" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

... ไม่ได้เกี่ยวกับหนูเลยคะ .. พี่มีปัญหาส่วนตัวคะ .. เวลาเล่ามันต้องใช้สมาธิพอสมควรลูกค้ามาเรื่อย ๆ พี่ก็ไม่สะดวกเล่าต้องทำงานขายของ แถมไม่สบายด้วยคะ เข้าใจละนะคะ

 

... ที่พี่กล่าวมานั้นถูกต้องที่สุดคะ .. ในสถานที่แบบนี้จะเป็นที่รวมของพวกที่ชอบเสพของแบบนี้ เช่น โรงฆ่าสัตว์ เขียงเนื้อ ฯ

... โดยส่วนมากหากเป็นบริเวณที่มีสถานที่แบบนี้แล้วพวกที่มาหากินในที่แบบนี้หากยังไม่เคย " กินคน " มาก่อนพวกเขาก็จะไม่ดุร้ายเท่าไหร่ จะหากินเพียงแค่ประทังตนไปจากความกระหายหิว ... ไม่ทำร้ายใคร .. ด้วยยังติดวิสัยของตอนเป็นคนอยู่มาก คือ มีความละอาย

... แต่พวกที่เคย " เสพเลือดเนื้อของคน หรือ กินคน " พวกนี้จะอัพเวลความดุร้ายขึ้นมาอีกหลายระดับว่ากันไป .. แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะกลายเป็นเหยื่อของพวกเขาง่าย ๆ

... ส่วนที่ต้องมาอยู่ที่นี้ก็เพราะ " กรรมกำหนดให้ต้องมาอยู่ยังที่นี้ ที่ดินดั้งเดิมตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ " ที่ที่เป็นที่กล่าวขานมากเมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้วว่า " ผีดุที่สุดในย่านนี้ " แทบไม่มีคนอยากผ่านยามพลบค่ำ .. ถึงจะขายให้คนอื่นไปแล้วแต่สิ่งที่อยู่ที่นี้ก็ยังเป็นบรรพบุรุษของ กาลีนะ อยู่ดี ..

 

... ส่วนอาการที่เป็น ก็คงเป็นเพราะมีการสัมผัสพลังกัน .. ก้จะเป็นแบบนี้แหละคะพี่ ^_^ แถวโคราชก็เยอะอยู่นะคะ ..

... ส่วนมากคนที่เป็นเจ้าของมักถูกขับไล่ให้ออกจากพื้นที่มากกว่า .. หรือ ทนอยู่ต่อไปไม่ได้ต้องย้ายหนี ... และ ที่น่าตกใจคือ .. พวกนี้มักหนีเข้าไปอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เสียด้วยสิคะ .. ที่ที่คนไม่สนใจกัน ต่างคนต่างอยู่ ... สบายเลย เห้อ ๆ

 

... ใช่คะ กรณีนั้น คือ ดวงจิตพวกเขาได้ผูกพันธ์กันไปแล้ว .. เพราะเจ้าของดวงจิตนั้นได้พ่ายแพ้ต่อพลังของปอบนั้นเอง .. และ หากปล่อยเนิ่นนานไปก็ยากที่จะแยกมันออกจากกันได้ .. และ ถูกครอบงำจนหมดไปในที่สุด ... หรือ กลายเป็นปอบไปนั้นเอง .. พวกนี้ไม่ใช่แค่ถูกสิงธรรมดานะคะ โดยมากก็พวกที่เรียนวิชา รับขันธ์ รับของอาถรรพ์ ฯ นั้นแหละคะถึงจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้

... ส่วนพวกหมอกำจัดปอบนั้น เคยได้ยินไหม๊คะ " หมองู ตายเพราะงู " หมอกำจัดปอบก็สามารถพลาดเป็นปอบเองได้ยังไงละคะ .. อยู่ที่ต้นวิชาที่เขาเรียนมาว่า " กำหนดไว้ว่าอย่างไร รวมทั้งวิธีแก้ไขด้วย "

... เอาแค่นี้ก่อนนะคะสำหรับเรื่องนี้ เพราะความรู้ยังไม่มากพออาจตอบผิดได้ ..

 

.. เอางี้ขอเล่าสิ่งที่เจอช่วงก่อนหน้านี้เลยละกันว่ามันแปลกขนาดไหน เริ่มต้นแม่ของเาเองฝันประหลาดว่าแกนั้งรถมาจากในหมู่บ้านแล้วมี " ลิงกัง " เกาะท้ายรถแกมาที่ร้านแถมแยกเขี้ยวใส่แกด้วย .. แกเลยหลอกมันให้มันไปทางที่เข้าหมู่บ้านมันก็หลงเชื่อไปตามทางที่แม่เราบอก .. เออ .. เราก็เพิ่งเคยเห็นว่าพวกนี้หลอกได้ด้วย .. อิอิ แม่แกดูภูมิใจมาก .. นี้ขนาดในฝันนะ ..

