" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

ความตายที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก ... ไม่รู้จะดีใจ หรือ เสียใจดีกับคำทำนายนี้ เพราะมันหมายความว่า กาลีนะ ยังต้องอยู่ในโลกนี้อีกนาน ไม่ตายด้วยอุบัติเหตุ ไม่ตายด้วยโรคเรื้อรังที่ฆ่าชีวิตคนในเวลาอันสั้น

ต้องถูกแมลงวันกัดตายสิ...รับรองว่าจะประหลาดที่สุดในโลก...
เวลาผมจะต้องสาบานว่า "ข้าฯจะขอรักเดียวใจเดียวตลอดไป หากผิดคำสาบาน ขอให้แมลงวัน แมลงหวี่ กัดตาย...ย..."
มุขนี้ใช้บ่อยเชียวแหละนะ...
หนูพายุเอามุขนี้ไปเล่นบ้างก็ได้นะ...แค่ระวังคนข้างๆหมั่นไส้กระซวกเอาก็แล้วกัน...หลบให้ทันแล้วสวนเลย...อิอิ

 

ความตายที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก งั้นถ้าตายแบบเท่ๆ ก็ไม่เป็นไรนะคะคุณกาลีนะ

ยิ่งแปลกระดับโลกด้วยแล้วก็ยิ่งถือว่าไม่ตายเปล่า

สำหรับข้าน้อย ขอแค่ ตายแบบไม่โป้เปลือยอุจาด ไม่เจ็บมาก ทำนองนี้น่ะค่ะ


เห็น ในละครแต่ก่อน ชอบขู่ว่าจะกลั้นใจตาย แล้วก็ตาย

เคยลองดูก็ยากอยู่นะคะ

คือตาย ไม่น่ากลัวหรอกค่ะ ที่น่ากลัวคือ เจ็บนี่ล่ะ
พ่อบอกว่า ตระกูลเราตายไม่กลัว พ่อกลัวเจ็บ (ลูกก็เห็นควรด้วย)


ท่านระมิงค์ คะ
เค้าไม่มีผู้คนให้เล่นมุขนี้เลยค่ะ ๕๕๕๕

หนูเคยแต่บอก ไอ้ชาติหมา ผักบุ้งที่อยู่ด้วยกันว่า

หม่าม้ารักผักบุ้ง ผักบุ้งเป็นหมาสุดที่รักที่สุดในซอย ๑๑ นี้เลย ไม่น่าเชื่อเราแม่ลูกจะหน้าตาไม่เหมือนกันผักบุ้งขนดกไปหน่อยนะลูก(หมาก็รำคาญ)

 

55555555 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และ ของฝากจากทางไกลนะคะ .. รู้สึกดีขึ้นมาเลยคะ อิอิ ...

... คิดอยู่ว่าพี่มิงค์ต้องทราบและก็เดาถูกจริง ๆ ต่พลาดตรงที่พี่ไม่ยอมบอกว่าจะรักษาอาการทรมานด้วยโรคนี้ยังไงเพราะใจจริงแอบหวังเล็ก ๆ เหมือนกัน .. :'(

... สัญญา และ สาบานว่า จะอยู่ครองคู่กันตลอดไป สุดฟากฟ้าสุลาลัยไกลแสนไกลแค่ไหนก็จะต้องกลับมาอยู่ครองคู่กัน .... ใครผิดคำสัญญานี้ต้องตาย ...
.... ขอให้สุดที่รักยกโทษให้ เกิดชาติหน้าฉันท์ใด .. ข้าจะชดใช้ให้ท่าน .. ( เขาตายเรายังอยู่ )

.... เป็นไงคะเด็ดไหม๊คะเหมือนละครน้ำเน่าสมัยก่อนเลยคะ เห้อ ๆ แล้วใครคนหนึ่งก็ตายจริง ๆ และ ได้มาอยู่ครองคู่กัยจริง ๆ แต่คนละภพภูมิ .. เอาไปเขียนนิยายขายได้เลยคะ ... มีคนบอกให้เอาไปเขียนเหมือนกัน แต่ กาลีนะ เขียนไม่เป็นคะ .. เพราะหากจะย้อนไปที่ต้นกำเนิดมันก็เลยพันสามร้อยปีได้ .. มันยุ่งยากแค่รับรู้ก้พอความจริงวิธีแก้ก็มีท่านหนึ่งเมตตาบอกมาเหมือนกันคะแต่มันทำยาก เลยอาศัยช่องโหว่ไปก่อน .. ก้เลยได้คำแนะนำเพิ่มมาอีกว่า .. พยายามแก้ไขปัจจุบันไปทีละเปราะอดีตมันผ่านไปหมดแล้ว ...

... กาลีนะ อาจจะไม่ใช่กลุ่มคนพิเศษที่มีความสามารถเห็น หรือ หยั่งรู้เรื่องราวของคนอื่นได้ ... แต่ก็ได้สิทธิพิเศษในเรื่องของตัวเองคะ ... อ.ต๋องท่านเคยให้กำลังใจว่า " เธอโชคดีกว่าคนอื่นตั้งมากมายที่รู้ว่าตัวเองเกิดมาทำไม และ ตายยังไง ยังมีคนอีกมาที่ไม่รู้อะไรเลย " ... จากนั้นก็เริ่มลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ แบบย้อนกลับไปเท่าที่จำได้จึงได้เกิดมหากาพย์ที่ชื่อว่า " ผีอำ หรือ ฝันไป ฯ " นั้นเอง .. " ประสบการณ์คนทักว่ามีองค์ ฯ " อันนี้เกิดจากความรู้สึกไม่เป็นธรรมที่เห็นคนหลาย ๆ คนในชีวิตเจอ และ โดนหลอกลวงมาอยากให้ความรู้นั้นเกิดประโยชน์ " ปอบ ฯ " เป็นการแสดงแง่ลบของการหลงผิด ผล ของการใช้อวิชา ความไม่รู้ ... และ ความรู้ประสบการณ์ทุกอย่างก้เพื่อหวังจะให้บุญกุศลทั้งหมดนำทางให้ กาลีนะ พ้นจากกรรมหนักต่าง ๆ ที่ได้สร้างไว้ในอดีต เพื่อชดใช้ให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย .. คิดแล้วเรื่องมันเศร้า :'''(

