จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    วันนี้วันพระ...ลูกขอน้อมจิตก้มลงกราบแทบฝ่าพระบาทพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน รวมทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกๆ ท่าน...ลูกขอน้อมถวายจิตบุญดวงใหม่ล่าสุดดวงที่ 146 แห่งบ้านจิตเกาะพระ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    สวัสดีค่ะ ทุกๆ ท่าน...วันนี้วันพระ เป็นฤกษ์ดีอีกวัน ที่มีบุญใหญ่ให้ทุกท่านได้โมทนาบุญร่วมกันอีกครั้งค่ะ (ก็แหม๋น่ะ...ท่านให้รอได้มาประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้จริงๆ สาธุ)...จากที่เพิ่งประกาศจิตบุญรุ่นพี่สุดแสบไปเมื่อต้นเดือน ปลายเดือนก็มาถึงคิวของรุ่นน้องสุดหล่อกันค่ะ คริๆๆ

    _/l\_ขออนุโมทนาสาธุๆๆด้วย 146 ล้านครั้งเลยจร้า กับน้องไกด์สุดหล่อ จิตบุญน้องใหม่ล่าสุดดวงที่ 146 แห่งบ้านจิตเกาะพระค่ะ (ท่านอาจารย์พี่ภู มีคู่แข่งซะแย้ววว อิๆๆ) ลูกศิษย์สุดlove อีกคนของข้าพเจ้าเอง จากการบ้านที่รายงานเข้ามาล่าสุด บารมี10 และสังโยชน์10 ที่รายงานอารมณ์จิตปัจจุบันเข้ามานั้น ยืนยันได้แล้วค่ะว่า จิตท่านได้ยกขึ้นสู่ประตูแห่งพระนิพพานไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนสอนจิตเกาะพระแล้วค่ะ ท่านพ่อได้เสด็จมารับดวงจิตน้องไกด์ด้วยพระองค์องแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ

    น้องไกด์เข้ามารู้จักบ้านจิตเกาะพระนี้ได้ ก็ด้วยการแนะนำจากพี่ชายสุดหล่อ(ยังไม่เสร็จ) นั้นก็คือ พี่เทิด...น้องไกด์ก็เข้ามาประกาศหาครูสอนจิตเกาะพระในกระทู้ที่เวปพลังจิต จู่ๆ ครูเกษก็เข้ามาเห็นพอดีซะงั้น แล้วอย่างนี้จะไม่รับได้ยังไง๊(ทั้งๆ ที่ทางโลกก็แสนจะยุ่งในช่วงนี้ แต่ด้วยกำลังใจอันล้นเหลือ ไม่เคยห่วงเลยว่าแบตของตนเองจะหมดไปเมื่อไรยังไงรึเปล่า เหอะๆๆ) น้องไกด์เป็นลูกศิษย์ที่น่ารักมาก (แบบนี้มาพร้อมกันสัก 10 คนก็ยังไว อิๆๆ) ในความไม่ดื้อ ไม่ซุกซนของเค้า เลยทำให้การเดินมรรคของเค้าเป็นไปค่อนข้างดี และไว ทั้งๆ ที่ต้นทุนในชาตินี้มีมาไม่เท่าไรเลย แต่ด้วยบุญเก่า ต้นทุนเก่าของเค้าทำมาค่อนข้างดีเลยส่งผลให้การเดินมรรคไม่ได้ติดขัดอะไรหนักๆ แหม๋..ครูเล่าไม่ค่อยสนุกนักหรอกค่ะ คงต้องรอให้เจ้าตัวมาเขียนเล่าประสบการณ์ในการฝึกจิตเกาะพระด้วยตัวเค้าเองจะดีกว่า ดูเหมือนไม่ค่อยจะมีอะไรหวือหว่า แต่รับรองสนุกไม่แพ้กันกับของพี่ชายเค้าแน่นอนค่ะ แล้วจะรออ่านนะจ๊ะ สาธุ

    รวมระยะเวลาในการฟูมฟักดวงจิตนี้ โดยการฝึกจิตเกาะพระของน้องไกด์ทั้งสิ้น 17/06/5 ถึง 23/9/57 รวม 3 เดือน กับอีก 6 วัน ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไปค่ะ กำลังพอดี...

    รบกวนครูทุกท่าน ได้เข้ามาให้โอวาทจิตบุญน้องใหม่ดวงนี้กันด้วยน่ะค่ะ ขอกราบขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี้ค่ะ

    เฮ้อ....โล่งอก ไปอีกหนึ่งดวงจิตแล้ววววว สาธุ สาธุ สาธุ

    โมทนาสาธุ

    ธรรมมณี จบ.52 (ครูเกษ)

    ปล. นี้ยังไม่สิ้นสุดการเดินทางของจิตน่ะค่ะ ได้โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า นี้คือ จิตอรหันต์แล้ว ขอย้ำว่า ไม่ใช่ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กันยายน 2014
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,275
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ อนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ
    Louis Armstrong What A Wonderful World
    https://www.youtube.com/watch?v=-IzQWXPI8mA
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2014
  3. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดี และยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ แม่ต้อย...เป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ยค่ะ คิดถึงเน๊าะ _/l\_
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,275
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ********************************************
    ขอบคุณค่ะคุณครูเกษแวะมาเยี่ยมก่อนจะกลับบ้านเก่าค่ะ เอ แล้วรุ่นหลังนี่จะีมีการคลอด เอ๊ย ครอบไหมคะ
    ({)
     
  5. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ 147 ณ วันที่ 25 กันยายน 2557


    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ 147
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ


    [​IMG]
     
  6. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ข้าพเจ้าขอร่วมอนุโมทนาในมหาบุญมหากุศล กับจิตบุญพิเศษน้องใหม่ดวงล่าสุดแห่งบ้านจิตเกาะพระ ดวงที่ 147 จ้า....จิตบุญท่านนี้นามว่า วิภาดา เจียมกิตติ หรือ คุณแพรว ค่ะ ท่านมาไวไปไวแซงหลายโค้งเลยจริงๆ สติไม่ต้องพูดถึง แน่นปึ๊กๆ ท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์พี่ภูค่ะ

    ขอเชิญติดตามอ่านความเป็นมาเป็นไปของจิตบุญท่านนี้ ได้ต่อที่ด้านล่างกันเลยจร้า....สาธุ สาธุ สาธุ



    @ ค น ห ล ง ท า ง

    เธอคนนี้ เดินหลงเข้ามา
    นึกว่า..เป็นกระทู้แจ้งเตือนภัยพิบัติธรรมชาติ
    เธอกำลังติด บ่วง เอ๊ย ตามข่าวสาร เรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติ
    เกรงว่า สึนามิ จะมาถล่มหมู่บ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ?
    555+ ว่าจะไม่หัวเราะแล้วนะ อดไม่ได้ ขำ สำรวมจิตหลุดเลย
    พบเธอคนนี้ โดยบังเอิญ หรือว่า พระจัดให้ต้องมาพบเจอกัน ที่นี่
    ก็เลยถือโอกาสนี้ ให้เธอเล่าเรื่อง การปฎิบัติธรรม
    เพื่อเป็นธรรมาทานให้กับพวกเรา ที่นี่ ได้อ่านกัน
    ลองอ่านประการณ์ของผู้ปฎิบัติธรรมท่านนี้ดูนะครับ
    ขอโมทนาสาธุ และขอขอบใจเธอมาก สาธุๆๆ

    ภู ท ย า น ฌ า น

    ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

    ก็ขอน้อม กราบ กราบ กราบ พระธรรมคำสอนของตถาคต
    และครูบาอาจารย์สายบุญที่เกื้อหนุนที่ไห้สติปัญญา
    แนบชัดเข้าไปอีกยิ่งๆขึ้น จึงรู้ทุกข์และละทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง
    เพราะสภาวะธรรมภายในเบาละเอียดเค้าวางของเค้าเอง
    โดยไม่จงใจจะวางเพราะจิตเค้าเข้าไปรู้เห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง
    คุณคุณบารมีของพุทธองค์ที่ได้เข้ามาสัมผัสอย่างเต็มหัวใจ
    และไม่มีสิ่งอื่นใดยิ่งกว่าพระรัตนตรัยอีกแล้ว

    น้อมกราบ สาธุๆๆด้วยเศียรเกล้าในความมีเมตตาของพระพุทธองค์
    ไม่มีประมานได้ความเมตตาของท่านที่ได้นำสรรพสัตว์ออกจากกองทุกข์
    และขอน้อมกราบในความมีเมตตาของท่านพี่ภู
    หรือขอเรียกท่านว่าอาจารย์ภูก็ได้นะค่ะ ที่ได้ชี้แนะ
    และให้วางทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง โดยไม่ตั้งใจวางเค้าวางเองค่ะ

    สภาวะภายใน คือ ที่ได้รู้จักพี่เค้านะค่ะ ไม่ได้ตั้งใจมาเรียนธรรมเลย
    เพราะกูรู้แล้ว เข้าใจแล้ว กูสามารถอยู่ในโลกนี้ได้ โดยไม่ทุกข์
    ตัวกูของกูเพรียบ เพราะมองไม่เห็นกิเลสอันละเอียดนี้
    ก็เลยไปอยู่กับโลก เล่นกับโลก เพราะหลงตัวเอง ว่า
    กูเก่งอยู่กับโลกได้ไม่ทุกข์ นั่นก็ไช่ค่ะ แต่ระดับหนึ่งเท่านั้น
    เพราะเป็นคนมั่นใจเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ
    เชื่อมั่นช่วยงานพ่อแม่ครูอาจารย์ทางใต้เยอะ

    ก็ขอน้อม กราบ กราบ กราบ พระพุทธองค์ และในพระธรรมคำสั่งสอน
    ของท่านไม่มีประมาณ และพระมหาเมตตตาจากท่านที่โปรด
    สรรพสัตว์ไม่มีประมาณ และน้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เกื้อหนุน
    ให้สติปัญญาทางธรรม ขอเผยแผ่ธรรมเพื่อนๆกัลยาณมิตรสายบุญ
    ไม่ไช่ โอ้อวดตน แต่เล่าสภาวะที่ตนได้ประสบมาไห้ฟัง
    ถ้าผิดพลาดประการใด ขอโทษขออภัยด้วย เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่บางคน
    ที่ต้องการพ้นทุกข์

