โลกนี้คืออะไร เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรือไม่ ช่วยหาคำตอบด้วยกันครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย คนอนาคต, 20 กรกฎาคม 2014.

  1. คนอนาคต

    คนอนาคต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +28
    สวัสดีทุกท่านนะครับ
    ตามหัวข้อนี้เลย หลายคนอยากมีส่วนร่วม เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ที่หามาได้ เอามาแชร์กัน เอามาแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน เผื่อเป็นหนทางแก้ไขไปในทางที่ดีขึ้น หรือเอาไว้เป็นการศึกษาสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องเข้าใจว่า ความจริง โลกนี้คืออะไร อย่างที่บอก โลก คือที่อยู่อาศัยสำหรับทุกสรรพสิ่ง ที่อยู่บนพื้น หรือในดิน หรือในน้ำ ส่วนใหญ่จะมีอยู่แค่นี้ใช่มั้ยครับ แต่แล้วทำไม ความเชื่อของมนุษย์ ทำไมมนุษย์จึงคิดว่า ตายแล้ว มีวิญญาณ บ้างก็บอกว่าผี บ้างก็บอกว่าเป็นดวงธรรม อันนี้ยังงงๆอยู่นะครับ เพราะผมยังไม่เก่งทางนี้ แต่ที่แน่ๆ ผมมองเห็นสิ่งต่างๆ นั้นมันยังกับว่า ชีวิตนี้คือ เกมส์ โลกนี้เป็นเกมส์สำหรับพวกเรา เราจะต้านความจริงไปไม่ได้ ที่มองเห็นกันอยู่ ความรู้ ไม่ได้รู้กันทุกคน แต่รู้เฉพาะตน บ้างก็ว่าดี บ้างก็ว่าไม่ดี เพราะมันไม่แฟร์ แต่ทำไมถึงต้องถาม ผมมองเห็นความจริงคือ มนุษย์นี้ จะเก่งทุกอย่างไปไม่ได้ ถ้าเก่งแล้ว อะไรก็ได้ทุกอย่าง แล้วทุกอย่างที่ว่า จะมีความหมายมั้ย มนุษย์เชื่อว่าโลกนี้กลม แล้วบางคนบอกว่าแบน อย่างนี้เถียงกันมานานมาก ในที่สุด โลกนี้ก็กลมจนได้ เพราะมีการพิสูจน์ หากโลกนี้เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง แล้วโลกนี้ทำไมต้องมีวรรณะ ทำไมต้องแบ่งชนชั้น อย่างที่บอกไว้ ว่าความรู้ไม่ได้รู้กันทุกคน เรายังต้องอาศัยอัตภาพของสังขารที่ต้องการอาหาร เพื่อการยังชีพ สิ่งนี้เป็นปัจจัยหลัก แห่งการดำรงชีวิต และชีวิตเป็นวัฏฏะ เป็นห่วงโซ่ของอาหาร ที่มองเห็นแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ยังมีอีกมากที่อยากจะบอกว่าโลกนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยครับ เช่น มนุษย์ มีพลังวิเศษ มายังไง / ลอยได้ ทำยังไง / วิชาเขมรที่รุนแรง มาได้ยังไง / สวดมนต์แล้วได้อะไร บ้างก็บอกดีขึ้น บ้างก็บอกว่าอึดอัด หายใจไม่ออก แล้วถ้าผมบอกว่า มนุษย์นี้ มีอะไรพิสูจน์ได้บ้าง ขนาด คนยังมีหลายชาติ หลายภาษา หลายศาสนา ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตายเลย หากผมอยากจะพยายามให้คนทุกคนเข้าใจตรงกันว่า โลกนี้ไม่ได้ทำให้เราเบื่อหน่าย แต่เราทำให้เบื่อหน่ายกันเอง โลกนี้มีสุขได้ด้วยความรัก โลกนี้มีสุขได้ด้วยรักษา โลกนี้มีสุขได้ด้วยปัญญา โลกนี้มีสุขได้ด้วยคนธรรม จบแค่นี้ก่อนครับ นึกไม่ออกเล๊ย
     
