ขอคำแนะนำค่ะ การปฎิบัติตนระหว่างทางโลกและทางธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หนูนะโม, 30 มกราคม 2015.

  1. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    อันนี้ วิชา ชักแม่น้ำ 100 สาย
    เพลงกระบี่ ซำเหมาพ่อลูก่อน

    อุย โฆษณนาคั่น
     
  2. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    พี่เล่าปังแปลกๆ รึจะโดนพี่ขจรจัดการซะแล้ว
    เป็นตัวเป็นคนผุดออกมาเต็มเลย
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    แล้วแต่ จะมองจิฮับ

    แปลกกว่านี้ คุณพี่ก็เคยจัดให้เศษเดนคนนี้มาแล้ว

    จะแปลกอะไร หากวันนี้ ยังอยากจะยกสิ่งอื่นให้


    ฮิววววววววววววววววววส์
     
  4. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ร้อนมาเชียว
    ถอยดีกว่า ไม่ได้เจออาการแบบนี้มานาน
    สัญชาติญาณบอกอันตราย
    ลาล่ะครับ
    ปล.สำนวนพี่หนีลีลาพี่ขจร แบบนี้คูณสองเลย
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กั๊กๆๆๆๆๆ

    ว่าแต่ว่า หากคุณถามปัญหาธรรมผม

    คุณว่า ผมจะตอบปัญญานั้นไหมครับ ทั้งๆที่ เคยจัดหนักมาแว้ววววววว


    เธอเห็น ความร้อนนั่นไหม ว่ามันอยู่ในเมฆหรือเปล่า ........เธอเห็น .... นั่นไหม
     
  6. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ผมเห็นพี่ขจร
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กั๊กๆๆๆๆๆ

    ถ้าจะให้เหมือน ก็ต้องมี การประกาศบรรลุธรรม

    แต่นี่ ประกาศแต่กิเลสเต็มหัว ทั้งปัจจุบันที่กล่าว ครบถ้วนทุกขณะ
    และ ถ้อยคำ ที่ใช้ สังเกตได้ง่าย ไม่ยาก ไม่ต้องวิแคะ

    เหมือนตรงไหนหละฮับ หรือเหมือนที่ ลีลา อิอิ
     
  8. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ไม่หรอก ทุกครั้งต้องมีการสบัดออก เพิกจากตัวตัว นี่เอาตัวมาด้วย มันต่างออกไป
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อย่าลืมนะ ผมใช้หลาย ไอดี

    หลากลีลา ในบางครั้ง แต่ สักแป๊ปเดียว ลีลาจะดัดจริตได้ไม่นาน

    จะกลับมา แบบว่า ไม่น่าชอบใจ ไม่น่าฟัง ไม่น่าจดจำเอาไปใช้ เสียเลย

    ฮิวววววววส์
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ้า ก็คุยกับเด็กอนุบาล จะให้เพิกตัวเพิกตน

    เขาก็ไม่รู้สิครับว่า เขาเลิศกว่า มีกุศลยิ่งกว่า คนต่ำหยาบช้า

    แหม ................

    จะไม่ให้มีตัวมีตน มาช่วยปรากฏ ยกฝูงชนอื่นให้สูงกว่า บ้างเหรอ ฮับ
     
  11. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    " โสดาบัน "


    " ต้องไม่กินเหล้า "

    " ต้องไม่สูบบุหรี่ "

    ไปหาพี่สีดีกว่า
     
  12. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    จขกท ตั้งกระทู้ ถามความเห็นผู้อื่น ทำกันยังไง
    "อยากทราบการปฎิบัติตนในชีวิตประจำวันของนักปฎิบัติคะ "

    ไม่ได้ ถามว่า กูตั้งกระทู้แบบนี้ กูเป็นคนยังไง!!!


