พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
    สาระน่ารู้
    วัวธนู-ควายธนูหลวงพ่อน้อย ของขลังสายเขมรที่ไม่ธรรมดา

    13 มกราคม 2551 กองบรรณาธิการ[​IMG]

    แท้จริงแล้วเรื่องของวัวและควายธนู เป็นเครื่องรางของขลังทางฝั่งลาวและเขมร แต่ต่อมาได้เข้ามาสู่แผ่นดินสยามเมื่อคราวมีการอพยพไพร่พลเข้ามา


    <DD>

    <DD>หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง นครปฐม ท่านเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์สายนี้เป็นอย่างมาก ท่านสร้างและปลุกเสกวัวธนูและควายธนูเอาไว้เฝ้าบ้านป้องกันเสนียดจัญไรจากคุณไสยลมเพลมพัด

    <DD>หลวงพ่อน้อย ท่านเอาทองแดงมาขึ้นเป็นรูป จากนั้นพอกด้วยครั่งผสมผงอาถรรพ์ 108 ลงรักปิดทองก็มี ท่านเสกด้วยคาถาที่เข้มขลังจากสายลาว เสกจนวัวธนู-ควายธนูหันหัวไปซ้ายไปขวาได้ พระเกจิรุ่นเก่าท่านขลังศักดิ์สิทธิ์จิตสูงจึงทำได้

    <DD>คนโบราณเรียกวัวของท่านว่า วัวปั้นหุน ดังคำภาษิตที่เขายกเอาไว้ให้เป็นเบญจภาคีเครื่องรางของขลังว่า

    <DD>"ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นหลวงพ่อน้อย ศรีษะทอง เบี้ยแก้กันของวัดนายโรง"

    <DD>เคยเห็นมากับตาตอนที่เดินจากตราดเข้าสู่เขมรทางด้านเกาะกงและอ่าวปอ ด้วยเราเป็นเพียงพระหนุ่มเณรน้อยที่ยังอ่อนนักกับพระเวทย์และอาคมในยุคนั้น ได้เดินทางไปพักที่อ่าวปอเพื่อรอวันพรุ่งจะไปเฝ้าสังฆราชเขมร ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์สอนกรรมฐานที่อยู่เมืองนครศรีธรรมราช

    <DD>ที่อ่าวปอนี้มีวัดหนึ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างเอาไว้ ทราบจากที่หน้าบันโบสถ์มีรูปตราประจำพระองค์ และเลข 5 ไทย ภายใต้มหามงกุฎปรากฏ อย่างนี้ก็ทำให้เราได้อุ่นใจขึ้นบ้างว่าโบสถ์หลังนี้พระราชสมภารเจ้า เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของเราสร้างขึ้น คงจะพอนอนได้หลับลงสนิท ไม่คิดมากถึงเรื่องไสยอันลึกลับเสียเท่าไหร่นัก

    <DD>ไม่น่าเชื่อ สองทุ่มเศษที่เงียบราวกับป่าช้าที่ผีดุ ในใจก็กลัวอยู่แต่พอข่มด้วยสมาธิให้อยู่พอประคองไหว ราวเที่ยงคืนเศษไม่รู้สุนัขทำไมเห่าหอนนัก ทั้งๆ ที่นี่ไม่มีเลือกตั้งผู้แทน สักครู่ได้ยินเสียงอะไรไม่ทราบดังขึ้นตุบๆๆ อยู่หน้าโบสถ์ นึกในใจเป็นตายก็ไม่ออกไปดู โบสถ์ทรงแบบมหาอุดเข้าออกทางเดียวยังไม่น่าเกรงเท่าไหร่ แต่ในใจลึกๆ นึกไว้ว่าทหารเขมรมาเราไม่กลัว แต่ถ้าหากเป็นผีเขมรนี่คงลำบาก เพราะคงพูดกันไม่รู้เรื่องแน่

    <DD>แต่คืนนั้นก็รอดผ่านพ้นไปด้วยดี พอเช้าแล้วเปิดประโบสถ์ออกไปดู เห็นมีเศษหนังชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือวางเรียงกองอยู่ตรงใกล้ๆ ธรณี ประมาณ 3-4 ชิ้น พระในวัดที่พอสื่อกันได้พูดไทยสำเนียงเขมรบอกว่า เมื่อคืนนี้เขาเห็นมีคนมาปล่อยของลองอาคม แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เลยหล่นอยู่หน้าโบสถ์ พอได้ฟังแล้วขนลุกซู่ และพนมมือขึ้นนึกถึงพระบารมีพระราชสมภารเจ้าในหลวงรัชกาลที่ 5 เพราะลำพังพระหนุ่มเณรน้อยอย่างเราคงไม่รอดพ้นแน่

    <DD>พอเดินไปดูหลังประธาน ก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมมีคอกของวัวและควายธนูอยู่บนโต๊ะหมู่เล็กๆ ถามว่ามีไว้ทำไม เขาบอกว่าโยมเอามาถวายไว้ เวลาวันโกนโยมเขาจะมาถือศีลนอนในโบสถ์นี้ รุ่งเช้าเป็นวันพระ ก็ทำบุญใส่บาตรและภาวนาจนสิ้นวันพระ เขามีเอาไว้กันคนที่เป็นมิจฉาทิฐิมาทำของใส่อย่างเมื่อคืนนี้แหละ ผมจึงเชื่อว่าแม้วันนี้โลกเปลี่ยนไปปานใด แต่ทว่าเรื่องของคุณไสยยังมีอยู่จริง

    <DD>ที่เขมร วัวธนูและควายธนูเป็นเครื่องรางที่ป้องกันคุณไสยได้เยี่ยมนัก ใครมีบูชาต้องตั้งเป็นคอก มีแก้วน้ำและกอหญ้าสดวางไว้เป็นเครื่องเซ่น เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องเกรงกับสิ่งที่มองไม่เห็นอีกต่อไป แม้เราจะอยู่ในโลกวิทยาศาสตร์แล้ว แต่บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็กลายเป็นสิ่งที่จำกัดกั้นไม่ให้เราเข้าถึงกับสิ่งที่นอกเหตุเหนือผลที่มีอยู่จริงได้เหมือนกัน.

    <DD>มนต์ พันลาย

    <DD>


    <DD>

    </DD>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เคล็ดลับการเลือกแหวน
    http://campus.sanook.com/teen_zone/senior_01665.php

    <SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT><!--START-->เพราะรูปลักษณ์ของนิ้วมือ และขนาดมือของแต่ละคนที่ต่างกัน ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกว่าแหวนบางวงก็เหมาะ แต่บางวงก็ไม่เหมาะกับเรา

    เอ... แล้วแหวนแบบไหนกันนะ ที่จะเหมาะกับนิ้วและมือของเรา ?

    -มืออวบ – นิ้วอวบงาม : แหวนที่เหมาะกับมือนิ้วแบบนี้ ควรมีก้านแหวน (บ่าแหวน) ที่เรียวงาม ส่วนอัญมณีที่ตกแต่งอยู่ที่หัวแหวนนั้น ควรมีขนาดใหญ่สักหน่อย และมีรูปทรงในทางยาว เช่น รูปไข่ รูปสี่เหลี่ยมยาว รูปหยดน้ำ ถ้าหากเลือกแหวนตามข้อแนะนำก็จะทำให้นิ้วและมือดูไม่ทึบไม่สั้น ทำให้นิ้วดูเรียวงามมากขึ้น

    [​IMG]-มือเรียว – นิ้วเรียวงาม : ถือว่าได้เปรียบกว่านิ้วและมือแบบอื่นๆ เพราะสามารถสวมแหวนได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าแหวนรูปทรงยาวตามนิ้ว รูปทรงขวางนิ้ว แหวนเพชรแถวหรือแหวนเพชรเดี่ยว แต่ !... ควรหลีกเลี่ยงแหวนที่มีลักษณะใหญ่ แบบดูแข็งมากคล้ายแหวนผู้ชาย

    -มือสั้น – นิ้วสั้น : ต้องเลือกแหวนให้ดีเพราะแบบแหวนบางแบบก็ยิ่งเน้นให้มือและนิ้วดูสั้นไม่สวยมากขึ้นอีกโดยมือและนิ้วที่มีรูปทรงแบบนี้ ควรหลีกเลี่ยงแหวนที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ส่วน อัญมณีที่นำมาทำเป็นหัวแหวนควรเป็นรูปไม่ยาว รูปหัวใจ และมีขนาดใหญ่พอควร บ่าแหวนไม่ควรทำเป็นก้านเล็กๆ หรือหนาใหญ่ เด็ดขาด เพราะมือท่านจะดูสั้นหนักขึ้นไปอีก

    -มือยาว – นิ้วยาว : ส่วนใหญ่ท่านที่มีมือยาว – นิ้วยาว ก็มักจะมีหุ่นที่ได้สัดส่วน ผอมสูง แต่ไม่เป็นผลดีต่อ การสวมแหวน เพราะจะมีเนื้อบริเวณโคนนิ้วน้อย ข้อนิ้วใหญ่ เมื่อสวมแหวน แหวนก็จะติดข้อ แต่เมื่อหลุดเข้านิ้วไปแหวนกลับหลวมหมุนไปมาได้ ซึ่งทำให้ควรเลือกแหวนที่กว้างและยาวจนเต็มไปถึงข้อนิ้วเท่านั้น เพราะจะทำให้นิ้วดูมีเนื้อเต็มขึ้น ช่วยลดความผอมยาวของนิ้วลง อัญมณีที่ทำหัวแหวนไม่ควรสูงมากนัก ส่วนนิ้วที่เหมาะจะสวมแหวนนี้ควรจะเป็นนิ้วกลาง เพราะนิ้วนี้จะผอมยาวดูสูงกว่านิ้วอื่นๆ ทั้งหมด

    -นิ้วมือแกะสลัก : หลายคนคงจะงงว่าหมายความว่าอย่างไร ? จริงๆแล้วเปรียบเหมือนกับ เทียนแกะสลักที่ถวายพระตอนเข้าพรรษานั้นเอง เค้าไม่ได้ชื่นชมนิ้วของคุณว่าสวยงามแต่อย่างใด แต่หมายถึงลักษณะของนิ้วที่คด โค้ง ข้อแตกมาก ส่วนมือก็มีเส้นเอ็นปูดขึ้นมาเห็นได้ชัดต่างหาก

    โดยจะต้องแบ่งด้วยระหว่างนิ้วใหญ่อ้วนและนิ้วผอม สำหรับคนนิ้วผอม อาจเลือกแบบแหวนที่หน้ากว้างใหญ่คล้ายผู้ที่มีนิ้วผอมยาวได้ แต่แบบแหวนไม่ควรดูแข็งมากนัก รวมทั้งแบบที่มีเส้นคดโค้ง ซึ่งจะเน้นข้อบกพร่องของนิ้วมากขึ้น สำหรับอัญมณีก็ควรมีขนาดเล็กไม่ใหญ่โตอลังการ ควรเป็นแหวนที่สวมแนบติดมือมากกว่าแบบที่ชูอัญมณีสูง

    ส่วนผู้ที่มีนิ้วอ้วนใหญ่ ควรเลือกแหวนที่มีหน้ากว้างใหญ่ขนาดกลางๆ อัญมณีที่เป็นหัวแหวนควรมีขนาดกลางๆ เช่นกัน และออกแบบตัวเรือนให้เรียบๆ เตี้ยๆ แต่มีสีสันสวยสดใสหรืออ่อนหวาน จะทำให้นิ้วมือดูอ่อนเรียบสวย และสำหรับรูปทรงของอัญมณีที่เหมาะมากก็ควรเป็นทรง รูปไข่ (ทรงมาตรฐานโลก) นั้นเอง

    รู้อย่างนี้แล้ว..... เวลาจะเลือกแหวนมาสวมใสก็คงจะทำให้นิ้วและมือของคุณยิ่งดูสวยงาม ไปพร้อมๆ กับแหวนวงงามที่ประดับอยู่ด้วย

    ขอบคุณข้อมูล : หนังสือเคล็ดลับสารพันอัญมณี โดย มณีขจิต

    <TABLE class=fontSmall cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" bgColor=#fda45c border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="70%">บทความที่เกี่ยวข้อง
    งีบเพิ่มความจำ
    สิ่งที่เรียนรู้ เมื่ออายุปูนนี้[​IMG]
    20 คำถาม อยากเป็นแอร์ สจ๊วด
    ดูแลสุขภาพ...แม้เวลาอกหัก
    15 วิธีในปกป้องเงิน และ การปกป้องโลก
    </TD><TD width="30%">
    [​IMG]
    สนับสนุนข้อมูล โดย เดลินิวส์​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คำถาม? : ความหมายของการปักธูปแต่ละดอก 3 ดอกหมายถึงอะไร5 ดอกหมายถึงอะไรและ 9 ดอกหมายถึงอะไร

    http://search.sanook.com/knowledge/answer/read_question.php?q_id=25404

    <TABLE class=fontblacksm cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>ความหมายของการปักธูปแต่ละดอก 3 ดอกหมายถึงอะไร5 ดอกหมายถึงอะไรและ 9 ดอกหมายถึงอะไร
    หมวด : ข้อมูล และความรู้
    สร้างเมื่อ 17-01-2008 โดย yao5959</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=fontblacksm cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD>รายละเอียดคำถาม

