ติดตามสถานะการณ์

คนหลายพันแห่ร่วมพิธีศพ 3 นศ.มุสลิม - ครอบครัวเชื่อมือปืนมะกันลั่นไกเพราะ “เกลียดชังศาสนา”โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2558 19:39 น. (แก้ไขล่าสุด 13 กุมภาพันธ์ 2558 19:43 น.)


@ยูซอร์ อาบู-ซัลฮา และราซัน อาบู-ซัลฮา สองพี่น้องที่ถูกยิงเสียชีวิต

เอเอฟพี - วานนี้ (12 ก.พ.) ครอบครัวของหนุ่มสาวชาวมุสลิม 3 คนที่ถูกเพื่อนบ้านกราดยิงเสียชีวิตในสหรัฐฯ ได้กล่าวร่ำลาผู้เสียชีวิตในสภาพน้ำตานองหน้า พร้อมกับกำชับให้ทางการสืบสวนเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ โดยถือเป็นการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง

ประชาชนกว่า 5,000 คนหลั่งไหลไปร่วมไว้อาลัย ดีอาห์ ชาดดี บารากัต นักศึกษาชายวัย 23 ปี และ ยูซอร์ โมฮัมหมัด อาบู-ซัลฮา ภรรยาหมาดๆ วัย 21 ตลอดจนน้องสาวของเธอชื่อ ราซัน โมฮัมหมัด อาบู-ซัลฮา วัย 19 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของสหรัฐฯ ระบุว่า ถูกเพื่อนบ้านคนหนึ่งสังหารในเมืองแชเปิลฮิลล์ มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา

ทั้งนี้ เชื่อกันว่า เครก สตีเฟน ฮิกส์ วัย 46 ปี ผู้ต้องหาในคดีกราดยิงครั้งนี้ มีจุดยืนต่อต้านศาสนาอย่างรุนแรง เนื่องจากเขาเคยโพสต์ข้อความโจมตีศาสนาผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งใช้ถ้อยคำประณามศาสนาคริสต์ ลัทธิมอร์มอน และศาสนาอิสลาม

ตำรวจสหรัฐฯ ระบุว่า ได้สืบสวนเหตุกราดยิงเมื่อวันอังคาร (10) โดยสันนิษฐานว่ามีชนวนขัดแย้งมาจากการแย่งที่จอดรถ แต่ครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตปักใจเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุมีแรงจูงใจมาจากความเกลียดชังศาสนา

สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ระบุว่า ได้เปิดฉากสอบสวนคดีฆาตกรรมควบคู่กับตำรวจสหรัฐฯ ทั้งนี้อัยการกลางมักเข้าตรวจสอบคดี ที่ต้องสงสัยว่ามีแรงจูงใจจากความเกลียดชังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหากพิสูจน์ได้จริงว่าผู้ต้องหาก่ออาชญากรรม โดยมีความรู้สึกเกลียดชังเหยื่อเป็นแรงกระตุ้น ก็ย่อมได้รับโทษร้ายแรงยิ่งขึ้นไปอีก

โมฮัมหมัด อาบู-ซัลฮา พ่อของเด็กสาวที่เสียชีวิต 2 คนยืนกรานว่า “เราแน่ใจว่าลูกสาวของเราถูกทำร้าย” เพราะความเกลียดชังศาสนา

“เด็กๆ พวกนี้ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากการแย่งที่จอดรถกันแน่นอน” เขากล่าว ขณะถูกรายล้อมด้วยสมาชิกครอบครัวที่กำลังร่ำไห้ ก่อนจะเตรียมละหมาดครั้งสุดท้าย

เขาเล่าว่า ก่อนหน้านี้ ยูซอร์ ลูกสาวของเขาเคยบ่นว่า ฮิกส์ข่มขู่เธอ ด้วยการมาเคาะประตูบ่นเรื่องที่จอดรถ พร้อมทั้งเหน็บปืนไว้ที่เอว

ชาวบ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ฮิกส์เป็นพวกชอบก่อปัญหา เขาชอบชวนเพื่อนบ้านทะเลาะเรื่องที่จอดรถ และพกปืนในที่สาธารณะอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ตามรายงานของสื่อในท้องที่

ทั้งนี้ ในหมู่ประชากร 9.9 ล้านคน ในมลรัฐนอร์ทแคโรไลนานั้นเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามราว 65,000 คน และชาวมุสลิมส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองแชเปิลฮิลล์

เหตุสังหารครั้งนี้ได้จุดประกายให้ชาวมุสลิมทั่วโลกพากันโกรธแค้น และพร้อมใจกันประณามผู้ก่อเหตุผ่านทวิตเตอร์ โดยแนบแฮชแท็ก #ChapelHillShooting และ #MuslimLivesMatter

โมฮัมหมัด อาบู-ซัลฮา พ่อของผู้ตาย ต่อต้านการที่สื่อบิดเบือนภาพลักษณ์ของชาวมุสลิม และชี้ว่า หนุ่มสาวที่ถูกฆ่า และกำลังใจที่พวกเขาได้รับนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของแรงศรัทธา

“ศาสนาอิสลามไม่ได้เป็นอย่างที่คุณได้ยินจากสื่อ ไม่เหมือนในภาพยนตร์ ‘อเมริกันสไนเปอร์’ ” เขาระบุถึงหนังฮอลลีวูดที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตพลแม่นปืนหน่วยซีล ของกองทัพแดนอินทรี ที่ปลิดชีพพวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์ในสงครามอิรัก


*** ชีวิตทุกคนมีค่า ***

ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทมิตรสหายหลั่งไหลไปร่วมไว้อาลัยเหยื่อทั้งสาม ในพิธีศพตามประเพณีมุสลิม

พ่อแม่ของผู้ตายร่ำไห้ เมื่อเห็นศพลูกๆ ถูกฝัง โดยพวกเขาฝังสองพี่น้องไว้ในหลุมเดียวกัน ที่อยู่ถัดจากหลุมศพดีอาห์ ขณะฝูงชนเปล่งเสียงสวดมนต์ดังกึกก้อง

ดีอาห์ และยูซอร์ เพิ่งเข้าพิธีสมรสเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปีที่แล้ว และเจ้าสาวหมาดๆ คนนี้ก็กำลังจะเข้าเรียนคณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ในเดือนสิงหาคมนี้

 

เซียร์ราลีโอนตื่นปิดเมือง หลังพบผู้ติดเชื้ออีโบลาพุ่งขึ้นฉับพลัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2558 03:01 น.



รอยเตอร์/เอเอฟพี - เซียร์ราลีโอนต้องปิดการเข้าออกย่านแห่งหนึ่งซึ่งมีบ้านเรือนหลายร้อยหลังในกรุงฟรีทาวน์เมื่อวันศุกร์(13ก.พ.) หลังพบผู้ติดเชื้ออีโบลาพุ่งขึ้นอย่างฉับพลัน นับเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ของประเทศแห่งนี้ที่สถานการณ์เพิ่งฟื้นและยกเลิกมาตรการจำกัดความเคลื่อนไหวต่างๆได้ไม่ถึงเดือน

รัฐบาลเปิดเผยว่ามีบ้านเรือน 700 หลังถูกปิดการเข้าออกในเขตอเบอร์ดีน ย่านการประมงและท่องเที่ยวของฟรีทาวน์ ตามหลังการเสียชีวิตของชาวประมงคนหนึ่งที่ผลตรวจเชื้อไวรัสอีโบลาออกมาเป็นบวก

"เราจัดการกับสถานการณ์ได้และประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก" โอบี เซเซย์ จากศูนย์ตอบสนองอีโบลาแห่งชาติของรัฐบาลกล่าว พร้อมระบุว่าได้มีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมพิเศษเพื่อจัดการกับเหตุการณ์นี้แล้ว และชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและแกะรอยผู้ติดเชื้อ ถูกระดมเข้าไปยังเขตอเบอร์ดีน เพื่อรับประกันว่าเหตุการตายครั้งนี้จะไม่บานปลายสู่การแพร่ระบาดรุนแรง

เซียร์ราลีโอน ชาติที่มีประชาชนราว 6 ล้านคนแห่งนี้ มีผู้ติดเชื้ออีโบลาเกือบ 11,000 คนและเสียชีวิต 3,360 ราย ระหว่างที่ไวรัสมรณะชนิดนี้แพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตกมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว

ประธานาธิบดีเออร์เนสต์ ไบ โคโรมา ระบุเมื่อวันที่ 23 มกราคม ว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และสั่งยกเลิกมาตรการกักกันอันกว้างขวางที่ครอบคลุมประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ พร้อมประกาศว่าเริ่มมองเห็นชัยชนะแล้ว

อย่างไรก็ตามมุมมองดังกล่าวแปรเปลี่ยนสู่สัญญาณเตือนรอบใหม่ในวันพุธ(11ก.พ.) หลังจากองค์การอนามัยโลกรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทั่วเซียร์ราลีโอนและกินีชาติเพื่อนบ้าน 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยในเซียร์ราลีโอน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 76 คน

องค์การอนามัยโลกระบุยอดรวมผู้เสียชีวิตจากอีโบลา อยู่ที่ราว 9,250 คน แต่ก็ยอมรับว่าเป็นไปได้ยากที่จะให้ข้อมูลที่แน่นอน

ทั้งนี้ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมทั้งสิ้น 144 คนใน 3 ชาติแอฟริกาตะวันตกที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ได้แก่เซียร์ราลีโอน ไลบีเรียและกินี เพิ่มขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 124 คน

"จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในกินี และยังคงมีการติดต่ออย่างกว้างขวางในเซียร์ราลีโอน ย้ำให้เห็นว่าความพยายามลดอัตราการแพร่ระบาดของอีโบลาให้เหลือเป็นศูนย์ ยังต้องเผชิญความท้าทายใหญ่หลวง" องค์การอนามัยโลกระบุในรายงานฉบับล่าสุด

อย่างไรก็ตามยังพอมีข่าวดีบ้างในไลบีเรีย ที่ครั้งหนึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วงการแพร่ระบาดหนักหน่วงที่สดในเดือนกันยายนและตุลาคม แต่ข้อมูลล่าสุดพบว่าในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่แค่ 3 คน

รัฐบาลไลบีเรีย แถลงว่าจะกลับมาเปิดโรงเรียนในสัปดาห์หน้า หลังหยุดเรียนมานานกว่า 6 เดือนท่ามกลางการแพร่ระบาดของอีโบลา ขณะที่เซียร์ราลีโอน มีแผนเปิดเรียนเช่นกันในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000018165

 

น้ำมันพุ่ง-ดาวโจนสฺ์ปิดเหนือ18,000จุดหลังศก.ยูโรโซนฟื้น ทองคำบวก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2558 05:17 น.



เอเอฟพี/เอพี - น้ำมันโลกวานนี้(13ก.พ.) ปิดบวกแรง ท่ามกลางกำลังผลิตในสหรัฐฯลดลงและสัญญาณอุปสงค์ฟื้นตัวในยุโรโซน หลังพบเศรษฐกิจไตรมาส 4 ขยายตัวเกินคาดหมาย ปัจจัยนี้ดันให้ดาวโจนส์ปิดเหนือ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกของปี 2015 ขณะที่ทองคำบวกเล็กน้อย เหตุดอลลาร์อ่อนค่าลง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กิจกรรมทางเศรษฐกิจในยูโรโซนปรับขึ้นเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 4 โดยขยายตัวเกินความคาดหมาย 0.3 % หลังจากเติบโต 0.2 % ในช่วงไตรมาส 3 นำโดย เยอรมนี ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของยุโรป ที่ขยายตัว 0.7 % ก่อความหวังต่ออุปสงค์ทางพลังงานที่น่าจะแข็งแกร่งขึ้น

นอกจากนี้แล้ว ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากปัจจัยทางอุปทาน หลังเกิดเหตุโจมตีรอบใหม่ต่อที่ตั้งปิโตรเลียมในลิเบีย ที่อาจกระทบต่อกำลังผลิต ขณะที่แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯก็หยุดปฏิบัติการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(13ก.พ.) ขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ เอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่และดาวโจนส์ขยับปิดบวกเป็นครั้งแรกในปี 2015 จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีของยูโรโซน โดยเฉพาะเยอรมนี

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.97 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,019.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.51 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,096.99 จุด เหนือกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม เกือบ 6.5 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 36.22 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,893.84 จุด

ข้อมูลจีดีพีช่วงไตรมาส 4 ที่ขยายตัวเกินคาดหมายของเยอรมนี ส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2014 เศรษฐกิจเมืองเบียร์ขยายตัว 1.6% ตัวเลขนี้ดันตลาดหุ้นเยอรมนี ขยับขึ้นเหนือ 11,000 จุดในการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนปิดบวก 0.40% ที่ 10,963.40 จุด ส่วนตลาดทุนอื่นๆในยุโรปก็ปรับขึ้นกันถ้วนหน้าจากปัจจัยหนุนเพิ่มเติม หลังกรีซมีทีท่าเข้าใกล้การประนีประนอมผ่อนปรนหนี้หลายล้านยูโร

ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์(13ก.พ.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงจากข้อมูลที่เศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดหมายของอเมริกา ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,227.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000018176

 

ฝรั่งเศสยังไม่พร้อมส่ง “เรือรบมิสทราล” ให้รัสเซีย แม้ “ปูติน” ช่วยดันข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2558 10:18 น.


---
@(แฟ้มภาพ) เรือ "วลาดิวอสต็อก" ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้นมิสทราล 1 ใน 2 ลำที่รัสเซียสั่งซื้อจากฝรั่งเศส
---
เอเอฟพี – ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส เผยวานนี้(12 ก.พ.) ว่า เงื่อนไขต่างๆ “ยังไม่เอื้อ” ต่อการเดินหน้าส่งมอบเรือรบชั้นมิสทราล 2 ลำให้แก่รัสเซีย แม้ว่าประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะให้การสนับสนุนแผนสันติภาพในยูเครนจนมีความคืบหน้าก็ตาม

ออลลองด์ สั่งระงับสัญญาซื้อขายเรือรบมูลค่า 1,200 ล้านยูโรในปีที่แล้วท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งในยูเครนตะวันออก เนื่องจากเกรงว่าเรือรบทั้ง 2 ลำจะยิ่งเสริมศักยภาพกองทัพรัสเซียให้แข็งแกร่งขึ้น และทำให้ปารีสต้องผิดใจกับชาติพันธมิตร

ภายหลังการเจรจาที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อวานนี้(12) นำมาซึ่งข้อตกลงหยุดยิงและถอนอาวุธหนักออกจากแนวรบระหว่างกองทัพยูเครนและกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ออลลองด์ จึงได้ให้สัมภาษณ์ว่า หากข้อตกลงถูกนำไปปฏิบัติอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ สถานการณ์ก็อาจเปลี่ยนไป

“ผมหวังว่ามันอาจจะเป็นไปได้สักวันหนึ่ง”ประธานาธิบดีฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมซัมมิตผู้นำสหภาพยุโรปซึ่งมีแผนสันติภาพยูเครนเป็นวาระสำคัญ

“แน่นอนว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สหภาพยุโรปอาจผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร” ที่มีต่อรัสเซียจากกรณีการแทรกแซงยูเครน

“ฝรั่งเศสจะมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา” ออลลองด์ ระบุ

รัฐบาลปารีสเลื่อนการจัดส่งเรือรบ “วลาดิวอสต็อก” ที่มีกำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และยังขอเลื่อนออกไปอีก “อย่างไม่มีกำหนด” ซึ่งทำให้มอสโกออกมาขู่เรียกร้องค่าชดเชยก้อนใหญ่หากมีการยกเลิกสัญญา

ทหารเรือรัสเซียซึ่งถูกส่งไปฝึกการใช้งานเรือรบชั้นมิสทราล ได้เดินทางออกจากฝรั่งเศสเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

เรือรบชั้นมิสทราลสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้ 16 ลำ, เรือระบายพล (landing craft) 4 ลำ, รถถัง 13 คัน และกำลังพลอีกมากกว่า 400 นาย

 

ญี่ปุ่นร้องจีนเคารพ กม.ระหว่างประเทศใน “ข้อพิพาททางทะเล”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2558 17:55 น. (แก้ไขล่าสุด 13 กุมภาพันธ์ 2558 09:15 น.)



