ผีตามไปร้านอาหาร

ดิฉันและครอบครัวมักไปทานข้าวนอกบ้าน โดยมื้อเย็นจะเป็นมื้อที่พร้อมหน้าครอบครัวที่สุด ครอบครัวดิฉันมีกัน 4คนคือพ่อ(สามี) แม่(ดิฉัน)และลูกสาวทั้งสอง ลูกสาวเรียนมหาลัยแล้วทั้งคู่ ไม่ได้พักที่หอ แต่กลับมานอนบ้านทุกวัน อย่างน้อยถ้าลูกมีกิจกรรมไรที่มหาลัย ดิฉันก็จะไปทานข้าวกับสามี น้อยครั้งมากที่ทุกคนมีธุระหมด ที่ทำให้ดิฉันต้องทานคนเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้น ดิฉันจะซื้อกลับมาทานที่บ้าน ที่ดิฉันโพสท์เรื่องนี้ขึ้นมา เพราะดิฉันตั้งข้อสงสัยว่า อย่างเย็นวันนี้ ดิฉันไปทานข้าวกัน3คน คือสามี ดิฉัน และลูกสาวคนโต คนเล็กไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ 3เดือนแล้วค่ะ แต่พอเราสั่งอาหารเสร็จ บริกร ก็จะเอาจาน และช้อนส้อมมา4ชุด และแก้วน้ำมาวางให้ 4 ใบ เหตุการณ์แบบนี้ เริ่มเกิดเมื่อประมาณปีใหม่ ปี 2550 เป็นต้นมา ดิฉันว่าจะถามบริกรในร้านต่างๆที่เราไปทานว่า เค้าเห็นคนมา4คนหรืออย่างไร ก็ยังไม่กล้า กลัวคำตอบน่ะค่ะ เพื่อนๆสมาชิกมีความเห็นอย่างไรกันบ้างคะ โปรดแชร์ความเห็นกันมาหน่อยนะคะ ลูกคนโตก็เคยถามแม่ตรงๆว่า แม่เคยทำแท้งไหม ดิฉันไม่เคยค่ะ มีลูกที่คลอดเอง 2คนนี้เท่านั้น แต่สามีเค้ามีลูกกับคนอื่นอยู่1 คน และยังมีชีวิตอยู่ ไม่แน่ใจว่าเค้าเคยให้ผู้หญิงคนอื่นของเค้าทำแท้งหรือเปล่าน่ะค่ะ

 

ถามเลยก็ดีครับเรื่องอื่นๆค่อยว่ากัน..
..เพราะปกติการจัดโต๊ะตามร้านอาหารแบบสั่งกับข้าว
โดยมากที่ไม่ใช่ร้านอาหารกึ่งผับ..เค้ามักจะจัดจานไว้ทุกที่นั่ง
หรือว่าจัดไว้ให้ครบเป็นปกติทุกที่นั่งครับ.และยิ่งถ้าเป็น
สถานที่ๆไม่ต้องกังวลเรื่องฝนเรื่องความสะอาดจาก
สภาพแวดล้อมเช่น ฝุ่น หรือ ลม.ก็มักจะจัดไว้เลย.
ยกเว้นร้านที่คนลุกนั่งบ่อยๆพวกร้านจานด่วนต่างๆ
โดยไม่ค่อยจะถามด้วยครับ.ถ้าเป็นที่นั่งโอเพ่นแอร์
ก็มักจะมาจัดภายหลังเพราะกันทั้งเรื่องฝุ่นเรื่องฝนเรื่องลม
ง่ายๆคือกลัวเรื่องความสะอาดและถ้ามีคนมานั่งก็
มักจะจัดไว้เผื่อทุกที่นั่งครับ.เพราะมันจะง่ายในการดูแลเพิ่มเติมด้วยครับ
.แต่ถ้าร้านอาหารกึ่งผับที่เค้ามักจะถามก่อน
เพราะบริกรเค้าจะได้เตรียมแก้วไว้สำหรับการเสริฟเครื่องดื่ม
ได้ถูกตามชนิดตามการดื่มของแต่ละบุคคลครับ..
ปล. ประมาณนี้ครับ

 

