ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

TEST

 

ยินดีอย่างยิ่งครับ ที่ระบบรับผมเข้าเป็นส่วนหนึ่งด้วย
เพราะคิดมานานแล้วว่า ชีวิต ชีวิตนี้ของผม ผมจะไม่ปล่อยให้
กลายเป็นชีวิตที่กิ๊กๆ ก็อกๆ ที่เอาแต่ทำมาหากินเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง
ของตัวเองอย่างเดียวไปวันๆ อย่างเด็ดขาด
ผมจะต้องได้ทำประโยชน์อันยิ่งใหญ่อะไรสักอย่าง
ทิ้งไว้ให้แก่ส่วนรวม และโลกใบนี้ อย่างใด อย่างหนึ่ง ให้ได้เลยทีเดียว

นี่อาจจะเป็นโอกาสอันดี ที่ผมจะได้ใช้เพื่อบรรลุความปราถนา
อันนี้ของผมอีกโอกาสหนึ่งก็ได้ครับ..ยินดีอย่างยิ่งครับ

ขอกราบอนุโมทนากับทุกๆท่าน ที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวมมาแล้ว
และอนุโมทนากับผู้ที่กำลังทำอยู่ และผู้ที่คิดจะทำต่อไปในภายภาคหน้า
ทุกๆท่านด้วยนะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ยินดีกับคุณ Chayutt ด้วยครับ

 

สืบเนื่อง #937 และ #970
โอเคเลยนะครับ วันนี้เห็นดาววิ่งตามเคยครับ รวดเร็วทันใจ อบอุ่นดังเดิม
เห็น 3 ดวงครับ จดจำเวลาไว้ด้วย คือ ทุ่ม17 ทุ่ม22 และ ทุ่ม38
วันนี้ขึ้นดาดฟ้าLate หน่อย หลังทุ่มไปแล้วครับ คิดว่าไม่เห็นอะไรเสียแล้ว ปกติควรเริ่มดูก่อนทุ่มนึง
อากาศดีมาก ไม่มียุงด้วยหละ พระจันทร์ครึ่งซีกอยู่เหนือหัว
เยื้องไปทางตะวันออก 15 องศามีดาวสว่างมากสุดสีออกแดงคงจะเป็นดาวอังคาร ใกล้กันมีดาวอีกดวง 1 ดวงอยู่เยื้องมาทางด้านดวงจันทร์ เรียกว่า B ก็แล้วกัน

