ทำดีได้ดี จริงๆเหรอ แบ่งปันกันหน่อยคะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Igiko_L, 6 ตุลาคม 2014.

  1. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    -cool day- ทำดีได้ดี หนูไม่แน่ใจ แต่ทำชั่วได้ชั่ว เรื่องจริงคะ
    หนูเลยเกิดข้อสงสัย กรรมติดจรวด
    ทำไม ทำดี ไม่ติดจรวดบ้าง?????hello8
    อยากให้ พี่ๆเพื่อนๆ มาแชร์ประสบการณ์ ทำดีได้ดี เพื่อเป็นกำลังใจ ให้คนทำความดี บางคนทำค่อนชีวิต แล้วยังไม่เจอ จะได้มีกำลังใจ อยากทำความดี

    หนูจะรออ่านนะคะ catt7 ขอบคุณล่วงหน้าคะ
    อิจิโกะ catt26
     
  2. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ขึ้นชื่อว่ากรรมแล้วไทร้
    ทำอะไรไป ย่อมมีผล
    แต่กรรมไม่ติดจรวจ
    กรรมไม่ได้ตายตัว ว่าจะเห็นผลเร็วช้า
    กรรมไม่มีดีชั่ว มีแต่เราไปตัดสินว่าดีชั่ว
    กรรมอาจจะสนองบุคคลดังกล่าวอยู่
    แต่เพราะไม่ตรงกับที่เราคิด
    ไม่ตรงกับที่เราจินตนาการถึง
    เลยอาจเข้าใจว่ายังไม่สนอง
    แต่กรรมบางอย่างก็สนองไปคนละแบบได้เหมือนกัน
    เพราะกรรมขึ้นกับปัจจัยมากมาย
    ไม่ใช่แค่ผู้ทำ กับผู้ถูกกระทำ เพียงเท่านั้น
    บางคนก็กระทำกรรมอย่างฉลาด
    ทำกรรมแบบมีสติ ทำให้สามารถเลือกผลกรรมได้

    ยกตัวอย่าง
    บุคคลหนึ่งจะทำกรรมชั่ว
    ด้วยการปาอุจจาระใส่บุคคลที่เกลียดชัง
    เมื่อเราเอามือไปจับอุจจาระ เพื่อจะปาใส่เขา
    มือเราก็ย่อมต้องเปื้อนเสียก่อนแล้ว
    กรรมได้สนองไปบางส่วนแล้ว
    เปรียบเหมือนบุคคลใด คิดจะทำร้ายผู้อื่น
    ใจของเขามีโทสะก่อน
    อยู่ไม่เป็นสุข นอนก็หลับให้สนิทได้ยาก
    แต่ทีนี้ คนชั่วๆในสังคม อาจฉลาดในการทำกรรม
    เขาอาจจะหยิบอุจจาระด้วยการสวมถุงก๊อบแก๊บ
    ที่นี้มือก็เลยไม่เปื้อน ไปเปื้อนที่ถุงแทน
    แต่ใช่ว่าเขาจะไม่ได้รับกรรมเสียทีเดียว
    แน่นอนว่า บุคคลดังกล่าวต้องยอมสละถุงใบหนึ่งใบเพื่อการนี้
    เท่ากัยในความเป็นจริง คนชั่วนั้นต้องยอมสูญเสียอะไรบางอย่างไปบ้าง
    เพื่อชะลอผลกรรมที่รุนแรงจากการกระทำของเขานั่นเอง

    แต่อย่าคิดว่า ถ้าอย่างนี้ คนชั่วที่ฉลาดก็ไม่มีทางที่จะรับกรรมสนองแบบเต็มๆเลยสิ
    คนที่มักกระทำชั่วเสมอ ทำบ่อย ทำเป็นอาจิน แล้วไทร้
    แม้ตลอดชีวิตเขาจะไม่พลาด ไม่ประมาทเลย
    แต่เมื่อตายไป บุคคลนั้นย่อมหนีภพแห่งจิตอกุศลที่เขาสั่งสมไว้ไม่พ้นแน่
    อย่างหนักคือ อบายภูมิ ที่ที่อยู่ก็ไม่เป็นสุข ตายก็ไม่เป็นสุข หาความสุขมิได้เลย

