กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lovepyou, 8 กรกฎาคม 2014.

  1. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    5555555 .... ท่านระมิงค์ปล่อยมุขอีกแล้ว ดิฉันก็ตายน้ำตื้นอยู่บ่อยๆเหมือนกัน
    แหมม... แต่ดิฉันก็แอบคิดไปว่าท่านระมิงค์ถามเผื่อคนที่ไม่ออกสื่อ แต่เก็บงำความสงสัยไว้ไม่กล้าถามหรือเปล่า หรือสงสัยจริงๆเนี่ย ท่าน toplus มาอีกคนดิฉันว่าดิฉันท้องแข็งแน่ๆ ฮ่าๆๆ

    พลังงานนี้ อืมมม .. จะบอกยังไงดีคะเนี่ย ลมก็ไม่ใช่ค่ะ น้ำก็ไม่ใช่ค่ะ แต่เป็นเหมือนทั้งสองสิ่งรวมกัน คล้ายของเหลวที่มีลักษณะเบา มวลสารหนาแน่นแล้วแต่การรวมตัวของพลังงาน (ดิฉันว่าแล้วแต่ปริมาณมากน้อย) เป็นเหมือนของเหลวไหลเข้าตัวน่ะค่ะ ดิฉันใช้ภาษาไม่เป็นน่ะ ไม่รู้จะบอกยังไงดี
    ลักษณะมีทั้งพุ่งเข้ามารุนแรงหนักหน่วงเหมือนรูปการหมุนที่ท่านระมิงค์ลงไว้นั่นแหละค่ะ คล้ายๆนะคะ แต่ไม่ใช่เลยทีเดียว ส่วนที่มาทางด้านหลังมาแบบนิ่มนวลไหลเข้าเบาๆแต่เอากันเกือบตาย เดี๋ยวให้คุณนพมาบอกดีกว่า

     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    เด่วขออนุญาตอธิบายส่วนนี้ให้ฟังนะครับ..อันดับแรกไม่ต้องใส่ใจ
    ว่าจะเห็นเป็นแสงหรือว่าเห็นแบบไม่มีแสงนะครับ..เพราะตรงนี้ยังไม่
    ใช่ประเด็นสำคัญ..ไม่ว่าจะเห็นแสงหรือเห็นแบบไม่มีแสงหรือคือ
    แบบใสๆเป็นเพียงอุบายวิธีการหนึ่งเพื่อเป็นฐานตั้งต้นให้จิตทำงาน
    สำหรับไต่ระดับฌานได้ในอนาคตครับ...
    ส่วนการจะใช้หลักของกสิณ ให้เข้าใจว่า..เป็นการสร้างให้จิต
    สร้างภาพด้วยตัวจิตเองเพื่ออนาคตจะเอาไว้สร้างกำลังจิต..
    ตอนนี้ควรตัดการใช้ความจำในการสร้างภาพทุกชนิด
    มิฉนั้นจะเป็นการสร้างความเครียดและทำให้ส่งผลกระทบ
    กับร่างกายได้เช่นบริเวณศรีษะ...ให้ย้ายความ
    รู้สึกลงมาที่ลิ้นปี่..แล้วพยายามให้ภาพอยู่ตรงนั้นให้ได้..
    และก็ให้มองผ่านจุดเหนือระหว่างคิ้ว..ให้เป็นนิสัย.
    เป็นการฝึกสติอีกรูปแบบหนึ่งและสร้างกำลังสมาธิ
    สะสมไปในตัวด้วยครับ..แม้กระทั่ง
    ตอนหลับตาก็ให้มองผ่านจุดนี้ไว้..เด่วต่อไปภาพนิมิตรจะขึ้น
    มาได้เองจากตัวจิต.จะเป็นการเห็นจากทิพย์จักขุ..
    และถึงจะปลอดภัยจากการสร้างภาพร่วมกับความคิด..
    ซึ่งตรงนี้ถ้ากำลังสติเราพลั้งเผลอไป.เราจะไม่ทันว่า
    นิมิตรไหนจริงนิมิตรไหนหลอกครับ..และต่อไปแม้ว่า
    เราจะเริ่มต้นด้วยการเห็นแสงก็ตาม ต่อไปถึงระดับใช้งาน
    ยังไงมันก็จะมีสีครับ...พอเข้าใจนะครับ
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ประมาณนี้..พิจารณาเองได้ครับที่เล่าให้ฟังตามความชอบเลยครับ..
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    โดยส่วนตัวอ่านของคุณพี่ raming2555 พอเข้าใจนะครับ.ตอนที่อธิบาย
    เรื่องอื่นๆกับบางคนที่ยังสงกะสัยอยู่แถมยังใช้ภาษาทางการที่ดีกว่าด้วย
    ส่วนตัวเลยไม่อยากเอามะพร้าวย้อนไปขายสวนเท่าไร ๕๕๕๕..
    ส่วนของคุณ toplus99 นะครับ..วิธีการไม่ว่าจะหลุมดำหรือหลุมขาวอะไรนั่นนะครับ
    ไม่ต้องห่วงว่าจะบ้าหรอกครับ..ถ้าบ้าป่านนี้.พวกต่างประเทศคงบ้าไปเป็นแสนคน
    แล้วคนแล้วครับ.๕๕๕๕.จะเล่าให้ฟังนะครับ..
    หลักการรักษาพวกนี้มันมีหลากหลายวิธีมากครับ..
    หลักการแบบคุณ toplus99 จะเหมือนกับกลุ่มที่เค้าถนัดสร้าง
    จิตนาการ.คือสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับจิตตัวเอง.บ้านเรา
    น่าจะเรียกว่าพลังงานจิตใต้สำนึกนั่นหละครับ...ในระดับที่ย้ำ
    คิดแบบคงค้างนานๆ..จนจิตมันเกิดการทำงาน..เข้าสู่สภาวะเป็นทิพย์.เลยไป
    เข้าสู่ของสภาวะธาตุรูปแบบของพลังงานได้แบบชั่วคราว..
    คล้ายๆกลุ่มที่เอากระดาษตัดตะเกียบอะไรนั่นหละครับ
    คือสังเกตุได้ว่าเราจะทำได้บ้างไม่ได้ และต้องตั้งใจพอสมควร
    และเราก็จะยังไม่สามารถใช้พวกพลังงานต่างๆหรือดึง
    พลังงานภายนอกอะไรมาใช้งานได้..
    ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของทางด้านนี้ครับ..
    จึงทำให้การรักษาโรคที่เป็นอยู่มันหายไป
    ได้อย่างน่าประหลาดใจนั่นหละครับ..เพียงแต่ส่วนมากคนที่ทำอย่างนี้เค้ามัก
    จะโน้มไปเพื่อการรักษาคนอื่นๆ(แต่ส่วนตัวเห็นว่าควรรักษาตัวเองให้ได้ก่อน
    นะดีแล้วครับเพราะจริงๆมันทำยากกว่ารักษาคนอื่นๆนะครับ)

