ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตติด SM3 ทยอยเข้าแปซิฟิกตะวันตกอีก 3 ลำ รับมือขีปนาวุธจีน-เกาหลีเหนือ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2557 17:49 น.

    [​IMG]
    @เรือเบนโฟลด์ (USS Benfold, DDG 65) แล่นในทะเลอันดามัน นอกฝั่งเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ในภาพวันที่ 19 ม.ค.2548 เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือใช้เรือพิฆาตลำนี้เป็นแหล่งเติมเชื้อเพลิงเฉาะกิจ ระหว่างออกกู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยในโศกนาฏกรรมคลื่นสึนามิ เรือเบนโฟลด์ในขณะนั้นสังกัดกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี ที่นำโดยเรืออับราฮัม ลินคอล์น (USS Abraham Lincoln, CVN 72) เรือเบนโฟลด์เข้าอัปเกรดเมื่อปี 2554 ปัจจุบันมีความสามารถยิงจราด SM 3 ทำลายขีปนาวุธโจมตีระยะไกล Ballistic Missile ของข้าศึก ปลายปีหน้าจะกลับมาย่านนี้อีก. -- US Navy Photo/Journalist 1st Class James Pinsky./


    ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กองทัพเรือสหรัฐฯ ประกาศในวันพฤหัสบดี 16 ต.ค. (17 ต.ค.เวลาในโซนเอเชีย) เกี่ยวกับแผนการส่งเรือพิฆาตทันสมัยที่สุด 3 ลำ ที่มีขีดความสามารถในการยิงโจมตี ทำลายขีปนาวุธระยะไกลโจมตีแนวดิ่ง หรือ Ballistic Missile เพื่อไปประจำการที่ฐานทัพโยโกสุกะ (Yokosuka) ในญี่ปุ่นระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งกองทัพเรือกล่าวในเว็บไซต์ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ในกองกำลังทางเรือที่ประจำการในภูมิภาคเอเชีย-อินโดแปซิฟิก และเป็นส่วนหนึ่งในแผนการ “กลับคืนสู่เอเชีย” ของสหรัฐฯ

    2 ลำแรกเป็นเรือที่จะส่งเข้ามาเพิ่มเติมในภูมิภาคนี้ อีก 1 ลำเป็นเรือพิฆาตชั้นเดียวกันที่ผ่านการอัปเกรดเพื่อประจำการแทนเรือรุ่นเก่า ที่ได้เวลาจะต้องอัปเกรดช่วงกึ่งอายุประจำการ

    นายชัก เฮเกล (Chuck Hagel) รัฐมนตรีกลาโหม เคยประกาศเมื่อต้นปีเกี่ยวกับการจะส่งเรือพิฆาตสุดทันสมัยจำนวน 2 ลำ ไปประจำการที่ฐานทัพในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งกองกำลังส่วนหน้าของกองทัพเรือที่ 7 แต่ยังไม่เคยได้รับการยืนยันจากเจ้าของงาน คือ กองทัพเรือจนกระทั่งสัปดาห์นี้

    เรือเบนโฟลด์ (USS Benfold, DDG 65) กับเรือมีเลียส (USS Milius, DDG 69) เป็นเรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์ก (Arliegh Burke Class) ลำแรกๆ ที่ต่อออกมารุ่นแรก หรือที่เรียกว่า “Flight I” เป็นจำนวน 21 ลำ และนำเข้าประจำการในช่วงทศวรรษที่ 1990 ทั้ง 2 ลำได้ผ่านการอัปเกรดช่วงกึ่งอายุเมื่อปี 2554 และผ่านการอัปเกรดด้านเครื่องยนต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งติดตั้งระบบป้องกัน-โจมตีแบบเอจิส (Aegis) รุ่นล่าสุด เช่นเดียวกันเรือรุ่นน้องในชั้นเดียวกันที่ต่อออกมาในยุคหลัง ปัจจุบันทั้ง 2 ลำ ประจำอยู่ที่ฐานทัพซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย

    เบนโฟลด์ กับมีเลียส เป็นลำแรกๆ ในบรรดาเรือชั้นอาร์ลีเบิร์ก 21 ลำ กับเรือลาดตระเวนชั้นติคอนเดโรกา (Ticonderoga Class) 4 ลำ ที่กองทัพเรือจะติดตั้งระบบเอจิสรุ่นใหม่ล่าสุด ให้มีขีดความสามารถในการป้องกัน-ยิงทำลายขีปนาวุธโจมตีระยะไกลของข้าศึก ซึ่งตามข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชน จนถึงสิ้นปี 2552 มีเรือพิฆาตที่ผ่านการอัปเกรด ขึ้นสู่มาตรฐานใหม่แล้วเสร็จ จำนวน 15 ลำ จากทั้งหมด 62 ลำ ที่ประจำการในขณะนี้

    ปัจจุบัน สหรัฐฯ ต่อเรือชั้นอาร์ลีย์เบิร์กออกมาเป็น Flight IIA ลำล่าสุดคือ ไมเคิล เมอร์ฟีย์ (USS Michael Murphy, DDG 112) ประจำการที่ฐานทัพอ่าวเพิร์ล ตั้งแต่ปลายปี 2552 ปัจจุบันกำลังต่ออีก 5 ลำ คือ DDG 113-DDG 117 นอกจากนั้น ยังมีอีก 9 ลำ ทั้ง Flight 2A และ Flight III คือ DDG 118-DDG 126 อยู่ในขั้นตอนจัดหา

    ในขณะที่ใช้ SM 2 (Standard Missile 2) ยิงต่อสู้อากาศยานในระยะไกล เป็นอาวุธมาตรฐานหนึ่งในระบบป้องกันทางอากาศในเรือพิฆาตกับเรือลาดตระเวน จรวด SM 3 พัฒนาขึ้นมาใช้สำหรับยิงขีปนาวุธนำวิถีระยะไกล ที่ตกลงสู่เป้าหมายในแนวดิ่งแบบ Ballistic Missile ซึ่งป้องกันได้ยากยิ่งกว่า และ SM 3 ยังใช้ยิงทำลายดาวเทียมจารกรรมของข้าศึกได้อีกด้วย
    .
    <iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/n7wKEQFf5JY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Uysu0__f8Rw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    .
    ตามข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ในช่วงหลายปีมานี้ สหรัฐฯ ทดลองยิงจรวด SM 3 มาแล้ว 85 ครั้ง ในนั้นกว่า 60 ครั้ง ที่จรวดทำลายเป้าหมายได้สำเร็จ ขณะที่การพัฒนาทางเทคโนโลยียังดำเนินต่อไป

    อย่างไรก็ตาม จรวด SM 3 ไม่ใช่อาวุธเพียงชนิดเดียวที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ผลิตออกมาเพื่อใช้ยิงทำลาย Ballistic Missile ของข้าศึก ซึ่งมหาอำนาจนิวเคลียร์ต่างผลิตออกมามากมายหลายรุ่น หลายขนาด และหลายระดับชั้น ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น รวมทั้งจรวดยิงโจมตีข้ามทวีปทีมีพิสัยทำการตั้งแต่ 5,500 กิโลเมตรขึ้นไป จนถึงขนาดเล็กลงเป็นจรวดระยะกลาง และระยะใกล้ 300-500 กิโลเมตร

    การโยกย้ายเรือเบนโฟลด์ กับเรือมีเลียส จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการวางกำลังป้องกันครั้งสำคัญ หลังจากเกาหลีเหนือได้ทดลองยิงจรวดติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยใกล้ ประสบความสำเร็จ และเกิดความระหองระแหงระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ จีนได้พัฒนาระบบจรวดโจมตีระยะไกลออกมาอีกหลากหลายรุ่น มีขีดความสามารถติดทั้งหัวรบธรรมดา และหัวรบนิวเคลียร์ และมีรัศมีทำการถึงฐานทัพสหรัฐฯ ในย่านนี้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าจีนจะประกาศตัวเองเป็นประเทศที่จะไม่เป็นฝายใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อนก็ตาม
    .
    [​IMG]
    @เรือพิฆาตเบนโฟลด์ (USS Benfold, DDG 65) ในภาพวันที่ 11 ก.ค.2553 ทดลองยิงจรวด SM 2 ระหว่างฝึก RIMPAC 2010 ที่บริเวณนอกชายฝั่งฮาวาย ซึ่งในปลายปีเดียวกันเรือเบนโฟลด์ก็เข้าสู่การอัปเกรด ติดตั้งระบบเอจิส (Aegis) รุ่นล่าสุด มีขีดความสามารถยิงทำลาย ขีปนาวุธโจมตีระยะไกลในแนวดิ่ง (Ballistic Missile) ของข้าศึกได้ สหรัฐจะส่งเรือลำนี้ กลับสู่ย่านเอเชียแปซิฟิกตะวันตกปลายปีหน้า. -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 2nd lass Mark Logico.


    2

    จีนให้เหตุผลว่า เมื่อฝ่ายสหรัฐฯ พัฒนาระบบจรวดต่อต้านขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จีนก็มีความจำเป็นต้องพัฒนาระบบจรวดโจมตีที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อประโยชน์ในเชิงป้องปราม เพราะจะช่วยให้สามารถยิงตอบโต้ได้ในกรณีที่เป็นฝ่ายถูกโจมตีก่อน

    เมื่อต้นปีนี้สหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างชัดเจนเกี่ยวกับพันธสัญญาที่จะต้องป้องกันญี่ปุ่น ถ้าหากถูกฝ่ายจีนโจมตีในความขัดแย้งกรณีเกาะเซ็นกากุ ในทะเลจีนตะวันออก ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็กล่าวว่า มีพันธกรณีตามกฎหมายที่จะต้องป้องกันเกาหลีใต้ หากถูกเกาหลีเหนือโจมตี หรือรุกราน

    แผนการโยกย้ายเรือพิฆาตทันสมัยทั้ง 2 ลำเข้าสู่ย่านนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการกลับสู่เอเชียของสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในปี 2555 ในขณะที่ นายจอห์น เมบัส (John Mabus) รัฐมนตรีทบวงกองทัพเรือสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ที่ฐานทัพโยโกสุกะ ในเดือน ก.ค.ปีนี้ ตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า สหรัฐฯ กำลังจะส่งเรือพิฆาตรูปทรง “ล่องหน” ล้ำยุค ซึ่งหมายถึงเรือซูมวอลต์ (USS Zumwalt, DDG 1000) ที่กำลังต่อ และก่อสร้างในขณะนี้ กับเรือโจมตีชายฝั่ง (Littoral Combat Ship) เข้าสู่ย่านแปซิฟิกตะวันตกอีกในช่วงปีข้างหน้า เพื่อสร้างดุลอำนาจในภูมิภาคที่เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก

    การประกาศส่งเรืออาร์ลีห์เบิร์กทั้ง 2 ลำเข้าประจำการในญี่ปุ่น ก็ยังมีขึ้นเพียงข้ามสัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ นำเข้าประจำการเรือโจมตียกพลขึ้นบก ยูเอสเอสอเมริกา (USS America, LHA 6) ซึ่งเป็นเรือรุ่นใหม่ล่าสุด เทคโนโลยีทันสมัยที่สุด สำหรับกองกำลังนาวิกโยธิน พิธีจัดขึ้นที่ท่าเรือซานฟรานซิสโก ในวันเสาร์ 11 ต.ค.2557

    เรือชั้นอเมริกา เป็นเรือขนาด 45,000 ตัน ใหญ่กว่าเรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดีย และของฝรั่งเศส ใหญ่โตกว่าเรือ “เหลียวหนิง” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน และยังเป็นเรือโจมตียกพลขึ้นบกลำแรก ที่ออกแบบมา รองรับอากาศปีกหมุน V-22 “ออสปรีย์” กับเครื่องบินโจมตีขึ้นลงในแนวดิ่ง F-35B ปัจจุบันอีก 2 ลำ อยู่ระหว่างการต่อและก่อสร้าง จากทั้งหมด 7-8 ลำในโครงการ

    กองทัพเรือสหรัฐฯ นำเข้าประจำการเรือชั้นอเมริกา เพื่อใช้แทนเรือชั้นเปเลลีว (Peleliu Class) ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคปลายสงครามเวียดนาม และปลดระวางประจำการไป ในขณะเดียวกัน จะไม่มีการต่อเพิ่ม เรือโจมตียกพลขึ้นบกชั้นวอสป์ (Wasp Class) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จำนวน 8 ลำ คือ LHD 1-8

    พร้อมๆ กับประกาศเคลื่อนเรือเบนโฟลด์ กับเรือมีเลียส เข้าฐานทัพในญี่ปุ่น ในปี 2559 นี้กองทัพเรือสหรัฐฯ จะโยกเรือพิฆาตแบรี (USS Barry, DDG 52) จากซานดิเอโกอีกลำหนึ่ง ไปประจำการที่โยโกสุกะ แทนเรือแลสเซน (USS Lasssen, DDG 82) ซึ่งเรือแบรีเป็นอีกลำหนึ่งที่ผ่านการพัฒนาขีดความสามารถให้ยิงทำลาย Ballistic Missile ส่วนลำหลังจะกลับไปยังฐานทัพเมย์พอร์ต รัฐฟลอริดา เพื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาปรับปรุงช่วงกึ่งอายุประจำการ
    .

