รอดเพราะบารมีเหล่าบรรพชน(ไทย)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย เทพเหนียว, 27 สิงหาคม 2014.

  1. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    เรื่องนื้ต่อจากโพสที่ผมเกิ่นทิ้งไว้ในกระทู้ เมื่อข้าพเจ้าเจอผีตานี หน้า 12 ผมทิ้งท้ายไว้ว่า "ในเมื่อ แผ่เมตตาไม่ไป!! คาถาอาคมก็เอามันไม่ลง!! พุทธคุณอย่างชินบัญชรที่ผมภูมิใจ ก็ไม่มีผล!! แล้วผมปราบมันได้อย่างไร?อะไรคือสิ่งสุดยอด? แล้วถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร?" สำหรับผู้ที่เคยอ่านโพสของผมคงจะทราบเกี่ยวกับความเป็นมาบางอย่างในตัวผม เรื่องนี้เกิดขึ้นบนบ้านผมเอง โดยมีผมเทพเหนียวและเทพอีก 4 คน เริ่มเรื่อง : หลังจากผ่านเหตุการณ์ เพื่อนมาเอาเพื่อน ศึกปะทะคลองบางกอกน้อย โรงบาลธนบุรี และผีแมว 4 เรื่องตามที่เคยโพสไว้ ผมก็ได้ร่ำเรียนวิชากับฤๅษีนารอท และในคืนที่เกิดเรื่อง เก่งผู้เป็นร่างปู่ไม่อยู่ พวกเราอยู่กัน 5 คน และจะมารวมตัวกันที่บ้านผม คือมานอนที่บ้านผมทุกคืนเพื่อลองวิชาที่ปู่ท่านสอน แต่ตัวผมเองจะนอนดึกไม่ได้ พ่อกับแม่จะบ่นและไล่ไปนอนเพราะเช้าต้องไปเรียน แต่ผมจะอยู่ให้ดึกที่สุด ประมาณเกือบตี 2 ผมจะย่อง ๆ เข้าไปหลับและหลังตี 2 จะออกมาใหม่ ไม่มีใครด่า เพราะพ่อแม่ออกไปตลาดตอนตี 2 ทุกวัน และในคืนนั้นก็เช่นกัน พวกเราก็ทำอะไร ๆ เหมือนเช่นทุกคืน จนจะได้เวลาที่จะต้องเข้าไปหลับ ผมสั่งเทพทั้ง 4 ว่า "ห้ามไปเรียกพี่น่ะ เดี๋ยวเสียงดังจะโดนด่า จนกว่าจะตี 2" พูดจบผมก็เดินเข้าห้องไป แล้วก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเทพม้าทันทีเหมือนมันรอให้ผมเดินเข้าห้องไปก่อนจึงเริ่มลงมือ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าข้างนอกห้องมีอะไรเกิดขึ้น สักพักเทพ9มาเรียกผมที่หน้าต่าง ผมก็รีบไล่ให้มันกลับไปเพราะแม่จะตื่นแล้ว มันก็ไป สักพักมาอีกคราวนี้เทพจักรมาด้วยบอกผมว่า"เทพม้าจะตายแล้วออกมาดูหน่อย" ผมก็บอก "พี่ก็จะตายเหมือนกันถ้าแม่เห็นว่ายังไม่นอน" ผมจำได้ผมยกมือพนมไหว้พวกมันขอให้กลับไปนั่งที่ก่อนมีอะไรหลังตี 2 ค่อยว่ากัน ผมเองก็เก็บความโกรธไว้ในใจสั่งแล้วห้ามเรียกยังมาเรียก พอแม่ผมออกตลาด ผมรีบออกจากห้องด้วยความโมโห ไหนมีอะไรก็ว่ามา เทพจักรจึงบอก "พี่เทพม้าแย่แล้ว" ผมหันไปเห็นสภาพเทพม้าก็ตกใจ "เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่" เทพทั้ง3ก็เริ่มเล่า "ตั้งแต่พี่เข้าห้องก็เป็นเลย ตอนแรกเป็นหนักกว่านี้อีก เป็นอยู่กลางบ้านเลยต้องลากมาพิงกำแพง" ผมจะอธิบายสภาพเทพม้า คือ ข้อมือทั้งสองข้างงอเข้าหาตัวเอง ปากเท้าเป็นสีม่วง(ก่อนผมออกมาเข้มมากกว่านี้) มีอาการสะอึกสะอื้นตลอดเวลาทำให้เวลาพูดฟังไม่ค่อยได้ศัพท์ และขยับร่างกายไม่ได้ ผมจึงหาอะไร ๆ มาคล้องมาใส่ให้ก่อน ทั้งเสื้อ ทั้งหญ้าคาที่ได้มาจากงานไหว้ครูวัดบางพระ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ลองแผ่เมตตา ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ผมใช้คาถาทุกบทที่มี ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมรวบร่วมสมาธิอีกครั้ง ทุ่มเทให้กับชินบัญชรซึ่งอย่างน้อย ๆ ก็น่าดีขึ้นบ้าง แต่เทพม้าก็ยังมืองอสะอึกสะอื้นเหมือนเดิม ผมจึงเริ่มใช้พุทธอาคม โดยการปลุกของในตัวเทพม้า(งานนี้ท่านผู้อ่านที่เคยอ่านโพสผมคงรู้น่ะ ผมถนัด) โดยหวังว่าของในตัวเทพม้าจะดันของบางอย่างให้หลุดออกมา ผมจึงเรียก 3 เทพมานั่งปลุกด้วยเพื่อกระตุ้นยันต์ของเทพม้า(ศิษย์สายเดียวกันจะสื่อถึงกัน) แต่ก็ไม่เป็นผล ขนาดตัวเทพเหนียวเองยอมเสียกำลังปลุกของตัวเองก็ไม่เป็นผลอีก ยิ่งทำให้เลวร้ายมากขึ้น เทพม้าบอกให้ผมหยุดปลุกเพราะยิ่งปลุกอาการยิ่งหนักขึ้นมือยิ่งงอมันทรมาน ผมคิดว่ามีบางอย่างกดของไม่ให้ขึ้นส่วนของในตัวก็พยายามจะดันออกมาซึ่งมันสู้กันอยู่ภายในตัวเทพม้า เทพม้าบอกผมว่า "พี่ปล่อยให้ผมตายเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว(สะอึกสะอื้นตลอดเวลาทำให้เหนื่อย)" คำ ๆ นี้ทำให้ผมผู้เป็นพี่ใหญ่ถึงกับนิ่ง ก็มันหมดหนทางจริง ๆ ผมคิดในใจ ถ้าเทพม้าตายจะบอกพ่อเขาว่าอะไร ผีเข้าเหรอ บ้าไปแล้ว ใครจะเชื่อ ผมหันกลับไปมองหน้าน้อง ๆ ทั้ง 3 ของผม ทุกคนนั่งก้มหน้า เห็นถึงความท้อแท้ สิ้นหวัง แต่เราเทพเหนียวผู้เป็นพี่จะท้อแท้ไม่ได้ ผมจับไหล่เทพม้าแล้วบอกอย่าท้อเราต้องสู้(ผมนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้) จึงบอกเทพม้าให้นึกถึงป้านุช(แม่)และหลวงพ่อโบสถ์น้อย(พระพุทธรูปคู่บ้านคู่อำเภอของพวกเรา) จากนั้นผมก็ตั้งจิตตนเองให้มั่น พนมมือขึ้นและกล่าวอาราธนาขอบารมีเหล่าบรรพชนไทย ดังนี้ "ข้าพเจ้าขออาราธนา ขอบารมีพระเจ้าอู่ทอง ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา ขอบารมี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้กอบกู้กรุงศรีอยุธยา ขอบารมีชาวบ้านบางระจันเหล่าวีรชนคนกล้า ที่ปกป้องบ้านเมืองทำให้ข้าพเจ้าและน้อง ๆ มีแผ่นดินอยู่ ขอบารมี พระเจ้ากรุงธนบุรีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ข้าพเจ้าขอบารมีสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(ผมเอ๋ยพระนามเต็มของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงษ์จักรี รัชกาลที่ 1-9)อีกทั้งพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าหอกลอง เจ้าเจตตะคุป ทั้งศาลหลักเมึอง ขอบารมีของพระนามที่ข้าพเจ้าได้เอ๋ยมา จงช่วยให้น๋องข้าพเจ้าหายจากอาการที่เป็นอยู่" ปรากฎว่าหายครับ มือที่งอคล่อย ๆ คลายออก เย้..เย้ ไชโย เทพม้าหายแล้ว **หมายเหตุ รายนามที่ผมเอ๋ยทุกท่านคงทราบน่ะว่าบารมีของท่านขนาดไหน และนี่ก็แผ่นดินสยามที่ท่านสละชีพปกป้อง ให้ลูกให้หลานอย่างเรามีที่อยู่ ผีตนใดจะกล้าขัดขืน เป็นกบฎสิครับ และคุณรู้ไหม ทำไมเทพม้าจีงมีอาการเช่นนั้น เหตุผลทั้งหมด ตอนหน้าครับ
     