ผมมานั่งก็ตั้งสมาธิบ้าง คิดอะไรเรื่อยเปื่อยบ้าง คิดว่า "เราก็จะแก่อ่อนแรงในไม่ช้านี้
ทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแล้ว ชีวิตก็แค่นี้ เรื่องUFOจะหาความหมายอะไรช่วยใครได้เล่า
สัตว์ห็ต้องไปตามกรรม แต่..เอ.หรือว่า เขาจะให้เรา พาลูกชายมาเฝ้าดูสืบต่อเนื่องไป
เอางี้..ถ้าใช่ก็มาให้เห็นหน่อย ก็ละกัน" คิดไปอย่างนี้โดยคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ
แต่แล้วก็ปรากฏขึ้นครับ ไม่นานเกินรอ
ลักษณะการเห็นคือจะเห็นเริ่มต้นตรงระหว่างดาวอังคารกับดาว B นั้น มีดาววิ่งไปทางทิศเหนือ ใช้เวลา 3-4นาที สังเกตว่าพอไปไกลมากๆ แล้วจะมีความเร็วเพิ่มก่อนลับหายไป (ถ้าเป็นเครื่องบินยิ่งไปไกลจะยิ่งดูเหมือนอยู่กับที่)
ตอนเห็นดวงแรก ผมก็ลงบันไดไปหยิบกล้องสองตาคู่ชีพ(พ่อซื้อมาตอนผมยังเด็กรุ่น) นำมาส่องดูด้วยหละ เริ่มดูนาฬิกาด้วย จะได้มาโพสบอกกัน
หลังจากดวงที่ 1 ลับไป ก็เห็นดวงที่สอง เริ่มและจบตามตำแหน่งเดิมอาการเดิมเปี๊ยบเลยครับ
ทีนี้อาการเห็นแบบดับเบิ้ลอย่างนี้ผมเคยมีประสบการณ์ 2 ครั้งแล้ว คือครั้งแรกที่หาดปราณบุรี
ราวปี 2542-43 เวลาสี่ทุ่ม ตอนนั้นผมเล็งดาวที่สว่างสุดเหนือทะเล ได้ปรากฎดาววิ่งผ่านทาบทับดาวดวงที่เล็งหมายตาไว้แบบจงใจ ซ้ำสองเลย ทิ้งระยะห้านาทีแบบนี้
อีกครั้งก็เมื่อสักสองปีก่อนขณะโทรเรื่องจะทำเรื่องไม่ดีบนดาดฟ้านี้แหละ เห็นดาววิ่งเปล่งแสงและหรี่
แสงชัดแจ้งมาก เลยบอกคู่สายว่าไม่ทำ หลังจากวางสายแล้วจะเดินเข้าบ้าน เหลียวกลับไปดูฟ้าที่เดิม
ก็เห็นดาววิ่งเปล่งหรี่แสงแบบเดิมเปี๊ยบเลย
นึกย้อนอย่างนี้เลยเกรงว่าจะเป็นดาวเทียมหรือเปล่าที่วิ่งตามกันเป็นคู่ก็ไม่รู้
ก็เลยนึกขอในใจว่าถ้าจะให้ลูกชายสืบทอดการดู UFO ก็ขอรอบที่ 3 ก็แล้วกัน
รอตั้งนานไม่เห็นมีอะไร สงสัยงมงายแล้วเรา
แต่ในที่สุด นั่นแหละครับ เวลา 19:38 ก็มีมาจนได้ ท่าทางแบบไม่ค่อยเต็มใจด้วยหละ
คือแสงอ่อนกว่า 2 ดวงแรกมาก เอากล้องสองตาหาเป้าก็ยาก
แล้วจุดเริ่มเห็นก็อยู่ถัดดาว B มาทางพระจันทร์ คือเหนือศรีษะมากขึ้น
ทิศทางวิ่ง เป็นแนวขึ้นเหนือเหมือนเดิม แต่คราวนี้ยังไม่ค่อยลงต่ำห็ดูเหมือนเร่งความเร็วจางหาย
คงจะไม่ถึง 2 นาทีครับ
แสดงว่าจะต้องถ่ายทอดต่อให้ลูกล่ะ
จากนั้นเห็นแต่เครื่องบินโดยสาร ลองจับเวลาดูด้วยนะว่าที่มันบินจากไปน่ะเกินห้านาทีแล้วยังเห็นไฟแว๊บๆอยู่เลย
สักสองทุ่มสิบก็ลงมาทานข้าวและคุยกับบิดา ก็คุยในเรื่องของดาวเทียมและอาการที่เห็น
คุยไปคุยมาท่านบอกลักษณะอย่างนั้นไม่น่าใช่ดาวเทียม เพราะปกติก็ไม่น่าเห็น และมันมีหลายรูปทรง
P_POP ก็เลยได้ที ไปหยิบคอมโน้ตบุ๊ค มาเปิดไอ้ที่ถ่ายที่เขากะลาเมื่อปี 1999 ให้บิดาดู
โถเพิ่งให้ดูสำเร็จวันนี้แหละครับ เคยคะยั้นคะยอให้ท่านดูว่าเป็น UFO หลายครั้ง
ท่านไม่ยอมดูเลยครับ ทำนองว่าไม่เอาเรื่องงมงาย ดีไม่ถูกเตะด้วยหละ
แต่วันนี้บิดาหลงกลยอมดูแล้ว ท่านก็ไม่มีความเห็นครับ นิ่งเฉยเสีย ที่สำคัญไม่โกรธก็ดีแล้วครับ
อาจเป็นเพราะสัปดาห์ก่อนพาท่านพร้อมเพื่อนร่วมลัทธิเศรษฐศาสตร์ของท่านไปเที่ยว
และให้ลงเรือชมคลองแถวตลาดน้ำคลองลัดมะยมใกล้บ้านนี่เอง แต่ท่านไม่ยักเคยไปอะไรแบบนี้
ซึ่งบิดาท่านพอใจชอบใจผมอย่างมากในการนั้น
โอเค ตัดบท
ก็อาจจะมีความก้าวหน้าต่อๆ ไป หากรวบรวมคนที่เป็นสื่อแรงๆ มาจอยน์กัน
ก็อาจได้เห็นอะไรดีๆ จะๆ เพิ่มขึ้นกว่านี้นะครับ
ขอบคุณพี่สุดใจที่เป็นแหล่งตั้งต้นประสบการณ์นี้
จำได้ว่าครั้งแรกพบ อ.เทพนม ท่านให้มาสมัครสมาชิกชมรมค้นคว้าทางจิต ที่ รร.รัตนโกสินทร์ ปี 2541
ซึ่งผมได้มาชมการเล่าประสบการณ์ไล่ต้อนจับไฟกระสือบนเขากะลา เป็นสิ่งสนใจแรกๆเลย