    ความหมายของการปักธูปเมื่อเราไหว้สิ่งศักสิทธิ์จำได้ว่าดอกแรกให้ปักตรงกลางกระถางธูปแล้วก็ปักขวาแล้วก็ช้ายเคยอ่านเจอแต่จำไม่ได้ใครรู้จริงช่วยตอบที่ค่ะ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    คำตอบ
    โดย :IdealistCity

    สร้างเมื่อ 18-01-2008

    ถ้าจุดธูป 3 ดอก ก็ให้ปักที่ละดอก ดอก 1 ปักตรงกลางกระถางธูป แล้วอีกสองดอกปักขวามือของเราและซ้ายตามเป็นสามดอก (ไม่ใช้ปักที่เดียว 3 ดอก) ถ้าจุดธูป 5 ดอก ก็ปฎิบัติเดียวกับ 3 ดอก ที่เหลือ 2 ดอกก็ปักด้านบนและด้านล่าง ของกระถางธูป ถ้าจุดธูป 9 ดอก ก็ปฎิบัติเช่นเดียวกันกับ 5 ดอก ที่เหลือก็ปักมุมแต่ละมุมให้ครบ 9 ดอกโดยวนจากขวามาหาซ้ายภายในกระถางธูป
    เหตุผลและอานุภาพปักธูปตามทิศ (กระถางธูป)
    1.ธูปที่ปักตรงกลางกระถางธูปก่อน เทียมเท่ากับบูชาดวงชะตาทั่วไปของตนเอง
    2.ธูปที่ปักขวาตรงกระถางธูปเทียมเท่ากับป้องกันอันตรายอาถรรพณ์เพศไม่ให้เกิดกับดวงชะตาตนเอง
    3.ธูปที่ปักซ้ายตรงกระถางธูปเทียมเท่ากับให้เป็นเมตตามหาเสน่ห์กับดวงชะตาทั่วไป
    4.ธูปที่ปักด้านบนกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศเหนือเพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง
    5.ธูปที่ปักด้านล่างกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศใต้เพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง
    6.ธูปที่ปักด้านเฉียงกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเป็นศิริมงคลดวงชะตาตนเอง
    7.ธูปที่ปักด้านเฉียงกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเป็นศิริมงคลดวงชะตาตนเอง
    8.ธูปที่ปักด้านเฉียงกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันตกเฉียงใต้เพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง
    9.ธูปที่ปักด้านเฉียงถระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง
    ที่มา http://motavee.com/y99.htm

    [​IMG]
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หลับไปแล้วรอบนึง

    คำเตือน "ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด" หุหุหุ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ๑๘ มกราคม วันกองทัพไทย
    http://campus.sanook.com/u_life/knowledge_02089.php

    <SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT><!--START-->ในวันที่ 18 มกราคม 2550 ประกาศเป็นวันกองทัพไทยเป็นปีแรก ซึ่งก่อนหน้านี้คือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 02089_002.jpg
      02089_002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.5 KB
      เปิดดู:
      328
    • 02089_003.jpg
      02089_003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.1 KB
      เปิดดู:
      334
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: โอนเงิน</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 09:24 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>ตั้งจิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:26 PM
    วันที่สมัคร: Sep 2005
    ข้อความ: 620 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 5,647 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,632 ครั้ง ใน 633 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 554 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->โอนเงิน
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->......
    และอีก 1000 บาทโอนเข้าบัญชีสร้างเจดีย์

    .......

    วันนี้ขอโมทนาบุญด้วยครับกับการไปช่วยเหลืองานบวชน้องเอ น่าดีใจด้วยจริงๆกับน้องเอที่จะได้ไปศึกษาธรรมในช่วงเวลาหนึ่งอย่างจริงจัง
    ...................................
    โมทนาสาธุครับ
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post921356 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">16-01-2008, 06:10 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1044 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sira<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_921356", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:33 AM
    วันที่สมัคร: Feb 2005
    อายุ: 33 ปี
    ข้อความ: 130 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 25 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 967 ครั้ง ใน 127 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 146 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_921356 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระขรรค์พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ผมมีข่าวบุญมาบอกครับผม เนื่องจากขณะนี้พระอาจารย์นิล ได้กำลังดำเนินการจัดสร้างพระขรรค์สำริดของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เพราะฉะนั่นในพระขรรค์ก็จะต้องมีโลหะสำริดเป็นหลัก และก็ได้มีผู้ถวายสำริดเก่ากับพระอาจารย์มาแล้วส่วนหนึ่งดังรูปครับ
    แต่ช่างที่ทำการหล่อได้บอกว่าในการหล่อพระขรรค์ต้องมีส่วนผสมของทองแดงและดีบุกเพื่อเป็นตัวประสาน ซึ่งขณะนี้พระอาจารย์ก็มีทองแดงส่วนหนึ่งและไม่เพียงพอที่จะหล่อพระบรรค์สำริด ผมจึงบอกบุญมารับบริจาค " ลวดทองแดงและสำริดเก่า " เพื่อถวายพระอาจารย์นิลในการสร้างพระขรรค์สำริดในครั้งนี้ครับ

    สามารถส่งลวดทองแดงหรือสำริด เก่าๆก็ได้นะครับ มาตามที่อยู่ข้างล่างนี้ครับ
    นายสิรเชษฐ์ ลีละสุนทเลิศ
    19/117 อาคารปัญจทรัพย์คอนโด(A)
    ซอยโชคชัย 4(37) ถ.ลาดพร้าว
    แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
    กรุงเทพฯ 10230 ครับ
    โมทนาบุญกับทุกๆๆท่านด้วยครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    <!-- / message --><!-- attachments --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หากพิจารณาจากปีที่ท่านมรณภาพคือ วันที่ ๓๑ ต.ค. ๒๔๙๘ แต่การจัดสร้างล็อกเก็ตปีพ.ศ. ๒๔๙๕ จึงต้องบอกว่าไม่ใช่พระธาตุของท่าน และอีกอย่างศพท่านก็ไม่ได้เผา ยังคงประดิษฐานที่วัดสวนบางมดอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010469.JPG
      P1010469.JPG
      ขนาดไฟล์:
      230.4 KB
      เปิดดู:
      42
    • P1010470.JPG
      P1010470.JPG
      ขนาดไฟล์:
      198 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010471.JPG
      P1010471.JPG
      ขนาดไฟล์:
      166.3 KB
      เปิดดู:
      27
    • P1010472.JPG
      P1010472.JPG
      ขนาดไฟล์:
      188.7 KB
      เปิดดู:
      41
    • P1010473.JPG
      P1010473.JPG
      ขนาดไฟล์:
      217.4 KB
      เปิดดู:
      28
    • P1010474.JPG
      P1010474.JPG
      ขนาดไฟล์:
      195.9 KB
      เปิดดู:
      38
    • P1010475.JPG
      P1010475.JPG
      ขนาดไฟล์:
      196.3 KB
      เปิดดู:
      43
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  9. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขออนุโมทนาบุญงานบวชพระเอครับ คุณหนุ่มขากลับขับรถง่วง คงจะเพลีย แต่ขาไปตอนเช้านี่ซิ โดนนกหวีดเป่าก่อนขึ้นลำตระคอง ไม่ยอมจอดระวังนะ อิอิอิ
    (หรอกผู้ต่อสู่ ชลอรถแล้วไม่จอด) น้อง 2 คนนั่งข้างๆ นั่ง งง. มีของดีนี่เอง.
     