    ..ส่วนหลุมดำหรือหลุมขาว เป็นการนำเอาพลัง
    งานไม่ดีพวกนั้นออกจากร่างกายไปสู่สถานที่อื่นๆครับ...
    เพียงแต่ส่วนมากเค้าจะกำหนดเผา
    ในลักษณะของการจินตนาการว่ามีไฟอยู่แล้วเผาเท่านั้นเองครับ(เพราะกลุ่มนี้
    จะไม่จำเป็นต้องฝึกกสิณมาก่อนก็ทำได้)..

    หรือบางคนก็กำหนดถ่ายลงสู่พื้นดิน..บางคนก็ใช้กสิณไฟเผาก็ได้..การกำหนด
    ออกให้ไปยังหลุมดำหรือหลุมขาว ก็ทำได้ครับ..เพราะว่าพวกนี้มันจะข้าม
    เรื่องมิติกับเวลา..ระยะทางจึงไม่ใช่ปัญหา.เราจึงพบว่าบางคนสามารถ
    รักษาได้แม้ไม่ต้องเห็นหน้ากันก็ได้ขอแค่คิดถึงได้ก็พอ

    การรักษาพวกนี้.แตกต่างกันที่หลักการในการดึง
    พลังงานไม่ดีออก..และการถ่ายเทพลังงานไม่ดีไปสู่แหล่งใดเท่านั้นเองครับ..
    ซึ่งทุกวิธีดีหมดครับ..แล้วแต่ความชอบ
    ..
    ปล.ส่วนพลังงานมันไม่มีรูปร่างครับ..เป็นคลื่นประจุไฟฟ้าชนิดหนึ่ง..
    แต่ต่างกันตรงที่ความหนาแน่นของคลื่นประจุไฟ้ฟ้า(เอามือจับได้ครับ)
    ความร้อน ความเย็น
    และเอกลักษณะของคลื่นที่แตกต่างกันเช่น ความละเอียดของคลื่น
    ความหยาบของคลื่น หรือคลื่นเรียบๆเป็นแผ่น คลื่นหมุนเรียบๆ
    คลื่นส่ายๆแบบความหนาแน่นไม่เท่ากัน คลื่นหมุนก่อนแล้ว
    ค่อยแสดงเอกลักษณะเฉพาะคลื่น..คลื่นกระจาย คลื่นตรงตึงๆ
    คลื่นตรงแน่นๆ คลื่นตรงแต่กระจาย.คลื่นรวมตัวกันดูไม่ตรง
    แบบต่างๆ คลื่นสายไปสายมา...คลื่นดูเหมือนยับ..
    คลื่นเป็นเส้น..คลื่นที่รวมหลายๆเอกลักษณะ...และตัวคลื่น
    โดยปกติมันจะใสครับ..ที่พูดไม่นับกรณีที่เป็นคลื่นจากดวงจิต
    ที่ทำให้เกิดสีหรือจากการที่จิตทำงานอีกแบบนะครับ..
    พวกที่เขียนๆให้อ่านเล่นนี้ เป็นคลื่น ของลักษณะพลังงานกสิณกองต่างๆ
    ทั้ง ๑๐ กอง คลื่นพลังงานภายนอกไม่ว่าร้อนหรือเย็น ดีหรือไม่ดี
    คลื่นพลังงานจากพระคาถาเฉพาะ และคลื่นพลังงานจากบทภาวนาเฉพาะ..
    แบบลักษณะกิริยาแบบหยาบๆที่จะสัมผัสได้ แต่อะไรเป็นอะไรยังบอกไม่ได้ครับ
    คลื่นพวกนี้ถ้าถึงจุดที่ดึงพลังงานกสิณได้แล้ว จะสามารถรับทราบ
    และสัมผัสได้ทุกแบบด้วยตัวเอง และสามารถทำให้บุคคลอื่นๆสัมผัส
    ได้ด้วยครับ..และถ้าหากใครตาดีหน่อย ด้วยกำลังสมาธิระดับขนิกสมาธิ
    จะสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าด้วยครับ..แต่ถ้าถึงจุดที่ดึงพลังงาน
    ขึ้นมาได้การสัมผัสเรื่องพวกนี้มันจะง่ายและเป็นปกติครับ

