" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 27 เมษายน 2013.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    ขอบคุณนะครับ ที่รับไว้พิจารณา ควาจริงที่โพสไป ไม่ได้มีเจตนาทำให้เข้าใจผิดอะไรแต่อย่างใด หากแต่ยินดี และอนุโมทนาในการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้อื่น
    ใช่แล้ว ทุกคนมีกรรมเป็นของตน แต่ในความเป็นคน ผู้ที่เป็นที่พึ่งแห่งตนได้แล้ว ย่อมสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ ก็ควรสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่น อย่าดูดาย ความเมตตา พรหมวิหารธรรมควรมีควรรักษาไว้

    คำว่า แม่หมอ นี่ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะคิดอย่างไร แม่ แปลว่าอะไร เป็นผู้ให้ชีวิต ส่วนหมอคือใคร แปลว่าผู้ช่วยรักษาสงเคราะห์ ให้เขาพ้นทุกข์
    อย่าไปคิดอะไรมากเลยกับสรรพนาม ตัวตนที่แท้จริงคือจิตใจที่ดีงามของเราต่างหากครับ

    สุดท้ายขอให้ระลึกเสมอว่า เมื่อเราเป็นที่พึ่งของตนได้แล้ว การสงเคราะห์ผู้อื่นที่ดีงามเขาทำอย่างไร ควรช่วยอย่างไรตามกำลัง กาละเทศะอันเหมาะสมแก่บุคคลเป็นอย่างไร ผิดถูกย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ผิดแล้วเราแก้ไข ถูกแล้วเราก็ควรทำให้ยิ่งๆขึ้นไปก็มีแค่นี้

    ปัญญาในทางธรรมนั้นมีไว้เพื่อการชำระล้างอวิชาให้หมดไป มิใช้มีไว้แค่เพื่อปกปิด ปิดปังหรือแค่ข่มมันเอาไว้เท่านั้น นะครับ สาธุ


     
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    อีกนิด ผู้ที่ปฏิบัติธรรม ย่อมมีดวงตาคือปัญญารู้แจ้งในเหตุปัจจัย แท้จริงแล้วสิ่งต่างๆภายนอกที่กระทบไม่ใช่สาระ แต่สิ่งที่พึงระวังมีสติรู้ทันคือจิตตน การรู้แจ้งเฉพาะภายในคือจิตตน นั้นแลคือการรู้แจ้งดับทุกข์ อย่ามัวไปกลัวหรือระแวงอะไรจากภายนอกมากนัก ให้กลัวระวังจิตตนภายในให้มากนั้นแลจึงถูกต้องดีงามครับ สาธุ

    เอาละคงไม่รบกวนแล้วละครับ
    ขอทุกท่านพึงเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
  3. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    บ้าแบบนี้มันบ้าดีครับ...ก็นิมนต์ให้บ้าต่อไปเถอะ...
    ก็เพราะรู้อะไรมากขึ้นแล้ว มันถึงต้องแกล้งบ้า...
    แต่ก่อนมันบ้าจริงๆ เพราะมันยังรู้ไม่ครบ รู้ไม่ถึง...แต่ไม่ใช่ไม่รู้
    พอเวลานี้รู้แล้ว รู้มากขึ้นแล้ว มันเลยต้องแกล้งบ้า...

    ตอนนี้มันก็ใกล้จะป๊ะกับผีบ้าเข้าแล้ว เห็นจะน่ากลัวกว่าผีปอบเสียอีกหลายเท่า...
    ว่าแต่อย่าไปเอ่ยถึงมันดีกว่า...
    กับบรรยากาศ มาคุ/เคมูไก(555+รู้กันไปเลยว่าพวกเราแก่แล้วนิ...แต่ยังติดการ์ตูน)แบบนี้...

    ฟังแม่กาลีนะ เล่าเรื่องผีฮา บ้างดีกว่า...อาจจะพอแก้อาการอึดอัดหาวเรอได้บ้างน้า..า..

    ............................
    ดังจะมีเรื่องเล่าจากอาเฮียผมคนนึง แกแวะไปงานชุมนุมคนทรง แล้วไปเห็นเหตุการณ์นึงเข้า ทำให้เกิดความสงสัยยิ่งนัก...หากเป็นหนูพายุ อาจสงสัยยิ่งกว่า ก็เป็นได้...
    กล่าวคือ...
    มีคนทรงเจ้าแม่ตะเคียนมาในงานเดียวกัน 3 องค์ สุดท้ายก็ทะเลาะถกเถียงกันว่าใครเป็นเจ้าแม่ตะเคียนตัวจริง ใครเป็นตัวปลอม ชี้หน้าด่ากันไปด่ากันมา เป็นที่เฮฮาของอาเฮียผมว่า ตกลงใครตัวจริงตัวปลอมก็ไม่รู้แฮะ...ทำไมมีมาตั้ง 3 ตน...แถมมีทรงเจ้าแม่กวนอิมอีก 2 คน อันนี้ก็งงเหมือนกัน...หรือว่า การเข้าทรงนี้ จะมีโควต้าว่า เทพองค์นึง แบ่งภาคไปทรงได้กี่สิบกี่ร้อยคน...ก็มิรุ..:boo:
     
  4. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    น่าสนุกมากค่ะ

    หนูอยากไปดูงานชุมนุม ผู้วิเศษ เช่นนี้มาก แต่หาโอกาส ไม่ได้ สงสัยจะมิมีวาสนาทางนี้น่ะค่ะ
     
  5. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    พูดเรื่องนี้ขึ้นมา..ให้เปรี้ยวปาก

    ไอ้เราก็ดันช่างไปอยู่ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า "เรื่อง...ที่มันเป็นเรื่องทุกที"

    บางทีก็ให้นึกขำ นึกหัวเราะ ในความไม่เข้าใจไม่ประสาของเหล่าเทพวิญญาณในเรื่องราวความวุ่นวายสังคมมนุษย์ยุคปัจจุบัน เราก็เห็นเป็นเรื่องสนุกก็คิดตามประสาของมนุษย์...