    เพราะควาททุกข์กระหน่ำเข้ามา จึงทำไห้ชีวิตหักเห
    เข้ามาทางธรรม เห็นทุกข์คือเห็นธรรม เคยมีทุกอย่างทรัพย์สิ้นเงินทอง
    แล้วต้องมาประสบกับภัยพิบัตสึนามิ ถล่มอยู่ที่หมู่บ้านน้ำเค็ม จ.พังงา
    คนตายเป็นพัน เฉพาะหมู่บ้านน้ำเค็ม เพราะทุกข์สิ้นเนื้อประดาตัว
    เคยมีกลับมาหมด หนี้สินมากมาย ทุกข์จึงได้หักเห มาทางธรรม
    เห็นทุกข์คือเห็นธรรม และขอขอบคุณทุกข์ที่ไห้ได้รู้ธรรม
    เคยไปรับกรรมฐานกับหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
    เคยทำความเพียร เพื่อให้ตนหลุดพ้นจากความทุกข์ทุกรูปแบบ
    สวดมนต์ไหว้พระ วันละ 3 รอบ รอบละ 3 ชม เช้า บ่าย ค่ำ
    สวดมนต์ 1 ช.ม. นั่งสมาธิ 1 ช.ม. เดินจงกลม 1 ช.ม.
    ในรูปแบบ เคยนั่งสมาธิสุขสงบ ไม่ทุกข์ แต่ออกจากสมาธิแล้ว
    โครตทุกข์เลย
    เพราะไม่มีสติปัญญารู้เท่าทันทุกข์

    จนมาเจอครูบาอาจารย์ท่านอยู่สุรินทร์ ชื่อพระอาจารย์ปราโมทย์ ขันติโก
    วัดป่าขวาวโค้ง ท่านบอกธรรมะไม่มีอะไร
    แค่รู้สึกสบายๆ ท่านก็ทำไม้ ทำมือ เราก็งง อะไรเคยอยู่ในรูปแบบแล้ว
    ให้ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เราก็ไม่ดื้อ เชื่อฟัง เพราะอยากพ้นทุกข์
    กายเคลื่อนไหว ก็กำหนดรู้ ตอนแรก ก็ประคองหนักหน่วง เพราะเพ่ง
    แต่เราก็ต้องฝึกรู้อยู่กับเค้าจนคุ้นเคย เมื่อถึงเวลาก็มาถึง
    ฝึกจนกายเป็นอัตโนมัต ไม่จงใจจะรู้ แต่เค้ารู้เอง พอผัสสะภายนอกมากระทบ
    ทั้งอารมณ์ใจ หรือไม่พอใจเข้ามา พอเราเคลื่อนไหวกาย สิ่งเหล่านี้
    ก็ขาดกระเด็นอยู่กับทุกข์ โดยไม่ทุกข์ ลงปัจจุบัน ขยับรู้ตื่นลงกาย ลงปัจจุบัน
    รู้ตื่น ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน จนไม่รู้จะพูดให้ใครฟังเข้าใจ เออ รู้คนเดียว
    แค่ไม่ทุกข์ก็พอแล้ว แต่นั่นแค่ปัจจุบันเท่านั้น

    จนวันนึงมีเหตุได้ไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช
    ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
    มีคนมาหากราบหลวงพ่อเยอะมากๆ เต็มศาลา วันนึง ท่านให้ถามสภาวะ
    แค่10คน โดยจับหมายเลขแล้วท่านเรียก พอหมดคนที่ 10 เอาล่ะว่ะ
    เรามาไกล มาจาก จ.พังงา หมู่บ้านสึนามิ อย่าไห้เสียเวลาเปล่า มาตั้งไกล
    เลยอธิษฐานจิตให้ท่านเมตตา ให้เราได้เล่าสภาวะที่ได้มา เลยยกมือคนที่ 11
    บอกว่าโยมมาไกลค่ะ มาจากพังงา หมู่บ้านสึนามิ ประสพภัย ท่านมีเมตตามาก
    น้อม กราบๆๆ ค่ะ เลยพูดกับหลวงพ่อว่า หลวงพ่อเจ้าค่ะ โยมมีสภาวะขยับ
    แล้วรู้โดยไม่จงใจรู้เจ้าค่ะ ก็ไม่รู้จะถามอะไร เพราะเป็นแบบนี้ ท่านมีเมตตามาก
    เดินมาเราก็ก้มกราบแทบเท้าท่าน ท่านกล่าวว่า อะไรนะ 2-3 ครั้ง
    โน้มศรีษะมาฟัง ที่เรานั่งตรงพื้น จิตตอนนั้น ไม่กระเพื่อมหรือหวั่นไหว
    แม้แต่น้อย ศรีษะท่านแทบจะชนกับเรา ในความเมตตาพ่อแม่ครูอาจารย์
    ท่านกล่าว ฮืม สาธุๆๆ ทำได้ขนาดนี้ดีแล้ว คราวหน้าไม่ต้องมาหาหลวงพ่อแล้ว

    เราก็ได้แต่สาธุๆๆ เพราะเราเข้าใจในเราเอง ไม่จำเป็นต้องบอกใคร
    แค่ถามสภาวะครูอาจารย์ก็เข้าใจ จนวันนึง เพื่อนพระที่เรารู้จักท่านเป็นอย่างดี
    ขอเอ่ยนาม ชื่อพระนรินทร์อยู่นครสวรรค์ วัดคีรีวงค์ ท่านออกพรรษา
    ก็จะปาริวาสไปทั่ว ไปที่ไหน ก็ให้เราโมทนา ก็เคยกล่าวกับท่าน
    จะไปหาอะไร อยู่กับตัวเอง แต่ท่านก็ไปเรื่อย วันนึง ท่านก็โทรหาแพรวๆๆ
    พระมาปฏิบัติ ที่วัดป่าศุภมิตรสิทธาราม มหาสารคาม ฝึกแนวหลวงพ่อเทียน
    มีสติรู้กายเคลื่อนไหว หลวงปู่สอน เราก็นึกในใจ สาธุๆๆ ท่านมาถูกแล้ว
    พอช่วงค่ำสวดมนต์ หลวงปู่ให้กรรมฐานเจริญสติเสร็จ พักฉันน้ำปานะ
    ท่านก็โทรหาแพรวๆ มีอะไรจะคุยกับหลวงปู่จันทร์ป่าว เราได้โอกาสเลย
    ถามท่านทันที หลวงปู่ค่ะ โยมจะถามสภาวะขยับแล้วรู้ ไม่จงใจรู้
    ความทุกข์ต่างทุกข์สุขก็ขาดมารู้ตื่นปัจจุบัน ท่านหัวเราะชอบใจพูดเสียง
    ในฟิล์มอีก 55 เว้า ภาษาอีสาน โอ้ คือ มาไวแท้ อายุเท่าได๋นิ
    เราก็ตอบ 38 ค่ะ ตอนนั้น 38 ค่ะ ตอนนี้ 40 ค่ะ เล่าที่ผ่านมาไห้ฟัง
    ท่านพูดจำไว้เด้อลูกเด้อ ตราบใด ที่เราไม่ตายต้องอาศัยธาตุขันธ์
    กายหยาบทำงาน สาธุๆๆ เจ้าค่ะ หลวงปู่ ยิ่งรู้แจ้งเข้าไปอีก เดินย่ำมา
    เกือบสองปีกว่า ยังนะค่ะ ยังไม่หมดแค่นี้ นั้นอีกสภาวะนึงค่ะ
    อิอิ มีต่อภาคสองค่ะ

    อันนี้นะ พรหมลิขิต หรือฟ้าชะตากำหนด ให้มาเจอพี่ภู ท่านพี่ภู
    หรือจารย์ภู แหม !!! เราไม่ได้ตั้งใจมาเรียนธรรมเลย
    เพราะ กูรู้แล้ว เข้าใจแล้ว เก่งแล้ว อยู่กับโลก เล่นกับโลก
    โดยไม่ทุกข์กับโลกนั้น ก็ไช่ แค่ส่วนนึง ได้มาเจอกับพี่เค้า
    ตรงอยากรู้เรื่องภัยพิบัตแผ่นดินไหวสึนามิ ไม่ได้อยากมาเรียนธรรมเลย
    เข้ากระทู้ผิดค่ะ จิตพร้อม? รับภัยพิบัต ก็เลย@ไป เพื่อรู้ข้อมูลธรรมชาติ
    แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์มาจะได้ไม่ตื่นข่าวเหมือนชาวบ้าน
    พอเข้าไปศึกษา อ่านไหนวะ แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ไม่มีเลย
    มีแต่ธรรมล้วนๆ แต่ตรงกับของเราที่เป็นอยู่
    เอาล่ะวะ ลองของ 555 ยังๆ มีต่อค่ะ

    ก็เลยถามว่า สวัสดีค่ะ เป็นพระ หรือโยมค่ะ แหม ไม่เห็นหน้าน้อ
    ท่านพี่ภู ก็เลยตอบ โยมคับ บวชจิต มิไช่ไร เราได้สื่อพูดกับท่านถูกไง อิอิ
    ว่า ถ้าพระก็จะได้พูดแบบไหน เราก็เล่าสภาวะให้ท่านฟัง ในสภาวะที่เราได้
    ปล่อยให้โม้ซะ จนหมดใส้ หมดพุง เงียบคับ เงียบ ไม่มีเสียงตอบ ชักเคือง
    แต่ก็รู้อยู่ แล้วพี่ภูหรือจารย์ภู ก็ตอบหมดแล้วหรือ เราก็อารายนี่ กวนจัง คิดในใจ
    แล้วพี่เค้าก็ตอบ สาธุๆๆ โมทนา ยากที่ใครจะมาถึงตรงนี้ กายอัตโนมัต
    แสดงว่า มีของเก่า แล้วพี่เค้าก็มาฝึกให้เราดูจิต เพราะเวลาตาย จิตไป
    ไม่ไช่ กายไป เพราะต้องทิ้งกาย แต่เป็นของคู่กัน อาศัยกัน ตราบเท่า
    ที่เรามีชีวิตอยู่ ยังไม่ละขันธ์ห้า กายหยาบ คือละเอียดซ้อนละเอียดเข้าไปอีก

    พี่ภูก็เลย ให้เอาจิตภายใน เข้าไปเห็นจิต น้อมรับคุณของพระรัตนตรัย
    ระลึกถึงพระองค์ท่าน ทุกลมหายใจเข้าออก ทุกวินาที ที่พึ่งอื่น ไม่มี
    นอกจาก พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ และตนเป็นทีพึ่งแห่งตน
    ก็เลยนำมาปฏิบัติ เข้าใจถึงจิตวิญญาณท่าน ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนค่ะ
    น้อมระลึกถึงท่านด้วยหัวจิตหัวใจ จนได้สัมผัสท่านเข้าถึงสภาวะเมตตา
    มหาเมตตาของพระองค์ท่าน ไม่มีประมาณ เข้าสมาธิ จิตนิ่งสงบ รู้ ไม่ตามรู้
    เป็นผู้ดู และพระพุทธองค์ท่านก็มาแนบกาย เหมือนท่านเป็นเรา เราเป็นท่าน
    คือจิตเค้าเข้าถึงเมตตาพระพุทธองค์แล้ว ออกจากสมาธิ จิตเราก็พลิกทันที
    รู้เข้าใจธรรมชาติสรรพสัตว์ทั้งหลาย สัตว์บุคคลเราเขา รู้เรา รู้เขา
    เราไม่ชอบแบบไหน ก็อย่าทำกับเขาแบบนั้น ธรรมชาติเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
    การมีชวิตเวียนว่ายตายเกิด พอเราเข้าถึงอารมณ์พุทธเมตตา
    มหาเมตตาของพระองค์ท่าน จิตเราจะอ่อนโยน รู้เรา รู้เขา
    เราก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข สาธุๆๆ ค่ะพี่ภู หรือ อาจารย์ภู
    ที่ให้น้อมจิตเอาจิตเข้าหาคุณ พระรัตนตรัย จนเราเข้าสัมผ้สได้
    พึงระลึกถึงท่าน เนืองๆ จิตจะไม่เกิดอกุศลเลย
    ขอไห้เพื่อนๆ น้อมระลึก นึกถึง พระองค์ท่านนะค่ะ ปัจจัตตังค่ะ
    รู้ได้เฉพาะตน สภาวะธรรมภายในละเอียด รู้ในรู้ แต่ไม่ตามรู้ เป็นเพียงผู้ดู
    จิตภายใน เค้ารู้ แล้ววาง แล้วเป็นอนัตตา รู้นอก รู้ใน เป็นเพียงผู้ดู
    ทุกสิ่งล้วนแล้วเกิดดับ สาธุๆๆ นะค่ะ พี่ภูที่ให้สติปัญญา ชี้แนะยิ่งๆขึ้น