เอเอฟพี - ญี่ปุ่นเรียกร้องในวันนี้ (12 ก.พ.) ให้จีนเคารพกฎหมายระหว่างประเทศในข้อพิพาททางดินแดน ขณะที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอภิปรายซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดที่จะรวบรวมข้อคิดเห็นจากนานาชาติเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างประเทศของตนกับจีน

“ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เราต่างได้เห็นความขัดแย้งและความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในน่านน้ำต่างๆ ของเอเชีย” ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวในคำปราศรัยหลักในช่วงเปิดการประชุมนาน 2 วันนี้ซึ่งมีเจ้าหน้าการทูตและนักวิชาการหลายคนเข้าร่วม

“สิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับสันติภาพและเสถียรภาพในน่านน้ำของเอเชีย ณ ตอนนี้ก็คือ การบังคับใช้หลักนิติธรรมที่เข้มงวดกว่านี้” เขากล่าว

การประชุมอภิปรายนัดนี้ซึ่งมีนักวิชาการจากจีน, เวียดนาม และชาติตะวันตกบางประเทศเข้าร่วม มีขึ้นในขณะที่ปักกิ่งกำลังพัวพันกับความขัดแย้งทางดินแดนต่างๆ ในภูมิภาค

ปักกิ่งและโตเกียวขัดแย้งกันในเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ ซึ่งญี่ปุ่นครอบครองอยู่และเรียกว่า “เซ็นกากุ” แต่จีนก็อ้างกรรมสิทธิ์ในชื่อว่า “เตี้ยวอี๋ว์”

นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา โตเกียวและปักกิ่งมักกระแทกกระทั้นกันทางการทูตจากประเด็นดังกล่าว โดยเรือและเครื่องบินของทางการจีนมักจะไปฉวัดเฉวียนทดสอบกองกำลังของญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6) เรือจีน 2 ลำแล่นเข้ามาในน่านน้ำของหมู่เกาะดังกล่าวของญี่ปุ่น

การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของญี่ปุ่นที่จะแสดงจุดยืนของตนในข้อพิพาทนี้ ในแบบที่เป็นไปตามหลักคิดทางวิชาการ

ในวันนี้ (12) ชิเงอิ ซาคาโมโตะ จากมหาวิทยาลัยโดชิชะในเกียวโต กล่าวว่า จีนจำเป็นที่จะต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ที่พวกเขาระบุว่า “เส้นประ 9 เส้น” กำหนด “น่านน้ำทางประวัติศาสตร์” ของพวกเขา

“ข้อสงสัยเกี่ยวกับความชอบธรรมของการอ้างเส้นประ 9 เส้นควรได้รับการตัดสินตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (United Nations Convention on the Law of the Sea : UNCLOS) และกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป” ซาคาโมโตะ กล่าว

จนถึงตอนนี้ “จีนยังไม่เคยให้คำชี้แจงขยายความใดๆ เลย” เขากล่าว

ฟิลิปปินส์และเวียดนามเป็นประเทศที่ปากกล้าที่สุดในภูมิภาคนี้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยเส้นทางขนส่งและพื้นที่ทำประมงที่สำคัญ และเชื่อมีแหล่งแร่มากมายมหาศาลซ่อนงำอยู่

บรูไน, มาเลเซีย และไต้หวัน ก็มีการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนเหนือน่านน้ำดังกล่าวด้วยเช่นกัน

 

คณะมนตรีฯ UN ตัดเส้นทางการเงิน IS ห้ามซื้อน้ำมัน-โบราณวัตถุจากนักรบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2558 02:37 น. (แก้ไขล่าสุด 13 กุมภาพันธ์ 2558 09:57 น.)



เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.พ.) มีมติที่มีเป้าหมายปิดกั้นเส้นทางรายได้ของพวกนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผ่านการลอบขายน้ำมัน โบราณวัตถุและเรียกร้องนานาชาติอย่าจ่ายเงินค่าไถ่ตามคำข่มขู่ของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงกลุ่มนี้

มติอย่างเป็นเอกฉันท์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจนานาชาติในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของพวกรัฐอิสลามซึ่งบุกยึดพื้นที่อันกว้างขวางคร่อมดินแดนซีเรียและอิรัก

มตรการนี้เรียกร้องให้ลงโทษบุคคลหรือองค์กรใดก็ตามที่ซื้อขายน้ำมันกับไอเอสและเครือข่ายต่างๆ ของอัลกออิดะห์ อย่างเช่น กลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนต์ ในซีเรีย นอกจากนี้ทางคณะมนตรีฯยังขอให้สมาชิกสหประชาชาติทั้ง 193 ประเทศ ใช้มาตรการต่างๆที่เหมาะสมในการป้องกันการค้าขายทรัพย์สินทางวัฒนธรรมจากอิรักและซีเรียด้วย

ขณะเดียวกัน มตินี้ยังเตือนรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกว่าพวกเขาต้องขัดขวางไม่ให้พวกก่อการร้ายได้ประโยชน์ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมจากการเรียกค่าไถ่หรือยินยอมทางการเมืองใดๆเพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกัน

มตินี้ที่อยู่ภายใต้มาตรา 7 ของกฎบัตรสหประชาชาติ สามารถบังคับใช้ผ่านมาตรการคว่ำบาตรต่างๆหรือแม้กระทั่งใช้กำลัง แม้ว่าในเนื้อหาไม่ระบุถึงการให้อำนาจด้านกำลังทหารก็ตาม

ในเนื้อหาเบื้องต้นของมติที่ร่างโดยรัสเซีย พุ่งเป้าไปที่การลักลอบการค้าน้ำมันเป็นสำคัญ แต่มันถูกขยายขอบเขตออกไปกว้างขวางกว่าเดิมตามระหว่างการประชุมพิจารณา และครอบคลุมถึงแหล่งที่มารายได้อื่นๆ ของไอเอสด้วย พร้อมทั้งเจาะจงให้รัฐบาลชาติต่างๆ ต้องรายงานมาตรการที่นำมาใช้ปราบปรามการลักลอบค้าขายน้ำมันและสกัดแหล่งรายได้อื่นๆ ของไอเอสภายในเวลา 120 วัน

มาตรการนี้กระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ต้องเพิ่มความพยายามก่อความยุ่งเหยิงแก่เรือหรือยานยนต์ที่ลักลอบบรรทุกน้ำมันเถื่อน และขอให้รายงานต่อคณะกรรมาธิการคว่ำบาตรในกรณีที่มีการตรวจยึดใดๆ และด้วยเหตุนี้มันจึงกลายเป็นแรงกดดันครั้งใหม่ต่อตุรกี ที่ถูกมองในฐานะจุดเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเถื่อน ขณะที่รถบรรทุกเหล่านั้นจะเดินทางกลับอิรักและซีเรียพร้อมกับผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงที่ผ่านการกลั่นแล้ว

รายงานของคณะสังเกตการณ์อัลกออิดะห์ของสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายน คาดหมายว่าพวกไอเอสมีรายได้จากการลักลอบขายน้ำมันถึง 1.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อเมริกายืนยันว่าตอนนี้น้ำมันไม่ได้เป็นรายได้หลักของไอเอสอีกต่อไปแล้ว

เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มติตัดแหล่งทุนและสกัดกั้นการหลั่งไหลของนักรบต่างชาติไปยังอิรักและซีเรีย พร้อมเตือนประเทศที่ค้าขายน้ำมันกับไอเอสว่าอาจเจอมาตรการคว่ำบาตร

ผู้แทนทูตอิรัก ประจำสหประชาชาติบอกกับเอเอฟพีว่าการสูญเสียเมืองโมซุลให้แก่ไอเอสเมื่อปีที่แล้ว ทำให้พวกนักรบกลุ่มนี้มีรายได้ใหม่จากการขโมยโบราณวัตถุและศิลปะอันล้ำค่า “โมซุลเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยโมซุลเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุด มีศิลปะและทรัพย์สมบัติมีค่า แต่ถูกขโมยไปหมดแล้ว”

การลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.พ.) มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยื่นคำขออย่างเป็นทางการต่อรัฐสภาในวันพุธ (11 ก.พ.) เพื่อให้อนุมัติอำนาจในการใช้กำลังทหารทำสงครามกับกลุ่มไอเอส และจอร์แดนเพิ่มบทบาทในพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยอเมริกา ตอบโต้เหตุนักบินของกองทัพถูกไอเอสประหารชีวิตอย่างเหี้ยมโหด

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000017689

 

ปอกเปลือก ทรราช
ติดตามการออกคำสั่งหยุดยิงที่ยูเครนตะวันออกและท่าทีของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
-------------
+ คำสั่งหยุดยิง ณ วันที่ 15 ก.พ. 58 เวลา 00:00 น.
--------------
หลังจากมีการลงนามข้อตกลงกรุงมินส์กเมื่อวันที่ 12 ก.พ.58 ที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ผู้นำแต่ละฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งกันก็มีการออกคำสั่งให้กองกำลังของตนหยุดยิงดังนี้ สำนักข่าว Sputnik News ของรัสเซียรายงานว่า "ทั้งสองฝ่ายที่มีความขัดแย้งกันในยูเครนได้ออกคำสั่งหยุดยิงตอนเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ตามข้อตกลงมินส์ก" โดยประธานาธิบดียูเครนได้มีคำสั่งไปยังกองกำลังของยูเครนทั้งหมดที่อยู่ในแนวหน้าในพื้นที่สู้รบกันให้หยุดยิงแล้ว รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนได้เซ็นต์ออกสั่งโทรเลขไปยังแนวหน้าว่าให้หยุดยิงเริ่มต้นจากเที่ยงคืนของวันที่ 15 กุมภาพันธ์
ส่วนทางด้านหัวหน้ากลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดน DPR ได้มีคำสั่งหยุดสงครามในเมือง Donbass (Donetsk) ตอนเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 15 ก.พ.ตลอดแนวเส้นที่มีการสู้รบกันเช่นกัน จากนั้นก็จะมีการร่างเอกสารเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเชลยศึกระหว่างกัน และการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่
+ กลุ่มติดอาวุธชาตินิยามหัวรุนแรงฝ่ายขวายูเครนบอกปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิง
--------------
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 58 นาย Dmytro Yarosh หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธชาตินิยมหัวรุนแรงที่ถูกเรียกว่าเป็นพวกขวาจัด (Radical Nationalist Right Sector) ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคว่า ข้อตกลงกรุงมินส์กขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญของยูเครน และ Igor Moseichuk อดีตรองผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธ Azov ซึ่งยังอยู่เหนือคำสั่งจากจากรัฐบาลกลางในกรุงเคียฟออกมาประกาศผ่านเฟซบุคของตัวเองว่า เขาจะกระทำทุกวิถีทางที่จะขัดขวางการดำเนินตามข้อตกลงมินส์กในรัฐสภา กองกำลังของ Igor Moseichuk ประอยู่ที่เมือง Mariupol และเมื่อเร็วนี้ก็มีการยิงปะทะกันกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ส่วน Dmytro Yarosh เป็นกลุ่มที่มาบทบาทสำคัญในเหตุการณ์การประท้วงต่อต้านฝ่ายรัฐบาลที่ Maidan ถือว่าเป็นกลุ่มหลักในขบวนการเคลื่อนไหวเลยหละ และในการเมื่อเดือนตุลามคน 2557 เขาก็ชนะการเลือกตั้งและได้ที่นั่งในรัฐสภาของยูเครนด้วย แต่ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2557 ศาลสูงของรัสเซีย (Russia) ก็มีคำสั่งให้กลุ่มขวาจัด (Right Sector) เป็นองค์กรสุดโต่ง และถูกห้ามทำกิจกรรมในรัสเซีย ก่อนหน้านี้ฝ่ายตรวจสอบของรัสเซียกล่าวว่ามีหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพวกฝ่ายขวามีส่วนร่วมในการสังหารหมู่พลเมืองในเขตตะวันออกของยูเครน
+ ทูต OSCE ประจำรัสเซียกล่าวว่าธุรกิจกองกำลังติดอาวุธในยูเครนจะต้องปลดอาวุธด้วย
--------------
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา Andrey Kelin ทูต OSCE ประจำกรุงรัสเซียกล่าวว่าเขาไม่แน่ใจว่าธุรกิจจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธในยูเครนจะสนับสนุนสันติภาพได้ ธุรกิจทหารรับจ้างดังกล่าวเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และมีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมากมีอาวุธหนักไว้ในครอบครองด้วย จะประกันได้อย่างไรว่ากลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากกรุงเคียฟ กลุ่มนี้เป็นหนึ่งกลุ่มติดอาวุธผิดกฎหมายตามที่มีการกล่าวถึงในข้อตกลงกรุงมินส์ก เท่าที่นับได้ตอนนี้มีกลุ่มติดอาวุธที่ไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐบาลอยู่อย่างน้อย 3 กลุ่มด้วยกันคือ พวก Right Sector, กลุ่ม Azov ที่นิยมใช้สัญลักษณ์ของนาซี และกองกำลัง Aidar พวกนี้ชอบก่อเรื่องฉาวโฉ่ทั้งในการปล้นใช้ความรุนแรงกับพลเรือนและกำลังอื่นๆ
+ ประธานาธิบดีของยูเครนออกมาขู่อีกรอบว่าจะเอาสันติหรือกฎอัยการศึก?
--------------
สื่อต่างประเทศ (Unian) รายงานว่า ประธานาธิบดี Petro Poroshenko ของยูเครนออกมาประกาศกร้าวขู่กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ถ้ากลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพเขาก็จะประกาศกฎอัยการศึกไม่ใช่เฉพาะแต่ในเขต Donetsk และ Luhansk เท่านั้น แต่จะประกาศกฎอัยการศึกทั้งประเทศเลย (อ้าว!… มันจะเลียนแบบไทยอีกแล้วหรือนี่? ของไทยเราสันตินะครับแต่ของคุณยิ่งประกาศกฎอัยการศึกยิ่งจะมีการสู้รบกันมากขึ้นไปอีกนะ)
+ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกับสหรัฐฯคุยกันกรณีหยุดยิง
--------------
สำนักข่าว Sputnik News ของรัสเซียรายงานว่านาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียได้คุยกันทางโทรศัพท์กับนายจอห์น เคอร์รี่ รมว.ต่างสหรัฐฯเกี่ยวกับประเด็นข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออก โดยรมต.ทั้งสองได้เน้นย้ำในเรื่องการยึดมั่นตามข้อตกลงหยุดยิงทั้งสองฝ่าย แต่ฝ่ายรัสเซียเสริมตอกย้ำสหรัฐฯไปด้วยว่าตามข้อตกลงกรุงมินส์กนั้นนอกจากเรื่องหยุดยิงแล้วยังมีเรื่องการยกเลิกการกีดกันทางการเงินและเศรษฐกิจ และการนิรโทษกรรมในยูเครนตะวันออกอีกด้วย ยูเครนควรจะรีบทำการปฏิรูปรัฐธรรมนูญและออกกฎหมายให้สถานพิเศษแก่ Donbas (Donetsk-Luhansk) โดยเร็วด้วย ฝีปากรมว.ต่างประเทศนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ เล่นเอาเคอร์รี่ที่เอาแต่โทรมาขู่อยู่เป็นระยะๆ หงอยไปเลย คู่นี้ไม่ว่าเจอกันที่เวทีไหนแม้จะมีการจับมือกัน แต่เป็นต้องปะทะคารมกันทุกครั้งเลยหละ
+ อังกฤษส่งมอบรถหุ้มเกราะทหารให้ยูเครนโดยไม่มีอาวุธให้ไปด้วย
--------------
เมื่อวานนี้ข่าวรายงานว่าทางยูเครนกำลังตรวจสอบยานเกราะรุ่น "Saxons" จำนวน 75 คันที่พึ่งได้รับจากอังกฤษโดยไม่มีอาวุธติดตั้งมาให้ด้วย ซึ่งทางยูเครนตั้งใจจะนำไปประจำการในกองทัพของยูเครน เจ้ารถ Saxons ทั้ง 75 คนของอังกฤษนี้เป็นรุ่นที่อังกฤษไม่ใช้แล้ว (ตกรุ่นเขาโล๊ะทิ้งแล้ว) แต่ยังมีใช้อยู่ในบางประเทศเช่น ไนจีเรียและบาห์เรน (อันนี้สื่อฯยูเครนเขาพูดเองนะครับ แต่ไม่ได้บอกว่าทั้ง 75 คันนี้ใช้งบประมาณไปเท่าไร)
+ ลูกเล่นของสหรัฐฯกับยูเครนกรณีภาพถ่ายดาวเทียมว่าพบรถถังรัสเซียประจำการอยู่ในเขตยูเครน
--------------
เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.58) ทั้งสำนักข่าวฝั่งรัสเซียและยูเครนได้ลงภาพถ่ายดาวเทียมที่นาย Geoffrey Pyatt ทูตสหรัฐฯประจำยูเครนนำมาลงในทวิตเตอร์ว่าเป็นภาพถ่ายจากดาวเทียมของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งชื่อ "Digital Globe" ว่า "เรา (สหรัฐฯ) เชื่อมั่นว่ามีขบวนยานยนต์ทางทหารของรัสเซียประจำการอยู่ในยูเครนใกล้เมือง Lomuvatka ห่างจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Debaltsevo ประมาณ 20 กม." และนาง Jennifer Psaki โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯก็รับลูกด้วย รีบออกมาแถลงข่าวว่าพบรถทางทหารของรัสเซียอยู่ในยูเครนจากภาพถ่ายดาวเทียมดังกล่าว
ฝ่ายรัสเซียก็เลยสั่งสอนกลับไปกว่าพวกนั้นเป็นพวกชอบจ้องลูกแก้วคลิสตัล โดยทางรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธว่านั่นไม่ใช่ภาพถ่ายยานยนต์ทางการทหารของฝ่ายรัสเซียแน่ เพราะภาพดังกล่าวไม่ได้มีการตรวจสอบและยืนยันใดๆ เพียงแต่ภาพสีเทาๆ จะยืนยืนได้อย่างไรว่าเป็นอะไรของฝ่ายไหน เลิกมโนแล้วนะสหรัฐฯ ก็แปลกอยู่นะสหรัฐฯมีอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยสุดๆ มีดาวเทียมทางการทหารเป็นของตัวเอง แต่พอจะกล่าวหาผู้อื่นกลับไปอ้างภาพถ่ายดาวเทียมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ทางการทหารของตนหรือหนึ่งงานที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้ ลักษณะของนางโฆษกคนนี้ก็จะคล้ายๆนางเจี๊ยบจอมเสแสร้งขอบแสดงละครกับเสด็จพี่หน้าวอกแห่งเผาไทยนั่น
+ วิเคราะห์
--------------
ในที่สุดก็มีการหยุดยิงกันเกิดขึ้นจนได้ ขอสันติจงเกิดแก่โลกนี้ตลอดไป แม้ว่าในชั่วโมงสุดท้ายจะมีการเล่นข่าวผ่านสื่อฯต่างๆว่ายังมีการยิงถล่มกันอยู่บ้างก็ตาม แต่ในที่สุดก็หยุดได้แล้ว แต่ก่อนที่จะหยุดนี้แต่ละฝ่ายก็สู้กันทางการเมืองแบบไม่มีใครยอมใครเหมือนกัน ทั้งนี้เพื่อสร้างความกดดันให้แต่ละฝ่ายถอยก่อนและที่สำคัญก็คงจะหนีเรื่องของผลประโยชน์และเรื่องเงินๆทองๆไปไม่พ้นหรอก ฝั่งยูเครนกับสหรัฐฯก็ปล่อยให้กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงออกมาเล่นบทขู่ฟ่อๆว่าจะขัดขวางไม่ให้ข้อตกลงกรุงมินส์กบรรลุผลสำเร็จ และประธานาธิบดีของยูเครนก็ขู่ซ้ำอีกว่าจะประกาศกฎอัยการศึกทั้งประเทศเลยถ้ายังมีการยิงกันต่อไป ทั้งนี้ก็คงจะเพื่อบีบให้ทาง IMF และธนาคารโลกรีบปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลยูเครนนั่นแหละ เพราะก่อนหน้านี้ทาง IMF ได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือจำนวน $17.5 billion (ประมาณ 5.74 แสนล้านบาท) ล้านไปแล้วรอบหนึ่ง แต่พอเจอขู่หนักๆ เข้าประจวบกับทางรัสเซียก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เช่นกันทำให้อียูประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก แต่จู่ๆ IMF ก็บอกว่าอนุมัติเงินกู้รอบใหม่ให้ยูเครนไปแล้ว ส่วนทองคำ 21 ตันของยูเครนที่หายเข้ากลีบเมฆไปนั้นคงจะไม่มีทางได้คืนแล้วหละ เพราะอ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว นักการเมืองพวกนี้มันแสบจริงๆ นี่แหละที่เขาเรียกว่าปล้มสมบัติชาติตรงๆเลย แต่ก็แปลกนะประชาชนชาวยูเครนไม่เห็นจะออกมาประท้วงกรณีนี้เลย เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปรกติหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะอย่างนั้นหนะ ตอนนี้รัฐบาลยูเครนก็เริ่มใช้มาตรการรัดเข็มขัดกับประชาชนของตนเองแล้ว ทันทีที่มีการประกาศขึ้นค่ารถโดยสารก็มีการออกมาประท้วงเผายางรถยนต์หน้าที่ทำการรัฐบาลเลย และมันจะรุนแรงไปกว่านี้แน่ๆ ส่วนฝั่งรัสเซียก็ชิวๆ เกมนี้มีแต่ได้กับได้ หนึ่งได้ไครเมียกลับสู่อ้อมกอดของรัสเซีย สองกำลังจะปลดปล่อยโดเนทส์กกับลูฮานส์กจากยูเครนเพื่อเป็นการสั่งสอนยูเครน ก้าวต่อไปค่อยรวมเข้ากับรัสเซียแบบเนียนๆ ซึ่งอาจจะใช้เวลาซักหน่อย บทเรียนนี้ทำให้อียูเจ็บไปจนตายแน่เล่นกับใครไม่เล่นดันหลงกลสหรัฐฯมาเล่นกับปูตินซะนี่ เจ็บกันระนาวทั้งยุโรปเลยหละ แต่งานนี้ก็ทำให้อียูรู้ธาตุแท้ของสหรัฐฯแล้ว จึงพยายามไม่ให้สหรัฐฯเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วย ท่าทีของอังกฤษก็เริ่มจะไม่เอาด้วยกับสหรัฐฯอีกแล้ว นี่ขนาดจีนยังไม่ขยับเลยนะ ต้องจับตาดูต่อไปเรื่อยๆครับจนกว่าจะเงื่อนไขในข้อตกลงทั้งหมดจะบรรลุผล
The Eyes
15/02/2558
-----------
Ukrainian Ceasefire Comes Into Force: Sides Order to Cease Hostilities / Sputnik International
TASS: World - Head of Donetsk Republic: Donetsk militia will observe ceasefire from midnight Feb 15
TASS: World - Ukraine's nationalist Right Sector rejects Minsk deals
http://rt.com/op-edge/232295-right-sector-ukraine-peace/
TASS: World - Ukrainian tycoons’ private battalions must be disarmed — Russia’s OSCE envoy
http://rt.com/…/232403-ukraine-ceasefire-donetsk-poroshenko/
TASS: World - Kiev's ex-deputy chief of paramilitary battalion turned lawmaker vows to defy Minsk deal
http://uatoday.tv/…/poroshenko-peace-or-martial-law-409349.…
Kiev to Adopt Law on Special Donbas Status Under Minsk Deal - Russian FM / Sputnik International
http://uatoday.tv/…/ukraine-military-receives-boost-with-br…
http://uatoday.tv/…/us-releases-satellite-images-of-russian…
http://rt.com/news/232391-military-twitter-russia-ukraine/

