กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lovepyou, 8 กรกฎาคม 2014.

  1. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    โดนสั่งเก็บไปแล้วค่ะ สำหรับแนวทางการปฏิบัติอุทิศบุญของคุณ(คนไม่พิเศษ) จริงๆดิฉันโดนสั่งห้ามตั้งแต่เริ่มเข้าไปฟังแล้วค่ะ ดิฉันชอบอยู่ตอนหนึ่งนะคะที่บอกว่าอุทิศบุญแบบค้างไว้เลยประมาณนั้น และพอจะศึกษาต่อก็โดนเบรคทันที แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ก็ตัดฉับทันทีเลยค่ะไม่อยากดื้อ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องบางเรื่อง หรือ "หน้าที่" ของแต่ละคนมันคงไม่เหมือนกันเท่าไหร่ ไอ้ที่เขาทำได้ ใช่ว่าเราต้องทำได้หรือทำตามได้ใช่ไหมคะ หรือก็อาจเป็นเพราะมีสาเหตุบางอย่างที่ไม่เหมาะกับเรานั่นแหละจึงโดนห้ามไว้ มีอยู่เมื่อเร็วๆนี้ทางเว็บฯเขาจัดทริปไปงานเป่ายันต์เกราะเพชร ดิฉันแค่คิดๆเองนะคะ ผลคือห้ามเด็ดขาด อือ.. ดูท่าดิฉันนี่จะย่ำแย่มากมาย มีแต่ห้ามๆๆๆ
    บลาๆๆๆๆค่ะคุณนพ ถือว่าฟังคนบ่นนะคะ

    เรื่องมีเพื่อนมีพวกเป็นภพภูมินั้น ดิฉันเองเฉยๆนะคะ ไม่ว่าจะมีฤทธิ์หรือเปล่า (ก็ยังไม่มีนะคะ เอ หรือมีแล้วก็ไม่รุ ) ทั้งเพื่อนที่เป็นคนๆด้วยกันนี่ตอนนี้ดิฉันเองนั่นแหละที่ถอยออกมาเอง จะเรียกว่าดิฉันอยู่ร่วมกับสังคมไม่ได้หรือปรับตัวไม่ได้ หรืออะไรก็แล้วแต่ค่ะ ดิฉันเนรเทศตัวเองออกมาสักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ ดิฉันอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ แต่ไม่ชอบคลุกคลีค่ะ ใจมันไม่เอาแล้วค่ะ ดิฉันชอบอยู่คนเดียว ถามว่ามีความสุขหรือเปล่า ดิฉันมีความสุขกับความสงบที่ไม่วุ่นวายค่ะ แม้จะเหงาๆแต่ก็เอาอยู่ ก็เอาอยู่แบบเหงาๆนั่นแหละค่ะ ๕๕๕๕๕๕ เฟสฯก็ไม่เข้าเป็นเดือนแล้วค่ะ สิงอยู่แต่เว็บพลังจิตนี่แหละค่ะ ๕๕๕๕๕๕
    บลาๆๆๆ อีกแล้ว ....

     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ไม่เป็นไรครับ..ถือว่าเล่าๆสู่กันฟัง.ว่าแต่อยู่แบบเหงาๆเนี่ย ป่านว่า MV เลยเนาะครับ ๕๕๕
    นางเอ๊กๆ..แห๋มๆ..อืมๆ..เด่วเอาเป็นว่า ใน Rep นี้จะเล่าแบบภาพรวมๆบางอย่างให้ฟังเล่นๆครับ
    เพื่อให้ลองอ่านดูเพื่อจะได้จับประเด็นอะไรบางอย่างได้.อาจมีที่จะงงๆบ้างบอกไว้ก่อน ๕๕๕

    ทั่วๆไปนะครับ.เกี่ยวกับเครื่องรู้หรือความสามารถพิเศษต่างๆที่มนุษย์พึงจะกระทำได้
    ดวงจิตของแต่ละบุคคลมันสะสมบารมีมาแตกต่างกัน.ซึ่งส่งผลต่อความชำนาญใน
    เรื่องนั้นๆ..บางคนนะครับ หากวาระและเวลาของเค้ามาถึงจนทำให้
    เค้าได้พบแนวทางที่ตนเคยได้สะสมบารมีมา เค้าจึงไปเร็วครับ.
    ต่อให้มนุษย์บางคนจะมีความสามารถถึงขั้นพลิกจักรวาลได้..
    แต่มันก็ยังเป็นกิเลสอยู่เหมือนเดิมครับ.ในความหมายก็คือ
    ยังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิดเหมือนๆทั่วๆไปปกติครับ..
    นี่คือประเด็นแรกอ่านแล้วจับใจความให้ดีๆนะครับ...

    เพราะฉนั้นไม่ว่าความสามารถเราจะอยู่ระดับใต้ดิน บนดิน บนฟ้า บนอวกาศ
    หรือบนดาวต่างๆ..เราจึงควรที่จะให้น้ำหนักความสำคัญไปในเรื่องของ
    การเจริญสติเพื่อสร้างสติทางธรรม..เพื่อคอยควบคุมพฤิตกรรมของจิต..
    ให้เค้าค่อยๆคลายความคิดที่เกิดจากจิตให้มันออกจากจิต..และคลาย
    ความคิดที่เกิดจากจิตตัวนี้ ให้จิตได้คลายมันออกจากขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรม
    (วิญญาน สัญญาน สังขาร เวทนา)
    ให้จิตได้เห็น ได้รู้ ได้เข้าใจ ว่าอะไร คือ กิริยาความคิด อะไรคือจิต อะไรคือ
    กิริยาของขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรมให้มันได้ก่อนในเบื้องต้น.ให้เห็นตรงนี้ก่อน
    เราก็จะสามารถที่จะก้าวเข้าสู่การเริ่มต้นเดินปัญญาเพื่อลด ละ กิเลสได้จริง
    เป็นปัญญาที่ไม่ใช่การผลักกิเลสออก หรือการข่ม.แต่เป็นปัญญาที่ทำให้จิตได้รับรู้
    ด้วยใจที่เป็นกลาง(จำเป็นต้องรู้กิริยาต่างๆของจิต ของความคิด ของขันธ์ ๕ ส่วน
    นามธรรมก่อนไม่งั้นเราจะไม่ทันกิริยาของจิต
    ถ้าหากว่าจิตมันปรุงร่วมกับความคิดที่เกิดจากจิตที่มันชอบคิดร่วมกับ
    สิ่งที่เราไปรับรู้ทางการอ่าน การได้ยิน ได้ฟังมา. หรือแม้กระทั่งตัวขันธ์ ๕
    นามธรรมที่มันก็ชอบเข้าข้างตัวเองหลอกตัวเอง เช่น หลอกให้เราคิดว่า
    เราสำเร็จ เราบรรลุ เราเป็นโน้นเป็นนี่ ทั้งๆที่ในชีวิตประจำวันแบบลืมตา
    จิตเรามันไม่ได้เข้าสู่สมาธิ เข้าสู่ สภาวะจิตว่างจากการเกิดด้วย
    การคลายกิเลสได้.แต่มักหลอกให้เราหลงว่า ความสงบ
    ที่ขันธ์ ๕ มันร่วมสร้างเป็นสภาวะจิตว่างจากการเกิดครับ)