เอ่อ ร้านที่ไปทานกันทุกร้านที่เค้าจัดมาให้เกินจำนวนคนที่ไปแทบทุกร้านค่ะ ไม่ใช่ร้านในผับ หรือร้านอาหารหรูๆอะไรนะคะ เป็นร้านอาหารตามสั่งซะส่วนมาก ครอบครัวเราชอบทานอาหารอิสาน เวลาเดินเข้าไปจะมองโต๊ะที่จุได้ไม่เกิน 4คนเป็นหลักค่ะ ไม่เลือกโต๊ะยาวๆ เพราะเกรงเป็นการเปลืองโต๊ะของเค้า จากนั้นพอลงนั่งสั่งอาหารเสร็จปุ๊บ เค้าถึงเอาจาน ช้อนส้อม แก้วน้ำมาวาง สมมุติไป10ร้านจะเอามาวางเกินคน1ที่ ถึง8ร้าน ทำให้คิดมากมาเรื่อยๆน่ะค่ะ ว่าสิ่งใดตามเรามา

 

อืมๆพอครับเข้าใจครับ ที่เล่าเรื่องร้านอาหารร้านอะไรให้ฟังเพื่อประกอบการพิจารณาครับ
แต่ยังไงก็ลองแย๊บๆถามเล่นก่อนก็ได้ครับ เช่นไปกัน ๓ คนแล้ว
เค้าจัดให้ ๔ ที่ก็ลองแย๊บๆว่า.อืมๆมากัน ๓ คนคะ..ถ้าพนักงาน
บอกว่าเห็นมา ๔ คนนี่คะ..เราก็แกล้งๆบอกๆว่า.เอ๊าพี่ลืม แล้วก็แกล้ง
ถามว่าน้องเห็นที่มากลับพี่เมื่อกี้ไหมเพื่อถามเพิ่มก็ได้.หรือจะบอก
บอกว่าล้อเล่นก็ได้ครับ..ป้องกันเหตุว่าถ้าพนักงานดันเห็นจริงเค้าจะได้ไม่กลัว
และถ้าบังเอิญว่าเป็นอย่างที่คาดจริงนะครับ..คือกรณีอย่างนี้เคยเกิดขึ้นอยู่
พอจะเข้าใจบ้างครับ..แต่เป็นกรณีแม่ย่านางรถ.
และเป็นกรณีที่เด็กตามเนื่องจากเคยไปช่วยบางคนมา..
..ที่นี้ก่อนจะไปสืบค้นประวัติอะไรก็ตามนะครับ.
และก่อนที่จะเปลี่ยนประเด็นไปอีกกรณีหนึ่ง.
จะเล่าให้ฟังก่อนอย่างนี้นะครับ..ถ้าสมมุติว่าเป็นกรณี
ที่เป็นเด็กที่อยู่ในครรภ์แล้วมีเหตุไม่ว่าอะไรก็ตามทำให้
เด็กไม่สามารถคลอดหรือมีชีวิตได้ตามปกตินะครับ.
ไม่ว่าตัวเราจะทราบหรือไม่ทราบก็ตาม ณ ปัจจุบัน
หรือไม่ว่าจะเป็นเหตุจากอดีตที่เกี่ยวพันธ์กับใครมาก็ตามนะครับ.
เด็กจะสามารถปรากฏตัวเป็นเด็กทั่วๆไปเหมือนเด็กวัย
ประมาณ ๓ ถึง ๔ ขวบได้สูงซัก ๕๐ ซมและสามารถเดินได้ครับ
เด็กพวกนี้สังเกตุง่ายคือหน้าจะเล็กๆหน่อย ถ้าเป็น เด็ก ญ ก็จะชอบ
ไว้ทรงผมยาวแบบดัดๆปลาย มีผมคล้ายๆหน้าม้าฟูๆ.ถ้าเป็นเด็กชาย
ก็มักไว้ทรงผมแบบด้ายหน้าคล้ายรองทรงแต่ยาวเหมือนๆลากไซ..
จะไม่คลานๆมาเหมือนในหนังนะครับ..ทั้งนี้ทั้งนั้น
เหตุก็เพราะเพื่อให้สามารถจำได้.และวงจำกัดของบุญที่ทำได้เท่านี้
.แต่หากว่าได้มีการเคยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แล้ว.
.เด็กก็จะมีผิวพรรณค่อนข้างสดใสแต่ว่าผิวจะออกสีขาว
คือขาวแบบสีขาวนะครับ..ไม่ใช่แบบผิวขาวแบบคนทั่วๆไป
และดูสีซีดๆเล็กน้อย..ทั่วๆไปนะครับ..สามารถติดตามบุคคล
ที่เกี่ยวข้องได้ตลอดทั้งชีวิต..โดยถ้าเราตาดีหน่อยจะเห็น
เวลาดูจากภาพถ่ายจะเห็นเด็กพวกนี้ยื่นอยู่บริเวณหัวไหล่
ด้านในเราได้แบบตุ๊กตาตัวจิ้ว บางก็นั่งปล่อยขาบ้าง แต่ว่า
ที่สำคัญคือจะใส่เสื้อผ้า..ไม่มีถอดเสื้อโชว์พุงเหมือนพวกกุมารทอง
หรือกุมารเทพ..
และถ้ากรณีที่สามารถทำให้บุคคลอื่นๆเห็นได้แสดงว่ามีบุญสะสม
มาดีพอสมควรครับแสดงว่าได้เคยได้รับการอุทิศส่วนกุศลมาแล้ว
ปล.ยังไงลองอ่านดูก่อน เป็นประเด็นหนึ่งประกอบพิจารณาครับ
เพื่อว่าจะคุ้นๆว่าเคยฝัน เคยเห็นแบบแว๊ปๆตอนครึ่งหลับครึ่งตื่นไหม..
หรือแย๊บๆได้คำตอบว่าเป็น เด็ก เป็น ผู้ใหญ่อะไรยังไงค่อยมาคุยต่อก็ได้ครับ

