังก็ได้ จึงใช้แผนยืมมืออียิปต์เก็บพวก IS หรือ Azov ที่กำลังพักร้อนอยู่ที่ลิเบียซะเลย หรือว่าพวก IS กับพวก Azov อาจจะเป็นคนละพวกกันก็ได้แต่มันดันไปอยู่ในที่เดียวกันก็สั่งเก็บมันทั้งสองกลุ่มนั่นแหละ จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินค่าแรงส่วนที่เหลือให้เพื่อประหยัดงบ
    The Eyes
    --------------
    17/02/2558
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    ติดตามสถารณ์กู้วิกฤตหนี้และการเดินประท้วงให้ยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดของกรีซ
    ----------------
    หันมาดูการเดินเกมรัฐบาลใหม่ของกรีซต่อการแก้ไขปัญาภาระหนี้สินของประเทศกรีซบ้างครับ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ก.พ.58) ที่อียูมีการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรือที่เรียกสั้นๆว่า "อียู" ที่กรุง Brussels เมืองหลวงของประเทศเบลเยียมกันบ้าง พวกเจ้าหนี้รายใหญ่ของกรีซที่เรียกว่า "Troika" (ทรอยก้า) ซึ่งประกอบด้วย IMF, EU และ ECB ต่างก็พยายามบีบให้กรีซใช้มาตรการรัดเข็มขัดแบบเดิมที่ใช้ในรัฐบาลชุดที่แล้วของกรีซและพยายามจะเพิ่มมาตรการรัดเข็มขัดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม เพื่อแลกกับการปล่อยเงินกู้เชื่อเหลือ (bailout) รอบใหม่ให้กรีซ การประชุมรอบนี้เป็นการเจรจาต่อรองกันระหว่างลูกหนี้คือกรีซกับเจ้าหนี้คือทรอยก้า
    โดยจุดยืนของทรอยก้าก็คือกรีซจะต้องยอมรับเงื่อนไขการเพิ่มมาตรการรัดเข็มขัดจากจากพวกเจ้าหนี้ ซึ่งก็หมายความว่ากรีซจะต้องรูดภาษีจากประชาชนของตนที่แห้งจนไม่มีอะไรให้รูดอีกแล้ว และกรีซจะต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจดีๆ ให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นให้ได้มากที่สุดและกรีซจะต้องขายสมบัติชาติให้กับกลุ่มเจ้าหนี้เพื่อแลกกับการช่วยเหลือด้านการเงินรอบใหม่ ซึ่งปัจจุบันนี้กรีซมีหนี้สินทั้งหมดประมาณ 11.9 ล้านล้านบาท
    แต่จุดยืนของรัฐบาลใหม่ที่ใช้ในการหาเสียงจนชนะการเลือกตั้งก็คือยกเลิกหรือผ่อนคลายมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งสวนทางกับนโยบาลของรัฐบาลชุดที่แล้วและขัดกับความต้องการของทรอยก้า ส่วนเรื่องที่นาย Yanis Varoufakis จอมเก๋ารมว.คลังคนใหม่ขวัญใจประชาชนชาวกรีซเรียกร้องต่อที่ประชุมอียูก็คือ ต้องการเงินกู้ระยะสั้น 6 เดือนโดยไม่มีเงื่อนไขของมาตรการรัดเข็มขัด โดยบอกว่าจะใช้เงินช่วยเหลือดังกล่าวมาแบ่งเบาและลดความยากลำบากของประชาชนและทำการปฏิรูประบบเศรษฐกิจและการเงินของกรีซ และไม่ต้องการเงินกู้ระยะยาวจากทรอยก้าอีก แต่กรีซยังไม่เผยไต๋ว่าจะทำอย่างไรต่อไป บอกแต่เพียงว่าตอนนี้ต้องการแค่เงินกู้ระยะสั้นปลอดดอกเบี้ยเท่านั้น และกรีซไม่ได้ต้องการให้ประเทศสมาชิกอื่นในอียูมาร่วมชดใช้หนี้สินให้กรีซด้วย เขาเชื่อว่ากรีซสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยความสามารถของกรีซเอง หากอียูให้โอกาส
    นั่นคือเกมในสภาที่ประชุมนานาชาติ ในขณะเดียวกันกรีซก็เดินเกมกดดันอียูนอกสภาอีก ด้วยการปล่อยให้ประชาชนออกมาเดินประท้วงเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดของกรีซที่กรุงเอเธนประมาณ 15,000 - 20,000 คนโดยไม่มีการขัดขวางใดๆจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมประท้วงในอีกหลายแห่งทั่วยุโรป แต่จำนวนไม่มากเท่าที่กรุงเอเธน เช่นที่ ปารีส, ลอนดอน และ ลิสบอน โดยทางรัฐบาลบอกว่าประชาชนออกมาเรียกร้องความต้องการของพวกเขาเอง รัฐบาลไม่ได้อยู่เบื้องหลังของการเดินประท้วงดังกล่าวเลย เว้ากันซื่อๆ ด้านๆ อย่างนี้แหละ ก็ประชาธิปไตยไง เมื่อเขาอยากจะประท้วงก็ปล่อยให้ประท้วงไปสิ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรด้วย