... ประจวบกับช่วงก่อนหน้านั้นครอบครัวนี้ได้ปิดร้านหายไปเหลือไว้แค่คนแม่ .. อาจเป็นเพราะช่วงนั้นร้านพวกเขาลูกค้าลดลงเรื่อย ๆ แต่แม่เราอยู่ ๆ ก็มาคุยกับเราว่าร้านนั้นเขาไปหา " ของดีมาอีกแล้วนะ ดูสิลูกค้าจอดรถไกลแค่ไหนก็ยังเดินเข้าแต่ร้านเขา ร้านใหญ่ขนาด .. สักสาริกาลิ้นทอง .. ยังสู้ไม่ได้เลยของเขาแรงจริง ๆ " .. เราเองได้แค่คิดในใจว่า .. งานนี้เราคงต้องเจอศึกหนักอีกนานเลยทีเดียว ... แต่ก็ไม่คิดว่าจะ " หนักหนาสาหัสขนาดนี้ " แบบที่เราเองก็ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเดาไม่ออกเลยว่ามันคืออะไรกันแน่ ..

 

ถ้า เปิดร้านสังฆทาน แข่งแถวนั้น

จะดีไหมคะ

 

... ไม่รุ่งคะ .. ยกเว้นว่าจะขายในราคาที่น่าฟังของมีคุรภาพสมราคา ... เพราะเท่าที่เห็น ... สินค้ากับราคาแล้ว .. อ.บุญชู แกยังไม่ใช้เลยคะ .. แกแกะเอาแค่ปลากระป๋องมาให้แมวกินแค่นั้น กับผงวักผ้า ...

 

.. ตั้งแต่วันที่พวกเขาปิดร้านแล้วมาเปิดใหม่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป .. ลูกค้าไม่ว่าจะจอดรถร้านใครก็จะเดินมาซื้อแต่ร้านพวกเขา หรือ มานั้งกินที่ร้านพวเขาจนเป็นที่น่าแปลกใจ ด้วยปกติร้านใหญ่ติดกันนั้นจะมีลูกค้าเยอะตลอดไม่ขาดสายเป็นปกติ ... แต่รอบนี้ผิดคาดคะ ลูกค้ากลับเข้าร้านครอบครัวนั้นแทน ...

... ตั้งแต่วันนั้นมาทุกเช้าคนพ่อจะจุดธูปไหว้ที่หิ้งพวกเขาทุกเช้ามืด ถ้าคนแม่ออกมาขายของก็จะจุดธูปไหว้ตรงหน้าเขียงทุกวันแต่มันก็ไม่น่าแปลกใจอะไรนักสำหรับแถวนี้เพราะก็ไหวกันทุกคน แต่มาแปลกตรงที่แม่เราเขาเห็นพฤติกรรมอีกอย่างของพวกเขา คือ ถ้าวันไหนฆ่าวัวตัวใหม่คนพ่อจะเฉือนเนื้อวัวสด ๆ คลุกกับเลือดมาวางไว้ตรงกระถางต้นไม้ติดเสาหน้าร้านฝั่งข้างร้าน กาลีนะ บางครั้งก้จุดธูปด้วยบางครั้งไม่จุด ... อันนี้ กาลีนะ เห็นว่าไม่เมาะไม่ควรอย่างมากเพราะด้วยแถวหมู่บ้านนั้นก็ยังมีพวก " ปอบ " ที่หลงเหลือจากการขับไล่อยู่พอสมควรเหมือนเป็นการเชื้อเชิญยังไงไม่รู้ .. ที่คิดแนวนี้เพราะถูกพ่อปลูกฝังมาว่า " การเลี้ยงผี เลี้ยงว่าน ด้วยสิ่งมีชีวิตสด เลี้ยงด้วยเลือดมันจะให้ผลอย่างไร " ... บรื๊ออออออ

.... มาดูฝั่งร้าน กาลีนะ บ้างนะคะว่าทำไมถึงเอาเรื่องนี้มาเล่า ... และ ทำไมสงสัยครอบครัวนี้มากทั้งที่มีอีกหลายคนในแถวนี้ที่เข้าข่าย ...

... ด้วยหลังจากนั้นมาทั้ง เรา และ แฟน เริ่มมีอาการประหลาดเกิดขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็ว่าได้ .. คือ มีอาการ " ง่วงแบบสุด ๆ ชนิดจะหลับกลางอากาศได้เลย และ เหนื่อผิดปกติเวลามาขายของหน้าร้าน เหมือนคนหมดแรงข้าวต้มทั้งที่ก็ไม่ได้ทำอะไร ยิ่งหลังสามทุ่มกว่าไปแล้วจะเกิดอาการทุกวันต่อให้เราหลับมาอิ่ม ๆ ก็ตาม " และ แฟนก็มักฝันแปลก ๆ เกี่ยวกับหมาดำ ลิง ผีร้าย .. ไม่รวมสัมผัสที่คุกคามเขาตลอดเวลา .. ก่อนนี้เมื่อปีที่แล้วที่บ้านนี้มาอยู่ใหม่ ๆ เขาก็เป็น มักเห็นเจ้าที่มาขอหลบภัยในห้องนอนก็มี มาขอให้ปิดประตูห้องอย่าเปิดตลอดเวลาเพราะท่านเหนื่อยมาก ... แต่คราวนี้เขาออกเหมือนโดนทำร้ายร่างกาย ทรมาน .. และ มักฝันว่ามีการต่อสู้ทุกคืน .. เราก็ให้สงสารเขามากได้แต่บอกเขาว่าให้สู้อย่าแพ้เพราะถ้าแพ้ก็ไม่อาจจะเดาถึงอันตรายที่จะตามมาได้ ... แต่เขามักบอกว่ามักมีคนมาช่วยเขา .. ส่วนมากจะเป็น พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สาว หรือ ญาติที่เสียไปแล้วมาช่วยเขาทุกคืน ... ( เรียกว่า ผีบรรพบุรุษคุ้มครอง )