  10. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ขอขอบคุณสำหรับชา และกาแฟตอนเช้าครับ

    ตำรวจคนที่เขาโบก ไม่มีคนรับลูกครับ
    ไม่งั้นโดนแหง่มๆ ครับ

    ห้ามดื่มวันละ ๒ ขวด
    ซัด ๔ เฉยเลย
    แถมกาแฟด้วย ขนมหว้านๆ อีก

    ไว้ไปบ้านปู่คราวหน้า
    ที่ผมกลับบ้าน

    จะนำ แป๊ะก้วย +พุทธราจีนต้ม
    ไปทานที่บ้านปู่นะครับ

    สาธุครับ
     
  11. dpongpun

    dpongpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +144
    ช่วยๆกันครับ ผมได้รับ email มา จึงขอบอกต่อๆกัน
    > >
    > >อีกไม่เกิน 3 เดือนวัดพระบาทน้ำพุต้องปิดลง!! ถ้าไม่ อ่าน กรุณา Forward
    > > >> ถ้าไม่ช่วย
    > >อีกไม่ เกิน 3 เดือน วัดพระบาทน้ำพุ ต้องปิดลง
    > > >>ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำ
    > >พุ
    > > >> จังหวัดลพบุรี ที่มีหลวงพ่ออลงกตเป็นเจ้าอาวาส
    > > >> ซึ่งท่านได้อุทิศตัวช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์และเด็กกำพร้ามาสิบกว่าปี
    > >แล้วทั้งๆที่ท่านมีพร้อม ทุก
    > >อย่าง
    > > >> จบการศึกษาระดับปริญญาโทวิศวะจากออสเตรเลีย
    > > >> แต่ท่านก็เสียสละ ได้ เพียงเพราะท่านเห็น ว่า
    > > >> ผู้ป่วยโรคเอดส์นั้นไร้ที่พึ่ง จริงๆ
    > > >> ขนาดบางคนพอพ่อแม่รู้ว่าติดเชื้อ เอดส์
    > > >> ยังรังเกียจและทอดทิ้งลูกของตัว เองได้เลย หลวงพ่อท่านเห็น ว่า
    > > >> ถ้าท่านไม่ช่วยพวกเขาเหล่า นี้
    > > >>&nbs p;ท่านก็ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น มนุษย์ได้
    > > >>ทุก วันนี้
    > > >> ที่วัดมีผู้ป่วยและเด็กกำพร้าที่
    > >หลวงพ่อต้องคอยดูแลรวมถึงพนักงานและอาสาสมัครราวหนึ่งพันคน
    > >ค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณ สามล้านกว่าบาท
    > > >> แต่ยอดบริจาคกลับน้อยลง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
    > > >> เห็นว่า ลดลงเหลือเพียงเดือนละสองแสนบาทเอง
    > > >> ส่วน รัฐบาลก็ช่วยเหลือเพียงเดือนละหนึ่งแสนบาทเท่า นั้น
    > > >> เคยโทรไปถามที่วัด เกี่ยวกับสถานะทางการเงิน พนักงานก็บอกว่า รายรับเท่า
    > >เดิม
    > > >> แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุก วัน
    > > >> ค่ายารักษาหรือเพิ่มภูมิต้านทานก็ แสนจะแพง
    > > >> แถมผู้ป่วยก็มีแต่จะเพิ่มมาก ขึ้น ทางวัดจะไม่รับก็ไม่ ได้
    > > >> เนื่องจากมีคนพาผู้บ่วยมาทิ้งไว้ที่ หน้าประตูวัดเสมอ
    > > >> ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีทาง ไป
    > > >> ที่วัดก็เมตตาช่วยเหลือแม้กระทั่งคน
    > >ชราและเด็กที่คนในครอบครัวเสียชีวิตเพราะเอดส์แล้วไม่มีใคร
    > >ดูแล
    > > >>&nbs p; ตอนนี้
    > > >>ต้องมีการส่ง ผู้ป่วยที่อาการดีแล้วและพอมีฐานะกลับบ้านบ้าง แล้ว
    > > >> และอีกสามเดือนอาจต้องปิดตัว ลง!!!!!!
    > > >>หลวงพ่อเองต้องลงมาบิณฑบาตรที่ กรุงเทพฯทุกสัปดาห์
    > > >> ต้องไปหลายที่ต่อ หนึ่งวัน
    > > >>เพราะรอคนไปช่วยเหลือถึงวัด ไม่ไหว เห็นแล้วก็เหนื่อยแทน จริงๆ
    > > >เมืองไทยมีผู้ติดชื้อเอดส์มาก เป็นอันดับสี่ของโลกแล้ว
    > > >> และแนวโน้มก็มี มากขึ้นเรื่อยๆ
    > > >>สวนทางกับอายุของผู้ที่ ติดเชื้อเอดส์ซึ่งกลับกลายเป็นว่าอายุน้อยลง ทุกที
    > > >> อยากให้พวกเราเข้าใจ ว่า
    > > >> เรื่องนี้เป็นปัญหาของประเทศชาติและ
    > >เป็นเรื่องของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกัน
    > > >>พวกเราสามารถช่วยได้หลายรูปแบบ
    > > >>ขณะนี้หลวงพ่อท่านมารับบริจาคทุกวัน เสาร์
    > > >>ตั้งแต่ 8.30 น. -10.00 น. ที่สวน ลุมไนท์บาร์ซาร์
    > > >>ข้างๆอาคารบีอีซี เท โร สามารถบริจาคเป็นเงิน (ดีที่สุด), ยา, ผ้าอ้ อม,
    > >สำลี,
    > > >>ของอุปโภคบริโภคต่างๆ, หนังสือ, เสื้อผ้า ฯลฯ
    > > >>หรือบริจาคผ่านธนาคาร ให้กับ ' กองทุนอาทรประชานาถ '
    > > >>ถ้าสามารถทำเป็นรายเดือนได้จะดีมาก ราย ละเอียดของเบอร์บัญชีมีดังนี้
    > > >>ธ.กรุงเทพฯ สาขา ลพบุรี 289-0-84697-1
    > > >>ธ.ทหารไทย สาขา ลพบุรี 304-2-41277-9
    > > >>ธ.กสิกรไทย สาขา ถนนสมุทรสงคราม 174-2-39000-0
    > > >>ธ.ไทย พาณิชย์ สาขาลพบุรี 579-2-33730- 7
    > > >> ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขา ลพบุรี 111-1-47300-7
    > > >>ธ.นครหลวง ไทย สาขาลพบุรี 340-2-14976- 0
    > > >>ธ.เพื่อการเก ษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานางเลิ้ง 000-2-12022- 0
    > > >>
    > > >>และสุดท้ายที่พวกเราสามารถช่วย ได้เดี๋ยวนี้ คือ
    > > >> การบอกต่อถึงเรื่อง นี้
    > > >>และช่วยส่งเมล์นี้ไปให้คนที่รู้จักทุกๆ คน