    โปรแกรมการให้เงินช่วยเหลือรอบใหม่ต่อกรีซนี้จะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ. นี้ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ในสายตาของอียูมองว่าจะทำให้ประเทศกรีซเสี่ยงต่อภาวะล้มละลาย งานนี้ทางอียูและเจ้าหนี้มองว่ารัฐบาลใหม่ของกรีซล้มเหลวในการเจรจาต่อรองเรื่องโปรแกรมการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินต่ออียู เนื่องจากกรีซปฏิเสธที่จะยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่จากเจ้าหนี้ทั้งหลาย
    แต่ไม้เด็ดของกรีซก็มีอยู่ซึ่งก็คือ ถ้าพวกเจ้าหนี้ทรอยก้าไม่ทำตามที่กรีซขอร้องงั้นกรีซก็จะออกจากอียูและหันไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซียและจีนแทน นี่คือคำขู่ของกรีซซึ่งทำให้อียูปวดหัวเอามากๆ เพราะถ้ากรีซทำอย่างนั้นจริงๆ ประเทศอื่นที่เป็นสมาชิกของอียูก็จะเอาอย่างบ้างหละสิ งานนี้อียูพังแน่ๆ อังกฤษก็จะใช้เป็นข้ออ้างได้เพราะอังกฤษต้องการจะออกจากอียูอยู่แล้ว และเมื่ออังกฤษเอาบ้าง มีหรือประเทศอื่นที่อยากจะออกจะลังเลอยู่ต่อไปเพราะเทศเหล่านั้นก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันกับกรีซไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่กล้าเสียงดังเท่านั้นเอง
    หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็เข้าทางอเมริกาเลยหละงานนี้เพราะจะทำให้อียูอ่อนแอลงได้มากและลดคู่แข่งคนสำคัญทางเศรษฐกิจของอเมริกาไปได้อีกรายหนึ่ง การที่อียูจะรวมกันหรือแยกกันนี้ไม่เกี่ยวกับนาโต้ที่มีอเมริกาเป็นผู้นำอยู่นะ แม้ว่าประเทศเหล่านั้นออกจากอียูแล้ว ก็ยังเป็นสมาชิกของนาโต้อยู่ดียกเว้นจะขอออกจากนาโต้ด้วย เห็นมะงานนี้อเมริกามีแต่ได้กับได้อย่างเดียวจริงๆ เพราะถ้าอียูยิ่งเข้มแข็งขึ้นมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญต่อเศรษฐกิจของเมริกามากขึ้นเท่านั้น แม้ภายนอกจะเป็นมิตรกันแต่ในบางมิติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พวกนี้ก็สู้กันไม่กระพริบตาเหมือนกัน
    ส่วนการประชุมในวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่กรีซได้ทิ้งการบ้านก้อนใหญ่ให้อียูเอากลับไปคิดหนัก ซึ่งคาดว่าจะออกหัวหรือก้อยก็ประมาณสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี่แหละ
    The Eyes
    --------------
    17/02/2558
    Greek Finance Minister, Eurogroup to Discuss Bailout Deal / Sputnik International
    ‘Dying out of poverty!’ Thousands gather for anti-austerity rally in Athens (VIDEO) — RT News
    http://rt.com/busin…/232755-greece-finance-minister-nytimes/
    http://www.reuters.com/…/us-eurozone-greece-germany-schaeub…
    http://www.reuters.com/…/us-eurozone-greece-idUSKBN0LJ0SH20…
    German Finance Minister Skeptical About Greece Debt Talks With Eurogroup / Sputnik International
    Greece, European Creditors Talks Aimed at Transcending National Divides / Sputnik International
    Minsk is a Sign of Hope, Greek Government Needs Purer Wine – Merkel Ally / Sputnik International
    Greek Finance Minister, Eurogroup to Discuss Bailout Deal / Sputnik International
    Greece, European Creditors Talks Aimed at Transcending National Divides / Sputnik International