    สัตตบุรุษ ควรให้เกียรติ ต่อ ประเด็นคำถาม

    ไม่ใช่ ใครมาแสดงธรรมต่อหน้ากู เท่ากับหยามกู เท่ากับมาตบหน้ากูอย่างแรง กูจะเล่นมึงบ้าง ซะอย่างเดียว

    ฝีมือ ยังแค่ สะกด พยัญชนะ อยู่เลย
    จขกท จิตเขาไปถึงไหนแล้ว ยังหยั่งเขาไม่ได้ อีก

    แล้ว มาทำ สะอึก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2015
  13. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682

    ว้าว ว้าว
     
  14. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2015
  15. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    เข้าใจถูกแล้ว

    คำว่า สมาธิ คือ มีอาการอยู่กับปัจจุบัน
    อะไรที่อยู่กับ ปัจจุบัน คือ สมาธิหมด แม้แต่ กินข้าว ขับรถ เดินเหิร ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน

    เป้าหมายของ สมาธิภาวนา คือ อยู่กับความสงบ เอาความสงบเป็นปัจจุบัน

    เป้าหมายของ ฌาน คือ ความสงบ แบบปัจจุบัน ที่เวลานั้นแคบเข้าไปกว่า ในทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าใช้คำว่า "ขณะ"

    การที่จิต จิตเดียวทำสิ่งสองสิ่งได้พร้อมกัน เนืองจาก การเสพคุ้น อันนี้เป็นสิ่งไม่พีงประสงค์ให้เกิดขึ้น
    เพราะเป็นจุดกำเนิดของอนุสัย ความเคยชิน การหลงลืมสติ การกระทำหรือแสดงออกโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

    บางคนถึงกับ เอามากล่าวอ้างว่า กูสำเร็จแล้ว กูบรรลุแล้ว แต่ที่เป็นอยู่นี้ ด่าคน ตะโกนโวยวาย รำไปเดินไป เพราะจริตเดิมของกู
    (พระพุทธเจ้า สอนให้ สำรวม(กาย วาจา ใจ) มันเอาที่ไหนมากล่าวอ้าง!!! ว่า กูต้องทำตามจริตเดิม )

    เราจึงจะไม่ พุทโธ ขณะท่องหนังสือ ให้จิต อยู่กับ หนังสือ เป็น ปัจจุบัน เพียงเท่านั้น


    พระพุทธเจ้าบอกว่า "ให้เรายึดนิมิตใดๆก็ได้ ที่ทำให้เรารวมจิตลงได้ อย่าได้ทิ้งนิมิตนั้นทุกขณะ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2015
  16. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่านี่ !!!
     
  17. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    นี่แหละ ธรรม ของจริง อิอิ

    มีตัวอย่างให้เห็น แจ่ม
     
  18. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ความสงบของเจ้าของกระทู้ ที่ท่านอยู่คนเดียวท่านสงบได้ เพราะอาศัยความวิเวก ของสภาวะแวดล้อม ที่กระทบกาย กายวิเวกใจท่านจึงวิเวก
    เมื่อท่านทำหน้าที่ปกติทางโลก ต้องพบปะผู้คน ท่านไม่มีความสงบ เพราะกายไม่วิเวก จิตก็ไม่วิเวกตามกาย ใจก็ไม่สงบ
    ทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่สงบนี้เพราะจิตท่านไม่มีวิราคะ จิตจึงเกาะเกี่ยวไปทั่ว พบเจออาการ อารมย์ใดจิตก็ไปเกาะหมด เพราะจิตที่ไม่มีวิราคะ จิตก็ไม่สงบ จิตไม่สงบนิโรธก็ไม่เกิดขึ้น