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังนะครับ
     
  5. [-VaLentine-]

    [-VaLentine-] กระผมสมาธิและกำลังจิตกากสุดในเวปนี้

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +486
    ขอบคุณท่าน nopphakan มากครับ คำตอบท่านเป้นแนวทางในการปฏิบัติได้ดีครับผม

    จะเข้ามาติดตามกระทู้เรื่อยๆ นะครับ ^^
     
  6. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    คุณนพคะ จักระที่ 7 มันเปิดเองได้ด้วยจริงๆค่ะ ดิฉันสังเกตุแล้ว แต่ดิฉันรู้สึกได้หยาบๆ คือมีอาการนั่นแหละค่ะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันหมุนๆ และจักระที่ 1 นี่ ยังไม่ได้สังเกตุค่ะ และทำไมบางครั้งดิฉันถึงมีอาการเวียนหัวอยากอาเจียนอีกละคะ เช่นวันนี้จะเข้าเวปฯ แต่พอเข้ามาก็ออกอาการ ทำให้ต้องหยุดและไปทำอย่างอื่นก่อน มาลองอีกทีก็เหมือนเดิม ดิฉันต้องควบคุมจุดไหนล่ะคะ
    คือการใช้ชีวิตประจำวันเราไม่ได้เข้าสมาธิเราไม่ได้ฝึกอยู่ แต่มีออกอาการ และช่วงนี้ดิฉันเห็นกสิณสีม่วงออกน้ำเงินหน่อยๆ เป็นสีที่ชอบเลยค่ะ แต่แว่บๆหาย
    ดิฉันเวียนหัวอีกล่ะค่ะ ไม่ไหวล่ะ เดี๋ยวเข้ามาใหม่ค่ะ
     
  7. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ช่วงหลังๆผมชอบอ่านที่คุณนพตอบคำถามครับ
    คงเพราะอ่านแล้วพอเข้าใจไม่เหมือนก่อนหน้าปีที่ผ่านๆมา แทบไม่อยากอ่านเลยมันมืดๆ
    ตอนนี้สว่างสะอาดสะอ้าน. น่าเข้ามาทักทาย
    อนุโมทนาด้วยใจครับคุณนพ

    ปล.
    กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินทั้งกายก็ดีวาจาก็ดีใจก็ดีขอให้คุณนพให้อโหสิกรรมข้าพเจ้าด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 สิงหาคม 2014
  8. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ย้อนไปหาตัวหนังสือสีแดงในประเด็นที่ ๓ ของคุณนพข้างบน ดิฉันว่าดิฉันพอจะได้คำตอบบ้างแล้วค่ะ ช่วงนี้พลังงานจะเข้ามาเรื่อยๆค่ะ ถ้าลองสังเกตุดูก็รู้สึกได้ เมื่อคืนวานนี้จะเป็นขมับซ้าย คืนนี้จะออกทางหัวกะโหลก

    คุณนพคะ คุณนพรู้จัก เสียง ของความเงียบไหมคะ ดิฉันเองก็เพิ่งมาสังเกตุได้ไม่นานนี้เอง บางทีดังจนแสบแก้วหูก็มีนะคะ ตัวนี้เป็นผลมาจากสมาธิด้วยหรือเปล่าคะ