  2. พรหมภัสสร

    พรหมภัสสร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    สวัสดีค่ะ
    ขออนุญาตตอบตามความคิดส่วนตัวนะคะ
    1.โลกในแนววิทยาศาสตร์ เกิดมาจากทฤษฎี Big Bang คือกำเนิดของจักรวาลค่ะ
    2.สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลก มีหลากหลายแต่ที่ มีความคิด มีความรู้สึกที่เห็นได้ชัดเจน คือ มนุษย์ ซึ่ง ประกอบด้วย ร่างกาย และ จิตวิญญาณ และแต่ละบุคคลมีความสามารถ ความเก่ง ความชำนาญ ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น คงมีสาเหตุจาก การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม จารีตประเพณี และ ที่สำคัญคือ โอกาสในการดำรงชีวิตของแต่ละบุคคล เลยทำให้แตกต่างกันมั้งคะ
    3.เร่ีอง ลอยได้ หรือ วิชาเขมร คงเป็นการฝึก ด้านจิตวิญญาณ เลยสามารถควบคุมเรื่องบางอย่างได้มั้งคะ โดยส่วนตัวแล้ว ศาสตร์ทุกศาสตร์ คงมีอยู่แล้วในจักรวาล ขึ้นอยู่กับว่า มนุษย์ สามารถรับมาได้แค่ไหน เพียงใดมั้งคะ ดั่งเช่น พระพุทธองค์ที่ทรงตรัสรู้ความจริงที่มีอยู่แล้วในจักรวาล โดยการบำเพ็ญจิต ใช่มั้ยคะ
    4.โลกนี้ไม่ได้วุ่นวายหรอกค่ะ แต่ทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ ทั้ง กรรมดีและกรรมชั่ว เลย ทำให้เกิดการเบี่อหน่ายโลก เวลาเกิดอุปสรรคปัญหา และจะเป็นเยี่ยงนี้ ตลอดไป ล่ะค่ะ คุณ นอกเสียจากว่า จิตเหนือดี เหนีอ ชั่ว คือ เฉยๆ ไม่ยึดติด เพราะ ทุกอย่างไม่เที่ยง
    ผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะคะ :z16 แวะมาโพสเล่นๆค่ะ
     
  3. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ในพระพุทธศาสนา
    มีสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณขันธ์

    ไอ้ตัววิญาณขันธืเองเนียะ ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วย เราของเรา
    วิญญาณขันธื ไม่เคยเป็ฯของสัตว์ใด

    เราจะรู้ วิญาณขันธ์ได้ ก็ต่อเมื่อเราไปยึดว่าวิญญาณขันธืนี้เป็ฯเราเป็ฯของเรา

    ปรกติที่ผม กำลังพิมพ์อยู่นี่ ผมก็ไปยึดวิญาณขันธ์ที่ไม่ใช่ของผมมาเป็ฯผม

    วิธีแบชาวพุทธก็ให้รู้ หรือยึดว่ารู้ก็ได้ ว่าเราเนียะไปยึดวิญญาณขันธ์มาวิญญาณขันธ์ทุกข์

    และถ้าเก่งกว่านั้น ให้ยึด หรือวิญาณขันธ์รู้ ว่าเราเนียะ ผมเนียะ ที่มายึดวิญญาณขันธ์ทุกข์

    ทุกข์เป้ฯนามธรรมชนิดหนึ่ง

    ถ้าคุณแยกออกระหว่างเรายึดว่าเราคือวิญญาณวิญาณคือเรา กับตัวซิญาณขันธ์โดดๆ

    คุณจะรู้วิธีแยกระหว่างยึดว่าเราทุกข์ เราคือทุกข์ทุกข์คือเรา กับทุกข์เวนาขันธ์โดดๆ

    ชาวพุทธมักใช้ทุกข์เวทนาขันธืโดดๆ ที่ไม่ยึด เป็ฯสารสื่อประสาท
    คำภีร์เค้าแนะนำให้ทำอย่างนี้

    ให้ใช้ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็ฯสารสื่อประสาท

    ให้ขันธ์ทั้งห้า และยึดขันธ์ทั้งห้าเป็ฯเพื่อน
    ทุกข์

    คุณจะแยกออก
     
  4. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    มันไม่แฟร์ตราบเท่าที่เราไม่ได้รับจนพอใจนั้นล่ะ

    บางคนใช้เวลา ร่วมๆ 20 ปี .. กว่าจะเข้าใจทางเดินชีวิตที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
    ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะเกือบเท่าๆ กับอายุเจ้าของกระทู้เลยก็ได้
    และบางคนก็ยังหลงอีกมาก อาจจะหมดไปทั้งชีวิตเลย ซึ่งมีมากต่อมาก
    ต้นทุนตรงนี้มีไม่เท่ากันครับ คนที่โชคดีก็รู้ได้ไว ก็ได้ประโยชน์ไว

    และสิ่งที่อยากบอกไว้คือ .. คนบางคนเก่งเกือบทุกอย่างมีจริง!
    แต่ไม่ต้องไปพยายามอิจฉามาก เพราะยิ่งทำไปผ่านไปเป็นปีๆ ปีแล้วปีเล่าก็ยังห่างชั้นเขาอยู่ดี
    ถามว่าจะเกทับเหรอ หรือรู้ได้ยัง? .. ก็เพราะผมพิสูจน์กับตัวผมเองมาแล้ว