    และเป็นการรู้ แต่ไม่ยึด ตรงนี้เป็นประเด็นที่ควรให้น้ำหนัก
    มากกว่าการไปเน้นเรื่องของเครื่องรู้หรือความสามารถพิเศษใดๆครับ
    .จับประเด็นดีๆนะครับ ไม่ต้องรีบๆอ่านครับ..

    พอผ่านขั้นตอนการเห็นขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรมได้ จิตจะเริ่มแยกตัวจิต
    ออกจากความคิดที่เกิดจากจิต ออกจากความคิดที่เกิดจากขันธ์ ๕
    ส่วนนามธรรมซึ่งเป็นฝ่ายอารมย์ได้..มันก็จะยังไม่เกิดปัญญาทางธรรม
    ใดๆหาก..ไม่กำลังสติไม่ตามทำความเข้าใจในขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรมที่เป็นมัดกัน
    เป็นเกลียวเชือกเส้นเดียวนี้..จนเข้าใจเป็นเรื่องๆ และวางได้เป็นเรื่องๆไป
    จิตจะเข้าสู่สภาวะจิตว่างจากการเกิดได้ชั่วขณะ.ส่วนใครจะเห็นได้หยาบ
    ได้ละเอียดก็เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไป..
    แต่พอวางเรื่องในอดีตนี้ได้ เด่วก็จะมีเรื่องอื่นๆตามมาอีก กำลังสติเรา
    จึงต้องทำการตามค้นคว้า ทำความเข้าใจทุกเรื่องๆ จนจิตมันยอมรับ
    ตรงนี้ มันถึงจะวาง แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะวางได้ง่ายๆ เพราะบางเรื่องเราเผลอ
    เก็บมันเอามาคิค มาปรุงแต่ง ไม่รู้ว่าเท่าไร ทำให้มันมีกำลังมากโดย
    ที่เราไม่รู้ตัว.บางคน ๒๐ ถึง ๓๐ ก็ยังไม่วาง ไม่คลาย มันจึงผุดขึ้น
    มา ณ ปัจจุบันนี้ได้ ซึ่งเราจะสังเกตุเห็นได้ ถ้าพอมีกำลังสติ.
    ขึ้นอยู่กับว่า เห็นแล้วจะหาวิธีวาง หรือว่าจะไปปรุงร่วมกับมันต่อครับ...

    มาขั้นนี้ดูเหมือนดี มันก็ยังไม่พออีกครับ..มันก็ยังจะเหลือกิเลสส่วนละเอียดต่างๆ
    ซึ่งเราก็ต้องค่อยๆ พยายาม ลด ละ มันไปให้ได้ จนมันไม่มีในที่สุด..
    หากจิตเกิดความอยากทำ อยากไปโน่นไปนี้ อยากกินโน่นกินนี้
    ก็ให้ดับมันก่อน และก็ให้สติค่อยพากายไป หากจะคิดทำอะไร
    ก็ให้จิตมันนิ่งๆก่อน เพื่อให้ปัญญามาทำหน้าที่ตรงนี้แทน
    ความคิดที่เกิดจากจิต..ต่อไปการกระทำอะไรของเรามันก็จะเป็น
    เพียงกิริยา บุญเราทำแต่เราก็ไม่ยึด บาปเราก็ไม่ต้องสร้าง..
    เราก็จะเริ่มเดินเข้าสู่ การอยู่เหนือบุญเหนือบาปได้เอง..
    ที่นี้เครื่องรู้หรืออะไรก็ตามที่เราทำอยู่ระหว่างทางมันก็จะพัฒนา
    ขีดความสามารถของมันได้เอง.ไปพร้อมๆกับกำลังสติและปัญญา
    ทางธรรม..มันถึงจะคอยเป็นเสมือนเครื่องเตือนให้เราได้รู้ว่า.
    เราฝึกเราธรรมตรงนี้แท้จริงๆแล้ว มีอะไรที่เราต้องเสริม ต้องเพิ่ม
    และจะทำให้เราไม่ลืมปลายทางของการปฏิบัติที่แท้จริง..
    และเราต้องไม่ลืมว่า..ปฏิบัติแล้วเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติ
    เรายังเป็นมนุษย์ เรามีสังคม ต้องพบเจอผู้คนมากมาย.
    การอยู่ร่วมกับสภาพแวดล้อมและสังคมได้อย่างแยบยล
    จะเป็นตัวชี้วัดการปฏิบัติของเราได้เป็นอย่างดีครับ..
    เราต้องตอบตัวเองว่า เราห้ามให้ตา ห้ามให้หูเราได้ยินได้หรือไม่ครับ..
    มันเห็น มันได้ยิน ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของมัน แต่ไม่
    ใช่ว่าเราจะไปตัดมัน การตัดมันเป็นการผลักออก เป็นการหนีปัญหา
    ซักวันมันก็ต้องไปได้ยิน ไปได้เห็นและเผลอไปปรุงร่วมได้อีก
    เพราะจิตมันยังไม่ได้วาง...
    เรามาฝึกก็เพื่อให้จิตได้รับรู้ จะทำอะไรก็ให้จิตว่างรับรู้ เพื่อให้เค้ารู้ และเข้าใจ
    ถึงจะก้าวเข้าสู่ การรู้แต่ไม่ยึด เพราะจิตรู้แล้วแต่ไม่ไปปรุงร่วม..
    เราถึงจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติกับสภาพสังคมได้เป็นปกติทั่วๆไปครับ..

