ฝันทุกคืนเลย ไม่รู้จะทำยังไงดี

เหมือนไม่ได้นอนเลย ตื่นมา เหมือนกลับจากเดินทาง มา ทุกเช้าเลย
ไม่ทราบว่า ต้องทำยังไง ครับ

 

เหมือนกันเลยครับ จริงๆกายสังขารมันพักผ่อนนะ เพราะตื่นมาดูหน้า
ในกระจกมันก็สดใสดี ไม่ได้ย่ำแย่ แต่ช่วงสองสามวันมานี้ สงสัยฝึก
ผิดวิธี นอนฝึก ทำให้ตื่นกลางดึก จิต มันพาฝึกต่อทันที เวรกรรม!
(แต่พระท่านว่า เดี๋ยวมันหยุดเอง)

แต่ผมพอรู้ว่าทำอย่างไรไม่ให้เหนื่อยนะ คือ จริงมันเหนื่อยที่จิต
ก็ต้องหาอะไรที่จิตมันเคยชอบทำ ให้มันทำไปเบาๆ แบบไม่ผิดศีล

เช่น ฟังเพลง หรือ นึกถึงอะไรก็ได้ที่ทำให้มีความสุข มันจะพอมีกำลังขึ้นมา
ได้บ้าง

 

เมื่อก่อนไม่เคยฝัน เด๋วนี้ก็ฝันทุกคืนเหมือนกัน แถมละเมอเป็นเหตุเป็นผลด้วย
วันก่อนฝันว่า กำลังดุแฟนอยู่ ก็ในฝันบ่นๆๆๆๆๆๆ เขานอนอยู่ข้างๆ ก็คงงงว่าอะไร เอาหน้ามาฟังใกล้ๆ เราก็กึ่งรู้สึกตัวกึ่งหลับ แต่รู้ว่า เขามาถามว่า อะไรนะ
เราเลย อิอิ กรูกะลังด่าเมิงแหละ แล้วหลับต่อ ขำเขามาก คือ จะโมโหก็คงไม่ใช่ เพราะคนมันละเมอ ทีเขาละเมอเตะเราทั้งที่ผ่าตัดหน้าท้องมา เรายังไม่ว่าไรเลย
วันก่อนไปเที่ยว นอนกะลูกน้อง ทั้งที่เมืองจีนทั้งฮ่องกง ก่อนจะนอนก็บอกเขาว่า ไม่ต้องตกใจนะ ระยะหลังพี่จะละเมอบ่อยมาก คือเมื่อก่อนนอนกับเขาก็ไม่เป็นไง เขายิ่งกลัวผีอยู่ ก็บอกก่อน ปรากฏว่า เขาว่า ฟังเพลินเลยพี่ พี่ว่า อย่าเอาแต่ให้เงินพวกเขาซิ หางานให้เขาทำ เขาไฟไหม้มา หมดตัว หางานให้เขาแล้วเขาจะช่วยตัวเองได้ อิอิ เป็นเรื่องเป็นเหตุเป็นผลซะไม่มี พอมาถึงเช้าวันที่ 5 เขาว่า เมื่อคืน พี่นอนดีจังนะ ไม่ละเมอเลย ไม่กรนด้วย ก็เลยบอกเขาว่า เออ..เมื่อคืนพี่นอนไม่ค่อยหลับ เลยนอนสวดมนต์ทำสมาธิทั้งคืน เขาหัวเราะใหญ่ ว่า มิน่า เงียบกริบเชียว

 

เมื่อก่อนจะฝันบ่อย ฝันแทบทุกคืน แต่มาในระยะหลังๆนี่ นอนหลับไปเฉยๆ ไม่ค่อยได้ฝันเหมือนแต่ก่อน อาจจะเป็นเพราะว่ามันเหน็ดเหนื่อยทั้งร่างกายและสมองน้อยๆอันกระจิ๋วหลิ๋วของเรานี้ด้วยกระมัง ที่พอหัวถึงหมอนก็หลับไปเหมือนคนตายเด๊ะเลย

แต่ถ้าฝันเมื่อไหร่ ไม่ค่อยจะมีเรื่องดีเท่าไรนัก ส่วนใหญ่แล้วมักจะฉากต่อสู้กันด้วยกำลังกาย ด้วยหมัดด้วยเท้าเป็นประจำ แต่ก็มีบ่อยครั้งเหมือนกันที่จะถูกไล่ล่าโดยผีร้าย ซึ่งการหนีผีร้ายเหล่านี้ก็จำเป็นต้องใส่ตีนหมาโกยด้วยเกียร์ห้ากันไปเลย หรือถ้าโชคดีหน่อยก็ฝันว่าเหาะ โดยเฉพาะฉากเหาะนี่มันสุดยอดจริงๆ มันส์พะยะค่ะ เพราะอยากจะเหาะสูงแค่ไหนก็ได้ ต่ำแค่ไหนก็ได้ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตีลังกา กลับหัวกลับหางได้หมด แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายๆ หรือตอนจบไม่จะไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่ เพราะว่า ....