    และขอฝากเนื้อฝากตัวน้องใหม่ใน จิตเกาะพระ
    กับครูแน๊ท ครูเป้ ครูอุ๋ย ครูเกษด้วยค่ะ
    และคนอื่น ที่ไม่รู้จัก ในกลุ่มจิตเกาะพระ สาธุๆๆค่ะ
    อย่าเพิ่งขี้เกียจอ่านนะค่ะ พอดีโม้เยอะไปหน่อย ติดเชื้อ จารย์ภูค่ะ อิอิ
    สาธุๆๆ นะค่ะ พี่ภูที่ชี้ทางสว่างและให้ปัญญญายิ่งๆ @phu bodin
    ปล. หากผู้ใด ถูกจริตธรรมะของคุณแพรว
    สอบถามเจ้าตัวโดยตรง ที่นี่""

    Vipada Jiemkitti จิตบุญ 147 (พิเศษ)


    ที่มา...https://www.facebook.com/groups/596...ment_id=624088474377943&notif_t=group_comment
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2014
  7. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    แม่ต้อยหมายถึง ครอบกายครอบจิตด้วยพลังพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เหรอค่ะ

    ตอบว่า ครอบค่ะ แล้วที่สำคัญ มีคนทำสำเร็จด้วยแล้วน่ะค่ะ สาธุ

    ดูแลสุขภาพน่ะค่ะ แม่ต้อย....เตรียมจิตให้พร้อมรับ? ภัยพิบัติเสมอ...สาธุ

    ด้วยรักและเคารพเสมอค่ะแม่ต้อย

    ครูเกษ
     
  8. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    [​IMG]


    กว่าจะมาเป็นจิตบุญ 146 ครับ

    ชีวิตวัยเด็กเกิดมาในครอบครัวที่ไม่มีฐานะครับ พ่อกับแม่ทำงานโรงงาน เงินเดือนพอใช้ไปเดือนๆนึง เป็นลูกคนเดียวครับ ชีวิตวัยเด็กก็เหมือนเด็กๆทั่วไปซุกซนตามประสาเด็กมีเพื่อนๆเยอะ แต่การเรียนค่อนข้างดีครับ สอบได้ที่ 1 ที่ 2 อยู่บ่อยๆในช่วงประถม และชอบฟังทำนองของบทสวดมนต์ตั้งแต่เด็กๆครับ รู้สึกมันไพเราะติดหูมากครับ เพราะที่โรงเรียนจะมีการสวดมนต์อาทิตย์ละ 1 วันครับ ก็อยู่กับพ่อแม่มาตลอดจนถึงช่วงเปลี่ยนแปลงของชีวิตตอนอายุ 15 เรียนอยู่ประมาณ ม.3 ครับ แม่ออกจากงานย้ายกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัด พ่อก็ไม่ค่อยสบายครับจึงลาออกจากงานย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเช่นกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน พ่อก็จะให้ผมย้ายไปอยู่กับพ่อที่เชียงราย แต่ด้วยความเป็นเด็กหนุ่มกำลังติดเพื่อน ติดสังคมเมืองกรุง จึงไม่ยอมย้ายกลับไปอยู่กับพ่อครับ เลยมาอาศัยอยู่บ้านอา พอขึ้นม.4 ผลการเรียนก็ตกต่ำอย่างน่าใจหายครับ จากเด็กที่เคยเรียนดีมาตลอด เกรดเฉลี่ยลดลงมาจนเหลือ 0.8 ติดเพื่อน ติดเกมส์ มีแฟน เริ่มเล่นการพนันบอล โดดเรียนเป็นว่าเล่นแทบไม่เคยเข้าเรียนเลยครับ จนถึงม.5 ครูเรียกพบผู้ปกครองเป็นประจำ จนอาที่คอยดูแลผมให้ผมอาศัยอยู่ด้วยทนไม่ไหวมีปัญหากัน ผมจึงต้องเก็บข้าวของย้ายออกมาเช่าอพาตเม้นอยู่คนเดียวแถวหน้าโรงเรียนเงินของพ่อก็ใกล้จะหมดครับ ก็เรียนจนจบม.6 มาได้อย่างทุลักทุเล เรียนมากกว่าเพื่อนเกือบครึ่งปีครับกว่าจะจบ ชีวิตก็ไร้ทิศทางเอาแต่เล่นเกมส์ เล่นการพนันบอล เงินก็ไม่มีจะเรียนต่อมหาลัย ก็ไปสมัครเรียนราม แต่ก็ไม่ไปสอบไม่สนใจอะไรเลย เที่ยวเล่นกับเพื่อนอย่างเมามันส์ครับ ชีวิตอยู่กับคนรอบข้างที่ค้ายาเสพติด เริ่มใช้ชีวิตกลางคืน เที่ยวผับ แทบทุกคืน โดยพี่ๆที่ค้ายาจะพาไปเลี้ยงแทบทุกคืนครับ รัชดา rca ทองหล่อ แหล่งประจำครับ เมาเหล้าทุกวันและด้วยความน่าตาดี(หรือเปล่า) มีผู้หญิงเยอะมากครับในตอนนั้น สติไม่มีหลงอยู่กับโลกคิดว่ามันสุขใจจริงๆชีวิตนี้ หารู้ไม่ว่าก้าวเหยียบนรกไปเต็มตีนแล้วครับ ใช้ชีวิตอยู่มาอย่างนี้ประมาณ 2 ปีหลังจากเรียนจบครับ

    จนอายุ20 หลังจากที่แม่ย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ค่อยได้พบกัน เป็นเวลาเกือบ 2ปี ตอนนั้นติดเพื่อนติดชีวิตเที่ยว ไม่ค่อยอยากจะไปหาท่านเท่าไหร่ครับ จนวันนึงแม่โทรมาหาผมบอกว่าแม่คิดถึงลูกมากเลย กลับมาหาแม่หน่อยได้ไหม ผมจึงนั่งรถทัวร์ไปหาแม่ครับ หลังจากไม่ได้พบกันมาเกือบ2ปี แม่มารอรับที่ท่ารถทัวร์ครับ ผมจำท่านไม่ได้จนท่านต้องเดินเข้ามาทักผม ภาพแรกที่ผมได้เห็นแม่ของผม แม่ของผมจากคนที่เคยสวยอวบอิ่มผิวพันผ่องใส ตอนนี้ท่านผอมมาก ใส่หมวก1 ใบ กับแว่นตาดำ ครับ ผมจำท่านไม่ได้จริงๆ แม่เข้ามากอดผมแล้วร้องไห้พูดกับผมว่าแม่คิดถึงลูกที่สุดเลยเราไม่ได้เจอกันมา2ปีแล้วนะ คิดถึงแม่ไหมลูก ตอนนี้แม่ป่วยเป็นโรงมะเร็งเต้านม แต่รักษาใกล้จะหายแล้ว แม่อยู่ต่างจังหวัดแอบรักษาตัวใช้เวลา 1 ปีโดยที่ผมไม่เคยรู้เลยว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัดเต้านม ให้ครีโม จนผมไม่เหลือทั้งหัว ตลอดเวลา1ปีที่แม่รักษาตัวผมก็โทรขอเงินเที่ยวกับเพื่อนแบบเมามันส์ตลอด โดยที่แม่ไม่เคยบอกผมเลยว่าท่านเป็นอะไร โทรไปหาก็คุยเหมือนคนสบายดีทั่วไป แขนขวาแม่ก็มีรอยหักเพราะโดนรถชน แต่แม่ไม่เคยบอกผมเลยซักครั้ง วินาทีนั้นมันอึ้งไปหมดครับ เหมือนโลกหยุดหมุน น้ำตาค่อยๆไหลออกมา กอดแม่ร้องไห้โหตรงนั้นเลยครับ ถามแม่ว่า ทำไมแม่เป็นอะไรทำไมแม่ไม่บอกผมเลย แม่ปิดบังผมทำไม คำตอบของแม่ที่ยังติดอยู่ในหัวผมทุกวันนี้คือ แม่ไม่อยากให้ลูกคิดมาก แม่เป็นห่วงลูก แม่รักลูกนะ แม่ไม่เจ็บแล้วแม่หายแล้ว ... หลังจากวันนั้น แม่รู้ว่าผมไม่ค่อยมีเงิน งานการก็ไม่ทำเอาแต่เที่ยว แม่จึงกลับลงมาทำงานที่กรุงเทพเป็นแม่บ้านครับ มาอยุ่กับผมที่อพาตเม้นของผม แม่ทำงานอยู่ได้เกือบปีครับ อาการมะเร็งก็กำเริบขึ้นอีกจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงแม่จึงขอกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเหมือนเดิม อาการก็ทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนผมต้องกลับไปดูแลท่านอยู่เกือบเดือน ที่สุดแล้วก็ไม่ไหวครับ แม่เสียชีวิตลงตอนผมอายุ 21 มันอึ้งไปหมดครับ ย้อนกลับมาทบทวนเวลาที่ผ่านมา อยากย้อนเวลาไปแก้ไขไปดูแลท่านก็ไม่ทันแล้วครับ อยากบอกแม่ว่าผมรักแม่ครับ ,,,

