มีไครเป็นบ้างแค่หลับตาก็เห็นภาพขึ่นมา

อย่างหนังเรื่อง อินเซพชั่น ฝันซ้อนฝัน เข้าไปเปลี่ยนฝันของคนอื่น
ดูแล้วเหมือนจะเว่อร์เกิน แต่มันก็คือ การแก้ไขกรรมในใจของคนอื่นนั่นเอง
มันทำได้ เรียกว่า เข้าไปแก้ในจิตไต้สำนึก เหมือนเทพพรหมหรือพระ ที่มาสอนเราในฝันนั่นเองครับ

 

หรือเรียกว่า จิตมันมีพลัง(ฌาณ) พอที่จะ วิปัสนาด้วยตัวของมันเอง

ความสงบ หรือฌาณ จำเป็นมากในการวิปัสนา(แปลว่าทุกการวิปัสสนาถ้าไม่มีสติรู้ทันมันปัญญาก็เกิดไม่ได้นั่นเองครับ

สำคัญนะครับ แต่คนส่วนน้อยมากที่จะเข้าใจได้ว่า แล้วต้องฌาณระดับไหนล่ะ ถึงจะรู้ทัน
ก็ต้องฝึก แล้วจะรู้เองครับ

 

รู้หมดแต่ตนเองทำไม่ได้ ผลคืออะไร

ไม่ต้องรู้หมด แต่เข้าใจในตนเองว่าทำได้แค่ไหน ผลคืออะไร

ที่ถามสองข้อข้างบน คนที่ฝึกสติมาถึงจะตอบคำถามได้ครับ

 

ภพภูมิอื่นเกิดจากอะไร มนุษย์ต่างดาวเกิดจากอะไร
เกิดจากจิตวิญญาณอยากสร้างร่างเอง แบบไม่อยากมาเกิดในโลก
พวกอยากเอาชนะธรรมชาติ นั่นเอง

 

ตอนเป็นมนุษย์มันฝึกสร้างจิตจนเป็นรูปเป็นร่าง เป็นตัวเป็นตนจนเป็นกายทิพย์ร่างทิพย์
แล้วเข้าใจว่าตนเองเป็นพระเจ้า ได้ จึง พยายามสร้างร่างกายจากธาตุ ด้วยหลายวิธี
บางพวก เข้าแทรกร่างผู้อื่น บางพวกสร้างร่างจำลองจากหลอดแก้ว แล้วค่อยเอาจิตตนเองเข้าสวมร่าง แต่สิ่งที่ผิดธรรมชาติคือ มีอายตนะไม่ครบสมบูรณ์ เหมือนมนุษย์ที่เกิดจากครรภ์มารดา

ที่สุดจึงรู้ว่า ตนเองหลงทางเกินเยียวยา

 

พวกที่หลงอยากมีชีวิตอมตะ ชีวิตนิรันดร์ พวกที่คิดว่าตนเองเอาชนะธรรมชาติ เอาชนะพระเจ้าได้ แต่หาได้สำเหนียกไม่ว่า ตนเองผิดธรรมชาติไป
สุดท้าย ก็ต้องกลับมาที่จุดกำเนิดที่โลกเหมือนเดิม เพื่อค้นหาแก้ไขเหตุแห่งความผิดพลาดของตนเอง ในที่สุด

 

จะทำลาย จิตอวิชชา อัตตาตัวตนที่มีอยู่ ได้อย่างไร

อยากนิพพาน นั่นเอง อิอิ ขำมาก

 

นรกหรือสวรรค์ ล้วน หลงทางเกินเยียวยาได้เหมือนกัน
เพราะ ความหลง ใครเล่าจะเข้าใจว่ามันทำได้ทุกอย่าง แม้ทำร้ายตนเอง
แต่ก็อย่างว่าแหล่ะครับ ยังเหลือยุคพระศรีอาริย์ อยู่
เขาเหล่านั้น ต้อง บอกกับตัวเองแล้วล่ะว่า จะเอายังไงกับตัวตนที่มีอยู่

 

ในวัฏะสงสารนี้ ในสามโลกนี้ ในทุกภพภูมินี้
ผู้ที่เก่งที่สุดในสามโลกก็คือ มนุษย์ปกติธรรมดา เท่านั้นครับ
ไม่มีอะไรเกิน มนุษย์ธรรมดา ไปได้

 

ในโลก มนุษย์ที่แท้จริงนั้นหายาก ส่วนมากที่มีอวิชชาคือ มีจิตอมนุษย์นั่นเอง
แต่ไช่ว่ามนุษย์ปกติธรรมดาจะไม่มี

มีอยู่ครับ ผมล่ะ คนนึง อิอิ

ขอชี้นิ้วท้าสรรพจิตทั่วทุกอนันตจักรวาล ว่า แน่จริง กล้าเป็นมนุษย์ปกติธรรมดาได้มั้ยล่ะ