  2. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    มารอลุ้น !!



    ;aa20
     
  3. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    ขอบคุณที่รอลุ้นน่ะครับ ถ้าจะพูดถึงสาเหตุที่ให้เทพม้าเป็นเช่นนั้น ผมต้องอธิบายเรื่องบางอย่างให้ละเอียดซะก่อน ไม่เช่นนั้นผมจะเล่าเรื่องอื่นไม่ได้เลย เพราะจะทำให้งง จึงขออธิบายที่มาที่ไปก่อน เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ รับรองไม่มีบันทึกที่ใด เริ่ม : ที่อยู่อาศัยของปู่ฤๅษีทั้ง ๑๐๘ จะเรียกว่าอาศรม และในอาศรมจะมีคนรับใช้เรียกว่าบริวาร โดยบริวารเหล่านั้นก็จะมีหน้าที่ต่างกันไป อาจเป็นยักษ์ มนุษย์ หรือสัตว์ ซึ่งในหมู่บริวารก็จะมีการจัดลำดับความสามารถ ใครเก่งแข็งแรงก็อยู่อันดับ 1 ไล่ระดับลงมาเรื่อย ๆ และยังมีกุมารอีก 150 องค์ ซึ่งฤๅษีนารอทเล่าให้ผมฟังว่า ท่านสร้างกุมารและเหล่าบริวารจากดินปั้น ซึ่งบนอาศรมจะมีห้องสำหรับเก็บดินปั้นเหล่านี้ (เวลามีคนมาขอลูกกับท่าน ๆ ก็จะส่งจิตวิญญาณของหุ่นปั้นไปเกิดแต่หุ่นปั้นตัวนั้นก็ยังอยู่ที่อาศรม เมื่อไปเกิดแล้วปู่ก็จะคอยดูแล บางคนก็กลายเป็นร่างทรงปู่ไปเลย พอเข้าใจน่ะครับ) และเมื่อปู่มาหาพวกเราโดยผ่านร่างของเก่ง(ท่านจะไม่รับไม่พบไม่คุยกับคนนอก ท่านรับแค่พวกเรา 5 คน ท่านบอกที่นี่ไม่ใช่ตำหนัก แต่ที่ท่านมาเพื่อโปรดพวกเรา การกระทำของท่านเช่นนี้ ท่านเองก็โดนฤๅษีองค์อื่นตำหนิเช่นกัน) ท่านจะสักให้พวกเรา นอกจากยันต์ที่สักท่านยังสักเหล่าบริวาร,กุมารให้พวกเรา ผมได้บริวารอันดับ 1-4 มา เพราะบริวารอันดับ 1 มีหน้าที่ควบคุมดูแลบริวารองค์อื่นเหมือนผมที่คอยดูแลน้อง ๆ มีชื่อว่า "อะสุ.." (ไม่ขอบอกชื่อเต็มน่ะครับ) อะสุมีฤิทธิ์เยอะปรากฎกายให้ผมเห็นบ่อยที่สุดซึ่งการปรากฎของอะสุต่างบริวารองค์อื่น บริวารทั่วไปมักมาในรูปกลุ่มหมอกสีขาว เอาล่ะครับนี่ก็พอสังเขปน่ะครับ หวังว่าคงได้ความรู้ที่ผมนำมาเล่าให้ฟังน่ะครับ สงสัยอะไรถามได้ เมื่อเข้าใจเรื่องบริวารแล้วผมจะได้เล่าเรื่อง **คุณไสยลาว เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมแพ้แบบทำอะไรไม่ได้เลย แบบว่าพลีชีพยอมแพ้แล้วจะเอาชีวิตก็เอาไป แต่เรื่องนี้ยังก่อน**
    ตอนนี้ยังอยู่ในกระทู้ รอดเพราะบารมีบรรพชนไทย ซึ่งผมเคยอาราธนาขอบารมีทั้งหมด 2 ครั้ง ๆ แรกเรื่องเทพม้า ครั้งที่ 2 เกิดที่ จ.ร้อยเอ็ด ผมเป็นผู้ถูกกระทำ นี่เรื่องยังอยู่ในกรุงเทพฯอยู่เลย ยังไม่ออกต่างจังหวัดเลย ยังเรื่องที่บวชอยู่ในป่าในถ้ำ ท้ายนี้ขอหมอบคาถาที่ปู่นารอทให้ผมไว้ ผมขอหมอบให้กับทุกท่านที่ได้อ่านโพสนี้ ขอให้ปู่ฤๅษีนารอทจงปกปักษ์รักษาผู้ที่ท่องบ่นคาถานี้ด้วย เทอญฯ "อินะพันเต ศัตรูไกลเก ผีเห่อัญชา ไล่ป่าเข้าดง อุตตะมาเอหิ" โพสนี้อธิบาย โพสหน้า กลุ่มหมอกสีขาว กับปริศนาอาการของเทพม้า?
     
  4. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    [กลุ่มหมอกสีขาว กับปริศนาอาการของเทพม้า?]
    ในทุก ๆ คืน บนบ้านของผม พวกเราทุกคนจะเห็นเหล่าบริวารที่เราอัญเชิญมาเป็นกลุ่มหมอกสีขาว จะเห็นอยู่ตามจุดต่าง ๆ บนบ้าน อย่างผมเห็นตรงบันได บนเตียง ตรงประตู ผมจะไม่บอกใครแต่ผมจะหันไปถามเทพธนูเห็นตรงไหน เทพจักร เทพม้า เทพ9 เห็นตรงไหน ซึ่งทุกคนก็ชี้จุดได้ตามที่ผมเห็น และในกลุ่มคนที่ชอบมอง ชอบจ้อง ชอบดูว่าบริวารอยู่ตรงไหน คือมันไม่คุยกับใคร มันจะดูหาแต่หมอกขาว คือ ไอ้เทพม้า ส่วนคนอื่น ๆ เขาเห็นจนชิน เขาก็ไม่สนใจ เรื่องเกิดจากตรงนี้ ตอนที่ผมกำลังเข้าห้อง ผมสั่งว่าห้ามเรียกและกำลังจะเดินเข้าห้องไป ในขณะนั้นเทพม้าก็จ้องมองตามปกติแล้วเหมือนจะลองพยายามปลุกของตนเอง(ปกติผมจะปลุก) เทพจักรเห็นเทพม้าแปลก ๆ เลยเอามือไปสะกิดที่หลัง เป็นจังหวะที่ผมเข้าห้องปิดประตูพอดี ทำให้เทพม้าวูบเนื่องจากกำลังรวมจิต แล้วมีคนมาสะกิตจิตจึงตก สิ่งชั่วร้ายอาศัยจังหวะนั้นแทรกเข้าไป แต่ไปเจอกับของที่กำลังถูกปลุกขึ้นมา ทำให้สู้กันภายในตัวเทพม้า จึงมีอาการดังกล่าว ถ้าคนทั่วไปอาจจะมีอาการเหมือนผีเข้า คือกลายเป็นอีกคนไปเลย แต่เทพม้ามียันต์คุ้มกายจึงเข้าไม่เต็ม ยังมีสติ แค่มืองอ สะอึกสะอื้น(ดีไม่ขาดใจตาย) ขยับตัวไม่ได้ และจากเหตุการณ์นี้เทพม้าฟังคาถาปลุกไม่ได้เลย ฟังแล้วมือจะเริ่มงอ นี่คือบทสรุป รอดเพราะเหล่าบรรพชนไทย ตอนที่1 ส่วนตอนที่2 เกิดที่ จ.ร้อยเอ็ด งานนี้ผมเจอเองคนเดียว แรงไม่แรงก็เล่นเอาตระกรุดเอวเทพเหนียวขาด คิดดูล่ะกัน โพสหน้าเทพเหนียวออกโรงเองแล้วครับ
     