     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คิดว่าไม่ตามครับ แต่ถ้ามีข้างหน้าอีกแล้ว ว.ไปก็คิดว่าโดนครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขนมหวานก็อร่อย ส่วน 4 ขวดก็เกือบไม่อยู่ หุหุหุ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมอยากจะเตือนในเรื่องสิ่งเหล่านี้นะครับ

    "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง"

    มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว และให้ใช้ "สติ" และ "ปัญญา" ตามหลักวิถีทางพุทธ ดีที่สุดครับ

    http://www.komchadluek.net/2008/01/18/a001_186249.php?news_id=186249

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สาวเภสัชแฟนทิ้งพึ่งหมอเสน่ห์ถูกลวงข่มขืน</TD></TR><TR><TD vAlign=top>18 มกราคม 2551 19:06 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] นักศึกษาสาวเภสัชศาสตร์เครียดแฟนทิ้ง หันหาไสยศาสตร์ พึ่งหมอทำเสน่ห์ ครั้งแรกหลอกจับหน้าอกยังไม่เฉลียวใจ ถูกหลอกให้มาพบเพื่อทำพิธีอีกครั้งกลางดึก สบโอกาสข่มขืนยับ โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความ ตำรวจตามรวบตัวหมอเจ้าเล่ห์ยังปากแข็งขอให้การในชั้นศาล
    นักศึกษาเชื่อไสยศาสตร์จนต้องเสียตัวครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 มกราคม พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิเศษ ภักดีวุฒิ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ควบคุมตัว นายพิสิษฐ์ อาสาฬหสมบูรณ์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขายจักรยานไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า เลขที่ 624/4 ถนนหน้าเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาลวงนักศึกษาสาวคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ไปข่มขืนกระทำชำเรา
    พ.ต.อ.สันติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ ได้แจ้งความว่าถูกนายพิสิษฐ์ลวงไปข่มขืนที่บ้านพักตามที่อยู่ของผู้ต้องหา
    จากการสอบสวน น.ส.ดาว ให้การว่า หลังใช้ชีวิตอยู่กับแฟนมาระยะหนึ่ง แต่จู่ๆ คนรักก็ทำตัวออกห่าง เพราะมีผู้หญิงคนใหม่ ทำให้เครียดจัด ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะได้ตัวแฟนกลับมาอยู่ด้วยเหมือนเดิม พยายามพูดจาขอให้กลับมารักกันเหมือนเดิมก็ไม่เป็นผล จึงคิดพึ่งวิธีทางไสยศาสตร์เพื่อดึงแฟนกลับคืนมา
    ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ธันวาคม 2550 ได้ขับรถผ่านไปพบร้านของนายพิสิษฐ์ ที่เป็นตึก 3 คูหา 3 ชั้น ในตัวเมืองขอนแก่น เห็นใบปิดประกาศรับดูดวงและสะเดาะเคราะห์อยู่หน้าร้าน จึงเข้าไปติดต่อสอบถาม โดยนายพิสิษฐ์ ได้เริ่มทักทายเรื่องดวงชะตา และโน้มน้าวให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ จนหลงเชื่อ ขึ้นไปทำพิธีที่ห้องบริเวณชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งเป็นห้องโถงโล่งมีเพียงเฟอร์นิเจอร์และโต๊ะเก้าอี้ 2-3 ตัวเท่านั้น เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง นายพิสิษฐ์ ได้บอกให้นอนลงบนเสื่อปูพื้น โดยพูดเกี่ยวกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ ที่เป็นสาเหตุของการที่แฟนไม่รัก พร้อมกับใช้มือเปิดเสื้อ น.ส.ดาวขึ้น ทำทีเสกคาถาใส่มือแล้วลูบไล้ตามหน้าอก จึงเป็นอันเสร็จพิธี
    จากนั้นนายพิสิษฐ์ได้นัดมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ใหญ่อีกครั้งในวันที่ 12 มกราคม เวลา 21.00 น. โดยให้เหตุผลว่า เป็นฤกษ์ยามที่เหมาะสมที่สุด เมื่อถึงวันเวลาที่นัด น.ส.ดาวจึงมาที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง และนายพิสิษฐ์ ได้พาไปชั้นสองของบ้านและทำพิธีเหมือนเดิม แต่คราวนี้นอกจากลูบไล้หน้าอกแล้ว นายพิสิษฐ์ ยังได้พยายามถอดเสื้อผ้า เมื่อขัดขืนก็ถูกทำร้ายร่างกาย จากนั้นได้ใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จ โดยขู่ห้ามแจ้งความเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย
    พ.ต.อ.สันติ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความ ได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายและสอบพยานแวดล้อม จนพบว่ามีคนเห็น น.ส.ดาว วิ่งออกมาจากบ้านหลังที่เกิดเหตุจริง จึงขออนุมัติหมายศาลเข้าควบคุมตัวนายพิสิษฐ์ มาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