 

อ่านมาสองวันแล้ว เพิ่งจบ ได้ความรู้ใหม่ๆแยะเลย ขอบคุณครับ สนุกมากเลยกระทู้นี้ อิอิ

 

พิมพ์เล่าเรื่องให้แม่กาลีนะแล้วนะ พอถึงเรื่องเกี่ยวกับพระแม่อุมา เรื่องวัตถุประสงค์ที่มาเกี่ยวข้องกับแม่กาลีนะ และกำลังจะบอกวิธีการเข้าไปเพื่อรู้วาระจิตของมหาเทพองค์นี้ว่าท่านคิดอะไรอยู่ในจิตของท่านที่ปิดซ่อนเอาไว้อยู่นั้นต้องทำอย่างไร ข้อความทั้งหมดก็หายไปจากจอ...จึงจำจะต้องเสียเวลาพิมพ์ใหม่...เดี๋ยวจะพิมพ์ใน word ก่อนแล้วค่อยก็อปมาแปะ แล้วโพสอีกที ขอเวลาหน่อยนึงนะ ไม่เกินอาทิตย์นึง ถ้าเกินอาทิตย์นึงทวงได้เลย มีปะฉะดะ ก็ไม่เป็นไร ทั่วสามโลกไม่เคยเกรงกลัวใคร จะมีก็องค์เดียวเท่านั้นที่เคารพยำเกรงและยอมให้ ดังนั้นไอ้เรื่องพิมพ์ไปแล้วเจอลบเนี่ยนะ...จะพิมพ์มันขึ้นมาใหม่และจะโพสได้ด้วย ดูสิว่า มีอะไรหรือเปล่า???

 

.. คะพี่ หนูจะรอ .. (deejai)(deejai)

... ความจริงในชีวิตนี้ก็ฝันถึงท่านหลายองค์เหมือนกันคะ .. มาหลายรูปแบบจนงง เด็ก ๆ ก็มาแบบเสียงพูดกับเราในหัวคุยกันเวลาเราอยู่คนเดียว พอโตก็หายไป ความสามารถหลาย ๆ อย่างก็หายไปด้วย .. แต่ก็เข้าใจว่าจิตใจเรามันเริ่มแปดเปื้อแล้ว ตอนอยู่ที่นี้ก็ฝันบ่อย แต่ดูเหมือนหนูจะทำให้ท่านเคืองเพราะความดื้อรั้นบ่อยมาก ... แต่พอเวลาเราตกที่นั้งลำบากท่านก็ไม่ทิ้งเรา เมื่อหลายวันที่แล้วที่ได้กล่าวถึงคำทำนายของ อ.ต๋อง เพราะไปเปิดเจอบันทึกเก่าที่เขียนไว้ว่าท่านทำนายอะไรไว้ให้บ้างคะ เลยเอามาลงบางข้อลงหมดกลัวคนจะหาว่าเราโม้ .. แต่ก็ช่างเถอะคะ .. แค่เราไม่พูดโกหกก็พอ ... อีกหนึ่งคำที่ท่านบอก " เกิดมาด้วยหน้าที่ " ซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่าคืออะไรท่านไม่ได้บอก .. บอกแค่ว่าไม่ได้ให้มาดูดวงคนก็พอ .. เพราะเราเองจะเจอกรรมหนักไปด้วย ... ส่วนตัวก็รู้สึกแบบนั้นตั้งแต่จำความได้ .. แต่ไม่รู้ว่าคือให้ทำอะไร .. รู้แค่ว่ามันยาก และ หนักมาก ๆ กลัวทำไม่ได้ ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่อยากเป็นเด็กตลอดไปไม่ต้องรับผิดชอบหน้าที่นั้นทั้งที่ไม่รู้มัน คือ อะไร ???? แต่รู้แน่ ๆ เกิดมาอาภัพรัก !!

 

... ทุกวันนี้เวลาที่เหนื่อยมาก ๆ ทั้ง กาย และ จิต มักจะได้นิมิตแปลก ๆ คะ .. ย้ำว่ายังไม่หลับนะคะ แค่หลับตาลงกำลังจะเคลิ้มคล้ายช่วงเวลาผีอำ แต่นี้ไม่ได้อำคะ จะเห็นภาพเทพแขกมายิ้มให้เป็นภาพสีแดง ๆ เงา นึกสภาพเราหลับตาตอนเปิดไฟนอนนะคะ ( กาลีนะ เปิดไฟนอนมาตั้งแต่เด็กคะ กลัวความมืด ) มันจะเป็นสีแดง ๆ นั้นแหละคะมันจะมีภาพท่าน และ คู่ของท่านมายิ้มให้ และ หูจะได้ยินเสียงภาวนาแว่ว ๆ มาแต่ไกลว่า " โอม เจมา ตากี ๆ ๆ " เบา ๆ จนเราหลับไป ไม่มีแรงขัดขืนไม่กลัวรู้สึกปลอดภัยมากกว่า .. ต่างจากสมัยก่อนที่จะฝันว่า ยายของเรา ( แกยังอยู่คะ ) มาพาเราไปพิธีรับขันธ์แล้วเราก็หนีตลอด .. ความต้องการของหนูตอนนี้คืออยากหายจากโรคผิวหนังนี้เพราะจะได้สามารถทำงานได้เหมือนคนปกติเขาเหมือนสมัยก่อนเสียที .. ทุกวันนี้ต้องพยายามอยู่ในที่เย็น ๆ ไม่โกรธ สงบจิตใจไม่ให้ร้อน ไม่ให้ฟุ้งซ่าน เพื่อที่จะไม่ได้เกิดอาการร้อนภายในขึ้น ด้วยทุกวันนี้ กาลีนะ แบกโรคไว้กับตัว 5 โรคด้วยกันเท่าที่รู้นะคะโรคอื่นยังพอทนได้แต่ผิวหนังนี้สิเป็นอุปสรรคมากคะพี่