 

ปอกเปลือก ทรราช



คิวบาอนุญาตให้เรือรบและเรือสินค้าของรัสเซียเทียบท่าได้ ความจริงใจของสหรัฐฯต่อคิวบา?
--------------
+ รัสเซียชื่นชมคิวบาที่เปิดท่าเรืองฮาวานาให้เรือรัสเซียข้าไปเทียบท่าได้
--------------
ภารกิจในวันที่สามของรมว.กลาโหมของรัสเซียคือเจรจาความร่วมมือด้านต่างๆกับคิวบาหลังจากที่ประสบความสำเร็จในเวเนซูเอลากับนิการากัวแล้ว การเดินทางไปคิวบาของรัสเซียในครั้งนี้เป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านการทหาร นโยบายการรักษาความปลอดภัยทั่วโลกและในภูมิภาค การให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีทางการทหาร และบรรลุข้อตกลงร่วมกันที่คิวบาอนุญาตให้ทั้งเรือรบและเรือบรรทุกสินค้าของรัสเซียสามารถเข้าเทียบท่าฮาวานาเมืองหลวงของคิวบาได้ นอกจากนี้รมว.กลาโหมของรัสเซียยังได้กล่าวขอบคุณคาสโตรที่ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากรัสเซียอย่างอบอุ่นด้วย เย้ยอเมริกาซะเลย
+ รัฐบาลอเมริกาแกล้งเอาใจคิวบาโดยอนุญาตให้นำเข้าสินค้าจากผู้ประกอบการอิสระในคิวบาได้
--------------
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางการสหรัฐฯประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้ผ่อนปรนมาตรการกีดกันทางการค้ากับคิวบาที่มีมาตั้งแต่ 50 กว่าปีที่แล้ว โดยประกาศว่าสหรัฐฯจะอนุญาตให้นำเข้าสินค้าจากผู้ประกอบการอิสระในคิวบาเข้าสู่สหรัฐฯได้ โดยผู้ที่ต้องการจะนำเข้าจะต้องมีเอกสารและหลักฐานแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดว่าเป็นผู้ประกอบการอิสระและสินค้าที่จะนำเข้านั้นอยู่ในรายการที่ต้องห้ามหรือเปล่า ถ้าจะดูว่าอเมริกาจริงใจหรือเปล่าต้องดูที่รายการสินค้าที่เขายังห้ามนำเข้าสู่อเมริกจากคิวบาก่อนดังนี้ สินค้าคิวบาที่ห้ามนำเข้าก็คือ ยาสูบ (ซิกก้าคิวบานี่ขึ้นชื่อที่สุด) สุรา สัตว์ ผลิตภัณฑ์ประเภทผัก สิ่งทอ โลหะพื้นฐาน เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ อาวุธ ดูแล้วยังไม่เห็นเลยว่ามันจะผ่อนคลายตรงไหน
+ คณะกรรมาธิการด้านต่างประเทศของสหรัฐฯเรียก้องให้เก็บฐานทัพเรืองในอ่าวกวนตานาโมไว้
--------------
ตามรายงานข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแจ้งว่าคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสหรัฐฯได้ส่งจดหมายถึงของประธานาธิบดีบารัค โอาบามา เรียกร้องให้ยึดฐานทัพเรืองของสหรัฐฯในอ่าวกวนตานาโม (Guantanamo) ของคิวบาเอาไว้ก่อน โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี Raul Castro ของคิวบาได้กล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทางคิวบากับสหรัฐฯจะปรับระดับความสัมพันธ์สู่ระดับปรกติจนกว่าคิวบาจะได้รับการส่งคืนทรัพย์สินทางทหารที่สำคัญยิ่งจากสหรัฐฯซะก่อน ทรัพย์สินทางทหารที่ว่านั้นก็คือดินแดนในอ่าวกวนตานาโมรวมทั้งฐานทัพที่ตั้งอยู่บนพื้นที่แห่งนั้นด้วย พูดให้ชัดก็คือไล่อเมริกาออกไปจากดินแดนของคิวบาไงหละ แล้วก็เอามาให้รัสเซียเช่าต่อ
The Eyes
15/02/2558
-----------
Russia Praises Cuba for Opening Havana Port to Russian Vessels - Minister / Sputnik International
US Allows Certain Goods Imports by Cuban Independent Entrepreneurs / Sputnik International
US House Leaders Urge Obama to Keep Guantanamo Bay Naval Base - Congressmen / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช



สรุปสถานการณ์วิกฤตยูเครน-รัสเซีย
-------------
เมื่อเช้าตื่นมาเช็คข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน-รัสเซีย-อียู เจอหลายข่าวที่น่าสนใจซึ่งสื่อฯไทยไม่ค่อยเอามานำเสนอสักเท่าไร ก็อยากจะเล่าข่าวบวกกับการวิเคราะห์ข่าวให้เพื่อนๆ ได้รับทราบทันสถานการณ์โลกบ้างโดยเฉพาะท่านที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ได้หรืออ่านได้แต่ไม่ค่อยจะมีเวลาติดตามข่าว แต่บังเอิญว่าวันนี้ติดธุระอย่างอื่นอยู่ครับผม อ๊ะๆ!… ไม่ใช่ธุระอันเนื่องมาจากวันวาเลนไทน์หรอกนะครับ เป็นเรื่องของงานในหน้าที่ครับผม แต่บังเอิญตรงกันเท่านั้นเอง ไม่เห็นผมมาโพสต์ข่าวในช่วงกลางวันของวันนี้ก็อย่าพึ่งเข้าใจว่าผมไปเดทสาววันวาเลนไทน์หละครับ เสร็จงานแล้วก็รีบบึ่งกลับบ้านและพึ่งจะมีโอกาสมาเช็คข่าวอีกครั้งก็ตอนดึกนี่แหละ มาลุยข่าวกันเลยนะครับ
+ อียูสวมบท G7 บีบให้ข้อตกลงกรุงมิ้นบรรลุผล
--------------
มาดูว่าหลังจากที่มีการตกลงหยุดยิงกันแล้วระหว่างยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย อียูจะมีแนวทางอย่างไรในการที่จะให้ข้อตกลงหยุดยิงนั้นบรรลุเป็นรูปธรรมขึ้นมาจริงๆ สำนักข่าวต่างประเทศ (ReutersและSutniknews) รายงานว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากลุ่มผู้นำสมาชิก G7 ซึ่งประกอบด้วย แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, อิตาลี, ยี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า "ทุกฝ่ายควรจะระงับการกระทำใดๆ ภายในไม่กี่วันนี้ซึ่งจะเป็นการขัดขวางการเริ่มต้นหยุดยิง G7 พร้อมที่จะใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อต้านฝ่ายที่ทำลาย "สัญญากรุงมินส์ก" ดังนั้น (G7) จะใช้มาตรการอย่างเข้มข้นต่อฝ่ายที่ไม่ยอมรับการหยุดยิงและถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ทั้งหมด" (รอยเตอร์สบอกว่าแถลงการณ์ดังกล่าวออกโดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส ส่วนสปุตนิคนิวส์บอกว่าออกโดยทำเนียบขาวกรุงวอร์ชิงตัน จะออกโดยใครก็แล้วแต่ มันก็คือแถลงการร่วมของ G7 นั่นแหละ) นี่รอยเตอร์สเขียนอย่างนี้
+ IMF ปล่อยเงินกู้ก้อนใหม่ให้ยูเครน $17.5 billion
--------------
หนี่งวันก่อนที่ G7 จะออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อบังคับให้ข้อตกลงกรุงมินส์กมีผลนั้น ทาง IMF ก็แอบอนุมัติปล่อยเงินกู้ให้ยูเครนเป็นจำนวนถึง $17.5 billion (ประมาณ 5.74 แสนล้านบาท) ในระยะเวลา 4 ปีโดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเงินและปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนชาวยูเตรนให้ดีขึ้น ตามคำกล่าวของนาง Christine Lagarde ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของ IMF (เช็คประวัติโดยคร่าวๆ พบว่าเธอเป็นคนฝรั่งเศส)
เมื่อปลายปี 2014 ทาง IMF ได้ให้สัญญากับทางกรุงเคียฟว่าจะปล่อยเงินกู้เพื่อความช่วยเหลือด้านการเงินให้กรุงเคียฟเป็นระยะเวลา 2 ปี (แต่คราวนี้ยืดออกไปให้อีก 2 ปีเป็น 4 ปี) โปรแกรมการปล่อยเงินกู้ให้ยูเครนครั้งล่าสุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปล่อยเงินกู้ IMF ทั้งหมด $40-billion (ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท) ให้กรุงเคียฟ และนี่ก็จะเป็นเงินกู้ IMF ครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปีของยูเครน ให้ประชาชนใช้หนี้หัวโตไปเถอะ แล้วมาตรการรัดเข็มขัดแบบที่กรีซกำลังเจออยู่ในตอนนี้และไทยได้เจอมาแล้วในปี 2540 สมัยที่รัฐบาลบิ๊กจิ๋วจอมเสี้ยมกับทักแม้วสร้างไว้ก็จะตาม
+ ธนาคารโลกเตรียมช่วยเหลือยูเครน $2 billion ในปีนี้
--------------
สำนักข่าวต่างประเทศ (Sputniknews) รายงานเมื่อวันที่ 12 ก.พ.58 ว่า World Bank หรือธนาคารโลกมีแผนจะจัดสรรเงินให้กับยูเครนจำนวน $2 billion (ประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) สำหรับใช้ในด้านแก๊ส ธนาคาร การปรับปรุงงานด้านการบริหารและด้านธุรกิจ และใช้ในการต่อสู้กับการคอร์รัปชั่น ภายในปี 2558 นี้ อนึ่งนับตั้งแต่ยูเครนได้เข้าร่วมกับธนาคารโลก สถาบันการเงินได้ให้เงินสนับสนุนแก่กรุงเคียฟมากกว่า $9 billion (ประมาณ 2.9 แสนล้านบาท) แล้วสำหรับใช้ในโครงการและแผนงานต่างๆ คงไม่ใช่ให้เปล่าแน่มันจะต้องมีอะไรแลกกันซักอย่างที่เขาไม่ได้บอกไว้
+ ทองคำสำรอง 21 ตันในธนาคารกลางของยูเครนหายไปไหน?
--------------
ในขณะที่กำลังอ่านข่าวเกี่ยวกับเรื่อง IMF อนุมัติเงินกู้ให้ยูเครนอยู่นั้น ผมก็มาสดุดตรงที่ข่าวเกี่ยวกับเรื่องทองคำสำรองในธนาคารกลางของยุเครนหายซึ่งเป็นข่าวตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.57 ยอมรับเลยครับว่าก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับข่าวต่างประเทศมากเท่าไร ก็อ่านบ้างแบบผ่านๆ จะมาสนใจเป็นพิเศษก็ตอนที่เขาสู้รบกันที่ยูเครนตะวันออกนี่แหละ พอมาเจอข่าวนี้ก็ทำให้อยากรู้สิครับว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ เพราะมัวแต่ตามหาข่าวทองคำหายของยูเครนนี้แหละจึงทำให้เสียเวลาไปบ้าง
เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 57 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าประธานกลางของยูเครนถึงกับช็อคเมื่อพบว่า ธนาคารกลางของยูเครนสาขา Odessa ทองคำสำรองในคลังได้ลดลงถึงจุดต่ำสุดจนเกือบจะเป็นศูยน์ นับตั้งแต่ต้นปีมา (2557) ทองคำสำรองได้ลดลงเกือบ 16 เท่าของทองคำที่มีอยู่ ซึ่งก่อให้เกิดคำถามว่า "แล้วมันหายไปไหนหม?"
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ก่อนที่อดีตประธานาธิบดี Vicktor Yanukovich จะถูกล้มในปลายเดือนกุมภาพันธ์ พบว่ามีทองคำสำรองอยู่ในประเทศถึง 21 ตัน แต่เมื่อสิ้นเดือน ก.พ.57 พบว่ามีทองคำสำรองที่ว่านั้นมันหายไปแล้ว หายไปเท่าไร? 21 ก็ทั้ง 21 ตันนั่นแหละ แล้วเหลืออะไรอยู่ในคลัง? "ก้อนอิฐชุบสีทอง" มันหายไปช่วงไหน? บางคนสันนิษฐานว่าน่าจะหายไปช่วงที่นายกรัฐมนตรี Arseniy Yatsenyuk คนปัจจุบันของยูเครนบินไปพบโอบามาที่สหรัฐฯนั่นแหละ บางคนก็บอกว่าทองคำ สำรอง 21 ตันของยูเครนอาจจะไปอาบแดดที่ไมอามี่ประเทศสหรัฐฯ หรือจิบเบียร์เย็นๆที่กรุงบรัสเซลส์ประเทศเยอรมันนีก็ได้ แต่ทั้งธนาคารกลางของสหรัฐฯ (US Fed) และธนาคารกลางของยุโรป (ECB) ต่างก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว มันไม่ได้ไปอยู่ในธนาคารไหนหรอกมิสเตอร์โอกับพวกพ้องและเอาไปแบ่งกันหมดแล้วบางส่วนอาจจะเอาจ่ายค่าเบียร์ให้เจ๊แมร์เกิลที่ครั้งก่อนบินไปทวงทองคำจากมิสเตอร์โอก็ได้ ทองคำของยูเครนพวกนักการเมืองทั้งยูเครนและสหรัฐฯก็คงจะเอาไปแบ่งกันเพื่อแลกกับอาวุธโหลๆและค่าทหารรับจ้างต่างชาติที่ส่งมาให้ยูเครนต่อสู้กับกลุ่มกลุ่มกบฎ ส่วนเงินที่ใช้ในการสร้างอาวุธของอเมริกาก็เอาเงินภาษีส่วนกลางของประเทศมาใช้ ส่วนทองคำของยูเครนนั้นพวกนักการเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้องก็เอาไปแบ่งกัน แค่นั้นเอง
The Eyes
15/02/2558
-----------
G7 Ready to Adopt New Measures if Minsk Agreement Violated / Sputnik International
G7 Endorses ‘Ambitious’ IMF Reform Program for Ukraine / Sputnik International
http://www.reuters.com/…/uk-ukraine-crisis-g-idUSKBN0LH2A82…
World Bank Pledges $2Bln in Aid to Ukraine / Sputnik International
IMF's Quiet Bailout Tempts Ukraine as Ceasefire Starts / Sputnik International
Gold - Visualized in Bullion Bars
The Value Of Gold
$300,000 in gold missing from Ukraine Central Bank after swapped for lead bricks — RT Business
http://rt.com/business/207347-ukraine-gold-reserves-gone/
http://www.reuters.com/…/us-ukraine-crisis-reserves-idUSKBN…

 

ปอกเปลือก ทรราช ·



รัสเซียจับมือนิการากัว เวเนซูเอลา คิวบา บีบฝรั่งเศสให้ส่งมอบเรือบรรทุกเครื่องบิน เช็คกองทัพเรือพร้อมรบในทะเลดำ
----------------
การเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศกับรัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียในยุคปูตินนี่ไม่ใช่เรื่องสบายเลยนะ ทำงานหนักมากเดินทางเจรจากับประเทศต่างๆแทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญจะต้องขายของได้ด้วย มาดูการเดินหมากของปูตินต่อดีกว่านะครับ มันจริงๆเกมนี้เหมือนกับอ่านสามก๊กเลยหละ
+ รัสเซียกระชับมิตรกับนิกาลากัว
----------------
วันที่ 13 ก.พ. 58 สำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย Sergei Shoigu กล่าวว่ารัสเซียกับประเทศนิการากัวได้บรรลุข้อตกลงระหว่างประเทศเซ็นสัญญาว่าด้วยการลดขั้นตอนความยุ่งยากในการอนุมัติให้เรือรบรัสเซียเข้าเทียบท่าในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาได้แล้ว การไปเยือนนิการากัวครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปเจรจาเรื่องนำเรือรบรัสเซียมาเทียบท่าเท่านั้นนะ ยังมีการเซ็นสัญญาขยายความร่วมมือทางเทคนิคด้านกองทัพระหว่างสองประเทศด้วย แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียด แถมยังกล่าวอีกว่ารัสเซียมีแผนที่จะสนับสนุนระบบไฮเทคที่จะใช้ในการสร้างคลองนิการากัวเชื่อมสองมหาสมุทร (แอ็ตแลนติค-แปซิฟิก) เข้าด้วยกันให้กับทางนิการากัวด้วย
แหม… งานนี้พี่จีนเขาเอาไปกินตั้งนานแล้วเขาเริ่มตกลงกันตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2013 และเริ่มก่อสร้างขุดคลองนิการากัวนี้เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้วนี่เอง คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2019 งานนี้อย่าไปแย่งจีนเขาเลย (เคยเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังแล้ว ถ้าจำไม่ผิดน่าจะช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วหรือช่วงมกราคมปีนี้นะครับ) คลองใหม่แห่งนี้จีนร่วมมือกับนิการากัวเพื่อแข่งกับคลองปานามาของอเมริกาที่ประเทศปานามาและคลองที่กำลังสร้างใหม่แห่งนี้จะกว้างกว่าและลึกกว่าคลองปานามาของอเมริกาด้วยเพื่อรองรับเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่ผ่านคลองปานามาของอเมริกาไม่ได้
+ รัสเซียขยายความร่วมมือในลาตินอเมริกา
----------------
เรื่องหลักๆ ที่รัสเซียจะไปคุยกับกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาในครั้งนี้ก็คือขยายความร่วมมือด้านอาวุธ การก่อสร้าง การซ่อมบำรุงกองทัพเรือ และการสนับสนุนวัสดุสิ้นเปลืองอื่นๆ (เช่นกระสุน ลูกระเบิด จรวด เชื้อเพลิง เป็นต้น) รวมทั้งการใช้ฐานทัพอากาศท้องถิ่นสำหรับให้เครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียสามารถลงจอดได้ในภารกิจลาดตระเวนทั่วโลก
เนื่องจากพักหลังมานี้นาโต้รุกหนักเข้ามาใกล้ชายแดนของรัสเซียเรื่อยๆแล้ว ดังนั้นรัสเซียจึงจำเป็นต้องรีบขยายความร่วมมือจากประเทศต่างๆให้พร้อมรับมือเช่นจีน อินเดีย ลาตินอเมริกัน เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (อ้าวก็มีไทยรวมอยู่ด้วยสินี่) และในโลกอาหรับ รวมทั้งการเพิ่มฐานทัพในต่างประเทศด้วย
+ รัสเซียเข้าเสียบเวเนซูเอลาแทนอเมริกา
----------------
เอาละสิครับ เฉพาะลาตินอเมริกานี่ก็ถือว่าแหย่ตูดอเมริกาเข้าไปทุกทีแล้วนะนี่ ทำไงได้หละก็อเมริกาใช้นาโต้บังหน้ามาหาเรื่องเขาถึงบ้านก่อนเองนิ คราวนี้เจอย้อนศรกลับบ้างแล้วสิ ยิ่งเวเนซูเอลาที่ถูกอเมริกาหักหลังเพราะเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศเขาอย่างเดียว แถมยังยุให้กองทัพทำการยึดอำนาจโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเวเนซูเอลาด้วย พอเวเนซูเอลากับอเมริกาแตกคอกัน ปูตินได้ทีเข้าเสียบปรอบใจเวเนซูเอลาแทนทันทีเลย ยุทธการนี้เหมือนกันกับที่ใช้กับอียิปต์เมื่อ 2-3 วันก่อนนั่นเลยหละ
ตามรายงานข่าวบอกว่า ฝ่ายเวเนซูเอล่าได้ออกหนังสือเชิญให้ทางรัสเซียนำเรือรบของรัสเซียเข้ามาจอดเทียบท่าของเวเนซูเอลาได้ โอ้… นี่แสบทรวงอเมริกาจริงๆ พี่แกคงจะแค้นโอมาบามามากๆเลยนี่นะ เพราะวันก่อนเห็นออกมาแถลงข่าวเลยว่าอเมริกาเชื่อถือไม่ได้ คบไม่ได้ มีที่ไหนยุให้กองทัพของเวเนยึดอำนาจประธานาธิบดี งานนี้แค้นมาก หันมาคบกับรัสเซียแทนซะเลย ไม่ใช่แค่ให้เอาเรือรบมาจอดได้เท่านั้นนะยังมีความร่วมมือด้านอาวุธ กองทัพ ระบบโลจิสติกต่างๆ อีกมากมาย แถมยังชอบใจอาวุธเมดอินรัสเซียของปูตินด้วย และจะสั่งเข้าประจำการในกองทัพของเวเนซูเอลาด้วย
อเมริกายังหลงตัวเองว่ามีอำนาจมาก และมักจะใช้อำนาจนั้นกดขี่มิตรประเทศของตัวเอง เอาเปรียบมิตรประเทศเหล่านั้น ตอนนี้หลายประเทศเริ่มจะรู้สึกตัวแล้ว โดยเฉพาะอียูที่เริ่มจะรู้ทันเกมของอเมริกาแล้วจึงเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่ให้อเมริกาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตการในยูเครนอีก จะคุยกัน 4 ฝ่ายเท่านั้นและจะไม่คุยกันในที่ประชุมใหญ่อียูด้วย เพราะยังมีหลายประเทศในอียูทำตัวเป็นลูกน้องของอเมริกาอยู่ ขืนจัดการเจราในที่ประชุมใหญ่อียูอเมริกาก็จะโดดเข้าร่วมวงด้วยแน่นอน ดังนั้นการประชุมครั้งต่อไป คาดว่าน่าจะเป็นวันพุธหน้าก็จะเป็นสไตล์ "Normandy Four" แบบนี้อีกโดยจะค่อยๆ แก้ไขกันไปทีละเปาะจนกว่าจะสำเร็จทุกอย่าง
+ กองทัพเรือของรัสเซียเช็คความพร้อมก่อนลงสนามจริง
----------------
ส่วนข่าวการการซ้อมรบของกองทัพเรือของรัสเซียนี้เอาคร่าวๆ ก็พอนะครับ คือทางรัสเซียสั่งให้กองทัพเรือของรัสเซียที่แหลมไครเมียทำการสำรวจความพร้อมด้านต่างๆ ของทัพเรือในทะเลดำ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน่วยนาวิกโยธิน หน่วยระภัยและป้องกันภัยทางอากาศ และหน่วยลาดตระเวนชายฝั่ง และมีการเช็คความพร้อมของสนามบินที่ฐานทัพเรือแห่งนี้ด้วย ส่วนที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นก็มีเรือจู่โจมและฝ่ายสนับสนุนประจำการอยู่ 10 ลำ
+ รัสเซียทวงเรือรบ Mistral จากฝรั่งเศส
----------------
นอกจากยุทธวิธีแสวงหาพันธมิตรใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างนาโต้เพื่อดัดหลังอเมริกาที่ห้าวนักแล้ว รัสเซียก็ยังมีไม้เด็ดอีกอันหนึ่งที่จะบีบอียูให้บรรลุแผนเจรจาสันติภาพและยุติการแซงชั่นรัสได้อีกอันก็คือเรื่องเรือรบ "Mistral" ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์ของรัสเซียที่จ้างให้ฝรั่งเศสต่อให้จำนวน 2 ลำ ตั้งแต่ปี 2011 และรัสเซียได้จ่ายเงินค่าต่อเรือให้กับทางฝรั่งเศสไปแแล้วถึง €1.2 billion (ประมาณ 4.4 หมื่นล้านบาท) ตามกำหนดการแล้วฝรั่งเศสจะต้องส่งมอบเรือลำแรก (Vladivostok) ให้กับรัสเซียตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2014 แล้วแต่ฝรั่งเศสก็ยื้อไว้ยังไม่ยอมส่งมอบให้เพราะเชื่อคำยุของอเมริกาโดยอ้างว่ายังติดปัญหาเรื่องวิกฤตการณ์ยูเครน อ้าว! มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องค้าขายกันหละนี่ เงินก็จ่ายล่วงหน้าให้ไปแล้วแต่พอถึงเวลาส่งของกลับอ้างเรื่องยูเครนเฉยเลย ส่วนเรือลำที่สอง (Sevastopol) ลงสู่ท้องน้ำแล้วแต่ตามกำหนดการรัสเซียจะต้องได้รับของภายในปีนี้ ในสัญญาระบุไว้ว่าเรือลำแรกสามารถเลื่อนระยะเวลาส่งมอบออกไปได้อีก 3 เดือน โดยเริ่มนับ ณ วันที่ 1 พ.ย. 2014 นี่มันก็เลยกำหนดเลื่อน 3 เดือนที่ว่ามาตั้ง 10 กว่าวันแล้วนะ
งานนี้รัสเซียบอกฝรั่งเศสไปตรงๆ เลยว่ารัสเซียยึดเส้นตายตามที่ระบุไว้ในสัญญา และจะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายหากไม่ได้รับเรือรบ Mistral ซึ่งฝรั่งเศสจะต้องชำระค่าปรับให้กับรัสเซียจำนวน €3 billion (ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท) เอาดิ... ดูซิว่าใครถือไพ่เหนือกว่ากันหละคราวนี้ 1.1 แสนล้านฝรั่งเศสจะไปขอให้อเมริกาช่วยจ่ายค่าปรับให้แทนหรือเปล่า
+ ท่าทีสหรัฐฯ เปลี่ยนไป จะยอมยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย
----------------
แถมให้อีกหน่อยนะครับ เกี่ยวกับท่าทีของอเมริกา ในช่วงที่ผู้นำ 4 ประเทศเขากำลังเจรจาสันติภาพที่กรุงมินส์กเมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมาอยู่นั้น ทางด้านนายจอห์น เคอร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯก็ออกมาพูดว่า สหรัฐฯจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหากข้อตกลงมินส์กมีการดำเนิการอย่างเต็มที่ ทำเนียบขาวขอชื่นชมข้อตกลงมินส์กว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อ้าว! เราหูฝาดหรือตาลายหรือเปล่านี่ ขอดูซ้ำอีกรอบนะ... ก็พูดเหมือนเดิม เอ๊ะ! ทำไมเมกากลับลำเร็วจัง? เกิดอะไรขึ้น? ก็เมื่อวันก่อนโอบามายังพูดอยู่ว่าจะต้องบิดแขน หักแขน หรือมัดมือชกอยู่เลยนิ แล้วทำไมจอห์น เคอร์รี่ถึงออกมาพูดอย่างนี้หละนี่ เชื่อได้หรือเปล่านี่? ปูตินบอกไม่รู้หละ พูดออกมาแล้วนี่รักษาคำพูดของตัวเองให้ดีด้วยก็แล้วกัน แต่ก็อย่างว่านั่นแหละอเมริกาเขาเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเยอะ เขาก็ไม่ได้บอกว่าจะยกเลิกเมื่อไหร่นะ เห็นมะ... เขาบอกว่าจะยกเลิก แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไร อาจจะหลังจากข้อตกลงมินส์กบรรลุผลสำเร็จแล้วซักหนึ่งปีก็ได้ แต่ก็มีทางให้เลือกอีกหรือเพราะท่าทีอียูเขาไม่เอาด้วยนะ เพราะเขาเจ็บด้วยอ่ะ สินค้าการเกษตรก็ส่งมาขายในรัสเซียไม่ได้เพราะปูตินสั่งห้ามไว้ ตายสิครับ
+ ผู้นำยูเครนเสนอให้ทำการกดดันรัสเซียต่อไปอีกเพื่อให้ข้อตกลงบรรลุผล
----------------
ขอต่อยูเครนอีกนี๊ดดดด นึงนะครับ อดไม่ได้อ่ะ หลังจากเสร็จสิ้นประชุมมาราธอนที่กรุงมินส์กแล้วประธานาธิบดี Petro Poroshenko ของยูเครนก็รีบหอบเอาหลักฐานมาฟ้องในที่ประชุมอียูต่ออีกว่า นี่ๆ เห็นมะพวกกบฎยังไม่หยุดยิงกันเลยนี่ มีชาวบ้านตายเพิ่มอีกแล้ว ในขณะที่พวกเราเจรจากันที่กรุงมินส์กเขาก็ยังซัดระเบิดใส่ทหารยูเครนอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นยูเครนขอให้อียูเพิ่มมาตรการกดดันรัสเซียให้หนักขึ้นไปอีก เพื่อให้ข้อตกลงบรรลุผล ใครเชื่อหมอนี้ก็บ้าเต็มทีแล้ว ตอนนี้มีเขาคนเดียวนี่แหละที่เสนอให้ทำอย่างนี้อ่ะ ทั้งอียูและสหรัฐฯเขาถอยกันหมดแล้วนะ พี่ยังไม่ตื่นอีกหรือ? ตามข้อตกลงก็คือเที่ยงคืนของวันที่ 14 เข้า 15 ณ 0.00 น.เป๊ะโน่น นี่ก็แค่วันที่ 13-14 เอง ไม่เห็นว่ามันจะผิดข้อตกลงตรงไหนเลย และที่ยิงนี่ถ้าฝ่ายยูเครนไม่ยิงก่อนแล้วเขาจะไปยิงทำไมหละ คลิปที่เขาแชร์กันตรึมในโซเชียลหนะมีแต่ภาพการยิงอาวุธหนักมาจากฝั่งยูเครนทั้งนั้นเลย เชื่อเถอะว่าหลังปฏิรูปรัฐธรรมนูญของยูเครนใหม่หมอนี่ไม่ได้กลับมาเป็นประธานานธิบดีอีกหรอก
The Eyes
13/02/2558
---------
Russia,Nicaragua Agree Simplified Port Entry Protocols for Russian Warships / Sputnik International
Russian Defense Minister to Visit Venezuela, Cuba, Nicaragua This Week / Sputnik International
Russia to Take Part in Venezuelan Military Exercises - Defense Minister / Sputnik International
Russian Black Sea Fleet's Combat Readiness to Be Checked During Training / Sputnik International
Three Combat Ships Join Russia's Mediterranean Task Force / Sputnik International
Nicaragua Canal - Wikipedia, the free encyclopedia
TASS: World - Mistral deal on hold despite new Minsk agreements — French FM
TASS Infographics: Mistral helicopter carrier
TASS: World - Normandy Four leaders may discuss Minsk agreements next week as well — Hollande
TASS: World - Ukraine’s president urges EU to continue putting pressure on Russia
Kerry: US may roll back Russia sanctions if Minsk agreements enacted — RT News