    http://www.reuters.com/…/us-eurozone-greece-germany-schaeub…
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    จีนอาสาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยชวนอีหร่านเข้าร่วมเจรจาปัญหานิวเคลียร์กับ P5+1
    ----------------
    หันมาดูปัญหาระดับโลกอีกซักปัญหากันบ้างนะครับ แม้บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว คงไม่มีผลกระทบกับประเทศไทยหรือคนไทยโดยทั่วไปหรอกมั๊ง ก็ไม่เป็นไรครับแต่ถ้าพวกประเทศมหาอำนาจพวกนี้เขาตกลงกันไม่ได้จริงๆแล้วเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ขึ้นมาที่มุมไหนของโลกซักแห่งนี่ คราวนี้แหละเกี่ยวแน่ๆคงไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยอย่างเดียวหละ ทุกประเทศทั่วโลกต่างก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้นแน่นอน ดังนั้นจึงขออนุญาตเอาข่าวนี้มาเล่าให้ฟังเพื่อจะได้ทันสถานการณ์โลกกันบ้างนะครับผม
    ข่าวมีอยู่ว่าวันนี้สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งลงข่าวว่า นายหวัง ยี่ (Wang Yi) รมว.ต่างประเทศของจีนได้เดินทางไปที่กรุง Tehran เมืองหลวงของ Iran เพื่อเจรจากรณีปัญหานิวเคลียร์ของอีหร่านกับกลุ่มประเทศมีเป็นมหาอำนาจที่สุดในโลกที่เรียกตัวเองว่า "P5+10" ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ, รัสเซีย, จีน, อังกฤษ, และฝรั่งเศส บวก เยอรมัน โดยทางจีนได้ขอให้อีหร่านเข้าร่วมการเจรจากับกลุ่ม P5+1 ในรอบที่จะถึงเร็วๆนี้ ซึ่งกำหนดการเจรจาดังกล่าวกล่าวได้ถูกเลื่อนออกมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน และก็ใกล้จะเลยเส้นตายแล้วด้วย หากอีหร่านยังดื้อไม่มาตกลงกันให้รู้เรื่องทางสหรัฐฯและยุโรปก็จะเพิ่มมาตรการแซงชั่นอีหร่านเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของอีหร่านแย่ยิ่งกว่าเดิม
    ทางจีนก็เลยไปพูดให้อีหร่านเห็นถึงผลได้ผลเสียที่จะตามมา ประมาณว่า "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" ดีกว่ามั๊งพวก ดูอย่างจีนเป็นตัวอย่างสิ กว่าจะมีวันนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ โดนบีบโดนแกล้งโดนเอาเปรียบจากประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกากับยุโรปมาไม่น้อยแต่เพราะความอดทนและรู้จักยืดหยุ่นจึงรอดมาได้และในช่วงเวลาดังกล่าวก็ซุ่มสร้างตัวเองให้เข้มแข็งจึงกลายเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจผู้ทรงอิทธิพลของโลกอย่างที่เห็นนี้ไง อีหร่านควรจะเอาอย่างจีนบ้างนะ
    เนื่องจากจีนกับอีหร่านนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้าการลุงทุน และด้านพลังงาน โดยจีนนำเข้าน้ำมันดิบจากอีหร่านถึงเกือบจะ 30 เปอร์เซ็นในปีที่แล้วเมื่อเทียบกับยอดการนำเข้าน้ำมันสูงสุดตั้งแต่ปี 2011 มา การให้คนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันไปคุยกันก็ย่อมจะพูดกันง่ายกว่าและมีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจมากกว่าให้คนที่เป็นศัตรูกันอย่างสหรัฐฯไปคุยกับอีหร่าน
    หลังจากที่จีนคุยกับอีหร่านแล้ว ดูเหมือนว่าท่าทีของอีหร่านจะเริ่มลดความแข็งกร้าวหัวดื้อลงมาบ้าง โดยให้ความสนใจในเรื่องการหันมาพัฒนาด้านเศรษบฐกิจร่วมกับจีนแทน เพื่อลดปัญหาการแซงชั่นและหากตกลงกันได้ก็จะทำให้อีหร่านถูกยกเลิกแซงชั่นจากประเทศมหาอำนาจไปได้ซึ่งก็จะเป็นผลดีกับทั้งอีหร่านและจีนและทุกๆ ประเทศด้วย