    [​IMG]
    @เรือมีเลียส (USS Milius, DDG 69) ในทะเลอาระเบีย ในภาพวันที่ 18 ก.ค.2555 ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในสังกัดกองเรือทัพเรือที่ 5 ปัจจุบันเรือมีเลียส ประจำที่ฐานทัพซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย กองทัพเรือสหรัฐประกาศในสัปดาห์นี้ว่า จะส่งไปประจำการกองทัพเรือที่ 7 ใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งอยู่ในแผนการกลับคืนสู่เอเชียแปซิฟิก เรือมีเลียสผ่านการอัปเกรด และ สามารถยิงทำลาย ขีปนาวุธโจมตีระยะไกล Ballistic Missile ของข้าศึกได้เช่นกัน. -- US Navy Photo/Electrician's Mate 3rd Class Robert Bataille.


    3

    ตามข้อมูลที่ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” รวบรวมได้จากเว็บไซต์กองทัพสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีความเคลื่อนไหวสำคัญอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งของเหล่าทัพต่างๆ เกี่ยวกับแผนการกลับคืนสู่เอเชียแปซิฟิกของสหรัฐฯ

    ปีหน้ากองทัพเรือที่ 7 จะโยกเรือแอนทีแทม (USS Anthietam, CG 54) ไปประจำการที่โยโกสุกะ แทนเรือคาวเพน (USS Cowpens, CG 63) ทั้ง 2 ลำเป็นเรือลาดตระเวนชั้นติคอนเดโรกาเช่นเดียวกัน แต่ลำแรกติดระบบอาวุธเน้นหนักการทำสงครามใต้ผิวน้ำ-ปราบเรือดำน้ำโดยเฉพาะ ส่วนลำหลังจะกลับฐานทัพในสหรัฐฯ เพื่อเข้าสู่กระขบวนการอัปเกรดช่วงกึ่งอายุประจำการ

    เมื่อไม่นานมานี้ กองทัพเรือที่ 7 ได้ทยอยเปลี่ยนถ่ายเครื่องบินแบบพราวเลอร์ (Prowler) ซึ่งเป็นเครื่องบินเพื่อสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ที่สร้างขึ้นบนโครงของเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ F/A-18 ที่ใช้งานมานานออกไป และมีการโยกฝูงบินปีกหมุน HSM-77 ที่ผ่านสงครามในตะวันออกกลางมาอย่างโชกโชน ไปประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบินจอร์จ วอชิงตัน (USS George Washington, CVN 73)

    ปีหน้ากองทัพเรือจะสับเปลี่ยน เรือโรนัลด์ เรแกน (USS Ronald Reagan, CVN 76) ที่ใหม่กว่า ไปแทนเรือจอร์จ วอชิงตัน ที่ถึงกำหนดจะต้องอัปเกรดช่วงกึ่งอายุประจำการ โดยคาดว่า การสับเปลี่ยนจะมีขึ้นในช่วงปลายปี

    เมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ส่ง P-8 โพไซดอน (Poseidon) เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล-ปราบเรือดำน้ำล้ำยุค ฝูงใหม่เข้าประจำฐานทัพในญี่ปุ่น และบนเกาะกวม

    ส่วนใต้น้ำ แม้จะมีการเปิดเผยข้อมูลไม่มาก แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า กองทัพเรือสหรัฐฯ มีเรือดำน้ำหลายลำ หรืออาจจะมีจำนวนกว่า 10 ลำ ประจำการในย่านนี้ ทั้งเรือในสังกัดกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี และเรือที่ปฏิบัติการโดยอิสระ อันเป็นความลับยิ่งยวด มีทั้งเรือชั้นลอสแองเจลิส (Los Angeles Class) และเรือขั้นเวอร์จิเนีย (Virginia Class) ที่ใหญ่กว่า และทันสมัยกว่า

    เจนส์ดีเฟนส์ (Jane's) รายงานเมื่อเดือนที่แล้ว อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในกองทัพสหรัฐฯ ที่ยอมรับว่า มีเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ (Ohio Class) อย่างน้อย 2 ลำ ลาดตระเวนในน่านน้ำทะเลจีนใต้ นี่คือมัจจุราชใต้น้ำทันสมัยที่สุด ขนาดใหญ่ที่สุด ติดตั้ง Ballistic Missile ยิงโจมตีระยะไกล และมีขีดความความสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้อีกด้วย

    เรือชั้นโอไฮโอ ซึ่งใช้พลังงานนิวเคลียร์เช่นเดียวกับเรือดำน้ำชั้นอื่นๆ ของสหรัฐฯ สามารถปฏิบัติการอยู่ใต้น้ำได้ตราบนานเท่านาน เท่าที่เสบียงอาหารจะเอื้ออำนวย เรือชั้นนี้ไม่ได้โผล่ขึ้นเหนือน้ำให้เห็นในย่านนี้อีกเลย นับตั้งแต่ต้นปี 2555 ที่มีการเผยแพร่ภาพ “การชุมนุมเรือดำน้ำ” ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ที่ฐานทัพเรืออาปรา (Apra Habour) เกาะกวม.
    .

    [​IMG]
    @ภาพวันที่ 17 เม.ย.2556 เรือดำน้ำสหรัฐหลายลำ ซึ่งมีเรือชั้นโอไฮโอ (Ohio Class) อยู่ด้วย 1 ลำ กับเรือดำน้ำของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นอีก 1 ลำ จอดที่อ่าวอาปรา (Apra Harbour) เกาะกวม ในเหตุการณ์ชุมนุมเรือดำน้ำที่หาดูได้ยาก สหรัฐแผ่ขยายแสนยานุภาพเข้าสู่เอเชียแปซิฟิก ตามที่ประกาศไว้เมื่อปี 2555 ในขณะที่บนท้องฟ้ากับบนพื้นน้ำสามารถมองเห็นได้นั้น ใต้ผิวน้ำยังเป็นความลับสุดยอด ไม่มีผู้ใดทราบว่า สหรัฐส่งเรือดำน้ำโจมตี ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ชั้นต่างๆ ประจำการในภูมิภาคนี้จำนวนกี่ลำ. -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 1st Class Jeffrey Jay Price.

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Opinion :วอชิงตันโพสต์ชี้ ปัญหาอีโบลาระบาดลามเข้าสหรัฐฯต้องแก้จาก “ความจริง” เท่านั้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2557 20:31 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คาธลีน ปาร์กเกอร์ (Kathleen Parker) คอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เจ้าของรางวัลพูลิเซอร์สาขางานวิจารณ์ประจำปี 2010 ได้ตั้งข้อสังเกตถึง “อีโบลา” ที่นอกจากจะขึ้นชื่อว่ายังไม่มีวิธีรักษาแล้ว ล่าสุดดูเหมือนจะคืบคลานเข้าใกล้ชาวอเมริกันเข้าไปทุกทีหลังจากการเสียชีวิตของโทมัส อีรัก ดันแคน นักท่องเที่ยวชาวไลบีเรียวัย 42 ปีในรัฐเทกซัส และทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสอีโบลาขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ และทำให้ประชาชนอเมริกันเริ่มหวาดวิตกถึงภัยจากแดนกาฬทวีปนี้ ไม่เพียงเช่นนั้นยังทำให้โลกได้เห็นถึงความล้มเหลวในการเตรียมพร้อมรับมือโรคอีโบลาของสหรัฐฯ ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าต้องมีความพร้อมในการรับมือทุกด้าน อีกทั้งยังเป็นประเทศเดียวที่มียาทดลองรักษาอีโบลาหลายขนาน ทำให้ปาร์กเกอร์มีแนวคิดว่า อาจจะดีกว่าหากมีการตื่นตัวในการรับมือภัยมืดคุกคามนี้โดยการเสนอทางแก้ปัญหาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานสถานการณ์จริง แทนที่จะปลอบประโลมว่า “เรารับมือได้” และ “อย่าตื่นตระหนก”

    และเมื่อมาถึงขั้นนี้คนธรรมดาเช่นพวกเราต้องก้มหน้ายอมรับว่า สหรัฐฯมีผู้ติดเชื้ออีโบลาเป็นรายที่ 2 เกิดขึ้นในแผ่นดินอเมริกาแล้ว ซึ่งเธอคนนี้เป็นพยาบาลเหมือนเช่นผู้ป่วยรายแรกที่อยู่ในทีมทำการรักษา “โทมัส อีรัก ดันแคน” นักท่องเที่ยวชาวไลบีเรียวัย 42 ปีที่โรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ ไบเพรสทีเรียน แต่กระนั้นกลับคิดว่าเรายัง...(แน่นอนที่สุด)...ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแตกตื่น(นอกจากความกังวลที่ว่า..ประกันสุขภาพค่าพรีเมียมขั้นเทพที่มีนั้นจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลหรือไม่)

    จากคำแถลงของเคลย์ เจนกินส์ (Clay Jenkins )ผู้พิพากษาดัลลัสเคาน์ตีผ่านทางเครือ MSNBC ในวันพุธ(15)ที่ผ่านมาว่า “มีข่าวร้ายอีกแล้ว เพราะมีผู้ป่วยอีโบลารายใหม่เกิดขึ้น”