 

สวัสดีครับ คือ ผมพึ่งสมัครอ่ะครับ แต่ ก็อ่าน ในกระทู้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)คือสนใจเรื่องเกี่ยวกับ Space เกี่ยวกะสิ่งมีชีวิต นอกโลก ด้วยอ่ะครับ ก็คอยอ่านคอยติดตาม ในกระทู้นี้ มาสักพักแล้วอ่ะครับ ตั้งแต่ ได้ ดู TV ที่มี อาจารย์ ท่าน หนึ่งผมจำไม่ได้ ง่ะ แต่ก็นานละ ก็เลยเข้ามาศึกษา ติดตาม ในกระทู้นี้ จนถึงปัจจุบัน แต่ก็พึ่งสมัคร คือ ทำไงเราถึงจะติดต่อ กับเค้าได้อ่ะครับ ทุกวันนี้ มองฟ้า ตอนกลางคืนแถบ ทุกวัน ก็ยังเห็นแต่ดาว เต็มท้องฟ้า สงสัยผมยังไม่มีโอกาสที่จะได้เห็น ได้ติดต่อ ผมก็วันรุ่ย อายุ20 ธรรมดาๆ คนหนึ่งละครับที่ สนใจเรื่องนี้และรู้อยู่เสมอว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว ในSpace พี่ชายผมเค้าก็มองว่าผม บ้าบอ เป็นเอามาก แต่ผมก็ไม่สนหรอก ผมรู้สึกดี ด้วยซ้ำที่ รู้เรื่องต่างๆมากมาย ,อาจเพราะผมทำสิ่งที่ไร้สาระไปมั้งอ่ะเลยไม่มีโอกาศ ได้ติดต่อ ได้พบเห็น (^_^) อิอิ

 

ยินดีด้วยอย่างยิ่งค่ะที่มีโอกาสได้ร่วมงานกัน และขออนุโมทนากับเจตนาของคุณชยุตด้วยนะคะ ที่มุ่งมั่นจะช่วยเหลือส่วนรวม เป็นมหากุศลแล้วละค่ะ

และพี่สุดใจเพิ่งได้คุยโทรศัพท์กับคุณชยุตเมื่อสักครู่นี้เอง ซึ่งคุณชยุตแจ้งให้ทราบว่า

เมื่อคืนนี้ฝันอีกครั้ง คราวนี้มีข้อมูลใหม่เรื่องของงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาในความฝัน มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ และพอจะทราบเค้าโครงของงานที่จะต้องรับผิดชอบในโครงการนี้แล้ว

ก็ขออนุโมทนากับคุณชยุตอีกครั้งค่ะ

 

ขอโทษนะคะที่พี่สุดใจตอบข้อความล่าช้าไปสักนิด เพราะเป็นกรณีพิเศษค่ะ
<O</O
เรื่องของคุณ aonlin ที่พบเจอมานั้น ก็เป็นเรื่องเดียวกับที่ผู้ฝึกเป็นกลุ่มฯ ได้พบเจอมาแล้วค่ะ <O</O
<O</O
การที่มองเห็นบนวัตถุแปลก ๆ หลายรูปแบบบนท้องฟ้านั้น ก็จะเกิดกับผู้ฝึกกลุ่มฯแทบทั้งสิ้น ในช่วงที่ผู้ฝึกเริ่มเข้ามาใหม่ ๆ ในระยะแรก ๆ ก็เห็นแบบธรรมดานี่แหละ พอหลังจากนั้น ก็เริ่มเห็นมากขึ้น บนท้องฟ้าถ้ามองขึ้นไปก็จะเห็นเขากระพริบแสงให้เป็นจุด ๆ กลางท้องฟ้า เดี๋ยวแว๊บตรงนั้น ตรงนี้ แต่ไม่มีตัววัตถุให้เห็น <O</O
<O</O
หรือบางครั้ง มองดูดาวอยู่เพลิน ๆ ดาวดวงที่อยู่นิ่งนั้นและกำลังมอง ก็เคลื่อนที่ จากจุดนั้น ไปจอดอีกจุดหนึ่ง ต่อหน้าต่อตาเราเลย หรือหันไปแล้วจะเห็นวัตถุเคลื่อนที่บ้าง ลอยอยู่บ้าง หรือบางครั้งเราเห็น แต่คนอื่นกลับไม่เห็น จนทำให้เราเริ่มสงสัยว่า หรือเราจะเพี้ยนไปแล้ว เช่นนี้เรื่อยมา<O</O
<O</O
จนมาได้คุย ได้สนทนากับบุคคลอื่น ๆ ในกลุ่มฯ ที่ฝึกด้วยกัน ก็ปรากฏว่าเห็นเหมือนกัน รับรู้ได้เหมือนกัน จึงพอเบาใจได้ว่า มิใช่เป็นเราคนเดียวที่เห็นแบบนั้น มีการพบเจอเหมือนกันในหลาย ๆ คน หลาย ๆ ตัวอย่าง