    แต่ในโลกของจิตวิญญาณเหล่านั้น...
    เขาไม่ขำด้วยนี่สิ ..." เขายึดมั่นถือสา เอาความนักหนากับสัจจะวาจาที่ลั่นบอกกันไว้."

    บางทีก็นึกแล้วให้สมเพทในเรื่อง สัจจะวาจาของมนุษย์เรา ที่นับวันให้คุณค่ากับสิ่งนี้น้อยลงๆ โดยเฉพาะสิ่งตกปากรับคำกับผู้ที่อยู่ในโลกวิญญาณ


    จนกลายเป็นเรื่อง.. น้ำตาและความแค้น ของผู้ที่ยังอยู่ในโลกวิญญาณกับสังขารมนุษย์..ที่ผูกพันธ์เกี่ยวข้องกัน

    เออ..จะว่าไปที่จริงมนุษย์เรา ยุคไหนสมัยไหน ก็ควรรักษาคุณธรรมสัจจะวาจา ที่ว่ากันไว้ มิใช่หรือ!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2014
  6. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ช่วงนี้จะมาแบบผลุบโผล่ ๆ นะคะ ...

    ... อย่างที่บอกด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ ... แม้ตอนนี้จะดีขึ้นมาบ้างแล้ว .. แต่แฟนทั้งสองยังคงนอนอ่อนแรงบนที่นอน .. คนที่เป็นกายสังขารก้นอนมาห้าหกวัน .. อีกคนหนึ่งที่มีเพียงวิญญาณก็บ่นว่าพลังไม่เหลือแล้ว .. ก็ด้วยเหตุแห่งความดื้อรั้นอยากเอาชนะของแม่ของกาลีนะเองคะ .. อีกทั้งหลัง ๆ มานี้จะมีคนมาให้ช่วยเหลือถึงที่หลายคนแต่ละคนมาด้วยเหตุแห่งกรรมที่หนัก ๆ ทั้งนั้น ...

    ... และ การเข้าไปช่วยเหลือคนทั้งหลายเหล่านี้ ก้เหมือนเราต้องเอาดวงชะตาของเราเข้าไปค้ำพวกเขาเหล่านั้นไว้ให้หนักเป็นเบา .. หากมีในส่วนของภพภูมิเข้ามายุ่งเกี่ยว หรือ ภัยจากสิ่งที่ปัจจุบันทันด่วนแฟนเขามักจะสงสารใจอ่อนยอมช่วยจนตนเองก็จะไม่เหลือพลังแล้วทั้งสองคน .. เพราะแฟนที่มีกายสังขารก็เจอคนอื่นกระทำอะไรมาหนักจนตัวเองต้องเฉียดตายมาหลายต่อหลายครั้ง .. เรียกว่า ทุกวันนี้ไปไหน กาลีนะ ต้องพกแฟนติดตัวตลอดห่างไม่ได้นอกจากเขาจะกลับไปอยู่ในหมู่ญาติของเขาเอง ... ไม่งั้นชีวิตเขาเองก็คงยากจะได้อยู่ดูโลกต่อไป ... นี้ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ กาลีนะ ต้องปกป้องเขาไว้ ... แต่ไม่ค่อยได้เอาเรื่องของพวกเขาสองคนมาเขียนเล่าเพราะพวกเขาขอไว้ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเกี่ยววุ่นวายด้วย ... ดังเช่นช่วงหนึ่งที่มักจะมีทั้ง ผู้มีกายทิพย์ หรือ บริวารของผู้ที่อยู่ในเว็ปนี้ หรือ ภายนอก ได้เข้ามาแวะเวียนที่บ้านพวกเขาก้จะมาบอกให้ กาลีนะ ทราบว่า " มีพวกแปลกปลอมมา .. เธออย่าเอาชั้นเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้ไหม๊ ชั้นไม่ชอบ " ... แต่คนที่แฟนเขาจะคุ้นเคย และ มักพูดหาบ่อย ๆ จะมีพี่นพกาญจน์ที่ทุกคนรู้จักกันนี้แหละคะที่เขาไม่มีปัญหาอะไร และ มักเอ่ยหาอยู่บ่อย ๆ เพราะมีช่วงหนึ่งแกจะมาแวะเยี่ยมบ่อย ๆ ด้วยความที่หนูสนิทกันกับแกพอสมควร .. ขอคำแนะนำแกบ่อย บางทีก็จะเอาเรื่องปวดหัวไปให้แกประจำจนเกรงใจแกว่า ... แม่คนนี้ช่างฝันได้ประหลาดทุกวันจริง ๆ 55555555 ... บางเรื่องที่เป็นฝันที่ออกแนวนิมิตที่มันพิศดารเกินไปก้จะไปเล่าให้แกฟังประจำ .. จนตอนนี้เกรงใจแกไม่กล้าไปเล่า หรือ รบกวนแกอีก .. แค่งานของแกก็เยอะแยะไปหมดแล้ว .. จึงออกมาอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง .... ( เพิ่งมาสำนึกได้ว่าตัวเองนั้นพูดมากจริง ๆ กลัวแกรำคาญ .. งอลไม่คุยด้วย .. จะมานั้งเสียใจภายหลัง )
     