    -->
    นักศึกษาสาวเภสัชศาสตร์เครียดแฟนทิ้ง หันหาไสยศาสตร์ พึ่งหมอทำเสน่ห์ ครั้งแรกหลอกจับหน้าอกยังไม่เฉลียวใจ ถูกหลอกให้มาพบเพื่อทำพิธีอีกครั้งกลางดึก สบโอกาสข่มขืนยับ โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความ ตำรวจตามรวบตัวหมอเจ้าเล่ห์ยังปากแข็งขอให้การในชั้นศาล
    นักศึกษาเชื่อไสยศาสตร์จนต้องเสียตัวครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 มกราคม พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิเศษ ภักดีวุฒิ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ควบคุมตัว นายพิสิษฐ์ อาสาฬหสมบูรณ์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขายจักรยานไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า เลขที่ 624/4 ถนนหน้าเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาลวงนักศึกษาสาวคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ไปข่มขืนกระทำชำเรา
    พ.ต.อ.สันติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ ได้แจ้งความว่าถูกนายพิสิษฐ์ลวงไปข่มขืนที่บ้านพักตามที่อยู่ของผู้ต้องหา
    จากการสอบสวน น.ส.ดาว ให้การว่า หลังใช้ชีวิตอยู่กับแฟนมาระยะหนึ่ง แต่จู่ๆ คนรักก็ทำตัวออกห่าง เพราะมีผู้หญิงคนใหม่ ทำให้เครียดจัด ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะได้ตัวแฟนกลับมาอยู่ด้วยเหมือนเดิม พยายามพูดจาขอให้กลับมารักกันเหมือนเดิมก็ไม่เป็นผล จึงคิดพึ่งวิธีทางไสยศาสตร์เพื่อดึงแฟนกลับคืนมา
    ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ธันวาคม 2550 ได้ขับรถผ่านไปพบร้านของนายพิสิษฐ์ ที่เป็นตึก 3 คูหา 3 ชั้น ในตัวเมืองขอนแก่น เห็นใบปิดประกาศรับดูดวงและสะเดาะเคราะห์อยู่หน้าร้าน จึงเข้าไปติดต่อสอบถาม โดยนายพิสิษฐ์ ได้เริ่มทักทายเรื่องดวงชะตา และโน้มน้าวให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ จนหลงเชื่อ ขึ้นไปทำพิธีที่ห้องบริเวณชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งเป็นห้องโถงโล่งมีเพียงเฟอร์นิเจอร์และโต๊ะเก้าอี้ 2-3 ตัวเท่านั้น เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง นายพิสิษฐ์ ได้บอกให้นอนลงบนเสื่อปูพื้น โดยพูดเกี่ยวกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ ที่เป็นสาเหตุของการที่แฟนไม่รัก พร้อมกับใช้มือเปิดเสื้อ น.ส.ดาวขึ้น ทำทีเสกคาถาใส่มือแล้วลูบไล้ตามหน้าอก จึงเป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นนายพิสิษฐ์ได้นัดมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ใหญ่อีกครั้งในวันที่ 12 มกราคม เวลา 21.00 น. โดยให้เหตุผลว่า เป็นฤกษ์ยามที่เหมาะสมที่สุด เมื่อถึงวันเวลาที่นัด น.ส.ดาวจึงมาที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง และนายพิสิษฐ์ ได้พาไปชั้นสองของบ้านและทำพิธีเหมือนเดิม แต่คราวนี้นอกจากลูบไล้หน้าอกแล้ว นายพิสิษฐ์ ยังได้พยายามถอดเสื้อผ้า เมื่อขัดขืนก็ถูกทำร้ายร่างกาย จากนั้นได้ใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จ โดยขู่ห้ามแจ้งความเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย พ.ต.อ.สันติ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความ ได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายและสอบพยานแวดล้อม จนพบว่ามีคนเห็น น.ส.ดาว วิ่งออกมาจากบ้านหลังที่เกิดเหตุจริง จึงขออนุมัติหมายศาลเข้าควบคุมตัวนายพิสิษฐ์ มาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น <TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakU0TURFMU1RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdNUzB4T0E9PQ

    วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6259 ข่าวสดรายวัน


    รวบหมอเสน่ห์ ถ่ายคลิปเปลือย

    ลวงเหยื่อสาวแก้ผ้า ทำพิธีแก้"เคราะห์"



    หมอเสน่ห์ลวงถ่ายคลิปโป๊เหยื่อสาวแล้วพยายามปลุกปล้ำ แต่เหยื่อไม่ยอมเลยเผ่นเตลิด เผยสาววัย 35 ขึ้นโรงพักแจ้งจับ"พ่อหมอ"หมอเสน่ห์คนดังในหมู่บ้านพยายามขืนใจ ทำทีเป็นทักว่ามีเคราะห์ ต้องทำพิธีแก้เคราะห์กลางดึก ให้เหยื่อแก้ผ้านอนหลับตา แอบใช้มือถือถ่ายคลิปไว้แล้วลูบไล้ปลุก ปล้ำ แต่เหยื่อไม่ยอมเลยต้องเผ่นเตลิด ตร.ตามไปจับได้ที่บ้าน ยึดมือถือมาดูก็พบภาพถ่ายเหยื่อสาวเปลือยเปล่า พอตกบ่ายเหยื่อขอถอนแจ้งความ เพราะพ่อหมอยอมจ่ายค่าทำขวัญให้

    เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 ม.ค. ตำรวจสภ.วัง ทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุจากนางต้อย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี บ้านอยู่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ว่า ถูกเพื่อนบ้านเป็นชายหนุ่ม อายุ 31 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นหมอดูดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ และหมอทำเสน่ห์ ลวนลามทางเพศ และถ่ายรูปเปลือยไว้

    จากการสอบสวนนางต้อยให้การว่า หมอดูคนดังกล่าวชาวบ้านในหมู่บ้านเรียกกันว่า "พ่อหมอ" เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้าน ทำนายดวงชะตา ทำไสย ศาสตร์รักษา สะเดาะเคราะห์ และทำเสน่ห์ กระทั่งไปรู้จักกับพ่อหมอ ทักว่ามีเคราะห์ร้าย ต้องทำพิธีแก้สะเดาะเคราะห์ถึงจะหาย โดยนัดให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ในเวลากลางคืน กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา พ่อหมอมาหาที่บ้านพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับทำพิธีทางไสยศาสตร์ เมื่อมาถึงพาเข้าไปทำพิธีภายในบ้าน จ่ายเงินค่าครูให้จำนวน 1,200 บาท จากนั้นพ่อหมอบอกให้นอนราบกับพื้น พร้อมทั้งให้หลับตา ระหว่างได้ยินเสียงท่องคาถาพึมพำ

    นางต้อยให้การต่อว่า กระทั่งเวลาผ่านไป 10 นาที พ่อหมอบอกให้ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เพื่อจะประกอบพิธีขั้นสุดท้าย จึงยอมถอดผ้าออก นอนเปลือยกายต่อหน้าพ่อหมอ และให้หลับตาต่อไปอีก มารู้สึกตกใจอีกครั้ง เมื่อพ่อหมอจับอวัยวะเพศ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ พยายามจะนวด ลูบคลำร่าง กาย จึงรีบลุกขึ้นต่อว่าจนพ่อหมอรีบหลบหนีออกมาจากบ้าน หลังเกิดเหตุ นอนไม่หลับทั้งคืน กระทั่งรุ่งเช้าปรึกษากับญาติพี่น้อง บอกให้เข้าแจ้งความตำรวจ เนื่องจากกลัวว่าพ่อหมอจะนำภาพถ่ายไปเผยแพร่ประจาน ทำให้ได้รับความเสียหาย