 

แหม...อ่านแล้วน่าสงสารจัง ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะช่วยให้ดีขึ้นบ้าง จริงจริงนะ

หลายวันก่อน ก็สื่อสารกับ "ฝั่งโน้น" ไปครั้งนึงแล้ว
ยื่นข้อเสนอไปด้วย ก็นึกว่าดิวกันแล้ว จะจัดการให้เรียบร้อย

เมื่อวาน อ่านแล้ว จิตก็ไหลไป ว่าจะทำอะไรได้อีกบ้างน๊า
จากรอยแผลที่ผิวหนัง ก็ฉายภาพเข้าไปในเซลล์ใต้ผิวหนัง
ไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ ถึงกระดูก แล้วก็ตามลงไปถึงระบบไหลเวียนโลหิต

สุดท้ายก็พบเกลียวดีเอ็นเอ จับภาพหมุนไปมา ปรับโน่นปรับนี่
แล้วสั่งอะไหล่มาให้ใหม่ชิ้นนึง ใส่เพิ่มเข้าไปในเกลียวดีเอ็นเอ
เนี่ยนะ ซ่อมให้ถึงระดับโมเลกุลแล้ว หวังว่าต้องดีขึ้น ในอีกระยะนึง ล่ะมั้ง นะ

โอมมมมมม


หมอมือเปล่า / เล็บครุฑ นารายณ์ทรง
.

 

... ขอบคุณมากคะพี่ ^^

.. เท่าที่ทราบปัญหามันน่าจะอยู่ที่เลือดคะ

 

เกิดจากโรคเลือดอย่าที่ว่าจริงๆแหละนะ แต่เบื้องหลังโรคเลือดนี้เป็นโรคกรรม ทำมาแต่ว่าไม่เล่าดีกว่าว่ากรรมอะไร พิสูจน์ไม่ได้ ... เอาว่ากรรมเก่านี้กำลังจะคลายตัว จะค่อยๆคลายตัว จากที่รักษาไม่หาย ทำอย่างไรก็ไม่หาย จะเจอหมอเจอยา ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคเลย แต่กินแล้วอาการทุเลาลงไปมาก อันนี้จะมี แต่จะให้หายขาดเลยนั้นไม่หาย นานๆจนเกือบลืมไปแล้วจะกำเริบขึ้นมา กำเริบมาก็จะไม่หนักและใช้ยาคุมไว้ก็ระงับอาการได้ แต่เวลานี้คงต้องทนไปสักระยะนึงก่อน ที่ว่าหายขาดได้เลยนั้นมีดีเหมือนกัน เพราะถ้าโรคนี้ ที่เป็นโรคกรรม หายขาดไปเลย กรรมเก่าตัวใหม่ที่รอคิวจะมาแทรก เขาจะเข้าทำร้ายทันที ทีนี้คงถึงมะเร็ง แต่ถ้ากรรมเก่าตัวนี้ยังคุมอยู่ ตัวใหม่ที่จะมาแทรกยังเข้าไม่ถึง เอาไว้พร้อมลุยเมื่อไรค่อยว่ากัน แต่เวลานี้ประคองอยู่กับกรรมเก่าแบบนี้ไปก่อน มันก็เป็นเทคนิคนึงเอาไว้เลี่ยงกรรมใหม่ได้เหมือนกัน...

อ้าว...ลืมไปว่านี่กระทู้ปอบนี่นา ไม่ใช่กระทู้ปอบ...
งั้นถามเรื่องสนุกๆละกันนะ...
ทำไมมีแต่แม่ตะเคียน ซึ่งต้องสิงต้นตะเคียนเท่านั้น ไม้สัก ไม้ชิงชัน ไม่ยอมสิง?
ผีตานีก็สิงแต่กล้วยตานี กล้วยน้ำว้าปากช่อง50 หรือกล้วยไข่ กล้วยหอม ทำไมไม่ยอมสิง?
แม่ย่านางเรือ พวกเรือยอจ์ชหรูๆนี่ เค้ามีการประมูลกันเพื่อเข้าไปเป็นแม่ย่านางเรือหรือเปล่า ใครเป็นคนตัดสินว่าแม่ย่านางตนไหนจะไปอยู่เรือหรู เรือสำราญ หรือเรือเอี้ยมจุ๊นกันล่ะ?
แม่ย่านางรถ เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร นี่ดีนะที่พิมพ์ เพราะถ้าให้ออกเสียง ผมจะออกเสียงผิดทุกครั้งไป ไม่ได้แกล้ง แต่คงเพราะเคยล้อเตี่ยมาเยอะ มาเป็นซะเอง ผมจะเรียกเป็น แม่น่ายาง หรือแม่ย่ายาง หรือแม่หน้านาง แล้วก็งงเสียเอง..เอาเหอะ...
เป็นว่าแม่ย่านางรถนี่เขาไปเข้าคิวรอกันที่โรงงานประกอบรถยนต์ที่ระยองเลยหรือเปล่านะ แล้วจะเลือกยังไงว่าใครจะได้ซุปเปอร์คาร์ หรือใครจะสิง Eco Car อ่ะจ่ะ...