 

ถ้าไปสี่คน มีแบบจัดให้ห้าที่ไหมคะ? เพราะร้านอาหารทั่วไป. เขาจะไม่ดูว่ามากี่คน แต่จะจัดชุดจานอาหารพอดีกับเก้าอี้นั่ง พอมีแขกมา ก็ดูว่านั่งโต๊ะไหน และยกชุดจานแก้วไปเลย
แต่ถ้ามาเกินที่นั่ง ก็มีความน่าจะเป็นค่ะ สรุปตามที่คุณนพว่า อยากรู้ก็ต้องถามค่ะ

 

แอนขอแจ้มนะค่ะเราทุกคนนะชอบลืมเทวดาที่ดูแลรักษาเราลืมไปว่าเราไปที่ใหนท่านก็จะไปกับเราตลอดเวลาเลยท่านมากับเราตั้งแต่ก่อนเราเกิดจนถึงเวลาเราตายพอเราไม่เห็นเราก็เลยนึงว่าเอะๆๆอะไรนี่ลองกำหนดจิตเราว่า ทานอาหารร่วมกันนะค่ะขอให้มีความสุขค่ะรับรองเดียวได้ฝันเห็นเค้าแน่ๆเราจะรู้เองว่าเป็นใคร หน้าตาอย่างไรหญิงหรือชาย เค้าหน้ารักออก

 

ไหน ๆ คุณ juu-dt07 ก็มั่นใจว่าจะต้องเป็นวิญญาณเด็กแน่นอนแล้ว จะถามคนเสริฟอาหาร ก็ไม่กล้าถาม เพระเกรงในคำตอบว่า จะตรงกับที่สังหรณ์ใจไว้

วันหลังคุณลองไปทานอาหารตามร้านกับแฟนคุณ 2 คน แล้วเลือกนั่งที่โต๊ะเล็กหน่อย ที่มีเก้าอี้นั่งได้เพียง 2 ที่นั่งเท่านั้น ลองดูซิว่าเขาจะจัดแก้ว จาน ให้คุณ 3 ที่ไหม จะได้หายสงสัยไปเลย

ถ้าเขาจัดให้คุณ 3 ที่นั่ง คุณก็ถามไปเลยว่า มา 2 คน จัดให้ใคร ถ้าคนเสริฟตอบว่า จัดให้เด็กที่มากับคุณ รุ่งเช้าคุณก็ไปทำบุญถว่ยสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลให้เลย

 

มีค่ะ ครั้งแรกเลยค่ะที่พากันเอะใจ เหตุการณ์นั้นเกิดหลังวันปีใหม่ ปี2550 ครอบครัวดิฉันไปพักผ่อนที่รีสอร์ทบนภูพาน บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดกาฬสินธ์กับจังหวัดสกลนครค่ะ พอเช็คเอ๊าท์จากรีสอร์ทก็พากันอยากลิ้มลองไก่ย่างพังโคน ว่าจะอร่อยเหมือนไก่ย่างเขาสวนกวาง และไก่ย่างภูเวียงของขอนแก่นไหม จึงมุ่งหน้าไปทางอำเภอพังโคน สกลนคร หมายตาร้านที่คนมาทานกันหลายโต๊ะ เพราะอาจการันตีได้ว่าอร่อยน่ะค่ะ อิอิ ครั้งนั้นไปกัน4คน ครบครอบครัว เหตุประหลาดเกิดตรงนี้แหละค่ะ พอสั่งไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ เครื่องดื่มเรียบร้อย เค้าจัดมาให้ 5ชุดค่ะ ทั้งจาน ช้อนส้อม แก้วน้ีา พอบอกเค้าว่ามา 4คน เค้าบอกว่าอีกคนหายไปไหนล่ะ เค้าบอกเห็นมา5คน เป็นผู้ใหญ่พอๆกับลูกๆเลย ไม่ใช่เด็กเล็กๆประมาณที่คุณนพอธิบายน่ะค่ะ