    การยินดีกับความเก่งความดีของคนอื่น ย่อมพลอยได้อนิสงส์ความดีสิ่งเหล่านั้นย้อนกลับมา
    และคนเหล่านั้น ทำมาแต่ชาติก่อนแล้ว ..
    ถามว่ารู้ได้งัย? .. ก็เพราะพอผมได้คลุกคลีกับคนเหล่านี้ จะพบว่าเขามีนิสัยบางอย่างที่ยอดเยี่ยม
    ซึ่งคนปกติมักไม่มีกัน เช่น ความอดทนเป็นเลิศ เลิศจริงๆ ยิ่งกว่าที่เราคาดคิดเสียอีก
    ชอบการอ่าน อ่านหนังสือหลายประเภท,
    มีความจำเป็นเลิศ
    และที่สำคัญมีการวิเคราะห์ว่าอะไรควรไม่ควร ได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ
    และสุดท้าย มีความสามารถในการทำให้คนกลุ่มใหญ่เชื่อฟังด้วยเหตุผล ไม่ใช่ด้วยการเมือง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2014
  5. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ตั้งคำถามกับตัวเองทุกวันว่า.โลกคืออะไร?ๆๆๆ
    และก็ได้คำตอบ.เมื่อได้คำตอบเป็นของตัวเองก็เลย..ปัจจัตตัง.
     
  6. คนอนาคต

    คนอนาคต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +28
    ขอบคุณคร๊าบ ยินดีต้อนรับครับผม

    ขอบคุณสำหรับ ภูมิผู้รู้ทางอายตนะทุกท่าน ขอให้ท่านเป็นคนเจริญในธรรมด้านอริยกุศล

    ด้วยความรู้ ที่ได้มา หาใช่ง่าย
    ดั้นด้นกาย สืบเสาะเอา จนหมายรู้
    เนื่องด้วยเรียน เพียรศึกษา กับคุณครู
    จึงเป็นผู้ อยู่เหนือการ ร่ำเรียนธรรม
    เพราะด้วยเหตุ ที่ว่าไว้ ไม่ใช่ง่าย
    เหนื่อยยากกาย ลำบากหา เงินเติมใส่
    เสาะความรู้ ให้ได้เรียน จนจบไป
    นำมาไข แจ้งทางเกิด กำเนิดตน
    รู้หนทาง เมื่อยาม ฟ้าสว่าง
    รู้กันบ้าง แต่ปางใด ใครจะรู้
    รู้เมื่อกาล วันเปลี่ยนผัน อนันครู
    ได้รู้อยู่ กันในกาล ปัจจุบัน
    เอ๊ะอยากได้ ใคร่อยากรู้ ทำไมชอบ
    เหมือนคอยกอบ ความสุขนี้ มาแต่ไหน
    คงได้เจอ กันมาก่อน อย่าว่าไป
    คนที่ไหน ก็เคยเกิด ในโลกา
    จึงเป็นเหตุ ให้รู้ทาง กระจ่างเสริม
    ด้วยบุญเติม เพิ่มความอยาก จากปางไหน
    เกาะเป็นพอก ลอกออกมา จากทางใด
    แต่มิใช่ พอกหางหมู อย่างแน่นอน
    โดยความรู้ สู่อดีต มาฝันเฝ้า
    เก็บเรื่องราว ให้ศึกษา ในรุ่นหลัง
    เกิดเป็นภูมิ ได้มีรู้ อยู่ทั่วกัน
    เธอกับฉัน นั่นต่างที่ มีที่มา


    จบเด้อครับ กลอนสดคร๊าบ
     
  7. Bar

    Bar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +164
    โลกนี้คือโรงละคร เราคือนักแสดง มีบทบาทที่เราเลือกได้และเลือกไม่ได้
     
  8. peacedev

    peacedev Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +49
    โลกเกิดขึ้นจากจิตของเรา