  7. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842


    อืม...นะ ผัดมาหลายวันแล้ว กว่าจะอร่อยได้ที่ ล่ะมั้ง นะ

    เมื่อเช้าได้ฟังเพลง "จดหมายจากแม่" เลยนึกขึ้นมาได้ บังเอิญรึเปล่าน๊า
    สองสามวัน หลังจากอ่านท่อนนี้ของท่านแล้ว ก็บังเอิญได้อ่านหนังสือ
    "ศักดิ์สิทธิ์" เก่ามากมายนัก ซึ่งวางกองอยู่ในศาลามุงจากที่นั่งฝึกประจำ
    แต่ไม่เคยได้หยิมมาอ่านเลยนะ ไม่เคยเลยสักครั้งเดียว

    จนวันที่บอกได้มาถึง หยิบมาอ่าน เจอตรงขุนแผน เป็นผู้ทำกุมารทองท่านแรก
    ซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงมาก และก็ไม่แน่ใจว่าได้ไปเกิดรึยัง หรือว่ายังรอใครอยู่

    อ่านไปมา จนมาเจอเรื่องการใช้คาถาให้มีฤทธิ์ มากอย่างที่ต้องการ
    ทันใดนั้น จิตก็ "แว๊บแล้วปิ๊ง" ถึงท่านกาลีนะเลยครับ ขอบอก
    คือคิดถึงท่อนที่ว่าท่านสวด "ชินบัญชร . อย่างย่อ" ไม่รู้ทำไมถึงคิดนะ

    ข้อความสำคัญที่อ่านเจอมันอยู่ที่ การจะใช้คาถาให้มีฤทธิ์ถูกต้องตามสูตรนั้น
    จะต้องท่องจำให้ได้แม่นยำ รวมทั้งทราบถึงความหมายของคาถานั้นๆ อย่างแท้จริง
    แต่เวลาจะใช้งานจริงสามารถสวดแบบย่อๆ ได้ก็จริง เพื่อความทันต่อเหตุการณ์
    แต่ก็จะต้องหมั่นสวดท่องบทเต็มอยู่เสมอ เหมือนเป็นการชาร์จพลังให้เต็มอยู่เสมอ

    ไม่ทราบว่าท่านสวดชินบัญชร แล้วเคยสร้างนิมิตรถึงคำแปลบ้างไหมครับ
    แบบว่า สวดไป ก็สร้างภาพไป ว่าท่านนั้นท่านนี้ มาสถิตย์ตรงนี้ตรงนั้น
    ตามคาถาที่สวดอยู่ แล้วสร้างภาพต่อเนื่อง ฝังไว้ในดวงจิต ให้สถิตย์อย่างยั่งยืน

    ถ้าท่านทำอยู่แล้ว ก็ขออภัยด้วยที่บังอาจ สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ
    แต่ว่านะ จระเข้คงว่ายท่ากบไม่เป็นแน่เลยล่ะมั้ง นะ 555

    เมื่อมารวมกับนิมิตรเมื่อเช้า ตอนนั่งอยู่ในห้องความสุขยามเช้า
    พระที่วัดเปิดเพลง "จดหมายจากแม่" มาพอดีเลย บังเอิญไม๊น๊า
    หรือว่า "ท่านแม่" ของท่าน ฝากงานมากะเรา ถึงท่านกาลีนะ หรือเปล่าไม่รู้นะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    ปล. เรื่องอาการห่อเหี่ยวหดหู่ของท่าน
    เดี๋ยวจะลองซ่อมให้นะครับ รอดูผล แล้วถ้าแจ๋ว ก็ช่วยแจ้งด้วยละกัน นะครับ
     
  8. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ถึงพี่ค้างคาว .. อย่างแรกอย่าใช้คำว่า " ท่าน " กับหนูเลยคะ .. ถ้าคิดจริงใจต่อกันใช้คำธรรมดาจะดีกว่านะคะ .. เพราะตัวตนจริง ๆ เป็นคนที่ชอบอะไรที่ " บ้าน ๆ กันเอง ๆ ไม่มีพิธีรีตองมากมาย ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน .. มันดูอบอุ่นและจริงใจดีคะ .. แม่ท่านก็เช่นกัน "