    ปล.เอาแค่นี้ก่อนนะครับ
     
  3. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    เข้ามาแบบเซ็งเป็ด เซ็งไก่เลยค่ะคุณนพ แต่เดี๋ยวอย่าเพิ่งดักกันนะคะ เดี๋ยวอารมณ์เซ็งๆนี้ก็จะถูกดิฉันกำจัดไปในไม่ช้าค่ะ
    ก็กว่าจะมีบางคืนนะคะที่อารมณ์เราดิ่งนิ่งสงบ กำลังจะไปต่อและดูท่าจะไปได้สวยเชียว พี่ท่านก็มาอีกแระ ... พี่ท่านนี้นี่เองที่ดิฉันพยายามจะถามคุณนพเป็นนัยๆใน rap # ก่อนๆที่ผ่านมา พี่ท่านนี้มีมาตั้งนานล่ะค่ะ ตั้งแต่ดิฉันได้เข้าถึงอารมณ์หนึ่งในการปฏิบัติมาจนถึงบัดนี้ที่อารมณ์นั้นถอยลงมา เริ่มจากวันหนึ่งที่นั่งสมาก็มาได้กลิ่นควันบุหรี่ พอกำหนดแผ่บุญ(โดยอ้างบารมีพระและหลวงปู่) ทีนี้พี่แกเกรงใจมากเลย นั่งพ่นใส่หน้าดิฉันเลยจนต้องเลิก
    ต่อมาก็ที่ทำงาน คนที่ยืนใกล้ๆดิฉันบอกว่าไม่ได้กลิ่นเมื่อดิฉันถามว่าได้กลิ่นบุหรี่ไหม สรุปว่าดิฉันโดนพ่นควันอยู่คนเดียวทั้งๆที่ก็สัพเพฯให้ตอนนั้นก็ขอบารมีหลวงปู่ค่ะ ก็ไม่ได้ผล พักหลังดิฉันชักวีน มีไม่ให้และขอบารมีพระคุ้มครองตัวโดยนึกถึงบุญที่ทำมาคุ้มครองตัวก็มี หายไปไม่นานมาอีกแระ แต่เมื่อกี้ดิฉันก็อุทิศให้ไปล่ะค่ะ แต่จะยังไงก็ตามมันก็รบกวนการฝึกของดิฉันอยู่ดีนั่นแหละ เฮ้อออ....

    ว่าจะถามท่านระมิงค์ ท่านก็เอ่ยไว้ว่าห้ามถาม ให้ไปถามคนอื่น แต่สไตล์ท่านระมิงค์จะออกโหดๆ แต่ถ้าถามคุณนพก็พระเอกเชียวล่ะให้อย่างเดียวเลย เฮ้ออออ.... เครๆค่ะ บ่นๆกันไป เซ็งพอแล้วเนี่ย
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    อาการนี้ความจริงแก้ง่ายมากแบบคาดไม่ถึง..
    เส้นผมบังภูเขา เข็มขัดสั้นไป ก็ได้หมดครับ.(deejai)
    แหมๆ. ในชีวิตประจำวัน อย่าพยายาม พูดคำว่า
    เบื่อ เซ็ง และกลุ้ม เป็นไปได้ให้เลิกคิดเลิกพูดเลย
    อย่าพยายามพูดมันออกมาเป็นอันขาดมิฉนั้นจะกลาย
    เป็นสัญญาความจำได้ในจิตและถ้าพูดบ่อยๆ จนมันมีกำลังแล้ว
    มันจะกลายเป็นแนวทางเดินให้จิต.ซึ่งจะส่งผลกระทบกระทบ
    ต่อระบบธาตุภายในทั้ง ๔ ของเราให้เร่งเข้าสู่ขบวณการเสื่อม
    สลายได้เร็วยิ่งขึ้นโดยที่เราอาจคาดไม่ถึง พูดง่ายๆก็คือจะทำให้
    เราก้าวเข้าสู่วัยทองรูปพรรณชนิดทองคำแท่งได้เร็ว
    (ทองที่รอการแปรรูปแปลหน่อยเด่วหาว่าเล่นมุขลึกไป ๕๕๕๕) นี่ประเด็นแรก

    ประเด็นต่อมา อาจยังไม่เคยอ่านๆที่ผ่านมา..ที่เน้นเรื่องการอุทิศส่วนกุศลไว้
    ก่อนก็เพราะว่า เป็นวิธีที่เป็นกลาง ประนีประนอม หากว่าใครก็ตาม
    ที่เค้าสามารถใช้ฤิทธิ์ได้.ก็ต้องดูเหตุว่าเหมาะสมหรือไม่ เช่น เราอุทิศแล้ว
    ไม่ยอมรับ ไม่ยอมไป และมีท่าทีที่แสดงให้เห็นชัดว่า จะทำร้ายเราแน่ๆ
    อย่างนี้ใช้ เทคนิคความสามารถต่างๆอะไรที่มีก็ได้ แล้วแต่ถนัด
    กรณีอย่างนี้พอยอมรับได้ ไม่ว่ากัน..
    แต่ถ้าเห็นแล้ว ใช้ฤิทธิ์ใช้อะไรก็ตามเพียงเพื่อแค่ตัดความรำคาญ
    ที่เกิดขึ้นในจิตเรา ไม่ว่าจะตกใจ กลัว หรือระแวง หงิดหงิด เพราะว่า
    ขวางการปฏิบัติเรา อย่างนี้เป็นเหตุจากภายในแล้วเราส่งออกไปภายนอก
    .กรณีแบบนี้เป็นไปได้กรุณาอย่าทำ.
    แต่ถ้าทำอยู่หรือชอบทำจนเคยชิน ในอนาคตก็ควรเบาๆเป็นไปได้
    ก็เลิกเสีย..มิฉนั้นเราจะขาดการได้รับการยอมรับ และช่วยเหลือ
    และขาดพันธมิตรทางภพภูมิประเภทที่มีความสามารถสูง
    และมีฤิทธิ์..เนื่องจากเค้าจะมองว่าเมตตาเรายังไม่พอ..
    และขาดการไดรับความเมตตาในทางการปฏิบัติ
    เพื่อที่จะต่อยอดของเรา.ที่มันจะถึงขั้นได้ผลและใช้ได้
    จริงตลอดจนอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างแยบยลในอนาคต
    พวกนี้สำคัญมากต่อความสามารถในการใช้กำลังจิต
    หรือใช้งานได้จริงในอนาคตแบบไม่ต้องพิธีรีตรอง..
    ประเด็นนี้เล่าให้ฟังเล่นๆ..เผื่อว่าอาจจะเผลอๆลืมๆไปบ้าง