 

ครับ ก็ไม่ได้ทราบดี ว่าระบบหมุนเวียนโลหิต และกำจัดของเสียจากเลือด มีปัญหา

แต่ถ้าลงไปซ่อมถึงดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นส่วนออกแบบทุกชิ้นส่วนของร่างกาย น่าจะมีผลดีได้มากกว่า
เมื่อปรับพิมพ์เขียวได้ตามต้องการ ฝ่ายผลิตก็ทำตามออร์เดอร์แบบใหม่
จนส่งมาถึงโรงงานประกอบเซลล์ ก็จะได้โลหิตรุ่นใหม่ครับ
พร้อมกับการปรับปรุงส่วนรีไซเคิ้ลโลหิต ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นครับ


หมอมือเปล่า / เขี้ยวแก้ว
.

 

ยินดีด้วยครับ ที่อา...อืม...ให้เป็นน้าดีกว่า เรียกง่ายดี
ที่น้าเค้าว่าจะดีขึ้นมาก จนเกือบจะไม่มีอาการใด มาให้รำคาญใจได้มากนัก จริงนะ

ส่วนเรื่องกรรม เราก็เคยคิดแบบนี้เลยครับ เมื่อหลายปีก่อนโน้น นานแล้วล่ะ
บังเอิญว่า มีวันนึง ก็เกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมาได้เองในหัว ถามตอบกันเองอยู่พักนึง สรุปได้ว่า
บางเรื่องปล่อยให้มันเป็นไปแบบเนี้ยแหละ ดีแล้ว พอรับมือไหว ชินชาแล้ว
ถ้าไปแก้ซะให้หมด เดี๋ยวมันก็มีของใหม่เข้ามาอีก อย่าแก้ปัญหานี้เลย

แถมยังทำตัวให้เสียเปรียบเพิ่มขึ้นอีก คล้ายเพิ่มแต้มต่อให้ฝ่ายศัตรูน่ะครับ ไม่รู้มันคิดได้ไง
อาจจะเป็นการชิงลงมือก่อน ฝ่ายตรงข้ามก็เลยออกอาวุธได้ไม่ถนัดนัก เพราะเราลำบากมากขึ้นแล้ว ๕๕๕

คิดไปคิดมา นี่อาจจะเป็นเทคนิคนึงที่เราคิดค้น ขึ้นมารับมือกับกรมเจ้ากรรมนายเวร

ดีใจจังที่ได้เล่าออกมา เผื่อจะเป็นประโยชน์สุขแก่ชนชาวสยามได้บ้าง ล่ะมั้ง นะ

ขอบคุณท่าน ที่ให้โอกาสปล่อยของครับ ๕๕๕



กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

เกิดจากโรคเลือดอย่าที่ว่าจริงๆแหละนะ แต่เบื้องหลังโรคเลือดนี้เป็นโรคกรรม ทำมาแต่ว่าไม่เล่าดีกว่าว่ากรรมอะไร พิสูจน์ไม่ได้ ... เอาว่ากรรมเก่านี้กำลังจะคลายตัว จะค่อยๆคลายตัว จากที่รักษาไม่หาย ทำอย่างไรก็ไม่หาย จะเจอหมอเจอยา ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคเลย แต่กินแล้วอาการทุเลาลงไปมาก อันนี้จะมี แต่จะให้หายขาดเลยนั้นไม่หาย นานๆจนเกือบลืมไปแล้วจะกำเริบขึ้นมา กำเริบมาก็จะไม่หนักและใช้ยาคุมไว้ก็ระงับอาการได้ แต่เวลานี้คงต้องทนไปสักระยะนึงก่อน ที่ว่าหายขาดได้เลยนั้นมีดีเหมือนกัน เพราะถ้าโรคนี้ ที่เป็นโรคกรรม หายขาดไปเลย กรรมเก่าตัวใหม่ที่รอคิวจะมาแทรก เขาจะเข้าทำร้ายทันที ทีนี้คงถึงมะเร็ง แต่ถ้ากรรมเก่าตัวนี้ยังคุมอยู่ ตัวใหม่ที่จะมาแทรกยังเข้าไม่ถึง เอาไว้พร้อมลุยเมื่อไรค่อยว่ากัน แต่เวลานี้ประคองอยู่กับกรรมเก่าแบบนี้ไปก่อน มันก็เป็นเทคนิคนึงเอาไว้เลี่ยงกรรมใหม่ได้เหมือนกัน...