 

ถ้าเป็นผู้ใหญ่เลย จะมีกรณีที่เป็นคนที่เราเคยรู้จักและมีสัมพันธ์ในชาตินี้
แล้วเสียชีวิตไปก่อนครับและมีกำลังบุญพอสมควรในระดับภูมิน้องๆเทวดา
ดูจากวิสัยที่ยังไม่พ้นการเป็นมนุษย์ครับถ้าภูมิอื่นใกล้เคียงกัน
จะถูกจำกัดวงในการไปไหนมาไหนส่วนนิสัยอย่างนี้ก็มิใช่นิสัย
ของเทวดาประจำตัวนอกจากพวกที่อยู่ในวัถตุบางอย่าง
. แหมๆพอรู้แต่แรกแล้วก็มิบอก
ปล่อยให้โม้เรื่องเด็กอยู่ได้ตั้งนาน
มาเลี้ยงไก่อย่างคืนเลยนะครับ ๕๕๕๕๕

 

มิใช่อย่างนั้นหรอกนะคะคุณนพ คือดิฉันอยากฟังแต่ละคนให้ความเห็น ตามแต่ประสบการณ์ที่มีน่ะค่ะ และช่วงนี้ก็มักได้ยินเสียงแปลกๆในบ้านอยู่ด้วยค่ะ ลองมาเชื่อมโยงกันดู ว่าคืออะไรน่ะค่ะ

 

ผมว่าลองปะติดปะต่อดู.คิดว่าน่าจะพอได้คำตอบแล้วนะครับ.
ถ้าอยากทราบเร็วขึ้นก็ทำบุญเฉพาะเจาะจงให้เลยก็ได้ครับ
เพื่อจะได้ชัดเจนขึ้นครับ ถ้าไม่รู้อีกให้ตรวจสอบวิธีทำบุญของเรา
โดยปกติลักษณะนี้ถ้าเกิน ๒ ถึง ๓ เดือนนะครับมากสุดไม่ควร
เกิน ๖ เดือนครับ.จะบ่งบอกความสามารถใน
การพัฒนากำลังบุญสะสม.และกำลังใจในการรวบรวมบุญ
เพื่ออุทิศส่วนกุศลของเราว่าค่อนข้างช้าครับ.
ปล.ลองพิจารณาดูนะครับ..

 

เมื่อเช้าก็ไปทำบุญใส่บาตร กลับมาบ้านก็กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และระบุให้กับสิ่งที่ดิฉันมองไม่เห็น แต่ได้ยินเสียงบ่อยๆในบ้านในระยะนี้ค่ะ อยากทราบเหมือนกันว่าท่านจะมาเข้าฝันบ้างไหมน่ะค่ะ ปกติดิฉันไม่ค่อยฝัน แต่เวลาฝันทีไรมักเป็นเลขน่ะค่ะ มักไม่ออกในงวดนั้น แต่จะออกแน่นอนอีก 3งวดถัดมา ทำให้ลืมทุกที ช่วงไหนการเงินติดขัด หลังจากสวดมนต์ไหว้พระก่อนจะนอน ดิฉันมักจะคร่ำครวญกับเจ้าที่ ให้ช่วยลูกด้วย แปลกนะคะคืนนั้นจะฝันเห็นเลขเลย แต่จะไม่ออก ให้ซื้อตามอีก 3งวด ถึงจะถูกค่ะ ดิฉันพลาดหลายทีแล้วค่ะ อิอิ

 

