อย่ากด "อนุโมทนา" มั่วหากไม่รู้จริงว่าถูก

ก็เป็นเรื่องปกติ ธรรมดา นะครับ....
เพราะว่า.. ผมก็บอกแล้วว่า.. ผมเองก็ยัง "เลว" อยู่มาก
และก็ย้ำอยู่หลายครั้งมากว่า.. ไม่ได้ให้เชื่อถือ....

ตัวของเราเอง ต้องพิจารณาใคร่ครวญด้วยตนเอง....

...................................................................................

องค์หลวงพ่อฯ ท่านได้เทศน์ ให้ไว้เกี่ยวกับเรื่องอานิสงส์ของอนุโมทนา
(ดังนี้ กราบขอขมาที่ไม่ครบถ้วนทุกคำพูด เพราะจำมา)

สมัยนั้น.. พระโมคคัลลาน์ ผู้ทรงฤทธิ์ ชอบท่องเที่ยวไปยังภพภูมิ และสวรรค์
อยู่เสมอ ๆ เพื่อนำข่าวผู้ที่ทำบุญ ได้อยู่สวรรค์ ทำบาป ได้ตกนรก อย่างไร

จะได้นำมาสอนสั่ง แก่ปวงชน

วันหนึ่ง ขึ้นไปที่ดาวดึงสเทวโลก พบวิมานเกิดขึ้นใหม่ หลังใหญ่ สวยงาม
เจ้าของวิมาน มีนางฟ้าเป็นบริวาร พันองค์

จึงขอพบ และสอบถาม ว่า ภัคคินี ดูก่อนน้องหญิง เธอทำบุญอะไรมา
จึงมีวาสนามาก มีวิมานหลังใหญ่ สวยงาม มีบริวารเป็นพันองค์

นางฟ้าเจ้าของวิมาน ได้ตอบว่า....
กล่าวไป ละอายนัก ไม่ได้ทำบุญเลยเจ้าค่ะ

พระโมคคัลลาน์ จึงถามต่อไปว่า ในเมื่อไม่ได้ทำบุญเลย
ทำไม จึงมีวิมานใหญ่โต สวยงามนัก

นางฟ้า ก็บอกว่า ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนของนางวิสาขา
นางวิสาขาทำบุญอะไร ก็โมทนากับเขา เพราะว่าตัวเองจน เงินมีน้อย

พอดี หมดอายุขัย ตายมาก่อนนางวิสาขา
ด้วยบุญบารมี เพียงแค่โมทนา ก็มีวาสนาได้เพียงเท่านี้

ข้อนี้ น่าจะหาอ่านได้พบในพระไตรปิฎก
เป็นข้อยืนยัน อานิสงส์ของการโมทนา

...................................................................................

ส่วนข้อสงสัย ที่ว่า....

เพราะถ้าได้บุญถึง 80-90%
อย่างที่ว่าจริงแล้ว ก็ไม่ต้องไปทำบุญกุศลอะไรกันเองแล้วหละครับ

มารอนั่งอนุโมทนาอย่างเดียว
หลายๆกระทู้ หลายๆบุญเข้า ก็เหลือเฟือแล้ว
จะเอาสวรรค์ชั้นไหนหละ...เลือกได้ด้วยซ้ำไป..กระมัง

...................................................................................

ข้อนี้ ผมเอง ก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ว่า จริง ๆ ด้วยครับ

แต่เท่าที่ผมกล่าวอธิบาย ในโพสที่ 40 เป็นต้นมา นั้น
หัวข้อ ที่เขาตั้งมา เกี่ยวข้องกับคำว่า อนุโมทนา
จึงชี้แจงเรื่อง การอนุโมทนา ว่ามีผลไหม

ส่วนที่ตั้งข้อสงสัย มานั้น อันนี้ ก็ถือว่า ดียิ่ง ใช้สติใคร่ครวญ ได้ดี

มันก็จริง อย่างที่ท่านสงสัย นั่นแหละครับ....
เรื่องอานิสงส์ นี่ มันต้องทำ จึงจะได้เต็ม ๆ

องค์หลวงพ่อฯ แจงอานิสงส์ การสร้างพระพุทธรูป ว่า....
เมื่อตายไป ยังไม่ถึงพระนิพพาน จะสามารถเกิดเป็นเทวดา หรือพรหม
ที่มีเดช มีอำนาจ มีศักดิ์ใหญ่ มีแสงในกาย สว่างเจิดจ้า

เทวดา วัดบารมีกันที่ ความสว่างในกาย
ใครสว่างมากกว่า จะมีบารมีมากกว่า

หากเมื่อหมดบุญจากเทวดามาเกิดเป็นคน
ผลบุญก็ยังส่งผลให้เป็นคนที่มีอำนาจ วาสนา เป็นหัวหน้าคน
เป็นนายพล เป็นต้น