    แน่นอนที่สุด เป็น “ข่าวโคตรร้าย” สำหรับทีมการแพทย์ของโรงพยาบาลเทกซัสอีก 75 คนที่ได้อยู่ร่วมทำการรักษาดันแคนก่อนที่เขาจะเสียชีวิต แต่ในข่าวร้ายย่อมมีข่าวดีซ่อนอยู่ เพราะนีนา ฟาม (Nina Pham) ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในแผ่นดินสหรัฐฯมีอาการดีและทรงตัวและสามารถพูดคุยผ่านกล้องโทรทัศน์จากห้องผู้ป่วยกักกันโรคได้ แต่กระนั้นข่าวร้ายก็ย่อมต้องมีแต่เรื่องร้ายคงอยู่จากการที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯคาดว่า อาจจะมีผู้ติดเชื้ออีโบลาใหม่เกิดขึ้นในภายหลัง โดยผู้ติดเชื้อรายที่สอง แอมเบอร์ จอย วินสัน ( Amber Joy Vinson )พยาบาลวัย 29 ปีที่ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่แอตแลนตานั้นไม่ถือเป็นข่าวดีสำหรับเพื่อนบ้านร่วมอพาทเมนต์ของเธอเท่าใดนัก เมื่อทีมฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในชุดแฮซแมต(hazmat)หรือชุดป้องกันชีวภาพระดับสูงสุดได้เข้าไปเยี่ยมเยือนพร้อมอุปกรณ์ครบครัน หรือมีการตามหาผู้โดยสารเครื่องบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์สเที่ยวบินวันจันทร์(13)เดียวกับวินสันเพื่อเฝ้าดูอาการเจ็บป่วย และยังมีข่าวที่เจ้าหน้าที่การแพทย์คนอื่นที่อาจมีเชื้ออีโบลาได้เดินทางด้วยเรือสำราญแคริบเบียน และผู้โดยสารเรือคนอื่นที่เข้าใกล้อาจมีสิทธิ์ติดเชื้อ ซึ่งในวันศุกร์(17)นี้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯแถลงว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์คนนี้ได้แยกตัวเพื่อดูอาการของโรคบนเรือสำราญ และในช่วง 19 วันที่ผ่านมายังไม่แสดงอาการป่วยใดบ่งชี้ว่าติดเชื้อ

    สื่อได้ประโคมข่าวปลอบประโลมว่า ทุกอย่างยังอยู่ในความควบคุมจากการที่วินสัน ผู้ป่วยรายที่ 2 นั้นทำตามขั้นตอนโดยเธอเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันทีเมื่อพบว่าเธอมีไข้ขึ้นสูง และภายใน 90 นาทีที่ปรากฎว่าเธอติดเชื้ออีโบลา ทางโรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ ไบเพรสทีเรียน ได้ทำการนำเธอเข้าห้องกักกันโรคพิเศษ

    จริงหรือนี่?? ที่เราต้องรอถึง 1 ชม.ครึ่งเพื่อจะกักกันผู้ป่วยที่เกือบจะแน่ใจได้ว่าป่วยด้วยโรคอีโบลา และสิ่งต่อไปที่ชาวสหรัฐฯได้ยินคือ “รอยรั่วในกระบวนการปฎิบัติ” จากทั้งสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคติดต่อสหรัฐฯ หรือ CDC ที่เริ่มประกาศว่า “เกิดช่องโหว่ในการปฎิบัติหน้าที่จนทำให้นีนา ฟาม ผู้ป่วยคนแรกหลังการเสียชีวิตของโทมัส อีริก ดันแคนติดเชื้อ อาทิ การถอดชุดป้องกันออกไม่ถูกต้อง” ในขณะที่ทางสหภาพการพยาบาลแห่งสหรัฐฯได้ออกมาโต้ทันควันว่า อย่าโทษเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานเพราะ ชุดป้องกันพื้นฐานที่ทาง CDC แนะนำนั้นไม่กระชับพอที่จะปกปิดร่างกายของพยาบาลได้ เพราะส่วนข้อมือไม่ถูกปกปิดจาการที่ถุงมือไม่ได้ขนาด หรือส่วนคอของผู้ปฎิบัติหน้าที่จะเปลือย แต่ชุดปกปิดเฉพาะช่วงอกและหน้ากากพลาสติกที่คล้ายกระบังปกป้องเฉพาะส่วนใบหน้าเท่านั้น

    ยัง ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ รูรั่วที่สื่อสหรัฐฯตั้งคำถาม และ CDC จำต้องยอมรับเกิดขึ้นเป็นระยะๆ อาทิ วินสันได้โทรศัพท์ไปสอบถาม CDC ก่อนเดินทางขึ้นเครื่องเดินทาง และภายหลังรัฐบาลสหรัฐฯต้องออกตามหาเพื่อนผู้โดยสารร่วมเที่ยวบินกับเธอ หรือมีชายปริศนาไม่สวมชุดป้องกันใดๆแม้กระทั่งหน้ากาก ยืนถือคลิปบอร์ดบอกกำกับการเคลื่อนย้ายวินสันที่อยู่ในชุดป้องกันติดเชื้อพร้อมกับทีมเคลื่อนย้ายที่อยู่ในชุดป้องกันเช่นเดียวกัน โดยภายหลังทราบเพียงว่าชายผู้นี้เป็นผู้ประสานงาน และเขาอยู่ในตำแหน่งที่มีระยะห่างจากผู้ป่วยพอสมควร จนทำให้ต้องเกิดคำถามว่า จริงหรือไม่อีกครั้ง

    และส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่จะต้องห้ามการเดินทางจากแอฟริกาตะวันตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้เป็นจำนวนมาก และมีการประเมินว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึงสัปดาห์ละ 10,000 คน ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว สหรัฐฯเป็นประเทศที่ถือกำเนิดจากการอพยพย้ายถิ่น แล้วจะอย่างไร จะปฎิเสธคนเหล่านั้น เช่นนั้นหรือ โอ..ขอโทษที...ลืมตัวไป ดิฉันยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ตัวเองเลย

    แต่ทว่าเป็นความจริงที่ชาวอเมริกันเริ่มที่จะส่งเสียงกดดันให้มีการปิดประตูกั้นไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาตะวันตกเข้าสหรัฐฯ และยิ่งมีเสียงดังมากขึ้นเมื่อนักจัดรายการตอนเช้าประจำรายการ “มอร์นิง โจ” ทางเครือข่าย MSNBC ตั้งคำถามในเช้าวันศุกร์(17)ว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะสั่งห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐฯเมื่อวิเคราะห์ดูจากต้นเหตุที่อนุญาตให้ชาวไลบีเรียติดเชื้ออีโบลาเดินทางเข้าสหรัฐฯ และเสียชีวิตจนทำให้พยาบาลถึง 2 คนต้องติดเชื้อตาม ขอโทษอีกที...ดิฉันคิดว่า อาการของตัวเอง...น้ำลายเริ่มฟูมปากแล้ว แต่ยังโชคดีที่ยังไม่มีไข้เพราะมิเช่นนั้นคงต้องรีบเดินทางไปโรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ ไบเพรสทีเรียน เป็นแน่แท้ และหากถูกโดนกักตัวเพื่อดูอาการ อาจทำให้พลาดข่าวสำคัญเป็นต้นว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา จะยอมทำตามเสียงกดดันโดยการประกาศห้ามการเดินทางของชาวแอฟริกันตะวันตกเข้าอเมริกาหรือไม่ และดิฉันคงต้องตกข่าวที่พบว่า รอน เคลน (Ron Klain) อดีตคนใกล้ชิดของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้รับเลือกเป็นผู้บริหารวิกฤตอีโบลาในสหรัฐฯ (ช่างโชคดีของชาวเราที่ผู้อำนวยการ CDC โทมัส ฟรีเดนที่มีปรากฏการณ์ “รูรั่ว” และ “เรารับมือได้” พลาดตำแหน่งนี้)

    แต่สิ่งเดียวที่ดิฉันรับรู้คือ “ความจริงเกี่ยวกับอีโบลา” คือ โทมัส อีริก ดันแคน วัย 42 ปี ได้สัมผัสกับผู้ป่วยอีโบลาก่อนเดินทางเข้าสหรัฐฯ และรับรู้ว่า ดันแคนปกปิดข้อมูลในส่วนนี้กับแบบสอบถามของรัฐบาลไลบีเรีย และไม่ปรากฎว่าเขามีไข้ในช่วงเดินทางหรือเมื่อผ่านเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มเมืองสหรัฐฯแต่อย่างใด ดันแคนเริ่มป่วยเมื่อผ่านไปแล้ว 4 วัน ทำให้เราทราบกันว่า นอกจากมาตรการที่ในขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯได้ส่งทหารไปยังแอฟริกาตะวันตกเพื่อช่วยรัฐบาลประเทศเหล่านั้นรับมือกับโรคร้ายที่แหล่งระบาดใหญ่ ยังมีสิ่งที่ทำได้จากความจริงที่ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อจะแสดงอาการภายใน 21 วัน

    ข้อเสนอนี้ที่ดิฉันกำลังเสนอเหมือนคล้ายกับเป็นสิ่งที่เกือบเป็นไปไม่ได้ และบางคนอาจตีความไปไกลถึงขั้นละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เลยทีเดียว แต่อย่าลืมว่าดิฉันได้ลืมฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าให้ตนเองเพราะฉะนั้น...การเชิญให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากแอฟริกาตะวันตกในช่วงไม่เกิน 30 วันก่อนเข้าสหรัฐฯเข้ามาอยู่ในเขตโซนพิเศษของสนามบินเป็นเวลา 3 สัปดาห์จึงไม่น่าจะหนักหนาอะไร เพราะการกักบริเวณเพื่อดูอาการของโรคไม่ใช่การรักษา อีกทั้งยังไม่ใช่การกักขังเพื่อลงโทษแต่เป็นมาตรการเฝ้าระวังที่ได้ผลที่สุด อีกทั้งเรายังมีทีมเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่เชี่ยวชาญคอยผลัดทำหน้าที่ให้ความบันเทิงกับคนเหล่านั้น รวมไปถึงการให้บริการอาหารโดยไม่คิดมูลค่า และติดตั้งจอมอนิเตอร์ความคมชัดระดับไฮเดฟเพื่อการสไกป์ติดต่อสื่อสาร และแน่นอนที่สุด เปิดแอกเคาท์ PayPal เพื่อให้พลเมืองอเมริกันร่วมบริจาคเพื่อสุขภาพโดยรวมของพวกเขาเอง และตามธรรมเนียมปฎิบัติของพวกเราที่ผู้เสียสละล้วนเป็นฮีโร ทำให้คนเหล่านั้นออกโทรทัศน์ผ่านช่องทางรายงการแม่เหล็กไม่ว่าจะเป็น CNN MSNBC หรือ Fox News แต่ทำให้ผู้ที่อาจมีโอกาสสูงที่จะเป็นพาหะการระบาดของอีโบลาจากประเทศเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน หรือกินีไม่สามารถนำโรคไปแพร่ให้กับผู้อื่นได้

    ข้อคิดเห็นนี้อาจเป็นสิ่งที่ดูเหมือนมากเกินไป แต่ในสถานการณ์ที่ไฟกำลังลามบ้านที่เราอาศัยที่มีผู้ป่วยอีโบลาติดเชื้อในแผ่นดินสหรัฐฯอย่างน้อย 2 คน สิ่งที่น้อยไปกว่านี้คงไม่สามารถทำให้เราดับไฟที่ไหม้ได้ หรือหยุดการแพร่ระบาดของโรคมรณะที่หากเกิด “รูรั่ว” ระบาดครั้งใหญ่ขึ้นจริงในประเทศ “จลาจล” คงเป็นคำที่เบาเกินไปที่จะเรียกขานสถาณการณ์เช่นนั้น

    [​IMG]
    @นีนา ฟาม (Nina Pham) ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในแผ่นดินสหรัฐฯมีอาการดีและทรงตัวและสามารถพูดคุยผ่านกล้องโทรทัศน์จากห้องผู้ป่วยกักกันโรคได้ โดยเธอถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอีโมรี


    [​IMG]
    @สุนัขคู่ในของฟามที่ถูกกักกันโรคเช่นกัน และผู้ดูแลต้องสวมชุดป้องกันเพื่อดูแลเบนต์เลย์ เพศผู้ วัย 1 ปี และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางการสหรัฐฯจะตัดสินใจสังหารสุนัขตัวนี้เหมือนที่ทางการสเปนได้กระทำต่อสัตว์เลี้ยงของนางพยาบาลที่ติดเชื้ออีโบลาในท้ายที่สุดหรือไม่ แต่เบนต์เลย์ยังไม่แสดงอาการป่วยออกมา