    อ้อ ... คุณนพบอกว่าพลังงาน จับต้องได้ เดี๋ยวดิฉันจะลองดู
    ขอเพิ่มอีกข้อนะคะ จริงๆเคยถามไปแล้วเรื่องอาการฟ้าแล็บ ตอนที่ยังลืมตาเนี่ยค่ะ มาบ่อยเหมือนกันนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2014
  9. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    อืม พวกเสียงของความเงียบ อันนี้มันจะปรากฏคำแล้วสงสัยในช่วงที่กำลังฝึกสมาธิจนนิ่ง
    มันจะเริ่มหางานการให้ทำเพื่อให้หลุดออกจากสมาธิ ทำให้ไม่ก้าวหน้า
    มันจะพาไปศึกษานั่นนี่โน่น
    ให้รู้ทันมันครับ
    มัน ตัวดีเลยปรากฏปั๊ป หลุดเลย
    ต้องเข้าใจเรื่องสมาธิ. สมาธิความตั้งมั่น. อารมณ์เดียวจดจ่อ นิ่งอิ่มว่างสะอาดสงบ
     
  10. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ขอบคุณค่ะ ดิฉันเองก็ครึ่งๆกลางๆไม่ค่อยแน่ใจน่ะค่ะ ต้องถามคนที่มีประสบการณ์ เพราะถ้างมเองนี่หลุดแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ พอเข้าใจล่ะคะ
     
  11. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    แล้วก็ถามต่อนะคะ จริงๆก็สงสัยเหมือนกันว่า แล้วจักระนี่มันเกี่ยวกับกสิณตรงไหนคะ ดิฉันฟังๆมามันเกี่ยวข้องกัน พอทำๆไปมันชักจะเรื่องเดียวกันแล้วเนี่ย แล้วคนที่ฝึกกสิณสำเร็จ วิชาจักระของเขาต้องสำเร็จตามหรือเปล่าคะ จริงๆไม่เคยได้ยินวิชาจักระ ได้ยินแต่การเปิดจักระ แล้วทั้งสองสิ่งนั้น มันพ่วงตัวพลังงานเข้าไปด้วยอีกต่างหาก แล้วการใช้งานจากกสิณทั้งหมด ก็ต้องสัมพันธ์กับการเปิดจักระ การส่ง-รับพลังงาน ...
    ดิฉันเข้าใจถูกไหมคะ อ้อ .. มีกำลังของสมาธิด้วย กำลังของจิตด้วย

    โผล่ๆมาไม่ได้เริ่มที่ ก.ไก่ ขอคุณนพอธิบายทีค่ะ
    แล้วท่านระมิงค์เรียกพลังงานนี้ว่าอะไรคะ อันนี้ดิฉันอยากทราบว่ามีชื่ออีกหรือไม่

    ปล. ดิฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ ตอนที่สวดมนต์บทจักรพรรดิ์ อันนี้ดิฉันสัมผัสส่วนตัวไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า เลยมาถามดูค่ะ ดิฉันรู้สึกถึง"อะไร"บางอย่าง ไม่เหมือนพลังงานที่รับอยู่ เพราะมาทางจมูก รู้สึกจะเป็นเส้นใย คล้ายใยแมงมุม แต่คงยาวกว่ามากคงจะมีจุดเชื่อม แต่ดิฉันมองไม่เห็น แค่รู้สึกได้ เพราะบางครั้งถึงกับรำคาญน่ะค่ะ ...
    ทุกคำถามคือสิ่งที่สัมผัสได้ อาจนึกคิดไปเองก็ได้ ต้องขอให้คุณนพเล่าค่ะ ผิดถูกยังไง ก็ไม่อายครูล่ะค่ะ เดี๋ยวไม่รู้วิชา เกิดคุณนพถูกล๊อตตารี่รางวัลที่ ๑ พ้นจากภาระทางโลก แล้วหนีเข้าป่าไป ดิฉันจะถามใครล่ะคะเนี่ย .... ฮ่าๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2014
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ตอบ นั่นหละครับที่ส่วนตัวเรียกว่าเส้นสายพลังงานครับ..เด่วพอสัมผัสได้
    มากกว่านี้.มันก็จะเรียงตัวเป็นคล้ายๆตาข่ายครับ..ลองยื่นนิ้วชี้ออกไปแตะๆ
    เบาๆกลางอากาศดูแล้วหยุดจะพอสัมผัสได้ครับ.พอเราเลื่อนนิ้ว
    มือลงมาเล็กน้อยเหมือนไล่ระดับคล้ายตารางหมากรุก
    มันก็จะสะดุดได้เป็นบล็อกๆครับ.เส้นพวกนี้นี้หละครับที่ในอนาคต
    เราจะต้องมาจัดเรียงให้เป็นระเบียบตามแนวกระดูกสันหลัง
    ด้วยการดึงมันเข้ามาถักทอ..เพื่อให้แนว
    แกนกระดูกสันหลังเราสนามแม่เหล็กที่เคยเล่าๆให้ฟังช่วงที่ผ่านๆมาครับ.
    ประเด็นต่อไปนี้พิเศษหน่อยเอาว่าเล่าให้ฟังเล่นๆ
    แต่ถ้าพอเข้าใจได้ก็จะดีครับโดยเฉพาะในเรื่อง
    พฤติกรรมของจิตครับ..