 

ปอกเปลือก ทรราช



ทำไมเขาเรียก Yanis Varoufakis รมว.คลังคนใหม่ของกรีซว่าเป็น "มาเฟีย"?
----------------
เมื่อเร็วๆ ได้อ่านข่าวเกี่ยวกับกรีซและอียู ก็เห็นภาพรมว.คลังคนใหม่ของกรีซอยู่บ้างก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก แต่พอดูในโซเชียลมีเดียของต่างประเทศเริ่มจะเห็นมีการทำภาพล้อเลียนนาย Yanis Varoufakis คนนี้อยู่บ่อยๆ ทำให้รู้สึกคุ้นว่าเคยผ่านตาที่ไหนมาบ้างน๊าาาา ต้องเป็นข่าวจากฝั่งรัสเซียที่ไหนซักแห่งนี่แหละ ก็ลองเช็ดดูในเน็ทอีกครั้ง ก็ไปพบภาพที่ 1 ที่พาดหัวเอาไว้ว่า "I knew I saw him somewhere." (ผมรู้แล้วว่าเคยเห็นเขาที่ไหนซะแห่งอ่ะ) พอเห็นภาพด้านขวาเท่านั้นแหละผมก็ปล่อยก๊ากออกมาทันทีเลยครับ เหมือน "Spock" ในหนังเรื่อง "Star Trek" จริงๆ (TV Series ปี 1966-1969)
เรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ เท่าที่อ่านมาเกี่ยวกับบุคคลิกภายนอกของนาย Yanis Varoufakis คนนี้ก็คือเขาไม่ผูกเน็คไท ไม่เอาชายเสื้อเข้าข้างในกางเกง เวลาเดินก็ชอบเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง คงเป็นเพราะแบบนี้แหละที่ทำให้สื่อฯฝั่งตะวันตกตั้งฉายาให้เขาว่าเป็นมาเฟีย หรือเป็นพวกเจ้าพ่อ วางตัวกร่างประมาณนั้นอ่ะ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในบ้าน ที่ทำงาน ในสภาฯ ในที่ประชุมนานาชาติ แม้กระทั่งในที่ประชุมกับผู้นำระดับนานาชาติในอียู เขาก็จะแต่งตัวแบบนี้หละ มีเขาคนเดียวไม่เอาชายเสื้อเข้าข้างในและไม่ผูกเน็คไท ยกเว้นพวกผู้หญิง แต่ก็ไม่เห็นนายกรัฐมนตรีของเขาว่าอะไรนะ เก๋ามากเลยคนนี้
เราก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาเป็นมาเฟียหรือเจ้าพ่อหรือหัวหน้าแก๊งที่ไหนซักแห่งมาก่อนหรือเปล่า ก็ลองค้นหาประวัติเขาดูซิว่าเป็นใครมาจากไหน พออ่านแล้วก็โอ... ไม่ธรรมดานะ เอาย่อๆดังนี้นะครับ
- เกิดเมื่อ 24 มี.ค. 1961 (ปัจจุบันอายุ 54 ปี)
- เป็นลูกครึ่งกรีซ-ออสเตรเลียน
- จบการศึกษาด้านคณิตศาสตร์และสถิติในกรุงเอเธน
- จบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ (1987) จากมหาวิทาลัย University of Essex (UK) และ University of East Anglia (UK)
- ช่วงแรกสอนหนังสืออยู่หลายปีและในมหาวิทยาลัยหลายแห่งด้วย รวมถึงที่ University of Sydney ด้วย
- ก่อตั้งมหาวิทยาลัยสอนเฉพาะระดับปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ The University of Athens Doctoral Program in Economics (UADPhilEcon) ที่กรุงเอเธน
- เขียนหนังสือเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์หลายเล่มมาก
- ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลใหม่ของนายกฯ Alexis Tsipras ของกรีซ
- เขาเป็นนักเศรษฐศาสตร์การเมือง เป็นนักวิชาการ และบอกว่าเป็นพวก Libertarian Marxist (แนวความคิดสำนักมาร์กซิสต์เสรีนิยม)
ดูจากบุคคลิกภายนอกแล้วเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก นายกฯ Alexis Tsipras ตั้งความหวังเอาไว้ให้คนนี้แหละที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินของกรีซที่มีมูลค่าถึง €320 billion (คิดเป็นเงินไทยก็ = 11.9 ล้านล้านบาท) ที่เจ้าหนี้ทั้งหลายในอียูกำลังจะรุมฉีกกรีซให้เป็นชิ้นๆอยู่ในตอนนี้หนะ คนนี้แหละที่นายกฯเขามั่นใจว่าจะทำได้ บุคคลิกภายนอกไม่ต้องสนใจ สนใจที่ผลงานจะดีกว่า ว่างั้นนะ
ป.ล. เอามาให้ดูหลายๆ ภาพครับจะได้รู้ว่าเขาเก๋าขนาดไหน
The Eyes
13/02/2558
--------------
Yanis Varoufakis - Wikipedia, the free encyclopedia
http://www.theguardian.com/…/profile-yannis-varoufakis-gree…
Eurogroup Fails to Reach Bailout Deal With Greece / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช



ฤทธิ์ปูติน เกษตรกรชาวโปแลนด์ขับรถแทร็กเตอร์หลายร้อยคันปิดถนนรอบกรุงวอร์ซอเมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ประท้วงรัฐบาล
----------------
เมื่อวันที่ 11 ก.พ.58 สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า เกษตรกรชาวโปแลนด์พากันขับรถแทร็กเตอร์จำนวนหลายร้อยคันปิดถนนสายหลักรอบกรุงวอร์ซอเมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ในวันพุธที่ผ่านมา เพื่อประท้วงรัฐบาลเนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ อันเนื่องมาจากผลของการที่รัฐบาลโปแลนด์เข้าร่วมกับอียูและอเมริกาแซงชั่นรัสเซีย ทำให้ทางรัสเซียสั่งแบนสินค้าทางการเกษตรจากกลุ่มประเทศอียูคืนบ้าง เกษตรกรเหล่านี้ต้องการให้รัฐบาลชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการแบนพืชผลทางการเกษตรจากรัสเซียและความเสียหายที่เกิดจากหมูป่าเข้ามาทำลายพีชผลด้วย
เกษตรกรชาวโปแลนด์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลอธิบายว่าทำไมรัฐบาลถึงสามารถจ่ายเงินสนับสนุนยูเครนจำนวน €100 million (ประมาณ 3.7 พันล้านบาทได้) ในขณะที่รัฐบาลนี้กลับล้มเหลวในการจัดสรรเงินจำนวนเล็กน้อยเพียง €1.6 million (ประมาณ 59 ล้านบาท) เพื่อชดเชยการสูญเสียของเกษตรกรของตัวเอง
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 58 นายกรัฐมนตรี Ewa Kopacz ของโปแลนด์ประกาศในช่วงที่เดินทางไปเยี่ยมยูเครนว่า วอร์ซอพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่กรุงเคียฟจำนวน 100 ล้านยูโรเพื่อใช้ในการฟื้นฟูเขต Donbass อันเนื่องจากภัยสงคราม
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2557 รัสเซียได้แก้เผ็ดด้วยการแซงชั่นกลับคืนเต็มรูปแบบสำหรับอียู สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา นอร์เวย์ เกี่ยวกับการส่งออกอาหารมาที่รัสเซีย และในเดือนกันยายน 2557 อียูก็ระงับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรของอียูที่ได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียสั่งห้ามนำเข้าพืชผลและอาหาร ในการนี้ทั้งนักการเมืองและบุคคลสาธารณะในโปแลนด์ก็ออกมาร่วมกันรณรงค์ให้ผู้คนภายในประเทศของตนช่วยกันกินแอ็ปเปิลให้มากขึ้นเพื่อชดเชยส่วนที่ส่งออกไม่ได้ด้วยสโลแกนว่า "Eat apples to spite Putin" (ทานแอ็ปเปิลเพื่อระบายแค้นปูติน) ในขณะเดียวกันทางวอร์ซอก็พยายามที่หาตลาดใหม่ในอเมริกเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
เฮ้อ…. ดูสโลแกนของนัการเมืองเขาดิ มีแต่เพิ่มความเกลียดชังให้รัสเซียทั้งนั้น แทนที่จะโทษรัฐบาลตัวเองกลับไปโทษปูตินซะงั้น ก็ตัวเองไปทำเขาก่อน พอเจอหมัดสวนกลับมาบ้างก็ทำเป็นร้องเอะอะโวยวายเหมือนเด็กเลย คราวนี้พอถึงคราวลำบากจะหันหน้าไปหาอเมริกาเขาก็หันหลังให้อียูซะนี่ รู้ซึ้งถึงธาตุแท้ของอเมริกาแล้วสินะ ขนาดอเมริกาเองก็พึ่งจะประสบผลสำเร็จในการอ้อนวอนของทางจีนรับนำเข้าแอ็ปเปิลจากอเมริกาทุกชนิดเมื่อเร็วๆ นี้นี่เอง เพราะสินค้าในประเทศอเมริกาเองก็ล้นตลาดแล้วจึงต้องหาทางระบายออกไปยังประเทศอื่น นี่แสดงว่าโปแลนด์ไม่อ่านข่าวต่างประเทศบ้างเลยสินี่
ป.ล. ดูคลิปได้จากลิงค์ที่ให้ไว้ด้านล่างนะครับ
The Eyes
13/02/2558
---------
​Polish farmers ride tractors to Warsaw, demand aid after Russian trade ban (VIDEO) — RT News
http://news.yahoo.com/polish-farmers-ride-warsaw-demand-gov…
http://www.foxnews.com/…/polish-farmers-ride-on-warsaw-as-…/
http://abcnews.go.com/…/polish-farmers-ride-warsaw-demand-g…
คลิป….
https://www.youtube.com/watch?v=S31y48-r0eY

 