    มีตัวอย่างการทำกรรมจากคนเลวไปแล้ว
    ถึงเวลาตัวอย่างการทำกรรมจากคนดีบ้าง
    เมื่อบุคคลหนึ่งปรารถนาที่จะให้ตนเองอายุยืนแข็งแรง
    เขาจึงตัดสินใจสร้างกรรมที่เป็นปัจจัยอันนั้น
    บุคคลดังกล่าว ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า และทานอาหารเบาๆ มังสวิรัติ
    ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหมั่นภาวนาเพื่อครายความเครียดและลดความประมาท
    บุคคลดังกล่าวจะได้เป็นผู้มีอายุยืนอย่างแน่นอน

    เมื่อการกินอาหาร ทำให้เรามีชีวิตรอด
    แต่อาหารที่เป็นพิษตกค้าง ก็ดับชีวิตเราได้เหมือนกัน
    การเลือกทานอาหารที่ดี มีประโยชน์
    จึงเป็นเหมือนการสวมถุงก๊อบแก๊บจับอุจจาระในบทความข้างต้นนั่นเอง
    เมื่อเรากินอาหารในขณะที่เรารอดในวันนี้
    แต่พิษตกค้างจะทำให้เราตายในวันข้างหน้า
    การเลือกกินอาหารที่เป็นพิษน้อย คือการยืดอายุให้ตัวเอง
    เมื่อใดก็ตาม ที่เผลอประมาทในการกิน ประมาทในการใช้ชีวิต
    ก็มีสิทธิ์ตายเพราะอาหารการกิน หรือตายเพราะการดำเนินชีวิตที่หวือหวาก็ได้เช่นกัน

    การสร้างกรรม ไม่ว่าเราจะเป็นคนดี หรือคนเลว ก็ไม่ควรประมาททั้งสิ้น
     
  3. Youkai

    Youkai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,683
    ชีวิตช่วงก่อนนี้ประมาณสัก 5 ปีก่อนจนถึง 6 เดือนที่แล้ว ยังตกงาน เจ็บป่วยเรื้อรังด้วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นช่วงชีวิตที่รู้สึกหดหู่ใจมาก รู้สึกมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองเลย แต่ว่าก็ตั้งใจทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล ปฏิบัติสมาธิภาวนามาตลอด ประมาณปีที่แล้วก็ทำบุญกฐินไป 40 - 50 วัด ที่มาประกาศทางเว็บพลังจิต เลือกร่วมกับคนที่มาบอกบุญบ่อย ท่าทางเชื่อถือได้

    ช่วงประมาณ 6 เดือนที่แล้วมีสอบเข้าข้าราชการ ก็ได้เดินทางไปสอบด้วย ระหว่างทางก็มีอุปสรรคนานัปประการ ทั้งกระเป๋าเดินทางซิปเสีย ต้องซื้อใบใหม่เปลี่ยนระหว่างทาง ทั้งพื้นรองเท้าร่อนหลุดออกมาระหว่างเดินทางไปสอบ เห็นว่าพอใส่ได้ ไม่ขัดกับระเบียบการเข้าห้องสอบ ก็ทน ๆ ใส่ไป

    ผลออกมาก็สอบผ่านได้บรรจุเป็นข้าราชการเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าถ้าเราไม่ยอมแพ้ ตั้งใจทำความดีไปเรื่อย ๆ สักวันผลแห่งความดีก็จะสนองตอบเราเองค่ะ



    หมายเหตุ เคยอ่านเจอว่าทำบุญกฐิน 9 วัดขึ้นไปในแต่ละปี แล้วชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง แบบติดจรวด จริงเท็จประการใด ก็ต้องลองพิสูจน์กันเองค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2014
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    เชื่อว่าถ้าสร้างเหตุได้สมบูรณ์แล้ว ผลก็จะตามมา จะอยากได้หรือไม่อยากได้ก็จะได้
    บางอย่างต้องรอเวลาที่เหมาะที่ควร
    อย่างเราทานข้าว ทานไปเรื่อยๆสุดท้ายก็จะอิ่มไปเอง
    เราปลูกต้นมะม่วง จะบังคับให้ตกดอกออกผลตั้งแต่ต้นมะม่วงยังเล็กก็ย่อมไม่ได้
    เมื่อถึงเวลาเขาก็ผลิดอกออกผลเอง
    หรือมะม่วงเล็กๆ ที่เพิ่งตกผล จะบ่มอย่างไรให้สุกหอมก็ย่อมไม่สำเร็จ
    ต้องรอจังหวะเวลา
    กรรมดีจะส่งผลก็เช่นกันค่ะ
     