    ประเด็นสุดท้ายให้เราจำไว้เลยว่า ถ้าอุทิศส่วนกุศลก็แล้ว ขอบารมีพระฯ ครูบาร์อาจารย์
    ก็แล้ว ใช้ฤิทธิ์ก็แล้ว.หรือดันใช้ฤิทธิ์ไม่ได้..แต่ยังมีวนเวียนกลับมาให้เห็นเหมือนเดิม
    แถมยังเข้าใกล้เราได้ ทับเราได้ ถูกตัวเราได้ พูดให้เราได้ยินได้ ส่งกลิ่นให้เราสัมผัสได้
    ปรากฏหน้าตาใกล้ชิดเราได้จนหน้าเค้าแทบจะแทรกหน้าเรา...
    ให้จำไว้เลยว่า ให้ตั้งข้อสังเกตุก่อนว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆแน่
    และไม่ต้องคิดจะทำอะไรอีก..ถ้าคิดทำเราจะแย่ เคยได้ยินเรื่องคนที่
    เค้ามาทางสายวิชาคาถาอาคมไหม พอเจอวิญญานก็สวดคาถาใส่ใหญ่เลย.
    แล้วก็โดนวิญญานจับโยนลงเตียง รู้ไหมว่าเพราะอะไร.ก็เพราะตนเองขาดการ
    สังเกตุและวิธีการก่อนหน้าตามลำดับคือ อุทิศ ขอบารมีฯลฯ ก่อนแล้วดันเล่น
    ของใส่เลย.ดันไปเจออดีตวิญญานบรรพบรุษของตัวเอง ๕๕๕๕๕
    จ้างให้ก็ทำอะไรไม่ได้ เสียเวลา.ต่อให้เก่งระดับเสกดิน น้ำ ลม ไฟ ได้ก็ตาม
    ประเด็นนี้เล่าให้ฟังขำๆอีกเช่นกัน..

    วิธีแก้ก็คือ ไม่รู้เคยบอกไปหรือยังว่า อะไรก็ตามถ้ามันจะถึงขั้นสร้างเป็นภาพ
    ขึ้นมาได้ มันจะต้องประกอบด้วยสัญญา ๒ สัญญาก็คือ สัญญาจากภายในจิต
    เราและสัญญาจากภายนอกเชื่อมกันเพื่อความจำได้ของจิต
    เราจะแก้ปัญหานี้ได้เราจะต้องตัดสัญญาจากจิตให้ได้อย่างเดียวพอ
    การตัดสัญญาเริ่มต้นด้วยการไม่ต้องไปสนใจ.เพื่อให้จิตเราตัดการส่ง
    สัญญาไปเชื่อมก่อน ส่วนภายนอกจะส่งมาเชื่อมก็ช่างเค้า ถ้าเค้าไม่เหนื่อย
    ก็ปล่อยๆเค้าทำไป ๕๕๕ ขั้นนี้จะเสมือนเป็นการพลักส่ง
    แต่ก็จะยังแก้ปัญหาไม่ได้เลยที่เดียว เพราะว่าเมื่อจิตเราเข้าสู่สภาวะที่มัน
    เคยเชื่อมได้ มันจึงเกิดความเคยชินในสัญญานี้อยู่ เราจะไปห้ามเลยทีเดียว
    ก็คงไม่ได้ แต่เราต้องมีกำลังสติพอ เมื่อเหตุการณ์นี้มาถึงอีก ก็คือการเพิกเฉก
    แต่ว่าเรารับรู้ แต่เป็นการรู้แต่ว่าไม่ยึด คือรู้ๆ ว่า อือออ แต่ไม่สนใจ.
    จิตถึงจะเข้าสู่การตัดสัญญาการเชื่อมภายนอกตัวนี้ออกจากจิตเราได้เอง
    ภายหลังในอนาคต สัญญาเรื่องนั้นๆ นี้ๆที่เราตัดได้อย่างที่เล่าให้ฟังมา
    ก็จะหายไป..ถ้าเราสามารถทำอย่างนี้ได้แม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน..
    จะมีข้อดีก็คือว่า ไม่ว่าอะไรที่มาจากภายนอกก็ตามจะไม่สามารถ
    ทำอะไรเราได้เลยนั่นเองครับ...
    นึกภาพออกไหมว่า ทำไมพวกมีคาถาอาคมเก่งๆทางเขมร
    เค้าถึงไปทำอะไรเกี่ยวกับทางจิตคนทางอีกทวีปไม่ได้หลักการคล้ายๆกันนี่หละครับ..

    ปล.หลักการสุดท้ายที่แนะนำให้นี้ พระที่สอนสมาธิและดูเรื่องภพภูมิท่านแนะนำมา
    คือเมื่อก่อนทำได้เป็นปกติอยู่แต่รวบรวมเป็นภาษาพูดยังไม่ได้..
    และก็ไม่ควรลืมว่าสิ่งที่เห็นในจิต จะด้วยสภาวะใดๆ หรือ
    ด้วยความสามารถทางจิตใดๆก็ตาม
    ถ้ามันยังมีภาพได้แสดงว่ามันยังอยู่ภายใต้สัญญาอยู่
    มีความจำเป็นแล้วแต่กรณีๆไป แต่กรณีนี้ให้ตัดให้ได้
    จนเหลือแค่พลังงานนะครับ ยังไงลองพิจารณาดูนะครับ...;)
     
