เรื่องพระเจ้า กับ พระพุทธเจ้า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย khajonsak9999, 12 กันยายน 2014.

  1. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ส่วนของพระเจ้า พระเจ้าคือทุกสิ่ง สาวกของพระเจ้าไม่จำเป็นจะต้องรู้ทุกสิ่งที่เป็นพระเจ้า สาวกของพระเจ้าจะพูด สมมุติใดใดมา ก็ล้วนเป็นสมมุติของพระเจ้า พระสันตะปาปาหรือบาทหลวงทั้งหลายที่เป็นสาวก ล้วนแต่ถือคำภีร์คำสอนของพระเจ้าเอามาพูดเอามาแสดง ไม่เคยเอาคำสอนของตนเองมาแสดงให้ สาวกทั้งหลายฟังเลย

    ส่วนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าคือ รู้ความจริงของทุกสิ่ง สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นผู้เรียนรู้ตามเส้นทางของพระพุทธเจ้า เพื่อรู้ตาม แต่ตราบใดที่สาวกยังไม่สำเร็จผลเหมือนพระพุทธเจ้า ก็ไม่น่าจะเอาที่ตนเองรู้นั้นมาพูดมาแสดงแข่งกับพระพุทธเจ้า นั่นเพราะ สาวกคือเรียนรู้เพื่อให้รู้ ไม่ไช่ให้แข่ง

    ทำไมสาวกของพระเจ้าถึงยำเกรงและเคารพในพระเจ้า
    แต่ทำไมสาวกของพระพุทธเจ้า ถึงไม่ยำเกรงในตัวของพระพุทธเจ้าบ้าง เช่น นี่คือคำสอนของหลวงพ่อองค์นั้น นั่นคือคำสอนของหลวงพ่อองค์นี้ โน่นคือวิชาของหลวงพ่อท่านนั่น นั่นคือความวิเศษของหลวงพ่อท่านนี้

    ทำไมล่ะ ทำไมสาวกของพระพุทธเจ้า ถึงไม่ สีบสานเจตนารมณ์ของพระพุทธเจ้าล่ะ ทำไมมีแต่สืบสานเจตนารมณ์ของตนเองล่ะครับ :cool:
     
  2. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ทำไมสาวกของพระเจ้า เอาคำสอนของพระเจ้ามาสอนประชาชนของเขาให้อยู่กันอย่างมีความสุขกับพระเจ้าได้

    แต่ทำไมสาวกของพระพุทธเจ้า ถึงเอาคำสอนของตัวเองมาพูดมาสอนเพื่อให้ตนเองอยู่ดีมีสุขล่ะ แบบแสวงหาลาภยศสรรเสริญเพื่อตนเองล่ะ แต่ไม่สามารถเอาใจไปอยู่กับพระพุทธเจ้าได้ล่ะ(เพราะศีลด่างพร้อยเลยหลบพระพุทธเจ้า)

    ซ้ำหาสาวกมาเป็นของตนเองในแบบตนเอง แต่ละวัด ว่าเชื่อและปฏิบัติตามคำสอนของสาวกผู้ตั้งตัวเป็็นอาจารย์ ที่ อาจขัดแย้งอ้างว่าเป็นคนละแนวทางกับพระอาจารย์วัดอื่น ทำไมสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นแบบนี้ล่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2014
  3. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าจิตใจด่างพร้อย ก็จะไม่มีวันเข้าถึงธรรมความจริงได้เลย

    มันก็เป็นเช่นนี้เอง
     
  4. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    วัดนี้มีกฏแบบนี้ปฏิบัติแบบนี้ ส่วนวัดอื่นก็ปฏิบัติในแบบของคนอื่น ทำไม สาวกของพระพุทธเจ้า จึงมีความคิดเป็นการทำเพื่อตนเอง แบบนี้ล่ะครับ ทำไมไม่พากันคิดที่จะทำเพื่อพระพุทธเจ้าล่ะครับ ตกลงทำไมสาวกของพระพุทธเจ้าชอบตั้งตัวเป็นครูอาจารย์แล้วสะสมลูกศิษย์ลูกหา ตั้งวิชาของตนเองขึ้นมาเพื่อ สอนแข่งกับพระศาสดาล่ะครับ ทำไม ต้องเป็นเช่นนี้ล่ะครับ