    หลังจากแม่เสียชีวิตไป ก็กลับมาอยู่ที่กรุงเทพสังคมเดิมๆชีวิตเดิมๆอยู่กับคนกลุ่มเดิมๆ จากนักเที่ยวก็เริ่มผันตัวมาเป็น DJ MC ตามผับ ชีวิตก็ยังอยู่กับแสงสี ชื่อเสียง ผู้หญิง อย่างโงหัวไม่ขึ้นครับ เจ้าชู้มากมีผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้า เกือบติดคุกเพราะเพื่อนสนิทชวนพาไปส่งยาเสพติดจนโดนตำรวจจับ แต่ยังมีบุญช่วยไว้หน่อยครับเพื่อนสนิทรับสารภาพหมด บอกว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงหลุดมาได้ครับ จนเพื่อนๆพี่ๆเริ่มโดนจับจิดคุกกันไป จึงค่อยๆห่างออกมาครับ ติดการพนันบอล มีเครดิตเกือบเลข 7 หลัก เล่นคู่นึงเป็นหมื่นเป็นแสน เล่นบอลอย่างเดียวงานการไม่ทำ จนเงินที่เก็บได้แทบจะหมด ติดหนี้พนัน ต้องหนีหนี้พนัน ตอนนั้นเครียดมากครับ เหมือนคนบ้า สติไม่มี จมอยู่กับทุกข์ เครียดมากจนอยากตายครับ ไม่รู้มีอะไรดลใจคิดอยากบวชให้แม่ คิดถึงแม่มากครับตอนนั้น จึงนำเงินที่เหลือก้อนสุดท้ายประมาณ 4หมื่นกว่าบาท โทรหาพ่อบอกพ่อว่าอยากจะบวช จึงเข้าไปหาอาที่เคยดูแลผม หลังจากไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบ 8ปี บอกเค้าว่าผมจะบวชช่วยเป็นธุระให้หน่อยครับ อาก็ไม่เคยโกรธผมเลยช่วยเป็นธุระให้ผม จึงนำเงินก้อนสุดท้ายนี้มาจัดงานบวชครับ บวชอยู่ได้ 1 พรรษา ประมาณ 5 เดือนพอดีครับ ที่วัดใกล้บ้านอาครับ พ่อกับอา ก็มาทำบุญบ่อยๆครับ ก็นำอาหารที่บิณทบาตรได้ไหว้แม่ก่อนจะฉันเองทุกวันครับ ตอนบวชก็ได้อ่านหนังสือธรรมะต่างๆ สวดมนต์ ทำวัตร เป็นประจำ จนติดนิสัยชอบสวดมนต์เลยครับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติเคร่งครัดเท่าไหร่ครับ ได้อยู่กับตัวเอง ทบทวนชีวิตที่เคยผ่านมาโอโห้เรานี่มันแสนเลวจริงๆ ตั้งใจว่าสึกออกมาจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ให้ได้ครับ ร่มกาสาวพัสตร์นี่ช่างอบอุ่นจริงๆครับ

    หลังจากสึกออกมา ก็ว่างงานอยู่เกือบ 3เดือนครับ อาจึงพามาสมัครงานที่โรงงานที่ทำอยู่ปัจจุบันนี่อะครับ นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพบจิตเกาะพระครับ ก็เข้ามาทำงานได้เดือนกว่าๆ เริ่มรู้จักกับพี่เทิดครับ ก็ไม่รู้หรอกครับว่าพี่เทิดแกปฏิบัติอยู่ จนวันนึงผมนึกอยากจะเป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือธรรมะแจกตามวัด จึงมาชวนพี่เทิดทำบุญครับ ก็เลยได้เริ่มคุยกันเรื่องธรรมมะนิดๆหน่อยๆ พี่เทิดก็บอกว่าเข้าเวปพลังจิตสิ ประกาศหาวัดต่างจังหวัดที่ต้องการรับหนังสือสวดมนต์ ก็เลยเข้ามาประกาศที่เวปพลังจิต ไม่รู้อะไรดลใจ เปิดอ่านอะไรไปเรื่อยครับ ไปเจอกระทู้ จิตพร้อมรับภัยพิบัติ เลยเข้าไปนั่งอ่าน เอ้านี่พี่เทิดนี่หว่า มาอยู่ในกระทู้นี้ได้ไง เลยตามอ่านไปเรื่อยๆ พอเจอแกที่ทำงานก็เซ้าซี้แกให้สอนหน่อยสิ แนะนำหน่อยสิ พี่ปฏิบัติอะไรอยู่ ผมอยากทำสมาธิอะ เซ้าซี้แกเป็นอาทิตย์ แกบอกว่าถ้าอยากปฏิบัติให้ไปถือศีล 5 ให้ได้ก่อนแล้วจะบอกวิธีปฏิบัติ หลังจากวันนั้นเลิกเหล้าทันทีครับ จนแกยอมพาเข้ามาในเฟสบุ๊คอะครับ เลยประกาศหาครูในเวปพลังจิต จนมาเจอแม่คนที่ 2 ที่เปลี่ยนชีวิตของผมก็คือ แม่เกษครับ แม่เกษรับผมเป็นลูกศิษย์ครับ

    ตอนนั้นไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำสมาธิเลย พระอาจารย์ดังๆ ใครไม่รู้จักซักท่านเลยครับ แต่จำพระได้องค์เดียวคือ สมเด็จโต เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กๆครับ ตอนนั้นที่อยากปฏิบัติมากเพราะว่า ตอนนั้นจิตปรามาสพระแบบหนักหน่วงมากครับตั้งแต่ตอนบวชเป็นพระอะครับ ขออภัยนะครับ เช่น ถ้าเราฉี่ในโบสถ์นี่จะเป็นไรไหมว้า ถ้าลุกเต้นตอนปาติโมกข์จะเป็นไหมเนี่ย ขนาดนั้นเลยนะครับ ก็รีบขอขมาพระท่านตลอด รู้สึกแย่จิตตกมากครับ เฮ้ยนี่กุเป็นไรวะเนี่ย ตบกระบาลตัวเองแรงๆบ่อยๆครับ มึงอย่าคิดนะมึงอย่าคิดอีกนะ ยิ่งห้ามมันยิ่งมาสิครับ คิดไรหยาบๆไปเรื่อย จนจิตตกมากครับ คิดว่าเราโดนของป่าวว้าเนี่ย เคยมีผู้หญิงเยอะไงครับ เลยกลัวใครทำของใส่ป่าวว้า ทำไงดีทำไงดี ก็ได้แต่พยายามทำบุญช่วงนั้นไปทำบุญจิตก็ปรามาสพระตลอด จนไม่อยากจะไปทำบุญ เวลาจะทำบุญจิตปรามาสพระตลอด คำอธิฐานของผมเวลาทำบุญทุกครั้งคือ ขอให้จิตหยยุดคิดไม่ดีกับพระอะครับ เป็นหนักมาก จึงอยากหาวิธีหยุดมันครับ เลยอยากปฏิบัติสมาธิ จนมาเจอจิตเกาะพระนี่แหละครับ แรกก็ไม่รู้อันไหนจิตอันไหนสติ อันไหนความคิดวะเนี่ยงงไปหมด จับภาพพระช่วงแรกๆ ก็ต้องนึกเอา เพ่งเอา จน3 วันแรกหัวจะระเบิด รู้สึกว่าเฮ้ยกุจะเป็นบ้าป่าววะเนี่ย ทำผิดวิธีป่าวว้า นี่เราทำถูกหรือยังว้า เข้าฌาณยังเนี่ย แบบไหนเรียกฌาณว้า ติด ลังเลสงสัยไปเรื่อย จนโดนแม่เกษเทศน์บ่อยๆครับ แต่ก็ไม่ท้อครับ ปฏิบัติไปเรื่อย ความจริงแล้วถ้าเราปฏิบัติตามที่ครูได้สอนได้บอกมันถูกทางแน่ๆครับ แต่มันจะมีกิเลสความคิดมาหลอกล่อเราตลอด แต่ผมจะมีอะไรแปลกๆ คือ เวลาปฏิบัติแล้วอึดอัด แล้วแน่น หรือลังเลสงสัย หลงทิศหลงทาง จะเหมือนมีใครไม่รู้มาสอนอยู่ข้างในเป็นอีกความคิดนึงของเราอะครับ ว่าวางอารมณ์แบบนี้นะ ทำแบบนี้นะ เจ้าต้องทำแบบนี้ยังงี้ จนมันหลุดโล่งออกมาเองแล้วรู้ได้เองว่าเรามาถูกทางแล้ว เป็นยังงี้มาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติครับ หลงนิมิต หลงภาพอะไรไปเรื่อยเปื่อยมาตลอดครับ

    ตั้งแต่ปฏิบัติมานี่ก็ 3 เดือนกว่าๆ แล้วครับ แยกกาย แยกจิต สติ เห็นมันชัดเจนขึ้นแล้วครับ ความทุกข์ที่เคยผูกกับมันไว้ก็ลดลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ครับ จากคนที่อารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิดกลายเป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี ไปเลยครับ บทสอบต่างๆเข้ามาเยอะมากครับ ก็สนุกดีเหมือนเล่นเกมส์ครับ ความคิดปรามาสพระแทบไม่เกิดขึ้นเลยครับ ถึงเกิดขึ้นก็รู้ว่ามันไม่ใช่เราไม่ทุกข์กับมันแล้วครับ ร่างกายนี่ยังมีทุกข์เหมือนเดิมครับ แต่ไม่เกี่ยวกะเราแล้วครับ จนตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปแทบจะหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ ความทะเยอทะยานในโลกก็หดหายไปครับ เรียนรู้เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจผู้อื่น ที่สำคัญเข้าใจตัวเองมากขึ้นครับ มองย้อนกลับไปถึงวันเก่าๆ รู้สึกว่าเรานี่โชคดีกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่าที่ได้มาพบ พ ร ะ รั ต น ต รั ย เป็นที่พึ่งในวันนี้ครับ

    ต้องขอกราบขอบพระคุณวิชา จิ ต เ ก า ะ พ ร ะ ครูอาจารย์ พี่ๆทุกท่านที่คอยสั่งคอยสอนคอยเป็นกำลังใจให้มาตลอด ล้างจิตที่เคยโสโครกแสนระยำดวงนี้ ให้สดใสสว่างไสวขึ้นครับ ผมจะตั้งใจปฏิบัติต่อไป ถวายร่างกายนี้แด่ท่านพ่อ จนวันสุดท้ายของลมหายใจนี้ครับ

    ขอให้ธรรมทานหรือเรื่องเล่าส่วนหนึ่งของชีวิตผมนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ยังติดอยู่กับทุกข์ ได้มีกำลังใจต่อสู้กับมันและก้าวเข้ามาปฏิบัติธรรมเพื่อพ้นจากทุกข์ด้วยเทอญ /\

    "ลูกขออำนาจแห่งพระรัตนตรัย ขออุทิศบุญกุศลที่เคยสร้างไว้ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ให้กับ บิดา มารดา ครู อาจารย์ ญาติสนิท มิตรสหาย เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้ง 3 โลก ขอให้ทุกคนทุกท่านมีนิพพานเป็นที่ไปด้วยเทอญ สาธุ"