 

มนุษย์ปกติธรรมดาคือ เกิดจริง เจ็บจริง ป่วยจริง ตายจริง ไม่ใช้สลิง ไม่ไช้ตัวแสดงแทน ไม่มีทุกข์ ไม่หลงโลก มาจากศูนย์ก็กลับสู่ศูนย์

 

ดวงตาเห็นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่งสิ่งที่ดวงตาไม่เห็น คือดวงตาเอง ท่านจะเห็นแต่ในกระจก แต่กระจกก็ไม่ใช่ดวงตา ในเมื่อท่านไม่เห็นดวงตาตนเอง ท่านอย่าเชื่อใจว่าท่านเดินถูกทางเสมอไป

 

สิ่งที่ดวงตาเห็นเราก็เห็น สิ่งที่ดวงตาไม่เห็นเราก็รู้ ดวงตาเราเองเราก็รู้
ทั้งหมด ที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รับรส ได้สัมผัสหรือไม่ได้สัมผัส เราก็รู้ ทั้งหมดสำคัญที่ รู้แล้วสงสัยต่อหรือไม่ ถ้าไม่รู้ยังจะสงสัยมันต่อไปหรือ สำหรับผมคือ ไม่ ไม่มีอะไรสงสัย

ผมไม่ได้สงสัยอะไรในดวงตาของตนเอง แม้ในรู้ ผมก็ไม่ได้สงสัยอะไรครับ
ผมไม่ได้ชื่ออะไร เกิน กายใจของตนเองที่ รับรู้ได้

 

เพราะเป็นเช่นนี้เราจึงต้องเห็นดวงตาตนเองก่อน หรือเรียกว่าเห็นตนเองนั้นแล จึงจะเห็นผู้อื่นได้ การเห็นก็คือเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณของเราเอง ท่านทำได้หรือปล่าว เราทำได้เราจึงกล่าวเช่นนี้ เราจะเห็นตัวเราเอง เคลื่อนออกจากตัวเราเอง เสมือนรถไฟกำลังเคลื่อนออกจากสะถานี แล้วตัวเราก็ยืนอยู่ตรงหน้าเราเอง อันนี้เป็นธรรมของพระพุทธองค์ ชึ่งมีแต่คนมองผ่านแม้แต่ตัวคุณเอง ดังนั้นคุณย่อมสงสัยอยู่เสมอ

 

มักเป็นตอนตื่นนอน ตื่นปุ๊บ เดินไปสักพัก จะมีภาพ สถานที่ หรือ บุคคล ที่แทบจะไม่เคยรู้จักเลย เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเป็นแล้ว

:boo:

 

ไม่ว่าหลับหรือตื่นคุณทั้งสองก็เป็นเหมือนผมว่า ผมว่าเป็นเหมือนผมว่า และอย่างที่ผมว่าไว้ ดังเช่นนี้เสมอเหมือน เหมือนผมว่านั้นแลดอกเด่

 

กำลังเป็นเหมือนกันค่ะ

 

เคย ตอนดึกมากคืนหนึ่ง กำลังดูภาพพีระมิด จู่ๆ จอสี่เหลี่ยม ภาพในจอสีเทาๆ โผล่มา แว้บนึง พอ งงๆ จะเพ่งมองให้ชัดๆ ก็หายไปค่ะ

 

อณูวิญญาณครับ

 

เป็นบ่อยครับ แต่ก็นะ -_- ไม่รู้เหมือนกันว่าคือที่ไหน ถ้าถามพระท่านจะบอกว่ามันคือปิติอย่างหนึ่ง ประมาณว่า จิตนิ่งมีสมาธิ ที่สำคัญ ไม่วอกแวก

อยากทำให้ง่ายดื่มกาแฟซักแก้วก่อนนอน แล้วนอนสมาธิ มีสติอย่าหลับทำให้นิ่ง เมื่อเริ่มเห็นให้เฉยๆจนมันชัดเหมือนจริง แต่อย่าให้หลุ (ถ้าหลุดจะไม่หนุกเพราะไม่ได้ดั่งใจ) แค่หลุดเค้าไปในนั้น อย่าให้ไปหมด คราวนี้ลองดู ถ้าเห็นชัดอย่าเพ่ง(มองตรง ให้เฉยแต่สังเกตุ) คราวนี้เมื่อเราหันหัวภาพจะหันตามแม้ปิดตาอยู่หรือลุกขึ้นเดิน (แนะนำนอนเฉยๆหันแต่หัวและที่สำคัญ สติกับสมาธิครับ :VO ได้ผลไง pm มาได้นะ หรือเมล์มา al-amyadh@hotmail.com อยากได้เพื่อนที่คุยกันรู้เรื่องในบางเรื่องเหมือนกัน ^_^