    จิตผู้เข้าถึง อริยะมรรค อริยะผล ความสงบที่เกิดขึ้นเป็นปกติจิต อันเกิดจากสภาวะธรรม 3 ประการ คือ วิเวก วิราคะ นิโรธ
    ดังนั้น ผู้เข้าถึงอริยะมรรค อริยะผล อยู่ตรงไหน อยู่ที่ใดก็ใจก็สงบ เพราะความไม่เกาะเกี่ยวสิ่งใดของจิต เพราะการที่จิตหลุดพ้นโดยสิ้นเชิง
    ดังนั้นผู้เข้าถึงอริยะมรรค อริยะผล แล้วจึงปราศจากความฟุ่งซ่านในใจทั้งปวง (ความฟุ่งซ่านเอาชนะได้ง่าย เมื่อเทียบกับอวิชชาซึ่งเอาชนะได้ยากกว่า)

    ปัจจุบันมีผู้หลงผิดจำนวนมากที่บอกว่า ระวังติดความสงบ ติดสุข หารู้ไม่ว่าทั้งตัวคนที่พูดก็ดี ท่านที่สอนว่าจะติดสุขจากสงบก็ดี คือ ผู้ที่ไม่รู้จริงเรื่อง วิปัสสนาณานเลย และก็จะไม่สามารถเข้าถึงความป็นพุทธในจิตได้ หารู้ไม่ว่าความสงบของ จิตผู้เข้าถึง อริยะมรรค อริยะผล เกิดจากสภาวะธรรม 3 ประการคือ วิเวก วิราคะ นิโรธ ไม่เหมือนกับความสงบของสัตว์โลกทั่วไป

    ความสงบของผู้เข้าถึงอริยะมรรค อริยะผลเป็นอย่างไร

    ความสงบของผู้เข้าถึงอริยะมรรค อริยะผล ไม่ได้เกิดจากการเพ่งให้สงบ หรือ ไม่ได้เกิดจากบังคับให้สงบ หรือ ไม่ได้เกิดจากกำหนดใดๆให้สงบ
    จิตสงบเพราะความหลุดพ้นของจิต เพราะความไม่เกาะเกี่ยวสิ่งใดของจิต เป็นความสงบที่เกิดจากสภาวะจิตปกติ
    สภาวะธรรมที่เกิด ขึ้นมีเพียงอย่างเดียวแก่จิต คือ สติบริสุทธิ์
    ความบริสุทธิ์ของจิต คือ การที่จิตไม่ปรากฏซึ่งอาการใด และไม่ปรากฏกิริยาใดๆของจิตอีกต่อไป


    ผู้ที่ทำความสงบให้เกิดขึ้นได้ในสภาวะปกติจิต ผู้มีสติบริสุทธิ์ คือ ผู้ที่เข้าถึงทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) หรือ มรรคมีองค์ 8 เท่านั้น

    ถ้าท่านจะปรารถนาเข้าถึงทางสายกลาง(มัชฌิมาปฏิปทา) หรือ มรรคมีองค์ 8 ท่านทำความสงบให้เกิดขึ้นโดยปกติ ไม่ได้อาศัยการเพ่งการกำหนด แต่อาศัยสติ และสัมปชัญยะ(ความรู้ตัว)เพียงเท่านี้ ท่านจะเข้าถึงทางสายกลางที่ถูกต้อง
    ผู้ปฏิบัติโดยมาก ปฏิบัติกันยากกว่านี้ ที่ปฏิบัติกันยาก เพราะความเข้าใจในสภาวะธรรมของผู้สอนแตกต่างกัน พระธรรมเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยาก รู้เองได้ยาก สอนได้ยาก

    สำหรับ ผู้ที่ยังไม่สามารถหาความสงบได้ ไม่สามารถทำจิตให้สงบได้ ท่านจำเป็นต้องกำหนด ต้องเพ่ง ต้องรู้จักควบคุมจิตให้สงบก่อน ถ้าควบคุมจิตไม่ได้ จะไม่สามารถเข้าถึงทางสายกลางได้(มัชฌิมาปฏิปทา) ไม่ว่าจะกี่ชาติก็ตาม