... ไหน ๆ ก็ได้คุยกันมาถึงตรงนี้แล้วก็จะพูดเพิ่มเติมไปละกันคะพี่ .. มันจะทุเลาทุกครั้งที่มีรอบเดือนมาคะ .. นั้นคือมีการถ่ายเลือดใหม่นั้นเอง .. แต่ กาลีนะ เป็นพวกแทบไม่มีรอบเดือนเลย ... ส่วนกรรมที่ทำให้เกิดนั้นทราบคะ .. น่าจะใช่เรื่องที่คิดอยู่ .. ทั้งผลแห่งคำสาปแช่งของตนเองสมัยก่อนต่อคนที่คิดร้ายตนเอง และ ลูก คนในหมู่บ้านหลายสิบครอบครัว รวมทั้งพ่อ สามี ของตนเองที่โดนไปด้วย .. จำได้แค่ว่าพอได้ยินคำนั้นที่โดนบังคับให้ทำ .. สติก็ขาดพรึ๊บหูอื้อ ขนหัวลุก ตาขวาง ควบคุมตนเองไม่ได้ .. กระทืบเท้าแล้วชี้หน้าทุกคนที่อยู่ตรงนั้นแล้วก็แช่งเป็นคำพูดภาษาโบราณ + เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตตนเองจนทำให้ชะตาชีวิตของคนอีกหลายคนต้องเปลี่ยนตามไปด้วย .. อ.ต่องเคยบอกเรื่องนี้แค่ว่า เด็กเขาเกิดจากตรงไหนทุกวันนี้เขาก็อยู่ตรงนั้น แล้วอาจารย์ก็จ้องที่ท้อง กาลีนะ มันอยู่ที่เธอคนเขาจะเกิดมาสร้างบารมีของเขา .. ให้ไปคุยกันเอาเอง!! ( ทุกวันนี้เขาก็ยังรอที่จะเกิดกับเรา เขาเป็นฝาแฝดของลูกชาย กาลีนะ นั้นเอง ลูกชายเองก็เคยถามว่าเขามีฝาแฝดใช่ไหม๊ ในดวงของเขาก็บอกเช่นนั้น ) .. บวกกับกรรมชั่วที่ตนเองได้ทำลงไปเพียงเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะความรักเพื่อนเท่านั้น .. ที่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้ ไม่รวมกรรมในอดีตชาตินะคะ .. ทุกวันนี้ก็พยายามทำความดีทุกอย่าง สำนึกในสิ่งที่ได้ทำ และ พูดคุยกับเขา ( ลูกแฝด ) ถึงสิ่งต่าง ๆ พยายามช่วยคนอื่นที่เขาต้องการโอกาสเกิดใหม่เริ่มต้นใหม่ .. คือ ยอมรับในกรรม สำนึกในความผิดต่าง ๆ ที่ได้ทำ และ พยายามทำทุกวันให้ดี จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง ในความคิด กาลีนะ ไม่เคยบอกว่าตนเองเป็นคนดีนะคะ แต่เป็นคนที่อยากเป็นคนดี มันเป้นอีกเรื่องหนึ่งที่ผลักดันให้ กาลีนะ เป็น กาลีนะ ที่ทุกคนรู้จักในวันนี้ ..

... อนึ่ง เมื่อครั้งไปทำจมูกช่วงโดนยาสลบแม่ท่านก็มาหาคะ มาพาไปดุส่วนต่าง ๆ ในร่างกายลักษณะเหมือนลอยไปด้วยกันภาพเป็นสีแดงไปหมดลักษณะเหมือนเส้นเลือดท่อที่ใหญ่มากในความรู้สึกท่านพาไปดูอะไรเยอะพอสมควรคะแต่มันจำทั้งหมดไม่ได้ท่านก็บอกนะคะเวลาพาไปส่วนไหนแต่จำไม่ได้ทุกอย่าง .. นอกจากที่ท่านมาบอกแค่ว่านี้คือ กายของจิตที่แท้จริงของเรา ... แต่ก่อนหน้นั้นก็เหมือนจะมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวตอนที่เราคิดว่าเราสลบไปแล้ว หูได้ยินที่หมอพูด เห็นทุกอากัปกิริยาของหมอที่ทำกับเราแต่เราขยับไม่ได้จนมีเสียงผู้หญิงบอกให้หลับตาแล้วก็เหมือนเรากลายเป็นแค่สิ่งเล็ก ๆ นั้งอยุ่ตรงส่วนหน้าผากกับผู้หญิงท่านนั้นในส่าหรีสีขาว .. แล้วนั้งดูหมอเอามีดผ่าตัดแทงทะลุจมูกเราขึ้นมาแต่มีดมันใหญ่มากเหมือนเราตัวเท่ามดเลยคะ .. นั้นแหละท่านถึงพาไปทัวร์ในร่างกาย

 

... พูดเรื่อง กรรม ละปวดหัวคะ ... หาทางแก้กันต่อไป .... มาเข้าคำถามพี่ดีกว่าเนอะ ..

 

ทำไมมีแต่แม่ตะเคียน ซึ่งต้องสิงต้นตะเคียนเท่านั้น ไม้สัก ไม้ชิงชัน ไม่ยอมสิง?

.... ตอบแบบวิชาการคงไม่ได้ขอตอบตามที่เคยได้สัมผัสกันมาละกันนะคะ ...

... นางไม้อย่างอื่นก็มีคะ ... อันนี้สังเกตเอาจากที่บ้านตัวเองนี้แหละคะเพราะมีอยู่สามนาง แต่แม่นางตะเคียนนั้นดูท่าจะดุสุด เพราะแสดงตัวตนให้คนได้ตกใจกันบ่อยมากที่บ้าน แต่ก็ไม่เข้าใจทำไมนางตะเคียนต้องห่มสไบแดงอันนี้ไม่กล้าถาม เพราะนางเป็นคนสวยแต่น่ากลัว เวลาฝันเห็นนางทีไรนางไม่เคยจะยิ้มเลยสักครั้ง หน้านิ่งออกไปทางดุมากกว่า เหมือนสาวโบราณเจ้าระเบียบ เคร่งครัด ... ต่างจากนางตะเคียนที่ถูกฝังอยู่ที่ใต้บ้านพี่ชายแฟน กับที่วัดทุ่งเศรษฐีสามสาวนั้นถือว่ามนุษย์สัมพันธ์ดีพอสมควรเพราะอย่างน้อยพวกนางยังมีแก่ใจพา กาลีนะ ไปเที่ยวชมสมัยโบราณที่พวกนางยังอยู่เป็นต้นไม้ในท้องนา อ้อ .. แต่เท่าที่เคยเห็นมานางไม้หน้าตาดีทุกคนคะอันนี้ยอมรับ ชอบห่มสไบใส่โจงกระเบน หรือ ผ้าถุง แต่สามนางนี้ไม่ได้ห่มสไบแดงทุกคนมีสีอื่นด้วยแต่ทัดดอกไม้เสียส่วนใหญ่ ...