    ... .ให้ดูจากวิธีการสวดมนต์ของ กาลีนะ ให้ดีนะคะ ... ในทุกตัวอักษรที่เลือกมาใส่ไว้ในบทสวดนั้น " ผ่านการตีความ แปล และ ร้อยเรียงลำดับมาเรียบร้อยแล้วตามสูตรที่ อ. ต๋อง ท่านแนะนำมา " แต่จริง ๆ ท่านบอกว่าในส่วนตัว กาลีนะ .. แค่อธิฐานจิตก้ได้แล้ว ... ส่วนจะสำเร็จมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับ " บารมี " ของตัวที่สะสมไว้ ... คาถาไม่ใช่หัวใจหลักด้วยเกิดมาก็ได้ " ปากพระพรหม " ติดตัวมาด้วย .. คาถาเป็นเพียงตัวเสริมเท่านั้น .. พูดมาถึงตรงนี้คงพอเข้าใจนะคะ ... ในส่วนเจาะลึกจากการเรียนมาคงบอกไม่ได้ต้องขอโทษจริง ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2014
  9. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... จากเหตุข้างต้นนั้นเองทำให้ กาลีนะ จะคัดเลือกบทสวดแต่ละอย่างมาจากการพิจารณารอบด้านเสียก่อน .. เวลาสวดทำให้เข้าใจในบทที่ตนกำลังสวดว่า สวดทำไม สวดเพื่ออะไร แล้วมันหมายความว่ายังไง .. ไม่ได้นึกภาพว่ามีพระองค์นั้น องค์นี้ มาล้อมรอบตัวคะ ..

    ... ก่อนสวดจะพยายามทำ กาย ใจ ให้สะอาด สงบ นิ่ง เย็น มีสติ มากที่สุดระลึกถึงพระรัตนไตรแล้วก้ค่อยอธิฐานจิต จากนั้นก็ค่อยเริ่มสวดมนต์ จะมีบางบทที่จะระลึกถึงเจ้าของบทสวดนั้น หรือ มงคลจักรวาล ก็จะนึกถึงร้านตนเองหน้าร้านไปหลังร้าน ... สำหรับชินบัญชร แบบย่อจะระลึกถึงคุณพระรัตนไตร แสงสว่างสีทอง ที่จะอาบรอบตัวและซึมเข้ามาในร่างกายของเรา เหมือนถุกห่อหุ้มด้วยเกราะสีทอง .. คืออธิบายได้แค่นี้คิดคำไม่ออก ... พอถึงคราวจะแผ่เมตตาก็จะนึกถึงน้ำเย็น ๆ ใส ๆ กินแล้วชื่นใจ .. นึกถึงความสุข .. แล้วให้ใจเราเหมือนกำลังมีต้นไม้ ดอกไม้กำลังผลิแย้มบานขึ้นมา ความชุ่มชื่น ฯ ทั้งก่อนจะแผ่เมตตา และ ช่วงที่กำลังแผ่อยู่ .. พยายามทำใจให้รู้สึกถึงความรัก ความหวังดี อยากให้ผู้อื่นมีความสุข .. อธิบายได้เพียงเท่านี้คะเพราะตอนที่ท่านสอนมาท่านไม่ได้พูดมากขนาดนี้ เห้อ ๆ
     
  10. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ดังจะมีเรื่องเล่าจากอาเฮียผมคนนึง แกแวะไปงานชุมนุมคนทรง แล้วไปเห็นเหตุการณ์นึงเข้า ทำให้เกิดความสงสัยยิ่งนัก...หากเป็นหนูพายุ อาจสงสัยยิ่งกว่า ก็เป็นได้...
    กล่าวคือ...
    มีคนทรงเจ้าแม่ตะเคียนมาในงานเดียวกัน 3 องค์ สุดท้ายก็ทะเลาะถกเถียงกันว่าใครเป็นเจ้าแม่ตะเคียนตัวจริง ใครเป็นตัวปลอม ชี้หน้าด่ากันไปด่ากันมา เป็นที่เฮฮาของอาเฮียผมว่า ตกลงใครตัวจริงตัวปลอมก็ไม่รู้แฮะ...ทำไมมีมาตั้ง 3 ตน...แถมมีทรงเจ้าแม่กวนอิมอีก 2 คน อันนี้ก็งงเหมือนกัน...หรือว่า การเข้าทรงนี้ จะมีโควต้าว่า เทพองค์นึง แบ่งภาคไปทรงได้กี่สิบกี่ร้อยคน...ก็มิรุ..



    ..... ใช้คำว่าแบ่ง " เกรด " ดีกว่าไหม๊คะพี่มิงค์ ... จะมี 6 แบบ ใหญ่ ๆ ด้วยกัน .. ความสามารถก็จะแตกต่างกันออกไป การปฏิบัติตน ดูแลตน ก็จะแตกต่างกันออกไปในส่วนปลีกย่อย ... ซึ่งหนูก็ได้ไปลองทดสอบมาแล้วด้วย .. อิอิ .. ได้คำตอบมาแล้ว ... หงายเงิบ .. ด้วยความตกใจไปเลยคะ 55555555

    ..... ท่านที่ช่วยตรวจดูให้นั้นตอบกลับคำถามมาว่า ....

    ตอบ ท่านมีองค์เทพชัดเจนแลแบบปฏิบัติครับ (๔,๕.๑)...

    ดวงนี้เดินสายเทพ หรือ ต้องประกอบกิจเพื่อมวลชนตามสมควร เรียกว่าจิตอาสา เท่าที่ท่านปฏิบัติมานับว่าเป็นแนวทางที่ดี..แต่ยังมิได้เดินสายเทพเท่านั้นครับ...