    ถ้าไม่มีจิต ก็ไม่มีโลก

    เป็นวิทยาศาสตร์ครับ นักวิทยาศาสตร์ควันตัมหลายคนเชื่ออย่างนั้น
     
  9. คนอนาคต

    คนอนาคต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +28
    ขอบคุณทุกความคิด แนะนำไว้ครับ ความคิดที่จะทำให้เราได้รู้กันในสิ่งที่ไม่รู้กัน เอาความคิดของใครๆมารวมกัน ทำให้เราได้รู้ว่า ต่างที่ต่างทางมากันจริงๆ ผมคิดนะ ว่ามนุษย์เนี่ย หากเกิดในสมัยพระพุทธเจ้าในยุคนั้น ก็คงจะเป็นคนเก่งในเรื่องแบบนั้น แล้วส่งผลมาถึงยุคปัจจุบัน ทำให้คนที่ชอบธรรมะ บางคนก็เก่งธรรม สามารถรู้สำนวนโวหารทางธรรมได้ดี บ้างก็รู้ปุจฉา วิสัสชนาเป็นอย่างดี บ้างก็เก่งบาลี เป็นอย่างนี้ นี้เป็นการสะสม หรือสั่งสมมาแต่อดีตเป็นแน่แท้อย่างแน่นอน ผมเดานะครับ แค่ลองมองผ่านตัวเอง สู่วาระจิตของคนอื่นๆ ที่น่าจะสามารถ มองเห็นในจุดยืนอันเดียวกันได้ เปรียบเสมือน กระดานสอนหนังสือ ที่มีช็อคหลายแท่ง แต่ก็กระดานเดียว ศึกษามาแต่ละรุ่น ก็ยังใช้กระดานเดิม นี้เป็นทางของโลก และผมก็คิดว่า โลกนี้ คือคำสอน เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องศึกษา และต้องเข้าใจโลก เพราะโลกให้อะไรเรา ให้ที่อยู่อาศัย ให้ที่กิน ให้ที่นอน แต่การศึกษา ก็ได้จากโลก แต่โลกไม่ได้สอน แต่คำสอนมายังไง เพราะความผิดของมนุษย์ ที่หลงผิด และเข้าใจผิด และสมมุติขึ้นมา ว่านี้คือคำสอน แต่บารมีมาได้อย่างไร จินตนาการล่ะ มาได้ยังไง นั่นเป็นสิ่งที่อยู่ลึก มันเกินขีดความสามารถ ของการเป็นมนุษย์ แต่มนุษย์ ก็ยังฟันฝ่าออกมาได้ถึงยุคนี้ นี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจตรงกันนะ ว่า ความรู้ที่ได้มา มีทั้งดีและไม่ดี เปรียบเสมือน เห็ดพิษ กินเข้าไปก็ตาย กินเห็ดไม่เป็นพิษก็อยู่ เราศึกษากันมาอย่างนี้ จนสามารถทำให้เรา ได้รู้จักคำว่าแยก
    และแยก ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นความต่าง และความต่างก็เป็นปุถุชน ความรู้ได้มายากนัก หากได้มาแล้ว ก็เก็บเกี่ยวไว้ นี้เป็นของคนผู้ต้องการหาคำตอบ จนทำให้เราทั้งหลาย ได้มาศึกษากันเป็นรูปแบบ ได้รู้ในสิ่งใดๆ อาทิ สปช. คือ สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต สลน. คือ สร้างเสริมลักษณะนิสัย กพอ. คือ กลุ่มสร้างเสริมเพื่อการอาชีพ และอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย เพราะสิ่งนี้เป็นความรู้ ที่ทำให้เราต้องทำ และต้องศึกษา จนกว่าจะชำนาญ เปรียบเสมือน โนวิท หรือเด็กอ่อนหัด ที่ยังต้องการประสบการณ์ มันจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นนะ ว่าอะไรเป็นอะไร โดยที่เราต้องคอยเก็บค่าประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ซึ่งโลกนี้ มีอะไรให้ตั้งเยอะ ตั้งแยะ แต่เอามาเป็นของเราทั้งหมด ยังไม่ได้เลย คนส่วนใหญ่ มักจะชอบการอยู่ มากกว่าอยากตาย ทำไม มนุษย์จึงต้องมีชิวิต นี่แหละ ธรรมชาติสร้างไว้ เราควรให้อะไร มาทำให้เราต้องรู้มาก่อนเกิด มันหากันไม่ได้เลย มีแต่เริ่มเรียน ตั้งแต่ พ่อแม่มาสอนให้เดิน ให้คุย แล้วพอเดินได้ ก็ยังต้องมาเข้าโรงเรียน เพื่อเติมความรู้สู่จิต ที่ไร้เดียงสา ซึ่งเด็กทุกๆคนบนโลกออนไลน์นี้ ผ่านการเป็นเด็กมาแล้วทั้งนั้น เติบใหญ่ได้แล้ว ทำอะไรเพื่อตัวเองได้ดีพร้อมแล้วหรือยัง บางสิ่งที่ได้มา เรารู้ค่าแล้วใช่มั้ย ทำให้เราทั้งหลาย จำกันไม่ได้เลย ว่าเคยอ่านออกเขียนได้เพราะอะไร ก็เพราะเราต้องสู้ สิ่งที่เราต้องดิ้นรนนี้เอง เราถึงต้องมาเจอกัน จากต่างที่ และหนทาง บนแผ่นดินอันกว้างขวาง ซึ่งน้ำใจใด จะเปี่ยมล้นมหาศาล เท่ากับคำว่า ภักดีต่อภูมิความรู้ของตน และของบุพการี ที่ทำให้คนได้รู้ว่าเรามาจากไหน มาได้ยังไง สื่อถึงอะไร อะไรทำให้ต้องเกิด อะไรทำให้ต้องดับ อะไรเป็นวงจรของวัฏฏะที่วนเวียน ให้โลกนี้เป็นคำตอบสุดท้าย คือ ''ใจ''
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  10. jonjonchin