    ที่ว่ามานั้นคือฉากหน้าที่เขาแถลงข่าวกันนะ จะให้อีกหร่านยกเลิกการพัฒนาด้านนิวเคลียร์หนะหรือฝันไปเถอะ เพราะเมื่อเร็วๆ นี้อีหร่านพึ่งจะบรรลุข้อตกลงในการสร้างเตาปฏิกรณ์พลังงานนิวเคลียร์เพื่อผลิตไฟฟ้าเองนะ แต่ที่สหรัฐฯกับอียูเขาไม่ไว้ใจอีหร่านก็คือ เกรงว่าอีกหร่านจะไม่ได้พัฒนาโครงการนิวเคลียร์เฉพาะเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เท่านั้นนะสิ กลัวว่าอีกหร่านจะเอาทรัพยากรด้านนิวเคลียร์ไปพัฒนาเป็นอาวุธนิวเคลียร์หันมาถล่มใส่อเมริกานะสิ
    งานนี้เบื้องหลังที่จีนไปตกลงกับอีกหร่านอาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้ เช่นเอาอย่างนี้สิพวก ถ้าเขาไม่อยากให้อีหร่านสร้างอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศอีหร่าน งั้นอีหร่านมาพัฒนาที่จีนเลยดีไหม โดยให้อีหร่านออกทุนส่วนจีนจะให้ใช้พื้นที่และมาตรการรักษาความปลอดภัยให้และจะเป็นกันชนกับพวกสหรัฐฯกับอียูให้เอง พอสร้างเสร็จก็แบ่งผลงานกันคนละครึ่งหรือแล้วแต่จะตกลงกัน จากนั้นอีกหร่านก็ขนเอาบางส่วนกลับไปเก็บไว้ใช้ที่ประเทศอีหร่านเอง หรือไม่ก็มีการตกลงกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษบังหน้าว่าเป็นการร่วมกันลงทุนระหว่างจีนกับอีหร่านที่ประเทศอีกหร่านนั่นแหละ แต่อาจจะใช้ชื่อบริษัทของจีนหรือบริษัทร่วมลงทุนระหว่างสองประเทศก็ได้ แล้วก็สร้างมันภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษนั่นแหละโดยขุดลงไปใต้ดินลึกๆ โน่นจนดาวเทียมของสหรัฐฯ ตรวจไม่เจอ ส่วนฉากหน้าก็ทำเป็นงานวิจัยด้านการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บังหน้าแทน ซึ่งประเทศมหาอำนาจอื่นๆ เขาก็ทำอย่างนี้ด้วยกันทั้งนั้น แล้วก็บอกกับ P5+1 ว่าอีหร่านระงับโครงการเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดแล้ว มีแต่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เท่านั้น แค่นี้ก็ลอดจากการถูกแซงชั่นแล้ว และเป็นโอกาสที่จะทำให้อีหร่านมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้ด้วย ส่วนองค์กรกลางที่อยากจะเข้ามาตรวจก็ให้เขาตรวจไปเดี๋ยวจีนจะช่วยเอง เมื่อเข้ามาตรวจแล้วไม่พบว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ตามที่กล่าวหาก่อนหน้านี้พวกนั้นก็จะหน้าแตกไปเอง คราวนี้อีหร่านก็อาจจะฟ้องกลับเพื่อเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากที่ถูกแซงชั่นก็ได้ ฝ่ายอีกหร่านฟังแล้วก็ คิดว่าแผนนี้น่าสนใจ จึงบอกว่าโอกาสดีๆ อย่างนี้ต้องรีบคว้าไว้
    The Eyes
    --------------
    16/02/2558
    China urges Iran to uphold its right to 'peaceful use of nuclear power' — RT News
    http://www.reuters.com/…/us-iran-nuclear-china-idUSKBN0LK05…
    http://www.reuters.com/…/us-iran-nuclear-ban-idUSKBN0LK10L2…
    http://edition.cnn.com/…/o…/nephew-iran-sanctions/index.html
    BBC News - Iran: Foreign minister told to smile at nuclear talks
    P5+1 - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอเมริกันจับคนแก่เชื้อสายอินเดียทุ่มข้างฟุตบาทฐานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และเดินหนีตำรวจ
    --------------