.... ข้างฝ่ายเราเองอาจจะโชคดีกว่าแฟนหน่อย แค่ง่วงนอน กับ รู้สึกเหนื่อยมาก .. ส่วนความฝัน เรามักจะฝันเห็นเป็น " ลูกหมาของครอบครัวนั้น " พากันมาวิ่งเล่นป่วนเปี้ยนในร้านเรา แต่พวกมันไม่กล้าทำอะไรเรา .. มีคืนหนึ่งเราฝันแปลกแถมมันยังสร้างความประหลาดใจแกเรามากว่ามันมีสถานที่แบบนี้จริง ๆ ด้วย หรือ เราไม่เคยรู้เลย

 

.. ความฝันนั้นมีอยู่ว่า ...

... เราฝันถึงบ้านเก่าสมัยเด็กเราอยู่ที่นั้น แล้วพอเราเดินออกจากบ้านไปทางทิศเหนือสองข้างทางมันแปลกตามาก กลายเป้นถนนทอดยาวลูกรังแดงมีคูน้ำสองข้างถัดไปเป็นที่โล่งเตียนดินแดงด้านขวามือคุ้นตาเหมือนที่เราเคยฝันถึงว่าเราสูญเสียจรเข้ที่เลี้ยงไว้หลายร้อยตัวไปกับการสู้รบแล้วเพาะพันธุ์ขึ้นมาใหม่ แต่ตรงที่เคยมีรูปปั้นยักษ์ใหญ่ ๆ ไม่มีมีเพียงที่โล่งกับคูน้ำ ด้านซ้ายเป็นป่าละเมาะไม่คุ้นตา ... แต่เรามาตกใจตรงที่คูข้างถนนนั้นกลับเต็มไปด้วย " ของสกปรกเหม็นเน่า .. มีหนอนตัวเล็กตัวใหญ่ชอนไชไปทั่วน่ารังเกรียจติมาก .. แทบอ๊วกแตก ... เรามองสิ่งเหล่านั้นใจเราก็บอกเราว่า " พวกของต่ำเศษสวะน่ารังเกียรติ " แล้วเราก็เดินต่อไปเจอ ... " ช้างพลาย " มีคนเอาช้างมาให้เรานั้งช้างนั้นทรงเครื่องโบราณสวยงามมีคนบังคับช้างแต่งตัวโบราณ .. ช้างพาเราเดินไปทางเหนือแล้วเลี้ยวขวาผ่านต้นไม้ไปสักพักจำได้ว่ามีต้นมะขามด้วย .. เพราะกิ่งมันเกือบฟาดหน้าเราจัง ๆ ดีหลบทัน ..
... ช้างพาเรามายังมาเจอปราสาทสวยงามที่ยังสร้างไม่เสร็จหลังหนึ่งสวยงามมากเหมือนเขามีพิธีอะไรกันเพิ่งเสร็จ .. ช้างพาเรามาส่งที่ปราสาทนั้นตรงที่คล้ายที่เขาทำให้เทียบช้าง ... แล้วช้างตนนั้นก็กลายร่างเป็น " อสุรกายเพศผู้นุ่งเตี่ยวขาดสกปรก " นึกภาพ " กอลัม เดอะลอด์ " ไว้นะคะแบบนั้นเลยคะแต่ผอมสูง .. เราพยายามนึกมานานว่าคนที่อสรุกายนั้นคลานเข้าไปหาเป็นใครจำได้แค่ว่าเป็นผู้ชาย ไม่เป็นพระ ก็กษัตรย์โบราณ .... แต่ตอนนี้เรามั่นใจว่าเป็นพระแต่เราไม่เห็นหน้าท่าน

... เราในตอนนั้นก็เหมือนเป็นหญิงสาวแต่กายโบราณชุดมีทองด้วย ในฝันเราขอร้องให้เขาช่วยพากเราไปหาคนคนหนึ่ง " ข้ามาตามหาสามีข้าท่านโปรดช่วยพาข้าไปตามหาเขาที " นั้นคือสิ่งที่เราพูดกับช้างพลายตนนั้น แล้วเขาก็หันหน้าไปมองชายอีกคนแล้วก็กลายร่างเป็นช้างพลายเช่นเดิมให้เราขี่หลังไป

... มันก็แปลกดีคะ .. เพราะจากนั้นไม่นานเราก็ได้ไปเจอสถานที่นั้นจริง ๆ เหมือนในฝันเกือบทุกอย่างยกเว้นเหล่าคนโบราณเท่านั้นที่เราไม่เห็น และ ที่เทียบช้าง กับ เรือสุพรรณหงษ์ที่อยู่ข้างปราสาทไม่มี ... แต่สถานที่จริงที่เราไปเจอมัน คือ วัดดัง .. ในจังหวัดสุรินทร์ .. วัดที่มีเกจิอาจารย์ผู้มีเมตตามหาศาล ผู้ที่มีอาคมเข้มขลังน่าเกรงขาม ผู้ที่ทอดสังขารอายุร้อยกว่าปีไว้ให้คนรุ่นหลังกราบไหว้บูชา .. กาลีนะ เลยกราบสังขารท่าน และ ขอท่านให้เมตตาเป็นครูผู้สั่งสอนอบรมให้จิตเรา .. เป็นผู้เรายกขึ้นเป้นครูอีกผู้หนึ่ง เป็นผู้ที่เรานับถือในความสมถะของท่าน ..