    ลองนึกภาพเส้นสายคล้ายตารางหมากรุกในอากาศนะครับ.
    .พอเราไปจับมันและดึงมันให้
    ให้ยืดมาทางเรา มันก็จะดูเป็นคล้ายๆ กรวยจราจร
    ส่วนบนของกรวยส่วนที่เป็นวงกลม..ไอ้วงกลมตรงกลาง
    ที่หละครับ คือการย่นย่อระยะทางในทางมิติครับ.
    เวลาที่พวกเทคโนโลยีสูงๆเค้าจะเดินทางข้ามมิติข้ามเวลา
    เค้าก็ใช้หลักการนี้นี้หละครับ..เพียงแต่เค้าพัฒนาใน
    ขั้นที่ให้วัตถุไปปรากฏอีกมิติหนึ่งได้โดยที่ไม่เป็นไร..
    เราเรียกง่ายๆประตูมิติ ซึ่งบ้านเรามีเยอะครับ.ถ้าตา
    ดีหน่อยจะมองเห็นได้.เพียงแต่วิวัฒนาการของเรา
    ตอนนี้ทางฝรั่งว่าเก่งๆมากที่สุด
    เค้าจะไปได้เฉพาะในเรื่องของพลังงานครับ..
    พอจำได้นะครับที่ส่วนตัวพยายามบอกว่าเรื่องพลังงาน
    พวกนี้มันข้ามมิติและเวลาได้.หลักการมันก็คล้ายๆตรง
    นี้นี้หละครับ...

    แต่ว่าทางพุทธศาสนานะครับ..กลับเข้าถึงตรงนี้ได้ในระดับ
    ที่ข้ามมิติเวลาไปสถานที่ต่างๆ.และพัฒนาในระดับขั้นที่ไปได้
    ทั้งกายเนื้อ.อย่างที่เราอาจเคยได้ยินเรื่องของ

    เอตทัคคะผู้เป็นเลิศทางด้านฤิทธิ์ หรือแม้แต่พระฤาษีมีฤิทธิ์
    หลายๆท่านกลับทำกันได้เป็นปกติ.หรือแม้แต่ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพ
    เองก็ตาม..ด้วยหลักการคือ การไปขึ้นรูปตัวเองใหม่อีกมิติหนึ่ง
    แสดงได้ว่ามีพื้นฐานมาจากการสำเร็จวิชาเดินธาตุ.และสร้างตัว
    เองจนแนวกระดูกสันหลังเป็นสนามแม่เหล็กและมีความสามารถ
    แปรธาตุตัวเองจนสามารถกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล.
    .ลองคิดดูเล่นๆว่าสมัยก่อนเค้าเก่งขนาดไหนครับ..
    เรียกว่าหายใจเข้าออกภายใน
    ครั้งเดียวถึงระดับฌาน ๔ ได้..คงพอคาดคะเนได้ไหมครับ

    ว่าใครที่เค้าทำได้จะมีความสามารถและเครื่องรู้ขนาดไหนครับ
    เพราะฉนั้นระดับความสามารถอย่างเราๆในระดับรับรู้ สัมผัส
    และส่งพลังงานได้.แม้ว่าจะดึงขึ้นมาได้ทุกกอง สัมผัสเส้นสาย
    ส่งได้ ใช้ได้ จัดเรียงได้..มันจึงเป็นเพียงแค่ระดับพื้นฐานเท่านั้น
    ส่วนตัวเลยพูดได้เต็มปากเลยครับ.ว่ายังไม่เก่ง และอยู่แค่ระดับ
    พื้นฐาน เลยชิวๆเรื่องการแนะนำในเรื่องทำนองนี้.และไม่ได้
    ห่วงอะไรที่เล่าให้ใครฟังเลยครับ เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติ
    ที่จะทำให้มาถึง.จุดที่จะดึงพลังงานได้ สัมผัสได้ รับรู้ได้
    ใช้ได้ และจัดเรียงได้ นั่นเองครับ..และก็จะรู้สึกอย่างนี้ได้
    ทุกๆคนครับ.หากได้เดินมาถึงและไม่สนใจหรือไม่หมายหมั่นยึด
    ติดกับเครื่องรู้ระหว่างทางต่างๆ..ลักษณะนิสัยที่เคยๆเขียนบอก
    ไปเช่น การอย่าคาดหมายว่าจะได้การยอมรับ การฝึกเพิ่มเมตตา
    ให้ออกจากจิต ฯลฯ ก็เพื่อไม่ให้
    จิตไปยึดเกาะเรื่องพวกนี้เพราะมันจะขวางทางทำให้เราเข้าถึง
    ได้ช้านั่นเองไงครับ...
    ซึ่งระดับความสามารถเรื่องพลังงานในระดับถึงขั้นจัดเรียงเส้นสายได้
    ยังไม่สามารถที่แม้จะคิดเปรียบกับครูบาร์อาจารย์มีชื่อต่างๆ
    หรือพระสาวกหรือท่านพระมหาฤาษีสมัยก่อนได้เลยจริงๆครับ..
    ถ้าเราพอเข้าใจประเด็นที่เล่าเรื่องพิเศษให้ฟังนี้นะครับ..
    .เพราะฉนั้นแล้วบางคนจึงเคยได้
    พบได้เห็น..ครูบาร์อาจารย์ หรือ แม้แต่ระดับ พระพุทธฯ พระโพธิฯ
    พระในดงฯ หรือ เกจิอาจารย์บางท่าน ที่เราคิดว่าท่านล่วงลับไป
    แล้วด้วยตาเปล่า แบบเห็นปรากฏในแบบมีกายอย่างเรา และสามารถ
    เดินเหินได้เป็นปกติได้ในปัจจุบันไงครับ...