  5. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    รอดเพราะเหล่าบรรพชนไทย ตอนที่ 2
    เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ผมไปเที่ยวพักผ่อนและได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้มียายกับหลานสาวชื่อนุ่นอยู่กัน 2 คน โดยบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน ซ้ายมือของบ้านจะเป็นทุ่งนา หลังบ้านติดกับรั้ววัด ถัดจากรั้ววัดจะเป็นเมรุเผาศพ ในคืนนั้น นุ่นกับยายอยู่ชั้น 2 ผมอยู่ชั้นล่าง กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง แต่ไม่ได้นอนตามแนวยาว ผมนอนแนวขวางโดยขาห้อยลงเหยียบพื้นอยู่ สักพัก ผมก็เลื่อนตัวลงมานั่งกับพื้นหลังพิงเตียง พื้นบ้านเป็นพื้นกระเบื้องที่เงามาก ผมนั่งหันหน้าไปทางขวาโดยสายตามองที่พื้นกระเบื้องแล้วก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้น ผมก็เห็นเงาดำกำลังเคลื่อนตัว(เห็นในเงาสะท้อนจากพื้นกระเบื้อง) ผมร้องเฮ้ย!! แล้วเงยหน้าขึ้นมอง ก็ยังเห็น ลักษณะคล้าย ๆ หัวคนที่เอาผ้าคลุมหัวสีดำคลุมหัวเอาไว้ กำลังเคลื่อนตัวจากขวามือไปทางซ้ายมือผม ผมก็ตกใจ หัวใจผมเต้นรัว แต่ผมไม่ลุกหนีน่ะ ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ผมพยายามตั้งสติ พอผมเริ่มสงบ จังหวะหัวใจเริ่มปกติ ผมนั่งขัดสมาธิพนมมือ แล้วท่องทุกอย่างเท่าที่นึกได้ในใจ ตั้งนะโม 3 จบ กล่าวสัคเค.., อัญเชิญปู่ฤๅษี-ไตรสรณคมภ์-พุทธคุณ-ธรรมคุณ-สังฆคุณ-พาหุง-มหากา-ชินบัญชร-มงคลจักรวาล8ทิศ-ป้องกันภัย10ทิศ-อิติปิโสมงกุฎพระเจ้า-อิติปิโส8ทิศ-อิติปิโสถอยหลัง-พระเจ้า16พระองค์-พระเจ้า28พระองค์-บารมี30ทัศ-หัวใจทศชาติ ผมท่องหัวใจทุกหัวใจที่พอจะนึกได้ ระหว่างนั้นก็มีลมกระแทกประตูซึ่งอยู่เบื้องหน้าผม แต่มันก็เป็นธรรมดา ลมก็กระแทกอีก ผมว่าไม่ธรรมดาแล้ว ลมอะไรจะพัดมากระแทกพร้อมกันรอบบ้าน ทั้งประตูและหน้าต่างที่มีอยู่รอบบ้านถูกลมกระแทกในเวลาเดียวกัน ผมพยายามไม่คิด ตั้งสมาธิให้นิ่งยึดกับบทสวด แล้วนุ่นก็เดินลงมา ผมไม่อยากให้นุ่นรู้ว่าผมกำลังท่องอะไร ผมจึงหยิบหนังสือมากางแล้วปากก็ขมุบขมิบหวังตบตานุ่น(แกลังทำเป็นอ่านหนังสือ) ผมก็มองหน้านุ่นซึ่งนุ่นก็มองหน้าผม หน้าของนุ่นที่ผมเห็นมันบ่งบอกถึงความกลัว ตกใจ แล้วนุ่นก็เดินมาสลัดผ้าปูเตียงที่ผมนั่งพิงอยู่ แล้วมีบางอย่างตกลงมากระแทกกับพื้น ผมก้มลงไปเก็บ สิ่งนั่นคือตระกรุดผมครับ ผมจึงดูที่เอวผม ปรากฎว่าสายตระกรุดคาดเอวผมขาด แสดงว่าสิ่งที่เราเจอต้องแรงพอดู และมันพยายามจะเล่นงานผมตั้งแต่ผมนอนขวางอยู่บนเตียง(ตระกรุดผมขาดตั้งแต่ตอนนั้น)จนผมลงมานั่งกับพื้นพิงเตียงผมจึงเห็นเงาดำ แล้วผมก็เล่าเรื่องให้นุ่นฟัง นุ่นบอก "ว่าแล้วต้องมีอะไร" เพราะตอนเดินลงมาเห็นผมหน้าซีด ผมว่าผมเก็บอาการแล้วน่ะ แต่นุ่นก็ดูออก คืนนั้นผมจึงขึ้นไปนอนชั้น 2 ระหว่างที่นอนได้ยินเสียงหมาหอนไกล ๆ แล้วใกล้เข้ามา หมาแถวบ้านผมมันก็รับช่วงต่อ แล้ววิ่งมาหยุดยืนหอนอยู่หน้าบ้านผมตั้งหลายตัว หลังบ้านที่ตีดวัดก็มีหมาวัดมาหอน ผมก็คิดเราก็เจอเรื่องแบบนี้มาเยอะ แต่ในเมืองกับต่างจังหวัดความน่ากลัวมันผิดกันจริง ๆ แล้วลมหายใจผมก็เร่งแรงและเร็วขึ้น จิตใต้สำนึกผมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่หน้าบ้านมีมากกว่าหนึ่งกำลังท้าทายผม ผมรู้สึกถึงหนุมานในกายจะกระโดดออกมา(ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้ผมสวดพุทธคุณตั้งเยอะ ไม่มีทางที่ของจะขึ้น คือถ้าสวดพุทธคุณไปแล้วจะไม่สามารถปลุกชองได้) ผมพยายามกดไว้ ไม่อยากสร้างความวุ่นวายให้เจ้าบ้าน จนตัวเองเหนื่อยแล้วหลับไป พอตี 4 ยายตื่นลงไปนึ่งข้าว ผมก็ตื่นและตามลงไปแต่ยังรู้สึกเหนื่อยอ่อนเพลืยอยู่ จนตี 5 ผมก็ไปนอนที่เตียงที่ผมเจอเมื่อคืนโดยปลายเท้าชี้ไปทางที่เห็นเงาดำ แล้วผมก็โดนอำ แต่ลืมตาได้ ผมเห็นผู้หญิงชุดขาวยืนหันหลังอยู่ตรงจุดที่เห็นเงาดำ ยืนอยู่หน้ากระจก(มีโต๊ะเครื่องแป้ง 1 ตัว)ห่างจากผมประมาณ 3 ม. เท่านั้นแหละผมก็หลับตา ผมรู้สึกเหนื่อยและรำคาญ มันจะอะไรกับเราอิก เพลียอยากจะนอน ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว (สภาพจิตแบบนี้คาถาจะไม่ขลัง) ผมจึงอาราธนาขอบารมีพระมหากษัตริย์ ร.1-ร.9 โดยเอ๋ยพระนามเต็ม ให้ช่วยลูกด้วย และภาพที่ผมเห็นในขณะหลับตาคือ ร.1 ทรงชุดสีทอง พระหัตถ์ถือพระแสงด้ามทองง้างมือทำท่าจะฟัน แล้วผมก็หลุดจากการโดนอำ ผมก็นอนหลับต่อปกติ พอตื่นก็เล่าให้ยายฟัง ยายจึงเชิญหมอธัม(คล้าย ๆ หมอผี จะมีอยู่ประจำหมู่บ้าน คนอีสานจะเรียกว่าหมอธัม) มาสวดอะไรให้ผมก็ไม่รู้ ตกเย็นผมก็ช่วยยายผ่าฟืน แล้วผมก็เจออีก นี่แหละที่เขาเรียกว่าผีผลัก คือ ผมนั่งฟันฟืนแล้วมีดที่ฟันลงไปโดนไม้มันกลับเด้งขึ้นมา ผมร้องเฮ้ย แล้วมีดก็เหวี่ยงมาฟันที่ข้อเท้าผม ผมใช้มือซ้ายไปจับข้อมือขวาเพื่อจะเบรคมีดเอาไว้ แต่ไม่อยู่ มีดฟันที่ข้อเท้าซ้ายเต็ม ๆ แต่ก็ฟันผมไม่เข้า ผมตกใจมากมันไม่น่าเป็นไปได้ เพราะผมเองก็ฝึกวิชาดาบไทยมือเดียวและดาบ 2 มือมา ไม่มีทางฟันพลาดแน่ ๆ นอกจากมีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นทำให้ผมพลาด ผมเองก็ไม่รู้เรื่องทั้งหมดว่าเกิดจากอะไร แต่ที่หมอธัมบอก เขาอยากลองวิชากับผม วิชาแบบผมเขาไม่เคยเห็น
    หลังจบเรื่อง ยายบอกไม่ต้องมาอีก ห่วงกลัวจะเป็นอะไร ผมก็จากไป 7 ปี ถึงกลับไปอีก คราวนี้เอาเทพ9ไปด้วย....จบ
    โพสหน้า รอดเพราะเหล่าบรรพชนไทย ตอนที่ 3 แต่ไม่ใช่ประสบการณ์ตรง ฟังมาหลายปีแล้ว ผมรู้จักการขอบารมีบรรพชนจากเรื่องนี้แหละ
    [โพสหน้า "รอดเพราะเหล่าบรรพชนไทย กับ ผีต่างแดนต่างศาสนา"]
     