    ... ... หนูก็เลยไปหาดูว่า ไอ้ 4 , 5.1 มันเป็นยังไง .. ก็พบว่า

    ๔. ท่านมีองค์เทพชัดเจนแลแบบปฏิบัติ แสดงว่า เป็นการมีองค์เทพในแบบที่เจ้าตัวจะมีอาการต่าง ๆ เช่น จะเกิดอาการขนลุก หรือ อาการแปลก ๆ เหมือนจะอาเจียน และอาการประหลาดอื่น ๆ จนตัวเจ้าของเองก็แปลกใจ ... อาจมีมาแต่ตอนเด็กหรือมาเป็น ตอนมีอายุมากขึ้นและจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบางท่านหนักบ่า หนักต้นคอมีอาการครั่นเนื้อตัว ยามได้อาบน้ำมนต์ บางท่านจะมีอาการเหมือนองค์ลง หรืออื่น ๆ บางชะตาฟ้าลิขิตให้ต้องรับขันธ์หรืออาจมีอานิสงน์ สามารถเปิดเป็นตำหนักช่วยคนในเวลาต่อมา

    ๕. การมีองค์เทพแบบกึ่งอวตาร ( ลักษณะพิเศษ )

    สำหรับท่านที่มีลักษณะเช่นนี้ จะพบเห็นได้จากการผูกดวงชะตาในระดับลึกมีการทำมุมกันในชะตาขั้นอุกฤต บางท่านจะชอบเจริญกรรมฐาน บางท่านจะไม่ชอบเลยลักษณะการดำเนินไปจะแยกเป็น ๒ ทาง

    ๕.๑ มีคุณสมบัติของคนมีองค์เทพแบบปฏิบัติรวมอยู่ด้วย

    .... มีพลังบารมีที่ หากผู้มีองค์เทพและปฏิบัติมาดียามเมื่อเข้าใกล้พลังแห่งบารมีจะสามารถสัมผัสได้ แลท่านนั้นยามปกติ จะดูเหมือนเม่อลอยหรือไม่เป็นตัวของตัวเองเต็มที่นัก ... ลักษณะเช่นนี้ .... พบเห็นได้จากเจ้าตำหนัก หรือ พระบางท่านจะมีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใส ถวายตัวเป็นศิษย์รับขันธ์ บางตำหนักบางแห่งมีลูกศิษย์นับพันครับ ไหว้ครูได้ยิ่งใหญ่อลังการครับ

    ๕.๒ มีคุณสมบัติของคนมีองค์เทพชัดเจน

    ... นับว่า เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติแบบผู้มีองค์เทพอยู่แล้ว บางท่านสับสนหาจุดยืนมิได้ ด้วยอิทธิพลของดวงดาวบังคับ เป็นผู้ที่หาอาจารย์ของตนเองได้ยากครับ เป็นผู้คงแก่เรียน หรือชอบศึกษา หรือ เสาะแสวงหา หรือ ชอบลองของ เพื่อหวังว่าวันหนึ่งจะพบผู้ที่สมควรแก่การมอบตัวเป็นศิษย์ หากพบเมื่อใดทางสายเทพของเขาผู้นั้นจึงสมบูรณ์ สำหรับท่านที่เข้าข่ายกฏข้อนี้ ส่วนมากเป็นชะตาสวรรค์กำหนดมักเป็นมากกว่าร่างทรงทั่ว ๆ ไปครับ


    ..... ใจหนูตอนที่ได้รับคำตอบนี้มาเถียงอยู่ในใจอย่างเดียวว่า ... ของหนูน่าจะ 5.2 มากกว่า 5.1 เพราะคุณสมบัติโดนสันดาน คือ ดื้อ รั้น และ ยากที่จะยอมรับใครให้มาเป็นครูได้ ... เห้อ ๆ ปัจจุบันถึงจะเบาลงแล้วก็ยังยาก ... ขนาด อ.ต๋อง ก็แทบจะกำราบไม่อยู่ สำหรับอาจารย์ท่านนี้ท่านมีทางเลือกให้ กาลีนะ แค่ 2 ทางเลือกเท่านั้น .. แต่ก็เป็นทางเลือกที่คนรอบกายไม่ต้องการให้ทำ .. หนูว่าพี่มิงค์คงพอเข้าใจ .. .. หนูก็เดินตามตูดพี่ไปนั้นแหละ .. อิอิ เถียงออกเสียงไม่ได้ก็เถียงใจใน คิดอะไรก็แปลกแหวกชาวบ้าน พิศดารเกินคน 55555555 แต่ก็ยังสู้พี่มิงค์ไม่ได้อยู่ดีความคิดพี่น้องนี้ยังซูฮกให้เลยคะ ... อิอิ .... มาตอนหลังก็เลยมาศึกษาเพิ่มเติมก็ถึงเข้าใจความหมายที่ได้ข้อมูลมา ......

    .... ใจจริงตอนแรกว่าจะไม่เอามาลงให้ใครมาอ่านหรอกคะ ... แค่นี้คนเขาก็ " หมั่นเขี้ยวพอแรงแล้ว " แต่หลุมดำนี้คงไม่เป็นที่ต้องตาใครสักเท่าไหร่นะคะ .. คิดว่างั้นนะ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2014
  11. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    ไม่ด้าย ไม่ด้าย ทุกชีวิตล้วนเท่าเทียมกัน ใช้ท่านกะทุกท่านเหมือนกันหมดครับ
    เราไม่อาจเลือกที่รักมักที่ชังได้ เค้ากำหนดมางั้นนะ

    ว่าแล้ว สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำจริงๆ ด้วยสิ
    จระเข้จะว่ายท่ากบทำไมกัน ท่าจระเข้ก็เท่ห์อยู่แล้ว เนอะ