    ต่อมาตำรวจนำกำลังไปจับกุมพ่อหมอได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางเงินสดของผู้เสียหาย และโทรศัพท์มือถือ ภายในเครื่องมีภาพที่ถ่ายเอาไว้ จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า ชอบผู้เสียหายมานานแล้ว หลังจากได้รู้จัก จึงทักว่าจะมีเคราะห์ กระทั่งให้ไปทำพิธีที่บ้าน หลังจากถอดเสื้อผ้าออกเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเอาไว้ เพื่อหวังจะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองหากไม่ยินยอม และพยายามปลุกปล้ำ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม จึงหลบหนีกลับมาอยู่บ้าน ไม่คิดว่าผู้เสียหายจะกล้าแจ้งความ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังตำรวจจับกุมตัวพ่อหมอแล้ว ปรากฏว่าในช่วงบ่าย นางต้อยผู้เสียหายเดินทางเข้าพบตำรวจ และถอนแจ้งความไม่เอาเรื่อง เนื่อง จากเกรงว่าครอบครัวจะอับอาย ส่วนพ่อหมอผู้ต้องหาตกลงจะชดใช้เป็นค่าทำขวัญให้แก่ผู้เสียหาย ทางตำรวจจึงปล่อยตัวไป


    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"พาณิชย์" โต้ข่าวลอยตัวสินค้าควบคุม ยันใช้ต้นทุนกำหนดกลไกตลาด
    http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007690
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 มกราคม 2551 16:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ยรรยง พวงราช</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>อธิบดีกรมการค้าภายในย้ำ กระทรวงพาณิชย์ ไม่มีนโยบายลอยตัวสินค้าควบคุม ยันไม่ได้ถูกผู้ผลิตจูงจมูกได้ง่ายๆ ชี้การลอยตัวต้องปล่อยตามราคาขึ้นลงของวัตถุดิบในตลาดกลางเท่านั้น

    วันนี้(19 ม.ค.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ไม่มีนโยบายปล่อยลอยตัวสินค้าที่อยู่ในความควบคุม ตามความต้องการของผู้ผลิตแต่แต่จะ แต่จะลอยตัวสินค้าแบบควมคุม ตามราคาขึ้นลงของวัตถุดิบในตลาดกลาง ซึ่งหากราคาวัตถุดิบลดลงก็จะพิจารณาปรับราคาสินค้าลงด้วย เช่นเดียวกับน้ำมันพืชที่ขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดกลางเริ่มปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย จาก 37 บาท เหลือ 36 บาท โดยคณะอนุกรรมการควบคุมราคาสินค้าจะเป็นผู้ดูแลแอละตรวจสอบความเหมาะว่าสินค้าจะต้องปรับลดราคาหรือขึ้นราคาเมื่อไหร่

    อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวด้วยว่า สินค้าที่อาจมีการปรับตัวขึ้นลงตามราคาวัตถุดิบตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้นั้นอาทิ ผลิตภัณฑ์นม เหล็ก ยารักษาโลก และน้ำมันพืช

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผู้หญิงระวัง!! ภัยเงียบอินเตอร์เน็ต
    วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 10906
    http://matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lad02190151&day=2008-01-19&sectionid=0115

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในโลกอินเตอร์เน็ตทำได้ทุกอย่าง บริษัท ทีโอที จำกัด ( มหาชน) จึงจัดกิจกรรม " TOT แรงทั่วไทย" ซึ่งเป็นหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่อไปพบปะ พูดคุย กับประชาชน ในการรับคำขอใช้บริการ ลงพื้นที่ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบริการ

    นายนพณัฏฐ์ หุตะเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด

    (มหาชน) บอกว่า โลกวันนี้ได้มาถึงจุดเปลี่ยนจากสังคม ที่แต่เดิมมีศูนย์กลาง อยู่ที่เครือข่าย วิทยุ ทีวีและโทรศัพท์ มาสู่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่อุดมไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ซึ่งผลักดัน ให้สังคมก้าวสู่สังคมดิจิตอล

    "ทุกวันนี้ทั่วโลกมีมนุษย์ใช้อินเตอร์เน็ตอยู่ประมาณ 200 ล้านคน หรือร้อยละ 3.2 ของประชากรโลก โดยใช้ไปกับการจับจ่ายสินค้า ปรึกษาแพทย์ ฟังการถ่ายทอดวิทยุ ลงทุน จำนองบ้าน ติดตามการขนส่งพัสดุ รับทราบข่าวสารข้อมูล สนทนาโทรศัพท์ และแม้กระทั่งสื่อสารรักกันผ่านเน็ต ซึ่งผู้ใช้ต้องรู้เท่าทันโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะอินเตอร์เน็ต เป็นโครงข่ายเปิดที่เปิดให้ประชาคมโลกใช้กันอย่างเสรี จึงย่อมมีผลกระทบทั้งในแง่ดี และร้ายต่อสิทธิส่วนบุคคล และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของมนุษย์"

    นายนพณัฏฐ์กล่าวอีกว่า อินเตอร์เน็ตไม่แตกต่างไปจากเทคโนโลยีอื่น คือ เป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งของมนุษยชาติ การควบคุมจัดการจึงตกอยู่กับทุกคน ที่ต้องคำนึงถึงจรรยาบรรณ และความรับผิดชอบในการใช้อินเตอร์เน็ตให้อย่างถูกต้องตามครรลองคลองธรรม

    เทคโนโลยีมีทั้งคุณและโทษ ผู้ใช้ต้องมีวิจารณญาณในการใช้
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาต่อกันครับ
    http://84000.org/tipitaka/pitaka1/



    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑
    มหาวิภังค์ ภาค ๑</CENTER>
    อสันถตภาณวาร
    ๑. หมวดมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ
    ๒. หมวดอมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ
    ๓. หมวดติรัจฉานคติตถี ๒๗ จตุกกะ
    ๔. หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    ๕. หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    ๖. หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    ๗. หมวดมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
    ๘. หมวดอมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
    ๙. หมวดติรัจฉานคตะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
    ๑๐. หมวดมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
    ๑๑. หมวดอมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
    ๑๒. หมวดติรัจฉานคตะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑
    มหาวิภังค์ ภาค ๑


    <CENTER>บทภาชนีย์ อสันถตภาณวาร

    </CENTER><CENTER>๑. หมวดมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ

    </CENTER><CENTER>๑. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>[๔๐] พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้อง
    อาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้อง
    อาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก
    ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดี
    การถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๓. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก
    ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติ
    ปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้อง
    อาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้อง
    อาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก
    ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก
    ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๔. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการ
    ถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๕. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการ
    ถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๖. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้อง
    อาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอน
    ออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๗. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการ
    ถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๘. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่
    ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๙. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้อง
    อาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอน
    ออก ไม่ต้องอาบัติ.