  5. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    อย่าคิดแบบนี้เชียว ยังไม่ถึงวาระต่างๆ อย่าสงสัยในผลบุญ
     
  6. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    พระพุทธเจ้าเพิ่ลว่า ทำดีได้ดี ท่านว่าเรามีกรรมเป็นกรรมกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย จักทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตามจักเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2014
  7. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อปัญญาการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
     
  8. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=I3pmcxakfxQ]หลวงปู่วิริยังค์::จิตเข้าสู่มหาสติ - YouTube[/ame]
     
  9. tuti

    tuti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +285
    ทำดีได้ดีจริงๆค่ะ พี่พิสูจน์มาแล้ว สู้ๆนะคะ :cool:
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แปลกตรงไหนน

    กฏแห่งกรรม

    กินบุญกรรมเก่าอยู่ กรรมเก่าส่งผลให้ได้ดี ตามกฏแห่งกรรมครับ ^^


    ดูสั้นไม่ดูยาว ดูยาวๆเดี่ยวก็รู้ผลเอง

    สร้างกรรมอะไรไว้ก็ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น
     
  11. ปทุมมุต

    ปทุมมุต ผมเป๋นใตร?

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +286
    อืมมมม ตามนั้น ....
    กรรมดีให้ผลเร็ว คือกระทำต่อพระอรหันต์ที่เพิ่งออกจากนิโรธฯ
    กรรมชั่วที่ให้ผลเร็วคืออนันตริยกรรม4
    หลักการให้ผลมี4 (ถ้าจำไม่ผิดอิอิ) ถ้าจะตามรู้จนละเอียดยิบย่อย
    เข้าใจว่าเป็นพุทธวิสัยเท่านั้น มีประสบการเล็กๆ ที่คิดไม่ดีกับพระอารย์ตอนบวช
    ..ไม่เล่าดีกว่า...ยั่วให้อยากแล้วจากไป ฟิ้ววววว
     
  12. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    อย่างที่คุณติงติงกล่าวครับ เห็นภาพเลย
    ทำดีบางอันก็เหมือนปลูกมะม่วง บางอันก็เหมือนปลูกกล้วย ปลูกข้่าว
    ความช้า ความเร็วในการออกผลไม่เท่ากัน หรืออย่างทีทคุณ สกิโนบอก
    ความชั่วก็เหมือนกัน

    แต่ทำดีที่ให้ผลไวสุด คือการถือศีลครับ เพราะให้ผลทันที
    คือเราเว้นขาดจากความชั่ว เราก็ไม่เกิดทุกข์อันเหตุเพราะความชั่วเหล่านั้น
    ความทุกข์ที่ไม่เกิดในปัจจุบันอันเนื่องจากการประพฤติผิด ก็ไม่มีในตัวเรา นี้คือผลที่ให้ทันที
    ส่วนความสุขในอนาคตที่จะได้รับ เช่น จะได้รวย จะได้ไปสวรรค์ คือผลในอนาคตครับ

    แต่จริง ๆ แล้วอย่างอื่นก็ให้ผลทันที เหมือนกัน แต่เราอาจมองไม่ออก
    เช่น ทำบุญ จิตใจเราก็แจ่มใส สดชื่น เบิกบาน มีความสุข นี่คือผลทันที
    เรามีความสุข อารมณ์ดี สมองก็แล่น คิดอะไรก็ออก ทำงานก็ลื่นไหล<< ผลทีตามมา
    ทำงานลื่นไหล คิดอะไรก็ออก สมองก็แล่น อารมณ์ก็ดี ผลงานก็เลยออกมาดี <<ผลที่ตามมา
    ผลงานออกมาดี เราเลยประสบความสำเร็จในงานชิ้นนั้น ๆ
    เราสำเร็จ อารมณ์ดี ไปพูดกับใครก็เพราะ ปฏิบัติดีกับคนอื่น (เพราะอารมณ์ดีมาก ๆ)
    ไปที่ไหนก็เลยมีแต่คนรักคนชอบ <<< ส่วนสุดของผลนั้นในปัจจุบัน

    ทำบ่อย ๆ ก็ทำให้เป็นคนมีจิตเมตตา ไม่ตระหนี่ นี่คือผลที่จะส่งในภายหน้า (ต้นกล้วย ต้นข้าว)
    มีอนาคต คือ มีทรัพย์มาก รวย ไปสวรรค์ นี่คือผลในอนาคตกาล (ต้นมะม่วง)
    การเจริญเมตตา และอย่างอื่นก็ทำนองเดียวกัน
    และยังมีที่ทำให้ ทำใจอุเบกขาจากความทุกข์อันเป็นวิบากกกรรม
    เสวยสุขได้ทั้ง ๆ ที่ เต็มไปด้วยความทุกข์จำนวนมากอันเกิดจากผลของวิบากกรรมอีกด้วย