... ส่วนนางไม้ต้นอื่น ๆ ก็พอเคยเจออยู่บ้าง นางแรกจะเรียกว่าอะไรดีนะ คือคนนี้นางเป้นเสาไม้ประดู่ที่พ่อตัดมาทำเสาอยู่ตรงหัวนอนของ กาลีนะ เองและร่วมหลับนอนแบบสามีภรรยากับ กาลีนะ ในร่างที่ กาลีนะ เป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด นางห่มสไบเขียวผมสั้นทัดดอกไม้สีเหลืองหน้าตาดี ส่วนอีกนางอยู่ในห้องนอนพ่อเป็นเสาไม้มะค่าถ้าจำไม่ผิด ห่มสไบสีอะไรไม่แน่ใจแต่ผมประบ่าหน้าเรียวเล็ก .. รู้แค่ว่ามีอยู่ครั้งนางทั้งสองห้องออกจากเสามาตบกันเพราะเรื่อง กาลีนะ แม่ตะเคียนออกมายืนดูเฉย ๆ ไม่พูดอะไร .. แล้วปีนั้นบ้านก็ร้อนเป็นไฟมีแต่เรื่องแต่ราวไม่หยุดหย่อน ... กับนางตะเคียนสองตนที่มาชอบพ่อที่โดนแม่แกหักคอไปตนหนึ่งนั้นก็ใส่สไบคนละสี .. แต่เป็นนางตะเคียนทั้งคู่พี่น้องกัน ..

... อันนี้จะเด็ดหน่อยตอนอายุ 17 ไปเจอที่วัดภูย่าอู่ ( วัดอภิญาเทสิทธิธรรม ) ใครที่เคยไปทุกคนย่อมจะได้เจอกับ " ต้นไทรคู่ใหญ่ยักษ์ " เรื่องราวไม่เล่ามันยาวหาอ่านได้ตามเว็ป ส่วนที่เจอคือไปนั้งสมาธิหันหลังให้ต้นไทรสองต้นนี้แล้วพวกนางก็มาเดินปฏิบัติธรรม ( เดินจงกรม ) อยู่ข้างหลัง กาลีนะ เล่นเอาแทบร้องไห้หนีด้วยความกลัว เพราะเวลาหลับตาลง พุธโธ ไม่ถึงนาทีมาเลยเสียงผ้าสไบสลัด พรึ๊บ ๆ ขนหูขนหัวลูกกันให้เกลียวลืมตาแล้วเอาใหม่ก็ยังได้ยินจนต้องเลิกนั้งสมาธิไปเลยหนีขึ้นศาลาก่อนเพื่อน ทุกวันนี้ต้นไทรนั้นก็ยังอยู่ .. แต่ศาลาไม้โรงอาหารเก่าทางเข้าอุโมงค์ป่าไผ่นั้นก็เฮี้ยนนางตะเคียนตนนี้ก็ดุเป็นที่รู้กันของคนที่มาปฏิบัติธรรมที่นี้ ดีแต่เขาไม่ทำอะไรมาก .... แค่เดินมาส่ง กาลีนะ เวลาเดินคนเดียวผ่านอุโมงป่าไผ่แค่นั้นเอง .. จำได้ว่าทั้งกลัวศีลขาดทั้งกลัวผีนางตะเคียนจะหลอกเพราะได้ยินแค่เสียงเดินตามนี้ก็แทบบ้าแล้วอยู่แบบนั้นเจ็ดวันเต็ม ๆ ตอนนั้นวัดทุรกันดารมากทางก็ขาดต้องเดิน .. เขาลื้อไปแล้วตอนนี้ได้ข่าวมา .. วัดเปลี่ยนไปเจริญขึ้นแทบจำไม่ได้สิ่งอำนวนความสะดวกเพียบน้ำไหลไฟสว่าง ..

... ต้นมะขามก็มีคะ แต่เคยเห็นมีเป็นผู้ชายด้วย เทวดาผู้ชาย .. ท่านี้คุ้นเคยที่สุดแหละเพราะเป็นเจ้าที่ที่บ้านเก่า กาลีนะ เองนี้ก็เป็นชายวัยกลางคนใจดีให้ตำราแถมให้หวยด้วย 55555 แต่มันออกจริง ๆ นะ กาลีนะ เอาไปบอกคนอื่นถูกด้วยสมัยเกือบสามสิบปีเงินสามหมื่นบ้านนอกไม่ใช่น้อย ๆ เลยคะเขาถูกหวยตัวที่ กาลีนะ บอกแต่แม่ไม่ซื้อแกบอกว่า กาลีนะ เพ้อเจ้อแต่พอหวยออกนางจ๋อยคะ ... คาดว่าตอนนี้ท่านคงเกิดเป็นคนบนโลกใบนี้ที่ไหนสักแห่งเพราะตอนอายุ 12 ท่านมาบอกว่าถึงเวลาต้องไปเกิดแล้วหมดเวลาที่ท่านต้องดูแล กาลีนะ .. มีต้นอะไรอีกนะ .. นึกก่อน

... ส่วนต้นยางใหญ่แถววัดที่อ.ปากพะยูนบ้านแฟนนั้นก็มีคะเยอะด้วย ตรงถนนเส้นลำปางเชียงใหม่สายเก่าที่เป็นถนนเส้นเล็ก ๆ นั้นก็เยอะคะ มีรุกขเทวดาด้วย .. กาลีนะ เคยหลงทางไปเส้นมาครั้งหนึ่งประทับใจไม่หายทั้งสายยังกะภาพจำลองทางกลับบ้านตัวเองเลย .. บ้านเมื่อนานมาแล้ว .. ช่างมันเถอะอดีต คือ อดีตเริ่มนอกเรื่องละเยอะไปละ ..