เหาะอยู่ดีๆ ก็หล่นตุ้บลงมาเฉยเลย และก็สะดุ้งตื่นทุกครั้งด้วยความเหน็ดเหนื่อย เหมือนไม่ได้นอนซะง้าน

 

ไม่อยากฝันแล้ว บางทีละเมอพูดนะโมตัสสะ ด้วย งงกันไปใหญ่ ทำไง ดี มัน เหนื่อย น่ะ เหมือน ไม่ได้พักผ่อนเลย เป็น ทุกคืน นี่ ไม่ไหว นะครับ จะแย่อยู่แล้ว ง่วงมากๆ

 

ผึ้งก็เคยเป็นเหมือนกัน แบบว่าสวดมนต์ทั้งคืนเลย แต่จิตสวดนะ ปากไม่ได้พูดออกมา หรือละเมอ ถามแฟนว่าละเมอหรือเปล่า เค้าบอกว่าเห็นนอนเงียบ แต่เราสิ จิตกลับไม่หลับ เหมือนคนอดนอนเลย สวดมนต์ทั้งคืน คาถาพระชินปัญชร และบทยอดพระกัณฑ์ จะว่าเราสวดมนต์มากจนเก็บไปฝันก็ไม่ใช่ เพราะสวดมาตั้งนานแล้วไม่เห็นเป็นเลย แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้ว จะเป็นพัก ๆ ที่วันไหนรู้สึกแย่มาก ๆ

 

ยังไม่หายหรือ แปลก ของเราหายไปแล้วเมื่อคืนเอง

จะว่าฝึกผิดวิธีไหม ก็ไม่น่าจะผิด สำหรับเรานะ

เพราะตื่นมานี้ รู้สึกได้เลยว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป
เป็นสภาวะธรรมที่ก้าวหน้าขึ้น

คือ คืนก่อนหน้า ผมก็ทำใจสบายๆไป กะว่าถ้าฝัน
หรือ ละเมอ(ตื่น แต่ไม่ได้ลืมตา แต่ก็เหมือนตื่น)ปฏิบัติอีก
จะปล่อยอนุโลมไปให้มากที่สุด ไม่คิดจะขวาง ก็คิดว่า
ลองดูว่าจะพาไปถึงไหน ก็ปรากฏว่า มันฝึกลองผิดลองถูก
อะไรของมันไม่รู้ ไปเรื่อย

จนเราเอะใจขึ้นมาว่า จิตบ้านี้ ไม่ใช่เรา แล้วก็นึกคำพระขึ้นมาได้ว่า
ให้บริกรรม เราก็เลยบริกรรม พุทโธ ทั้งๆที่นอนอยู่นั้นแหละ
แต่ไม่เหมือนฝันเลย ยังกะปฏิบัติอยู่จริง (ชาติก่อนสงสัยเป็นงู)
พอบริกรรมก็ได้เรื่อง เริ่มรู้สภาวะธรรม จิตไหลรวม อีกครั้ง

พอเช้ามาก็ตื่นปรกติ ภาระกิจแรกคือกระดิกเท้าแกล้งภรรยาที่จะเดิน
ผ่านที่นอนเราไปเข้าห้องน้ำ แต่ใจมันเบาๆ ผิดจากเดิม

เมื่อวานเลยทบทวนดู ก็นึกถึงสภาวะธรรม จิตไหลรวม ก็เหมือนจะได้
แต่ก็ไม่ได้ ก็เลยหายใจออก แล้วบริกรรมในใจ สักพัก ก็ได้ผล
เลยทำเล่นอยู่หลายครั้ง เพื่อให้ได้ วสี ( ต้องทำขณะที่จดจำสภาวะได้ )
ก็เรื่อยๆ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ยังไม่รู้ถูกหรือเปล่า

แต่ใจมันสบายขึ้นละ เมื่อคืนเลยหลับสบาย

ผมว่า คุณคงไปรู้สึกไม่ชอบใจ หรือ ชอบใจ คือ อยากปฏิบัติให้ได้ผล
แต่ก็ไม่ชอบใจที่มันปฏิบัติไม่เห็นผลอย่างที่คาดหวังในใจ เลยมีทั้ง
รัก ทั้ง ชัง กระมัง เลยปล่อยวางไม่ลง จะเลิก อีกใจมันก็ไม่เลิก