ปอกเปลือก ทรราช



ความสัมพันธ์รัสเซีย-กรีซเริ่มจะแนบแน่นมากขึ้นเรื่อยๆแล้วเรื่องท่อแก๊ส อาวุธ คมนาคม และการเงิน
-------------
อันนี้ยาวหน่อยนะครับ... แต่มันส์!
+ โอบามาโทรหาปูตินก่อนเข้าประชุมหนึ่งวัน แก้เขินเพราะเขาไม่ให้ร่วมประชุมด้วย
-------------
ประธานาธิบดีบารัคโอบามายกหูโทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปสายตรงถึงประธานาธิบดีปูตินเกี่ยวกับเรื่องวิกฤตยูเครนเมื่อวันก่อนนี้ว่า "ประธานาธิบดีโอบามาขอเน้นย้ำการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นของการต่อสู้และได้เน้นย้ำความสำคัญของประธานาธิบดีปูติน และคว้าโอกาสที่นำเสนอโดยการเจรจาที่กำลังดำเนิการไปอย่างต่อเนื่องระหว่าง รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และยูเครน เพื่อไปถึงแนวทางที่สันติ" แค่นี้อ่ะ? ไม่ใช่ผมแปลไม่ถูกนะครับ ผมก็อ่านซ้ำอยู่หลายรอบเชียวนะ ไม่เข้าใจว่าเขาพยายามจะสื่ออะไรกันแน่ เขาเมากัญชาหรือเปล่าอ่ะ? อยากจะถามกลับไปเหมือนกันนะว่าคุณโอบามาครับคุณแน่ใจหรือว่าคุณเองก็เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดมาอยู่หนะ
คืออย่างนี้นะครับ ทุกคนเขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันมีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวันเนื่องจากการต่อสู้กันที่ยูเครนตะวันออก ในประเด็นนี้นะสื่อฯฝ่ายรัสเซียเขาเร็วกว่าฝั่งของสหรัฐฯและยุโรปซะอีก รายงานแทบทุกช็อทในการสู้รบ ลงข่าวละเอียดยิบ ส่วนเรื่องแผนเจรจาสันติภาพนี้ก็เสนอโดยปูตินนะครับโดยมีเยอรมันนีกับฝรั่งเศสเป็นคนกลางคอยประสานระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทั้งสามฝ่ายนี้ (รัสเซีย-เยอรมันนี-ฝรั่งเศส) ไม่มีใครเลือกอาวุธเลยนะทุกคนบอกว่าต้องหยุดยิง ต้องยุติการสู้รบ หันมาเจรจาสันติภาพระหว่างคู่ขัดแย้งดีกว่า ก็มีแต่พี่โอนี่กับนาโต้และยูเครนนี่แหละที่เสนอให้ใช้อาวุธและสนับสนุนอาวุธให้ยูเครนอยู่ตลอดเวลาหนะ
แล้วทำไมพอเขากำลังเตรียมตัวจะเดินทางไปประชุมเจรจาสันติภาพร่วมกันโดยไม่มีพี่โอ พี่โอถึงมาชิงบทผู้มองการณ์ไกลและหวังดีเสนอให้ปูตินคว้าโอกาสนี้ไว้ซะหละครับ ที่รีบออกมาพูดนี้คงเป็นเพราะแก้เก้อที่เขาเขี่ยออกนอกวงสนทนาหรือเปล่า? แหมมันก็เสียหน้าเอาการอยู่นา สหรัฐฯผู้ไม่เคยพลาดเวทีการสนทนาสักเวทีทั่วโลก ไม่ว่าเขาจะคุยกันเรื่องอะไรสหรัฐฯก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมเสมอ แต่คราวก่อนที่มอสโคว์กับคราวนี้กรุงมินส์กเขาไม่ให้เข้าร่วมด้วยนี่สิ มันเจ็บจริงๆนะนี่ เฮ้อ… เครียด เลขาฯ บ้องอยู่ไหน?! ให้ไว! ขอซักปื๊ดดดยาวๆ หน่อยดิ๊.... โล่ง
+ โอบามา : เราจะต้องบิดแขนเมื่อประเทศต่างๆไม่ต้องการทำในสิ่งที่พวกเราต้องการให้เขาทำ
-------------
ต่อมาในวันที่ 11 ก.พ.58 สื่อฝั่งรัสเซียได้นำเอาคำพูดบางตอนจากการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต่อ Vox โอบามากล่าวว่า ความจริงของผู้นำอเมริกา ณ ช่วงเวลาที่จะต้องทำการบิดแขน (twisting the arms) ของเหล่าประเทศที่ไม่ประสงค์จะทำในสิ่งที่เราต้องการให้พวกเขาทำ และว่าสหรัฐฯเชื่อมั่นในความเข้มแข็งทางกองทัพของตนและจะอาศัยวิธีอื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตน อเมริกาตั้งงบประมาณด้านกลาโหมที่สูงกว่า 10 ประเทศรวมกัน ดังนั้นจำเป็นต้องเชื่อมั่นในกำลังของกองทัพและคันบังคับอำนาจอื่นๆอีก เอาแค่นี้ก็พอนะครับ อันที่จริงเขาพูดเยอะและแรงกว่านี้มาก เช่น สหรัฐฯมีกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เป็นต้น อื่มมม! ชักจะเหมือนฮิตเลอร์เข้าไปทุกทีแล้วนะนี่ พวกผู้นำประเทศสมาชิกยุโรปได้ยินแล้วต้องสะดุ้งเฮือกแน่ๆ หลงกลอเมริกาซะแล้ว เขามาชวนให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้ด้วยโดยอ้างว่าเพื่อความมั่นคงและปลอดภัยจากการรุกรานของศัตรู และเพื่อความได้เปรียบทางเศรษฐกิจและกลายเป็นมหาอำนาจเคียงข้างสหรัฐฯ พวกนั้นก็เชื่อเขา แล้วก็ให้สหรัฐฯเข้ามาตั้งฐานทัพอยู่ในยุโรปเต็มไปหมดล้อมหน้าล้อมหลังรัสเซียเอาไว้ หารู้ไม่นั่นแหละคือแผนชักศึกเข้าบ้านกลยุทธม้าโทรจัน (ม้าไม้เมืองทอรย) ช่วงแรกๆ อเมริกาก็ชวนนาโต้ไปทำศึกสงครามที่ตะวันออกกลาง เพื่อปล้นทรัพยากรของประเทศอาหรับมา พวกประเทศสมาชิกเห็นว่าได้ผลประโยชน์ร่วมกันก็เอากะเขาด้วย วันนี้อเมริกาชวนให้หันมาทำสงครามในยุโรปซะเองในบ้านของคนยุโรปซะเองนี่นะ อียูก็เริ่มจะลังเลใจแล้ว โอบาม่าก็เลยออกมาขู่ว่างั้นก็คงต้องงัดไม้แข็งมาบังคับด้วยมาตรการบีบคอบิดแขนกันซะแล้วหละ อียูหลายประเทศเริ่มจะตาสว่างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังหลงคำหวานของอเมริกา เสมือนหนึ่งว่าเป็นทาสของอเมริกาไปซะแล้วเมื่ออเมริกาสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ พวกนี้ยังไม่รู้ตื่น แต่เยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษเริ่มรู้ธาตุแท้ของอเมริกาแล้ว แต่นักการเมืองยูเครนยังไม่เคยลิ้มรสของการเป็นขี้ข้าอเมริกายังปิดหูปิดตาประชาชนของตนเอง หันไปคบกับวัสสการพราหมณ์จอมเสี้ยมให้แตกประชาชนแตกสามัคคีกัน แม้กระทั่งวันนี้ชาวยูเครนก็ยังไม่รู้ตัวเอง เศร้าแทนจริงๆ
+ โอบามาคุยกับคาเมรอน : จะรักษาการป้องกันสหราชอาณาจักรหรือจะทำให้นาโต้อ่อนแอ?
-------------
หลังจากที่ออกมาขู่อียูไปหยกๆ โอบามาก็คุยกับนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อ โดยโอบามาบอกกับคาเมรอนว่า อังกฤษจะต้องอยู่กับนาโต้อย่างเนียวแน่นเพื่อเป้าหมายของนาโต้ หรือจะเป็นตัวอย่างที่สร้างความเสียหายให้กับพันธมิตรในยุโรป โอบามาเตือนแกมขู่คาเมรอนว่าไม่ให้ตัดงบประมาณกลาโหมของอังกฤษที่ต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์เป้าหมายในการใช้จ่าย GDP ซึ่งอาจจะเป็นการบ่อนทำลายพันธมิตรทางทหาร ในการพบกันกับคาเมรอนที่กรุงวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว โอบามากดดันคาเมรอนว่า ถ้าอังกฤษไม่ใช้งบประมาณถึง 2 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ในงบกลาโหม ก็จะไม่มีใครในยุโรปช่วยได้... อเมริกาเล่นเจาะประหลังของอังกฤษโดยให้ 2 อดีตรมว.กลาโหมของอังกฤษออกมาช่วยพูดกดดันนายกคาเมรอนอีกแรงว่า มันอาจจะเป็นความผิดพลาดขั้นพื้นฐานและไม่อาจให้อภัยได้ที่ประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่ำเกินไป และความไม่มีเสถียรภาพทั่วโลกที่อังกฤษกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกล่าวว่าเศรษฐกิจยังเติบโตอยู่ในระดับปัจจุบันนี้ กองทัพจะไม่สามารถใช้งบกลาโหมได้ถึง 2 เปอร์เซ็นแน่ เป็นยังไงหละคราวนี้ อังกฤษเริ่มรู้จักฤทธิ์และตัวตนที่แท้จริงของเพื่อนซี้อย่างอเมริกาแล้วใช่ไหม ดูว่าคาเมรอนจะเลือกทำตัวเป็นเด็กดีในคอนโทรลของอเมริกาต่อไปหรือจะตามเสียงส่วนใหญ่ของอียู
+ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย-กรีซบรรลุข้อตกลงร่วมมือสร้างท่อแก๊สผ่านตุรกี-กรีซ
-------------
ในขณะที่อเมริกากำลังวิ่งล็อบบี้อังกฤษและประเทศสมาชิกในยุโรปอยู่นั้น เรารองมาหันมาดูการเดินหมากของปูตินอีกสเต็ปหนึ่งบ้างนะครับ เกมนี้มันส์... พวกขาใหญ่ระดับผู้นำประเทศก็เจรจาแผนสันติภาพกันไป ระดับรัฐมนตรีก็เดินหน้าทำงานเต็มที่ โดยเมื่อวานนี้ (11 ก.พ.58) นาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียได้บรรลุข้อตกลงกับรมว.ต่างประเทศของกรีซเรื่องการสร้างท่อแก๊สผ่านเส้นใหม่ผ่านตุรกีเชื่อมมาที่กรีซ เส้น "Turkish Stream" แทนเส้น "South Stream" ที่สร้างลอดใต้ทะเลดำมาได้แค่ชายแดน Bulgaria ก็ยกเลิกเนื่องจากเหตุผลทางการเมืองของกลุ่มอียู เส้น Turkish Stream นี้สามารถส่งแก็สได้ทั้งหมดถึง 63 พันล้านคิวบิคเมตร ซึ่งจะมีระยะทางยาว 660 กม. (410 ไมล์) เส้นทางนี้จะเป็นเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่รัสเซียจะสามารถจ่ายแก๊สเข้าสู่ประเทศสมาชิกอื่นๆของสหภาพยุโรปได้เพิ่มได้อีกช่องทางหนึ่งนกจากเส้น Uerngoy-Uzhgorod ที่ผ่านยูเครน นอกจากท่อส่งแก๊สเส้นนี้แล้วยูเครนยังมีท่อส่งแก๊สเข้ายุโรปอีก 3 เส้นคือ Nord Stream, Yamal-Europe และ Blue Stream เอาแค่นี้ก็พอครับสำหรับข้อมูลถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ก็ดูจากแผนที่ที่แนบมาด้วยกับโพสต์นี้ประกอบเองนะครับผม
ที่รัสเชียชอบใจนักก็คือ สามารถดึงตัวรมว.ต่างประเทศคนใหม่ของกรีกให้มาเยี่ยมรัสเซียได้เป็นชาติแรกก่อนประเทศอื่นๆที่เป็นสมาชิกในสหภาพยุโรปร่วมกับกรีซซะอีก และบรรลุข้อตกลงร่วมกันด้วย นอกจากเรื่องท่อแก๊สแล้วทั้งสองฝ่ายยังมีการคุยเรื่องการคมนาคมและด้านการเงินร่วมกันอีกด้วย ซึ่งดูเหมือนว่าทางกรีซจะพึงพอใจซะด้วยนะ ดูทีมงานของปูตินดิ สุดยอดอ่ะ
+ นักวิเคราะห์กรีซมองว่าหากเกิดสงครามการที่กรีซยังใช้อาวุธของอเมริกาอยู่นี้อาจจะบ่อนทำลายอธิปไตยได้ง่าย
-------------
หนึ่งวันก่อนที่รมว.กรีซจะเดินทางมากรุงมอสโคว์ นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมของกรีซออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อฯดังๆเปรี้ยงไปจนถึงอเมริกาจนทำให้รัฐบาลสหรัฐฯแสบแก้วหูเลยหละว่า "อาวุธของรัสเซียมีความสำคัญต่ออธิปไตยของกรีซ" เอาดิ เล่นกับปูตินเหรอ? แค่ยกหูโทรศัพท์ไปหานักวิเคราะห์คนนี้กิ๊กเดียวว่าน้องช่วยพูดตามสลิปต์นี้ให้พี่หน่อยสิ ได้ครับพี่ปูติน เดี๋ยวน้องจัดให้ครับยังไงก็อย่าลืมผมนะครับ ของ AK-47 งามๆรุ่นที่พี่มอบเป็นของขวัญให้ประธานาธิบดีซิซีของอียิปต์ซักกระบอกบ้างนะครับพี่ปูติน ได้เลยไอ้น้องมากกว่านั้นยังได้เลย การเมืองมันก็เป็นอย่างนี้หละครับผม ไม่ใช่เล่ห์นะแต่เขาเรียกว่าเหลี่ยมอ่ะ
นาย Ilias Iliopulos นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมคนนี้ยังมองอีกว่า ในกรณีที่บังเอิญเกิดสงครามระหว่างประเทศขึ้นมา การพึ่งพาระบบอาวุธของอเมริกันนั้นอาจจะกลายเป็นการบ่อนทำลายอธิปไตยของกรีซได้ กรีกควรจะซื้อระบบป้องกันความมั่นคงจากรัสเซีย และไม่ขึ้นอยู่กับของอเมริกันเพียงเท่านั้น ระบบอาวุธที่ซื้อจากอเมริกาอาจจะถูกทำลายและถูกปิดไม่ให้ใช้งานได้เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นใกล้กับตุรกีหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นใน Imia โดยอ้างถึงวิกฤตการปี 1995 ในทะเลอีเจียน (Aegean Sea) ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทเหนือเกาะระหว่างกรีซกับตุรกีเกือบจะกลายเป็นความขัดแย้งเมื่อกองทัพทั้งสองฝ่ายร่อนลงบนเกาะนั้น ก็อเมริกามันวางยาไว้นะสิกะว่าจะให้ทั้งสองประเทศนี้ทะเลาะกันอ่ะ คราวนี้กรีซรู้แล้วสินะ
นาย Ilias Iliopulos ยังชมอีกว่าเขาพิจารณาแล้วเห็นว่าอาวุธบางอย่างของรัสเซียนั้นเจ๋งที่สุดในโลก กรีซควรจะนำมาใช้ในการป้องกันประเทศเช่น Tor-M1 และระบบป้องกันอากาศยานและขีปนาวุธทางอากาศ S-300 นั่นชมซะพี่ปูตินตัวลอยเลยอ่ะ S-300 นี่ใช้ในหลายประเทศที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซียแล้วนะหร่านก็มีแล้วคราวนี้กรีซก็อยากได้อีก
+ รัสเซียจีบกรีซให้เลิกใช้อาวุธอเมริกาหันมาใช้ของรัสเซียดีกว่า
-------------
ส่วน Igor Korotchenko หัวหน้าบรรณาธิการนิตยสาร Russian National Defense ได้ยกตัวอย่างให้ฟังอีกว่า อย่างกรณีของ Saddam Hussein ที่ซื้ออาวุธจากฝรั่งเศสมารวมทั้งระบบป้องกันทางอากาศและเรดาร์ ในช่วงเวลาวิกฤตนั้นปรากฎว่าระบบอีเล็กทรอนิคทั้งหมดถูกปิดผ่านดาวเทียมเฉยเลย เออที่พูดมานี่มันก็น่าคิดนะ ถ้าพึ่งพาแต่อเมริกาแต่ฝ่ายเดียวนี่ยุ่งเลย วันไหนเราดื้อหัวแข็งไม่ฟังคำสั่งของเขาขึ้นมาเมื่อไรเจอยุทธการบิดแขนอย่างที่โอบามาว่ามาแน่ๆ เพราะเขาสามารถสั่งปิดระบบผ่านดาวเทียมได้เลยนะ ซัดดัมเจอมาแล้วเพราะไปหลงซื้อของยุโรปนี่เอง มิน่าจีนถึงเอาเรือรบที่สั่งให้อียูต่อแล้วเอามาดัดแปลงใหม่เองหมดเลย แล้วยังได้ต้นแบบเอามาต่อเรือรบได้เองอีกด้วยอ่ะ ซื้อมาลำเดียวจากนั้นพี่จีนก็อบ และก็อบไม่ให้เหมือนและทำได้ดีกว่าของต้นแบบด้วยนะ
The Eyes
12/02/2558
-------------
Obama calls Putin before Minsk talks to discuss E. Ukraine peace deal — RT News
Obama: 'We have to twist arms when countries don't do what we need them to' — RT News
http://www.vox.com/a/barack…/obama-foreign-policy-transcript
TASS Infographics: Russia's gas pipelines to Europe by 2018
TASS: Economy - Russia, Greece discussed plans of gas pipeline construction across Turkey — Lavrov
Greek, Russian Foreign Ministers to Discuss Energy Cooperation, Ukraine / Sputnik International
Greek Experts Urge Athens to Shun US Weapons in Favor of Russian Arms / Sputnik International
Russian Weapons Vital to Greek Sovereignty – Defense Analyst / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช



หลักฐานอีกชิ้นพิสูจน์ว่าสหรัฐฯต้องการสร้างฐานทัพในไครเมียเพื่อคุกคามความมั่นคงของรัสเซีย
----------------
เมื่อวานนี้มีการแชร์หลักฐานอีกชิ้นหนึ่งในโลกโซเชียลมีเดียฝั่งรัสเซียว่า ฝ่ายกองทัพเรือ (นาวิกโยธิน) ของสหรัฐฯและนาโต้ต้องการจะรุกคืบเข้าไปใกล้พรมแดนของรัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆ (อันที่จริงสื่อฯของรัสเซียเผยแพร่ข่าวนี้มาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว) โดยเมื่อปลายปี 2013 ทางนาวิโยธินของสหรัฐฯได้ยื่นข้อเสนอไปให้ทางรัฐบาลยูเครนว่ามีความประสงค์จะให้การสนับสนุนด้านการเงินเพื่อซ่อมแซมอาคารโรงเรียนและโรงพยาบาลในเมือง Sevastopol แคว้นไครเมีย (ของยูเครนตอนนั้น) (Renovation of Sevastopol School #5, Ukraine Solicitation Number: N33191-13-R-1240) ภายใต้งบประมาณค่าก่อสร้างประมาณ 8.2 - 16.4 ล้านบาท และก่อนหน้านี้สหรัฐฯได้มีการจ่ายเงินอ้างว่าเป็นค่าซ่อมบำรุงอาคารต่างๆ ในไครเมียไปแล้วหลายแห่งด้วย
งานนี้ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นของไครเมียในสมัยนั้นรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจสักเท่าไรนักแต่ก็คัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลกลางไม่ได้ ส่วนปูตินเริ่มรู้สึกแล้วว่า หากสหรัฐฯและนาโต้ยังดำเนินแผนการแบบนี้ไปเรื่อยๆ ต่อไปสหรัฐฯคงจะยื่นข้อเสนอเช่าฐานทัพเรืองของยูเครนในแหลมไครเมียที่เมือง Sevastopol เป็นแน่ ซึ่งมีทั้งสนามบินและท่าเรือพร้อมทุกอย่าง แบบนี้ถือว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในประเทศของรัสเซียเป็นอย่างยิ่ง
แถมอียูก็มาชวนให้ยูเครนเข้าร่วมสหภาพยุโรปอีก เพื่อหวังว่าจะขยายอิทธิพลของอียูแข่งกับชาติมหาอำนาจอื่นๆเช่นอเมริกา รัสเซียและจีนเป็นต้น และแผนการดึงยูเครนเข้าร่วมอียูนี้ก็จะเป็นการลดทอนความเข้มแข็งของรัสเซียลงไปในตัวได้ด้วย ถ้าได้ยูเครนมาเป็นพวก อียูจะต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน นี่ถ้าคิดในแง่ของฝ่ายอียู หรือในแง่ที่เอาแต่ได้มันก็จะเป็นแบบนี้ ส่วนในมุมมองของอเมริกานั้นแม้จะไม่ค่อยชอบแผนนี้ของอียูสักเท่าไรนัก แต่เมื่อชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบส่วนได้ส่วนเสียดูแล้ว อเมริกาได้ผลประโยชน์ร่วมด้วยแน่นอน เพราะอย่างน้อยสหรัฐฯก็คุมนาโต้ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่อียูเดิมหมากพลาดในครั้งนี้ก็คือไม่คิดว่ามันจะง่ายดายอย่างที่วางแผนเอาไว้นะสิ เพราะปูตินไม่ยอมยกยูเครนทั้งหมดให้อียูง่ายๆแน่ มันต้องวัดกำลังกันก่อน ถ้าเก่งจริงหรือเจ๋งจริงก็เอาไป แต่คงจะเอาไปไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะ
ปูนตินรู้ทันแผนของสหรัฐฯที่จะมาตั้งฐานทัพของตนเองโดยใช้นาโต้บังหน้าเพื่อให้ประเทศสมาชิกในอียูเห็นด้วย ก็เลยเปิดเผยแผนนี้ให้ประชาชนชาวไครเมียได้รู้ทันบ้าง ชาวไครเมียซึ่งมีเชื้อสายรัสเซียเป็นส่วนมากของแคว้นนี้ก็ตื่นรู้ จึงทำประชามติออกเสียงรวมไครเมียเข้ากับรัสเซีย หลังจากที่ทราบผลชนะแล้วกองทัพรัสเซียก็รุกเข้าควบคุมไครเมียไว้ในมือทันที ประชาชนชาวไครเมียก็พากันขับไล่ทหารของยูเครนออกจากฐานทัพเรือในไครเมีย แล้วให้ทหารของรัสเซียเข้าไปประจำการแทน เพราะว่าตอนนี้ไครเมียกลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นธรรมไปแล้ว แต่สหรัฐฯ อียู ยูเอ็น และยูเครนไม่เห็นด้วยจึงทำการประท้วงและคัดค้านโดยการแซงชั่นรัสเซียและไครเมียในหลายรูปแบบ แต่ปูตินก็ไม่สนใจ ยิ่งแซงชั่นรัสเซียมากขึ้นเท่าไร อียูก็จะเจ็บตัวไปด้วยมากขึ้นเท่านั้น ล่าสุดเมื่อวันก่อนที่จะมีการประชุม 4 ฝ่ายที่กรุงมินส์กที่ประชุมนานาชาติอียูมีมติให้เลื่อนการแซงชั่นรัสเซียรอบใหม่ออกไปก่อน เพื่อรอดูท่าทีผลของการเจรจา 4 ฝ่ายเมื่อวานนี้ ให้มันรู้ซะมั่งใครเป็นใคร
The Eyes
13/02/2558
-------------
US Navy cancels charity projects in Crimea — RT News
Ukrainian and Russian strategic assets in Crimea | Winter Republic
https://www.fbo.gov/index…
https://www.fbo.gov/index…
NAVFAC Renovates Schools For Ukrainian Children
BBC News - Sevastopol: Russian fleet stirs passions in Ukraine
Ukraine - Russia’s Black Sea fleet in Sevastopol - CEI
BBC News - Crimea crisis: Pro-Russians seize Ukrainian naval bases
http://orientalreview.org/…/countering-the-nato-propaganda…/
http://hamodia.com/…/pro-russian-rally-crimea-decries-kiev…/
http://www.forbes.com/…/5-things-yo

 

ปอกเปลือก ทรราช



ข่าวฉาวในอเมริกา ผู้บริจาคเงินรายใหญ่ให้มูลนิธิคลินตันเป็นลูกค้าของธนาคาร HSBC ที่อื้อฉาวในสวิส และครอบครัวมุสลิมถูกยิงเสียชีวิต 3 คนในสหรัฐฯ
-------------
+ ผู้บริจาคเงินให้มูลนิธิครอบครัวคลินตันมีส่วนพัวพันหลีกเลียงภาษีจากธนาคาร HSBC สาขาสวิส
-------------
พักนี้ตามข่าวฝั่งรัสเซีย-ยูเครน-อียูมากเป็นพิเศษครับเพราะมีเหตุการณ์ที่ชาวโลกจับตากันมาก บางคนอาจจะมองผมว่าเขียนเชียร์ปูตินจังเลย มีข่าวปูตินแทบจะทุกวันเลย หรือบางคนอาจจะอิ่มข่าวปูตินแล้วก็ได้ เอ้างั้นหันมาฝั่งอเมริกาบ้างก็ได้ครับ สลับบรรยากาศบ้างนะ ดูซิว่าในรอบวันสองวันนี้มีอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นในอเมริกาที่สื่อฯใหญ่ๆ หลักๆ ของเขาไม่ลงแล้วฝั่งรัสเซียเอาไปลงบ้างนะ
ประเดิมข่าวแรกเลยนะครับ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 58 สำนักข่าว Sputnik ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "พบว่าผู้บริจาคเงินสนับสนุนมูลนิธิคลินตันเป็นลูกค้าของธนาคารที่อื้อฉาวสาขาสวิส" เป็นยังไงหละข่าวเกี่ยวกับอเมริกา งามไส้สิคราวนี้ ข่าวเขาพูดต่อไปว่าอัยการของสหรัฐฯ พิจารณายื่นฟ้อง HSBC แบงค์ของอังกฤษกรณีช่วยเหลือให้ลูกค้าหลบเลี่ยงการเสียภาษี ซุกซ่อนบัญชี ฟอกเงินให้กับลูกค้ามหาเศรษฐีมากกว่า 100,000 รายในการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีในสหราชอาณาจักร และลูกค้าคนอื่นๆอีกกว่า 203 ประเทศทั่วโลกด้วย ที่มันเด็ดคือตอนต่อไปนี้ครับ อัยการของสหรัฐฯตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้บริจาคเงินสนับสนุนให้มูลนิธิครอบครัวคลินตันหลายรายมีส่วนพัวพันและเป็นลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารดังกล่าวสาขาสวิสด้วย
มูลนิธิ "Bill, Hillary & Chelsea Clinton Foundation" ของนายคลินตันอดีตประธานาธิบดีคนที่ 42 ของสหรัฐอเมริกา (ระหว่างค.ศ. 1993 - ค.ศ. 2001) สามีของนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรมว.ต่างประเทศของรัฐบาลนายบารัค โอบามา และปัจจุบันเป็นหนึ่งในตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคดีโมแครทในปี 2016 ได้รับเงินบริจาคจำนวน 81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2,656 ล้านบาท) จากผู้บริจาคต่างประเทศซึ่งพบว่าเป็นลูกค้าของธนาคาร HSBC สาขา Swiss ในกรุงเจนีวา (Geneva) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
ดูไม่ยาก งานนี้เป็นการเตะตัดขาคู่แข่งขันทางการเมืองกันแน่ๆ ระหว่างสองพรรคใหญ่ของอเมริกาคือพรรคดีโมแครทของนายบารัค โอบามา กับพรรครีพับลิกันของนาย George W. Bush อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 43 และหากผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแฉข้อมูลในครั้งนี้เป็นพรรคตรงกันข้ามก็บอกได้เลยว่าเป็นการเอาคืนจากกรณีที่ก่อนหน้านี้พรรคของนายบารัค โอบามาไปเปิดโปงคดีคุกลับและการทรมานนักโทษของ CIA สมัยบุชผู้ลูกเป็นประธานาธิบดี และเป็นการลดคะแนนนิยมของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย แต่ถ้าเป็นฝีมือของคนในพรรคเดียวกันก็อาจจะมองได้ว่าเป็นการแข่งขันกันภายในพรรคของผู้ที่จะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไประหว่างคนในพรรคเดียวกัน การเมืองก็เป็นแบบนี้หละ เผลอเป็นไม่ได้พวกจ้วงข้างหลังทันที เอ… แล้วถ้าฝ่ายไทยเราจะขอตรวจบัญชีธาคารเขาบ้างจะได้ไหมหนาาาา? อยากจะรู้ว่าทักแม้วกับพวกนักการเมืองไทยมีเงินอยู่ที่นั่นหรือเคยผ่านที่นั่นสักเท่าไรมีการหลบเลี่ยงภาษีอะไรยังไงเมื่อไหร่และเท่าไรบ้างอ่ะ ถ้ามีข้อมูลออกมางานนี้คงจะสนุกไม่น้อยนะครับ
+ สมาชิกครอบครอบมุสลิมใจบุญในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ ถูกฆ่า 3 รายรวด
-------------
เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.58) สำนักข่าว RT News ของรัสเซียลงข่าวว่า มีสมาชิกครอบครัวชาวมุสลิมในมหาวิทยาลัย North Carolina ในเมือง Chapel Hill ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชิวิตทั้ง 3 คนคือนาย Deah Shaddy Barakat อายุ 23 ปี และนาง Yusor Mohammad Abu-Salha อายุ 21 ปีผู้เป็นภรรยา และน้องสาวของภรรยา ชื่อ Razan Mohammad Abu-Salha อายุ 19 ปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุทางโทรศัพท์ว่ามีเสียงปืนดังขึ้นในอพาทเมนท์แห่งหนึ่งที่ครอบครัวนี้อาศัยอยู่เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว
ชายวัย 46 ปีชื่อนาย Craig Stephen Hicks ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ากลับเข้าที่พักดึกในคืนวันอังคารที่เกิดเหตุ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและตั้ง 3 ข้อหาในการฆาตกรรม จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความคิดเห็นที่สนับสนุนว่า Hicks อาจจะเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีข้อสงสัยในสื่อโซเชียลมีเดียที่เป็นอาชญากรรมเกี่ยวกับความเกลียดชัง เขาเป็นพวกที่ไม่นับถือพระเจ้า (self-described atheist) ซึ่งมักจะโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวกับประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันในศาสนาในเฟซบุคของเขาเอง ดูจากภาพประกอบข่าวแล้วพบว่าเหยื่อที่ถูกยิงเสียชีวิตทั้ง 3 คนนี้เป็นคนที่มีจิตใจดีมากเพราะพวกเขาบริจาคอาหารช่วยเหลือคนยากไร้ด้วยไม่น่าจะมีศัตรู เป็นคนดีช่วยเหลือสังคมก็ยังถูกยิงตายเพียงเพราะไม่ชอบศาสนาที่พวกเขานับถือนี่นะ ประชาธิปไตยของอเมริกามันเป็นแบบไหนนี่ แต่เราไม่กลัวและไม่ย่อท้อที่จะทำความดีเพื่อสังคม พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญบารมีมาเป็นแสนเป็นล้านเป็นโกฏเป็นอสงไขยชาติเอาชีวิตเข้าแรกในการทำความดีที่เรียกว่า "ขั้นปรมัตถบารมี" ไม่ต่ำกว่า 500 ชาติโดยไม่ย่อท้อเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราจะทำได้ หากทำความดีเพียงแค่นี้แล้วถูกยิงตายไปอีกคนก็ให้มันรู้ไป แต่อย่ามายิงกันเลยหนะจะดีกว่านะ อิๆ อ้อข่าวนี้ยังไม่เห็นใน CNN กับ BBC นะครับ นิสัย...
+ มาตรฐานการนำเสนอข่าวของสื่อฯฝั่งสหรัฐฯ
-------------
อันนี้ถือซะว่าเก็บตกจากข่าวใหญ่ละกัน เมื่อวานนี้ก่อนที่จะมีการเจรจาสันติภาพ 4 ฝ่ายที่กรุง Minsk ทั้งฝ่ายยูเครนและฝ่ายกบฎนิยมรัสเซียก็เปิดศึกถล่มกันใหญ่ในเมือง Kramatorsk (Donetsk) เพื่อชิงความได้เปรียบกัน สื่อต่างๆ ก็เอาภาพหัวจรวจขนาดใหญ่ที่หล่นลงมาในเขตชุมชนโดยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด ตามรายงานข่าวบอกว่ามีผู้เสียชีวิต 7-10 รายและบาดเจ็บอีก 16 คน พอจรวดลงแล้วฝ่ายยูเครนก็ให้ทหารเอารถมาลากออกไป แล้วประธานาธิบดีโปโรเชนโกของยูเครนก็มายืนแอ็คท่าถ่ายรูปกับจรวดดังกล่าว แล้วก็แถลงต่อสื่อฯว่ามีจรวด 2 ลูกโดยลูกแรกมุ่งโจมตีกองบัญชาการทหารยูเครน ส่วนอีกลูกหนึ่งตกอยู่ใกล้กับที่พักอาศัยของชาวบ้าน ทำให้มีทั้งทหารและพลเรือนเสียชีวิต ขอบอกไว้ก่อนนะครับคำพูดของหมอนี่ต้องหารด้วย 2 เสมอ แต่ประเด็นที่อยากจะพูดก็คือว่า CNN เขาเอาภาพเหตุการณ์เดียวกันนี้ไปทำข่าวแต่ไม่ให้เห็นภาพของจรวด โดยให้เห็นแต่พื้นถนนที่แตกกระจายและมีชาวบ้านมายืนล้อมดู ในขณะที่สื่อฯอื่นๆเขาลงภาพที่มีหัวจรวดปักอยู่กลางถนนด้วยทุกสื่อฯ แต่ทำไม CNN ถึงลงไม่หมด เหมือนไม่อยากให้เห็นอะไรอย่างนั้นแหละ จะบอกว่าเป็นภาพที่โหดร้ายทารุณไม่เหมาะกับการนำเสนอข่าวก็ไม่น่าจะใช่นะ ทีข่าวอื่นมันยิ่งกว่านี้อีกยังเอาลงได้เลย แล้วทำไมข่าวนี้เขาถึงไม่อยากให้คนเห็นอ่ะ แปลกดีน้อ
The Eyes
12/02/2558
----------
http://rt.com/usa/231339-muslim-family-killed-carolina/
Clinton Foundation Donors Found to be Clients of Controversial Swiss Bank / Sputnik International
Explosive Talks: Poroshenko to Bring Shell Splinter to Minsk / Sputnik International
BBC News - Ukraine death toll rises ahead of talks in Minsk
BBC News - Ukraine unrest flares ahead of Minsk talks
BBC News - Ukraine conflict: Battles rage ahead of Minsk talks
http://www.reuters.com/…/us-usa-north-carolina-murder-idUSK…
'Ominous silence when shelling halts': 10 signs you live in war-torn Donetsk, E. Ukraine — RT News
http://rt.com/…/230975-kramatorsk-ukraine-shelling-poroshe…/
http://www.theguardian.com/…/hillary-clinton-foundation-don…
http://www.telegraph.co.uk/…/Ukraine-crisis-rockets-crash-i…
หลายชาติสอบสวนเอชเอสบีซีช่วยลูกค้าเลี่ยงภาษี | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
HSBC Whistleblower Leak: How the 1% Are Hiding Their Money From the Taxman / Sputnik International
UK-based HSBC Bank Admits Swiss Subsidiary Helped Customers Dodge Taxes / Sputnik International