  6. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    เรื่องนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ตรง เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ ชายคนหนึ่งนอนพักบนบ้านพักของเขาโดยเปิดประตูห้องไว้ และจากห้องเขามองออกไปจะเห็นราวบันไดลงไปชั้นล่าง ในขณะที่เขานอนอยู่เขาก็มีอาการเหมือนถูกอำ แต่ยังลืมตาได้ เขาเห็นเงาดำของคนตัวใหญ่(ภาพเงาดำปรากฎอยู่ที่กำแพง)เดินขื้นบันไดมา แล้วเข้ามาทับเขาที่นอนอยู่ในห้อง เขาจึงสวดมนต์ แต่ไม่เป็นผล เขาจึงนึกได้ว่าผีฝรั่งคงไม่ถือพุทธ เขาเองก็ไม่รู้ทำไง เขาจึกนึกถึงในหลวง ขอบารมีในหลวงจงคุ้มครองข้าพเจ้าที่ทำงานอยู่ต่างแดนด้วยเทอญ แล้วเงาดำก็ถอยหลังกลับไป ภาพเหมือนถูกกรอกลับ : ชายผู้เล่าให้เหตุผลว่า ทั่วโลกรู้ดีว่าในหลวงของเรายิ่งใหญ่แค่ไหน The king of Thailand ผมฟังแล้วจำเรื่องนี้ไว้ ผ่านมาหลายปีจนมาใช้กับเทพม้าและตัวผมเอง
    นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของกระทู้ รอดเพราะบารมีบรรพชนฯ
    โพสหน้า ประสบการตรง ผมเกือบตกเป็นผู้สวมรู้ร่วมคิดในคดีพยายามฆ่า และตอนหน้าพรรคพวกผมจะหายไป 1 คน หายไปอย่างไร? บารมีใครมาช่วยผม? ผมรอดได้อย่างไร? กับตอน "เพราะท่านมาเตือน"
     