    ส่วนคาถาที่กล่าวถึงนั้น..ส่วนตัวพอรู้ครับว่าเป็นบทพระคาถาที่จะทำให้เข้าถึงพวกนี้ได้เร็วครับ
    เพราะเป็นบทที่หนุนให้ถึงระดับบุญฤิทธิ์ได้.
    ยังไงๆคนที่รับรู้หรือเกี่ยวข้องสัมผัสกับพวกเส้นสายพลังงาน.
    ก็ต้องได้มาท่องพระคาถาบทนี้เกือบทุกๆคนด้วยครับ.
    เพราะจะเป็นพื้นฐานที่ทำให้เราต่อยอด และเริ่มเข้าสู่ของเรื่อง
    เส้นสายพลังงานต่างๆพื้นฐานได้
    ..แต่มิกล้าพูดมากครับ..เพราะว่าไม่ใช่ศิษย์สายตรง..
    แม้ส่วนตัวจะพอทราบว่าพอมีสัมพันธ์อยู่บ้าง
    แบบคอยดูอยู่แบบห่างๆครับ..
    ปล.ประเด็นเรื่องพิเศษนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล่าเพื่อ
    ความเข้าใจในอนาคตนะครับ

     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ไหนๆก็ถามเรื่องเสียงมาแล้ว..และไม่ต้องห่วงครับ
    ยังไม่มีเข้าป่าง่ายๆครับ..ถ้าเข้าไปตอนนี้เตรียม
    ป้ายหลุมศพไว้รอได้เลยครับ ๕๕๕๕๕
    เด่วขออนุญาตเสริมเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับเสียงนะครับ..
    ประเด็นที่คุณ jittinon แนะนำนะถูกแล้วครับ
    เป็นเรื่องหลักการเกี่ยวกับการวางอารมย์ครับ..
    ส่วนที่จะเสริมเกี่ยวกับเรื่องเสียงเมื่อจิตเข้าสู่สภาวะของ
    ความสงบที่จะเกิดขึ้นได้.มีประมาณดังต่อไปนี้ครับ.
    ขอเล่าให้ฟังแบบหยาบๆไม่บอกแหล่งที่มาในบางข้อนะครับ..
    มันจะมีการพัฒนาตามลำดับได้ดังต่อไปนี้ครับ

    ๑.เสียงวัตถุหนึ่งเสียดสีกับวัตถุหนึ่งในลักษณะที่เราทราบต่ำแหน่งที่อยู่ไม่
    ห่างตัวเรามาก

    ๒.n--------------------------nที่อยู่ใกล้แต่เราได้ยินใกล้ๆหูขวา
    ๓.เสียงคล้ายๆเสียงคลื่นดังตื๊ดดดดด..ลักษณะเสียงเป็นเส้นตรง
    ออกจากกลางรูหูขวา..

    ๔.เสียงคำพูดจากภายนอกแบบขัดๆไม่ชัด ขาดช่วงจากทางใกล้ๆใบหูด้านซ้าย
    ๕.เสียงคำพูดแบบชัดถ้อยชัดคำจากฝั่งใกล้ๆใบหูด้านขวา
    และฝั่งขวายังมีเสียงในระดับ สูงไปทางด้านบนเยื้องขวาประมาณ ๒ เมตร
    และเสียงตรงกับหูขวาระยะห่าง ๑ เมตร

    ๖.เสียงผุดออกมาจากกลางลิ้นปี่
    ๗.เสียงออกมาจากแกนกลางกระโหลก
    มาถึงประเด็นนี้ อาจจะเจอกรณีฟ้าแล๊ป เสียงดังแสบแก้วหูได้
    และต่อไปจะเป็นเสียงดังเท่ากับเสียงฟ้าร้อง.ในความหมายก็คือว่า
    เราสอบผ่านเรื่องอะไรซักอย่าง.หรือสภาวะจิตเราได้มรรคผล
    อะไรซักเรื่องครับ ซึ่งตัวเราจะรู้ดีว่าเรื่องอะไร..

