เชิญร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ วัดกิตติราชเจริญศรี จ.อุบลราชธานี(หลวงปู่เก่ง ธนวโร)

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย fon-dekwat, 2 มีนาคม 2014.

  1. fon-dekwat

    fon-dekwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +1,285
    เชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างพระอุโบสถวัดกิตติราชเจริญศรี บ้านนาแก ต.ระเว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี กับหลวงปู่เก่ง ธนวโร เทพเจ้าแห่งบ้านนาแก ศิษย์พระครูวิโรจน์รัตโนบล(ญาท่านดีโลด แห่งวัดทุ่งศรีเมือง)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ร่วมบุญกองบุญละ 100 บาท รับพระผงหลวงปู่ทวดนิรันตราย บ้านนาแก จำนวน1องค์

    [​IMG]

    โดยโอนเงินร่วมบุญได้ที่

    ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 164-217834-6 ชื่อบัญชีนายสุพิชัย จันดี สาขาถนนศรีนครินทร์

    **โดยเพิ่มค่าจัดส่ง EMS ท่านละ 50 บาท............

    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 083-1260937(ฝน)
     
  2. fon-dekwat

    fon-dekwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +1,285
    [​IMG]




    อานิสงส์ของการสร้างอุโบสถ
    สมัยนี้ การสร้างวัด ต้องอาศัยกำลังทรัพย์และกำลังคนมหาศาล เพราะต้องสร้างวัดให้เพียบพร้อมด้วยสถานที่ร่มรื่น มีอาคารโรงเรือนมากมาย โดยเฉพาะมีโรงอุโบสถ หรือโบสถ์ สถานที่ที่จะต้องใช้ เพื่อการทำสังฆกรรมสำคัญๆหลายอย่าง อาทิ การให้การอุปสมบทแก่กุลบุตร การสวดทำอัพภานกรรม การสวดญัตติทุติยกรรมวาจา การสวดญัตติจตุตถกรรมวาจา ฯลฯ ของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา

    เนื่องจากโบสถ์ ที่สร้างขึ้นทุกวันนี้ คณะสงฆ์สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้หลายอย่างคือ เป็นอาคารอเนกประสงค์ รวมทั้งใช้เป็นที่ประชุมที่แสดงธรรม ที่ฝึกอบรมสมาธิภาวนา ที่สวดมนต์ ทำวัตรเช้าค่ำ และที่พักอาศัยชั่วคราว สำหรับต้อนรับพระอาคันตุกะ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่สร้างโบสถ์ถวายพระสงฆ์ จึงได้บุญกุศลมากมาย ทั้งชาตินี้และชาติหน้า กล่าวคือ

    ชาตินี้ ผู้มีศีลเป็นพื้นฐาน ที่ถวายโรงอุโบสถ ย่อมได้ความปลื้มปีติสุขอย่างสูง เมื่อได้ทราบว่า พระสงฆ์ได้ใช้โรงอุโบสถที่ตนสร้างถวายอย่างคุ้มค่า เกียรติคุณของผู้ถวายย่อมฟุ้งขจรไกล ผู้ถวายย่อมได้ สดับพระธรรมเทศนา เพิ่มพูน ศีล สมาธิ ปัญญา ทำให้จิตใจสะอาด สว่าง สงบสุขได้มากขึ้น แม้จะสิ้นชีพก็ไม่หลงทำกาลกิริยา(ตาย) ย่อมมีอารมณ์ยึดมั่นในกุศล เป็นอาสันนกรรมที่ดี

    ชาติหน้า ถ้าผู้ถวายโรงอุโบสถ ยังมีกิเลสอยู่ถึงแก่กรรมลง เขาย่อมได้ไปเกิดในกำเนิดที่ดี มีความสะดวกสบายที่เรียกว่า สุคติโลกสวรรค์ อันเพียบพร้อมด้วยสิ่งที่ประเสริฐ ที่พึงพอใจ อันเป็นฝ่ายโลกิยสมบัติและจะได้บรรลุคุณธรรมต่างๆ อาทิ ฌาน อภิญญา อริยมรรค อริยผล และกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานเป็นที่สุด