    แหม..ดีจัง แค่อธิษฐานจิตเอาก็ได้แล้ว ง่ายดีนะ
    แถมมี "ปากพระพรหม" มาให้ใช้ด้วย โชคดีจังเลย นะเธอ

    ครับ ก็พอเข้าใจแบบไม่เข้าใจน่ะครับ ไม่รู้แปลพลาดไปบ้างป่าว



    ขอโทษที ลืมไป นึกว่ามือใหม่ เลยแนะนำให้นึกภาพประกอบคาถา
    คือตอนที่เรารู้จัก อายุแค่สิบห้าเองครับ อ่านเจอจากเพชรพระอุมา
    ท่านรพินทร์ (รึป่าวนะ) สอนมา ตอนอ่านเจอก็นึกภาพทีละองค์
    ไม่ค่อยรู้จักท่านไหนหรอกครับ จำหน้าใครไม่ได้เลย
    แต่ก็นึกเอาเอง ว่ามาอยู่ตามเนื้อตามตัว ค่อยๆ บรรจงวางทีละท่าน
    คาถาบูชาหลวงปู่ทวด ก็ได้จากเพชรพระอุมานี้เช่นกัน

    แต่ตอนนี้เวลาสวดชินบัญชร พร้อมพระที่ทำวัตรทุกเย็น
    ก็จะนึกภาพหนุมานตัวใหญ่มากกก ยืนในแม่น้ำเจ้าพระยา (ลึกแค่เข่าเองครับ)
    ที่ท่าน้ำหน้าวัดระฆัง (เอ..ไม่รู้ว่าหน้าวัด หรือหลังวัดนะครับ)
    ติ๊ต่างว่า เป็นปี 54 เดือนตุลา ช่วงที่น้องน้ำกะลังบุกเมือง
    และหนุมานกะลังเสกน้ำให้ไหลเร็วๆ ไหลออกทะเลไปให้ไว ให้ไว
    แม่น้ำไหลแรงขึ้นทันที โป๊ะเรือโยกแรงขึ้นจนรู้สึกได้อย่างชัดเจน

    แถมหนุมานยังเสกลมให้พัดแรงขึ้น ช่วยให้ผิวน้ำไหวกระเพื่อม ช่วยการไหล
    และในมโนภาพ ยังเห็นควันลอยขึ้น จากวัดพระแก้ว ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
    เพื่อช่วยให้เห็นลมได้ชัดเจน บังคับให้ลอยเร็วๆ พัดออกไปทางทะเล 555

    แต่เรื่องเกราะสีทอง ตอนสวดชินบัญชรนั้น มีเรื่องจะเล่าให้ฟังนิดนึงนะ ว่า
    ในช่วงนั้น (ตค.54) เคยนิมิตรแปลงร่าง และต้องต่อสู้กับบางอย่าง
    สู้กันในระยะประชิด ระยะแลกหมัดกันเลย นะ จำได้แม่นเชียว (ฝันหรือเพ้อเจ้อ)
    มีครั้งนึง ต้องงัดวิชากำลังภายในมาช่วยด้วยล่ะ ขอบอก
    คือวิชา "คุ้มครองชีพจรหัวใจ" ของวัดเสียวลิ้มยี่ล่ะมั้ง นะ
    รู้ว่าต้องเจอศึกหนักมาก ยังไงก็ต้องบาดเจ็บหนักแน่
    เลยต้องใช้วิชานี้ คุ้มครองจุดสำคัญไว้ก่อน ยังไงก็ห้ามตาย
    และยังเรียกวิชา "ระฆังทองคุ้มครองกาย" ของวัดเดียวกันมาใช้ด้วย 555

    คิดภาพเป็นระฆังทอง ลูกใหญ่เชียว มาครอบร่างกายเอาไว้ ตอนทำศึกกันอยู่
    แถมเรียก "นายกองกัซ" นักรบบ้าเลือด มาคอยเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ด้วยล่ะครับ
    แต่ตอนหลัง จาก "ระฆังทองคุ้มครองกาย" ก็กลายมาเป็น สมเด็จโต วัดระฆัง
    ไม่รู้ว่าท่านมาช่วยตอนไหนนะ พอรู้ตัวอีกที ก็ทราบว่าระฆังได้เปลี่ยนไปแล้ว

    การแผ่เมตตา ของเราใช้เทคนิคต่างไปนิดนึงนะ
    เราให้มันแผ่ออกไปรอบตัว เป็นทรงกลม คล้ายช็อคเวฟจากแรงระเบิด
    ที่แผ่กระจายออกไป 360องศา อย่างรุนแรงและนุ่มนวล
    และให้นึกว่าเป็นแสงแห่งปราถนา วิญญานไหนอยากได้อะไรแบบไหน
    ก็ไปกำหนดกันเอาเองได้ เพราะบางตนต้องการต่างกันออกไป
    ขี้เกียจกำหนดหลายๆ อย่าง เลยให้แบบแก้วสารพัดนึกไปเลย ไปนึกต่อเอาเอง 555