    /\ ไกด์ จิตบุญ 146
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ตุลาคม 2014
  9. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี
    108 วัดกรรมฐาน ประจำปีพ.ศ. 2557
    (484 วัด)
    เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มหาราช
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
    กลุ่มนิตยสารโลกทิพย์ - โลกลี้ลับ และมูลนิธิโลกทิพย์ได้เป็นแกนนำรวมศรัทธาชาวพุทธ
    ทั่วโลก ในการทอดกฐินสามัคคีเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา จนถึงบัดนี้ก็เป็นเวลาทั้งสิ้นกว่า
    33 ปีแล้ว
    สำหรับกาลกฐินในปี พ.ศ. 2557 นี้ จะเปิดร่วมทอดกฐินตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 17 พฤศจิกายน
    พ.ศ. 2557
    จึงอยากขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ร่วมกันบอกต่อและบริจาคทาน
    ในมหากุศลครั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูลสืบไป
    ร่วมบุญโดย : ส่งธนาณัติในนาม นายมงคล เนินอุไร ปณ.ดินแดง 10407
    ที่อยู่ 483/11 - 12 ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง 10400
    หรือ โอนผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขา ถนนอโศกดินแดง
    ชื่อบัญชี นายมงคล เนินอุไร หมายเลขบัญชี 049 - 2 - 08710 - 8
    http://lokthip.net/Katin2557.pdf
     
  10. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    อานิสงส์กฐินทาน หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    ความจริงการทอดกฐินไม่ใช่ประเพณีนิยม เป็นพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ผ้ากฐินทานจะรับได้ก็ต่อเมื่อถึง วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ หลังจากนั้นจะทอดขนาดไหนก็ตามจะไม่เป็นกฐิน ฉะนั้นกฐินมีเวลากาลจำกัด
    ทีนี้ว่าถึง อานิสงส์กฐิน อานิสงส์กฐินนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาท่านเคยเทศน์ และก็เทศน์ตามบาลี ท่านพูดถึงอานิสงส์ให้ทราบ ฉะนั้นการถวายวันนี้ทั้งหมด เมื่อวานก็ดี วันนี้ก็ดีจะเป็นเงินก็ตาม จะเป็นของก็ตาม ถือว่าทุกอย่างเป็นอานิสงส์กฐิน
    ต่อไปนี้ก็โปรดทราบ จะนำพระสูตรตามที่ท่านกล่าวไว้ในบาลีให้ทราบ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ในสมัยที่พระองค์เกิดเป็นมหาทุคคตะ ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระปทุมมุตระ เวลานั้นพระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นคนจนอย่างยิ่ง เป็นทาสของคหบดี เวลานั้นถอยหลังจากนี้ไป ๙๑ กัป ก็ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระปทุมมุตระ วันหนึ่งมหาทุคคตะไปดูงานทอดกฐินเขา เมื่อเขาทอดกฐินเสร็จ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
    บุคคลใดเคยทอดกฐินแล้วในชีวิตหนึ่ง ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพกฐินก็ดี และเป็นบริวารกฐินก็ดี (แต่ว่ากฐินวันนี้ไม่มีบริวาร มีแต่เจ้าภาพ เพราะเป็นกฐินสามัคคี) จะทำบุญน้อยจะทำบุญมาก มีอานิสงส์เสมอกัน แต่ทว่าปริมาณอาจจะแตกต่างกัน และอานิสงส์กฐินนี่ เวลานั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
    "โภ ปุริสะ ดูกรท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐินไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้นจะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า ๕๐๐ ชาติ"

    นั่นหมายความว่า ถ้าหมดอายุเทวดา หรือนางฟ้าจุติแล้วก็เกิดทันที ๕๐๐ ครั้ง เมื่อบุญหย่อนลงมานิดหน่อย เกิดเป็นเทวดาเกิดเป็นนางฟ้าไม่ได้ ลงมาเป็นมนุษย์ จะเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิปกครองโลก ๕๐๐ ชาติ เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ๕๐๐ ชาติแล้ว บุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ ๕๐๐ ชาติ หลังจากนั้นจะเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ

    คำว่ามหาเศรษฐีนี่ มีเงินตั้งแต่ ๘๐ โกฏิขึ้นไป เขาเรียกว่า มหาเศรษฐี แต่ว่าตั้งแต่ ๔๐ โกฏิ ขึ้นไป เขาเรียกอนุเศรษฐี

    เมื่อเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ หลังจากเป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นคหบดี ๕๐๐ ชาติ

    ก็รวมความว่า การทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่านอกจากจะ เป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีแล้ว บุคคลที่ทอดกฐินครั้งหนึ่งในชีวิต จะปรารถนาพระโพธิญานก็ย่อมได้ นั่นหมายความว่า จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนาเป็นอัครสาวกก็ได้ จะปรารถนาเป็นมหาสาวกก็ได้ จะปรารถนานิพพานเป็นพระอรหันต์ปกติก็ได้

    ฉะนั้นการทอดกฐินแต่ละคราว ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทโปรดทราบถึงอานิสงส์คนที่เคยทอดกฐินแล้วแต่ละครั้ง รวมความว่า ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด คำว่า ยากจนเข็ญใจ จะไม่มีแก่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกชาติ

    สำหรับวันนี้ การทอดกฐินมี ๓ อย่าง ความจริงอานิสงส์กฐินก็ย่อมเป็นอานิสงส์กฐิน แต่ในปัจจุบันจัดกฐินเป็น ๓ อย่าง คือ ๑. จุลกฐิน ๒. ปกติกฐิน ๓. มหากฐิน กฐิน ๓ อย่างย่อมเป็นเทวดานางฟ้าเหมือนกัน แต่ทว่าจะมีทรัพย์สมบัติมากกว่ากัน

    คำว่า จุลกฐิน เวลานี้แปลงไปคงจำของพระพุทธเจ้าไม่ได้ คำว่า จุลกฐิน ก็หมายความว่า เขาถวายผ้าโดยเฉพาะชิ้นเดียว คือ ผ้ากฐินจะเป็นผ้าสังฆาฏิตัวหนึ่งก็ได้ จะเป็นผ้าจีวรตัวหนึ่งก็ได้ สบงตัวหนึ่งก็ได้ ถ้าเราไม่มีทั้งไตร ถวายผ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งก็เป็นกฐิน

    ทีนี้ถ้า ปกติกฐิน ก็มีผ้าไตรครบไตร ถวายผ้าไตรเดียวหรืออย่างน้อย ก็มีผ้าไตร ๓ ไตร คือ องค์ครอง ๑ ไตร คู่สวด ๒ ไตร
    ทีนี้ถ้ามีผ้าไตรครบทุกองค์ อย่างที่วัดทำเป็น มหากฐิน อย่างนี้ถ้าบังเอิญจะไปเกิดในชาติใดก็ตาม จะเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดเป็นพิเศษ

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
     
  11. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ 148 ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2557


    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ 148
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ


    [​IMG]
     
  12. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดีค๊า ทุกๆ ท่าน...วันนี้ได้ฤกษ์ เบิกวิถี ประกาศจิตบุญกันอีกแล้ว คร๊าบบบท่าน...
    ช่วงนี้มีดอกบัวบานในบ้านจิตเกาะพระกันแทบจะรายเดือนกันเลยเน้อ...สาธุ สาธุ สาธุ

    ข้าพเจ้าขอน้อมจิตกราบอนุโมทนาสาธุในมหาบุญ มหากุศลกับจิตบุญน้องใหม่ล่าสุด ดวงที่ 148 แห่งบ้านจิตเกาะพระ สักล้านๆครั้งเลยจร้า เธอคือ คุณไก่ กนกภรณ์ ปาปวน เธอเป็นลูกศิษย์ของครูพี่แนท ครูน้องเป้ค่ะ เรื่องราวรายละเอียดการฝึก การเดินมรรคของท่านจะเป็นอย่างไร ใช้เวลาในการฝึกนานแค่ไหน รบกวนเชิญครูผู้สอนทุกท่าน และจิตบุญน้องใหม่ ได้มาเล่าแชร์ประสบการณ์การฝึกจิตเกาะพระเพื่อเป็นธรรมทาน และกำลังใจแก่ผู้ที่เกาะขอบกระทู้ด้วยน่ะค่ะ

    โมทนาสาธุ

    ธรรมมณี จบ.52
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2014
  13. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ต่อนี้ไป...เป็นการรายงานอารมณ์จิต ในการบ้านฉบับท้ายๆ ที่แสดงให้ทราบได้ว่า จิตเธอยกขึ้นสู่ประตูพระนิพพานได้แล้วค่ะ สาธุ​


    กราบเรียน ครูพี่แนท ครูพี่เป้

    วันอาทิตย์ตอนกลางวันไปทานข้าว แต่ไม่มีโต๊ะว่างเลยค่ะ เลยต้องไปขอนั่งกับคนอื่น ได้ซื้อก๋วยจั๊บมานั่งทานค่ะ ขณะทานมีแมลงวันมาจากไหนก็ไม่รู้บินมาตัวหนึ่ง ก็เลยใช้มือซ้ายปัด แต่ดันปัดไปโดนช้อนที่ถืออยู่มือขวา ปลิวไปเกือบโดนหน้าคนที่นั่งตรงข้าม ดีที่เขาเอามือป้องหน้าไว้ทัน เค้าก็ว่าเราว่าซุ่มซ่ามนะ เลยยกมือไหว้ขอโทษ แล้วเดินไปหยิบช้อนมาใหม่ แล้วนั่งกินต่อค่ะ โดยที่ตอนนั้นมันไม่รู้สีกอะไรเลย นั่งทานต่อปกติ เหมือนกับไม่มีไรเกิดขึ้น (เหมือนหน้าด้านขึ้นยังไงก็ไม่รู้ค่ะ อิอิ)

    วันจันทร์ 10 โมงเช้า ได้นัดให้ลูกค้ามาพบ แต่ลูกค้าได้โทรมาเลื่อนนัดอีกแล้ว เป็นครั้งที่ 2 ก็มีข้ออ้างอีก คิดว่าเขาโกหกค่ะ งานเราก็มีกำหนดต้องเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ แต่ก็คุยไปปกติ รู้สึกเฉยๆ ไม่มีรุ้สึกกังวลเหมือนแต่ก่อนเลยค่ะ
    ตอนกลางวันไปทานข้าวร้านอาหารตามสั่ง นั่งรอนานมากค่ะกว่าจะได้ทาน และก็หิวมากด้วย แต่ไม่มีความรู้สึกหงุดหงิดเลยค่ะ มันเฉยๆ ปกตินี่ถ้าหิวมากๆ จะโมโหและหงุดหงิดมากเลย แต่ตอนนี้่ความรูืสึกนั้นมันหายไปค่ะ ท้้งที่ท้องมันยังหิวนะค่ะ

    ตอนนี้ภาพท่านพ่อที่จับอยู่ เป็นภาพแก้วใสๆ มีแสงเพชรระยิบระยับค่ะ

    ด้วยความเคารพค่ะ
    ไก่



    กราบเรียน ครูพี่แนท ครูพี่เป้

    วันนี้ขอตอบคำถามพี่แนทนะคะ
    น้องไก่ ตอบคำถาม พี่แนท หน่อยคะ...