    และแข่งขันกันเอง เอาหน้าเอาตา วัดของตน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2014
  5. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ว่าแต่ว่า แล้วทำไม เราที่เป็นพุทธศาสนิกชน ทำไมพวกเราต้อง เฮโล หลั่งไหล แยกวัดนั้นไม่ไป วัดนั้นไม่ชอบ วัดนั้นไม่เหมาะกับเรา อาจารย์นั้นไม่ดี อาจารย์นั้นเจ๋ง ทำไม พุทธศาสนิกชน ถึงต้อง เลือกวัด ล่ะครับ ทำไมไม่เป็นวัดของศาสนาพุทธที่เป็นคำสอนเพื่อพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันแบบเดียวกันล่ะครับ ทำไม ไม่มีมาตรฐานเดียวกันล่ะครับ :cool:

    ทำไมสาวกสมมุติสงฆ์ที่ตั้งตนเป็นครูอาจารย์ ถึง เข้ากันไม่ได้ครับ
     
  6. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ผมที่เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง เอาเรื่องนี้มาพูด ผมผิดมั้ยครับ ผมมีสิทธิ์ที่จะพูดมั้ยครับ :cool:
     
  7. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    แล้วพระสงฆ์สาวก ที่เป็นสมี ทั้งหลายในประเทศไทย ที่โดนจับสึกก็มีมากมายล้วนโด่งดัง แล้วทำไมวัดบ้าน ที่มีพัดยศเงินเดือน บ้านหลังใหญ่โต กิจการพุทธพาณิชน์เจริญงอกงามเต็มวัด หลายสาขา ทำไมไม่โดน(เขาฉลาดเกาะกลุ่มช่วยเหลือกันป้องกัน รู้จักป้องกันตนเองไม่ให้มีช่อง) ซึ่งความจริงล้วนผิดพระธรรมวินัย แต่คนหมู่มากถึงผิดก็ยังเป็นคนหมู่มากนี่คือประชาธิปไตยแบบผิดๆ ไงครับ คนหมู่น้อยเอาผิดคนหมู่มากที่ผิดพระธรรมวินัยไม่ได้ หรือ

    เท่ดี เมืองไทยเรา
     
  8. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    โอม คนเหล่าใดที่ห่มผ้าเหลืองอยู่ แล้ว ทำตัวผิดพระธรรมวินัย ผิดศีล ขอให้ผ้าเหลืองนั้น จงลุกเป็นไฟ ดุจไฟนรกโลกัณฑ์ เผาใหม้คนที่อยู่ในผ้าเหลืองนั้น จนมันทนอยู่ในผ้าเหลืองไม่ได้ จนต้องมีอันออกมาจากผ้าเหลือง นับตั้งแต่บัดนี้และตลอดไปเทอญ เพื่อเป็นการ เลือกแต่คนดีดีเพื่อรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป สาธุ
     
  9. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    สาวกของพระเจ้า บาทหลวงทั้งหลาย สอนเน้นที่พระเจ้าให้ล้างบาป ล้างใจให้บริสุทธิ์

    แต่ทำไมพระสมมุติสงฆ์สาวกของไทยเรา ถึงเน้นสอนสร้างแต่คุณวิเศษ เครื่องรางของขลัง อิทธิริดปาติหารล่ะครับ และสอนให้ตนเองเด่นกว่า วัดอื่น ดีกว่าวัดอื่น เจ๋งกว่าวัดอื่น เพื่อ แสดงตนว่า มีคนศรัทธาตนเองมากกว่าวัดอื่น ทำไม จึงเป็นเช่นนั้นครับ