ผีตานีก็สิงแต่กล้วยตานี กล้วยน้ำว้าปากช่อง50 หรือกล้วยไข่ กล้วยหอม ทำไมไม่ยอมสิง?

... นางตานี บอกตามตรง กาลีนะ ไม่มีประสบการณ์คะ เป็นไปได้ก็อย่ามีเลยดีกว่าคะเดี๋ยวจะไม่กล้ากินผลกล้วยตานี ... คือ ชอบกินลูกมันอะคะกลัวเขาจะมาด่าดีไม่ดีมาหักคอเอาว่าไปกินลูกกล้วยตานีเขา ... แต่ถามว่าแถวบ้านมีไหม๊ ... มีคะกอใหญ่ อวบ สวย สูงใหญ่มากกกกกกกจนน่ากลัวมันขึ้นตรงรั่วบ้านเลยคะตรงระหว่างห้องพ่อแม่กับห้อง กาลีนะ พอดี .. แถมแตกกอเยอะด้วยจนพ่อแกต้องไปตัดออกแล้วเอากะลาตาเดียวไปครอบไว้เพราะอะไรจำไม่ได้นึกไม่ออก .. จำได้แค่ว่าพี่ยงค์คนที่โดนนางตะเคียนจะเอาไปทำผัวนั้นแหละคะแกมาเอาหน่อมันไปปลูกไว้ตรงบ้านเช่าของแกก็ติดกับบ้าน กาลีนะ นี้แหละคะพอมันโตแล้วกำลังออกลูกแกกับเมียเคยมาเล่าให้ฟังว่าพากันไปขอหวยต้นกล้วยตานีแต่พี่ยงค์แกท่องบทสวดมนต์ผิดน่าจะบทชุมนุมเทวดาอะไรนี้แหละคะแล้วอยู่ ๆ ก็มีลมพัดมาแรงมากพวกแกเลยตัวใครตัวมัน ...

 

... ส่วนเรื่องแม่ย่านางเอาไว้ก่อนนะคะ .. แต่มีเรื่องเด็ด ๆ ของวัดดังในกรุงเทพมาเล่าคั่นเวลาให้ฟัง .. มันอาจจะคล้ายกับเรื่องแม่ย่านางรถก็ได้ อิอิ ..

... แต่รถที่ กาลีนะ ขับอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ไปเจิมทีวัดไหนนะคะ กาลีนะ จัดเองตั้งแต่แรกเริ่มจนตอนนี้ .. เคยลองไปเซิฟ ๆ อ.บุญชู ว่าต้องให้แกเจิมให้อีกไหม๊ .. แกถามกลับมาว่าเจ้าเจอมเองแล้วไม่ใช่เหรอ .. แค่นั้นก็พอแล้วข่อยต้องเจิมอีกทำไมใช้ได้แล้ว .. หงายเงิบไปคะ กาลีนะ พูดแล้วก็ต้องหาวันไปกราบแก กับ เอาปลากระป๋องไปฝากแมวที่แกเลี้ยงซักหน่อยไม่ได้ไปนานเกือบเดือนแล้วเดี๋ยวแกเหงาไม่มีคนไปกวนประสาทแก .. ตอนนี้ อ.บุญชู เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ กาลีนะ ยังตกใจมาก .. แต่ก่อนแกจะชอบหาว่ามีวิชาพระองค์ไหนน่าสนใจแกจะไปขอเรียนกับพระองค์นั้นแกนิยมไปทางลาวมากคะ เดียวนี้ไม่ละมาแนวใหม่ ครั้งสุดท้ายที่คุยกันท่านจะออกไปทางแนว " ปลง กับ สอนธรรมมะมากกว่า " กาลีนะ เลยได้โอกาสถามว่าแล้วไปทำไม .. ท่านบอกว่า ญาติโยมนี้แหละมาขอให้หาของดีให้ของค้าของขายอะไรก็ว่ากันไป ประกอบกับสมัยก่อนมีความนิยมส่วนตัวด้วยท่านเลยไปทั่วเลย .. ตอนนี้ท่านบอกว่าท่านพอแล้วยกเว้นขัดไม่ได้ หรือมีเหตุติดขัดต้องการผู้ชี้แนะท่านก็จะไป หรือ ฝึกจิตเพิ่มเติม .. ก็อนุโมทนาสาธุกับท่านไปด้วย ..... เพราะรอบนี้กระแสเมตตาแรงขึ้นมากเหมือนน้ำเย็น ๆ ชื่นใจ .. นั้นคือ ที่สัมผัสได้ ....