    jonjonchin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
    โลกคือมนุษย์ มนุษย์กลายพันธ์มาจากอสุจิ ที่ตาทิพย์ส่องไม่เห็นต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องเอา ที่สำคัญต้องเลือกได้ถึงคิดได้แบบนี้ ถ้าแพ้ให้กับความเชื่อใดๆผิดทันที
     
  11. คนอนาคต

    คนอนาคต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +28
    โลกที่ไหนก็ไม่รู้ สร้างบ้านด้วยกระดาษ แปลกแต่จริง มีในตำนานที่เล่าขาน แต่เป็นจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจนะครับ เพราะไม่อยากให้งมงาย แต่ที่ง่ายๆ โลกนี้คือบิ๊กแบง โดนเลย เป็นคำตอบที่ถูกต้องนะคร๊าบ :cool:
     
  12. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    โลกคืออะไร ผมไม่รู้ ผมรู้เพียงว่า ผมคือใคร?.พอแล้ว:cool:
     
  13. คนอนาคต

    คนอนาคต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +28
    ใช่แล้วครับ แค่ให้รู้ว่าตัวเองเป็นใครในปัจจุบัน ถือว่าโอเคนะ บางครั้งรู้ไปก็เท่านั้น มันอาจไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น คนส่วนใหญ่มักคิดกันอย่างนั้น แต่สำหรับคุณ ที่คิดแบบนี้ ไม่เป็นเรื่องผิด เพราะบางคนที่เกิดมา ล้วนเจอ อุปสรรค ปัญหาต่างๆ นานา ที่พยายามจะทำให้พอแก้ไขให้ดีได้ แต่ไม่ต้องเด่น เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าสังคมมันเป็นอย่างนี้ อะไรจะสู้ทำให้ดีมาก ก็ดีได้แค่ตัว เพราะเราไม่ใช่คนกลุ่มใหญ่ แต่เรายังสามารถที่จะดำรงชีวิตให้อยู่อย่างปลอดภัยได้ ถ้าเรามีสติพร้อมกับระลึกถึงสิ่งที่ทำ ทำดีกับครอบครัว ทำดีกับญาติ หรือเพื่อนที่คบหากัน มิตรภาพดีๆ สร้างขึ้นด้วยใจครับ ทำดีเข้าไว้ แต่ไม่ต้องคิดมากกับสิ่งใดๆ ถือว่า อะไรที่สามารถทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่นในสังคม ทำไปแบบไม่ต้องคิดมาก ไปเรื่อยๆกับชีวิต อะไรก็ช่างครับ ขอให้สุขไปในทางดีครับ
     
  14. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ..ขอให้สุขไปในทางดี..ผมชอบประโยคนี้ของคุณครับ
    ปล.เพราะบางคนสุขไปในทางชั่ว อันนั้น อันตราย:cool:
     
  15. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    โลกก็คือโลก 555+
     
  16. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เช้านี้ รู้สึกว่าโลกสวยค่ะ:p
     
  17. คนอนาคต

    คนอนาคต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +28
    โลกนี้ ให้อะไรกับชีวิตคนเรามากมายเลยนะ สรรพคุณเนี่ย ไม่ต้องอธิบายมากเลยนะ แค่คร่าวๆ ก็คงพอ เพราะถ้าจะให้ละเอียดลึกลงไป คงต้องถึงขั้นไปคลุกคลี หรือศึกษากับสิ่งนั้นอย่างจริงจังเลยทีเดียวเชียว เอาเป็นว่ามนุษย์ ได้อาศัยโลกนี้อยู่ โลกคือผู้อุปการะคุณ มอบสิ่งต่างๆให้เราได้ยืนหยัดอยู่จนถึงทุกวันนี้ รายละเอียดนี้ เป็นรายละเอียดจากที่มองเห็นตามความเป็นจริง ไม่ได้แต่งขึ้นมา แต่แค่ดูว่ามนุษย์ มีความสามารถอะไรตั้งมากมาย ก็เลย อยากจะแจกแจงให้เห็น เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่ยังท้อในด้านการงานก็ดี ด้านการมองคุณค่าของชีวิตก็ดี อย่างน้อย เผื่อจะเป็นแนวทางแห่งการหลุดพ้น จากสิ่งจองจำ ที่มัวเมา ได้แค่ไหนเอาแค่นั้นนะครับ เพราะผมไม่เก่งครับ ผมไม่ใช่คนจบปริญญาตรี จบแค่ ม.6 ปวช. ก็หรูแล้วครับ ^_^