    ทำไมสาวกของพระพุทธเจ้าที่ไทยเราสอนแต่สะสมกิเลส สะสมบาปกันล่ะครับ
     
  10. banana603

    banana603 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +17
    ดีก็ตามไม่ดีก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็เป็นของโลก
    หากแต่ยังยอมรับเรื่องพวกนั้นไม่ได้ก็ยังตามกระแสโลกอยู่อย่างนั้น
    สิ่งต่างๆ ที่เป็น ก็เพราะเคยเป็นเคยทำมาเป็น เบื้องลึกในใจเป็นนิสัยปัจจัยต่อๆมา
    ผู้ใฝ่ดี ก้มักใฝ่ดี ผู้ใฝ่ชั่ว ก็จะมักคิดไปในทางชั่ว มันก็เป็นธรรมดาของเขา
    ที่ควรทำก็ได้แต่เพียง อธิบายว่า ทำดีแล้วยังไง ทำชั่วแล้วยังไง เปรียบเทียบช่างน้ำหนักให้เขาเห็น
    ว่าควรกระทำอะไร ไม่ใช่ขอให้ลุกเป็นไฟอะไรแบบนั้น
    ใจผู้ทำแต่เรื่องที่มีข้อตำหนิ แม้ตอนนี้ผุ้นั้นอาจไม่รุ้ ต่อเมื่อภายหลังได้รุ้ขึ้นด้วยตนเองแล้วว่าเป็นโทษต่อตนและผู้อื่น เขาก็จะเดือดร้อนใจเขาเอง ใจตนเป็นอย่างไรก็มักคิดว่าผู้อื่นเป็นแบบนั้นด้วย
    มันก็แพ้ภัยใจตนเองนั้นแหละ เปรียบดั่งผู้ที่ติดเหล้า เมื่อผู้อื่นเตือนแล้วว่าเกิดโทษ ก็ไม่ฟังไม่พิจารณา เมื่อภายหลังเกิดโทษขึ้นมาจริงๆ จะแก้อดีตก็ไม่ได้แล้ว ก้ต้องมานึกเสียใจที่ไม่รัยฟังคำเตือน
    สุดท้ายแล้ว มันก็ปัจจัตตัง อีกนั่นแหละ บอกไปก็ใช่ว่าจะเข้าใจทั้งหมด เสียเวลาเปลืองคำพูดเสียปล่าว....
     
  11. Aiyarath

    Aiyarath Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +74

    ขอแนะนำ ไม่อยากให้สาปแช่งเลยค่ะ เป็นบาปตกแก่ตน
    กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนอง ในบุญ..ในบาป สะท้อนกลับเท่าเทียม
    มีสิทธิ์คิด สงสัย กระทำ ชอบกระทู้นี้ แต่ต้องระวังอย่าให้ ความทรามของคนอื่น
    ต้องทำให้ตัวเราเปื้อนบาปไปด้วยการ สาปแช่ง..
     
  12. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เหมือนฟังธรรมะจากพระอริยะยังไงยังงั้นเลย:cool:
    ((อุปมาน่ะค่ะ)
     
  13. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    คุณไม่ได้ เข้าใจ ในภาษาที่เอามาพูดเลยนะครับ

    คนเขาสาปแช่งเพราะ โกรธเกลียด พยาบาทอาฆาตนะครับ โปรดเข้าใจด้วยนะครับ

    แต่คนที่ทำผิด หรือผิดกฏหมาย แล้วถูกลงโทษนี่ เขาเรียกว่า การรับกรรม เป็นไปตามกรรมครับ กรุณาเข้าใจให้ถูกด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

    จะให้ดี คิดก่อนที่จะเอามาพูด ก็จะดีนะครับ :cool:
     