    นี่ก็อีกคดีหนึ่งที่มีการแชร์คลิปกันว่อนเน็ทด้วยเช่นกันก็คือกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ 2 นายจับคนแก่ (ผู้ชาย) คนหนึ่งชื่อ Sureshbhai Patel วัย 57 ปีทุ่มข้างฟุตบาทกึ่งคอนกรีตกึ่งลานหญ้าอาการสาหัส เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าหน้าทีตำรวจได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีชายแปลกหน้าเดินอยู่ข้างถนนมุ่งหน้าเข้าชุมชน ตรวจก็รุดเข้าสู่บริเวณดังกล่าว (Madison, Alabama, สหรัฐฯ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายจึงเข้าไปบอกให้เขาหยุดเดินและถามว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน จะไปไหน แต่เนื่องจากเขาเป็นชาวอินเดียพึ่งย้ายมาอยู่ที่สหรัฐฯได้ไม่นานเนื่องจากลูกชายของเขาแต่งงานกับหญิงอเมริกันและมีสิทธิ์รับผู้ให้กำเนิดมาดูแลได้ด้วย เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ จึงตอบตำรวจไปว่า "No English" (ไม่มี/ไม่เป็นอังกฤษ) "Indian" (คนอินเดีย) และ "Walking" (เดินเล่น) และชี้มือไปยังบ้านหลังหนึ่งที่เขากำลังมุ่งหน้าไปซึ่งเป็นบ้านของลูกชายเขานั่นเอง
    หลังจากที่แกพูดแล้ว แกก็เดินต่อไป ซึ่งมันทำให้ตรวจฉุนขึ้นมาทันทีแล้วกล่าวว่า อย่าเดินหนีฉันในขณะที่ฉันกำลังพูดกับแกนะ เดี๋ยวฉันจะจับแกทุ่มลงกับพื้นนะ พูดจบเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เตะตัดขาชายแก่คนนั้นแล้วทุ่มตัวแกลงกับพื้นคอนกรีตแข็งๆ ครึ่งหนึ่งและสนาหญ้าครึ่งหนึ่งทันที โชดดีที่หน้าไม่ฟาดกับพื้นคอนกรีตนะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นก็ทุ่มตัวลงไปทับบนหลังของชายแก่อีกด้วย แล้วบอกให้เขาลุกขึ้น และพยายบอกให้เขาเดิน มันจะเดินยังไงไหวหละก็ขาหักไปแล้วอ่ะ รถเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนก็เข้ามาในช่วงก่อนที่จะทุ่มชายคนดังกล่าวพอดีและได้บันทึกวีดีโอจากกล้องหน้ารถไว้ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาใหม่ก็เดินไปดูเหตุการณ์และกล่าวว่า ชายแปลหน้าคนนั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ภาษาอังกฤษของเขาไม่กระดิกเลย เขาไม่เข้าใจสิ่งที่พวกคุณพูดหรอก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียกรถพยาบาลมารับตัวไปรักษา ตอนนี้แกนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอาการสาหัสมาก จะต้องมีการผ่าตัดด้วย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ครอบครัวของลูกชายก็ไม่ใช่ว่าจะร่ำรวยอะไร อาการป่วยนี้อาจจะทำให้แกไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งตลอดชีวิตก็ได้
    จริงๆ แล้วคนแก่ แกออกมาเดินออกกำลังกายตามข้างถนนในตอนเช้าอย่างที่แกเคยปฏิบัติมาในประเทศอินเดีย แต่คนอเมริกันที่นี่ไม่คุ้นเคยกับพฤติกรรมของแกและแกพึ่งจะย้ายมาอยู่ใหม่ ตอนที่เดินไปแกก็มองดูวิวข้างทางไปบ้างดูบ้านหลังโน้นหลังนั้นบ้าง ก็เพื่อนบ้านกันนี่แกก็มองไปเรื่อยๆ แต่ชาวบ้านพอเห็นเข้าก็บอกว่าเป็นคนแปลกหน้าและโทรแจ้งตำรวจว่าชายคนดังกล่าวมองมาที่โรงรถของเพื่อนบ้านซะงั้น อ้าวกรรม ดูโรงรถก็ไม่ได้ ต่อไปถ้ามีคนมองต้นไม้หรือเสาไฟฟ้าข้างทางมันจะคิดว่าคนที่มองกำลังวางแผนจะโขมยต้นไม้หรือเสาไฟฟ้าไปหรือเปล่านี่
    ดูคลิปได้ที่ :
    https://www.youtube.com/watch?v=3YL1ATsi3M8
    https://www.youtube.com/watch?v=dlK-3U24myA
    The Eyes
    --------------
    16/02/2558
    Alabama Cop Who Paralyzed Indian Citizen Fired, Arrested / Sputnik International
    http://edition.cnn.com/…/…/alabama-police-beating/index.html
    BBC News - US policeman charged for pushing Indian man
    BBC News - Dashcam video of police pushing Indian man
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,205
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    เอาอีกแล้วอเมริกา ตำรวจอเมริกันยิงชาวผิวสีเสียชีวิตคาที่เนื่องจากปฏิเสธการตรวจค้นและขว้างก้อนหินใส่ตำรวจ