ซึ่งต่อมาระบบแจ้งว่า เป็นอุปกรณ์รูปแบบหนึ่ง ใช้สำหรับมองผ่านมิติ เพราะสิ่งที่เราเห็นบางคนจะไม่เห็น เพราะเขาอยู่ในอีกมิติหนึ่ง เขาลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่คนละมิติ ที่เห็นแสงส่งว๊าบมาทักทายเราได้ หรือเห็นในรูปแบบอื่น ๆ ก็เพราะเรามีอุปกรณ์ที่มองทะลุไปอีกมิติหนึ่งได้นั่นเองดังนั้น เมื่อเขาไม่เห็น แต่เราเห็น เมื่อไม่เข้าใจ ก็จะสั่นคลอนความเชื่อมั่นว่าเราเป็นปกติได้ แต่เมื่อเข้าใจ และมีตัวอย่างในหลาย ๆ บุคคล เราก็พอจะเบาใจได้ว่า เราไม่ได้เพี้ยนไปเอง หรือเราคงเป็นคนหนึ่งที่ระบบทำการเปิดมิติให้เห็นก็เป็นได้<O</O
<O</O

และรูปแบบที่สัมผัสพลังงานที่ส่งเข้ามา อันนี้ก็เป็นกันบ่อยมาก ส่งผ่านแม้แต่โทรศัพท์ กำลังโทรศัพท์กันอยู่ บางท่านบอกพี่มีคลื่นอะไรไม่รู้ส่งเข้ามาหนูขนลุก บางคนบอกพี่มีพลังงานเข้ามาเย็นเฉียบเลย บางครั้งคุยกันอยู่มีเสียงแทรกเป็นภาษาที่เราฟังไม่ออก บางคนแค่มองภาพของมนุษย์ต่างดาวที่ถ่ายๆไว้ได้และติดไว้ให้ชมบนบอร์ด ก็ขนลุกรีบไปเอากล้องมาบันทึกภาพนั้นจากบอร์ดไว้เลย ความรู้สึกเหล่านี้ เป็นรูปแบบพลังงานที่สัมผัสได้ และมีตัวอย่างมาแล้วทั้งสิ้น<O</O
<O</O
ดังนั้นที่คุณ aonlin โพสต์ข้อความในกระทู้นี้ แล้วสัมผัสพลังงานได้นั้น ก็คงเป็นการส่งพลังงานเพื่อเชื่อมต่อกับคุณ aonlin เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ที่สัมผัสความคิดความรู้สึกของคุณได้ในขณะนั้น อย่าได้วิตก หรือกังวลใจใด ๆ เลยนะคะ คุณคงเป็นคนพิเศษคนหนึ่งที่เขาต้องการติดต่อด้วยนั่นเอง<O</O

 

ยินดีด้วยนะคะ ที่เขามาทักทายคุณ P_ POP อีกเช่นเคย ดังที่ผ่านมา

เรื่องของดาววิ่งนั้น มีการสันนิษฐานกันไว้หลายอย่าง ถ้าคนไม่เคยพบก็จะคิดว่า เป็นดาวเทียมบ้าง เครื่องบินบ้าง ตาฝาดบ้าง แล้วแต่เขาจะคิดอย่างไร แต่สำหรับคนที่เห็น คนที่พบเจอด้วยตนเอง ได้พิจารณาในความไม่เชื่อไว้ก่อน หาหลักฐานพิสูจน์ความเป็นไปได้ วิถีการวิ่ง ความเร็วในการเคลื่อนที่ มันจะค้านกับวัตถุบนโลกที่เราเคยเจอ

และยิ่งเจอดวงดาวที่จอดอยู่แล้ววิ่งจากจุดเดิม วิ่งผ่านดาวดวงอื่น ๆ ไปจอดอีกจุดหนึ่ง หรือดวงดาวที่วิ่งไปตรง ๆ แล้วหักศอก 90 องศา กลับลงมาด้านล่าง ถ้าคุณหรือใคร ๆ พบรูปแบบนี้ ก็คงหมดคำถามกับความคิดที่ว่า เป็นดาวเทียมไปเลย