  5. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    หลังจากที่ได้อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการปฎิบัติที่คุณนพได้กรุณาอธิบายไว้มากมาโดยเฉพาะเรื่องการถ่ายเทพลังงาน และก็หลายครั้งที่ได้ทดสอบกับตัวเองจนตอนนี้แน่ใจแล้วค่ะว่ามันพอช่วยได้จริง กล่าวคือ ดิฉันมักมีอาการปวดกระเพาะเวลากลางคืน (เหมือนน้ำย่อยทำงานมาก )ปกติถ้าปล่อยไว้อาการปวดจะยิ่งมาก จำเป็นต้องลุกไปหาอะไรทาน เพื่อไม่ให้ท้องว่าง และหลังจากที่ได้รู้ว่า อาการป่วยของคนเรามีเหตุจากธาตุแปรปรวนร่วมด้วย ดิฉันจึงได้ลองเอามือวางไว้บริเวณท้องตรงที่มีอาการปวด และก็ลองกำหนดให้ฝ่ามือทำการดูดพลังงานส่วนเกินที่ท้องออก ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าครั้งแรกที่ทำยังอดคิดว่าสงสัยเราจะไม่มีความสามารถหรอกมั้ง แต่ปรากฎว่า เมื่อเวลาผ่านไปซักครู่ อาการปวดมันหายไป .แต่ก็ยังไม่แน่ใจ คิดว่าอาจเป็นเหตุบังเอิญ ประกอบกับเราหลับแล้วด้วย จนทดลองทำมาร่วมสิบครั้งแล้วค่ะจึงแน่ใจว่า ที่คุณนพแนะนำสามารถทำได้จริง . จึงขอขอบคุณในความรู้ที่คุณนพได้กรุณาเขียนลงไว้ด้วยนะคะ ...
     
  6. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    5555 คุณนพคะ คืนนี้เขารอดิฉันอยู่นะคะ แต่คืนนี้รู้สึกว่ามากลับกลิ่นน้ำหอมด้วยแฮะ เนี่ยแหละอยู่ใกล้ๆนี้เอง นั่งจับก็ใช่เลย .....ทำไมดิฉันมีแอบสงสารเล็กน้อยล่ะ อือออๆ ไม่สนๆ เอาที่คุณนพบอก
    ........................................................................................................................................


    ไม่เป็นไรครับ..ถือว่าเล่าๆสู่กันฟัง.ว่าแต่อยู่แบบเหงาๆเนี่ย ป่านว่า MV เลยเนาะครับ ๕๕๕
    นางเอ๊กๆ..แห๋มๆ..อืมๆ..เด่วเอาเป็นว่า ใน Rep นี้จะเล่าแบบภาพรวมๆบางอย่างให้ฟังเล่นๆครับ
    เพื่อให้ลองอ่านดูเพื่อจะได้จับประเด็นอะไรบางอย่างได้.อาจมีที่จะงงๆบ้างบอกไว้ก่อน ๕๕๕


    ดิฉันไม่ใช่นางเอกค่ะ และไม่ใช่นางฟ้าด้วยสิ แต่ดิฉันอยากเป็นมากกว่านั้นน่ะ ๕๕๕๕๕๕๕
    อยากเป็นอะไรก็ได้ ที่จะเรียกว่าอะไรก็ตาม ด้วยอารมณ์ที่มันหักรัก หักหลง ในสงสารนี้ได้น่ะค่ะ ..... ตอนนี้ก็เป็นหมาเห่าเครื่องบินไปก่อน อารามประมาณว่า ตะกายดาว น่ะค่ะ งั้นขออยู่เหงาๆไปก่อนละกันค่ะ ๕๕๕๕๕๕๕๕
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2014
  7. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    แต่ถ้าเห็นแล้ว ใช้ฤิทธิ์ใช้อะไรก็ตามเพียงเพื่อแค่ตัดความรำคาญ
    ที่เกิดขึ้นในจิตเรา ไม่ว่าจะตกใจ กลัว หรือระแวง หงิดหงิด เพราะว่า
    ขวางการปฏิบัติเรา อย่างนี้เป็นเหตุจากภายในแล้วเราส่งออกไปภายนอก
    .กรณีแบบนี้เป็นไปได้กรุณาอย่าทำ.
    แต่ถ้าทำอยู่หรือชอบทำจนเคยชิน ในอนาคตก็ควรเบาๆเป็นไปได้
    ก็เลิกเสีย..มิฉนั้นเราจะขาดการได้รับการยอมรับ และช่วยเหลือ
    และขาดพันธมิตรทางภพภูมิประเภทที่มีความสามารถสูง
    และมีฤิทธิ์..เนื่องจากเค้าจะมองว่าเมตตาเรายังไม่พอ..
    และขาดการไดรับความเมตตาในทางการปฏิบัติ
    เพื่อที่จะต่อยอดของเรา.ที่มันจะถึงขั้นได้ผลและใช้ได้
    จริงตลอดจนอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างแยบยลในอนาคต
    พวกนี้สำคัญมากต่อความสามารถในการใช้กำลังจิต
    หรือใช้งานได้จริงในอนาคตแบบไม่ต้องพิธีรีตรอง..
    ประเด็นนี้เล่าให้ฟังเล่นๆ..เผื่อว่าอาจจะเผลอๆลืมๆไปบ้าง


    อันนี้ก็จะทำตามที่บอกค่ะ แม้ว่าจะกระฟัดกระเฟียดไปบ้างตามประสาคนเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่ใช่เพราะเหตุผลที่ยกมาทั้งหมดหรอกนะคะ แต่ดิฉันชักเกิดความละอายใจว่า ดิฉันคงจะนิสัยไม่ดี น่ะ ในสี่บรรทัดแรก เพราะมีทั้งหมดความรู้สึกที่บอกมาเลยค่ะ แล้วไปรำคาญเขาเข้าน่ะ ... อันนี้ส่วนตัวกับคนรอบข้างที่ใกล้ชิดก็เป็นค่ะ ๕๕๕๕๕๕ เลยค่อนข้างรู้ตัวค่ะ
    และเข้าใจค่ะ คำว่าเมตตาไม่พอ ขอน้อมรับทุกข้อกล่าวหาค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2014
  8. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,332
    ...


    คงต้องลองดูบ้างแล้ว
    ขอบคุณคุณดาวหลงอีกต่อหนึ่งด้วยค่ะได้ไอเดียบรรเจิดมาก
     
  9. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    คุณนพคะ ดิฉันยังอยู่นะคะ ไม่ใช่แบบไปก็ไม่ลามาก็ไม่ไหว้นะคะ ดิฉันไม่ไหว้เพราะยังไม่ลาค่ะ ช่วงนี้ขอหายไปสักพักนะคะ
    เกเรค่ะช่วงนี้ ขอไปเคลียร์ตัวเองแป๊ปนะคะ
    วิชานี้ยังไม่จบนะคะ แต่เดี๋ยวจะกลับมารับใบประกาศนะคะ

    ถึงยังไงดิฉันก็ติดค้างคุณนพอยู่หนึ่งจอก
    บุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องอย่าจำ

    55555555 ...