  7. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    เด็กช่างไทย
    ไม่ได้รับขันธ์ครูฤาษีอะไรเลยนะครับ
    การสิขขาไทย หลายอย่าง รับมาจากฟิลิปปิน
    สมัยสงครามเย็น ครูช่าง รับขันธ์ทหารอเมริกัน จบจากฟิลิปปิน
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=SYqR6-ADwmw"]1 Last Woman standing - Kali Filipino martial arts (part 1 of 5) - YouTube[/ame]
    ฟันธง
     
  8. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    นักเรียนป่าไม้ไทย
    จบโอเลก่อนอะเมริกา อันนี้เรียนสูง
    จบฮาวาย
    จบฟิลิปปิน
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=EjGEXOjwfHk]ขุนศึกเสียเลือดไม่เสียชาติ - YouTube[/ame]
    ไม่มีอะไรของคุณไทยเลย
     
  9. kiad

    kiad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +86
    เทพเหนียวหายไปไหน
     
  10. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    สวัสดีครับ ผมเทพเหนียว ที่ผมหายไปเนื่องจากว่า กระทู้ผมหายไป 2 กระทู้(รวบรวมคำสอนสมเด็จโต) ผมอุตสาห์รวบรวมมาตั้งนานและคนไม่ค่อยรู้หลักธรรมแต่จะรู้ในพุทธคุณของสมเด็จท่าน ด้วยเหตุนี้ผมจึงนำหลักธรรมของท่านมาเผยแผ่ให้กับพี่น้องชาวพุทธ มันผิดเหรอกระทู้ผมจึงหาย? หมดกำลังใจเลย แต่ก็ช่างเถอะ บอกตรง ๆ ช่วงที่ผมหายไป ไม่ได้โพสอะไร ผมรู้สึกเหงาเหมือนมันขาดอะไรไป เรื่องที่ผมค้างไว้รออ่านในโพสหน้า
     
  11. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    [ประสบการตรง ผมเกือบตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีพยายามฆ่า และพรรคพวกผมจะหายไป 1 คน หายไปอย่างไร? บารมีใครมาช่วยผม? ผมรอดได้อย่างไร? กับตอน "เพราะท่านมาเตือน"] เริ่มเรื่อง : ในวันหนึ่งตอนเช้า เก่งผู้เป็นร่างทรงปู่มาหาผมที่บ้านด้วยท่าทางตื่นตระหนก ผมเองก็ตกใจ เก่งบอกผมว่าปู่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แล้วปู่ท่านก็ลงประทับที่ร่างเก่ง แต่ท่านก็ยังไม่พูดอะไรกับผมได้แต่นั่งหลับตาก้มหน้า นาน ๆ จะเงยหน้ามองผมทีหนึง ผมถามท่านก็ไม่ตอบ พักใหญ่ท่านจึงพูดกับผม ท่านบอกผมวันนี้ทั้งวันห้ามออกไปไหนให้อยู่แต่บนบ้าน โดยเฉพาะตอน 4 โมงเย็น ผมถามถึงเหตุผล ท่านก็เงียบ แต่ใบหน้าของท่านดูจริงจังมาก และก่อนท่านจะไป ท่านพูดกับผมว่า ถ้ารักปู่ก็จงเชื่อในคำที่ปู่สั่ง ผมก็ได้แต่รับคำแบบงง ๆ (ซึ่งการห้ามผมที่ยังเป็นเด็กให้อยู่แต่บ้านไม่ให้ไปเล่นที่ไหนนั้น มันทรมานจิตใจผมมาก ห้ามผมกินข้าวยังง่ายกว่า) พอเก่งได้สติผมก็เล่าเรื่องที่ปู่สั่งให้เก่งฟัง และผมก็ฝากเก่งไปบอกพวกน้อง ๆ(เทพม้า เทพ9 เทพธนู เทพจักร)ว่าวันนี้ผมจะไม่ลงไปไหน และสั่งเก่งให้เป็นตัวแทนผมดูแลน้อง ๆ และพรรคพวกคนอื่น ๆ อย่าให้ไปเล่นไหนไกล และเหล่าเทพทั้ง 4 ของผม มันก็ไม่ไปเล่นไกล มันมารวมตัวกันอยู่หน้าบ้านผม พวกมันรู้ว่าผมถูกสั่งห้ามลงมาข้างล่างพวกมันก็มาแกล้งผม โดยการตะโกน เฮ้ย เทพเหนียวลงมาเล่นข้างล่างสิ พวกมันประสานเสียงยั่วผม ผมทนไม่ได้จึงเอาน้ำสาดไป 1 ขัน เสียงจึงเงียบ ผมอยู่แต่บนบ้านคอยฟังเสียงน้องเล่นสนุกจนถึงมืด น่าจะประมาณ 1 ทุ่ม เทพธนูหน้าตาตื่นขึ้นมาหาผม บอกผมว่าเจ๊หมวยขายผักโดนพี่สัก(คนที่อยู่ข้างกายผมในเรื่องศึกปะทะคลองบางกอกน้อย)ใช้ไม้หน้าสามกะหนำฟาดไปที่หน้าขณะที่เจ๊หมวยกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงผ้าใบ ผมเองก็ตกใจและถามว่าเหตุเกิดเวลากี่โมง เทพธนูตอบว่า 4 โมงเย็น และเทพธนูยังพูดต่ออีกว่า ทางญาติเจ๊หมวยบอกตำรวจว่าไม่เชื่อว่าพี่สักจะทำคนเดียวได้ต้องมีผู้รู้เห็นคอยดูต้นทาง ตำรวจถามทางญาติสงสัยใคร ทางญาติทุกคนพุ่งเป้ามาที่ผม ได้ยินอย่างนั้นผมร้อง เฮ้ย บอกกับเทพธนูว่าวันนี้ทั้งวันพี่ไม่ได้ลงไปไหนเลย ผมจึงนึกถึงคำสั่งที่ปู่ท่านสั่งผมไว้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเอาผิดผมได้ เพราะวันนั้นทั้งวันไม่มีใครเห็นผมเลย ข้อกล่าวจึงตกไป ส่วนเจ๊หมวยรอดตาย พี่สักเองก็หนีได้ไม่กี่เดือนก็โดนจับ ศาลตัดสินว่าพยายามฆ่า ส่วนเจ๊หมวยเมื่อรู้ว่าพี่สักโดนจับก็ตายทันที เรื่องนี้ถ้าท่านไม่มาเตือนผม ผมคงแย่แน่ ๆ } เรื่องต่อไป "คุณไสยริมฝั่งโขง" เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมทำอะไรฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เลย มันแรงมาก ๆ คุณไสยริมฝั่งโขง? มันมายังไง? ปล่อยมาเพื่ออะไร? ทำไมมาสู้กับผม? คำตอบทั้งหมดอยู่ตอนหน้า (อาจตั้งกระทู้ใหม่ ในที่สุดก็ถึงเรื่องนี้สักที อยากเล่ามาก ๆ)
     