    อืม..นะ ทำไมวันนี้เพ้อเจ้อเยอะแยะจังเลยน๊า คงไม่รำคาญนะครับ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  12. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... งั้นก็ตามศรัทธาแล้วกันนะคะ ... เรื่องพี่ก็แปลกดีเหมือนกันคะ ... ช่วงนี้พลังยังไม่ค่อยฟื้นตัวเท่าไหร่คะแต่ก้ดีขึ้นมากแล้ว ... 55555 เพราะเริ่มมาฝอยได้บ้างแล้ว ... เป็นครั้งแรกที่เป็นสภาพแบบนี้จริง ๆ 17 วันเข้าไปแล้ว ... เห้อ ๆ แต่ก็อย่างว่าค้ำคนอื่นยังทำได้นี้ค้ำแม่ตัวเองถึงแย่กว่านี้ก็ต้องยกสองนิ้วสู้ตายคะ ... แล้วพอมีแรงก็ไปแหล๋มเรื่องชาวบ้านต่อ 55555 ... พี่ ๆ ท่านอื่นหายไปไหนหนอ ... คิดถึงเด้อคร่า ... สงกรานต์นี้ไปเที่ยวไหนกันบ้างคะ ... กาลีนะ คงช่วยแม่ขายลาบก้อยที่ร้านนี้แหละคะ .. อาจจะโผล่ ๆ หาย ๆ บ้างเพราะงานยุ่ง ส่วนแฟนก็อาการดีขึ้นมาแล้วแม่ก็ดีขึ้น .. หลังสงกรานต์คงได้เข้ามาเล่าเรื่องสนุก ๆ ให้ฟังทุกวันเช่นเดิมคะ ^_^
     
  13. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ขอพลังสถิตย์ อยู่กะคุณ (deejai)(one-eye)(one-eye)chearr
     
  14. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ขอบคุณจร้าคุณพายุ .. ขอหยุดช่วงนี้เทศกาล ... ทำมาหากินก่อนนะคะ ..
     
  15. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... ผ่านสงกรานต์ไปอย่างทุลักทุเล .. แต่ก็โอเคคะกำลังจะฟื้นตัวได้แล้ว .. แถมได้เรื่องเล่าใหม่ ๆ มาเลาให้ฟัง .. ข้างร้านเขามีของเล่นใหม่มาแรงดีมากคะเล่นเอา กาลีนะ กับคนในบ้านนี้งอมไปตาม ๆ กัน .. ของเขาแรงจริงไรจริง ๆ .. กำลังจะพัฒนาเป็นปอบใหญ่ในอนาคต 5555 กาลีนะ กำลังคิดว่าจะทำยังไงดีจะป้องกันร้าน คนในบ้าน และ ตัวเอง จากภัยใกล้ตัวครั้งนี้ .. เพราะมันกำลังเป็น ปอบฝึกหัดที่มีแบ็ลคหลังที่แข็งแรง 55555 พุดมาละปวดกะบาลจริง ๆ ... วันนี้ยังไม่สะดวกเล่านะคะ อิอิ
     
  16. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ตามมาลุ้น (ping-love(one-eye)(one-eye)(one-eye)(one-eye)(one-eye)(one-eye)chearr
     
  17. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    แม่กาลีนะ ทะเลาะกับปอบเสร็จแล้ว แวะไปแซวกระทู้ที่จักรวาลหน่อยนะ...
    ไปช่วยพิจารณา กับเหตุการณ์ที่เกิดในจังหวัดอุบลให้ที...

    เข้าใจว่าตอนลุงตึ๋งไปเยี่ยมลูกชายที่เป็นหมออยู่สรรพสิทธิ ไปเห็นวิญญาณมากมายเดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้าน คือเห็นตาเปล่าเลยนะ มีกระทั่งในห้องน้ำ ทำเอาลุงแกไม่กล้าเข้าห้องน้ำ ไม่ใช่กลัวผี แต่แกเป็นคนขี้อายล่ะมั๊งนะ...มีคนอยู่ในส้วมตอนกำลังขี้นี่แกก็อายสิ...

    ลุงตึ๋งแกไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว และเริ่มจะอัลไซเมอร์ด้วย พอถามลูกชายที่เป็นหมอก็บอกว่าเห็นเหมือนกันอีก แล้วลูกชายที่เป็นหมอนี้ก็เข้าออกห้องฉันเห็นคุณเป็นว่าเล่นเหมือนกัน ผ่าตัดคนไข้เสร็จตัวเองก็เข้าไปนอนห้องฉุกเฉินต่อก็มีออกจะบ่อยๆ...

    ป้าหมอแกเชื่อเรื่องพวกนี้จึงไปตามซินแสมาทำพิธี แต่ผมว่าลุงแกคงจะท้าทายแล้วไล่ไปให้พ้นจากลูกชาย ทำนองว่าจะทำอะไรให้มาทำที่แกน่ะนะ...มันถึงตามลุงมาที่บ้านที่กรุงเทพได้...บ้านหลังใหญ่ที่กรุงเทพฯก็ยังกะคฤหาสต์ พออยู่กันน้อยคนมันก็ดูวังเวงมาก...พวกนี้ก็เลยเข้ามาเดินกันขวักไขว่ทั่วบ้าน...

    แม่กาลีนะคิดว่าเกิดจากอะไร...ช่วยยังไงแบบไม่เจ็บตัว...

