ทำบุญเป็นอาจิณนะครับ แต่ก็กลัวตกนรกเพราะตอนตายจิตเศร้าหมอง

ผมอยากลองเปิดเพจธรรมะในเฟสบุคก่อนแล้วค่อยทำในเว็บไซต์เหมือนคุณณัฐพบธรรมตอนโตขึ้น แต่ข้อมูลอาจมีไม่มากพอและไม่มีเวลาบริหาร ใครสนใจช่วยกันกับผมทักมาเลยนะครับ

 

www.facebook.com/dhammasoftsoft

เพจธรรมะผมเอง อยากให้คนเข้าใจธรรมะแบบง่ายๆครับ ลองมาดูได้นะครับผม

ฝากในกระทู้เก่า คงไม่เป็นไรนะครับ ถ้าเป็นก็ขออภัยนะครับผม แห่ะๆๆ

 

เข้าไปดูแล้ว ดีค่ะใช้คำเข้าใจง่ายชอบอ่านค่ะ

 

ขอบคุณมากครับ จะพยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ

 

ผมก็เคยคิดแบบคุณ Sir-Pai นะครับ ผมจึงคิดหาวิธีแก้โดยการอธิษฐานบุญช่วยครับ ปกติผมชอบร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปจึงอธิษฐานไว้ประมาณว่า ขออานิสงค์แห่งผลบุญในการสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระพุทธศาสนานี้ จงปรากฏเป็นพระพุทธนิมิตมาโปรดข้าพเจ้ายามวาระจิตใกล้ตาย ให้สามารถระลึกนึกถึงพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งและมีจิตเป็นกุศลในวาระจิตสุดท้ายด้วยเทอญ นอกจากนี้ก็พึงหมั่นทำสมาธิ สวดมนต์ นึกถึงภาพพระพุทธเจ้าที่เราชอบอยู่เป็นประจำจนชำนาญในการนึึกถึงพระองค์เป็นพุทธานุสติกรรมฐาน เมื่อใจเราเป็นสมาธิมั่นคงดีแล้วก็อาจอธิษฐานย้ำไว้บ้างเพื่อเพิ่มกำลังคำอธิษฐานให้มั่นคงยิ่งขึ้น ดั้งนั้นพอถึงวาระจิตสุดท้ายเมื่อใดก็ย่อมจะสำเร็จตามคำอธิษฐานดังที่ตั้งใจไว้ได้ครับ

ควรหมั่นทำบุญกุศลทั้งทาน ศีล ภาวนา เป็นประจำ ใจของเราจะได้เกาะเกี่ยวอยู่กับความดีหรือบุญกุศลได้ง่าย หลีกเลี่ยงการทำบาปอกุศลทั้งปวง โดยเฉพาะอย่าไปสร้างบาปกรรมหนักๆ อย่างเช่น อนันตริยกรรมเข้าก็แล้วกัน

 

เคยอ่านเจอในหนังสือธรรมมะ จิตดวงสุดท้าย ของ พระอาจารย์นวลจันทร์นะครับ ถ้าจำไม่ผิดว่า การจะบังคับควบคุมนิมิตในห้วงจิตก่อนจุตินั้นไม่สามารถกระทำได้ตามใจเรานะครับ แค่ถ้าหมั่นฝึกเจริญสติ มีสติรู้เท่าทัน จิตย่อมไม่เศร้าหมอง เมื่อจิตไม่ตกต่ำ ย่อมรอดพ้นได้ ที่สำคัญคือการสร้างกรรมดีทั้งกาย วาจา ใจ เป็นอาจินต์ จนกลายเป็นอุปนิสัยของจิต เมื่อกระทำไปจนจิตคุ้นเคยกับความดี ย่อมโน้มนำไปในทางที่ดี กรรม จะให้ผลตามน้ำหนักของเจตนาครับ ถ้าเรามีน้ำหนักของเจตนาที่ดี ทรงกำลังในบุญกุศล ย่อมส่งผลก่อน อันนี้ได้จากหนังสือ กรรมธีปนี ซึ่งเป็นการกล่าวถึงสมการกรรมโดยพระครูโมลี รวมๆ กันสรุปคือ เราสร้างกรรมดีละกรรมชั่ว และภาวนาจิตให้ทรงสติเป็นประจำ ย่อมมากกำลังที่จะไม่ไหลไปลงอบาย ส่วนตัวผมเองเคยนอนฝันบ่อยๆ เหมือนได้ซ้อมตายเลยครับ บางทีฝันว่าจมน้ำ ฝันว่าจะถูกยิงจนจะตาย บางครั้งตื่นก่อน บางครั้งจิตมีสติก็ทำใจตาย พุทโธด้วยใจที่สงบ ในฝันก็รู้สึกลอยๆ ไม่ยักกะตาย นี่อาจจะเป็นบททดสอบของการเจริญสติน่ะครับ สอบผ่านมั่ง ตกมั่ง แต่ก็ยังเพียรทำไปเรื่อยๆ ครับ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=krtom7XZpLI]พุทธวจน faq เวลาจะตาย ควรตั้งจิตไว้อย่างไร - YouTube[/ame]

 

ถ้าทำบุญ แต่ต้องแน่ใจด้วยหละ
คนทำต้องรู้ ถึงอานิสงค์ของบุญ คือ บาปไม่ปิดผลบุญ
ทำเป็ฯอาจิณจริงๆ
เช่นเล่นประัหยัด ย้ายบ้านหรือที่ทำงานไปใกล้ๆวัด
ทุกวันหยอดตู้ค่าไฟวัดวันละหนึ่งบาท
ทำเป็ฯสิบๆปีไม่ยอมขาด

อันนี้กำลังใจที่หิวบุญไม่ยอมให้บาปดล อาจจะปิดอบายภูมิได้ แค่ชาติภพนั้น

ทำบุญแต่ต้องมั่นใจในผลบุญจริงๆ ไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อริยะสัจจะในลังเลสงสัย
และทำบุญเป็ฯอาจิณกรรม ทำทุกวัน
ปิดอบายภูมิได้
เฉพาะชาติภพนั้นๆ

 

นอกจากศีลแล้ว พระพุทธเจ้าท่านจึงให้ภาวนาด้วย ก็เพื่อให้เกิดความสงบ เกิดสติปัญญาในทางธรรม เอาชนะความกลัวต่อความตาย มีอำนาจเหนือจิตสุดท้าย หากฝึกสมาธิแล้วระงับความฟุ้งซ่านได้ แม้ในยามฝึก ยามหลับ ยามตื่น ไม่ต้องกลัวตกนรก

 

คิดได้ถึงขนาดนี้แล้วแสดงว่ามีสติเยอะแล้วนี่

ก็เพิ่มอีกนิด ทำให้ชิน พอรู้ตัวว่าคิดไม่ดี ก็นึกถึงความดีที่ทำไว้ หรือถึงพุทธานุสสติก็แจ๋ว

พอรู้ตัว ก็นึก

พอรู้ตัว ก็นึึก

พอรู้ตัว ก็นึก

.......

.....