    การผูกพันธสีมา และฝังลูกนิมิต

    เมื่อมีตัวอาคาร หรือโรงอุโบสถ อันมีขนาดใหญ่พอสมควร มีเสนาสนะอื่นๆ ที่พระสงฆ์ใช้พักอาศัย อำนวยความสะดวกและใช้ประกอบศาสนกิจ ซึ่งปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสงฆ์ และได้รับอนุญาตจากทางราชการบ้านเมืองแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายพระสงฆ์ ที่จะต้องมีพิธีผูกพัทธสีมา อันรวมถึงการเตรียมลูกนิมิตไว้พร้อมสรรพ ซึ่งชาวบ้านมัก เรียกว่า "งานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต" ทั้งนี้ จำเป็นต้องปฏิบัติ ให้เป็นไปตามพระวินัยพุทธบัญญัติก่อน พระสงฆ์จึงกระทำสังฆกรรมที่กำหนดไว้ในพระวินัยได้

    *บุญสร้างโบสถ์ หาทำยาก บุญหนักศักดิ์ใหญ่ ที่วัดนี้ไม่เคยมีโบสถ์มาก่อนเลย พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบท้าวสักกเทวราชและเทวดาทั้งหลายที่มาทูลถามว่า...
    " การให้อะไร ชนะการให้ทั้งปวง
    รสแห่งอะไร ชนะรสทั้งปวง
    ความยินดีในอะไร ชนะความยินดีทั้งปวง
    ความสิ้นไปแห่งอะไร ชนะทุกข์ทั้งปวง"

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบว่า........

    สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
    สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ
    สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ
    ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ
    การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง
    รสแห่งธรรม ชนะรสทั้งปวง
    ความยินดีในธรรม ชนะความยินดีทั้งปวง
    ความสิ้นไปแห่งตัณหา ชนะทุกข์ทั้งปวง
    ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คน....

    อานิสงส์การถวายสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน

    -ถวายทานกับพระอรหันต์ 100 ครั้ง มีผลไม่เท่ากับ ถวายทานกับพระพุทธเจ้า 1 ครั้ง
    -ถวายทานกับพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายสังฆทาน 1 ครั้ง

    และถ้าถวายสังฆทาน 100 ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทาน 1 ครั้ง คือ สร้างวิหาร มีการก่อสร้าง เช่น สร้างสุขา ศาลาการเปรียญ กุฏิ โบสถ์ วิหาร เป็นต้น"

    การถวายสังฆทาน 1 ครั้งในชีวิต และถวายด้วยจิตที่บริสุทธิ์ มีศรัทธาแท้ พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า ผลของสังฆทานนี้ จะดลบันดาลให้แก่บุคคลผู้ถวาย เกิดไปทุกชาติ ขึ้นชื่อว่า ความยากจนเข็ญใจ ไม่มี ในแดนใดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบากขัดสน คนที่ถวายสังฆทานแล้วจะไม่เกิดในที่นั้น ผลที่ให้ไปไกลมาก

    ท่านกล่าวว่า แม้แต่พระพุทธญาณเอง ก็ยังไม่เห็นผลที่สุดของการถวาย สังฆทาน คำว่า”ไม่เห็นที่สุดของการถวายสังฆทาน“ หมายความว่า แม้แต่บุคคลผู้เป็นเจ้าของสังฆทาน บำเพ็ญบารมีแล้ว แล้วเกิดไปอีกกี่แสนชาติก็ตาม จนกระทั่งเข้าพระนิพพาน อานิสงส์นั้นก็ยังไม่หมด นี่เป็นอำนาจของการถวายสังฆทาน“

    การทำบุญ ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญมาก ต้องทำบุญถูกที่ ถูกเวลา ตรงกับความต้องการ และสิ่งที่ทำบุญ จะต้องเป็นประโยชน์สำหรับคนส่วนมาก วัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นศูนย์รวมจิตใจ ในการทำความดี การทำบุญเพื่อสร้างวัด จึงได้อานิสงส์เป็นอย่างมาก เพราะเงินที่ทำบุญ มีส่วนให้วัดสำเร็จได้ ถ้าไม่มีเราวัดคงจะสำเร็จไม่ได้ และที่สำคัญเป็นการสืบทอดพุทธศาสนาให้คงอยู่ ไปอีกนานเท่านาน

    ผลแห่งการทาน จะสมบูรณ์ได้อย่างไร

    ---ผลแห่งการบำเพ็ญทาน จะมีอานิสงส์ไพศาลนั้น จำต้องเกิดจากศรัทธาอันบริสุทธิ์ ตั้งมั่นในพระรัตนตรัย สภาพจิตใจของผู้ให้ทานจะต้องมีความสดใส ปีติยินดี ไม่กังวล ไม่เสียดาย แม้ก่อนและหลังขณะให้ทาน จิตใจของผู้นั้นยังมั่นคงยินดีสดใสอยู่ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหวแปรปรวน

    วิถีแห่งการบำเพ็ญทาน ควรทำดังนี้

    1.บุคคลใดที่ให้ทานด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนผู้อื่น ย่อมได้โภคทรัพย์ แต่จะไม่ได้บริวารสมบัติ ในที่แห่งตนเกิด
    2.บุคคลที่ไม่ได้ให้ทานด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่น ย่อมได้บริวารสมบัติ แต่ไม่ได้โภคสมบัติ
    3.บุคคลใดที่ไม่ได้ให้ทานด้วยตนเอง และไม่ชักชวนผู้อื่น ย่อมไม่ได้โภคสมบัติ และไม่ได้บริวารสมบัติ เป็นบุคคลเที่ยวกินเดน
    4.บุคคลที่ได้ให้ทานด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นด้วย ย่อมได้ทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติสมบูรณ์ บริบูรณ์

    ทานที่เห็นผลในปัจจุบัน

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ที่ ผมฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ใกล้เมืองเวสาลี ครั้งนั้นแล สีหเสนาบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า.......

    สีหเสนาบดี :ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงสามารถบัญญัติผลแห่งทาน ที่จะพึงเห็นได้ในปัจจุบันหรือหนอ ”

    พระผู้มีพระภาค:

    “สามารถ ! ท่านสีหเสนาบดี” แล้วจึงตรัสต่อไปว่า “ท่านสีหเสนาบดี ! ทายกผู้เป็นทานบดี (เจ้าของทาน) ย่อมเป็นที่รักที่ชอบใจของชนเป็นอันมาก แม้ข้อนี้ ก็เป็นผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง อีกประการหนึ่ง สัตบุรุษผู้สงบ (คนดี) ย่อมคบหาทายกผู้เป็นทานบดี แม้ข้อนี้ ก็เป็นผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง อีกประการหนึ่ง ทายกผู้เป็นทานบดี จะเข้าไปสู่ที่ประชุมใดๆ คือ ที่ประชุมกษัตริย์ พราหมณ์ คฤหบดีหรือสมณะ ก็ย่อมเป็นผู้องอาจ ไม่เก้อเขิน เข้าไป แม้ข้อนี้ ก็เป็นผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง อีกประการหนึ่ง ทายกผู้เป็นทานบดี เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ แม้ข้อนี้ ก็เป็นผลแห่งทานที่จะพึงได้ในสัมปรายภพ”

    สีหเสนาบดี :

    ---ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง ๔ ข้อเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคในผลแห่งทาน ๔ ข้อนี้ ก็หามิได้ แม้ข้าพระองค์เองก็ทราบดี คือ ข้าพระองค์ ก็เป็นทายก เป็นทานบดี ย่อมเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจ ของชนเป็นอันมาก สัตบุรุษผู้สงบย่อมคบหาข้าพระองค์ ผู้เป็นทายกเป็นทานบดี กิตติศัพท์อันงามของข้าพระองค์ ผู้เป็นทายก เป็นทานบดี ย่อมขจรทั่วไปว่า สีหเสนาบดี เป็นทายก เป็นทานบดี จะเข้าไปสู่ที่ประชุมใด คือ ที่ประชุมกษัตริย์ พราหมณ์ คฤหบดี หรือสมณะ ก็ย่อมเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่เก้อเขินเข้าไป

    ---ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผลแห่งทานที่พึงเห็นเอง ๔ ข้อนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสบอกแล้ว ข้าพระองค์ ย่อมเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคในผลแห่งทาน ๔ ข้อนี้ ก็หามิได้ แม้ข้าพระองค์เองก็ย่อมทราบดี ส่วนผลแห่งทานที่จะพึงเห็นเอง (ข้อที่ ๕) ที่พระผู้มีพระภาค ตรัสบอกข้าพระองค์ว่า ทายกผู้เป็นทานบดี เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ข้าพระองค์ย่อมไม่ทราบ ก็แต่ว่าข้าพระองค์ ย่อมเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคในข้อนี้”

    พระผู้มีพระภาค :