    ไอ้ที่ฝากใครไว้นั้น ก็ขอฝากต่อไปก่อนนะคะ ยังไม่มีปัญญามาเอาคืน แต่ก็ไม่ได้ฝากแล้วฝากเลยเน้อออ จะมาเอาทีเผลอ

    ข้าน้อยขอลาไปก่อน
    จ้ายเจี้ยน.....

     
  10. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    คุณ Nopphakan ครับ..

    มีภาพบางอย่างให้ดู..วิวสวยมั๊ยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P9060165.JPG
      P9060165.JPG
      ขนาดไฟล์:
      145.4 KB
      เปิดดู:
      240
    • P9060168.JPG
      P9060168.JPG
      ขนาดไฟล์:
      140.5 KB
      เปิดดู:
      252
    • P9060167.JPG
      P9060167.JPG
      ขนาดไฟล์:
      70.6 KB
      เปิดดู:
      161
    • P9060170.JPG
      P9060170.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.6 KB
      เปิดดู:
      236
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    สาวน้อยสวยใสหน้ากลมเล็ก
    และลุงๆก็ใจดียิ้มแก้มปริครับ แม้จะมีวัยรุ่นขรึมๆมีฤิทธิ์บางส่วน
    รายละเอียดค่อยว่ากันถ้าสนใจครับ เอาไว้คุยขำๆ
    บอกได้แต่ใบหน้าและแนวของฤิทธิ์ที่เค้ามีนะครับ
     
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ฮั่นนแน่...แอบมีกั๊กหยั่งเชิงกันซะด้วย
    ..สนใจอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมมากครับท่าน อ.นพ

    สถานที่ที่มีถ่ายมาให้พิจาณา เป็นพื้นที่ที่พรรคพวกเพื่อนกันเพิ่งจะซื้อมาไม่นาน
    แล้วพัฒนาให้เป็นแบบแหล่งทำกินเชิงเกษตร ทำเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงไก่ชน
    (แต่เจ้าของเอง..ไม่ได้นำไก่ชนไปตีที่ไหน..เห็นบอกสงสารมัน)

    ก่อนจะได้ที่ดินผืนนี้มาก็มาเกริ่นๆบอกว่า

    ...พื้นที่นี้คล้ายๆจะมีลานหินทรายด้วย อยากให้มาช่วยดูหน่อย
    ผมก็ย้อนถามว่า..
    แถบๆนั้นมีแหล่งน้ำ บึงน้ำ หรือมีเส้นทางน้ำไหลเก่าดั้งเดิมอยู่ด้วยมั๊ย?

    เพื่อนก็บอกว่า..มีบึงใหญ่ใกล้ๆแต่เดิมอยู่นะ ห่างกันไปแค่ 100-200 เมตรเอง

    พื้นที่ที่ว่าอยู่ช่วงรอยต่อระหว่างอำเภอปักธงชัย-สูงเนิน เส้นทางบายพาสใหม่

    มันน่าแปลกตรงที่ว่า พอขุดดินลงไปปรับแต่งเพื่อทำเป็นสวนไม้ประทับ..

    พอใช้รถแบล็กโฮลขุดหน้าดินออก..ก็เจอแต่ลานหินแผ่นใหญ่
    ขุดไปน้ำก็ผุดออกมาเรื่อย ทั้งที่อยู่ก็บนยอดเนินดิน

    ฝนตกได้ ข้ามคืนได้ไม่กี่ครั้ง

    ก็.เกิดหลุมกลมๆ ขึ้นเต็มกระจายไปหลายจุด คล้ายสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน จ. อุบลฯ

    "ลานสามพันโบก "

    ลึกบ้างตื้นบ้าง หลุมเล็กใหญ่มากมาย บางหลุมลึกสุดแขน บางหลุมใหญ่ลึกกลมเกือบท่วมศรีษะคนเรา.. และมีแนวโน้มว่าหลุมกลมๆหลายจุด จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกมาก หลายหลุมในพื้นที่เพียง 100 กว่า ตร.วา

    น่าฉงน!! เพราะเดิมมันก็เป็นพื้นหินทรายเรียบๆ หินตันๆธรรมดาอยู่นี่นา..

    แล้วหลุมกลมๆ มากมายมันมาได้อย่างไร

    ก็เคยนอนหลับฝัน นึกไปเล่นๆ..ก็มีปรากฏการณ์แปลกๆอยู่เหมือนกัน

    แต่ยังไม่ขอเล่า...ผิดพลาดไปเห็นจะไม่งามนัก
    เพราะยังอ่อนด้อยเหลือเกินสำหรับเรื่องนี้ ..อายเค๊าา
    แล้วจะมาเล่าให้ฟัง..


    งั้น..เอาว่าขอเชฺิญผู้สันทัดกรณี อย่าง ท่าน อ.นพ มาวิจารณ์ก่อนดีกว่า

    ว่าแหล่งสถานที่แห่งนี้มีที่ไปที่มา ที่มันมีอะไรพิเศษหรือเปล่า อย่างไร?

    ช่วยวิจารณ์ตามแต่จะเห็นควร..ได้เต็มที่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P9060165.JPG
      P9060165.JPG
      ขนาดไฟล์:
      145.4 KB
      เปิดดู:
      126
    • P9060169.JPG
      P9060169.JPG
      ขนาดไฟล์:
      64.6 KB
      เปิดดู:
      137
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2014
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013

    เห็นได้ รู้ได้ เห็นต่างได้ ไม่เห็นก็ได้ เห็นบ้างไม่เห็นบ้างก็ได้.
    จะไม่เห็นเลยก็ได้ เพราะหาใช่เรื่องสำคัญ จะจริงหรือไม่จริง
    ก็มิใช่เรื่องหลัก.ด้วยเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน.จึงเหมือน
    ไม่มีอะไรในกอใฝ่ เพราะใช้วัดความดีอะไรไม่ได้..
    แต่ที่จะทำได้คือเอาไว้เล่าเล่นๆขำๆ.
    ตามสไตด์แบบ เฉพาะตนไว้ก่อน เน้นฮาไว้ก่อน
    ส่วนซักวันถ้าเจอคนที่เห็นได้เหมือนๆกัน
    รู้ได้เหมือนๆกัน.ก็ดันเป็นห่มเหลืองมีชื่อเสียง
    ที่กำลังสร้างบารมีอยู่ซะงั้น..
    ส่วนใครจะคิดอะไรก็ช่างเค้า
    ไม่เกี่ยวกับเรา ๕๕๕๕๕๕