    แม้แต่พระอริยะเจ้าในกึ่งพระพุทธศาสนาจำนวนมาก คำสอนก็ไม่ตรงกับองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นคำสอนที่ยากมากในการเข้าถึง ยิ่งไม่ตรงยิ่งยากต่อการปฏิบัติ แต่สิ่งที่เราสอน และเคยสอนทั้งหมด ในเว็บนี้ ไม่ว่าเราจะกลับคำสอนอย่างไร สอนจากหลังไปหน้า จากหน้าไปหลัง หรือจะยกคำสอนส่วนใดขึ้นสอน คำสอนนั้นก็ตรงกับพระธรรมที่องค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน ทุกประการ นี้คือ ความอัศจรรย์ของพระธรรม สำหรับผู้ที่เข้าถึงพระธรรมที่ถูกต้องอธิบายอย่างไรก็เป็นพระธรรมที่ปฏิบัติได้จริง พ้นจากทุกข์ได้จริง เพียงแต่ไม่มีท่านใดรู้ว่าคำสอนเรานี้ถูกต้องตรงต่อธรรม ท่านจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเข้าถึงที่เราสอนเท่านั้น

    สำหรับท่านที่เข้าใจพุทธวจนะผิดว่า จิตบังคับไม่ได้ จิตเกิดดับ ทำให้ ไม่รู้จักควบคุมจิต บังคับจิต จะให้หลุดพ้นตามยถากรรม เป็นไปได้หรือ ตามที่เคยบอกไปแล้วว่า สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่สามารถเข้าใจความหมายของ องค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ คือ สิ่งที่ถูกต้อง
    อย่าว่าแต่สัตว์โลกเลย แม้พระอรหันต์ที่ไม่ใช่ ผู้ที่เข้าถึงทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) หรือ ปฏิสัมภิทา ก็ไม่สามารถเข้าใจความหมายของพระธรรมองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ เช่นเดียวกัน
    (วันหนึ่งหากเรายกพุทธวจนะที่เข้าใจกันผิดนี้ ให้ทราบผู้อ่านจะได้ทราบว่าความเข้าใจของผู้เข้าถึงธรรมกับสัตว์โลกแตกต่างกัน )

    คำสอนเรานี้ตรงกับคำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านที่อธิบายขัดกับเรา คือ ผู้ที่ขัดกับคำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น คำสอนเราจึงถือเป็นที่สุด

    เราพิมพ์สอนนี้เพื่อสอนท่านผู้อ่านทุกๆท่านในกระทู้ รวมถึงเคยมีผู้ถามธรรมที่เราปฏิบัติ ดังนั้นคำสอนเราจึงไม่เฉพาะเจาะจงเฉพาะท่านเจ้าของกระทู้ ให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านโดยรวม แต่ก็เพราะเจ้าของกระทู้เจตนาดียกธรรมของหลวงตามหาบัวมาสอนคนในเว็บจึงได้มาแนะนำวันนี้(บางท่านที่ยังเข้าใจว่าเราอวดภูมิธรรม ให้จำไว้เลยว่ากับทุกท่านในโลกนี้ ไม่ใช่เฉพาะกับผู้ที่อ่านเว็บนี้ เราไม่มีอะไรจะอวดให้ดูเหนือกว่าเด่นกว่า ที่สอนทั้งหมดล้วนเป็นไปตามธรรม ธรรมปรากฏอย่างไรก็อธิบายไปตามนั้น เป็นไปตามเจตนาการสงเคราะห์ธรรม และถ้าจะคิดว่าจะอวดพวกท่านขออยู่เฉยๆดีกว่าเสียเวลาพิมพ์ อีกอย่างหนึ่งกับผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงอะไรกันเลย มันน่าอวดมากนักหรืออย่างไร )