ล่าสุด พี่สุดใจ และคณะฯ ได้ไปนั่งสมาธิร่วมกับอาจารย์แอ๊ด ที่อาศรมบูรพา ป่าละอู นั้น ในวันที่ 12 มกราคม 2551 เดินทางไปถึงในช่วงเวลาประมาณ 20.00 นาฬิกา และช่วงเตรียมตัวก่อนนั่งสมาธิในลานยันต์จักรามหาจักรวาลนั้น

อาจารย์แอ๊ดท่านได้ชี้ให้พี่สุดใจดูที่เหนือหลังคาอาศรม ซึ่งเป็นจุดที่คณะของท่านที่ได้มานั่งสมาธิ ณ ที่นี้ ได้เห็นดวงดาวสว่างมากดวงหนึ่ง เคลื่อนที่ได้ จากด้านขวาของหลังคาไปทางด้านซ้ายไม่ไกลมากนักแล้วก็หยุด จากนั้น ก็เริ่มเคลื่อนที่จากด้านซ้ายกลับมายังด้านขวาจุดเดิมอีกครั้ง แล้วก็หยุด ซึ่งคณะของท่านที่ยืนดูอยู่นั้นก็แปลกใจ ที่เห็นดาวเคลื่อนที่ไปและกลับได้ หลังจากนั้นดาวดวงเดิมได้มีการส่องแสงว๊าบใหญ่มาก 2 ครั้ง แล้วหายไป ท่านจึงเล่าให้ฟัง พร้อมทั้งชี้จุดที่พบเห็น ให้พี่สุดใจและคณะฯ ได้ดู

ซึ่งก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ปรากฏให้เห็นในรูปของดวงดาววิ่งได้ ก็พอนำไปเทียบเคียงได้กับดาววิ่งที่หลาย ๆ ท่านพบเห็นมาแล้ว

 

ดวงไฟปิศนา





ดวงไฟปิศนา คือ
ปากดการ ระหว่างไอน้ำ กับ แฟรชในกล้องดิจิตอลเท่านั้นกล้องฟิมถ่ายไม่ค่อยติด
เพราะผมได้ทดลองแล้ว มันติดจริงๆ คือฉีดน้ำขึ้นไปให้น้ำแตกเป็นฟอยเล็กๆๆ
หรือตอนพบค่ำช่วงที่ต้นไม้คายน้ำออกมา เมื่อเราถ่ายภาพไปแฟรชของกล้อง
จะไปกระทบกับไอน้ำหรือหยดน้ำที่ลอยอยู่นั้นให้เกิดการหักเหของแสง และกล้องเป็นกล้องที่จับภาพได้รวดเร็ว จึงได้เห็นภาพเหล่านี้

ไม่มีอะไรพิเศษหรอกครับ ยืนยันโดยวิศวกร ครับ

 

พี่สุดใจก็ขอนำข้อมูลที่น่าสนใจมาให้ทุกท่านรับทราบอีกเช่นเคย แต่ข้อมูลต่อไปนี้ ขอให้ท่านที่อ่านข้อความเหล่านี้ ควรอ่านอย่างพิจารณา และมีสติไตร่ตรอง เพราะเป็นเรื่องราวเฉพาะกลุ่มฯ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาเท่านั้น มิได้หมายความว่าท่านต้องเชื่อ หรือไม่เชื่อ หรือจะต้องตระหนกตกใจใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เพราะมีความสนใจจากหลายท่านที่ต้องการทราบเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่มาโลกมนุษย์ ต้องการทราบว่า เขาจะมาช่วยเหลือจริงหรือ ต้องการทราบว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นร้ายแรงจนเราช่วยกันไม่ได้จริงหรือ และที่หลายกลุ่มฯ หลายสำนัก เขาทำนายกันมากมายนั้น มันจะเกิดขึ้นจริงหรือ ?<O</O
<O</O
ซึ่งมีมุมมองมากมายในหลาย ๆ กระแสของผู้ที่รับสื่อ ว่าได้มีการมาเตือนเรื่องภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าในอนาคต บางแห่งมีการทำนายวันเวลาที่จะเกิด มีการเตรียมการหลายด้านในแต่ละกลุ่ม ซึ่งกลุ่มต่าง ๆ เหล่านั้น ย่อมมีการรับข้อมูล มีการรับทราบข้อมูลการเตือนมาจากจุดใดจุดหนึ่งที่น่าเชื่อถือได้ จนต้องมีการเตรียมการสร้างอาคารสถานที่หลบภัยพิบัติไว้ยังจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย<O</O
<O</O
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ทำเรื่องของภัยพิบัติ แต่อาจจะแตกต่างจากกลุ่มอื่น ๆ ก็ตรงที่ ไม่ได้มีการเตรียมการเรื่องสถานที่ เรื่องอาหาร เรื่องบุคลากร แต่งานที่ทำก็คือการประสานงานกับกลุ่มต่าง ๆ การนำข้อมูลที่ได้รับการสื่อสารมาเผยแพร่ไปยังคนหมู่มากให้ได้รับรู้ เป็นการเตือนด้วยการ