    [​IMG]
    @(ล่าง)แอมเบอร์ จอย วินสัน ( Amber Joy Vinson )พยาบาลวัย 29 ปีคนไข้อีโบลารายที่ 2 ที่ติดเชื้อในสหรัฐฯ (บน) ชายปริศนาที่ไม่สวมชุดป้องกันใดๆยืนกำกับการส่งตัววินสันที่แสดงอาการติดเชื้อแล้วขึ้นเครื่องไปรักษาตัวที่แอตแลนตา


    [​IMG]
    @มาตรการตรวจเข้มของสนามบิน 5 แห่งสำคัญทั่วสหรัฐฯ แต่นักการเมือง รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯส่งเสียงให้รัฐบาลสหรัฐฯไม่อนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาตะวันตกเข้าประเทศ


    [​IMG]
    @นับตั้งแต่โทมัส อีริก ดันแคน วัย 42 ปี เสียชีวิต และนำมาสู่การติดเชื้อรายใหม่ สื่อสหรัฐฯต่างเกาะติดสถานการณ์ระบาดของโรคในประเทศ ประชาชนอเมริกันอยู่ในความวิตกหวาดผวา


    [​IMG]
    @มาตรการรับมืออีโบลาสำหรับนิวยอร์ก ที่ไม่ต้องการให้ประชาชนแตกตื่นมากไปกว่านี้ แต่ในขณะเดียวกันไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดเหมือนเช่นที่เกิดในรัฐเทกซัส


    Opinion :
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ธันวา สงวนสิน
    .
    สหรัฐฯ ส่งทหารรบกับอีโบลา

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/A0cYQh_z68Y?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Athiwat Plodnui

    ใครมีข้อมูลเรื่องนี้มาแบ่งปันกันบ้างครับ อยากทราบว่าคืออะไร

    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/yYzxRkj9wsE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ตลึง ค้นพบ ถนนลึกลับ กลางป่าแม่สอด - YouTube

    Published on Dec 31, 2012
    มื่อเ้ช้าผมนั่งดูแผนที่ google earth เคยเห็น ฝรั่งเขาสำรวจ เจอสิ่งแปลก มากมาย ผมเป็นคนอยากรู้ จึงลองทำแบบที่ฝรั่งเขาทำดูบ้าง สำรวจไปเรื่อยผมเริ่มที่ ป่า เอาที่คิดว่ามันรกทึบ หน่อยสำรวจไปเรื่อย จนมาพบเข้ากับภาพแปลก ที่ไม่น่าจะมีบนภูเขา ที่กันดาร นั่นคือภาพนี้ครับ ถนนลึกลับแห่งแม่สอด ใภาพท่านจะเห็นเป็นถนน ตรงลูกศรชี้ กับช่องแดง ตามในรูปครับ เป็นถนนที่ตัดผ่านป่าที่รกทึบ มันตัดผ่านภูเขาเตี่ยหลายลูกครับ ที่แปลกคือ ถนนเส้นนี้จะตรงผิดกับถนนทั่วไปครับ บางท่านอาจเห็นภาพไม่ชัด งั้นดูภาพต่อไปครับ อันนี้จะเห็นเป็นรูปถนนอย่างชัดเจ นแต่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ครับ ทอดผ่านหุบเขาเตี่ยๆ เป็นทางค่อนข้างตรงครับ ท่านดูดีๆมันเป็นถนนใช่ใหมครับ ถนนที่สร้างบนภูเขา ใครสร้าง สร้างทำไม สร้างเพื่ออะไร ถนนลึกลับเส้นนี้ยาวหลายกิโลครับ สร้างแล้วทำไมไม่ใช้ มันเป็นคำถามที่เพียงพอที่จะทำให้ถนนเส้นน­ี้ ลึกลับครับ ผมกลัวว่าท่านจะยังดูว่าไม่ลึกลับพอครับ ผมจึงทำลูกศรเปรียบเทียบ ถนน ที่google earth ทำ google จะต้องลากเส้น ให้เรารู้ว่า นี่คือถนน ที่คนใช้เดินทางนะ แต่ที่ ถนนถนนลึกลับแห่งแม่สอด google ไม่ได้ทำสัญลักษณะ ว่ามันเป็นถนนที่ ใช้สัญจรกัน google คิดว่ามันไม่ใช่ ถนนไงครับ เพราะมันเป็นถนนที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ไงครับ และที่สำคัญ ท่านเห็นลูกศรที่ผมทำใว้หรือเปล่าครับ ที่ปลายสุดของถนน จะดูเหมือนฐานทัพอะไรซักอย่างมั๊ยครับ มีวงกลม ผมคิดไปคิดมา นี่อาจเป็น ฐานทัพญี่ปุ่นเก่า ที่ทหารญี่ปุนเอาสมบัติมาซ่อนเอาไว้ก็ได้ นะครับ หรือ อีกความคิดที่เตลิดหน่อย นี่อาจเป็นฐานทัพมนุษย์ต่างดาวก็เป็นไปได้ ใครที่พอจะพิสูทธ์ เรื่องนี้ได้ ช่วยทำให้หายสงสัยหน่อยครับ
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Vittawat Bunditwong
    .
    FEMA Camp ที่เตรียมไว้แต่เนิ่นนาน จะเอาไว้รอรับงานนี้โดยเฉพาะรึมั้ย ??

    [​IMG]
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก
    ข่าวภัยพิบัติรอบโลก 19 ต.ค.57 ภูเขาไฟอินโดระเบิด , น้ำท่วมยุโรป , หิมะตกที่รัสเซียและนอร์เวย์ , พายุถล่มเกาะเบอร์มิวดา , ดอยอินทนนท์ 9 องศาฯ
    .
    [​IMG]

    - น้ำท่วมหนักที่ประเทศสเปน ในกาลิเซีย สูงกว่า 40 ซม. เมื่อวันที่ 16-18 ต.ค.57 หลังจากที่เกิดพายุฝนตกหนักติดต่อกันนาน 2 วัน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบทำให้ประชาชนกว่า 9,000 ราย ไม่มีไฟฟ้าใช้

    - เกิดเหตุหิมะตกในเมืองออสโล ของประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.57 และได้คาดการณ์ว่าหิมะจะตกยาวไปจนถึงวันอังคาร(21) โดยเฉพาะหิมะจะตกทางทิศเหนือและทิศตะวันตกของประเทศ

    - ที่กรุงมอสโก ของประเทศรัสเซีย เกิดหิมะตกหนักตั้งแต่เมื่อวันที่ 15-19 ต.ค.57 หลังพบว่ามวลอากาศเย็นได้ไหลเข้ามาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งสภาพภูมิอากาศจะยังคงเย็นและลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องในอาทิตย์หน้านี้

    - พายุเฮอริเคนกอนซาโลพัดถล่มเกาะเบอร์มิวดาเมื่อวันเสาร์(18) ส่งผลทำให้ทั่วเกาะถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ประชาชนบนเกาะมากถึง 36,000 รายทุกข์หนักไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งนี้มีต้นไม้และเสาไฟหักโค่นเป็นจำนวนมาก

    - อากาศที่ดอยอินทนนท์ 9 องศาฯ กำลังเย็นสบาย นักท่องเที่ยวเริ่มแห่สัมผัสอากาศหนาว ขนส่งเตือนมือใหม่ไม่ชินทางขับรถขึ้นดอยระมัดระวัง ต้องปฏิบัติตามสัญญาณป้าย

    - ภูเขาไฟซินาบุง ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตราที่อินโดนีเซีย เกิดการปะทุปล่อยลาวาไหลเป็นทางยาวจนถึงตีนภูเขาเมื่อวันที่ 17 ต.ค.57 ต่อมาในวันที่ 18 ต.ค.57 ภูเขาไฟซินาบุงก็เกิดระเบิดขึ้นอีกรอบคราวนี้ปล่อยเถ้าถ่านควันและก๊าซลอยขึ้นสู่อากาศไกลหลายกิโลเมตร ทางการประกาศแจ้งเตือนภัยอยู่ในระดับสูงสุด(สีแดง)

    ข่าวภัยพิบัติรอบโลก 19 ต.ค.57 ภูเขาไฟอินโดระเบิด , น้ำท่วมยุโรป , หิมะตกที่รัสเซียและนอร์เวย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2014
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol
    นี่อาจเป็นหลักฐานพิสูจน์ นิบิรู ที่ส่งพลังงานมายังโลก

    [​IMG]

    "We also knew that smaller magnetised structures existed, but what we have found is that they have a completely different origin.

    "These smaller clouds have different characteristics which meant they must be generated in a different place, or in a different way.

    เราต่างรู้ดีว่าโครงสร้างพลังงานสนามแม่เหล็กขนาดเล็กกว่านี้เกิดขึ้นจริง แต่อะไรที่เราพบนั้น ปรากฏว่ามันมาจากจุดกำเนิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

    กลุ่มเมฆพลังงานสนามแม่เหล็กที่เล็กกว่านั้นมีองค์ประกอบที่แตกต่างไปจากพลังงานสนามแม่เหล็กที่มาจากดวงอาิทตย์ ซึ่งหมายถึงมันต้องก่อกำเนิดมาจากต่างสถานที่กัน หรือ ในทิศทางที่แตกต่างกัน

    รายละเอียดอ่านตามลึ้งค์นี้นะครับ

    New solar cloud identified after space weather study
    BBC News - New solar cloud identified after space weather study

    [​IMG]

    ข้อมูลการศึกษานี้ แพลมออกมาเป็นนัยยะว่ามีดาวที่สามารถผลิตโซล่าแฟร์ได้ ซึ่งน่าจะมีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ เพราะพลงงานออกมาเป็นกลุ่มที่เล็กกว่า และมาจากทิศทางที่ไม่น่าจะใช่ดวงอาทิตย์

    มายืนยันว่าพายุสนามแม่เหล็กที่มากระทบโลก มาปั่นป่วนสนามแม่เหล็กโลกที่ไม่ได้มาจากดวงอาทิตย์ตามที่ดวงอาทิตย์ปล่อยลมสุริยะ ปล่อยพายุสุริยะออกมา มาปั่นปว่นสนามแม่เหล็กโลก มาทำให้เกิดแสงออโรร่าในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ มาทำให้เกิดพายุรุนแรงต่างๆ เกิดแผ่นดินไหว เกิดภูเขาไฟระเบิด นอกกรอบ

    พลังงานสนามแม่เหล็กกลุ่มนี้มาจากดาวดวงอื่นที่ไม่ใช่ดวงอาทิตย์ ซึ่งดาวดวงนั้นที่ผลิตโซล่าแฟร์ส่งมายังโลก น่าจะอยู่ในทิศทางเดียวกับดวงอาทิตย์ และไม่ได้มาจากนอกระบบสุริยะ เพราะยานอวกาศอื่นๆ ที่อยู่ระบบสุริยะชั้นนอกจับปรากฏการณ์ไม่ได้ แม้นกระทั่ง โวยานเตอร์ ๑ และ ๒ ที่ทะลุระบบสุริยะออกไปพบกลุ่มเมฆในอวกาศนอกระบบสุริยะแล้วก็ตาม

    [​IMG]

    ความรุนแรงของกลุ่มเมฆสนามแม่เหล็กนี้ ถือว่ารุนแรงมาก เพราะสามารถทำให้สนามแม่เหล็กโลหปั่นป่วน และบางช่วงเวลา พัดสนามแม่เหล็กโลกด้าหน้าหายไปเลย เสมือ พายุพัดหลังคาบ้นปลิวออกไป

    ข้อมูลเหล่านี้ เชื่อมโยงไปหาอื่นใดไม่ได้ นอกจาก นิบิรู

    ลองศึกษาติดตามดูนะครับ
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เตือนภัย พิบัติโลก

    [​IMG]