    ประหนึ่งผู้เข้าถึงธรรมนั้น คือ มหาเศรษฐี ที่มีทรัพย์สินมากมายจนนับไม่ได้ ครั้น
    มหาเศรษฐี พบเจอผู้ยากไร้ไม่มีทรัพย์ (ผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรม)ที่มีเป็นจำนวนมากมาย สิ่งที่ มหาเศรษฐี ทำได้คือ บริจาคทรัพย์สินมากมายจนนับไม่ได้ให้กับผู้ยากไร้ไม่มีทรัพย์ ส่วนผู้ยากไร้ไม่มีทรัพย์ ใครจะรับก็รับ ไม่รับก็เรื่องของเขา
    มหาเศรษฐีผู้นั้น คงไม่พยายามยัดเยียดทรัพย์ให้กับคนยากไร้ และมหาเศรษฐีผู้นั้น ก็คงไม่นำทรัพย์สินมากมายจนนับไม่ได้มาอวดผู้ยากไร้ไม่มีทรัพย์ เพราะไม่ใช่สิ่งที่มหาเศรษฐีในโลกพึ่งกระทำ (
    ทรัพย์ ก็ คือ พระธรรม) สิ่งที่มหาเศรษฐีทำ คือ บริจาคทรัพย์ แล้วก็ไป สิ่งที่มักจะได้เห็นกัน คือ ผู้ยากไร้ไม่มีทรัพย์ มักนำทรัพยสินปลอมๆมาอวดกันเอง
     
  19. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ..................ถ้าเอาเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ได้ อวย อะไร...อันนี้ ท่านก็แนะนำอยู่แล้ว.................".คำว่า เพียงแค่ รู้ " นั้นแหละ...ไม่ได้ รู้เป็น เรื่องเป็นราวอะไร...แต่รู้ว่า กำลังคิด หรือ รู้ กายคตาสติ คู้เหยียด เคลื่อนใหวเป็น สภาพธรรม..............ก้เพียงแค่รู้ นั้นแหละ ....รู้อยู่ที่ปัจจุบันธรรม....จะเรียก ว่า เนืองเนือง ก็ได้.....เมื่อนั้น ถึงจะเรียกได้ว่า มีสติ อนุสติ มีผู้รู้ และ สิ่งที่ถูกรู้ได้ เนืองเนือง(ยังไงก็มีการหลงอารมณ์ แต่ หลงอารมณ์ เมื่อรู้ทัน ปัจจุบันขณะนั้น ก็ คือการมีสติ อนุสติ สติ):cool:
     
  20. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    นี่แหละ โรดแมปสำคัญเลย ติดกระดุมผิดเม็ดแรก เม็ดที่สองก็ต้องผิด

    เมื่อเข้าใจผิดตั้งแต่ต้น ทั้งที่ตนยังเป็นปุถุชน ย่อมจะรู้ผิดของการฝึกการเจริญ สร้างความสงบของใจ แต่กลับไปจับเอาผลมาชนต้น

    ย่อมไม่รู้จักสร้างสิ่งกุศล เพื่อมาชำระล้างอกุศล มิใช่ว่ายังไม่ฝึกหัดใดๆเลย

    แต่กลับเข้าใจแต่ต้นว่า จิตมีความผันแปรไปตามปัจจยการ เป็นไปตามยถากรรม ไม่ใช่!!

    จะเห็นได้ว่าพระอริยเจ้าทั้งหลายนั้น ผู้เข้าถึงความไม่มีใดๆในโลกแล้ว

    ท่านจะสอนให้ปุถุชน คนเดินทาง รู้จักฝึกจิต ควบคุมจิตด้วยความมีสติ
    มีสังวรด้วยพลังแห่งกุศล กุศโลบายทั้งหลายนั้น ก็มีทั้ง ทาน ศีล สมาธิ

    แต่ถ้าเข้าใจว่า จิตบังคับบัญชาไม่ได้ แต่ต้น ย่อมจะไม่เข้าถึงประโยชน์อย่างใหญ่ ย่อมเป็นจิตที่ปราศจากธรรมคุ้มครอง

    การฝึกจิตอบรมจิตให้เจริญ เพื่อให้รู้ชัดว่า กายและจิตนี้ไม่ใช่ของๆเรา และนั่นคือเบื้องปลาย

     

แชร์หน้านี้

Loading...