... อ้อ วันนี้แฟนโทรมาจากใต้บอกว่าไปวัด โพรงงูมา กับพ่อ และ พี่ชาย เพื่อไปหาหลวงเงิน ( คนจะรุ้จักท่านในนาม หลวงเงินวัดเขาอ้อ ) ท่านเป็นญาติฝั่งพ่อแฟนที่สนิทกันเพื่อจะไปขอ "ยันต์นางกวักเงิน " มาให้ กาลีนะ ... พอไปถึงวัดปรากฏว่า หลวงเงิน ท่านได้เสียไปเกือบปีแล้ว และ ของที่ กาลีนะ ต้องการก็เหลือเพียง 5 แผ่นสุดท้ายที่ท่านทำไว้ก่อนตายตอนนี้ กาลีนะ เลยได้มาแล้วพ่อแฟนเป็นคนไปขอให้เองเลย ส่วนตัวไม่ได้รู้จักท่านหรอกนะคะ มีแต่แฟนเล่าให้ฟังเท่านั้นเมื่อปีที่แล้วไปใต้ก็ขอให้ทางนั้นพาไปแต่พ่อแฟนไม่ยอมไปบอกเพียงว่าท่านป่วยนานแล้ว ... คืนนั้นเลยฝันเลยคะว่า กาลีนะ เดินอยู่ในวัดป่าแห่งหนึ่งอยู่ตรงตีนเขาเล็ก ๆ มีศาลาไม้ กุฏิไม้เก่า ๆ มีต้นไม้ครึม ๆ มีพระรูปหนึ่งกำลังกวนหม้อยาโบราณสีดำใบใหญ่อยู่ กาลีนะ เดินเข้าไปหาท่านจึงถามว่า " โยมมาทำไม ต้องการอะไร " ท่านเป็นพระที่สูงใหญ่พอสมควร หัวยาว ๆ หน่อย คือ พอตื่นมาเล่าให้แฟนกับพ่อแม่แฟนฟังท่านบอกว่านั้นคือวัดของลวงเงิน และ พระที่คุยกับ กาลีนะ คือหลวงเงินนั้นเอง แต่พอกาลีนะลองเปิดเน็ตหารูป และ ข้อมูลภาพที่ได้เห็นกลับเป็นพระที่ชราภาพแล้วไม่ใช่พระวัยกลางคนแบบที่เจอในฝัน ความสงสัยถึงขั้นโทรกลับไปถามได้ความว่า ... ลักษณะที่บอกพ่อกับแม่แฟนไปนั้นเป็นลักษณะของท่านเมื่อครั้งยังหนุ่มถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน .. ครั้งหนึ่ง กาลีนะ เคยอยากไปพบท่านสักครั้งเพื่อถามคำถามที่ไม่เข้าใจ และ สงสัยเกี่ยวกับวิชาบางวิชาที่ความรู้สึกบอกว่าท่านจะตอบได้ .. ส่วนคำถามตอนนี้จำไม่ได้แล้วแต่ตอนนั้นมีคำถามจริง ๆ คะเยอะด้วย .. ... อืมประมาณว่า " ท่านล้างของได้ยังไง " ทุกคนคงคิดว่าเธอกล้ามากไปแล้วที่ไปถามพระท่านแบบนั้น .. ความรู้สึก กาลีนะ บอกว่าถ้า กาลีนะ ไปกับพ่อแม่แฟนท่านจะตอบคะ .. ความรู้สึกบอกแบบนั้น ถึงขั้นเคยคิดว่าถ้าท่านสอนให้ก้จะเรียนคะ .. เพราะคนในครอบครัวแฟนไม่สามารถเรียนได้แล้ว .. แฟนเคยบอกว่าท่านจะสอนวิชาของท่านให้พ่อแฟนคะแต่พ่อแกไม่เอาไม่เรียนเพราะเปลี่ยนศาสนาแล้วไม่ยุ่งเกี่ยวกัน

... แค่นี้ก่อนดีกว่านะคะพูดมากไปก็ไม่ดี ... อาจทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ หรือ ขัดใจ .. อาจถึงขั้นหมั่นไส้ได้ ... เพราะยังมีเรื่องราวลึกลับลี้ลับเยอะคะที่บางเรื่อง กาลีนะ ได้ยินคำบอกเล่าจากปากคนเฒ่าคนแก่ถึงวิชาสมัยโบราณที่เขายอมให้มันตายไปกับตัวก็มี .. ทั้งที่ดี และ ไม่ดี บางเรื่องออกอากศไม่ได้เพราะผลกระทบสูงเกินไป ... คงเข้าใจนะคะเอามาเล่าสูกันฟังนึกว่าเรื่องขี้โม้ก็ได้นะคะจะได้ไม่ต้องซีเรียจมากเกินไป ..

 

....... คุณพายุ นี้เกาะติดขอบกระทู้เลยนะคะ พิมยังไม่เสร็จมาเลยทั้งไลท์ ทั้งอนุโมทนา ยาว ๆ .. ขอบคุณคะที่ไม่ทิ้งกัน ให้กำลังใจกันได้ดีเสมอมา .. ดีกว่าคนที่แอบมาอ่านแต่ไม่เคยให้กำลังใจกันเลย .. หรือ คนที่มาอ่านแล้วว่าเราในใจ ไม่กดอะไร .. ไม่ชอบ .. แต่ดอดเข้ามาอ่านเรื่อย ๆ อันนี้มันน่านักนะว่าไหม๊คะ ...

 

ตื่น เช้าค่ะ หมาปลุกให้พาไปเดิน

กลับมาก็อาบน้ำ เล่นเกมส์ มาอ่านเรื่องผีต่างๆ แป๊บนึง แล้วหลับต่อค่อยไปทำงาน






พึ่งแพ๊คของส่งให้คุณกาลีนะ แต่นิจจา วันหวยออก เมสเซนเจอร์ มันไม่ทำงาน พรุ่งนี้ ข้าน้อยค่อยส่งไปรษณีย์เอง เน้อ ช้าหน่อยนะคะ

 

รอฟัง เรื่อง พระแม่อุมา กับพระศิวะ จาก ท่านระมิงค์ ด้วยนะคะ


ลุ้นๆ

 

ไม่ได้เข้ามานาน..เรื่องเดินไปไกลเชียว

ท่านป๋ามิงค์ นี่ก็ขยันสงสัยซะจริงๆ..ไอ้เราก็เลยต้องพลอยสงสัยไปด้วย