    ปล.ตอนนี้ป้าหมอ ก็มีอาการอัลไซเมอร์แล้วด้วยสิ...ลูกชายที่เป็นหมอบินกลับมาร่วมงานศพลุงก็เข้าไอซียูที่วิชัยยุทธ ที่เดียวกับพ่อตัวเองที่พึ่งเสียไป...
    งานนี้ลุงไปแล้ว ป้ากับลูกชาย จะไปด้วยไหม? เกรงว่าไม่น่ารอด แบบ Coming soon เสียด้วย...ช่วยไม่ได้ก็พอจะมีอะไรเป็นอุทธาหรณ์ได้บ้างไหมนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  18. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ขออภัยที่หายไปนานคะทุกคนที่รอคอย ... พอดีพาแฟนไปเที่ยว กทม. กะว่าจะไป 3 วัน แต่กลายเป็นว่ายิงยาวไป 23 วัน แทบไม่ได้แตะคอมเลยคะ เห้อ ๆ

    ... ส่วนเรื่องผจญ ปอบ นี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ต้องพาแฟนระเ็ดไปที่อื่นเพราะรอบนี้หนักมากกว่าทุกรอบ .. เราเองไม่เท่าไหร่แต่แฟนเป็นพวกที่รับรู้พลังได้มากกว่าและจะไม่สบาย ... เป็นเรื่องที่อธิบายลำบากคะ .. แต่ไปรอบนี้ก็เจออะไรเยอะพอสมควรคะ ทั้งได้ช่วยคนอื่นแบบเฉพาะกิจ ซึ่งก็แค่พอทุเลาไปเท่านั้น ส่วนที่เหลืออยู่ที่ตัวพวกเขา

    ... ในส่วนเรื่องที่พี่ให้หนูออกความคิดเห็นนะคะ เนื่องจากยังไม่ได้อ่านกระทู้นั้นแต่จากที่พี่เล่ามานั้น ... เอาตามความคิดหนูนะพี่ ... คิดอยู่สองกรณีคะ และการแก้ไขมันก็แล้วแต่กรณีด้วยคะ

    1. โดนกระทำคุณไสยย์ใส่คะ
    2. ซวยเพราะปาก คงมีการไปสร้าง " กรรมวาจา" ไว้ที่แรงมาก ๆ คะ

    ... ส่วนมากต้องไปยังสถานที่นั้น้วยเพื่อรับรู้อะไรบางอย่าง และ ต้องพาแฟนคนนี้ไปด้วยคะ เพราะเขาจะสามารถสัมผัสภพภูมิได้มากกว่า .. เพราะทำงานเป็นทีม !!
     
  19. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    จากประสพการณ์ การถือพระโพธิญาณของกระผมเอง
    เพิ่งหัดถือได้ไม่ถึงสองปี
    แอบถืออญุ่ในใจหนึ่งปี บอกคนอื่นในบอร์ด ไม่ถึงหนึ่งปี

    ถ้ามีธุระมากขนาดนี้ ให้ถือพระโพธฺญาณไปเลย
    เพราะผมถือปณิธานตามท่านไภษัชยคุรุ พระพุทธเจ้า
    ทำทุกกรูปนามให้ถึงพุทธภูมิ

    คาถาบูชาท่านไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้า
    "นะโม ภะคะวะเต ไภษัชชะยะคุรุ ไวทูรประภาราชายะ ตะถาคะตายะ อะระหะเต สัมมาสัมพุทธายะ ตัทยะถา โอม ไภษัชชะเย ไภษัชชะเย ไภษัชะยะ สมุททะคะเต สะวาหะ"

    ถ้าธุระมากขนาดนี้ ชอบช่วยคนขนาดนี้ รุงรังขนาดนี้ ถือพระโพธิญาณเถอะ
    คุ้ม
     
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ถือแล้ว ควรจะมีอาการปฏิเสธพฤติกรรมทางไสยเวทย์ ในทุกมิติ
    ไม่เอาอีกเลย
    พุทธภูมิสามารถอธิษฐาน จิต ช่วยบุคคลต่างๆได้ถ้าภาวนาถึง
    ให้ท่านไภษัชยะคุรุ พระพุทธเจ้า กับพระโพธิสัตว์ ที่เป็นบริวารท่านหัด สอนวิธีให้เลย

    อย่าใช้ไสยเวทย์อีกเด็ดขาด
    ใช้พุทธเวทย์แทน

    พุทธเวทย์จะเอานิวรณื ออก ไม่เอานิวรณืไปสังเวยอวิชชา
    สนับสนุนการกำหนดรู้ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
    ถ้าใช้ไสย ก็จะช่วยได้ แต่ช่วยไปก็เท่านั้น
    เตี้ยอุ้มค่อม ขว้างงูไม่พ้นคอ

    ผมอธิษฐานจิต อุทิศบุญอยู่ หลายปี ใช่ไสยเวทย์ ก็เคยหัด
    ทำเหนื่อยแทบตายไม่ได้อะไรเลย

    แต่พอถือพระโพธิญาณ ทุกหยาดเหงื่อแรงงานไม่เหนื่อยฟรี

    อย่างน้อยก็ชื่นใจที่ได้ทำ
    เหมือนกะว่าถือพระโพธิญาณแล้วกิจกรรมการสงเคราะห์คนอื่น
    จึงเริ่มมีอานิสงค์
    เมื่อถือพระโพธิญาณ
    ปัจเจกภูมิ สาวกภูมิ จะไม่ค่อยปลื้มกับความรุงรังเหล่านี้
    รังเกียจอีกตะหาก

    แต่พระโพธิญาณจะชื่นใจ หายเหนื่อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...