 

ต่อจากกระทู้ 906 และ 907


(ความเดิม 907) เพราะฉะนั้น ความคิดนี้มันเป็นอันตราย มันเป็นจุดก่อกำเนิดให้ถึงความวิปริตถึงสูงสุด ทำให้ต้องมีการรบราฆ่าฟันกันเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ของพวกเจ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่มีใครยอมหรอกเพราะว่าผู้ยิ่งใหญ่เพียงไหน ก็ต้องมีผู้ยิ่งใหญ่อย่างอื่น ต้องต่อสู้กันไปเหมือนในพุทธทำนาย ยักษ์นอกศาสนาต่อสู้กันไป ตายไปอย่างละครึ่งมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ.


คุณภัทรพล - สงครามโลกเกิดก่อน หรือภัยพิบัติเกิดก่อนครับ
<O</O
<O</O
ผู้สูงสุด - ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้น ทางด้านการเกิดขึ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเจ้าที่มีบารมีก็จะสังเกตได้ เตือนจากทางน้ำ ทางดิน ทางลม มีอยู่แล้ว แต่ภัยพิบัติที่เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ถึงจะกวาดล้างมนุษยชาติไปได้เกือบ 100 % นั้น จะต้องเกิดหลังจากสงครามโลกของเจ้า รบราฆ่าฟันกันลงไป ทำให้ภัยพิบัตินั้นก็คือ จุดสูงสุด สุดขีดของแรงกรรม กฎของธรรมชาติจึงจะกวาดล้างอีกครั้งหนึ่ง นั่นก็คือสงครามโลกของเจ้าจะเกิดขึ้นก่อน ตอนนี้ ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่เป็นลักษณะของการเตรียมการ การรวบรวม การประมวลผล การทดสอบ การหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน พวกเจ้าที่มีบารมี ข้าพเจ้าจะกล่าวเตือนไปยังผู้ที่ได้รับฟังการสื่อสารนี้ พวกเจ้าต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ จะยังประมาทกันอยู่ไม่ได้ เพราะว่าสิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ลูกไฟตกจากฟากฟ้า หรือแม้กระทั่งความวิบัติที่เกิดจากมนุษย์ด้วยกัน การหักหลังของชาติเดียวกัน มันจะมีความวุ่นวายยิ่งกว่านี้หลายสิบหลายร้อยเท่า
<O</O
<O</O
คุณภัทรพล - ประเทศไทยจะเหลืออะไรบ้างครับ<O</O
ผู้สูงสุดฯ - ตอนไหนล่ะ?<O</O
คุณภัทรพล - ตอนหลังจากเกิดภัยพิบัติ<O</O
ผู้สูงสุดฯ - สุดท้ายเลยรึ? สุดท้ายใช่ไหม?<O</O
คุณภัทรพล - ใช่ครับ.<O</O
<O</O
ผู้สูงสุดฯ - ภัยพิบัติครั้งใหญ่ เนื่องจากสิ่งที่เจ้าพูดมา เจ้าได้ศึกษากันมาอะไรน่ะ แกนโลกเอียง เออ มันไม่ได้เอียงโดยไม่มีเหตุหรอกนะ มันมีเหตุ เนื่องจากแรงกรรมอันสูงสุด ทำให้วงโคจรของโลกของเจ้า ของดวงดาราของเจ้าในระบบสุริยะ มันเกิดการแปรปรวน เหตุเกิดจากกรรม กรรมดำที่สั่งสมกันมามากกว่า 70 % มันส่งผล ส่งผลระดับโลก ส่งผลระดับจักรวาล สิ่งที่พวกเจ้ายังคิดไม่ถึง คิดว่าเป็นเรื่องของธรรมชาตินั้น มันไม่ใช่ จุดกำเนิดเกิดจากกรรมดำ มันมีอำนาจมาก เพราะสั่งสมกันไปทั้งโลก มันเลยส่งผลถึงจักรวาล เดือดร้อนทำให้แกนโลกของเจ้าน่ะเอียง มันจากจุดเล็ก ๆ เหมือนน้ำหยดหนึ่ง หยดเข้าไปเป็นเดือนเป็นปี มันก็เต็มโอ่ง เป็นปีเป็นหลายสิบปีมันก็เต็มแท็งก์ แรงกรรมที่พวกเจ้าได้ทำกันไว้นั้น เป็นเดือน เป็นปี เป็นหลายสิบปี มันก็รวมกันจากกระแสกรรมของต่างคนเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมกันส่งผลถึงทั้งโลก ส่งผลถึงทั้งจักรวาล เออ มันไม่น่าเกี่ยวกันได้ แต่มันก็เกี่ยวกัน<O</O
<O</O
ตอนนี้ มันถึงกลียุค มันสั่นสะเทือนไปทั้งจักรวาลแล้ว ไม่งั้นข้าพเจ้าคงไม่มาหรอก ข้าพเจ้าอยู่นู่น ไกลกว่าพวกเจ้า เทคโนโลยีของพวกเจ้าก็ไปไม่ถึงข้าพเจ้า แต่กรรมของเจ้าไปถึงแล้ว มันกระจายไปทั่วจักรวาลแล้ว มันส่งผลสนามแม่เหล็กบิดแกนโลกเอียงอะไรน่ะ เออ! กรรมดำนี่มันอานุภาพมันนะ<O</O
<O</O
คุณภัทรพล - ร้ายแรงกว่าปรมณู<O</O
ผู้สูงสุดฯ - เออ! นั่นแหละ นั่นแหละ มันร้ายแรง อะไรที่เป็นคนกดจุดปรมณู เจ้ารู้ไหม? ก็กรรมนั่นแหละ กรรมดำน่ะแหละมันไปกด กด กด ปรมณูมันก็ระเบิด สิ่งที่เป็นต้นเหตุอยู่ที่กรรมดำ เพราะฉะนั้น ไอ้คนที่กดน่ะแหละ มันก็มีกรรมดำ มันเป็นเหตุอยู่ มันถึงสามารถกดได้ แต่สิ่งนี้ ทวยเทพที่เขามาแก้นี้ จะมาแก้กรรมดำ เรามาช่วยกันแก้กรรมดำ แต่มันไม่สามารถหยุดยั้งกรรมดำทั้งมากได้หรอกนะ<O</O
<O</O
<O</O