... เราเคยถาม อ.บุญชู ว่ามีเหตุใดทำให้เราฝันถึงที่นั้น .. เราก็ได้คำตอบมาแต่ยังไม่พอใจนัก .. แต่รู้ว่า อ.บุญชู ได้เคยไปกราบท่าน และ ท่านเคยช่วยเหลือสั่งสอนมาแล้ว

... เรามารู้ตอนหลังว่า สิ่งสกปรกที่เราฝันถึงมันคืออะไร ... แม่เรามาเล่าให้ฟังว่า .. แม่บ้านครอบครัวนั้นตอนเช้ามืดที่เราปิดร้านพวกเขาจะนำเศษอาหารขยะ ของเน่าเหม็นในร้านมาทิ้งใส่ถังขยะหน้าร้านเราทุกวัน ... นั้นแหละเราจึงเข้าใจในหลาย ๆ สิ่งที่สงสัยหาคำตอบไม่ได้ ...

 

ที่แท้ คุณกาลีนะ หายไปด้วยเหตุเมื่อย นี้เอง

กะลังจะโทรไปตามแล้วเชียว (แต่ไม่แน่ใจว่า คุณกาลีนะตื่นเวลาไหน กลัวว่าจะโทรไปรบกวน ๕๕๕๕)

 

.... ถ้าช่วงก่อนหน้านี้ที่หายไปเป็นครึ่งเดือนนั้นใช่คะ .. หนีพวกนี้ไปตั้งหลักกับไปไหว้พระ และ ก็พาแฟนไปทะเลตามสัญญาคะ .. ทั้งที่เป้นคน และ ที่เป็นภพภูมิ ..

.. ส่วนช่วงนี้นั้นทำงานคะ .. คือ ตื่นประมาณบ่ายสองก็จะออกไปจองล็อคขายของที่ตลาดนัด หรือ ถนนคนเดิน เก็บของกลับร้านประมาณสี่ทุ่ม .. จากนั้นขายของถึงตีสี หรือ ตีห้า เก็บร้าน .. กว่าจะได้นอนก็ประมาณหกโมงกว่าทุกวัน .. ที่ไม่ค่อยได้มาลงเล่าก็เพราะเวลาขายของตลาดขายกับแฟนคะ .. แต่ขายเนื้อถึงเช้า .. ทำคนเดียวคะ ... มันไม่ว่างจริง ๆ ตอนนี้แม่ก็จะยกรถให้ผ่อนเองแล้วเดือนละเกือบหมื่นบาท ... ขนาดพวกรอส่วนบุญมาบ่นให้เลยคะว่าเดียวนี้ไม่ค่อยได้ทำบุญให้เลยนะ .. สวดมนต์ก็ไม่ค่อยสวด .. ลำบากพอสมควรคะ

.. เพราะการมาเขียนเล่าเรื่องราวของ กาลีนะ ต้องใช้สมาธิคะ .. ไม่รู้คนอื่นเป้นไหม๊ .. อย่างถ้าไปเขียนในกระทู้คนมีองค์ด้วยแล้ว .. เหมือนเราต้องใช้พลังมากพอสมควรเลยกว่าจะเขียนออกมาได้ถ้ามีอะไรมาขัดมันจะเขียนไปต่อไม่ได้เลย .. มันรู้สึกเหนื่อย ๆ คะ .. แต่ถ้ากระทู้ปอบก็จะมีลักษณะแตกต่างออกไป เช่น เวลาเขียนจะเหมือนมีคนมายืนคุมข้างหลัง หรือ เหมือนมีใครมาลอบแอบมองเราอยู่แต่ไม่กล้าเข้าใกล้สงสัยจะกลัวคนที่ยืนคุมอยู่คะ .. ต่างจากกระทู้ร่างทรงที่มันจะออกมาจากในตัวเราซ้อน ๆ กันอยู่บวกกับที่ยืนคุมข้างหลัง .. อธิบายไม่ถูกเหมือนกันคะ ..

... แถมยังไปรุ้จักกับน้อง ๆ ที่ตลาดอีกหลายคนที่เขาขอให้ช่วย .. เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติที่ครอบครัวเขาเจอด้วย ... ตอนแรกว่าจะไม่ยุ่งแต่ก็สงสารเด็ก และ ยังฝันถึงคนในครอบครัวน้องเขาทุกวันตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่ที่นี้อาทิตย์กว่าแล้ว ..

... ส่วนเรื่องภพภูมิที่มาก่อกวนช่วงนี้เงียบไปแล้วคะ .. โดนไฟเผาหัวไหม้ไปแล้วคงอีกนานคะ .. หรือ เขาอาจไม่อยากมายุ่งกับร้าน กาลีนะ แล้วก็ได้ ..

 

... เอิ่มพิมพ์เสร็จ กดลงโพส ... โพสหาย ... งั้นวันหลังละกันคะ .. วันนี้คงต้องไปเตรียมตัว อาบน้ำ สวดมนต์ นอน ก่อนคะ .. แฟนใกล้ถือศีลอดแล้ว .. คงยุ่งพอสมควร

 

มารอฟังแม่กาลีนะเล่าเรื่องวิธีรับมือกับปอบข้างบ้านยังไงบ้าง

ท่านที่คอยปกป้องแม่กาลีนะอยู่คอยช่วยไว้ยังไง

อ.บุญชูท่านให้คำแนะนำในการป้องกันตัวหรือตอบโต้ไว้ยังไงบ้าง

แล้วขั้นต่อไปของข้างบ้านที่ดูแลระดับหัวหน้าเอาไว้เนี่ย เขาจะเป็นยังไงต่อได้บ้าง รวมทั้งลูกๆเขาต้องมารับช่วงต่อไปด้วยอีกหรือเปล่า...