    ---“อย่างนั้นท่านสีหะเสนาบดีๆ ! คือ ทายกผู้เป็นทานบดีเมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์” นรชนผู้ไม่ตระหนี่ให้ทาน ย่อมเป็นที่รักของชนเป็นอันมาก ชนเป็นอันมากย่อมคบหานรชนนั้น นรชนนั้น ย่อมได้เกียรติ มียศ เจริญ เป็นผู้ไม่เก้อเขิน แกล้วกล้าเข้าสู่ที่ประชุมชน

    ---เพราะเหตุนี้แล บัณฑิตผู้หวังสุข จงขจัดมลทิน คือ ความตระหนี่แล้ว ให้ทาน บัณฑิตเหล่านี้ ย่อมประดิษฐานในไตรทิพย์ ถึงความเป็นสหายของเทวดา ร่าเริงอยู่ตลอดกาลนาน บัณฑิตเหล่านั้น ได้ทำสิ่งที่มุ่งหวัง ได้ทำกุศลแล้ว จุติจากโลกนี้แล้ว ย่อมมีรัศมีเปล่งปลั่ง เที่ยวชมไปในอุทยานชื่อ นันทวัน ย่อมเพียบพร้อมด้วยกามคุณ ๕ เพลิดเพลิน รื่นเริง บันเทิงใจอยู่ในนันทวัน สาวกทั้งปวงของพระสุคตผู้ไม่มีกิเลส ผู้คงที่ทำตามพระดำรัสของพระองค์แล้ว ย่อมร่าเริงทุกเมื่อ ฯ
     
  3. fon-dekwat

    fon-dekwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +1,285
    หลวงตาเก่ง ธนวโร วัดกิตติราชเจริญศรี บ้านนาแก ต.ระเว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