<O</O

 

คุณภัทรพล - ภัยที่ว่าน้ำนี้ ไม่ทราบว่าอันดับต่อไป น้ำมันจะทำยังไงบ้างครับ เพราะภัยจากน้ำมีหลายแบบเหลือเกิน น้ำท่วม น้ำกระฉอก ซึนามิ ลานินญ่า<O</O
<O</O
ผู้สูงสุดฯ - ไอ้เศษ ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นการเตือนนั้น มันไม่ได้ 10 ส่วน ใน 100 ส่วนหรอกนะ มันไม่ถึง ไอ้คลื่นที่ในต่างชาติของเจ้าประสบมานั้น มันเป็นการทำตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ธรรมชาติที่ถึงกำหนดแรงกรรมของเขา แต่ผู้ที่มีบารมีได้รับรู้ รับเห็น จากการสื่อสารของพวกเจ้า ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจ เป็นตัวอย่างให้เห็น แต่สิ่งที่เจ้าจะไม่เคยพบเคยเห็น จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นความเจริญทางเทคโนโลยีจากต่างจักรวาล และภัยพิบัติสูงสุดจากโลกของเจ้า.<O</O
<O</O
คุณภัทรพล - ท่านเมตตาช่วยบอกเวลาด้วยจะได้ไหมครับ<O</O
<O</O
ผู้สูงสุดฯ

 

คุณภัทรพล - กลียุคจบแล้ว ก็ต่อด้วยยุคทอง ยุคทองของโลกนี่มีไหมครับ?<O</O
<O</O
ผู้สูงสุดฯ - ยุคทอง เป็นคำเปรียบเปรย ไม่ใช่ยุคที่มีทองหรอกนะ เป็นยุคที่มีความศิวิไลในด้านจิตใจ นั่นยิ่งกว่าทองในประเทศของเจ้าเสียอีก เพราะฉะนั้น ในเมื่อเกิดกลียุค คนชั่ว 70 % ถูกกวาดล้างลงไป คนดีที่ยังเหลือรอดอยู่ เจ้าก็คำนวณ % ดูซิ พอคนชั่วตาย คนดีตอนแรกมีแค่ 30 % แต่ตอนหลังก็จะกลายเป็น 80