และ องค์หลวงพ่อฯ ก็แนะนำ ว่า....
หากสร้างแต่พระพุทธรูป ไม่ทำบุญอย่างอื่น เช่น ไม่ทำสังฆทาน ก็แย่
เกิดมาเป็นนายพล แต่ตังค์ในกระเป๋าไม่มี ก็ไม่ไหว ใช่ไหม

การทำบุญจึงต้องทำหลาย ๆ อย่าง จึงจะมีอานิสงส์ครบถ้วน

การที่เราจะไปตั้งเป้าว่า.. คอยแต่จะอนุโมทนาบุญของคนอื่น อย่างเดียว
อย่างนี้ อานิสงส์ที่เราปรารถนา ก็ไม่สมบูรณ์

อีกทั้ง ก็ยังจะเป็นการประมาทจนเกินไป
เพราะว่า เราตั้งหน้าอนุโมทนาเพียงอย่างเดียว
จริงอยู่ เมื่อตายไป ก็จะมีอานิสงส์ 80-90 % ของเจ้าของบุญ
ดังกล่าวไว้แล้ว....

แล้วลองคิดดู ว่า....
เมื่อหมดบุญ ของการอนุโมทนาบุญ จากสุขคติ แล้วต้องเกิดมาเป็นคน
ถามว่า เขาจะมีอานิสงส์อะไร.. ในเมื่อเขาไม่ได้สร้างไว้
เมื่อเกิดมา ก็ต้อง เป็นคนจน
หรืออย่างดี ก็ต้องไปเกิดเป็นบริวาร ของเจ้าของบุญที่สร้างบุญไว้
เพราะว่า เราอนุโมทนาเขา เพียงอย่างเดียว

แล้วถ้าหากบังเอิญ เจ้าของบุญ พลาดท่าบางอย่าง ต้องตกนรกไป
เราที่ตั้งหน้าอนุโมทนาบุญ จะมีอะไรกิน

จะเข้าพระนิพพาน ก็ไม่ได้
ต้องรอจนกว่า เจ้าของบุญ ขึ้นมาจากนรก
มาทำความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้ถึงพระนิพพาน
แล้วผู้อนุโมทนา จะได้มีเกณฑ์ที่จะถึงพระนิพพาน ได้บ้าง เช่นกัน

อย่างนี้ ถือว่า ประมาทเกินไปไหม..

แล้วถ้าหาก เราเป็นผู้อนุโมทนาบุญ มามาก
แต่ไม่มีศีล ไม่รักษาธรรม....
ถึงแม้ว่าจะมีบุญ ที่อนุโมทนา มาอย่างมากมาย....
แต่จะรอด นรก ไปเสวยสุข ณ สุขคติ ได้หรือเปล่า ก็ไม่แน่....

อย่างนี้ จะมีใครบ้าง ที่จะตั้งใจ อนุโมทนาบุญ เพียงอย่างเดียว
โดยที่จะไม่คิดสร้างบุญ เป็นของตัวเอง ด้วยตัวเอง ไว้บ้างเลย

ก็คงจะเป็นไปไม่ได้
และคงไม่มีใครที่จะทำอย่างนั้น คือ รอการอนุโมทนา เพียงอย่างเดียว

...................................................................................

อานิสงส์ พิเศษ ของการอนุโมทนาบุญ ก็คือ....

ตัว มุทิตาจิต ในข้อ 3 ของพรหมวิหารธรรม ที่ได้กล่าวไว้แล้ว นั้น
จะทำให้เป็นคนที่ มีจิตใจอ่อนโยน จิตเป็นสุข

เมื่อจิตเป็นสุขแล้ว ได้ฟังธรรม คำตรัสสอน
ก็จะสามารถเข้าใจ มีความเลื่อมใส
และปฏิบัติธรรมได้ง่ายกว่า บุคคลที่มีจิตใจโหดร้าย ดุดัน

การก้าวล่วงเ ข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ก็จะง่าย และสะดวกกว่า

อย่างนี้ ก็คงพอจะทราบกันได้นะครับ....
ว่าทำไม อนุโมทนา จึงเป็น สิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองช้าม
เป็นสิ่งที่ไม่ควร ปรามาสใน ธรรมอันจะสร้างจิตใจ ให้เกิดความอ่อนโยน

....................................................................................

ตามที่สงสัย ว่า....