  14. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    เช่นเดียวกัน ถ้าคุณทำผิด แล้วเขาเอาความผิดที่คุณทำผิดมาพูด มาประจาน มาลงโทษ เขาไม่ได้สาปแช่งไม่ได้นินทาคุณนะครับ กรุณาทำความเข้าใจด้วยปัญญาด้วยนะครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2014
  15. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ก็เหมือนกันครับ ท่านพระครับ กราบครับ
    คือว่าเมื่อเขารู้ ว่าตนเองมีเชื้อไฟ ก็ต้องป้องกันการลุกของไฟโดยการเลิกทำผิดหันมาทำดี ก็จะดีไงครับ ผมทำก็เพื่อต้องการแบบนี้เองครับ

    หรือถ้าเขายังอยากอยู่ในกองไฟต่อไป พระท่าน ช่วยอะไรได้มั้ยครับ :cool:
     
  16. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    งั้นผมขอถามคุณพระ นะครับ ว่า

    โอมของผม มันจะลุกเป็นไฟ ได้จริงมั้ยครับ :cool:

    กราบนมัสการครับ
     
  17. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    การพูดเพื่อให้คนที่ยังไม่ดีเป็นคนดี นี่ผิดด้วยหรือครับ

    นี่แค่พูดนะครับ แต่ตำรวจเขาทำเขาจับคนร้ายมาลงโทษ ทหารเขาทำเขาชำระล้างประเทศ ก็มีแต่สังคมสมมุติสงฆ์ในเมืองไทยนี่แหล่ะครับ หมกเม็ดกินเงียบ ไม่ส่งเสียงกลัว กลิ่นมันโชย กลัวจะเข้าตัว กินเงียบๆนี่ดีอยู่แล้ว นรกเอาไว้ทีหลัง เพราะบาปมันไม่ขี่ช้างสูบบุหรี่มา อิอิ :cool:

    ก็ผมนี่แหล่ะกำลังขี่ช้างจับตั๊กแตนอยู่ อิอิ
     
  18. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ก็ใครล่ะคือคนที่ กินปูนร้อนท้อง วัวสันหลังหวะ ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง คำสุภาษิตพวกนี้หมายถึงคนที่ไม่ดีนะครับ ไม่ไช่คนดี ผมไม่ได้ว่าให้หรือทำร้ายคนดี นะครับ

    ได้โปรดกรุณาทำความเข้าใจและแยกแยะด้วยนะครับ
    :cool:
     
  19. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    รู้กันมั้ยครับคำว่า บาปมันไม่ขี่ช้างสูบบุหรี่มาหรอก หมายถึงอะไร

    ก็หมายถึง เจ้ากรรม เจ้าแห่งผู้ทวงบาป ผู้สนองกรรม เขาขี่ช้างสูบบุหรี่ สุบบุหรี่หมายถึง เขามีไฟ จุดไฟได้ ดูที่ การที่เขาสูบบุหรี่นั่นแหล่ะครับ บุหรี่มันติดไฟอยู่ ไม่ได้ลุก แต่มันแดงๆร้อน นั่นแสดงว่า เขาคนนั้น สามารถจุดเชื้อไฟ เผาคนที่มีเชื้อไฟในตนได้ นั่นเอง นี่คือที่มาของคำว่า

    บาปมันขี่ช้างสูบบุหรี่มา ครับ ใครไม่อยากมีไฟลุกก็จง ทำลายเชื้อไฟ(อกุศลในจิตในใจของตนให้หมดนั่นเองครับ)
     
  20. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    คนที่เพลินในการทำบาปทำกรรมชั่ว ในทุกวันนี้ มันสนุกเฮฮาเพลิดเพลินเจริญใจกันเหลือเกิน มีชู้มีกิ๊กไม่สนศีลธรรมอะไรเลย แล้วกล่าวว่า กลัวทำไม บาป เพราะตัวบาป มันไม่ขี่ช้างสูบยา มาหรอก อิอิ

    แล้วคนพวกนี้ ก็จะรู้เองครับว่า บาปมันจะขี่ช้างสูบยามาหรือเปล่า วะฮ่าฮ่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...