 

ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต มีอายุยืนหลายหมื่นปี ดาวของเขามีอากาศหนาวเย็นติดลบมาก จึงต้องอยู่ใต้พื้นดิน และอยู่ในรูปแบบของกายละเอียด เนื่องจากมีอายุยืนมาก ระยะเวลาที่ยาวนานของชีวิต จึงมีการทำสมาธิเป็นหลัก มีความเจริญทางจิตสูง และรู้เห็นความเป็นมาของโลกมนุษย์ใบนี้ ที่มีการเปลี่ยนแปลงมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว

เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่นำมาให้ได้รับทราบกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ต่อให้ยิ่งใหญ่เพียงไหน ก็ไม่อาจยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติได้ ไม่อาจต้านแรงกรรมได้ ดังนั้นเทคโนโลยีที่เราค้นคว้า ไขว่หาแทบตายนั้น ที่แท้ก็ต้องเริ่มต้นจากจิตที่เจริญแล้วทั้งสิ้น

จึงเป็นเรื่องที่ว่า ทำไมมนุษย์ต่างดาวจึงต้องมาสอนเรื่องของทางจิตก่อนในระดับแรก เพราะต้องมีการยกระดับจิตเข้าสู่กฏของธรรมชาติในระดับสากลก่อน เพราะการที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้นั้น ต้องมีระดับจิตใจที่พร้อมจะรับได้นั่นเอง

 

ขอบคุณนะคะ ที่ให้ความสนใจและกรุณาให้คำแนะนำ

ภาพบางภาพ เป็นส่วนหนึ่งที่บุคคลต่าง ๆ ได้เดินทางมาสัมผัส และบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งหลายภาพมีลักษณะแปลก ๆ เราจึงนำเสนอให้ท่านได้ชมด้วย ซึ่งพี่สุดใจก็จะบอกไว้ว่า เป็นภาพแปลก ๆ ที่บันทึกได้ที่เขากะลา

ภาพบน คุณสมเกียรติ จากกรุงเทพฯ บันทึกได้ที่เขากะลา 23 กุมภาพันธ์ 2548

ภาพล่าง กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ จากกรุงเทพฯ 5 มกราคม 2550

ค่ะ เป็นภาพแปลก ๆ ที่หลายท่านถ่ายไว้ได้ และมอบไว้ให้ พี่สุดใจจึงนำมาให้ชมกันค่ะ แล้วแต่ผู้อ่านจะใช้วิจารณญาณในการชม

ขอบคุณค่ะ

ภาพด้านล่าง ก็เป็นการบันทึกในชุดเดียวกัน โดยคุณสมเกียรติ จากกรุงเทพฯ

 

ขออณุญาติคุณพี่สุดใจเอาเอากระทู้มาลง ที่ห้องภัยพิบัติค่ะ

 

เดี๋ยวนี้ไม่กังวลแล้วค่ะ ครั้งก่อนกับวันนี้ ตอนเจอ ยิ้มกว้างๆแถมโบกมือให้เลย ทุกครั้งที่เจอเดี๋ยวนี้รู้สึกอบอุ่นมากค่ะ ^^
ช่วงนี้มักเจอทีละ 2 ลำ บางครั้งเวลาเราสงสัยว่าเครื่องบินหรือเปล่า เค้าจะส่งสัญญาณ ไม่ก็พลังบางอย่างทำให้เรารู้ว่าไม่ใช่เครื่องบินธรรมดา แล้วก็รู้สึกว่าเค้าเปิดเผยให้เราเห็นชัดมากกว่าเมื่อก่อนมากค่ะ (kiss)

 

.........

อยากรู้แค่ 2 ข้อเท่านั้น
- ทำไมไม่เปิดเผยตัวออกมาอย่างเป็นทางการ เอาให้คนเห็นเอาแค่หมื่นคนพร้อมกันก็พอ และขอให้ชัดๆเลยไม่ใช่แค่จุดเล็กๆแค่หัวเข็มหมุด

- อยากเห็นเป็นรูปประธรรมมากกว่านี้ไม่ใช่แค่ลมปากแค่คนไม่กี่กลุ่ม

เมื่อก่อนผมเชื่ออย่างมากแต่บัดนี้ความเชื่อเหล่านั้นได้หายไปแล้ว

อยากเห็นครับ อยากเห็นเป็นรูปประธรรม ไม่ใช่นามธรรม อย่างนี้