    หลวงปู่เก่ง ธนวโร หรือ อีกนามว่า หลวงปู่ไก่ชน ถือเป็นพระอริยะสงฆ์ที่สืบทอดจริยาวัตรปฏิบัติจากครูบาอาจารย์ได้ดีเยี่ยม ท่านเป็นศิษย์พระครูวิโรจน์รัตโนบล (ญาท่านดีโลด) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี สืบทอดวิชาตำรายันต์ฝังดาบ ทำหลักเขตบ้าน เรียนวิชาสายมหาปราบ แก้ที่แก้ทาง ที่มีเจ้าที่ดุร้าย จากญาท่านพรหมา วัดบ้านระเว และญาท่านรัตน์ วัดบ้านหัวดอน พระอุปัชฌาย์ เป็นผู้มีความเคารพในวิชาและศรัทธาในหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท หลวงปู่ท่านสามารถขับไล่ผี ปราบผีดุร้าย และนั่งทางในหยั่งรู้ เรื่องราวต่างๆได้ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ในสมัยก่อนแถบพิบูลมังสาหารจะได้ยินชื่อพระที่โด่งดังสามองค์ด้วยกัน หลวงปู่แพง ญาท่านสวน หลวงตาเก่ง ท่านเป็นคนที่สมถะเรียบง่าย มีเมตตาสูง อ่อนน้อมถ่อมตน ปัจจุบัน(๒๕๕๕) หลวงปู่เก่งท่านมีอายุ ๘๙ ปี และมีอายุพรรษา ๖๘ ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดกิตติราชเจริญศรี ( วัดบ้านนาแก ) หมู่ ๑ ตำบลระเว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
    ชีวประวัติและปฏิปทา
    หลวงปู่เก่ง ธนวโร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๙ เดือนกันยายน ๒๔๖๖ แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๙ ปีกุน เป็นวันธงชัย ในตระกูล “วงศ์สวัสดิ์” โดยมีพี่น้อง ๖ คน ในวัยเด็กหลวงปู่เก่งเป็นเด็กรูปร่างผอมบาง ตัวเล็กคล่องแคล่ว มีจิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
    เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรโดยมีญาท่านพรหมา เจ้าอาวาสบ้านระเว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบรรพชาเป็นสามเณร ในขณะนั้นหลวงพ่อพระครูวิโรจน์รัตโนบล(ญาท่านดีโลด) เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีในอดีต ได้เป็นประธานในการสร้างอุโบสถบ้านโพธิ์ศรี และบุรณะอุโบสถเก่าแถบตำบลโพธิ์ศรีและตำบลระเว เมื่อมีพระเถระผู้ใหญ่มาในท้องที่พระสังฆาธิการในละแวกใกล้เคียงจึงได้ทำการต้อนรับ รวมทั้งญาท่านพรหมา และพระในปกครอง หลวงปู่เก่งในขณะนั้นเป็นสามเณรและทำหน้าที่อุปฐากพระอุปัชฌาย์ได้เห็นอาจริยาวัตรของพระเถระผู้ใหญ่ รวมทั้งพระครูวิโรจน์รัตโนบล ซึ่งท่านได้เห็นสามเณรเก่งก็เกิดความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง และได้ทราบว่าเป็นคนที่มีต้นตระกูลมาจากบ้านกระโสบ- หมากมี่ อำเภอเมืองด้วยแล้ว จึงเอ็นดูเป็นพิเศษ
    เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี จึงได้เข้าอุปสมบทที่วัดบ้านหัวดอน โดยมีญาท่านรัตน์ เจ้าอาวาสวัดบ้านหัวดอน เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “ธนวโร” แปลว่า ผู้มีทรัพย์อันประเสริฐ เมื่ออุปสมบทแล้วได้มาจำพรรษาที่วัดกิตติราชเจริญศรี บ้านนาแก
    ศึกษาการปฏิบัติตามแนวทางของครูบาอาจารย์ได้ออกธุดงค์ไปในแถบแม่น้ำมูลตอนล่าง เลียบลำน้ำโขงตามรอยธรรมของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ข้ามไปในประเทศลาว ภูมะโรง เป็นระยะเวลา เกือบ ๑ ปี ในการเดินธุดงค์นั้นหลวงปู่ได้ติดเชื้อไข้มาลาเลีย แต่ยังฝืนเดินไปเรื่อยจนไข้ขึ้นหนักมากจึงได้กลับมาพักรักษาด้วยยาสมุนไพรจนหายขาด
    หลังจากหายเป็นปรกติแล้วหลวงปู่เก่งสงสัยว่ารากไม้ทำไมจึงรักษาโรคต่างๆได้ จึงเรียนตำรายารากไม้จากพ่อหมอทุม ซึ่งเป็นชาวบ้านหนองโพ ตำบลโพธิ์ศรี และศึกษาวิธีการใช้ยารักษาคนกับอาจารย์เป็นระยะเวลา ๙ ปี จนมีความเชี่ยวชาญ และได้เรียนวิชายาสมุนไพรเพิ่มเติมจากหมอยาชาวจีนอีกเป็นระยะเวลา ๕ ปี จนมีความแตกฉานในเรื่องยารากไม้และยาสมุนไพรเป็นอย่างยิ่ง มีผู้ป่วยมารับการรักษามากและมีชื่อเสียงในขณะนั้น
    ข่าวการรักษาคนป่วยของหลวงปู่เก่งได้ขยายไปในวงกว้างและมีผู้มารักษาเป็นจำนวนมาก ทราบข่าวถึงหูโจรใจบาปคิดว่าหลวงปู่คงจะมีเงินจากการรักษามาก จึงได้รวมตัวกันเข้าปล้นสะดมในเวลากลางคืนพวกโจรใจบาปทั้งหลาย ทั้งตี ทั้งฟัน ทั้งแทง และยิงกะเอาให้ตาย จนหลวงปู่สลบไปและรื้อค้นได้เงินไปจำนวนหนึ่ง และของมีค่าที่หลวงปู่เก็บรักษาไว้ไปอีกหลายชิ้น พอฟื้นขึ้นมาหลวงปู่มีอาการแค่หัวโน และถลอกตามแขนขานิดหน่อยเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
    คนป่วยบางจำพวกที่รักษาด้วยยาสมุนไพรไม่หายคือคนป่วยโรคจิต คือโรคจิตเกิดจากธาตุในกายกำเริบ อีกอย่างคือโรคจิตจากการเข้าแทรกด้วยผู้มีอำนาจกว่า (ผีเข้า) และโรคจิตที่เกิดจากการกระทำหรือที่เรียกว่าคุณไสย์ ด้วยความ เมตตาหลวงปู่เก่งจึงรักษาด้วยการขับไล่ผีร้ายออกไป ตามวิชาครูธรรมที่ได้เรียนธรรมสายมหาปราบ จนมีผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตและถูกคุณไสยที่ญาติพามารักษาและมอบให้หลวงปู่รักษาเป็นจำนวนมาก บางคนดุร้ายมากถึงกับต้องล่ามโซ่ติดกับต้นไม้ใหญ่ไว้(เป็นที่ชินตากับคนที่มาหาหลวงตาในอดีต) หลวงปู่เก่งท่านก็เมตตารักษาด้วยพลังจิตควบคู่ไปกับยาสมุนไพรด้วย เมื่อหายขาดแล้วจึงได้ตามญาติมารับกลับไป หลวงปู่เก่งยังสามารถสื่อสารกับ เจ้าที่เจ้าทางได้ ปราบผีปอบ ผีเข้าเจ้าสูญ และทำหลักเขตหมู่บ้านตามตำราของอาจารย์พระครูวิโรจน์รัตโนบล (หลวงปู่ดีโลด) และ ญาท่านรัตน์พระอุปัชฌาย์
    หลวงปู่เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการรักษาด้วยยาสมุนไพร จึงมีผู้มาตามไปรักษาและตรวจเยี่ยมคนป่วยที่อยู่ต่างถิ่นระยะทางไกลและกันดาร “เจ้าสีหมอก” ม้าคู่บารมีหลวงปู่ได้เมตตาเล่าให้ฟังว่าเป็นม้าที่พยศและดุร้ายมากถ้าไม่ใช่เจ้าของมันจะกัดและไม่ยอมให้ขึ้นขี่ได้ง่ายๆ แต่วิ่งเร็วมากและมีความอดทนเป็นเยี่ยม หลวงปู่ขี่เจ้าสีหมอกไปรักษาคนป่วยในแถบ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอนาจะหลวย อำเภอตระการพืชผล อำเภอเขื่องใน อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเดชอุดม โดยเฉพาะบ้านบักมาย บ้านเม็กกุดเลา บ้านเม็กน้อย บ้านเม็กใหญ่ อำเภอเดชอุดม และบ้านท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จะนิมนต์หลวงปู่ไปเยี่ยมเป็นประจำทุกปี เวลาเทศกาลเข้าพรรษาจะมีคณะลูกศิษย์ที่ครอบขันครูรักษาจะมาส่งขันดอกไม้ประจำปีนับพันขัน
    หลวงปู่เก่งยังเก่งเรื่องปลุกเสกวัตถุมงคล ด้วยความสมถะเรียบง่ายไม่โอ้อวด จึงมองเป็นเพียงแค่หลวงตาแก่ๆคนหนึ่ง แต่การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่มีพลังเข้มแข็งมาก และตั้งใจประคองจิตในเวลาปลุกเสก จนได้รับการนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลวัดอื่นอยู่เป็นประจำ
     