ถ้าหาอะไรทำสนุกๆ ไม่ได้ จะไปทำสมถะเพิ่มก็ไม่ได้
ก็น่าจะไปดูหนังสักเรื่องนะครับ เอาแบบบู้ action ให้ใจมันฝุ้ง
ตามโลก อ้อ บางทีถ้าไปทะเล ไปเล่นคลื่นนี้ ก็ดีนะ
สำหรับผมนี้ ถ้าไปเล่นคลื่นมานะ ตกกลางคืนมันจะฝันว่าเล่น
คลื่นต่อ ก็เพลินดี

อ้อ เมื่อคืนผมใช้วิธีดูหนัง เล่นโดย ทอม ครูส เรื่อง
สงครามล้างโลก ก็ประมาณ มะนาวต่างดุดวางยานไว้
ใต้ผืนโลกกว่าหมือนปี แล้วก็ถึงเวลา ส่งสายฟ้าลงมา
กระตุ้นยาน แต่จริงๆเป็น เทเลพอต ส่งนั่งบินเข้าไปในยาน
แล้วก็ลุกขึ้นมากินมะโลกต่างนุด(คน) เป็นมังสาหาร
แต่สุดท้ายแผ้โปรโตซัว หนอนไรจักร(ไอ้ตัวนี้น่ารัก ปากมันหมุนๆ)
ร้าน vdo ขายของแท้ 29 บาทเอง

ทำใจให้สบายๆ ครับ จิต มันไม่ใช่เรา

 

จขกท. ฝันแบบไหนหละครับ
ลองอ่านดูแบบของผมบ้าง
ในกระทู้นี้นะครับ..
http://palungjit.org/showthread.php?t=86674&page=48

บางทีอาจมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด และเข้าใจก็ได้นะ

.....

 

ฝันเกิดจากสมองเราจินตนาการครับ ผมไม่ทราบว่าคุณฝันอะไร ผมLucid และ Control ได้ ครับ เกี่ยวกับสมองล้วนๆไม่ได้มีอะไรมาดนใจ ถ้าคุณอยากฝันอย่างอื่นจินนาการให้มันเยอะๆ

 

ไม่ได้ฝึกจิต อะไรเลย นอนหลันก้อธรรมดา มันก็ฝันๆๆ อยู่นั้น แหละ ไปเที่ยว โน้นเที่ยว นี่ เดินห้าง บ้าง เดินในมหาลัยที่ไหนก้อไม่รู้ บ้าง ไป ภูเขา ไปทะเล บ้าง มั่วไปหมด ไม่รู้จะทำไง ดี

 

อ้าว คนละด้านเลย คิดว่าปฏิบัติจนฝุ้งซะอีก

อย่างนี้ จะให้ไปนั่งสมาธิ ก็คงไม่ถูกจริตแน่ๆ
เพราะหลับตาเข้าใกล้ระยะภวังค์เมื่อไหร่ ก็จะฝัน
คล้ายๆกัน จะฝุ้งไป

คือ ทาง พุทธ นี้ต้อนนี้คุณมีสิ่งที่เรียกว่า นิวรณ์ 2 ตัว คือ ฝุ้งซ่านในธรรมชาติ
กับ หงุดหงิดรำคาญใจ ที่กล่าวศัพท์เทคนิค ก็ เพราะอยากชี้ว่า ทั้งสองเป็น
เครื่องกั้นการทำสมาธิ ตามหลักการครับ

อย่างนี้ ต้องหาอะไรทำเพลินๆ แต่ต้องประกอบด้วยสมาธิแน่แน่ว

ก็ประมาณว่า สวดมนต์เยอะๆ บทอิติปิโส ก็ได้ สวดไปหลายๆจบ

หรือ ไปทำบุญ ไปคอยโยนให้อาหารปลา แบบ โยนทีละเม็ดๆ ให้เพลินๆ
ให้เย็นใจ ดูสายน้ำที่ไหลไปเรื่อย ดูปลาที่แหวกว่ายไปมา

ถ้ามี Hobby ง่านอดิเรก ที่ชอบทำ ที่สามารถจดจ่อได้เป็นเวลานานๆ สัก 30
นาที ก็เอามาทำก็ได้ครับ

มันจะได้ ความ พอใจ จ่อใจ วางใจ เย็นใจ( อิทธิบาท 4) ซึ่งเป็นอาหารของ
จิต จิตจะได้มีกำลัง ไม่ฟุ้งซ่านครับ

พอจิตมีกำลัง คุณอยากหยุดคิด หยุดฝัน ก็พอเป็นไปได้ครับ

 

แสดงว่ายังไม่รู้จัก "โนวา อนาลัย" กันเลย
ท่านพูดถึงความฝันเอาไว้เยอะครับ
แต่ก่อน ผมก็เคยคิดว่าฝันคือความคิด จินตนาการที่ตกค้างของเราเอง
ตามที่นักจิตวิทยาสอนกันแบบตื้นๆ แบบที่คิดและพิสูจน์ทึกทักเอาเอง
และเขียนเป็นตำราสอนกันทั่วบ้านทั่วเมืองนั่น เหมือนกัน

แต่ดูท่า..ของจริงอาจจะมิใช่เพียงแค่นั้น
มนุษย์นี้ ยังรู้น้อยนัก..