    ส่วนใครที่พอมีสัมผัสทางด้านนามธรรม.แต่หากยังไม่เคยได้ยินเสียง
    ดังเหมือนฟ้าฝ่า ฟ้าร้องดังกึกก้องกัมปนาทแล้วคิดว่าตัวเอง
    บรรลุอะไรซักอย่าง..ถ้าได้มาอ่านเจอข้อความตรงนี้.
    ยังพอจะปรับตัวได้ทันครับ...
    ๙.เสียงออกมาเยื้องจากแกนกลางกระโหลกเยื้องมาทางขวาประมาณ ๑ ซม.
    ๑๐.เสียงการเคลื่อนไหวของสัตว์ดังชัดเจนข้างๆหูขวา
    ๑๑.เสียงสัตว์สัมผัสกันด้วยร่างกายแล้วแปลงมาเป็นคลื่นความถี่
    ได้ยินเข้าไปตรงกลางกระโหลก

    ๑๒.เสียงคลื่นของสัตว์แล้วแปลงมาเป็นคลื่นความถี่เข้ากลางกระโหลก
    ๑๓.เสียงคลื่นเสียงจากภายนอก มาทางด้านขวายิ่งตรงไปที่กลางกระโหลก
    ไปยังต่อมไฟเนียลแกน

    ๑๓.เสียงเคลื่อนไหวของสัตว์.ที่รู้ทั้งต่ำแหน่งที่อยู่ และพิกัดความสูง..
    ที่เล่าลักษณะของเสียงมาให้ฟังนี้ เป็นผลมาจากความสงบของจิต
    ทั้งนั้นครับ..ยังไม่ถึงระดับใช้ได้.และมันไม่ใช่เรื่องปัจจัตตัง
    ที่มันจะพิศดารอะไรด้วยครับ.สามารถรับรู้และเข้าถึงได้ทุกๆคนครับ

    และการที่จะสามารถและสัมผัสได้
    ตามลำดับนั้น..หลักการก็คือ ถ้าไม่ทราบในขณะนั้นว่าคืออะไรโดยทันที
    ให้ลืมมันไปเลยและไม่ต้องเก็บมาคิดครับ.แล้วมาสร้างสติทางธรรมต่อ
    ด้วยการเจริญสติในชีวิตประจำวันตามแต่วิธีการที่ตนถนัด.
    .แล้วก็จะค่อยๆสัมผัสได้และทราบได้เองตามลำดับ.
    ด้วยกำลังสติทางธรรมตัวนี้ที่เราสร้างนี่หละครับ
    และจะทำให้เราเข้าใจได้เอง
    ว่าเสียงแต่ละเสียงคืออะไรด้วยตัวเองด้วยครับ..
    หากพยายามค้นคำตอบ ด้วยการพยายามคิด ก็จะติดอยู่ในลำดับนั้นๆ
    ทางปฏิบัติเค้าถึงพยายามให้แค่เพียงแต่ได้ยิน ได้รู้ ได้ฟัง นั่นหละครับ..

    ปล.พอคาดคะเนได้ไหมครับ...ประมาณนี้ครับ..
     
  14. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    คุณนพคะ ดิฉันขอสารภาพ ว่าจริงๆแล้วเนี่ยดิฉันแค่อยากฝึกกสิณ ดิฉันตามท่านระมิงค์มา ทั้งๆที่ดิฉันก็ยังลังเลสงสัยอยู่ว่าท่านระมิงค์ "ตั้งใจ" ในเรื่องนี้หรือเปล่า หมายถึง คำถามทุกๆคำถามที่ดิฉันได้ถามไปนั่นแหละค่ะ เพราะส่วนตัวก็ไม่ค่อยเชื่อว่าท่านระมิงค์ยังไม่สำเร็จกสิณ

    โดยส่วนตัวแล้วไม่มีคิดว่าคำถามที่สงสัยจะมีอะไรที่เป็นจริงเป็นจังขึ้นมา คือไม่ค่อยเชื่อนั่นแหละค่ะ ดิฉันยังไม่ละวิกิจฉาได้เต็ม ๑๐๐ แม้จะไปที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรที่วัดท่าซุงมา แม้จะมีโน่น นั่น นี่ บ้าง แต่ดิฉันก็ยังคิดว่ามันเป็นแค่อาการทางกายบ้าง คิดไปเองบ้าง จินตนาการบ้าง ฯลฯ ส่วนตัวคิดว่าปฎิบัติแค่นี้จะรับรู้อะไรได้ล่ะ เลยทำให้ปล่อยผ่านมานาน ไม่ถามใคร ไม่ติดตาม ที่สำคัญก็ไม่รู้จะไปถามใคร กลัวใครเขาว่าบ้่า ขนาดไปหอนในเฟส น้องสาวดิฉันเนี่ยแหละที่ว่าดิฉันบ้าไปแล้ว .. ช่วงนั้นบ้าพระจันทร์มากค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังบ้าอยู่ ๕๕๕๕๕๕๕
    คือก็เซอร์ไพร้ท์มากค่ะ ในคำตอบที่ได้รับ ว่าเฮ้ย ... มีแบบนี้ด้วยเหรอ มีจริงๆเหรอ แต่ท่านระมิงค์และคุณนพไม่ต้องกลัวดิฉันจะยกหูชูหางหรอกนะคะ พอจะทราบเดาได้อยู่ค่ะ และดิฉันต้องเรียนรู้ให้มากด้วย