    ((ก่อนตอบ ทำจิตนิ่งๆ ค่อยๆอ่านคำถาม แล้ว เขียน บรรยาย อย่างละเอียด เขียนถ่ายทอดอออกมาด้วยจิตที่บริสุทธิ์))


    1. ณ วันนี้ มีความกังวล เรื่อง การยกจิตเป็น จิตบุญ หรือไม่ ? ...อย่างไร และ ทำไม?

    ไม่เลยค่ะ เพราะจำได้ว่าก่อนที่เข้ามาเรียน ได้คุยกะพี่เป้ ถามพี่เป้เรื่อยเปื่อยสัพเพเหระ จนมีคำถามกับพี่เป้ว่า แล้วในเมื่อเราอยู่กับทุกข์อยู่แล้ว และจะไม่ให้มันทุกข์ พี่เป้จะต้องทำไงล่ะ พี่เป้ได้เล่าเรื่องของเขาให้ฟัง แล้ว มีประโยคหนึ่ง พี่เป้บอกว่า มันสบายมากเลยไก่ จิตมันอิสระมากเลย มันอยู่ได้กับเรื่องราวที่มันควรจะทุกข์ โดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย อยากให้มันทุกข์ มันก็ไม่ทุกข์อ่ะ ได้ฟังแล้ว โห! อยากเป็นแบบนี้บ้างอ่ะ พี่เป้ถามว่าอยากเรียนมั้ย ก็ตอบ ตกลงค่ะ โดยไม่ได้รู้เรื่องเลยว่า จิตบุญ คืออะไร มายังไง เป็นยังไง

    แต่ตั้งแต่เรียนจนมาถึงวันนี้ แล้วรู้สึกขอบคุณ คุณครูทั้งหลาย พี่แนท พี่เป้ พี่ภู (พี่ภูนี่รู้สึกว่าจะเป็นป๋าดันมากเลยค่ะ เป็นหน่วนสนับสนุนดันทุกคนให้ไปถึงดวงดาว 55) และพี่แนทนี่อดทนกับไก่มากเลย เพราะไก่ไม่ค่อยส่งการบ้าน เวลาจะเล่าจะเขียนอะไรบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ค่อยได้ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไม ยังดีที่อยู่ใกล้กะพี่เป้ที่ยังพอให้เล่าออกมาเป็นคำพูดให้ฟังได้ แต่เป้าหมายตั้งแต่แรกที่เข้ามาเรียนคือ อยู่แบบจิตอิสระ มากกว่า หลังจากที่ปฏิบัติมาถึงตอนนี้แล้ว เริ่มตอบโจทย์ได้แล้วค่ะ ว่ามันเป็นยังไง รู้จักกับคำว่า จิตตั้งมั่น มากขึ้นแล้วค่ะ ฉะนั้นเลยไม่ค่อยคิดถึงคำว่า จิตบุญ อ่ะค่ะ แต่มันยิ่งกว่าคำว่าจิตบุญอีกค่ะ ตอนนี้


    2.ครั้งหนึ่ง น้องไก่ เคยบอกกับพี่ว่า

    " หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไงดีกับชีวิต เพื่อนๆทางโลก ชวนไปลัลล้า เที่ยวเตร่ ตามวัย แต่ หนูกลับมาอยู่ตรงนี้ ทางธรรม ...หนูยัง งง ๆ อยู่เลย หนูยังสับสนกับชีวิตของหนู ...ยังไม่รู้จะเอายังไงดี ? " ...

    มา ณ วันนี้ ปัจจุบันนี้ นาทีนี้ ...พี่แนทขอถาม น้องไก่ ว่า .

    " หนูยังสับสนอยู่หรือเปล่า? หนูมีความคิดเห็นอย่างไร ณ เวลานี้ ?

    และหากจะต้องตายวันนี้ เสียดาย ชีวิตสาวโสด อนาคตทางโลกไกล จะเสียดายมั้ย ว่าเรายังไม่ได้ทำ นั่น ทำนี่เลย เสียดายมั้ย?

    ใช่ค่ะ ตอนแรกก็เข้ามาแบบงงๆ ประมาณว่า “ฉันมาทำอะไรที่นี่ “ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ค่ะ แต่ตอนนี้รู้ว่าเราเกิดมาสิ่งที่ควรทำคืออะไร คำตอบก็คือ ทำจิตให้เป็นอิสระ แล้วก็ควรหนีจากการเวียนว่ายตายเกิด และหากต้องตายวันนี้ คงไม่เสียดายว่ายังไม่ได้ทำนู้นนี่นั่นเลย เพราะตายไปก็คงจำไม่ได้ว่าทำอะไรไว้บ้าง ตอนเกิดมายังจำไม่ได้เลยว่าชาติที่แล้วได้ทำอะไรไว้ ถึงทำอะไรทางโลกไว้มากมายตายไปก็จำไม่ได้ เอาไปด้วยก็ไม่ได้ สิ่งเดียวที่ควรทำตอนนี้ให้จิตมันเป็นอิสระก่อน แล้วจะทำอะไร หรือ ไม่ทำอะไร ก็ปล่อยไปตามกรรม ตามวาระของมัน



    3. พี่แนท จำได้ว่า น้องไก่ เข้ามา เกาะแขน พี่เป้ ...ถามว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่มีความทุกข์ใจ ?

    ...หนูเป็นทุกข์ เพราะ เรื่องการใช้ชีวิต ตามลำพัง ห่างไกล คุณพ่อ คุณแม่ ซึ่งเป็นผู้ที่หนู รักท่านมากที่สุด หนูทุกข์เพราะ ความพลัดพราก ชั่วคราว บนโลก เนื่องจาก ภาวะจำเป็น ที่ต้อง ทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเอง

    แต่ถ้าหาก วันนี้ ความพลัดพราก นั้น คือ ความตาย ล่ะ .. ณ วันนี้ จิตใจน้องไก่ มองเรือ่งนี้ อย่างไร? จะรับมือกับมันไหวมั้ย เพราะเหตุใด?

    ใช่ค่ะ อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ แบบสบายๆ ข้าวปลาอาหารท่านหาให้หมด ตังไม่พอใช้ ก็ขอท่าน ถ้าไม่มีพ่อกับแม่จะอยู่ยังไงนี่ แต่ตอนนี้ถ้าหากความพลัดพรากคือความตาย ก็ต้องยอมรับค่ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่แน่นอน ไม่มีใครไม่ตาย แล้วก็ไม่สามารถจะระบุได้ว่า ใครจะตายก่อนใคร ถ้าวันนี้เราต้องตายก่อนพ่อแม่ มันก็ไม่สามารถห้ามได้ ก็ต้องยอมรับมัน แต่ก็ยังสงสารพ่อกับแม่ที่ท่านยังต้องอยู่กับทุกข์ ถ้าเป็นไปได้อยากให้จิตท่านพ้นทุกข์ก่อน แต่ในเมื่อมันเลือกไม่ได้ที่เราต้องตายก่อนก็ยอมรับมัน เพราะเราไม่สามารถไปกำหนดอะไรได้ กายก็ไม่ใช่เรา จิตก็ไม่ใช่เรา แต่ในทางกลับกัน ถ้าเป็นพ่อกับแม่ที่ต้องไปก่อน ก็อยากให้ดวงจิตท่านไปสู่ภพภูมิที่ดีมากกว่านี้

    ด้วยความเคารพค่ะ

    ไก่
     
  14. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    กราบเรียน ครูพี่แนท ครูพี่เป้

    สภาวะจิตตอนนี้ จิตจะตั้งมั่นขึ้นมากค่ะ มีสิ่งมากระทบจิต รู้ค่ะ
    แต่จิตไม่วิ่งตาม มันจะเฉยๆมากกว่า ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ นาๆ ลดลงค่ะ
    บางทีแทบจะไม่มี อยู่กับปัจจุบันมากขึ้น

    เมื่อวานตอนเย็นกำหนดจิต ถวายพวงมาลัยกับท่านพ่อค่ะ แล้วก้มกราบ ท่านลูบหัวเรา ยิ้มให้เรา
    ด้วยความรักและเมตตา เป็นภาพเคลื่อนไหว เหมือนเราได้อยู่กับพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด
    ความรู้สึกมันอิ่มเอมใจมากเลยค่ะ...

    เทียบกับบารมี 10

    1. ทานบารมี (การให้โดยไม่หวังผล) มีจิตปรารถนาจะสละด้วยการให้ทานอยู่เสมอ
    ตอนนี้จิตคิดให้ทานกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นคน เป็นสัตว์
    ก็คิดอยากให้เค้าได้สิ่งเหมือนที่เรามี ให้คนอื่นโดยไม่ต้องคิดแล้วค่ะว่า
    เรามีบุญคุณกับเค้า เค้าต้องตอบแทนเรา


    2. ศีลบารมี (รักษาศีล 5 เป็นปกติ) มีความรักในศีลห้า
    มีความตั้งใจทรงศีลห้าให้บริสุทธิ์ครบถ้วนอยู่เสมอ
    ตอนนี้รักษาศีลได้ครบทุกข้อแล้วค่ะ แต่ก่อนนี้ศีลยังบกพร่อง
    ตบยุงเป็นว่าเล่น ตอนนี้รู้สึกว่าแม้แต่ยุงจะกัดแล้ว ก็ยังไม่กล้าตบ
    ได้แต่ใช้มือปัดให้มันบินหนีไปเอง


    3. เนกขัมมะบารมี (การถือบวช) บวชด้วยใจ คือสำรวมกาย วาจา ใจ อยู่เสมอ
    ตอนนี้ร่างกายตัวเองยังทำงานและใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป
    แต่เราบวชจิตอยู่ โดยพาจิตปฏิบัติเดินมรรค
    เพื่อที่จะทำให้จิตบริสุทธิ์ผ่องใส สิ้นจากกิเลส


    4. ปัญญาบารมี (ความรู้) ทรงปัญญาพิจารณาอยู่เสมอ
    ยอมรับว่าโลกนี้ไม่เที่ยง ไม่มีการทรงตัว ยอมรับทุกอย่างตามความเป็นจริง
    ตอนนี้เห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อจิตมีปัญญาเห็นความจริง
    จึงยอมรับว่าทุกสิ่งในโลกไม่เที่ยง เป็นธรรมดาของโลก
    ล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้น ทำให้จิตคลายตัวออกจากการยึดมั่นถือมั่น
    เห็นว่ากายนี้ไม่ใช่เรา อารมณ์จิตก็ไม่ใช่เรา
    ซึ่งเมื่อไปยึดว่าสิ่งเหล่านี้มาเป็นตัวเราแล้ว
    ก็จะมองไม่เห็นความเป็นจริง และไม่สามรถพ้นจากวัฎฎสงสารไปได้