    มนุษย์ (มะนุดสานัง) (คน) คืออันเดียวกันนะ ที่ว่า ประโยชน์นั้นหรือ คือคำตอบ

    มนุษย์ได้อะไรจากส่วนศรีษะ
    - ได้ตัดผม เพราะผมอาจยาวเกินไป จึงต้องตัดผม ได้มาละ 1 งาน ช่างตัดผม
    - ได้สระผม เอ้าผมรู้สึกแย่ เหม็นจากเหงื่อ จึงต้องหา แชมพู มาสระผม ได้งานมาอีกแล้ว ขายอุปกรณ์เพื่อความสวยงาม และความสะอาด ผมบาง ผมขาดร่วง รังแค ผมมัน ผมแตกปลาย มีให้เลือกตามความต้องการของหนังศรีษะของแต่ละคน
    - ได้ไดร์ฟผม เพราะผมเปียก ได้มาอีก 1 งาน ขายเครื่องเป่าผม หนีบผม อบผม
    - ได้ดัดผม ยืดถาวร ทำสีผม ถักเปียผม รัดผมด้วยหนังยางหลากสี เกล้าผมด้วยของแหลม เพื่อม้วนเส้นผมให้อยู่ข้างหลังอย่างมั่นคง นี่ก็งานอีกนั่นแหละ
    ----------------------------------------
    มนุษย์ได้อะไรจากใบหน้า
    - ได้เขียนคิ้ว เพราะคิ้วบางคนมันบางซะจนต้องทำสีของคิ้วเพิ่ม ดินสอเขียนคิ้วคร๊าบ
    - โกนหนวด โกนเครา ได้ขายใบมีดโกน ครีมสำหรับโกนหนวด
    - ครีมบำรุงผิวหน้า ทุกสภาพผิว แป้งผัดหน้า อย่าเอาไปทอดนะ ผัดก็พอ...ว๊ากกกก
    - ได้บิ๊กอาย ก็คือ เลนส์ตาเทียมที่ทำให้ดวงตาดูใหญ่ขึ้น นี่ก็งานนะ ได้แว่น นี่ก็ใช่ แว่นกันแดด แว่นสายตา
    - ได้สแกนม่านตา สแกนทั้งใบหน้า นี่ก็ด้วย สำหรับเป็นช่องทางความปลอดภัย เกี่ยวกับการเข้าประตู หรือสิ่งที่ต้องการปกปิดเป็นความลับแบบต้องแสดงตนด้วยตนเองเท่านั้น
    - ได้ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก รักษาฟัน ได้หมอรักษาเฉพาะทาง คือ ทันตแพทย์ ได้ใช้เทคโนโลยี ทำสะสารที่ทำให้อาการปวดฟันลดน้อยลง อุปกรณ์ทางการแพทย์
    - ได้สมุนไพร สำหรับลอกหน้า ทำให้สิวเสี้ยนที่อุดตันบนรูขุมขน สามารถหลุดออกได้ ถ้าใครเคยใช้ไข่ขาว ก็จะตึงๆล่ะนะ อิอิ ห้ามยิ้มนะ เดี๋ยวหน้าจะมีรอยย่น โอ้วว เดี๋ยวนี้มีครีมลดริ้วรอยแล้วนี่
    - ได้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เสริมจมูก โมท๊อกซ์ ดีท๊อกซ์ อะไรสักอย่าง อันนี้ตามไม่ทันครับ ไม่ค่อยรู้เรื่อง
    - ลิปสติก สีต่างๆ ทำให้ริมฝีปากของผู้หญิง ดูดีขึ้น ริมฝีปากแห้ง ก็ใช้ขึ้ผึ้งแทน
    - ขนตา ใช้มัสคาร่าสิ อาจทำให้โดดเด่น ดูดีขึ้นมา เป็นประกายสำหรับหญิง
    ---------------------------------------
    มนุษย์ได้อะไรจาก หู
    - ได้เจาะรู เอาอะไรมาถ่วงกันเนี่ย ฮ่าๆๆ สวยอยู่นะ แต่ก็เจ็บ เพื่อความสวยแท้ๆ T_T
    - ได้ยินเสียง ฟังเพลง
    ---------------------------------