    ไหนๆก็ไหนๆล่ะค่ะ งั้นดิฉันขอถาม "รสชาด" ของตัวคาถานี้หน่อยค่ะ ดิฉันมีประสบการณ์ที่อาจคิดไปเองอีกแล้ว คือเรื่องมันมาจากคนโดดตึกน่ะค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดิฉันก็ไม่ลืม และนั่นเป็นที่มาของคำถาม ไม่เล่ายาวล่ะค่ะ ให้คุณนพตอบดีกว่า คำถามคือ คาถา มีรสชาดด้วยเหรอคะ เวลาที่คาถานี้มีผลต่อภพภูมิในทันทีขณะนั้นๆ
     
  15. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    เอ่ เดี๋ยวนะคะ เอาเป็นว่าสมัยที่ยังรุ่นๆจะมีหนังของคุณ หลิวเต่อหัว ที่หัวเราะแล้วมีพลังเสียงออกมาทำให้คู่ต่อสู้ที่เป็นจอมยุทธท่านอื่นล้มระเนระนาด หรือถึงกับกระอักเลือดด้วยเสียง ...ประมาณนี้ค่ะ คือมันคงจะเกี่ยวๆกับรสชาดของคาถาหรือเปล่าคะ

    ทุกวันนี้ไม่ดูหนังจีนกำลังภายในแล้วนะคะ ตอนเด็กๆก็บ้ามากๆค่ะเรื่องพวกนี้น่ะ ๕๕๕๕๕๕
     
  16. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    คุณติงติง เลิกฟังเพลงในหลุมดำแล้วหรือครับ
    แสดงว่า โดนคุณระมิง ไปตามตื้อเพราะความคิดถึง ดึงคุณติงติง ออกมาจากหลุมดำจนได้นะ ว่าแต่ รักแท้แพ้ความไกล้ชิดนะครับ หรือไกล้ชิดกันบ่อยๆ ก็อาจเกิดรักแท้ได้นะครับ
     
  17. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    เรื่องสูดลมหายใจเพียงครั้งเดียวเข้าฌาณ4ได้เลยนั้น ผมทำไม่ได้ ขืนผมทำเข้าจะโดนด่าสาดเสียเทเสีย คือท่านสั่งว่า ฌาณ4ต้องทรงตลอดเวลา ไม่ใช่จะใช้แล้วมาเข้าฌาณ4 ถ้าแกทำอย่างนั้นนี่แกถือว่าเลวมาก เลวที่สุด เพราะฌาณ4ต้องทรงไว้ตลอดเวลาและเวลาจะใช้ก็ห้ามใช้เวลา คือต้องใช้ได้ทันที ท่านให้ทำให้ได้ภายใน3เดือน แต่ก็สารภาพอย่างไม่อายว่าผมใช้เวลาไปกว่า20ปี แต่หนุ่มน้อยยันหนุ่มเหลือน้อย อีกองค์หนึ่งสั่งให้ทรงสติสัมปชัญญะให้ได้ตลอดเวลาเช่นกัน มันยากเกินไปนะครับสำหรับคนธรรมดาอย่างผม ผมจึงต้องทำชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู ผ่านตายแล้ว ผ่านพิการแล้ว ผ่านน้ำตาตกมาก็หลายครั้ง ไม่รู้เวรกรรมอะไรเหมือนกัน....คงเพราะปรารถนานรกภูมิมาเสียล่ะมั๊งเนี่ย...

    คุณระมิงครับ ที่ผมเอามาเล่าให้ฟัง ก็เพื่อให้รู้เท่านั้นครับ ว่าแต่ พระของคุณท่านชื่ออะไรครับ ถึงต้องมีคำสั่งกำชับ กำกับในตัวคุณเอาไว้มากมายนักล่ะ ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรครับ อาจมีวาสนาได้เจอในนิมิตรก็ได้ อยากให้คุณระมิง ช่วยวิจารย์พลังในตัวผมหน่อยครับ ว่ามันเป็นลักษณะไหนครับ ฌาณสี่ของผม มันทรงมั้ยครับ หรือไม่มีฌาณอะไรเลย ขอบคุณล่วงหน้าครับ
     
  18. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    ผมอ่านที่คุณโพส จบไปรอบหนึ่งแล้ว ของคุณติงติงผมไม่ได้อ่านหรอก อย่ากล่าวโทษคนที่คุณรักดิ
     
  19. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    แล้วคำตอบเรื่องพลังของผมเป็นลักษณะไหน และฌาณสี่ของผมล่ะ มันมีมั้ยครับ

    ผมอนุญาติให้คุณดู
     
  20. กลายแก้ว

    กลายแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +634
    ที่ผมแซวเรื่องความรัก อย่าโกรธผมล่ะ แค่แซวเล่นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...