ปล.ช่วงหลังมานี่ พี่นี้สงบเสงี่ยมเจียมบอดี้อยู่นะ ไม่ค่อยจะอะไรยังไงกะใครหรอก ฝึกอยู่เงียบๆไม่อยากมีเรื่องมีราวอ่ะนะ...

 

.. บ๊ะ!! กำลังคิดอยู่ว่าพี่หายไปไหน แอบซุ่มเงียบอยู่นี้เอง อิ อิ ..

.. ตอนแรกก็มีความคิดอยู่ว่า " จะเอาเรื่องเดือนร้อนสนุก ๆ ไปให้พี่ ๆ ร่วมสนุกดีหรือเปล่า .. ติดว่าเกรงใจนะไม่งั้นดึงมาร่วมกันละคะ 555 "

 

... เรื่องนี้ได้เคยนำไปเล่าสู่ อ.บุญชู เหมือนกันคะ แกนิ่ง ๆ บอกแค่ว่า " เจ้าบ่ต้องย่านดอก .. แค่เจ้าสวดมนต์ทุกวันมันก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอก " .. ท่านแนะนำแค่นั้นจริง ๆ คะ ..

.... ส่วนท่านที่ป้องกันนั้นท่านก้ช่วยคะ แม้แต่แฟนคนที่ตายไปแล้วนั้นก็เป็นคนของท่านคะ .. แม่ท่านนำตัวมาให้ในวันที่สามหลังจากที่เขาเสียแล้วครอบครัวเขาทำพิธีศพเสร็จแล้วสิทธิขาดจึงตกแก่ กาลีนะ ทันที .. เขาจึงเป็นคนที่คอยปกป้องเตือนสติ กาลีนะ ติดตามตลอดเวลา .. ก็คนที่พี่เคยทักว่ายืนอยู่บนหัวเตียงนั้นแหละคะ .. เพียงแต่มันมีเรื่องเกี่ยวกับแม่ท่านที่ทำให้ กาลีนะ ทั้งตกใจ เสียใจ ไม่เข้าใจ อยู่หลายประการแต่ตอนนี้เริ่มคลำทางได้แล้วคะ .. ตอนแรกนี้ท้อเลยคะ ..

 

.. ด้วยหลายเหตุการณ์ดังจะเริ่มเล่าต่อไปนี้คะ ..

.. กาลีนะ มาทำอาชีพขายเนื้อวัวนี้มาสามปีกว่าอยู่กับมีดของมีคมทุกวัน .. ย่อมมีความชำนาญใช่ไหม๊คะ .. แต่ในช่วงเวลานั้นกลับเกิดเรื่องขึ้น .. คืนนั้นเราได้ทำการชำแหละขาวัวอยู่หน้าเขียงเป็นเวลาเกือบตีสามแล้ว .. อยู่ ๆ พลาด !! โดนปลายมีดแหลมแทงตรงนิ้วมือด้านซ้ายแผลไม่น่าลึกมากตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็ทำงานต่อไป .. แต่แผลที่เล็กไม่ถึงครึ่งเซ็นนั้นกลับเกิดใีเลือดสด ๆ ไหลออกมาไม่หยุด .. เรียกว่าไหลอาบมือลงมาเลยเยอะจนนึกว่าท่อจะแตก .. มันผิดวิสัยแถมกดแผลแล้วมันก็ยังไหลออกมาอยู่ดี .. เลยตัดสินใจให้เลือดนั้นไหลตกต้องธรณีไปแล้วก็อธิฐานจิตกำกับไปด้วยแก้เคล็ดเสียเลย .. แล้วปิดพลาสเตอร์ไปสองแผ่นกดแผลไว้ถึงทำงานต่อได้ .. ตอนแรกไม่กล้าบอกแฟนเพราะไม่อยากให้เขากังวลมากว่าเป็นความผิดเขาที่ทิ้งเราไว้หน้าร้านคนเดียว ..

... บางท่านคงคิดว่าทำไมเขาถึงไม่ค่อยมาช่วยทำตอนดึก ๆ บอกตามตรงคะ .. ด้วยเขาเป็นคนที่มีสัมผัสเรื่องเหนือธรรมชาติสูงพอสมควร ทำให้การสัมผัสภพภูมิมีผลต่อร่างกายของเขาที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นัก .. ในส่วนตัวแฟนเขามีคนดูแลอยู่ อ.บุญชู ท่านเคยบอกว่าเป็นเทวดาระดับสูงในศาสนาของเขาเป็นผู้คุ้มครอง .. ทำให้บางทีก็เป็นที่สนใจของพวกภพภูมิที่อยากทดสอบ .. ของแปลกว่างั้นคะ ..