    มนุษย์ได้อะไร จากส่วนของร่างกาย ตั้งแต่คอ จนถึงท้อง ตั้งแต่มือ จนถึงหัวไหล่
    -ได้เครื่องประดับ เช่น สร้อยประเภทต่างๆ ใส่ที่คอ ได้กำไรข้อมือ นาฬิกา แหวน
    -ได้ผ้าซับเหงื่อ เมื่อวิ่งออกกำลังกาย ที่ข้อมือ ทำลวดลายศิลปะบนหัวไหล่ และส่วนอื่นๆที่สามารถลงงานศิลป์ได้
    - ได้ครีมกำจัดขน ในส่วนต่างๆ เช่น ของผู้ชาย ขนหน้าอก มันมีเยอะจังแฮะ เอาครีมกำจัดขน กำจัดซะ บ้างก็ใช้วิธีลอกเอา อันนี้เจ็บสุดๆ แถมแดงด้วยนะ ฮ่าๆๆ
    - ได้อุปกรณ์ออกกำลังกาย น้ำหนักยกมือข้างเดียว และอุปกรณ์ยกน้ำหนักประเภทต่างๆ
    - ได้สเปร์ดับกลิ่นกาย ทั้งรักแร้ และหน้าอก ได้เสื้อแขนสั้น เสื้อแขนยาว เสื้อคอกลม และเสื้อประเภทต่างๆ สูท+เน๊กทาย ก็มีด้วย
    - ได้สแกนลายนิ้วมือ สแกนมือ สำหรับอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนตัว
    - ได้น้ำยาทาเล็ปด้วยหล่ะ เพ้นท์เป็นสีหรือรูปแปลกๆ บนเล็บด้วยนะฮับ อย่าลืมตัดเล็บด้วยหล่ะ เดี๋ยวยาวไปจะพิมพ์ดีด ไม่คล่องนิ้ว
    - เล่นดนตรี ทำงานประเภทต่างๆ ใช้มือทำเป็นส่วนใหญ่ ฯลฯ
    ----------------------------------------
    มนุษย์ได้อะไรจากส่วนของเอว จนถึงเท้า
    -ได้กางเกง ขาสั้น ขายาว ขาก๊วย หรือแบบต่างๆที่ใส่ รวมถึงกางเกงภายใน
    -ได้นวดแผนโบราณไง งานเยอะนะอันนี้
    - รองรับน้ำหนัก ทั้งที่เป็นน้ำหนักตัวเอง และน้ำหนักผู้อื่น และสิ่งของ
    - ได้เดิน ได้ยืน ได้วิ่ง ได้เล่นกีฬา
    - กำไรข้อเท้ายังมี รองเท้าสไตล์ต่างๆ
    - ครีมกำจัดขนขา อันนี้คงจะเป็นขวดเดียวกันกับขนหน้าอกหรือเปล่าเนี่ย O_O
    -------------------------------------------

    ส่วนต่างๆทั้งหลายเหล่านี้แหละ ที่มนุษย์ได้อะไรมาตั้งเยอะเลยนะ มีหลายอย่างที่ไม่ได้อธิบาย เพราะพื้นฐานของทุกคน ควรรู้กันอยู่ในปัจจุบันอยู่แล้ว แต่ที่บอกให้เห็นนั้น มนุษย์ทำอะไรได้ตั้งมากมายเลยนะ ก็เท่ากับว่า

    โลกนี้ดี มีคุณค่า ไม่ดับสูญ
    พอกเพิ่มพูน สติปัญญา นานาไข
    เปิดความลับ จับประเด็น ให้เห็นใน
    ความรู้ได้ ใช่มีน้อย ในโลกา

    คนก็มีค่านะ

    คนมีค่า อย่ามอง ให้หยามเกียรติ
    เหมือนคนเครียด อยู่ไป ทำไมหนา
    บอกว่าไป ไหนก็ได้ ที่ชอบมา
    บอกแล้วหนา กลับบ้านเก่า อย่าเล่าไป
    เรื่องความใน ของคนใด ใครจะรู้
    มีให้อยู่ ดูด้วยตา ต่างกันไหม
    บอกไม่ออก บอกไม่ถูก ให้รู้ไซร้
    ความรู้ได้ ใช่มองออก เพียงหน้าตา

    ่(กลอนสดเด้อ ผิดถูกก็อย่าว่ากัน มือใหม่นะ)