โมทนาด้วยครับที่ไปทำบุญมา.เรื่องการสังเกตุเสียงคิดว่าเคยเขียนไว้
ในอีกกระทู้แล้วน่าจะอ่านผ่านๆมาแล้วนะครับ..ส่วนกรณีถ้าเป็นเจ้าที่ส่วนใหญ่
ถ้าจะเห็นมักจะเห็นช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่น.หรือเราเห็นได้โดยบังเอิญ หรือเห็นได้
จากกำลังสมาธิอย่างใดอย่างหนึ่งครับ...ส่วนถ้าช่วยให้ฝันเห็นเป็นตัวเลข
ถือว่าปกติครับและเป็นวิสัยของภูมิเจ้าที่ลักษณะแต่งตัวยังคล้ายๆคลึงเรา
ของท่านที่ชอบอาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่หรืออยู่ในที่ๆสร้างด้วยเนื้อไม้ครับ.
.หรือถ้าจะได้ยินเป็นเสียงบอกเป็นตัวเลขมักจะเป็น
เสียงใกล้ๆทางหูด้านขวาครับ..ส่วนหลักสังเกตุตัวเลขนอกจากฝัน
ที่ตัวเลขมักจะปรากฏมาทีละตัวเป็นตัวใสๆลอยมาจากทางด้านขวา
หรือผุดขึ้นมาทีละตัวอย่างนี้ออก ๓ ตัวแน่นอน
บวกลบไม่เกิน ๑ ไม่ตัวใดก็ตัวหนึ่งเท่านั้น
ถ้าเห็น ๒ ตัวเนี่ยมักจะไม่ต้อบวกลบเพิ่มและ
จะไม่บอกว่าออกบนหรือล่าง..และมีข้อสังเกตุให้อีก
อย่างในฐานะที่มาแนวๆนี้..
ให้สังเกตุตอนที่ลืมตาครั้งแรกแล้วหัน
ไปมองเวลาที่นาฬิกา(ต้องรีบจดไม่งั้นจะลืม)
แล้วเราเผลอนอนไปอีกและตื่นมาอีกรอบแล้วคล้ายๆว่า
เอ๊ะเวลายังไม่ถึงเวลาครั้งแรกที่เห็นอีกหรือเอ๊ะผ่านมาไม่นานเอง..
หรือเห็นนาฬิกาที่เป็นดิจิตอลตอนตืนครั้งแรกแล้วเลขมันเปลี่ยนทันที
.นี้ก็คือวิธีการบอกอย่างหนึ่งครับ
หรือหันไปเห็นคล้ายๆกระดาษเขียนตัวเลขวางอยู่ที่พื้น...หรือว่ามองเห็น
ตัวเลขระยะประมาณ ๑ เมตรคล้ายฝันวางอยู่ข้างกำแพง..หรือนึกๆถึง
ตัวเลขที่อยู่ในบิลในกระดาษก็ใช่..หรือฝันเห็นรถตัวเองทางด้านข้าง
ไม่ว่าข้างหน้าข้างหลังครับ....
ประมาณนี้นะครับ.เล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ.

 

ทุกสิ่งที่คุณนพว่ามา ใช่เลยค่ะ เรื่องเสียงที่บอกเป็นเสียงกระซิบก็ข้างหูขวา คราวนั้นท่านบอกเป็นเลขตัวเดียว สมัยนั้นดิฉันยังซื้อหวยไม่เป็น เพียงแต่สังเกตุดูว่าท้ายรางวัลที่1จะเป็นเลขที่บอกมาหรือเปล่า ปรากฏว่าใช่จริงๆค่ะ นั้นเป็นจุดแรกที่เริ่มสนใจเรื่องเสียง และอื่นๆค่ะ ส่วนตัวเลขบนกำแพงก็ใช่ตามที่คุณนพว่ามาเช่นกัน ออกตามตัวเลขในฝันเช่นกัน ท่านคงมาแสดงให้เห็นว่ามีจริงนะ แต่ละบ้านที่ดิฉันอยู่ให้คุณกับครอบครัวทั้งหมด คือทำมาค้าขึ้นน่ะค่ะ แถมท่านยังมาบอกเลขอีก อิอิ แต่ไม่ได้ซื้อตามเท่านั้น

 

555 อ้อนก้อเคยเจอแบบนี้บ่อยมากค่ะ อยากจะถามพนักงานเสริฟเหมือนกัน แต่ไม่กล้าถาม กลัวคำตอบจะเป็นดั่งที่ิคิดไว้ เลยไม่ถามดีกว่า เอามาให้เกินหนึ่งชุดประจำ ไปกันสองให้มาสาม ไปกันสามให้มาสี่ คือ ไปต่างร้านกันด้วยนะคะ ไม่
ใช่ร้านเดียวกันด้วย ก้อได้แต่เถียงกันเอง ว่า ตามคัยมาว้า?? ตามมึงนั่นแหละ ตามกูนั่นแหละ พักหลังเรยกลายเปนเรื่องชิน แต่ ก็แอบหลอนนนน