... อีกทั้งในช่วงนั้นก็มักฝันแปลก ๆ กันบ่อยครั้งมักเกี่ยวกับ หมา แมว ที่ยังเป็นวัยละอ่อนอยู่อย่างนั้น .. แต่ไม่ได้ฝันว่ามาทำร้ายเราแต่มาวนเวียนรอบตัวเราอยู่ และจะมีสัตว์ชนิดเดียวกันมาทำร้าย หรือ ขับไล่พวกมันไปเอง

... ตลอดเวลาที้ต้องทำงานหน้าเชียงนั้นทุกคนจะมีอาการง่วงนอนมาก ๆ เหมือนโดนรมยาสลบก็ไม่ปานเริ่มจากสามทุ่มไปแล้วจะเริ่มมีอาการ แต่แฟนจะเตือนสติตลอดว่าห้ามหลับ .. พวนนี้มันจะทำให้เราหลับ .. แต่ตัวเขาจะหนีเข้าห้องไปก่อนเพราะทนปวดหลังไม่ไหว ..

 

กำลังแปลกใจนิดนึงนะว่า...ทั้งๆที่มีรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณอยู่ตรงนั้น น้ำมนต์ก็หมั่นพรม เครื่องรางของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แม่กาลีนะไปอัญเชิญมา ก็อยู่ที่นั่น ทำไมเขายังทำให้เกิดอาการแปลกๆทางร่างกายได้อีก ...

มีบางเรื่องไม่อยากเล่า...
แต่มีบางเรื่องที่อยากลอง...

คือให้ไปหายันต์มหาพิชัยสงคราม ผืนสีแดงๆ ของหลวงพ่อฤษี มาติดไว้ที่เหนือประตูหน้าบ้าน...
หารูปหล่อบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ มาตั้งไว้ที่หน้าบ้าน แต่ให้อยู่ข้างหลังแม่กาลีนะ คือเวลายืนขายของให้คนที่มาซื้อของมองเห็นรูปหล่อหลวงพ่อทวด

วิธีนี้กลัวว่าอาจไปกระทบกระเทือนพวกที่อยู่รายล้อมแม่กาลีนะรวมทั้งแฟนเก่าเข้าด้วยใช่ไหมล่ะ...จุดธูปบอกหลวงพ่อก่อนสิว่าใครมาดีขอให้อยู่ได้ใครมาร้ายขอให้ไม่สามารถเข้าใกล้ มนต์ดำคาถาคำสาปใดๆขอให้เสื่อมสลายหายไป...

ส่วนคาถาถอนยังไม่สอนจะดีกว่าเอาไว้จะไปเป็นครูเขาก่อนจะสอนให้ เพราะถ้าถอนไปตอนนี้ ผัวเมียข้างบ้าน จะเสียชีวิตไม่เกิน3วัน7วัน บาปกรรมเปล่าๆ

อีกอย่างหนึ่งคือพระของหลวงพ่อกวย มีบางรุ่นที่ท่านลงมนต์พระกาฬเอาไว้ มนต์นี้จะมีอานุภาพในการสะท้อนกลับสิ่งไม่ดีที่มีคนคิดร้ายหรือทำร้ายส่งมาจะสะท้อนกลับไปยังเจ้าของในทันทีทันใด อันนี้เคยมีลูกน้องทดลองแล้วได้ผล แต่ส่วนตัวไม่เคยใช้...

เรื่องที่มีกรรมเกี่ยวพันกันมานั้นมันมีอยู่แล้วแน่นอน แต่กรรมก็มีเวลา มีวาระของมันอยู่ ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำตลอดเวลาก็หาไม่

 

กำลังแปลกใจนิดนึงนะว่า...ทั้งๆที่มีรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณอยู่ตรงนั้น น้ำมนต์ก็หมั่นพรม เครื่องรางของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แม่กาลีนะไปอัญเชิญมา ก็อยู่ที่นั่น ทำไมเขายังทำให้เกิดอาการแปลกๆทางร่างกายได้อีก ...

... คือ งี้คะพี่ .. ของทั้งมวลนั้นอยู่ในห้องนอนหนูคะ .. เหมือนเป็นด่าน ๆ เข้าไป แล้วไอ้คนข้างบ้านเรานี้เขามักจะเดินเข้ามาในร้านเราเวลาเราไม่อยู่ และ หมาตัวเล็กตัวน้อยของพวกเขาก็จะแอบเข้ามาในร้านเราคะ คนแม่จะชอบเดินมาจับเนื้อวัวเราที่หน้าเขียงจับพลิกไปมาจ้องดูแล้วก็ไป .. ทั้งหมดนี้เขาจะทำเวลาที่มีแค่แม่บ้านเราอยู่เท่านั้นคะ .. กาลีนะ เฝ้าสังเกตทุกครั้งที่เขามาทำแบบนี้ .. สิ่งที่เห็น คือ เนื้อวัวจะเน่าเสียเร็วผิดปกติ .. หลังจากที่พวกนี้เดินออกจากร้านไปแล้วลูกค้าจะไม่ค่อยมีบรรยากาศในร้านจะเปลี่ยนไป .. ส่วนการพรมน้ำมนนั้นช่วงนั้นไม่ค่อยพรมคะบอกตามตรงว่าผิดใจกับแม่คะ แกชอบว่าเราต่อหน้าคนอื่นว่างมงาย .. แต่พอหนัก ๆ เขาแกก็มาบอกให้เอามาพรมแต่หนูไม่อยากทำคะ ในใจคิดแต่ว่าในเมื่อแม่เขาบอกว่าเขาเก่งเขาไม่กลัวก็เลยให้แกเจอเองบ้างแกชอบท้าทาย ( แกชอบด่าไปทั่วคะ ของที่หิ้งหนู หรือ แม้แต่จอมปลวกที่บ้านแกก็เคยสั่งให้ทุบทิ้งเพราะมีคนบอกแกว่าเป็นสิ่งไม่ดี .. แต่ตอนนี้แกทั้งกราบทั้งไหว้ ( น่าจะเป็นพ่อของพ่อแกเพราะแฟนบอกว่าท่านไม่รู้จักหนูแต่เคยเห็นแต่แม่หนูคนเดียว ) ) ... เห็นแกก็หลับสลบเหมือดเช่นกัน .. จะขำดีไหม๊นะ ... หนูไม่ได้ขอให้ท่านช่วยเรื่องนี้คะตอนนั้นขอแค่ให้ช่วยเรียกลูกค้าเท่านั้น .. แล้วก็ถูกสอนมาว่า " ของพวกนี้มันจะตามเจ้าของมันไปทุกที่ .. จะมีแค่บางที่เท่านั้นที่จะตามเข้าไปไม่ได้ .. บางคนแม้แต่เวลากินก็กินด้วยกันก็มี "