    เพราะฉะนั้นคนทำดี ถ้าเข้าใจแล้ว ย่อมยิ่งอยากทำดี ขึ้นไปเรื่อย ๆ
    ไม่ได้ทำเพื่อใคร ก็ทำเพื่อตัวเขาเองนั้นแหละ

    ส่วนคนที่ไม่รู้จักว่าสิ่งไหนให้ผลดี สิ่งไหนให้ผลไม่ดี ก็ย่อมมัวเมาประมาทอยู่อย่างนั้น
    ก็เลยทำกรรมไม่ดีเป็นจำนวนมาก กรรมดีทำนิดหน่อย
    ผลสุดท้ายก็ต้องมีความทุกข์จากการทำกรรมไม่ดีไว้เป็นจำนวนมาก
    เสวยความทุกข์เวทนาอย่างแรงกล้า เมื่อตายไปก็ต้องเข้าสู่อบายภูมิอีก
    หมดจากอบายภูมิ ก็เข้าสู่เปรตวิสัย เดรัจฉาน
    จนกว่าจะหมดวิบากแห่งกรรม ถึงจะกลับมาเป็นมนุษย์ซึ่ง..
    อาจจะ ยากไร้ แร้นแคล้น คลาดแคลน พิการ อัปลักษณ์ ขาดโชค ดวงตก ฯลฯ
    และถ้ายังไม่มีบุญวาสนาพอที่จะเข้าใจผลแห่งวิบากกรรม ก็กลับไปทำชั่วเหมือนเดิม
    แล้วก็ตกไปสู่อบายภูมิใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เป็นกัลปป์ ๆ
    ช่างน่าอนาถ และน่าสงสารเหลือเกิน
    แม้แต่คนที่เกิดมาโชคดี ก็ยังอาจประมาทได้แบบนี้

    จึงเป็นความโชคดีที่สุดของเรา ที่มีพุทธศาสนาชี้นำ ให้ไม่หลงทาง
    เหมือนมีคนหงายของที่คว่ำไว้ หรือเป็นประทีบตามทาง ทำความมืดให้สว่าง
    บอกทางให้แก่คนหลงทาง ทางอันตรายที่เต็มไปด้วยโจรอยู่ข้างหน้านี้
    ทางสู่เมืองแห่งความสุขอันเกษมสำราญเลี้ยวไปทางนี้ ประมาณนี้แล.


     
  13. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    อย่างเราดูละคร เวลาเราเจอนางร้าย แล้วเราเกลียด ก็เป็นเรื่องปกติของคนธรรมดา
    แต่หากเราศึกษาหลักธรรมเข้ามาก ๆ เข้าใจผลแห่งวิบากกรรมได้พอสมควร
    เรากลับจะยิ่งสงสารเขาด้วยซ้ำ
    เราจึงไม่เกิดจิตที่เป็นความโกรธ เกลียด ชัง อาฆาตแค้น
    อันเพราะเราเห็นผลแห่งวิบากกรรมที่จะพึงมีแก่ตัวเขา
    ความโกรธ ไม่มีในตัวเรา เราจึงไม่มีความทุกข์เวทนาใด ๆ
    เขาก็ถูกกรรมสะท้อนเอง
    ส่วนเราก็เสวยความสุขของเราต่อไป
    นี่ก็เป็นผลอันประจักษ์ในการ มีจิตเมตตา


     
  14. tshine

    tshine สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมเองก็เป็นคนนึงที่คิดว่า ทำไมผลกรรมชั่วมันมาเร็วจัง กรรมดีทำไว้ทำไมไม่มาอีก ทำไมช่วงนี้ดวงตก-จิตตกจัง ทำไมเราทำดีกับเขา ทำไมเขาไม่เห็นใจ หรือแค่ทำอย่างที่เราปฏิบัติกับเขาบ้าง บางครั้งก็ต้องนั่งปลอบใจตัวเองว่า มันคงเป็นผลกรรมเลวที่เราเคยทำมา ถึงเวลาต้องชดใช้ แต่ในใจก็หวังเล็กๆว่ากรรมดีที่เคยทำมา น่าจะมาให้เห็นผลบ้าง ให้ใจได้ผ่อนคลายจากทุกข์บ้าง แค่นั้น......แชร์ความรู้สึกครับ อาจจะไม่ได้ตรงกับหัวข้อเท่าไหร
     