..ตระหนักไว้ให้จงดี..

 

ขออนุญาติขอรับ

เท่าที่กระผมอ่านดู มันคล้ายๆกับว่า พวกคุณหลับแล้วฝันว่านอนไม่หลับ

 

แก้ง่ายครับ
ก็ไม่ต้องนอนให้หลับสิ...5 5 5
(ล้อเล่น)

ฝันกลางคืน...มันมาจากฝันกลางวัน
คนที่ไม่ค่อยฝันในยามตื่น....ก็จะไม่ฝันในยามหลับ

คุณหัตถ์พระเจ้าเป็นคนชอบสร้างวิมานในอากาศ
คิดมาก คิดพล่าน ไม่มีขอบเขต ควบคุมความคิดไม่ได้
เป็นคน Sensitive อารมณ์อ่อนไหวง่าย
รัก - ชัง ง่าย เปลี่ยนความคิดง่ายดาย ไม่มั่นคง

ความฟุ้งซ่านตอนตื่น หรือตอนกลางวัน นี่หละ
เป็นตัวการให้ฝันยามกลางคืน

คนที่ไม่ฝันเปรียบเหมือน เทปที่ Delete ได้หมดตามต้องการ
ก่อนนอนไม่คิดมาก ไม่มีห่วงกังวลเรื่องใด ใจสงบเรียบร้อย...ก๊อหลับสบาย
เมื่อเรา Delete เทปไม่หมด ข้อมูลมันจึงค้างเติ่งอยู่ รบกวนเครื่องเทปของเรา

วิธีปฏิบัติมีผู้แนะนำไว้เยอะแยะแล้ว

ไม่เหลือวิสัยความสามารถแน่นอน

ขืนเป็นอยู่ยังงี้ต่อไป...คงได้ไปอยู่ในหัตถ์ของพระเจ้าอย่างรวดเร็วแหง ๆ
ขอให้ประสบความสำเร็จครับ

 

โอโห้ คุณ แอบยิ้ม พูดเอง เออเอง เอาผมไปวิเคราะห์ซะเองจนเสร็จสิ้นกระบวนความ

แล้วมันเรื่องอะไรกัน?

 

ก็ แค่ ฝัน (เรื่องธรรมดา)

แต่..ถ้าเอามาพูดในเว็บนี้ ละก็

เรื่องใหญ่แน่

พูดไปพูดมา กลายเป็นเรื่องแปลกไป ซะงั้น อ่ะ

 

จะแนะนำดีไหมเนี๊ยะว่า ลองจับลมหายใจเข้าออกดู
ว้า สงสัยเขาจะลองนั้งสมาธิก่อนนอนกันแล้วละมั้ง
อย่าแนะนำเลยดีกว่า เพราะเรานอนทำสมาธิ ก็ไม่ค่อย
จะได้ฝันกะเขาสักหน่อย อย่างนี้ต้องคิด เบาๆ
ไม่รู้จะมีใครได้ยินเราคิดไหมน๊า

 

อยากได้ความรู้เรื่องความฝัน เชิญที่กระทู้ มิติ ความฝัน ชาติภพของนักเขียนที่สื่อจากสติสัมปชัญญะไร้รูป "โนวา อนาลัย" อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม หรือรู้จักนักเขียน เชิญได้ที่ www.novaanalai.com หวังว่าคุณคงเป็นอีกท่านที่ถูกเลือก นักเขียนผู้ทำหน้าที่เป็นล่ามท่านนี้เป็นคนไทยอยู่ที่อเมริกาค่ะ

 

อ่านแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย แปลมา แปลกๆ นะ ผม ว่า เอ้อ เมื่อคืนก้อฝัน อีก แล้ว

 

แล้วคนที่มะค่อยฝัน หรือนานฝันที เรียกว่า โชคดีหรือโชคร้ายค่ะ (แบบว่าหลับจิงๆ) ตื่นอีกทีเช้าเลย (ไม่ค่อยตื่นมาตอนระหว่างนอน)