    5. วิริยะบารมี (ความเพียร) มีความพากเพียร ไม่ย่อท้อ
    ต่อสู้อุปสรรคด้วยประการทั้งปวง
    ตอนอยู่ในช่วงปฏิบัติ ก็มีความเพียรพยายามให้มีสติอยู่กับจิต กับกาย
    เพื่อให้สติช่วยพาให้จิตได้รู้ได้เห็นความเป็นจริงของกฎไตรลักษณ์
    ความไม่เทียงของโลก


    6. ขันติบารมี (ความอดทนอดกลั้น) มีความอดทนอดกลั้น ไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ต่าง ๆ
    ตอนปฏิบัติก็พยายามอดทนอดกลั้นกับกิเลสยั่วยุ ไม่ให้จิตหลงไปกับกิเลส
    ไม่ส่งจิตออกไปสนใจสิ่งภายนอก ให้อดทนเรียนรู้กายและใจตนเท่านั้น

    7. สัจจะบารมี (ความตั้งใจจริง เอาจริง จริงใจ) มีความจริงใจ
    ตั้งใจไว้อย่างไรจะทรงไว้อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
    ได้ตั้งสัจจะที่รักษาจิตให้บริสุทธิ์จากอารมณ์กิเลสทั้งปวง
    ทรงอารมณ์จิตไม่ให้หวั่นไหวต่ออารมณ์ที่กระทบจิต และรักษาศีลให้เป็นปกติ


    8. อธิษฐานบารมี (ความตั้งใจมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง) ตั้งกำลังใจไว้ว่า
    เราปฏิบัติความดีทุกอย่างเพื่อพระนิพพาน
    ได้อธิษฐานจิตตั้งมั่น ว่าจะขอถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้

    9. เมตตาบารมี (ความรักด้วยความปรานี) คิดว่าเรารักคนและสัตว์ทั้งหมด
    ไม่ถือว่าใครเป็นศัตรูกับเรา
    ตอนนี้จิตเปลี่ยนไปค่ะ มองเห็นผู้คนทุกคน เป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย
    ด้วยกันทั้งหมดทั้งปวง มีความทุกข์ด้วยกันหมด
    อยากจะให้ดวงจิตทุกดวงจิตพ้นจากความทุกข์


    10.อุเบกขาบารมี (ความวางเฉย) วางเฉยต่ออารมณ์ทุกอย่าง
    เวลาเจอกับบางเหตุการณ์ที่ไม่สามารถ อยากให้เป็นดั่งใจเราได้
    อยากช่วยให้ดีขึ้น แต่บางทีมันเป็นไปไม่ได้ ก็ทำอารมณ์ให้เป็นกลาง
    และยอมรับให้เห็นเป็นธรรมดาของมัน


    เทียบกับ สังโยชน์ 10

    1. สักกายทิฏฐิ –
    ตอนนี้ความคิดที่ว่ากายนี้คือฉัน กายนั้นคือเขา คือเธอ
    แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเห็นเหมือนทุกคนเป็นอุปกรณ์ของโลก
    เป็นของที่เกิดจากธรรมชาติธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    และรอวันที่จะสลายตายไปจากโลกนี้


    2. วิจิกิจฉา –
    ก่อนที่จะปฏิบัติก็มีความลังเลสงสัย ว่าเป็นไปได้จริงเหรอ
    ที่จะไม่ทุกข์เลย แต่หลังจากได้เข้ามาปฏิบัติแล้ว
    และได้เห็นได้เข้าใจแล้วจิตเราได้เปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้นทุกข์น้อยลง
    จึงละความสงสัยลงไปได้
    และยอมรับว่าพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่ทำให้พ้นทุกข์ได้จริง


    3. สัพพตปรามาส –
    ก่อนนี้ศีล 5 ยังรักษาได้ไม่ครบทุกข้อ เลยฆ่ายุง
    ฆ่าแมลงเป็นว่าเล่น
    ดื่มสังสรรค์กับเพื่อนเห็นเป็นเรื่องปกติเพราะถือว่าไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
    แต่ตอนนี้แม้แต่ยุงก็ยังไม่กล้าตบแล้ว เรื่องดื่มนี้ก็ไม่แล้ว
    และไม่กล้าละเมิดศีลด้วยค่ะ


    4.กามฉันทะ –
    ตอนนี้เมื่อเห็นความจริงแล้วว่าร่างกายเต็มไปด้วยสิ่งที่สกปรก
    และไม่เที่ยง ทำให้จิตคลายจากการที่ไปหลงไปชอบในร่างกายเพศตรงข้ามที่คิดว่าดี
    ว่าสวย ว่างาม แต่ก่อนจะกินอะไรก็เรื่องมากเหมือนกัน หิวแทบตาย
    ถ้าไม่อาหารรสชาติไม่อร่อย ก็จะไม่กิน แต่ตอนนี้ รู้สึกว่ากินง่ายขึ้นค่ะ
    กินอะไรก็ได้ให้มันหายหิวก็พอ ไม่ติดในรสชาดอาหารเหมือนแต่ก่อนมากนัก

    5.ปฎิฆะ -
    อารมณ์ โกรธ หงุดหงิด คับแค้น พยาบาท ลดลงไปมาก
    จนแทบจะไม่หลงเหลือ แต่ก่อนนี่จะใจร้อน ขี้หงุดหงิดโมโหง่าย
    แต่หลังจากปฏิบัติแล้ว เห็นเลยว่า จิตก็จะละวางอารมณ์เหล่านี้ไปได้มาก
    เหตุการณ์ที่ควรโมโห โกรธ บางที่กลับไม่มีอารมณ์โกรธ โมโห หรือหงุดหงิด


    6.รูปฌาน –
    การที่จิตไปติดรูปฌาน ติดสุขจากฌาน ไม่ยอมเดินปัญญา
    ไม่ยอมวิปัสสนา เมื่อหลุดจากฌาน จิตก็ยังไม่สามารถพ้นจากทุกข์ไปได้
    เพราะยังไม่มีปัญญารู้จักกิเลสที่แท้จริง

    7. อรูปฌาน –
    การที่จิตไปติดอรูปฌาน ซึ่งเป็นฌานที่ละเอียด
    ทำให้จิตสงบนิ่งอยู่ในฌาน และพอใจในฌาน
    คิดว่านี่คือความสุขที่แท้จริงแล้ว
    โดยที่จิตยังไม่มีปัญญามองเห็นความจริงว่าอะไรคือต้นเหตุของความทุกข์
    และควรที่จะกำจัดกิเลสออกจากจิต
    จึงทำให้ยังมองไม่เห็นความสุขที่แท้จริงและถาวรซึ่งก็คือพระนิพพาน


    8. มานะ –
    ตอนนี้เห็นทุกคนเท่าเทียมกันหมด ล้วนแต่เป็นเพื่อน เกิด แก่
    เจ็บ ตาย ด้วยกัน ไม่มีใครดี ไปกว่าใคร เราก็ไม่ได้ดีกว่าเขา
    เขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าเรา
    แต่ก่อนก็มีความคิดเหมือนคนทั่วไปเปรียบเทียบกันไป เขาสวยกว่าเรา
    เราดีกว่าเขา เขารวยกว่าเรา เราเก่งกว่าเขา สารพัด
    แต่ตอนนี้มันเห็นเปลี่ยนไปว่าทุกคนมีกาย มีอารมณ์จิต เหมือนกันหมดทุกคน
    และสิ่งเหล่านั้น ก็ไม่ใช่เรา และก็ไม่ใช่เขา


    9. อุทธัจจะ –
    หลังจากปฏิบัติแล้ว ได้รู้ได้เห็นถึงความจริง
    และเชื่อว่าแล้วว่านิพพานมีอยู่จริง และตั้งมั่นว่าจะถึงนิพพานในชาตินี้


    10. อวิชชา –
    ความคิดเห็นผิดที่เคยคิดว่า กายนี้เป็นเรา ใจนี้เป็นเรา
    ความคิดนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้มันเห็นกายเป็นเพียงธาตุ 4 เท่านั้น
    และอารมณ์ต่างๆ นั้นมันก็มีของมันอยู่แล้ว
    เพราะมันเกิดจากการที่เรามีรูปนามขันธ์ 5 นี่เอง มันจึงเกิดอารมณ์ต่างๆ
    เป็นธรรมดา ตอนนี้จิตมันรู้มันเห็นแล้วว่า กาย ก็ไม่ใช่เรา
    อารมณ์ก็ไม่ใช่เรา จิตที่รับรู้ตัวอารมณ์ก็ไม่ใช่เรา
    และเราคือผู้ที่ไม่มีอะไรเลย

    ด้วยความเคารพค่ะ
    ไก่
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,275
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
  16. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [​IMG]

    โมทนากับจิตบุญดวงที่ 146 - 148 และคุณครูผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ด้วยค่ะ
     
  17. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    Nat Natcha ขออนุโมทนาสาธุ กับ จิตบุญที่ ๑๔๘... น้องไก่ จิตบุญน้องใหม่ แห่งบ้านจิตเกาะพระ และ ครูผู้สอนทุกท่าน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการช่วยขัดเกลา จิตดวงนี้ จนสุกสว่างประกายพฤกษ์ ...ยกดวงจิต ถวายต่อ ท่านพ่อ และ หลวงพ่อฯ ครูบาอาจารย์ทุกท่าน เบื้องบนพระนิพพาน อีกวาระหนึ่ง... ขอโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    น้องไก่ เข้ามาเรียนจิตเกาะพระ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค 2557 รวมระยะเวลาฝึกปฏิบัติ ประมาณ 4 เดือน กับ 18 วัน ...
    น้องไก่ เป็นดวงจิตที่ อินโนเซ้นท์ มากค่ะ ..เธอมาแบบใสซื่อ บริสุทธิ์ ในทางธรรม ไม่รู้อะไรเลย ไม่เคย ปฏิบัติธรรม รู้แต่ว่า ทุกข์ ทุกข์...
    อายุแค่นี้ รู้จักทุกข์แล้ว ..ถามว่าทุกข์เพราะอะไร? เธอตอบว่า ทุกข์เพราะคิดถึง พ่อกับ แม่ ค่ะ ...ห่างไกลพ่อ กับแม่ ...เนี่ยแค่นี้ จริงๆ ...เธอก็รู้แค่ว่า ถ้าทุกข์ ต้องนั่งสมาธิ แบบ พุุทโธ เท่านั้นจริงๆ ...
    จนมาวันหนึ่ง ..เธอสังเกตุเห็น ความเปลี่ยนแปลง ของเพื่อนร่วมงาน คือ ครูเป้ และ น้องกุ้ง(ชัญญา จบ.๑๔๔) เออ ทำไมงานก็เครียดเหมือนกัน ทำไม พี่ๆสองคน ไม่ทุกข์เลยอ่ะ ...เธอก็เลยเข้ามาสอบถาม .รายละเอียด ก็เป็นดังที่เธอเล่ามาบ้างแล้วในการบ้านข้างบน .นี่เป็นจุดเริ่มต้น กับการปฏิบัติธรรมในชาตินี้ ของน้องไก่ ...กับจิตเกาะพระ ...โดย ครูหลักที่สอนประกบเธอ ตัวต่อตัว คือ ครูเป้ ค่ะ ...
    ส่วนครูพี่แนท สอนทางอีเมล์ ... ((รายละเอียดเพิ่มเติม ครูเป้ จะมาขยายต่อ นะคะ))
    น้องไก่ เป็นเด็กดี น่ารัก เชื่อฟังครูทุกอย่าง ...แต่ด้วยลักษณะนิสัย เธอไม่ค่อยพูด ครูต้องติดตาม กระตุ้นให้เธอพูด ให้รายงานการบ้านมาตลอด ข้อดีของเธอคือ รับฟัง แล้วปฏิบัติตามทันทีไม่มีข้อแม้ ไม่สงสัย ทำอย่างเดียว ...มาช่วงหลังของการเดินมรรค ไก่ทรงฌานสูงตลอด ทำให้ จิตเธอวิปัสสนาในธรรมละเอียดได้ดีมากและ ป ล่ อ ย ว า ง ... สิ่งร้อยรัดจิต ไปเมื่อไหร่ไม่รู้ เธอรู้แต่ว่า เธอเห็นความจริง ของ ชีวิตแล้วว่า ..." เราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย" ...
    ตอนนี้ เป้าหมายของเธอ มุ่งไปที่ การละ ทิ้ง ขันธ์๕ ทั้งรูป นาม การเป็นผู้ที่อยู่ เหนือ รูป นาม โดยเด็ดขาด ...จึงจะถึงคำว่า จิ ต อิ ส ร ะ ...อย่างที่เธอต้องการ ...
    ครูพี่แนท ขอโมทนากับ ดวงจิตเธอด้วยจ้ะ น้องไก่ โมนาสาธุการสัก ๑๔๘ ล้านครั้ง ไปเลย ... สาธุ สาธุ สาธุ