    ----------------
    เมื่อวันที่ 12 ก.พ.58 เวลาประมาณ 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในเมือง Pasco, Washington สหรัฐฯอเมริกาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายเข้าตรวจค้นตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัย 35 ปีชื่อ Antonio Zambrano-Montes บริเวณลานจอดรถด้านหน้าศูนย์อาหาร Fiesta Foods แต่ผู้ต้องสงสัยปฏิเสธการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจนายหนึ่งพยายามเข้าล็อคตัวผู้ต้องสงสัยแต่เขาก็สบัดหลุดออกมาได้ แล้วก็วิ่งข้ามถนนไปอีกฟากหนึ่งบริเวณแยกไฟแดง เจ้าหน้าที่ตรวจก็พากันวิ่งตาม ชายคนดังกล่าวก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้นในขณะที่วิ่งหนีตำรวจไป แล้วหยุดวิ่งและหันหน้ามาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและขว้างบางอย่างที่อยู่ในมือเขาตามข่าวบอกว่าเป็นก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ชักปืนยิงชายคนดังกล่าวตอบโต้ทันที 13 นัด ไม่ตายให้มันรู้ไปดิ บาดแผลฉกรรจ์นักท่ามกลางสายตายผู้คนที่จอดรถติดไฟแดงบนท้องถนนและผู้คนโดยรอบมากมาย
    พยานหลายคนบอกว่า Zambrano-Montes ไม่มีอาวุธ (unarmed) เขาเพียงแค่พยายามเดินหนีไปเท่านั้นเมื่อเขาเมื่อเขาถูกยิงและฆ่า ตามรายงานข่าวบอกว่า เหยื่อรายนี้เป็นชาวเม็กซิกันโดยกำเนิดแล้วย้ายมาอยู่สหรัฐฯ เป็นคนงานสวนผลไม้ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ มีลูกสาวสองคน
    พอเกิดเหตุการณ์นี้ขี้นก็มีผู้บันทึกภาพวีดีโอเหตุการณ์เอาไว้ได้และก็โพสต์ในอินเตอร์เน็ท สำนักข่าวต่างๆ ก็เอามาลงข่าวและแชร์กันกระหน่ำในโลกไซเบอร์มีการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของตำรวจในครั้งนี้อย่างมากมาย เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรมตำรวจเมือง Pasco ก็ได้รับคำตอบว่ากำลังทำการตรวจสอบอยู่ ส่วนกรณีคลิปวีดีโอที่มีผู้นำมาให้ดูและถูกอ้างถึงนั้นตำรวจบอกว่ายังไม่ได้รับการตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นของจริงหรือไม่ โอ้… สุดยอดจริงๆ นะตำรวจอเมริกันนี่
    เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.58) ก็มีการรวมกลุ่มกันประมาณ 1,000 กว่าคนที่ Volunteer Park และบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อประท้วงและเรียกร้องความเป็นธรรมต่อคดีดังกล่าวอย่างสงบไม่มีเหตุการณ์รุนแรงส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายที่ยิงเหยื่อในครั้งนี้ถูกพักงานชั่วคราวเนื่องจากอยู่ภายใต้การตรวจสอบ
    ดูคลิปได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=y-0uqFTBclo
    The Eyes
    --------------
    16/02/2558
    http://rt.com/usa/232459-washington-rally-police-killing/
    ​Man shot dead by police in Washington State after throwing rocks (VIDEO) — RT USA
    http://www.reuters.com/…/us-usa-washington-murder-idUSKBN0L…
    http://www.theguardian.com/…/pasco-washington-fatal-police-…
    http://www.nytimes.com/…/police-killing-of-man-who-threw-ro…
    Police Shooting of Homeless Mexican Provokes Rally in Washington State / Sputnik International
    http://edition.cnn.com/…/washington-police-shoot…/index.html
    http://news.yahoo.com/alabama-police-officer-charged-assaul…
    https://www.youtube.com/watch?v=A29bMFvKp4U
     

แชร์หน้านี้

Loading...