  12. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    สวัสดีครับ สำหรับเรื่อง "คุณไสยริมฝั่งโขง" ซึ่งแต่เดิมผมเคยเกิ่นเรื่องนี้ไว้จากโพสบน ๆ (โพสที่ 2 ตอนท้ายตรง**)โดยผมใช้ชื่อว่า "คุณไสยลาว" (ที่เปลี่ยนชื่อเพราะไม่อยากกพูดถึงประเทศอื่น) ทีแรกผมตั้งใจจะตั้งกระทู้ใหม่ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับชื่อกระทู้นี้ แต่คงไม่ได้ เพราะผมยังต้องคงใช้เนื้อหาและข้อมูลจากกระทู้นี้เพื่อนำมาอ้างอิงถึงต้นสายปลายเหตุบางประการ(ใช้ข้อมูลจากโพสที่ 2 ของผมในกระทู้นี้ ถ้าได้อ่านมาแล้ว ผมจะได้เล่าเรื่องคุณไสยได้เข้าใจง่ายขึ้น) เริ่มเรื่อง : ในวันนั้นตอนหัวค่ำ ฝนบอกกับผมว่า จะทำขนมบัวลอย ถ้าทำเสร็จจะมาให้ผมกิน ผมบอกดีแล้วพี่จะรอ เวลาผ่านไปฝนก็ยังไม่มา ผมจึงเข้าห้องปิดไฟนอนรอ ถ้าฝนมาคงเรียกเราเอง ผมนอนอยู่บนเตียง โดยหัวเตียงผมมีวิทยุเก่าที่พังแล้วอยู่ 1 เครื่อง ผมนอนหลับตาอยู่ แล้วผมก็ได้ยินเสียงจากหัวเตียงผม เสียงเหมือนม้วนเทปเพลงถูกกรอแล้วพอกรอสุดก็จะได้ยินเสียงเด้งของสวิท ผมได้ยินเสียงอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา(เสียงกรอเทปกับเสียงเด้งของสวิท คงพอนึกเสียงออกน่ะครับ) ผมก็แปลกใจมันมีเสียงได้ไงจึงลุกขึ้นดู แต่ว่า!! ผมลุกขี้นไม่ได้ลืมตาก็ไม่ได้ ผมจึงตั้งสติรวบรวมสมาธิหวังจะสวดมนต์ แต่ก็ไม่สำเร็จ เหมือนมันจะรู้ มันไม่ยอมให้ผมรวมจิตได้ ทันใดนั้นผมก็รู้สึกวูบและหวิวคล้ายตกจากที่สูง และในขณะที่ผมหลับตาอยู่ผมก็มองเห็นภาพ เป็นภาพบ้านไม้หลังหนึ่ง(น่าจะเป็นห้องซะมากกว่า ซึ่งตัวผมก็อยู่ในนั้นกับหญิงสาวอีกหนึ่ง)และภายในห้องที่ผมเห็นก็มีทีวีสี 14 นิ้วรุ่นเก่า มีรูปถ่ายแบบติดผนังและตั้งโต๊ะ มีหมอน มีที่นอน มีประตู มีหน้าต่าง พอผมมองไปนอกหน้าต่างก็เห็นบ้านหลังอื่น เห็นและได้ยินเสียงผู้คนมากมาย ที่นั่นดูคล้ายกับชุมชนแออัด แล้วหญิงสาวคนนั้นก็เข้ามากอดผมบอกรักผมและพูดกับผมว่า "อยู่ด้วยกันที่นี่แหละอย่ากับไปเลย ถ้ากลับไปต้องเรียนต้องทำงาน" และเธอก็บอกกับผมต่ออีกว่า ถึงผมจะอยากกลับไป ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะผมไม่อาจขัดขืนต่อสู้ดิ้นรนกับเธอได้ ให้ผมยอมเชื่อฟังเธอแต่โดยดี แล้วเธอก็ดึงมือผมลงไปนอนกับเธอโดยเธอนอนซบที่ไหล่ผม(ถึงตรงนี้ผมขอบอกเลยว่าผมมีสติดีทุกประการ เพราะตั้งแต่แรกผมยังไม่หลับ ผมนอนรอฝนจะเอาขนมมาให้ แล้วได้ยินเสียงหัวเตียง แล้วก็โผล่มาที่นี่ เรื่องนี้ไม่เกิดกับตัวไม่รู้หรอกครับ)ผมมองที่หน้าเธอ เธอเป็นคน(ผี)สวย ผมยาวใส่ชุดขาว ผมว่าผมเคลิ้มกับคำพูดและใบหน้าของเธอ นี่ล่ะมั้งคนเราถึงไหลตาย แล้วอยู่ ๆ ใบหน้าเธอที่ซบตรงไหล่ผมก็เปลี่ยนไปกลายเป็นหน้าผี คือไม่สวยแล้ว ตา หู จมูก ปาก บิดเบี้ยวผิดรูปไปหมด(ผมเชื่อว่าเธอไม่ต้องการให้ผมเห็นภาพอย่างนั้น แต่ที่ผมเห็นน่าจะเพราะครูบาอาจารย์จะเตือนไม่ให้ผมหลงไปกับรูปรสจอมปลอม)ผมเห็นหน้าเธอเป็นอย่างนั้นผมก็กลัวสุดขีดใจคิดแต่อยากกลับบ้าน แต่เธอยังนอนซบผมอยู่ ผมดิ้นแล้วต่อยหมัดธนูไป 1 ที จนเธอผละออก ผมนั่งขัดสมาธิสวดชินบัญชร แล้วเธอเข้ามาจี้เอวผม(ของจริงมันไม่ตลกน่ะครับ) ผมท่องต่อไม่ได้ ผมนึกถึงคุณพระคุณครูบาอาจารย์หวังให้ท่านช่วย เพราะลำพังความสามารถของตัวคงเอาตัวไม่รอด แล้วผมก็รู้สึกหวิว ๆ เหมือนตกจากที่สูงอีกครั้ง แล้วเหมือนผมแวบกลับมาที่ห้องผมภาพทุกอย่างหายไป ผมยังคงนอนหลับตาอยู่ หัวใจผมเต้นรัวและเร็วมากรู้สึกเหนื่อยสุด ๆ แล้วผมก็ลุกนั่ง แต่!! ผมลุกไม่ได้ขยับตัวไม่ได้ ทำได้แค่เงยคอแล้วผมก็ลืมตาขึ้น ผมแทบช็อค!!! เพราะผมเห็นหญิงสาวผมยาวชุดขาวคนนั้นนั่งอยู่ปลายเตียงผม เธอนั่งมองผมอยู่ ผมหลับตาลงทันที.....
    แล้วจะเป็นยังไงต่อ? บริวารกุมารถือจักรยังกระเด็น!!
    แล้วเธอมาจากไหน?
    คำตอบทั้งหมดตอนหน้าครับ
     