    .เค้าว่าเมื่อก่อนมีบางกลุ่มออกแนวแรงไปหน่อยไปติดเรื่องฤิทธิ์
    ที่ตนมีมากไป..พอเปลี่ยนภูมิไปจึงรู้ว่าที่ตนเป็นหาใช่ทางจึงหันมาสร้างบารมี..
    และมีความโดนเด่นในเรื่องของการรักษา.จึงมาอยู่รวมในบ่อกลมๆที่ใหญ่หน่อย

    แต่บ่อน้อยก็มิน้อยหน้าเมื่อน้องนางก็สร้างความดีมามากโขพอตัวและนางก็มิได้
    บ้าพลังเหมือนๆพี่กลุ่มใหญ่เค้า ภูมิความดีแม่นางจึงโดนเด่นเป็นสง่า.แต่ก็อย่างว่า
    จะคิดได้อย่างนี้ก็มีน้อย.ก็เลยอยู่บ่อเล็กๆกว่าเค้าหน่อย.แม้ว่าความสามารถในการ
    รักษาของนางจะมากด้วยประสบการณ์มากกว่า..

    แต่ทั้งบ่อเล็กบ่อใหญ่ไงหน้าตา..บังเอิญๆคล้ายพวกที่อยู่ใน..วัตถุอะไรๆ
    ซักอย่างนึกไม่ออกที่อยู่ในน้ำจืด..ที่มีสัมพันธ์ทางสายภูมิคล้ายๆงู.
    อืมๆ อะไรหว๋าาาา ๕๕๕๕๕๕
    .
    แต่เอ๊ะๆๆ..แถวๆที่เป็นหลุมไม่ลึกมากดูโล่งๆแต่ไงมีน้ำขังได้นั้น...
    บรุษหนุ่มรูปงาม ใส่หมวกคาวบอยเด่นชัด เสื้อติดกระดุม
    ยันเม็ดสุดท้ายและแขนยาวไม่มีการพับแขน.
    ดูจะเป็นนายฮ้อยและมีบริวารอีกมากหลาย
    อยู่บนพื้นดินนั่นหละหนา.ที่เห็นๆก็ประมาณนี้หละครับ.
    .

    ปล.อ่านแล้วพิจารณาดูดีๆครับ คาดว่าจะพอคาดคะเนอะไรได้และก็
    อย่างลืมว่าเน้น ขำๆนะครับ...
     
  14. nongnewinbkk

    nongnewinbkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2013
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +239
    พี่นพท่านอาจจะหมายถึง พญา ที่ท่านๆเหล่านั้นมาสร้างบารมี เข้าใจว่าอย่างนี้คะ
     
  15. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004

    ผมก็งงครับ...

    ประโยคที่ว่า...ส่วนซักวันถ้าเจอคนที่เห็นได้เหมือนๆกัน
    รู้ได้เหมือนๆกัน.ก็ดันเป็นห่มเหลืองมีชื่อเสียง
    ที่กำลังสร้างบารมีอยู่ซะงั้น.


    ผมนี่ก็มึนๆ..อยู่เหมือนกัน

    ===========
    หลุมที่ว่ากระจายไปทั่ว เล็กใหญ่ ลึกตื่น กลมๆเบี้ยว ยังกะว่ามีใครเอาสว่านขนาดยักษ์ ไปเจาะคว้านไปมาๆ บางหลุมใหญ่กว่าโอ่งมังกร ..บางหลุมใหญ่พอกับโอ่งใบๆใหญ่ขนาด 7-8 ร้อยลิตร ลึกสุดมากกว่า 2 เมตรเลยเชียว มีอยู่ 3-4 หลุม ถ้าน้ำแห้งเผลอตกหลุมลงไป ก็มีโอกาสคอหักได้

    ครั้นพอกลับไปบ้านก็มานอนนึก เคลิ้มๆ ก็ปรากฏว่าเป็นน้ำที่อยู่ในหลุมใหญ่ เกิดหมุนวน ตีเกลียวเหมือนมีใครมากวนอย่างแรง ตามเข็มนาฬิกา มีสีรุ้งวยงามประก สดใส...สว่างจ้า


    ส่วนที่ หลุมกลมขนาดเล็ก ขนาดน้อย มากมาย ก็ปรากฏภาพ
    ...มีเจ้าปลาไหลเผือกตัวอ้วนๆ หน้าตาบ๊องแบ๊ว เล็กใหญ่ มากมายผุดโผล่ออกมาจากแต่ละปากหลุม ผลุบๆโผล่....ล้อเล้นกันน่าสนุกเชียว

    แรกก็ไม่เข้าใจสงสัยอยู่หลายวัน..ว่าปลาไหลเผือกทำไมมาปรากฏในนิมิตฝัน มาผลุบโผล่ในหลุมลานหินทรายได้อย่างไร มันเกี่ยวอะไรกันหนอ!!!

    ตอนหลังเลยได้ถึงบางอ้อ...

    ว่าเคยตำนานเรื่องราวของเมืองโบราณ ทางภาคเหนือที่เคยล่มจมอยู่ใต้เมืองบาดาล
    เพราะคนเมืองนี้ จับปลาไหลเผือกขนาดใหญ่มาได้

    จากนั้นชาวเมืองได้ตัดแบ่งเนื้อทำอาหารกินกันอิ่มหนำทั้งเมือง

    ...สุดท้ายพอตกกลางคืนก็เกิดฝนตกหนัก น้ำป่าท่วมทะลัก...ท่วม แผ่นดินโคลนถล่มเมือง เพราะโดนเหล่าชาวพญานาคบุกขึ้นมาเล่นงาน

    เพราะ ปลาไหลเผือกที่ว่า นั่นคือร่างพญานาคจำแลงแปลงกายมาเมืองมนุษย์ แต่โชคร้ายโดนจับมาทำเป็นอาหารซะก่อน

    สุดท้าย...เหลือรอดชีวิตเพียงคนเดียวเป็นหญิงแม่หม้าย ที่ไม่ได้กินเนื่อปลาไหลเผือก นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2014
  16. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    อ่ะโม้ต่อดีกว่า...กำลังมัน

    เมื่อร่วมเกือบสิบปีก่อน..มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า

    สมัยที่มีข่าวว่าเขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี จ.โคราช มีร่องรอยรั่วคล้ายจะทรุดตัวพังลง..
    เขื่อนกำลังจะแตก!!!