มีบางเรื่องไม่อยากเล่า...
แต่มีบางเรื่องที่อยากลอง...

... เปิดประเด็นมาสะอยากรู้เลย อิอิ

คือให้ไปหายันต์มหาพิชัยสงคราม ผืนสีแดงๆ ของหลวงพ่อฤษี มาติดไว้ที่เหนือประตูหน้าบ้าน...
หารูปหล่อบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ มาตั้งไว้ที่หน้าบ้าน แต่ให้อยู่ข้างหลังแม่กาลีนะ คือเวลายืนขายของให้คนที่มาซื้อของมองเห็นรูปหล่อหลวงพ่อทวด


.. จะลองไปจัดหามาคะพี่ ขอบคุณคะ

วิธีนี้กลัวว่าอาจไปกระทบกระเทือนพวกที่อยู่รายล้อมแม่กาลีนะรวมทั้งแฟนเก่าเข้าด้วยใช่ไหมล่ะ...จุดธูปบอกหลวงพ่อก่อนสิว่าใครมาดีขอให้อยู่ได้ใครมาร้ายขอให้ไม่สามารถเข้าใกล้ มนต์ดำคาถาคำสาปใดๆขอให้เสื่อมสลายหายไป...
.... วิธีนี้ได้ใช้อยู่เป็นประจำเวลาจะนำสิ่งใดเข้ามาจะบอกตั้งแต่แรกที่รับเข้ามาด้วยวาจาไม่ได้จุดธูปคะ .. อธิฐานเอา

ส่วนคาถาถอนยังไม่สอนจะดีกว่าเอาไว้จะไปเป็นครูเขาก่อนจะสอนให้ เพราะถ้าถอนไปตอนนี้ ผัวเมียข้างบ้าน จะเสียชีวิตไม่เกิน3วัน7วัน บาปกรรมเปล่าๆ

... คะ หนูจะรอคะ แค่พี่เมตตาก็เป็นพอแล้ว .. น่านมีประจบอีก !! แค่อย่ามารบกวนกันก็พอแล้ว ..

อีกอย่างหนึ่งคือพระของหลวงพ่อกวย มีบางรุ่นที่ท่านลงมนต์พระกาฬเอาไว้ มนต์นี้จะมีอานุภาพในการสะท้อนกลับสิ่งไม่ดีที่มีคนคิดร้ายหรือทำร้ายส่งมาจะสะท้อนกลับไปยังเจ้าของในทันทีทันใด อันนี้เคยมีลูกน้องทดลองแล้วได้ผล แต่ส่วนตัวไม่เคยใช้...

... แค่บอกว่ามนต์อะไรก็ได้คะพี่ ..

เรื่องที่มีกรรมเกี่ยวพันกันมานั้นมันมีอยู่แล้วแน่นอน แต่กรรมก็มีเวลา มีวาระของมันอยู่ ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำตลอดเวลาก็หาไม่

.... อ.ต๋องก็พูดคล้าย ๆ แบบนี้เช่นกันคะ แต่แกพูดให้ทราบล่วงหน้ามันน่าตกใจมากกว่านั้น .. แต่ท่านก็บอกทางให้เลือกเดินอยู่ .. ท่านยังบอกว่า " ชาติหน้าว่ากันใหม่ .. ชาตินี้ก็ประคองแบบนี้ไปก่อน " ใจหนึ่งก็อยากออกตามหาท่านเพื่อขอคำแนะนำต่อ .. แต่อีกใจก็เกรงใจไม่อยากนำเรื่องต่าง ๆ ไปทำให้อาจารย์แกต้องปวดหัวอยากลองแก้เองไปก่อน ... แต่ท่านก็ทิ้งท้ายไว้เหมือนกันว่า .. ถ้ามีวาสนาเจอกันรอบหน้าท่านจะรับเป็นศิษย์ .. แต่มีอยู่ครั้งเหมือนท่านจะมาหาที่ร้านเลยคะหลังจากท่านสึกเป็นฆราวาสเพื่อรักษาตัว .. แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า .. เพราะไม่คิดว่าท่านจะสึกจริงเพื่อรักษาตัว .. แต่ตอนนี้ทราบแค่ว่าท่านอยู่ในผ้าขาว .. หมดบุญผ้าขาวแล้วท่านคงจะบวชเป็นพระป่าไม่สึกตลอดชีวิตตามที่ท่านเคยบอกไว้ เพราะตอนแรกที่ท่านบวชไม่ได้เป็นพระวัดป่าคะ .. ท่านเคยพูดมาคำหนึ่งว่า " น่าเสียดายที่เกิดเป็นหญิงด้วยกรรมกำหนด หากเกิดเป็นชายจะได้บวชตลอดชีวิต " แม้แต่พระอาจารย์ทองใบที่เคยไปบวชชีสมัยวัยรุ่นท่านก็เมตตาทำนายให้คล้ายแบบนี้ " ท่านแนะให้เอาทางธรรมจะดีกว่า "