    18/10/2014 coronal hole กระแสของลมสุริยะ ที่ไหลจากหลุมนี้ จะเข้าถึงโลกประมาณวันที่ 22 ตุลาคมนี้ Credit: SDO/AIA.
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    นักวิทยาศาสตร์ไลเบอเรียนบอกว่าสหรัฐฯเป็นผู้แพร่อีโบล่าในแอฟริกาตะวันตก

    [​IMG]

    Dr. Cyril Broderick นักวิทยาศาสตร์ จากUniversity of Liberia’s College of Agriculture and Forestry บอกว่าตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯมีส่วนทำให้เกิดอีโบล่าระบาดในแอฟริกาตะวันตก โดยเขียนบทความลงในDaily ObserverในMonrovia, Liberiaว่า:

    "กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯให้เงินสนับสนุนการทดลองอีโบล่าในมนุษย์ การทดลองนี้เกิดขึ้นไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่อีโบร่าจะระบาดในGuineaและSierra Leone. กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจ้างด้วยเงิน$140ล้านให้บริษัทยาแคนนาดาชื่อว่าTekmiraทำการวิจัยอีโบล่า ในการทำวิจัยนี้มีการฉีดไวรัสอีโบล่าเข้าร่างกายคนที่แข็งแรง เพราะฉะนั้นกรทรวงกลาโหมของสหรัฐฯเป็นผู้ร่วมมือก่อการในการทดลองอีโบล่าในมนุษย์ ก่อนที่อีโบล่าจะแพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตกในเดือนมีนาคมปี2014นี้"

    thanong
    19/10/2014

    U.S. is Responsible for the Ebola Outbreak in West Africa: Liberian Scientist | Global Research
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    Christine Lagardeเป็นศาสดาพยากรณ์ (prophet)ของ7ตราแห่งวิวรณ์ ส่วนโอบามาประกาศสงครามครูเสดตามผู้ขี่ม้าทั้ง4แห่งวารุสุดท้ายของโลก

    [​IMG]

    กรรมการผู้จัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือIMFได้รับเชิญไปพูดที่National Press Club หรือสโมสรผู้สื่อข่าวในกรุงวอชิงตัน ดีซี เรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจปี2014 ก่อนเข้าเรื่อง เธอพูดถึงอาถรรพ์หมายเลข7 และวิทยาตัวเลข (numerology) หรือศาสตร์ลี้ลับของตัวเลขที่มีผลต่อกิจกรรมของมนุษย์

    Lagardeหยิบยกเรื่องตัวเลขอาถรรพ์ "7"ขึ้นมา เหมือนกับว่าเธอต้องการสื่อความหมายว่า เวลาของการเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่โลกใหม่กำลังจะมาแล้ว โดยมีอาถรรพ์หมายเลข7เป็นสัญลักษณ์

    เลข7ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ (perfection) แต่ในทางกลับกันมันเป็นสัญญานของความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมา เหมือนกับวันระบบโลกล่ม หรือวันสิ้นโลก(2) 2014: ปีแห่งอาถรรพ์หมายเลข7

    Christine Lagardeเกริ่นเรื่องด้วยการบอกกับผู้ฟังหรือผู้สื่อข่าวที่National Press Clubว่าเธอจะขอลองทดสอบความรู้วิทยาตัวเลขก่อน ด้วยการให้ทุกคนนึกถึงตัวเลข 7

    "คนส่วนมากรู้ว่าเลข 7 ไม่ธรรมดา"

    "ปีนี้คือปี2014 เอาเลขศูนย์ออก บวกเลขที่เหลือเข้าไปจะได้เลข 7 (2+1+4= 7)"

    "ปีนี้จะครบรอบ 70ปี อีกครั้งหนึ่งเอาเลขศูนย์ออกไป ของการประชุมBretton Woodsเพื่อก่อตั้งระบบการเงินโลกใหม่ ทำให้IMFถือกำเนิดขึ้นมา (7+0=7)"

    "และปีนี้จะครับรอบ25ปีของการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน (2+5= 7)"

    "ปีนี้จะครบรอบ7ปีที่ตลาดการเงินโลกพัง (ตั้งแต่ 2007)"

    "หลังจาก7ปีของความทุกข์ยากลำบาก อ่อนแอและเปราะบาง"

    "เราจะมี7ปีแห่งความเข้มแข็ง"

    "ดิฉันไม่รู้ว่าG-7จะเกี่ยวข้องอะไรด้วย (Gเป็นพยัญชนะที่7 ตามหลังA, B, C, D, E, F, และG) G-7คือกลุ่ม77นั่นเอง"

    "เศรษฐกิจโลกและเราคาดได้ในปี2014 (อาถรรพ์หมายเลข7) จะเป็นปีที่สำคัญ และมหัศจรรย์"

    *************************************************

    [​IMG]

    ที่จริงแล้วChristine Legardeทำตัวเป็นศาสดาพยากรณ์ (prophet)ของการมาถึงของ7 ตราแห่งวิวรณ์ที่ทำนายถึงวาระสุดท้ายของโลกก่อนที่พระเจ้าจะมาพิพากษามนุษย์ อาถรรพ์หมายเลข7คือ7ตราแห่งวิวรณ์ของคัมภีร์ไบเบิ้ลส่วน4ใน7ตรานั้น หรือThe Four Horsemen of the Apocalypse โอบามาเป็นผู้ประกาศผ่าน1. สงครามนิวเคลียร์กับรัสเซีย 2. สงครามครูเสดกับISIS 3. สงครามเชื้อโรคอีโบล่า และ4. สงครามการเงินและเศรษฐกิจ

    18/10/2014
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อะไรคือตราประทับทั้งเจ็ดดวงและแตรเจ็ดคัน ใน หนังสือวิวรณ์?



    คำถาม: อะไรคือตราประทับทั้งเจ็ดดวงและแตรเจ็ดคัน ใน หนังสือวิวรณ์?

    คำตอบ: ตราประทับทั้งเจ็ดดวง (วิวรณ์ 6:1-17 , 8:1-5 ) แตรเจ็ดคัน (วิวรณ์ 8:6-21 11:15-19 ) และขันเจ็ดใบ (วิวรณ์ 16:1-21) ตามติดต่อเนื่องกันสามอย่างในยุคสุดท้ายแห่งการพิพากษาจากพระเจ้า

    การพิพากษาค่อย ๆ คืบหน้าเลวร้ายขึ้น และยิ่งทำลายล้างมากขึ้นเมื่อใกล้เวลาถึงยุคสุดท้าย

    ตราประทับทั้งเจ็ดดวง แตรและขัน มีความเกี่ยวเนื่องกันและกัน

    ตราประทับดวงที่เจ็ด แนะนำแตรเจ็ดคัน (วิวรณ์ 8:1-5) และแตรคันที่เจ็ดแนะนำขันทั้งเจ็ดใบ (วิวรณ์ 11:15-19 15:1-8)

    ตราประทับสี่ดวงแรกในเจ็ดดวงเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้ขี่ม้าทั้งสี่คนในบันทึกคัมภีร์ของศาสนาคริสต์

    ตราประทับดวงแรกแนะนำปฏิปักษ์พระคริสต์ วิวรณ์ 6:1-2 “ เมื่อพระเมษโปดกทรงแกะตราดวงหนึ่งในเจ็ดดวงนั้นออกแล้ว ข้าพเจ้าก็แลเห็น และได้ยินสัตว์ตัวหนึ่งในสี่ตัวนั้นร้องเสียงดังดุจเสียงฟ้าร้องว่า “มาเถอะ” ข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด มีม้าขาวตัวหนึ่งออกมา และท่านที่ขี่ม้านั้นถือธนู และได้รับพระราชทานมงกุฎ แล้วท่านก็ขี่ม้าออกไปอย่างมีชัย และเพื่อได้ชัยชนะ”

    ตราประทับดวงที่สอง เป็นเหตุให้เกิดสงครามใหญ่ วิวรณ์ 6:3-4 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่สองนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ยินสัตว์ตัวที่สองร้องว่า “มาเถอะ” และมีม้าอีกตัวหนึ่งเข้ามาเป็นม้าสีแดงสด ผู้ที่ขี่ม้าตัวนี้ได้รับพระราชานุญาติให้นำสันติสุขไปจากแผ่นดินโลก เพื่อให้คนทั้งปวงรบราฆ่าฟันกัน และท่านผู้นี้ได้รับพระราชทานดาบใหญ่เล่มหนึ่ง” ตราประทับดวงที่สามของเจ็ดดวง เป็นเหตุให้เกิดการกันดารอาหาร วิวรณ์ 6:5-6 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่สามนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ยินสัตว์ตัวที่สามร้องว่า “มาเถอะ” แล้วข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด ม้าดำตัวหนึ่งเข้ามา และท่านที่ขี่ม้านั้นถือตราชู แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียง เหมือนกับว่าดังออกมาจากท่ามกลางสัตว์ทั้งสี่นั้นว่า “ข้าวสาลีราคาทะนานละหนึ่งเดนาริอัน ข้าวบารลีสามทะนานต่อหนึ่งเดนาริอัน แต่เจ้าอย่าทำอันตรายแก่น้ำมันและน้ำองุ่น”

    ตราประทับดวงที่สี่ นำมาซึ่งโรคระบาด การกันดารอาหารต่อไป และสงครามต่อไป วิวรณ์ 6:7-8 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่สี่นั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงสัตว์ตัวที่สี่ร้องว่า “มาเถอะ”

    แล้วข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด ม้าสีกะเลียวตัวหนึ่งเข้ามา ผู้ที่นั่งบนหลังม้านั้นมีชื่อว่ามัจจุราช และแดนคนตายก็ติดตามมาด้วย พระองค์ทรงให้ทั้งสองนี้มีอำนาจล้างผลาญแผ่นดินโลกได้หนึ่งในสี่ส่วน ด้วยคมดาบ ด้วยความอดอยาก ด้วยโรคระบาด และด้วยสัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน”

    ตราประทับดวงที่ห้า บอกเรา บรรดาผู้ที่ถูกประหารชีวิตเพราะความเชื่อในพระคริสต์ยุคสุดท้าย วิวรณ์ 6:9-11 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่ห้านั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็แลเห็นดวงวิญญาณใต้แท่นบูชา เป็นวิญญาณของคนทั้งหลายที่ถูกฆ่าเพราะพระวจนะของพระเจ้า และเพราะคำพยานที่เขายึดถือนั้น เขาเหล่านั้นร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้บริสุทธิ์และสัตย์จริง อีกนานเท่าใดพระองค์จึงจะทรงพิพากษา และตอบสนองต่อคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก” แล้วพระองค์ทรงประทานเสื้อสีขาวแก่คนเหล่านั้นทุกคน และทรงกำชับเขาให้รอต่อไปอีกหน่อย จนกว่าเพื่อนผู้รับใช้ของเขา คือพวกพี่น้องของเขาจะถูกฆ่าเหมือนกับเขาครบจำนวน” พระเจ้าทรงได้ยินเสียงพวกเขาร้องขอความยุติธรรมและจะส่งมอบให้ในเวลาของพระองค์ -- ในรูปแบบของตราประทับดวงที่หกพร้อมกับการพิพากษาด้วยแตร และขันแห่งพระพิโรธ เมื่อตราประทับดวงที่หกของเจ็ดดวงถูกแกะออก แผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้น ยกระดับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และความเสียหายร้ายแรง พร้อมกับ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ผิดปกติ วิวรณ์ 6:12-14 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่หกนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่โต ดวงอาทิตย์ก็กลับมืดดำ ดุจผ้ากระสอบขนสัตว์ และดวงจันทร์วันเพ็ญก็กลายเป็นสีเลือด และดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้าก็ตกลงบนแผ่นดิน เหมือนกับต้นมะเดื่ออันถูกลมกล้าพัดจนทำให้ผลที่ยังไม่ทันสุกหล่นลงหมด ท้องฟ้าก็หายไปเหมือนกับหนังสือที่เขาม้วนขึ้นไปหมด และภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม”