    เกิดเหตุการณ์แตกตื่นถ่ายทอดข่าวกัน ตลอดวันตลอดคืน มีการระดมสรรพกำลังกันยกใหญ่จากหลายหน่วยงาน

    ชาวบ้านพากันอพยพหนีน้ำท่วม..กันจ้าละหวั่น หากว่ารักษาเขื่อนไว้ไม่อยู่

    เขาเล่ากันว่า...ในคืนหนึ่ง.ขณะที่รถแบล๊กโฮลจ้วงลงไปที่พื้นดินชั้นล่างของเขื่อน ด้านหน้าเขื่อน หวังจ้วงตักดินขึ้นมาจากน้ำ

    ตัวจานขุดก็ไปสับโดนเอาเข้ากับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ใต้น้ำ รูปร่างคล้ายปลาไหลเผือก ลำตัวขนาดใหญ่พอๆกับถังน้ำมัน 200 ลิตร
    ผุดโผล่มา ดิ้นพล่านเลือดแดงกระจายเต็มพื้นน้ำเป็นบริเวณกว้าง
    เจ้าหน้าที่หลายคนที่เห็นเหตุการณ์ พากันตกตะลึงงันกันหมด..

    มันคืออะไรกันแน่??? จริงหรือเท็จไม่แน่ใจ

    บ้างก็ว่าเป็นเรื่องจริง..รับรู้กันในหมู่ชุดรักษาเขื่อนขณะนั้น..แต่ไม่กล้าเผยแพร่ข่าวออกไป

    กลัวคนภายนอกรุมด่าว่า..เพ้อเจ้อไร้สาระ

    หลังจากนนั้นก็การบวงสรวงตั้งศาลเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระหว่างปฏิบัติภาระกิจรักษาเขื่อน
    จนกระทั่งลุล่วง เสร็จสิ้นปลอดภัย ท่ามกลางการลุ้นระทึกจากคนทั้งประเทศในที่สุด...

    เส้นทางของเขื่อนมูบลเดิมที บางส่วนเป็นเส้นทางโบราณยุคขอม ที่มีการขนทองคำ ทรัพย์สินมากมาย
    มีการทำอาถรรพ์เวทย์ สาปแช่งทางไสยศาสตร์เอาไว้ด้วย ก็อาจเป็นอีกสาเหตุของความโกลาหลที่เกิดขึ้น
    และอีกส่วนหนึ่งคือมาจาก..มนุษย์ไม่ซื่อตรงต่อสัมมาชีพนั่นเอง

    บริเวณใกล้เคียง เขื่อนลำมูลบน ยังมีสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำนานโบราณ
    ชาวบ้าน เรียกกันว่า "เขาจอมทอง"

    ปัจจุบันกลายเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่นไปแล้ว...ทิวทัศน์บนยอดเขา
    สวยงามมาก น่าไปทัศนายิ่งนัก

    เล่าเอาขำไว้ก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2014
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ชอบอ่านครับสนุกดี.เล่าไปเล่ามาก็จะครบ
    ตัวละครที่ได้เขียนไว้พอดี.และอีกอย่างไม่งงเหมือนที่ผมเล่า ๕๕๕
     
  18. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อๆ...

    สืบค้นภายหลัง ตามประสาคนชอบโม้

    ว่ากันว่า..แถบพื้นที่ว่า..ไปจนถึง วัดป่าวะภูแก้ว..วัดป่าภูผาสูง เขตเขาพญาปราบที่ ปู่อินทร์ตาทิพย์สร้างสำนักธรรม ที่ปักธงชัย สูงเนิน เป็นเขตแดนเมืองบังบดซ้อนทับกันหลายมิติ มีหลายภพภูมิ เหมาะแก่การประพฤติปฏิบัติ..

    มีแม้..รอยพระพุทธหัตถ์..ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับไว้ที่ก้อนหิน รูปทรงประหลาด คล้ายบาตรพระมโหฬาร

    ปัจจุบันมีแม่ขาวที่ชำนาญญาณธรรมดูแล..คอยต้อนรับพระที่มีญาณส่องถึง
    เดินทางมา..มีแม้กระทั่งพระเถระผู้ใหญ่จากแดน สปป.ลาว
    ก็เคยดั้นดั้นค้นหามาเจอจนได้

    สรุปดินแดนแถบนี้...ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจค้นหาคำตอบ อีกมากมายหลือคณานับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2014
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    เด่วมาร่วมโม้ต่อด้วยครับ..บริเวณนั้น.พระมีชื่อบางท่านบอกว่าสนใจ
    เป็นบริเวณที่น่าอยู่เพราะว่า.มีอะไรลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากมาย..
    ส่วนตัวเคยไปอาศัยได้ร่วมขวบปี..เมื่อก่อนหลายพื้นที่เป็นเขตสีแดง..
    แต่ส่วนตัวไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรกับเค้า..รอคุณป๋า มาเล่าให้ฟังนี่หละครับ

    .ทราบแต่ว่าเขตนั้นจะมีหลวงปู่ท่านหนึ่ง อายุน่าจะ ๗๐ เกือบๆ ๘๐ สิบ
    เพราะจับได้ว่ากระแสเมตตา
    เย็นเหมือนน้ำที่ไหลผ่านลำธารในป่า.
    .แถมความสามารถทางจิต
    ยังสูงอีกต่างหาก..ชื่อย่อ มีโอกาสได้ผ่านจะแวะไปกราบบ้าง
    แม้ว่าตอนนี้น่าจะเข้าถึงยากเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร..จังหวัดนี้คงมี
    อะไรพอสมควรหละครับ..ส่วนตัวถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีก
    ๔ ถึง ๕ ปีคงได้ไปสถิตย์อยู่จังหวัดนี้แน่นอนครับ...

    ปล.รอฟังเรื่องเล่าต่อไปอยู่ครับ..
     
  20. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    หินทรงบาตรและรอยพระหัตถ์องค์พระพุทธเจ้าก็คล้ายตำนานบนเขาทางจันทบุรี
    ทานเนื้อปลาไหลเผือก น้ำท่วม พญานาคยกพวกขึ้นมาถล่มเมืองจนเมืองจมสู่ใต้น้ำ ก็คล้ายตำนานของจังหวัดหนองคาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...