  13. Michigan

    Michigan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2013
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +388
    สนุกดี แต่น้องเขียนได้สัก 10 บรรทัด(หรือตามความเหมาะสม) แล้วเว้นวรรคขึ้นบรรทัดใหม่ก็ดีนะครับ เรื่องยาวๆ พิมพ์พรืดติดกันมากไปทำให้ตาลายเวลาอ่าน อิๆ...รออ่านต่อครับ
     
  14. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    ในตอนนั้น ผมไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากกระพริบตา แต่ลืมตาก็เจอ ต้องหลับตา แล้วผมเห็นภาพชั้น 2 ของบ้าน เธอคนนั้นวิ่งลงบันไดจากชั้น 3 ยืนอยู่กลางบันได เธอชะโงกหน้ามอง ไปชั้น 2 ซึ่งมีกุมานยืนถือจักรอยู่ ผมก็เห็นกุมานกระเด็นหายไป ผมตกใจมาก แค่มอง กุมานปลิวเลย ภาพหายไป กลับมาที่เตียงผม ในตอนนั้น ผมได้ยินเสียงวิ่งขึ้นบันได ผมคิดว่าฝนเอาขนมให้ ต้องลุกให้ได้ แล้วก็ได้ยินเสียงทุบประตู ดังมาก ผมดิ้นไปมา ก็หลุดมาได้ เดินโซเซไปเปิดประตู เงียบครับ ไม่มีใคร วิ่งลงมาหน้าบ้าน..เงียบ หน้าปากซอยบ้านฝน..เงียบ ผมวิ่งไปหาฝนที่บ้าน ปรากฎว่า ฝนหลับอยู่ แล้วเสียงวิ่งขึ้นบันไดกับทุบประตูล่ะ? เธอคือใคร? ตอนหน้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...