    บรรดาผู้ที่รอดชีวิตร้องเสียงดังออกมาทันที วิวรณ์ 6:15-17 แล้วกษัตริย์ทั้งหลายในโลก พวกคนใหญ่คนโต นายทหารใหญ่ เศรษฐี ผู้มีอำนาจ และทุกคนทั้งที่เป็นทาสและเป็นอิสระ ก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและโขดหินตามภูเขา พวกเขาร้องบอกกับภูเขาและโขดหินว่า “จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษโปดกนั้น เพราะว่าวันสำคัญแห่งพระพิโรธของพระองค์มาถึงแล้ว และผู้ใดจะทนอยู่ได้เล่า”

    แตรเจ็ดคันเป็น " สาระ " ของตราประทับดวงที่เจ็ด วิวรณ์ 8:1-5 “เมื่อพระเมษโปดกทรงแกะตราดวงที่เจ็ด ความเงียบก็ครอบคลุมสวรรค์อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วข้าพเจ้าก็เห็นทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์ที่ยืนอยู่หน้าพระเจ้านั้น ได้รับพระราชทานแตรเจ็ดคัน และทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งถือกระถางไฟทองคำออกมายืนอยู่ที่แท่น พระเจ้าได้ทรงประทานเครื่องหอมเป็นอันมากแก่ทูตองค์นั้น เพื่อให้ถวายร่วมกับคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งปวงบนแท่นทองคำที่อยู่หน้าพระที่นั่งนั้น

    และควันเครื่องหอมนั้นก็ลอยขึ้นไปพร้อมกับคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งหลาย จากมือทูตสวรรค์สู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า แล้วทูตสวรรค์องค์นั้นก็นำกระถางไปบรรจุไฟจากแท่นจนเต็ม และโยนกระถางนั้นลงบนแผ่นดินโลก ทำให้มีเสียงฟ้าร้อง เสียงต่างๆ ฟ้าแลบและแผ่นดินไหว

    แตรทั้งเจ็ดคัน ได้อธิบายไว้ใน วิวรณ์ 8:6-15 “ และทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือแตรทั้งเจ็ดนั้นต่างก็เตรียมพร้อมที่จะเป่า เมื่อทูตสวรรค์องค์แรกเป่าแตรขึ้น ลูกเห็บและไฟ ปนด้วยเลือดก็ตกลงมาบนแผ่นดิน แผ่นดินโลกไหม้ไปหนึ่งในสามส่วน ต้นไม้ไหม้ไปหนึ่งในสามส่วน และหญ้าเขียวสดไหม้ไปหมดสิ้น เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สองเป่าแตรขึ้น ก็มีสิ่งหนึ่งเหมือนภูเขาใหญ่ กำลังลุกไหม้ถูกทิ้งลงไปในทะเล และทะเลนั้นได้กลายเป็นเลือดเสียหนึ่งในสามส่วน สัตว์ทั้งปวงที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นตายเสียหนึ่งในสามส่วน และบรรดาเรือกำปั่นแตกเสียหนึ่งในสามส่วน

    เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สามเป่าแตรขึ้น ก็มีดาวใหญ่ดวงหนึ่งเป็นเปลวไฟลุกโพลงดุจไต้ตกจากท้องฟ้า ดาวนั้นตกลงบนแม่น้ำหนึ่งในสามส่วน และตกที่บ่อน้ำพุทั้งหลาย ดาวดวงนี้มีชื่อบอระเพ็ด รสของน้ำกลายเป็นรสขมเสียหนึ่งในสามส่วน และคนเป็นอันมากก็ได้ตายไปเพราะน้ำนั้นกลายเป็นน้ำรสขมไป เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สี่เป่าแตรขึ้น ดวงอาทิตย์ก็ถูกทำลายไปหนึ่งในสามส่วน ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลายก็เช่นเดียวกันจึงมืดไปหนึ่งในสามส่วน กลางวันก็ไม่สว่างเสียหนึ่งในสามส่วน และกลางคืนก็เช่นเดียวกับกลางวัน แล้วข้าพเจ้าก็มองดูและได้ยินนกอินทรีตัวหนึ่งที่บินอยู่ในท้องฟ้า ร้องประกาศเสียงดังว่า “วิบัติ วิบัติ วิบัติ จะมีแก่คนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลก เพราะเสียงแตรอีกสามคันซึ่งทูตทั้งสามองค์กำลังจะเป่าอยู่แล้ว”

    แตรคันแรก ทำให้เกิดลูกเห็บและไฟที่ทำลายชีวิตพืชในโลก (วิวรณ์ 8:7) แตรคันที่สอง นำมาซึ่งสิ่งที่ ดูเหมือนว่าจะเป็น ดาวตกหล่นในมหาสมุทร และเป็นเหตุเกิดการตาย ของหลายชีวิตในทะเลของโลกนี้(วิวรณ์ 8:8-9) แตรคันที่สามคล้ายกับแตรคันที่สอง ยกเว้นว่ามันจะ ส่งผลกระทบต่อทะเลสาบและแม่น้ำ ในโลก แทนที่มหาสมุทร (วิวรณ์ 8:10-11)

    แตรคันที่สี่ของแตรเจ็ดคัน เป็นเหตุให้ ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ดับมืดไป (วิวรณ์ 8:12)

    แตรคันที่ห้าส่งผลให้เกิดโรคระบาดของ " ตั๊กแตนปีศาจ" ที่โจมตีและทรมานมนุษย์ (วิวรณ์ 9:1-11)

    เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเป่าแตรขึ้น ข้าพเจ้าก็เห็นดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้าลงมาที่แผ่นดินโลก พระเจ้าทรงประทานลูกกุญแจสำหรับช่องบาดาลให้แก่ดาวดวงนั้น เมื่อท่านเปิดช่องบาดาลนั้น ก็มีควันพลุ่งขึ้นมาจากปากนั้น ดุจควันที่เตาใหญ่ และดวงอาทิตย์และอากาศก็มืดไป เพราะเหตุควันที่ขึ้นมาจากปากนั้น มีฝูงตั๊กแตนบินออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก พระเจ้าทรงประทานอำนาจแก่ตั๊กแตนนั้น เหมือนกับอำนาจของแมงป่องแห่งแผ่นดินโลก พระองค์ทรงห้ามมันไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ แต่ให้ทำร้ายคนเหล่านั้น ที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผากของเขาเท่านั้น พระองค์ไม่ให้ฆ่าคนเหล่านั้น แต่ให้ทรมานเขาห้าเดือน การทรมานนั้นเป็นการทรมานที่เหมือนกับถูกแมงป่องต่อย ตลอดเวลาเหล่านั้น คนทั้งหลายจะแสวงหาความตายแต่จะไม่พบ เขาอยากจะตาย แต่ความตายจะหนีไปจากเขา ตั๊กแตนนั้นมีรูปร่างเหมือนม้าที่ผูกเครื่องพร้อมสำหรับออกศึก บนหัวมีสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนมงกุฎทองคำหน้ามันเหมือนหน้ามนุษย์ ผมมันเหมือนผมผู้หญิง ฟันมันเหมือนฟันสิงห์ มันมีทับทรวงเหมือนกับทับทรวงเหล็ก เสียงปีกมันเหมือนเสียงรถและม้าเป็นอันมากกรูเข้ารบข้าศึก มันมีหางเหมือนหางแมงป่อง และหางมันนั้นมีเหล็กไน อำนาจของมันที่จะทำร้ายมนุษย์ตลอดห้าเดือนนั้นอยู่ที่หาง มันมีทูตแห่งช่องบาดาลนั้นเป็นกษัตริย์ปกครองมัน ชื่อทูตแห่งช่องบาดาลนั้น ภาษาฮีบรูเรียกว่าอาบัดโดนและภาษากรีกเรียกว่าอปอลลิโยน” แตรคันที่หกปลดปล่อยกองทัพปีศาจ ที่ฆ่ามนุษยชาติหนึ่งในสาม วิวรณ์ 9:12-21 “วิบัติอย่างที่หนึ่งผ่านไปแล้ว ดูเถิด ยังมีวิบัติอีกสองอย่างที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่หกเป่าแตรขึ้น ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงออกมาจากเชิงงอนมุมทั้งสี่ของแท่นทองคำ ที่อยู่เบื้องหน้าพระเจ้า เสียงนั้นสั่งทูตสวรรค์องค์ที่หกที่ถือแตรนั้นว่า “จงแก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่ที่ถูกมัดไว้ที่แม่น้ำใหญ่นั้น คือแม่น้ำยูเฟรตีส” พระเจ้าทรงเตรียมทูตสวรรค์ทั้งสี่ไว้สำหรับชั่วโมง วัน เดือนและปี ที่จะให้ฆ่ามนุษย์เสียหนึ่งในสามส่วน และมีพลทหารม้าสองร้อยล้าน นี่คือจำนวนที่ข้าพเจ้าได้ยิน ในนิมิตนั้นข้าพเจ้าสังเกตเห็นม้าเป็นดังนี้คือ ผู้ที่นั่งบนหลังม้านั้น ผู้มีทับทรวงสีไฟ สีน้ำเงิน และสีกำมะถัน หัวม้าทั้งหลายนั้นเหมือนหัวสิงห์ มีไฟและควันและกำมะถันพลุ่งออกมาจากปากของมัน มนุษย์ถูกฆ่าเสียหนึ่งในสามส่วนด้วยภัยพิบัติสามอย่างนี้ คือ ไฟและควันและกำมะถันที่พลุ่งออกมาจากปากม้านั้น เพราะว่าฤทธิ์ของม้านั้นอยู่ที่ปากและหาง หางของมันเหมือนงูและมีหัว สิ่งเหล่านี้ทำให้มันทำร้ายคนได้ มนุษย์ทั้งหลายที่เหลืออยู่ ที่มิได้ถูกฆ่าด้วยภัยพิบัติเหล่านี้ ยังไม่ได้กลับใจเสียใหม่จากงานที่มือเขาได้กระทำ ไม่ได้เลิกบูชาผี บูชารูปเคารพที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ หินและไม้ รูปเคารพเหล่านั้น จะดู หรือฟัง หรือเดินก็ไม่ได้ และเขาก็มิได้สำนึกผิดในการฆ่าฟันกัน และการเชื่อเวทมนตร์ การล่วงประเวณี และการลักขโมย แตรคันที่เจ็ดเป็นเหตุให้เกิดทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือขันแห่งพระพิโรธของพระเจ้าเจ็ดใบ(วิวรณ์ 11:15-19 15:1-8)

    ขันแห่งพระพิโรธเจ็ดใบได้บรรยายไว้ใน วิวรณ์ 16:1-21 “แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากพระวิหาร สั่งทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์นั้นว่า “จงไปเถิด เอาขันทั้งเจ็ดใบ ที่เต็มไปด้วยพระพิโรธของพระเจ้าเทลงบนแผ่นดินโลก” ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไป และเทขันของตนลงบนแผ่นดินโลก และคนทั้งหลายที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของมันก็เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว ทูตสวรรค์องค์ที่สองก็เทขันของตนลงในทะเล และทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย และบรรดาสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นก็ตายหมดสิ้น ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงที่แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด และข้าพเจ้าได้ยินทูตสวรรค์แห่งน้ำร้องว่า “พระองค์ผู้บริสุทธิ์เจ้าข้า ผู้ดำรงอยู่บัดนี้

    และผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน พระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรมในการทรงพิพากษาเหตุการณ์เหล่านั้น เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำให้โลหิตของพวกธรรมิกชนและของผู้เผยพระวจนะไหลออก และพระองค์ได้ประทานโลหิตให้เขาดื่ม สมควรแก่กรรมของเขาแล้ว”

    และข้าพเจ้าได้ยินแท่นบูชาร้องว่า “จริงอย่างนั้น พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด การพิพากษาของพระองค์เที่ยงตรง และยุติธรรมแล้ว” ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ และให้ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ ความร้อนแรงกล้าได้คลอกคนทั้งหลาย และพวกเขาสาปแช่งพระนามพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ เหนือภัยพิบัติเหล่านั้น และพวกเขาไม่ได้กลับใจและไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนที่นั่งของสัตว์ร้ายนั้น และอาณาจักรของมันก็มืดไป คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทม และสาปแช่งพระเจ้าแห่งสวรรค์เพราะความเจ็บปวด และเพราะแผลตามตัวของเขา แต่เขาไม่ได้สำนึกในการประพฤติผิดของตน

    ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของตนลงที่แม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรตีสทำให้น้ำในแม่น้ำนั้นแห้ง เพื่อเตรียมมรรคาไว้สำหรับบรรดากษัตริย์ที่มาจากทิศตะวันออก และข้าพเจ้าเห็นผีโสโครกสามตนรูปร่างคล้ายกบ ออกมาจากปากพญานาค ออกจากปากสัตว์ร้ายนั้น และออกจากปากคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ ด้วยว่าผีเหล่านั้นเป็นผีร้ายกระทำหมายสำคัญ มันออกไปหากษัตริย์ทั้งปวงทั่วพิภพ เพื่อให้บรรดากษัตริย์เหล่านั้นร่วมกันทำสงคราม ในวันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด (นี่แน่ะ ข้าพระองค์จะแอบย่องมาเหมือนขโมย ผู้ที่ตื่นอยู่และรักษาเสื้อผ้าของตนไว้อย่างดีจะเป็นสุข เพราะว่าเขาไม่ต้องเดินเปลือยกายให้คนทั้งหลายเห็น) และมันทั้งสามได้ชุมนุมพวกกษัตริย์ที่ตำบลหนึ่ง ซึ่งภาษาฮีบรูเรียกว่าอาร์มาเกดโดน ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดได้เทขันของตนลงในอากาศ และมีพระสุรเสียงดังออกมาจากพระที่นั่งในพระวิหารนั้นว่า “สำเร็จแล้ว”

    และเกิดมีฟ้าแลบ มีเสียงต่างๆ มีฟ้าร้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งตั้งแต่มีมนุษย์เกิดมาบนแผ่นดินโลก ไม่เคยมีแผ่นดินไหวร้ายแรงเช่นนี้เลย มหานครนั้นก็แยกออกเป็นสามส่วน และบ้านเมืองของนานาประชาชาติก็ล่มจม พระเจ้ามิได้ทรงลืมมหานครบาบิโลน พระองค์ทรงให้นครนั้นดื่มถ้วยแห่งพระพิโรธอันใหญ่หลวงของพระองค์ และบรรดาเกาะต่างๆ ก็หนีหายไปและภูเขาทั้งหลายก็ไม่มีผู้ใดพบ และมีลูกเห็บใหญ่ ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้งปวง แต่ละก้อนหนักประมาณห้าสิบกิโลกรัม คนทั้งหลายจึงสาปแช่งพระเจ้า เพราะภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บนั้น เพราะว่าภัยพิบัติจากลูกเห็บนั้นร้ายแรงยิ่งนัก การพิพากษาขันเจ็ดใบเกิดขึ้นจากเสียงแตรคันที่เจ็ด

    ขันใบแรกก่อให้เกิดบาดแผล เจ็บปวด ที่จะแผ่ขยายท่ามกลางมนุษยชาติ (วิวรณ์ 16:2)

    ขันใบที่สองส่งผลให้เกิดความตายของสิ่งมีชีวิตที่งหมดที่อยู่ในทะเล(วิวรณ์ 16:3) ขันใบที่สาม ทำให้ แม่น้ำกลายเป็นสายเลือด (วิวรณ์ 16:4-7)

    ขันใบที่สี่ของขันเจ็ดใบ ส่งผลให้ดวงอาทิตย์ปล่อยความร้อนแรงกล้า และทำให้เกิดการเจ็บปวดอย่างแรง (วิวรณ์ 16:8-9) ขันใบที่ห้า ทำให้เกิด ความมืดมิดและบาดแผลรุนแรกขึ้นจากขันใบแรก(วิวรณ์ 16:10-11 ) ขันใบที่หกส่งผลให้แม่น้ำยูเฟรติสแห้งขอด และ กองทัพของปฏิปักษ์พระคริสต์ที่กำลัง ประชุมกันกันเข้าร่วมต่อสู้ในสงครามอามาเกดโดน (วิวรณ์ 16:12-14)

    ขันใบที่เจ็ดส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ตามมาด้วย ลูกเห็บใหญ่มหึมา (วิวรณ์ 16:15-21 )

    วิวรณ์ 16:5-7 “และข้าพเจ้าได้ยินทูตสวรรค์แห่งน้ำร้องว่า “พระองค์ผู้บริสุทธิ์เจ้าข้า ผู้ดำรงอยู่บัดนี้ และผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน พระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรมในการทรงพิพากษาเหตุการณ์เหล่านั้น เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำให้โลหิตของพวกธรรมิกชนและของผู้เผยพระวจนะไหลออก และพระองค์ได้ประทานโลหิตให้เขาดื่ม สมควรแก่กรรมของเขาแล้ว” และข้าพเจ้าได้ยินแท่นบูชาร้องว่า “จริงอย่างนั้น พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด

    การพิพากษาของพระองค์เที่ยงตรง และยุติธรรมแล้ว”

    อะไรคือตราประทับทั้งเจ็ดดวงและแตรเจ็ดคัน ใน หนังสือวิวรณ์?
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    18 ต.ค. ปาเลสไตน์ขอUNโหวตคืนดินแดน ให้อิสราเอลถอนทหารออก

    [​IMG]

    รัฐบาลปาเลสไตน์ต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดทำการลงมติก่อนสิ้นปีนี้ ให้อิสราเอลถอนทหารออกจากดินแดนชาวปาเลสไตน์ภายในปี2559

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่18ต.ค.ว่า นายริยาด มันซูร์ เอกอัคคราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ(ยูเอ็น) แถลงต่อที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลปาเลสไตน์ต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดทำการลงมติก่อนสิ้นปีนี้ ให้อิสราเอลถอนกำลังออกจากดินแดนของชาวปาเลสไตนภายในเดือนพ.ย.2559

    ทั้งนี้นายมันซูร์กล่าวว่า ทางปาเลสไตน์มีทางเลือกอื่นอีก หากแพ้มติในครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าอิสราเอลประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐและประเทศอื่น จะคัดค้านการถอนทหารออกจากดินแดนของชาวปาเลสไตน์

    ขณะนี้ปาเลสไตน์ถือเป็นรัฐผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิกยูเอ็น ซึ่งมีผลให้ปาเลสไตน์สามารถลงนามในสนธิสัญญา การเข้าร่วมประชุม รวมถึงการขึ้นศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศได้ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาปาเลสไตน์ได้เข้าร่วมประชุมและลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศเป็นจำนวนทั้งหมด15ฉบับ

    ปาเลสไตน์ขอโหวตคืนดินแดน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In & Outside World

    Sinabaug อินโดนีเซีย

    [​IMG]

    ....ภูเขาไฟในวงแหวนแห่งไฟ ดังสนั่นอีกครั้ง
    อินโดนีเซียภูเขาไฟสินาบังได้ปะทุขึ้นสี่ครั้งในสองสัปดาห์ที่ผ่าน รุนแรงในรอบ 400 ปี
    ....ควันปกคลุมเกาะสุมาตรา และลาวาไหล
    .... เริ่มต้นมีปฏิกิริยาต่อเนื่องจากปี 2010 และภูเขาไฟที่มีฏิกิริยาในประเทศอินโดนีเซีย มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงแผ่นดินไหวเนื่องจากตั้งอยู่บน "วงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก"
    Indonesian volcano erupts after 400 years
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In & Outside World

    Sakurajima-japan ตอนใต้
    ...ปล่อยควันอีกครั้ง
    แต่ไม่มีการเตือนภัยใด ๆ
    ..วงแหวนแห่งไฟ ขยับ เรื่อย ๆ ในอนาคต ต้องมีอะไร...(แน่)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    EnergySavingMedia.com
    เหลือเชื่อ!! น้ำจืดซุกซ่อนอยู่ภายใต้มหาสมุทรกว่า 100 เท่า มากกว่าที่ใช้กันในศตวรรษที่ 20 นี้

    [​IMG]

    มนุษย์ชาตินั้นเพิ่งได้ค้นพบทรัพยากรอันมีค่าและแสนสำคัญยิ่ง เมื่อใต้พื้นมหาสมุทรนั้นเต็มไปด้วยน้ำจืด ทรัพยากรหลักในการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่อาจขาดแคลนในอนาคตข้างหน้า

    งานวิจัยที่ค้นพบนี้ได้ตีพิมพ์ในสารสารธรรมชาติโดยมีใจความว่า มีน้ำในระดับความเค็มต่ำจำนวนเกือบ 120,000 ลูกบาศก์ไมล์ใต้พื้นแอฟริกา, อเมริกาเหนือ, ออสเตรเลียและจีนซึ่งมากกว่า 100 เท่าของน้ำจืดที่มนุษย์นั้นใช้มาทั้งหมดในศตวรรษที่ 20 นี้

    และจากการรายงานของสหประชาชาติระบุว่า ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกนั้นจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำภายในปี 2030 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มเลี่ยงจึงได้มีความพยายามที่จะสร้างโรงกลั่นน้ำ การค้นพบที่ว่านี้อาจช่วยบรรเทาแรงกดดันที่จะเกิดขึ้นได้

    ทั้งนี้ น้ำนั้นได้ถูกขังอยู่ใต้พื้นโลกมาเป็นเวลานับพันปีก่อนหน้า ตามที่นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมุติฐานว่า น้ำฝนได้ซึมผ่านลงไปยังชั้นหินอุ้มน้ำ เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกเริ่มละลายประมาณ 20,000 ปีที่ผ่านมาทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ชั้นของดินเหนียวหรือดินตะกอนจึงได้เป็นเกราะป้องกันความปนเปื้อน

    อย่างไรก็ตาม การจะเข้าถึงขุมทรัพยากรอาจเป็นเรื่องยาก การขุดเจาะขึ้นมาอาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ระบบนิเวศและอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำเค็มได้ น้ำที่มีสำรองจึงควรถูกนำมาใช้เท่าที่จำเป็น เพราะเมื่อใดที่ชั้นหินถูกเจาะมันจะไม่สามารถเติมเต็มจนกว่าน้ำทะเลจะลดลงอีกครั้ง แต่ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ปรากฏการณ์เช่นนี้อาจอยู่กับเราได้ไม่นาน มนุษย์ต้องยังคงต้องค้นหาแหล่งทรัพยากรใหม่เพื่อความมั่งคงในการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในภายภาคหน้า

    bit.ly/1rxhYE0

    Copyright ©
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาติสุดท้ายของพระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์

    ในพระคัมภีร์ปรมัตถโชติกา ฎีกามาลัยเทวสูตร พระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์ได้ตรัสกับพระมาลัยเถรเจ้า ณ ดุสิตเทวโลก ว่า พระองค์จักจุติลงไปปฏิสนธิในมนุษย์โลกเป็นเวลา 2 กาลเท่านั้นคือ