    เพราะฉะนั้น ความรู้ ที่มองเห็น มิใช่มองที่หน้าตา แต่สติปัญญา ได้มาจากความรู้ที่เราได้ศึกษาจากการมองเห็น และสัมผัส พร้อมกับมโนเอาเอง หรือตั้งสมมติขึ้นมา เป็นเจตนา ให้ความรู้ที่ว่านี้ ได้ศึกษามาจนถึงรุ่นหลัง เพราะความรู้ได้มาแล้วในปัจจุบัน ให้ช่วยกันคัดกรอง เอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้เด็กรุ่นหลังได้ศึกษา พอเป็นทางสายใหม่ สำหรับคนที่ต้องผจญภัย กับโลกใบนี้ เพื่อความรู้กับประโยชน์ต่างๆ จะได้คืนกลับมาบ้านเรา คือโลกอย่างแท้จริง โลกแห่งสันติสุข โลกแห่งความรัก ไม่มีเกลียดชังกัน ไม่โกรธกัน โดยไร้ซึ่งเหตุและผล มีแค่นี้นะเออ.....พิมพ์เยอะเดี๋ยวเมื่อยจัด ไปนอนล่ะครับ เช้ามาทำงานต่อเหมือนเช่นเคยคร๊าบ
     
  18. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    โลก.. โดยกายภาพรูปลักษณ์จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ..

    แต่เป็นที่รวมของสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณความรู้สึกสุขทุกข์ด้วยกัน และสิ่งไม่มีชีวิตได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    อันเป็นสถานที่ เรา สามารถเลือกได้ .. ที่จะทำและไม่ทำ ซึ่งเราสามารถกำหนดทางของเราเองได้

    ทำและไม่ทำ.. เป็นไฉน?

    เลือกทำดีต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก โดยอาศัยสิ่งต่างๆ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    (แม้คำพูดดี ก็คือ ผ่านทางอากาศ หรือ ลมนั้นเอง)

    และการเลือกไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี ต่อมนุษย์และสัตว์อื่น นั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2014
  19. คนอนาคต

    คนอนาคต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +28
    โลกนี้ อย่างกับว่า เป็นเซิร์ฟเวอร์ ขนาดใหญ่ ที่รองรับหลายๆระบบเข้าด้วยกัน เป็นไปได้ว่า โลกนี้แหละ คือ เดอะ เมทริกซ์ (The Matrix) ซึ่งความเห็นของผู้คน อาจจะมองข้ามเรื่องความสำคัญนี้ลงไป เพราะพื้นฐานมนุษย์นั้น อาศัยปัจจัย 4 อย่าง ในการดำรงชีวิต และนอกเหนือจากนั้น คือการศึกษา และการศึกษา ก็ถูกแบ่งออกไป ความรู้จึงไม่ค่อยจะเสมอภาคกันเท่าไหร่ เช่น นักเรียนในตัวเมือง กับ นักเรียนในชนบท แตกต่างกันด้านความรู้ แต่ไม่มาก แต่ความทัดทานนั้น สู้ในเมืองกรุงไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับรูปแบบ หรือหลักการสอน และการสอนคือสิ่งสำคัญ ที่ทำให้เราต้องรู้ และรู้ได้ รู้อะไร รู้ทำไม รู้แล้วไปไหน ประสบความสำเร็จหรือไม่ มันก็ต้องอาศัยสังขารของคนๆนั้น คือความพร้อมทางด้านร่างกาย สติปัญญา และความเป็นอยู่ ทำให้ชนชั้นมีวรรณะมากขึ้น แยกความจนกับความรวยเป็นซะอย่างนั้น บ้างก็ต้องแป๊ะเจี๊ยะเพื่อให้ลูกได้เท่าเทียม เพื่อหวังชื่อเสียงบ้าง หวังให้ได้ครูดีๆบ้าง จบออกมาแล้ว ทำงานได้เงินใช้อย่างสบาย เหตุต่างๆนี้ ล้วนมีจุดมุ่งหมาย คือความเป็นผู้อยู่รอด และต้องการมีชีวิตที่ผาสุข แล้ววันนี้ทุกคนได้ตามที่สมหวังไว้ได้หรือไม่ ไม่เลย.....เพราะโลกนี้ เป็นโลกธรรม 8 มีระบบธรรมะ หล่อเลี้ยงจิตใจชาวไซเบอร์ทั้งหลาย ที่ได้ลงมาเกิดในระบบสุริยะนี้ โลกนี้เกมส์แห่งความต้องการมีมากกว่า 1 จักรวาลเสียอีกนะ คิดเอาเป็นการบ้านกันนะ เพราะโลกนี้มีตำราพรหมชาติอยู่ รู้อะไรรู้ได้ ก็ไม่สู้รู้ตนเอง แต่ถ้าไม่รู้ตนเอง ก็ไปหาความรู้มาใส่ อา..มิต..ตา...พุด
     
  20. Kinglondon

    Kinglondon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +70

แชร์หน้านี้

Loading...