 

... วันนี้จะขอเล่าถึงสิ่งที่ทำให้จิตใจของ กาลีนะ สั่นคลอนด้วยความฝันเพียงว่า " ผู้ที่เคยเป็นมิตรดุจหนึ่งคนเดียวกัน จะกลับมาทำร้ายเราได้ .. "

... ความฝันนั้นมีว่า ....

... เรากำลังหลงทางอยู่ในที่ไหนสักแห่งกับแฟนเราลักษณะคล้ายโกดังร้าง .. แล้วก็เกิดมีหมอกควันเกิดขึ้นพอเรามองผ่านหมอกควันนั้นไประยะประมาณห้าสิบเมตรตรงหน้าเรา .. ปรากฏมีร่างของผู้หญิงสี่คนรูปร่างไม่เหมือนคนปกติ คือ มีสี่กร อาวุธครบมือ ร่างอ้วน ตัวดำ ใบหน้านั้นน่าเกลียดน่ากลัวผิดคนทั่วไปยิ่งนัก มีเขี้ยวแบบยักษ์ยิงฟัน ตัวสีเขียวคล้ำมีเมือกไหลย้อย ดวงตาดุดันน่ากลัว แบบกระหายเลือด .. เราตกใจผงะเพราะรับรู้ได้ว่าทั้งสี่ตนนี้มาแบบไม่เป็นมิตรมุ่งร้ายกับเราแน่นอน .. จึงพากันกลับหลังวิ่งหนีเพราะคิดว่าคงสู้ไม่ได้ ( ในใจรู้สึกเสียใจว่าทำไม ๆ ๆ อยากร้องไห้เหมือนถูกหักหลัง .. เราทำอะไรผิดมากมายขนาดนั้นเหรอจึงต้องเจอแบบนี้ .. ไม่เข้าใจ ) หมอกควันยังคงล้อมเราอยู่พอวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็โดนสองในสี่ดักอยู่ด้านหน้าถือดาบมุ่งตรงเข้าทำร้ายเราแบบหมายเอาชีวิต ..

... เราก้มหลบคมดาบนั้นจึงฟันลงไปที่ผู้มุ่งร้ายอีกคนอย่างจัง .. นางล้มลงทับร่างเราสองคน ... แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ... นางอีกสามตนนั้นกลับรุมกัดกินเนื้อของนางผู้เคราะห์ร้ายโดนดาบฟันนั้นอย่างหิวกระหายบ้าคลั้งนึกถึงหนังเรื่องผีชีวะไว้เลยคะ .. แล้วเราก็ตกใจตื่น ...

... เราจำวินาทีนั้นขึ้นใจนึกถึงทีไรจิตใจเราก็ปวดร้าว .. ใจหนึ่งอยากค้นหาคำตอบ แต่อีกใจก็กลัวคำตอบที่จะได้รับเช่นกัน ..

... เพราะแค่สิ่งที่บรรยายหลายท่านน่าจะพอเดาออกว่าพวกนางเป็นใครกัน .. แต่การกระทำมันผิดวิสัยที่ควรจะเป็น ( อย่าศึกษาแต่วงแคบนะคะ ให้ดูจากต้นตำหรับฮินดูเป็นหลักคะ พี่ไทยแปลงของเขามาเยอะ ) แต่มาคิดได้เมื่อผ่านไปแล้วว่า .. มันเพียงภาพลวงตาที่มารสร้างขึ้นเท่านั้น .. เนื้อแท้หาใช่ท่านผู้นั้นไม่ ... นี้ หรือ ที่พระอาจารย์ต๋องเคยเตือน และ สั่งสอนไว้ .. ให้รู้จักแยกแยะว่าสิ่งไหนจริงสิ่งไหนหลอก ... เราเพิ่งเข้าใจความหมายเมื่อไม่นานนี้เอง ...

 

พายุพึ่งฝัน ถึงปางหนึ่งของพระแม่ อุมา เมื่อ คืนที่ ๒๙ มิย.นี่เองค่ะ

เจออยู่ที่ ระหว่าง ห้วงจักรวาล กลางหมู่ดาว ระยิบระยับ ท่านดูใจดีค่ะ (ไม่ได้พูดคุยกันค่ะ)

แล้วข้าน้อย ก็แวะคารวะ พร้อม เซ็นต์ชื่อคล้ายๆ ลงนามถวายพระพร ลงวันที่ ๑/๑/๕๘
(ดีนะ ไม่ได้ซื้อหวย เพราะ ไม่เข้าสักตัว ๕๕๕๕)


มาร่วมเห็นด้วย ว่าคุณกาลีนะ คงถูกผีหลอก จำแลงแปลงร่างขี้เหร่ มาหลอกหลอนให้เสียกำลังใจแน่เลย