  4. ปัญจ

    ปัญจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    27,326
    ค่าพลัง:
    +88,009
    เช้านี้โอนร่วมบุญผ้าป่าสร้างโบสถ์ 99 บาท
     
  5. jotaro4s

    jotaro4s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,121
    ค่าพลัง:
    +5,431
    วันนี้เวลา 14.37 จิรานุวัฒน์ ได้โอนร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ วัดกิตติราชเจริญศรี จ.อุบลราชธานี(หลวงปู่เก่ง ธนวโร) 100 บาทแล้วนะครับ อนุโมทนาบุญครับ
     
  6. fon-dekwat

    fon-dekwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +1,285
    อนุโมทนาบุญกับทั้งสองท่านครับผม ถ้าต้องการมงคลที่ระลึกขอโปรดได้แจ้งที่อยู่ทาง PM ได้ครับ มาร่วมบุญกับพระมหาเถระกันครับ หลวงปู่เมตตาเป็นองค์นำพาลูกหลานสร้างมหากุศลครั้งนี้ พระผู้เมตตามากล้น ญาณภายในแจ่มแจ้ง และถึงพร้อมคุณธรรมอันเลอเลิศ ยุคนี้เป็นยุคที่ท่านเมตตา ออกสงเคราะห์ญาติโยมเต็มที่ โดยมิเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ท่านว่าใช้กรรมกับลูกหลาน เพราะจากนี้ไปแล้ว ท่านว่าจะไม่กลับมาอีกแล้ว
     
  7. incool

    incool Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +73
    วันนี้ประมาณ 8.47 ได้โอนเงินผ่าน ATM จำนวน 500 บาทเพื่อร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ ขอบคุณที่เป็นสะพานบุญให้อีกหนึ่งครั้งจ้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...