 

จะว่าไปดิฉันพอมีเซ้นท์เรื่องแบบนี้อยู่บ้างนะคะ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือตอนไปเที่ยวเกาหลีเหตุเกิดในคืนที่สองที่ไปพักที่นั่น ซึ่งตรงกับวันส่งท้ายปีเก่าคืน 31ธ.ค.ปี2555 ลูกสาวทั้งสองพักห้องตรงข้ามกับห้องดิฉันกับสามีค่ะ สามีนอนหลับไปก่อน ดิฉันอยากดูรายการถ่ายทอดสดศิลปินเกาหลีมาแสดงทางทีวี เลยออกมานอนเล่นนอกห้อง พูดถึงลักษณะห้องพักในโรงแรมก็แสนแปลก เป็นลักษณะเหมือนห้องชุด คือมีสองห้องนอน มีครัวเล็กๆ มีเตาแก๊ส ที่มีแก๊สส่งมาตามท่อ มีจาน ชาม ช้อนส้อม ตะเกียบ ให้เสร็จสรรพ และมีซิงค์ไว้ล้างจาน สก็อตไบร้ท์ พร้อมน้ำยาล้างจานให้พร้อม ตอนเข้ามาในห้อง สามียังว่าห้องดีนะ เสียแต่ว่าสภาพเก่า โบราณมาก ในเมื่อมีครัวให้ขนาดนี้ ดิฉันเลยบอกสามีให้ลงไปที่ซุปเปอร์ข้างล่างซื้อบะหมี่เกาหลีมาลองกินดู อ้อเขามีหม้อต้ม และกาต้มน้ำให้ด้วยนะคะ เลิศมากค่ะ พอเรากินบะหมี่เสร็จ สามีนอนเล่นสักพักก็ไปนอนในห้อง ดิฉันก็ไปลากผ้านวมจากห้องนอนอีกห้องมาปูนอนเล่นดูทีวีซึ่งอยู่ในส่วนรับแขก พื้นห้องอุ่นดีค่ะ เพราะโยงฮีตเตอร์หมดพื้นเลย วันที่ไปข้างนอกอาคารมีหิมะตก ดิฉันก็เปิดผ้าม่านกว้างๆมองออกไปสวยดีค่ะ ดิฉันดูทีวีเคลิ้มๆจวนจะหลับ ได้ยินเสียงเด็กๆวิ่งไปมาจนพื้นสะเทือน พร้อมกับเสียงหัวเราะ ยังคิดเลยว่า ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่หลับไม่นอน วิ่งเล่นกันอยู่ได้ ทีนี้ดิฉันก็เลยชักผ้าห่มมาคลุมครึ่งหน้าเลย ในลักษณะตะแคง จนหลับไปสักพัก อ้าว มีใครไม่รู้มากระชากผ้าห่มดิฉันลักษณะตลบผ้าออกอย่างแรง ดิฉันตื่นด้วยความหนาว รีบชะโงกดูสามี คิดว่าเค้ามาแกล้งเรา เค้านอนกรนหลับอุตุเลย แล้วใครล่ะมาแกล้งดึงผ้าห่มเรา คิดในนาทีนั้นว่าผีเด็กแน่ๆเลย แต่ไม่กลัวนะคะ ก็พูดเปรยๆว่าเดี๋ยวกลับไทยจะทำบุญส่งมาให้นะ ถึงนอนต่อได้ ปรากฏว่าตอนเช้าทานอาหารเช้าเสร็จ พร้อมกันอยู่บนรถเรียบร้อย ไกด์ถึงถามว่าเมื่อคืนใครเจอะอะไรบ้างไหม ดิฉันเจอะแบบเดียวกันกับน้องอีกคนนึง คนอื่นไม่เจอะ เค้าถึงเฉลยว่าโรงแรมที่เราพักเมื่อคืนน่ะ แต่ก่อนเป็นโรงพยาบาล แต่บริหารขาดทุนจึงเปลี่ยนเป็นโรงแรม กลับมาไทยได้สักเกือบปีก็มีรายการคนอวดผีสัมภาษณ์อดีตไกด์นำเที่ยวเกาหลีพูดถึงโรงแรมที่ดิฉันเคยประสบแบบเดียวกันเลยค่ะ