 

In & Outside World



H7N9 ระบาดที่จีน
ยังมีคนติดเชื้อเพิ่ม อาจจะไม่ระบาดรุนแรง แต่เชื้อยังคงมีอยู่
ล่าสุด มณฑลกวางตุ้ง พบผู้ติดเชื้อ รายที่ 49
โดยผู้ที่มีเชื้อ 4 คน ตรวจพบเมื่อวันศุกร์ 13
หญิงชรา 58 ปีและชายสองคนอายุ 51 และ 61, ตรวจพบในเมืองแต้จิ๋ว, กวางโจวและเซินเจิ้น
................
(เดินทางไปจีน ควรบใส่หน้ากากแมส ตลอดการเดินทาง ด้วยนะครับ)
((ขอให้ทุกท่าน ปลอดภัย))
Help Page -- ScienceDaily
http://crofsblogs.typepad.com/…/hong-kong-chp-reports-four-…
http://crofsblogs.typepad.com/…/china-guangzhou-wet-market-…
http://www.scmp.com/…/guangzhou-wet-market-h7n9-bird-flu-fe…

 

Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ สมาคมนิยมอาวุธรัสเซีย Russia military fanclub.


รัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบเครื่องยนต์ต่อต้านแรงโน้มถ่วง

นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย Vladimir Leonov กล่าวว่าสิ่งที่หลายคนอาจคิดว่ามันคือนิยาย อนาคตมันคือความจริงต้นแบบเครื่องยนต์แบบควอนตัม มีอายุการใช้งานถึง 5,000 ครั้ง ทำให้การส่งจรวด หรือขีปนาวุธมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์

Vladimir Leonov ได้รับรางวัลจากรัฐบาลรัสเซียในผลงานวิจัย Superunification โดยทฤษฎีของเขาหักล้างกับทฤษฎีพื้นฐานเดิมๆ ที่วงการวิทยาศาสตร์เคยค้นพบ การทดลองเริ่มต้นในปี 2009 โดยเครื่องยนต์แบบควอนตัมสามารถสร้างแรงผลักในแนวนอน 50 กก./ครั้ง ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาถึง 5 ปี จึงประสบผลสำเร็จ

เขากล่าวว่า วันนี้เทคโนโลยีของเครื่องยนต์เจ็ท (แบบ RD) ที่ใช้ในอากาศยาน และยานอวกาศถึงข้อจำกัดทางเทคนิค สำหรับ 50 ปี ที่ผ่านมา โมเมนตัมของแรงขับเพิ่มขึ้นจาก 220 วินาที (ในจรวด V-2) ในปัจจุบันทำได้สูงสุดเพียง 2 เท่า ของจรวด V-2 นั่นคือจรวดโปรตอนทำได้ 450 วินาที เครื่องยนต์จรวดแบบ RD น้ำหนักรวม 100 ตัน สามารถบรรทุกน้ำหนักได้เพียง 5 ตัน (5% ของน้ำหนักรวม) ในขณะที่เครื่องยนต์ควอนตัม เครื่องปฏิกรณ์จะมีน้ำหนัก 10 ตันสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 90 ตัน (คิดเป็น 900 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์จรวดแบบ RD)

โดยยานอวกาศที่ใช้เครื่องยนต์ควอนตัม มีความเร็วสูงสุดถึง 1,000 กม./วินาที โดยมีอัตราเร่ง 18 กม./วินาที ทำให้การเดินทางไปในอวกาศใช้เวลาลดลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในเที่ยวบินซึ่งจะเดินทางไปดาวอังคารโดยใช้อัตราเร่ง ± 1g จะใช้เวลาเพียง 42 ชั่วโมง และใช้เวลา 3.6 ชั่วโมงในการเดินทางไปยังดวงจันทร์

แหล่งพลังงานของเครื่องยนต์ควอนตัว ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ
เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นแบบเย็น (CNF) กล่าวคือโครงการที่พัฒนาโดยวิศวกรชาวอิตาลี Andrea Rossi ซึ่งวิจัยเกี่ยวกับโลหะนิกเกิล ประสิทธิภาพในการเปลียนเป็นพลังงานของวงจรนิวเคลียร์แบบนิกเกิล ซึ่งให้พลังงานสูงกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วไป กล่าวคือ เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นแบบเย็น (CNF) ใช้นิกเกิล 1 Kg. ให้พลังงานเท่ากับน้ำมันแกสโซลีน 1 พันตัน ซึ่งหากนำไปใช้ในรถยนต์ สามารถพาผู้โดยสารเดินทางไปได้ 10 ล้านกิโลเมตร โดยไม่ต้องเติมน้ำมันหรือเดินทางไป-กลับ ดวงจันทร์ได้ 25 เที่ยว

Ref : Quantum Energetics: Russia successfully tested antigravity engine by Leonov
เครดิต กัปตัน รัสเซีย

#Next_Station_PB

 

Pst Nong ผ่าน Nation Channel

ข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ แต่ยังคงปกคลุมด้วยบรรยากาศแห่งความไม่ไว้วางใจ มีการสู้รบกันจนนาทีสุดท้าย
ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ได้สั่งให้ทหารปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ที่กรุงมินสค์ ของเบรารุส ที่เริ่มตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 05.00 น.ตามเวลาในไทย แต่ก็บอกว่า กระบวนการสันติภาพ ยังถูกคุกคามโดยกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ที่ยังคงล้อมกรอบทหารยูเครน ในเมืองเดบอลท์เซฟ
ไม่มีรายงานการสู้รบกันในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน หลังข้อตกลงสงบศึกมีผลบังคับใช้ แต่ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงกำหนดเส้นตาย ยูเครนอ้างว่า ยังมีการยิงปืนใหญ่โจมตีอาคารและย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนในเมืองเดบอลท์เซฟ ซึ่งเป็นที่ตั้งชุมทางรถไฟและได้ชื่อว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่กองทหารยูเครนยังรบติดพันอยู่
การหยุดยิง ถือเป็นบททดสอบแรกของความมุ่งมั่นระหว่างยูเครนกับกลุ่มกบฎ ในการปฏิบัติตามแผนสันติภาพที่ลงนามเมื่อวันพฤหัสบดี หลังการเจรจามาราธอนระหว่างประธานาธิบดีโปโรเชนโก, ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย, นายกรัฐมนตรี
แองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส
แม้ว่าการสู้รบที่ยังต่อเนื่องเมื่อวันเสาร์จะถูกมองว่าเปราะบาง แต่ประธานาธิบดีปูติน ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะยึดมั่นต่อข้อตกลงหยุดยิงในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศส ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ ซัคคาร์เชนโก ผู้นำฝ่ายกบในดาเนี้ยตสค์ ได้สั่งให้นักรบของเขาเคารพต่อข้อตกลงสงบศึก แต่ก็บอกว่า ความพยายามใดๆ ที่จะหลบหนีออกจากเมืองเดบอลท์เซฟ ของทหารยูเครนที่ถูกล้อมกรอบ หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ จะถือว่าเป็นการเริ่มเปิดศึก

ข้อตกลง สงบศึกในยูเครน มีผลบังคับใช้แล้ว - Nation TV

 

อนดล แซ่เล้า ได้แชร์รูปภาพของ Bookofresearch



ปรากฏการณ์หลุม Fallstreak หรือเมฆหมัดหลุมกว่า Novokosino, มอสโก, รัสเซีย
หลุม fallstreak ยังเป็นที่รู้จักเมฆหมัดหลุมเจาะเมฆหลุม skypunch เมฆคลองหรือหลุมเมฆเป็นช่องว่างทรงกลมขนาดใหญ่ที่สามารถปรากฏใน cirrocumulus หรือ Altocumulus เมฆ หลุมดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของน้ำในเมฆอยู่ด้านล่างแช่แข็ง แต่น้ำยังไม่ได้แช่แข็งยังเนื่องจากการขาดของอนุภาคนิวเคลียสน้ำแข็ง (เห็นน้ำ supercooled) เมื่อส่วนหนึ่งของน้ำไม่เริ่มต้นที่จะหยุดมันจะตั้งปิดผลกระทบโดมิโนเนื่องจากกระบวนการรอนทำให้เกิดไอน้ำรอบ ๆ มันจะแช่แข็งและตกสู่พื้นดินได้เป็นอย่างดี ใบนี้มีขนาดใหญ่มักจะเป็นวงกลมหลุมในเมฆ
ก็เชื่อว่าการหยุดชะงักในความมั่นคงของชั้นเมฆเช่นที่เกิดจากเจ็ทผ่านอาจก่อให้เกิดกระบวนการโดมิโนของการระเหยซึ่งจะสร้างหลุม เมฆดังกล่าวจะไม่ซ้ำกับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่คนใดคนหนึ่งและได้รับการถ่ายภาพจากหลายสถานที่
เพราะหายากและลักษณะที่ผิดปกติของพวกเขาเช่นเดียวกับการเปิดรับน้อยมากในสื่อหลุม fallstreak มักจะเข้าใจผิดหรือประกอบกับวัตถุบินไม่ปรากฏชื่อ
https://www.facebook.com/Bookofrese...69587468432/10151361043353433/?type=1&theater

 

Chalee Na Roied



เมื่อคืนนี้ผมทิ้งท้ายเรื่องประเด็น ของขีปนาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ที่ถูกใช้ที่ยูเครนนะครับ
ตอนนี้มีสิ่งที่น่าวิตกกังวลก็คือ มีความพยายาม ในการสร้างสถานการณ์ เพื่อจุดชนวนสงครามโลก ระหว่าง นาโตและรัสเซีย โดยอาศัยสถานการณ์ในยูเครน รวมถึงภูมิภาคตะวันออกกลาง เพราะนอกจากขีปนาวุธนิวเคลียร์ ที่เพิ่งถูกใช้ไปลูกล่าสุด ยังเหลืออีก 4-5ลูก ที่ยังไม่ถูกใช้งาน และตอนนี้กำลังจะถูกลักลอบ นำเข้าไปยังรัสเซีย 2 ลูก และในยูเครนตะวันออกอีก 2 ลูก สอดคล้องกับรายงาน จาก รมต.ต่างประเทศของรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ที่ได้รับข้อความจากหน่วยข่าวกรองรัสเซียว่า ตอนนี้กำลังมีการติดตาม หัวรบนิวเคลียร์ที่คาดว่า จะนำเข้าไปมายังรัสเซีย ทางเมืองวอลโกรกราด และสตาลินกราดของรัสเซีย โดยนิวเคลียร์ทั้งหมด ถูกลักลอบลำเลียงขึ้นเครื่องบินทหารของสหรัฐ ตั้งแต่เดือนที่แล้ว พร้อมๆกับกระแสข่าว ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น กรณีมีหัวรบนิวเคลียร์สูญหายไปจาก ฐานทัพ ฟอร์ต คาร์ลสัน โคโรราโด จำนวนหนึ่ง ถึงกับต้องปิดฐานทัพตรวจค้นรถต้องสงสัย แม้ในเวลาต่อมา ทางฐานทัพดังกล่าว จะออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวก็ตาม http://dailycaller.com/…/no-fort-carson-soldiers-didnt-los…/
และเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นที่ยูเครนล่าสุด เกิดขึ้นพร้อมๆกับการ โจมตีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อปกปิดรายงานดังกล่าว นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐกำลังถูก บีบบังคับเจ้าของธนาคารกลาง เพื่อเดินหน้าทำสงครามโลกครั้งที่3 เพราะหายนะทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจาก ท่าเรือสหรัฐฝั่งตะวันตก กำลังจะถูกปิดตัวลง และเงินดอลลาร์กำลัง ถูกเทขายจากตลาดโลก โดยเฉพาะจีนและรัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆ
ภายหลังผลการเจรจา 4 ฝ่ายเพื่อหาทางออก แทบไม่มีผลอันใด้ เพราะมีแต่รัสเซียเท่านั้น ที่ยอมทำตามข้อตกลงดังกล่าว เพราะสหรัฐนอกจากไม่ยอมถอนนิวเคลียร์ออกมาแล้ว มิหนำซ้ำยังประกาศสนับสนุนอาวุธหนัก ให้กับรัฐบาลยูเครน และยังมีการจ้างบรรดานักรบรับจ้างจำนวนมาก ในยูเครนตะวันออก เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลายออกไป http://drwilliammount.blogspot.com/…/nuke-used-in-ukraine-a…
นอกจากนี้ บารัค โอบามา ได้ลงนามส่งทหารกว่า 4,000 นาย จากฟอร์ต คาร์ลสัน เข้าไปยังคูเวตเรียบร้อยแล้วครับ นับเป็นการเสริมทหารสหรัฐ ที่มากที่สุดครั้งหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อรอรับคำสั่งปฏิบัติการ ในการโจมตีเครือข่าย ISIS ตามคำให้สัมภาษณ์ของ พันเอก เครค เซียร์รา ผบ.กองกำลังดังกล่าว ซึ่งวางแผนจะทำสงครามในตะวันออกกลาง เพื่อทำลายเครือข่าย ISIS จนถึงปี 2018 ซึ่งเป้าหมายจริงๆ คือ ซีเรียและอิหร่านนั่นเอง
http://www.washingtontimes.com/…/fort-carson-combat-troops…/
ในสหรัฐอเมริกาเอง ภายหลังจากการเสียชีวิต ของผู้ประกาศข่าว อย่างปริศนา 4 ราย เพราะเกี่ยวข้องกับ ความพยายามเปิดเผย เบื้องหลังเหตุการณ์9/11 ทางรัฐบาลก็ได้ผ่านร่างกฎหมาย ให้อำนาจรัฐเข้ามากำกับดูแลและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับบริษัทเอกชน หรือพูดง่ายๆก็คือ ออกกฎหมายเพื่อควบคุม การเผยแพร่ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ ที่ต่อต้านรัฐบาลนั่นเอง http://www.washingtontimes.com/…/judson-phillips-obamas-wa…/
ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นไปเพื่อปูทาง ไปสู่การเตรียมการรับมือหายนะทางเศรษฐกิจ สงครามกลางเมืองในสหรัฐ และรวมถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 นั่นเอง..http://www.shtfplan.com/…/dhs-is-positioning-to-secretly-ar…