    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=355525511279387&set=gm.629002357219888&type=1&theater
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2014
  18. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    Nooboonsawan Siriharksopon พี่เป้ ขออภิมหาโมทนาสาธุ 148 ล้านครั้ง กับ น้องไก่ ค่ะ.. กราบขอบพระคุณ ในพระมหากรุณาธิคุณของท่านพ่อ ที่เมตตาน้องไก่ ไม่มีประมาณ ... พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ของเรา.. ที่มาตามน้องไก่ กลับบ้าน พระนิพพาน..เจ้าคะ สาธุๆๆ ลูกหลานหลวงพ่อคงจำได้ว่า หลวงพ่อ พ่อมีวิธี มาตาม ลูกหลานอย่างไรบ้าง... สำหรับน้องไก่ เธอ เล่าให้ฟังว่า เธอกับครอบครัว .. ขับรถหลงไปที่วัดท่าซุง ... จึงได้เข้าไปกราบ หลวงพ่อเป็นครั้งแรก เมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ยังไม่เคยได้กลับไปอีกเลยนั้นแต่นั้น...จนเมื่อข้าพเจ้า น้องไก่ และเพื่อนๆ ที่ทำงาน ได้จัดทริป .. ไปกราบหลวงพ่อกัน เมื่อประมาณเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และยังได้ไปฟังธรรมกับท่านจิตโตอีกด้วย .. การไปกราบหลวงพ่อในครั้งนั้น ... เป็นนิมิตหมายอันดียิ่ง... ...ข้าพเจ้านั่งมอง เธออธิษฐานจิต ต่อหน้าหลวงพ่อ นิ่ง นาน เธอบรรจงก้มกราบ พ่อของเธอ ด้วยความรัก เทิดทูน บูชา อย่างที่สุด สายตาที่เธอมองไปยังสังขารของพ่อ ยังติดตรึงใจ ข้าพเจ้า เหมือนลูกสาวตัวน้อยๆ ที่หลงทางจากพ่อ มาแสนนาน ..แต่บัดนี้ ลูก กับ พ่อ พบกันแล้ว..
    จากนั้นน้องไก่ ตัดสินใจเข้ามาเรียน จิตเกาะพระ .. โดยการตามอีกครั้ง หลวงพ่อ มาเขกหัวเธอ จนหัวขมำ ตอนนั่งซักผ้า.. อีกนานมั๊ย??? กว่าจะเริ่มเรียน พ่อมีคำถาม 55 (โปรดติดตาม ตอนต่อไป)
     
  19. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    Nooboonsawan Siriharksopon น้องไก่ เริ่มเข้ามาปฏิบัติด้วย
    สั ม ม า ทิ ฏ ฐิ โดยแท้ เธอปรารถนาอยู่กับทุกข์ โดยไม่ทุกข์..นั้นคือที่สุดแห่ง ธรรม ที่สุดแห่งปัญญา ... เธอรู้ด้วยจิตว่า สิ่งนี้มีอยู่จริง แล้วต้องการค้นหา.. ..เมื่อวาระแห่งบุญมาถึง .. เธอจึงได้เริ่มต้น ออกเดินทาง .. ครูพี่แนท เมตตา สอนเธอ ด้วยความเมตตา ... น้องไก่เองเป็นเด็กดี เชื่อฟัง และปฎิบัติตาม ทุกอย่างที่ได้รับคำแนะนำ .. เธอเริ่มจาก 0 ไม่รู้จัก สติ จิต รูปนาม ใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่ ตัวกรู ของกรู เต็มเปี่ยม .. เมื่อเริ่มฝึกสติ +สัมปชัญญะ ด้วยการจับภาพพระ และรู้ตัวทั่วพร้อม จึงเริ่มแยกกาย แยกจิตได้ กายทำงานทางโลกไปหาเลี้ยงขันธ์5ให้มันคงอยู่ เพื่อให้เราปฏิบัติธรรม ส่วนจิตแยก ออกมา นำมา เจริญปัญญา เดินมรรค อย่างต่อเนื่อง พิจารณา ทั้งรูป และนาม หลังจากเห็นตัวเอง เป็นซากศพ ขึ้นอืด และสลายไปตามธรรมชาติ จิตคลายความยึดถือรูป ... และหลังจากได้รับคำแนะนำ การทรงฌานลัดนิ้ว ครั้งแรกที่สอน เธอทำได้ทันที และพบความมหัศจรรย์ ที่จิตสามารถรวมตัว ตั่งมั่น ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ลมหายใจเดียว ... ต้องขอขอบพระคุณ พี่ภู ที่ปฏิบัติตามคำสอน ของหลวงพ่อ และถ่ายทอดลงมาสู่น้องๆ ...เมื่อเธอได้รับวิชานี้ไป ปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นมาก ทรงฌาน ตลอดเวลา ทั้งวันทั้งคืน ไม่ยอมหยุด...อภิญญา จะพึงปรากฎ เธอ บอกคำเดียวว่า ไม่เอา อย่ามานะ จิตเธอไม่เอา .. จิตจึงพร้อมพิจารณาธรรม ตลอดเวลา ในระหว่างที่จิตทรงฌาน... น้อมรับ พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พระมหาเมตตา ซาบซึ้งเข้าถึงจิตใจอย่างง่ายดาย จิตมีพลังปัญญา ในการปล่อยวางรูปนาม .. เป็นปัจจัตตังแห่งตน... บัดนี้จิตดวงนี้ เกินมรรค สุดทาง เป็นที่พึ่งแห่งตน...สมความปรารถนา
    .. ลูกขอร่วม น้อมส่งดวงจิตนี้ ถวาย แด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมเด็จพ่อองค์ปฐม และ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ ด้วยเศียรเกล้า พระพุทธเจ้าค่ะ..
     
  20. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    Phu Bodin โมทนาสาธุกับทั้งครูแนท ครูเป้ รวมถึงน้องกุ้งและกองเชียร์ด้วย สัก ๑๔๘ ล้านๆครั้ง(เอากับเขามั่ง เลียนแบบ) พี่ภูขอแสดงความยินดีกับจิตดวงใหม่ใสกิ๊กของเธอด้วยนะ น้องไก่ ท่านไก่ เรียกอย่างนี้ น่าจะถูกนะ เพราะสามารถเปลี่ยนจิตมนุษย์เป็นจิตพระ หรือจิตอริยบุคคลซะได้ สาธุๆๆ

    Phu Bodin ๐๐๐คนที่กำลังทุกข์ใจ๐๐ ต้องอ่าน ต้องหันมาดูคนที่นี่ สังคมที่นี่ ที่คือ จิตพร้อม พร้อมรับสภาวะทุกอย่าง พร้อมทั้งที่มีลมหายใจและหมดลมหายใจ คนที่นี่ พร้อมจุติ ทุกเมื่อ กำหนดจิตตนเองได้แล้ว ปักที่มั่นคงแล้ว นั่นก็คือ พระนิพพาน ส่วนจิตบุญจะไปตรงหรืออ้อมก็มีความหมายเท่ากัน คือ ไม่ขอกลับมามีร่างกายหรือขันธ์๕ อีกต่อไป ตามท่านพ่อ หลวงพ่อไปเลย ไม่มีคำว่า ลังเล สงสัยกันแร๊ะ กำลังใจเกินร้อย ถ้าใครมาถามว่า ไปนิพพานจริงๆหรือ ถ้าถามผมนะ ผมก็จะตอบทันควันเหมือนกัน ใจเด็ดเหมือนพ่อนี่ไง แต่ใครจะหาว่าเราโม้ ก็เรื่องของคนๆนั้น ไม่เกี่ยวกับเรานิ ชิ๊มิ๊ ขำ ชีวิตหาที่สุดมิได้ คือชีวิตมนุษย์ มนุษย์คือผู้ยุ่งเหยิง วันนี้ ผมดีใจมากเลย ที่มีส่วนช่วยลูกหลานของท่านพ่อ หลวงพ่อ แต่ใครจะกล่าวหาผมว่า อุปาทานหมู่ก็ตามแต่ใจของพวกเขา ผมจะไม่ตามแก้ข่าวแน่นอน เพราะเสียเวลา มุ่งหน้าพัฒนาจิตตนและจิตน้องนุ่ง จิตอนุบาล ต่อไป อย่างอื่น ไม่สน เพราะมีสติปัญญา มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ แล้วเราจะไปถามใครๆได้อีกเล่า ขนาดตัวเรายังพึ่งไม่ได้เลย แล้วจะไปหวังพึ่งใครได้อีกหรือ..สาธุๆๆ

    Phu Bodin พระ บอกผมว่า ^^ทำให้คนอื่นเขาดู^^ คือนำพากันสร้างสติปัญญา พาออกจากทุกข์ให้ได้ก่อนอื่น ต่อไป ค่อยปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้นถาวร คือ พระนิพพาน


    ที่มา เฟสบุค จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...