  15. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ทำดีแล้วสบายใจ ทำชั่วแล้วร้อนใจ
    เห็นผลชัด ๆ ทำไมจึงว่าไม่เห็นผล
    อาจจะสังเกตไม่ตรงจุด สังเกตไม่ทัน
    หรือคาดหวังผลผิดประเด็น เกินจริงไปก็ได้

    อีกอย่างอานิสงส์ของการทำดีที่ยังไม่ปรากฏอาจเป็นเพราะ
    น้ำหนักในการทำดียังน้อยกว่าน้ำหนักในการทำชั่วก็ได้
    เช่น ใจยังหมกมุ่นอยู่แต่ในเรื่อง โลภะ การพนัน อบายมุข
    มันเป็นความร้อน ความดีความเย็นใจที่ไหนก็ให้ผลไม่ได้
    เพราะยังเดินอยู่บนปากทางของความเสื่อมนั่นเอง
     
  16. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว :cool:
     
  17. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติตรัสไว้ ดีแล้ว
     
  18. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    ทำความดีเค้าหวังผลกันด้วยหรือคะ?
     
  19. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    คุณติงๆ ครับ
    อาหารที่ทานเข้าไปพออิ่มก็กลับมาหิวอีก เราจึงต้องแยกด้วยการไม่ประกอบ
    เช่นกินข้าวผัดปู พอแยกออกมาก็จะได้ ข้าว ปู หอมใหญ่ ต้นหอม ไข่ไก่ กระเทียม
    ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย พริกไทยป่น มะเขือเทส น้ำมันพืช
    พอแยกส่วนประกอบออกมาหมด ความเป็นข้าวผัดปูก็จะไม่มี มีแต่อุปกรณ์ต่างๆตามชื่อ
    ทำความเข้าใจในที่มาและที่ไปเมื่อมีมาแล้วก็ต้องมีบูดมีเน่าเสียตามกาลเวลา
    เรื่องต้นไม้ ศาสนาพุทธ นี่เปรียบดั่งต้นกล้วย พอแยก ใบออกมาแล้ว หัวปลี
    กล้วย ค่อยๆปลอกส่วนลำต้นออกมาเรื่อยๆ พอปลอกไปทีละชั้นจนหมด
    ตรงแก่นสารสาระสำคัญๆหนะมันไม่มี อาหารกับต้นกล้วยก็เปรียบดั่งสังขาร
    หากจะมอง สังขาร แยกออกมมาเป็น กาย อารม นึกคิด สภาวะต่างๆ
    ก็จะเหมือนคนปรบมือ แปะๆๆๆ ตรงส่วนมือ2ข้างคือกาย
    ตอนมือมาสัมผัสกันคืออารม ตรงควบคุมจดจ่อที่จะปรบมือคือนึกคิด
    ตอนแปะๆๆ แล้วคลายคือสภาวะต่างๆ ตอนรู้อยู่ในเรื่องราวตามความเป็นจริงคือเรามีสติ
    ความไม่เที่ยง ไม่ประกอบ คลายกำหนัด เห็นตามความเป็นจริง เป็นเรื่องเดียวกัน
    ทานจนอิ่มหรือผลไม้สุขงอมอันนี้คือผสม คือการนึกคิดปรุงแต่งครับ
     
  20. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เร็วช้าต่างวาระกรรม อยู่ที่ผู้กระทำ กำหนดเอง

    ถาม ทำดี เพื่อ หวังผล ก็ทุกข์
    ถาม ทำดี เพราะ อยากช่วย ส่งสาร ไม่มีอะไรมาก ไม่หวังผล ทำทิ้ง สบาย อะไรจะเกิดก็ปล่อยไป
    ถาม รู้วาเขาเลวต่อเรา ก็ อยากทำ อยากช่วย
    ถาม รู้ว่าเขา ไม่คิดว่าเราดี เราก็อยากช่าย
    ถาม รู้ว่าเขาด่า เขาว่า เราก็อยากช่วย เมื่อเขาล้ม
    ถาม รู้ว่าเขาลอบทำร้าย เราก็ปล่อยตามกรรมไป
    เพราะสุดท้ายแล้ว ใครทำใครได้ กรรมขึ้นอยู่กับผลของการกระทำ
    โมทนาคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...