    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=01&A=1350&Z=1784


    <CENTER>๑๐. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วย
    วัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการ
    ถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๑. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วย
    ปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดี
    การถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๒. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้อง
    อาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วย
    ปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอน
    ออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๓. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดี
    การถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๔. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่
    ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่
    ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๕. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้วิกลจริตมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการ
    ถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๖. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด
    ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดี
    การถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๗. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่
    ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้คร่อมองค์กำเนิด
    ด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่
    ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๘. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
    ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอน
    ออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการ
    ถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาในสำนักภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิด
    ด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการ
    ถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๑๙. มนุสสิตถี มตอักขายิตะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้วให้
    ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่
    ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้วให้
    ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่
    ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๐. มนุสสิตถี มตอักขายิตะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว
    ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่
    ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่
    ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่
    ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๑. มนุสสิตถี มตอักขายิตะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่
    ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๒. มนุสสิตถี มตเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดี
    การหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดี
    การหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนัก
    ภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว
    ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่
    ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๓. มนุสสิตถี มตเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดี
    การหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว
    ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว
    แต่ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว
    ไม่ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว
    ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๔. มนุสสิตถี มตเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนัก
    ภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ
    แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดี
    การหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนัก
    ภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่
    ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติปาราชิก
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนัก
    ภิกษุ แล้วให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่
    ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๕. มนุสสิตถี มตเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [ทับ]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่
    ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดี
    การหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๖. มนุสสิตถี มตเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [คร่อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่
    ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่
    ยินดีการหยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่
    ไม่ยินดีการหยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>๒๗. มนุสสิตถี มตเยภุยยะขายิตะจตุกกะ [อม]
    </CENTER>พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดี
    การถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่
    ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว แต่ยินดีการ
    หยุดอยู่ ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ แต่ยินดีการถอนออก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้ว
    ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอไม่ยินดีการเข้าไป ไม่ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ไม่ยินดีการ
    หยุดอยู่ ไม่ยินดีการถอนออก ไม่ต้องอาบัติ.


    <CENTER>หมวดมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ จบ
    </CENTER>

    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๓๕๐ - ๑๗๘๔. หน้าที่ ๕๓ - ๖๙.
    http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1350&Z=1784&pagebreak=0
    สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑
    http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑</U>
    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=1&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>
    http://84000.org/tipitaka/read/?index_1

    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๓๕๐ - ๑๗๘๔. หน้าที่ ๕๓ - ๖๙.
    http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1350&Z=1784&pagebreak=0
    สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑
    http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑</U>
    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=1&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>
    http://84000.org/tipitaka/read/?index_1


    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาต่อกันครับ
    http://84000.org/tipitaka/pitaka1/





    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑
    มหาวิภังค์ ภาค ๑</CENTER>
    อสันถตภาณวาร
    ๑. หมวดมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ
    ๒. หมวดอมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ
    ๓. หมวดติรัจฉานคติตถี ๒๗ จตุกกะ
    ๔. หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    ๕. หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    ๖. หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    ๗. หมวดมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
    ๘. หมวดอมนุสสะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
    ๙. หมวดติรัจฉานคตะปัณฑกะ ๑๘ จตุกกะ
    ๑๐. หมวดมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
    ๑๑. หมวดอมนุสสะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ
    ๑๒. หมวดติรัจฉานคตะปุริสะ ๑๘ จตุกกะ



    <CENTER></CENTER>
    ๒. หมวดอมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ
    อมนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาอมนุษย์ผู้หญิง ... อมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ...ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก มาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ... ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ... ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... อมนุษย์ผู้หญิงผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก...ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
    หมวดอมนุสสิตถี ๒๗ จตุกกะ จบ
    -----------------------------------------------------


    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๗๘๕ - ๑๗๙๓. หน้าที่ ๖๙.http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1785&Z=1793&pagebreak=0 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑</U>http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=1&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>http://84000.org/tipitaka/read/?index_1




    ๓. หมวดติรัจฉานคติตถี ๒๗ จตุกกะ
    ติรัจฉานคติตถี สุทธิกะจตุกกะ
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ... สัตว์ดิรัจฉานตัวเมียผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ...ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายไปแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก มาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ... ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ... ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... สัตว์ดิรัจฉานตัวเมียผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
    หมวดติรัจฉานคติตถี ๒๗ จตุกกะ จบ.


    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๗๙๔ - ๑๘๐๑. หน้าที่ ๗๐.http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1794&Z=1801&pagebreak=0 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑</U>http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=1&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>http://84000.org/tipitaka/read/?index_1




    ๔. หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    มนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์อุภโตพยัญชนก ... มนุษย์อุภโตพยัญชนก ผู้ตื่น ... ผู้หลับ ...ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก มาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ... ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ... ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ... ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... มนุษย์อุภโตพยัญชนกผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
    หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ จบ.


    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๘๐๒ - ๑๘๐๙. หน้าที่ ๗๐.http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1802&Z=1809&pagebreak=0 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑</U>http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=1&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>http://84000.org/tipitaka/read/?index_1




    ๕. หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    อมนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาอมนุษย์อุภโตพยัญชนก ... <SUP>๑-</SUP> อมนุษย์อุภโตพยัญชนกผู้ตื่น ... ผู้หลับ ...ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ... ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ...ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ... อมนุษย์อุภโตพยัญชนกผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ... ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
    หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ จบ.
    <SMALL>@๑. ที่ ... ไว้นั้น ผู้ต้องการพิสดาร พึงพิจารณาโดยนัยดังกล่าวแล้วในมนุสสิตถีนั้นเถิด</SMALL>



    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๘๑๐ - ๑๘๑๘. หน้าที่ ๗๐.http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1810&Z=1818&pagebreak=0 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑</U>http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=1&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>http://84000.org/tipitaka/read/?index_1



    ๖. หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ
    ดิรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
    พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาสัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนก ... สัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนกผู้ตื่น ... ผู้หลับ ... ผู้เมา ... ผู้วิกลจริต ... ผู้เผลอสติ ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ... ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก มาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค ... ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ... ให้อมองค์กำเนิดด้วยปาก ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ... ต้องอาบัติปาราชิก ...สัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนกผู้ตายแล้วถูกสัตว์กัดโดยมาก ... ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดี ...ไม่ต้องอาบัติ ฯลฯ
    หมวดติรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนก ๒๗ จตุกกะ จบ. <SUP>๑-</SUP>


    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๘๑๙ - ๑๘๒๗. หน้าที่ ๗๑.http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1819&Z=1827&pagebreak=0 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑</U>http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=1&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>http://84000.org/tipitaka/read/?index_1


    </PRE>

    </PRE>

    </PRE>

    </PRE>

    </PRE>
    บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
    การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ.
    หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com
    <!--BEGIN WEB STAT CODE----><SCRIPT language=javascript1.1>page="tipitaka-1. อ่านพระวินัย";</SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://truehits1.gits.net.th/data/c0004100.js"></SCRIPT>
     

แชร์หน้านี้

Loading...