    กาลที่ 1
    พระองค์จักจุติลงไปปฏิสนธิในมนุษย์โลกเพื่อทรงบำเพ็ญ สัตตสตกมหาทาน 7 อย่างๆละ 700 อันประกอบไปด้วย ช้าง 700 เชือก, ม้า 700 ตัว, รถ 700 คัน, หญิง 700 นาง, โคนม 700 ตัว, ทาสชาย 700 นาย และทาสหญิง 700 นาง เช่นเดียวกับพระเวสสันดร, จักทรงบำเพ็ญ บุตรบริจาค อันเป็นการบริจาคบุตรให้เป็นทานเช่นเดียวกับพระเวสสันดร และจักทรงบำเพ็ญ ภริยาบริจาค อันเป็นการบริจาคภริยาให้เป็นทานเช่นเดียวกับพระเวสสันดร แลวจึงจุติจากมนุษย์โลก กลับขึ้นไปปฏิสนธิเป็นเทพบุตรผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์ ณ ดุสิตเทวโลก พระนามว่า "นาถเทวบุตร"

    กาลที่ 2
    เมื่อถึงกาลสมัยที่ มนุษย์ในชมพูทวีปมีอายุกัปลดลงจาก อสงไขยปี อันเป็นจำนวนที่มีเลข 1 ขึ้นหน้า แล้วมีเลข 0 ตามหลัง 140 ตัว ลงมาจนมีกำหนดอายุกัปได้ 80,000 ปี และ เมื่อผืนปฐพีแห่งชมพูทวีปได้ปรากฏมีเมล็ดข้าวสาลีเพียงเมล็ดเดียวให้ผลแล้ว ในกาลสมัยนั้น นาถเทวบุตร จักเสด็จลงมาปฏิสนธิในมนุษย์โลกเพื่อทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า

    "พระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า"

    [​IMG]
    @พระศรีอริยเมตไตรย์เสด็จพร้อมด้วยนางอัปสรบริวารเพื่อไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุยังพระจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ที่มา : พระศรีอริยเมตไตรย "ฉบับต้นแบบ": ต้นแบบพุทธประวัติยุคพระศรีอาริย์ ถอดความจาก อมตรสธารา อรรถกถาอนาคตวงศ์ และ สมันตภัททกา อรรถกถาอนาคตวงศ์ โดย ประภาส สุระเสน อดีตผู้อำนวยการส่วนภาษาโบราณ หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร

    จัดพิมพ์โดย : มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol
    บรรยายจุดนี้ก หยกๆ X Class (X1.1) ออกมาแล้ว วันที่ ๒๑ ถึงโลก อบะน่าจะยังแล่อยพลังออกมาอีก เพราะจุดดับใหญ่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    [​IMG]

    ดูแผ่นดินไหวใน ๓ วันนี้ X Class จะยังมีอีก
    หลบแดด ยู่ในที่เย็นๆ โรคหัวใจ โรคสมอง ระวังพิเศษ อตร.

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    เศรษฐกิจโลกตะวันตกกำลังจะหมดลมหายใจ การตั้งค่าใหม่ทางเศรษฐกิจใหม่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลก

    [​IMG]

    นักลงทุนทั้งหลาย จับตาทิศทางเศรษฐกิจโลกให้ดีนะครับ ถ้าไม่รู้ข้อมูลภายใน ก็ให้ติดตามสัญญาณ จากบรรดาเศรษฐีระดับโลกทั้งหลาย ตอนนี้ วอเรน์ต์ บัฟเฟตต์ เทขายหุ้นในเทสโก โลตัส ตลอดจนกิจการอื่นๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะความกังวลต่อกำลังซื้อของชาวอเมริกัน นอกจากนั้นก็มี จอห์น พอลสัน แม้กระทั่งพ่อมดการเงิน "จอร์จ โซรอส" กำลังเทขายหุ้นในธนาคาร เจ.พี.มอร์แกน เชส ซิตีกรุ๊ป โกลแมน แซค

    พวกนี้จมูกไวนะครับ น่าจะรู้ข้อมูลภายในเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจอร์จ โซรอส ผู้ให้ทุนสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของ บารัค โอบามา เพื่อชิงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และทั้งอยู่เบื้องหลังวิกฤติการณ์ ยูเครน

    ตอนนี้ได้มีสัณญาณที่บ่งบอกว่าระบบการเงินโลกเก่าใกล้จะล่มสลาย
    บรรดาอภิมหาเศรษฐีต่างๆพากันเทชายหุ้นกันยกใหญ่เลยทีเดียวครับ

    การบริหารเงินคงคลังของสหรัฐฯ และธนาคารกลางของสหรัฐฯ กำลังจะถูกตัดขาดออกจากกันแล้ว เนื่องจากมีหนี้สินและวงเงินหนี้สินขนาดใหญ่โตเทียบเท่าภูเขาเอฟเอรเรสเลยทีเดียว ศาลโลกจะตัดสินถึงการล้มละลายของธนาคารกลางสหรัฐ และพิพากษาว่า นี่คือความผิด ที่พวกเขาจะต้องจ่ายเงินทั้งหมดกลับคืนยกให้กับมนุษย์โลก

    ประเทศจีนเมื่อเร็วๆนี้ได้ซื้ออาคาร JP Morgan ในแมนฮัตตันราว $ 725,000,000 พร้อมกับมีข่าวลือหนาหูว่า จีนเตรียมจะซื้อธนาคารกลาง Federal Reserve และเปลื่ยนตัวผู้บริหาร

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้สำหรับการออกตัวตั้งค่าสกุลเงินใหม่ที่อิรัก คู่ขนานไปกับ IMF (หรือประกาศ RV/GCR) ที่มันจะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ หรือในเร็วๆนี้ก็ได้เมื่อข้อตกลงต่างๆได้ถูกทำขึ้น

    โทรทัศน์อาจจะมีการประกาศข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเงินระหว่างสหรัฐและจีน พวกเขาจะหารือเกี่ยวกับวิธีการทั้งหมดเกี่ยวกับสกุลเงินโลกที่ได้รับการตีราคาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราส่วนการผลิตจริงและสินทรัพย์ทางกายภาพที่จะต้องมีการรีเซ็ตความสมดุลใหม่ สำหรับเศรษฐกิจในตลาดโลก รวมทั้งการปฏิรูประบบการเงินทั้งหมด เงินจากกองทุนต่างๆจะไหลเข้ามา การช่วยเหลือโลกที่ 3 กำลังจะเกิดขึ้น

    จีนและครอบครัวมังกร รวมทั้งกลุ่ม BRICS ทำเช่นนี้ เพื่อปลดปล่อยดาวเคราะห์ของเราจากระบบเก่า หรือระบบเงินกระดาษ (FIAT Currency) ที่มีการกดขี่และทำลายชีวิตของมนุษย์เรามานานหลายศตวรรษ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นบวกมากๆ ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะต้องกลัวนะครับ และที่กำลังมาถึงอย่างใกล้ชิดแล้วในขณะนี้ !
    .
    --------------------------------------------------------------------
    - RV คือ การปรับราคาสกุลเงินโลกใหม่ (RV and a major currency reset)

    - GCR คือ การนำแบงค์ที่ทำจากทองคำมาใช้ สามารถพับเก็บได้สะดวกในกระเป๋าสตางค์ด้วย ไม่ใช่กระดาษและมันก็ไม่ใช่เงินจากรัฐบาล มันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เป็นวัตกรรมใหม่ครับ(Global Currency Reset)

    - NESARA / Gesara คือ โครงการกองทุนด้านมนุษยธรรมทั่วโลก กล่าวคือ เพื่ออิสรภาพทางการเงิน และเพื่อจะอยู่ในสังคมที่ เงินมีความจำเป็นน้อยลง
    --------------------------------------------------------------------
    .
    .
    ที่มา Chalee Na Roied , Mead Watcharapon

    PressTV - Obama allows George Soros to spend billions to destabilize Ukraine: Fetzer

    Oct. 15th Update, A Shift is Coming Our Way - YouTube

    Billionaires Dumping Stocks, Economist Knows Why

    NESARA- REPUBLIC NOW - GALACTIC NEWS

    China to Purchase the Federal Reserve | Maine Republic Email Alert

    Judge Dale (ret) - Currency RV / GCR (Global Currency Reset) | Alternative

    Paper Gold | The Purity of a Gold Bar, in Affordable Bills
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    เกิดการปะทุ X1.1 ที่จุดมืด 2192 บนดวงอาทิตย์ แต่การปะทุครั้งนี้ไม่มีการพ่นมวลพลังงาน CME ออกมา??

    [​IMG]

    วันที่ 19 ต.ค.57 มีการปะทุที่จุดมืด 2192 บนดวงอาทิตย์ ส่งผลทำให้เกิดความสว่างของรังสี X-ray อยู่ในระดับที่ X1.1 แต่การปะทุครั้งนี้ไม่มีพ่นมวลพลังงาน CME ออกมา?? โดยทางเว็บไซต์ SolarHam.com - Solar Flare and CME Summary ได้รายงานว่ามันมีแค่ความสว่างของรังสี X-ray ระดับ X1.1 เท่านั้น แต่ไม่มีมวลพลังงานคลื่นสนามแม่เหล็กหลุดออกมาด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากสำหรับขนาด X-Class นี้ จึงทำให้ทางเว็บ solarham ลงความเห็นและข้อมูลว่า ไม่มีทั้งความเร็วและไม่มีมวล

    [​IMG]

    ส่วนผลกระทบ มีแต่คลื่นวิทยุจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นของรังสี X1.1 อย่างเดียวเท่านั้น ที่มันจะส่งผลกระทบต่อระบบสื่อสารวิทยุภายใน 24 ชั่วโมงบนโลก หลังจากเกิดการปะทุขึ้น

    ในวันที่ 20-24 ต.ค.57 นี้ กระแสลมสุริยะที่ถูกปล่อยออกมาจาก หลุม Coronal hole ที่เกิดเมื่อวันที่ 18/10/2014 จะพัดเข้ามาปะทะกับสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งมันจะส่งผลทำให้เกิดพายุแม่เหล็กชั้นบรรยากาศโลกในระดับ Kp = 4-5 ได้ และเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้

    [​IMG]

    อย่างไรก็ตามจุดมืด 2192 ก็ได้หันหน้ามาทางโลกแล้ว จึงทำให้มันมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น ต่อการที่จะถูกพายุสุริยะขนาดแรงๆเข้าปะทะกับโลกตรงๆได้ โดยโอกาสการเกิดพายุสุริยะในระดับต่างๆ นั้นจะมี M-Class: 60% และ X-Class: 20% ซึ่งในอนาคตนี้เปอร์เซ็นอาจจะสูงขึ้นไปอีก จนกว่าจุดมืด 2192 จะหมุนออกจากทิศทางของโลก

    เกิดการปะทุ X1.1 ที่จุดมืด 2192 บนดวงอาทิตย์ แต่การปะทุครั้งนี้ไม่มีพ่นมวลพลังงาน CME ออกมา?? | สถ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,387
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankit

    [​IMG]

    ตะลึง แผ่นดินไหว 12M เกิดขึ้นนอกชายฝั่งแคมเมอรูนและกาบอง เมื่อวันที่ 17 ตค รายงานโดย USGS แต่ปัจจุบัน ข้อมูลถูกลบทิ้งไปแล้ว
    12.0 Earthquake Anomaly Off West Coast of Africa!:

    [​IMG]

    [​IMG]

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/PDZqFb2hh5M" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เผยแพร่เมื่อ 17 ต.ค. 2014
    http://www.undergroundworldnews.com
    This anomaly appears in the same region that we caught HAARP Activity Last Year! They are up to something on These Islands. As far as an explanation..? Yal Tell Me!
     

แชร์หน้านี้

Loading...