พระอาจารย์ที่ผมรู้จักรูปหนึ่ง
ท่านเคยเปรียบผลบุญของการอนุโมทนาบุญ
ไว้ว่า จะได้บุญกับผู้ลงมือกระทำแค่ประมาณ 10%

แล้วถ้าหาก เราอนุโมทนา 100 เรื่อง หรือ 1,000 คน..
นี่ จะได้ กี่ %
มันก็มาก % ได้เช่นกัน ใช่ไหมครับ

....................................................................................

ก็ยังขอยืนยันว่า.. เป็นข้อคิดเห็น เป็นความศรัทธา ของผมเองเท่านั้น
ก็พึงพิจารณาด้วยตนเอง..
ตนจึงจะเป็นที่พึ่งแห่งตนได้โดยแท้จริง แห่ง ปัญญาชน

....................................................................................<!-- / message --><!-- sig -->

 

มีแบบว่าสะสมแต้มอนุโมทนาครบเท่าไหร่แล้วจะได้รับของกำนัลจากทางเว็บอะไรอย่างงี้หรือเปล่าครับ อย่างเช่น.. แจกพระไตรปิฎกฉบับสมบูรณ์ วัตถุมงคล CD-VCD-MP3ธรรมะ สมาชิกรายปีนิตยสารพลังจิต.คอม หรือเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมฟรี7วัน7คืนที่วัดป่า อะไรแบบนี้ ผมจะได้มีกำลังใจกดปุ่มอนุโมทนาบ่อยๆไงครับ

 

เห็นด้วยครับ

 

<TABLE class=tborder id=post798880 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>00000<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_798880", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 04:54 PM
วันที่สมัคร: Mar 2005
ข้อความ: 46 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 219 ครั้ง ใน 34 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0




</TD><TD class=alt1 id=td_post_798880 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->จะอนุโมทนาอะไร อย่างไรก็ตามใจท่านเถิดครับ...
อะไร ๆ ก็เป็นไปตามกฏแห่งกรรมกันทั้งนั้นแหละครับ...
หากเข้าใจกฏแห่งกรรมแล้ว เรื่อง บุญ บาป กุศล อกุศล หรืออะไรที่ไม่ใช่ทั้งกุศลและอกุศล ก็จะรู้และเข้าใจเองครับ..แล้วแต่ท่านนะครับ
คนเรามีกรรมเป็นของ ๆตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล ......ฯลฯ....
หากรู้ว่า "กรรม" คืออะไร ก็จะรู้และเข้าใจเองหล่ะครับ...
...ที่เหลือก็แล้วแต่ท่านนะครับ...คุยกันสนธนาธรรมกันเพื่อให้ได้ความรู้ที่ถูกต้องจริง ๆ ทุกอย่างอยู่ที่ท่าน...เพราะท่านคือผู้ศึกษา ผู้ปฏิบัติ เพื่อ ความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน.ฯ..ซึ่ง รู้ได้เฉพาะตน ฯ ครับ...ตนเองเป็นผู้รู้และเข้าใจตนเองครับ...มีกิเลสอะไรบ้างที่ยังเอาไม่ออก...ขัดมันออกได้หรือยังครับ
ขอให้เป็น ความเห็นที่ถูกต้องนะครับ..
หากจะรู้อะไรก็ขอให้รู้จริงเถอะครับ....
.อะไรก็ตาม..ธรรมใดก็ตาม...ความรู้ใดก็ตาม...การปฏิบัติใดก็ตาม...หากเป็นไปเพื่อการปล่อยปะละวาง ถ่ายถอนกิเลส...เ็ป้นไปเพื่อความดับทุกข์..เป็นไปเพื่อความหมดภพหมดชาติ ...เป็นเพื่อการถ่ายถอน ตัณหา กิเลส อวิชชา แล้ว ผมขออนุโมทนา ธรรมอันนั้นครับ
<!-- / message --><!-- sig -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>
....................................................................................

อะไรก็ตาม..ธรรมใดก็ตาม...ความรู้ใดก็ตาม...การปฏิบัติใดก็ตาม...หากเป็นไปเพื่อการปล่อยปะละวาง ถ่ายถอนกิเลส...เ็ป้นไปเพื่อความดับทุกข์..เป็นไปเพื่อความหมดภพหมดชาติ ...เป็นเพื่อการถ่ายถอน ตัณหา กิเลส อวิชชา แล้ว ผมขออนุโมทนา ธรรมอันนั้นครับ

ใน เวบบอร์ด นี้ ก็คงจะไม่มีบุญใด ๆ
ที่จะเปี่ยมคุณค่า เพียงพอให้ ท่าน 00000 เกิดมุทิตา เลื่อมใส ได้บ้างเลย

ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 219 ครั้ง ใน 34 โพส

เพราะว่า.. 0 (ศูนย์) ไปเสียทั้งหมด

อิ.. อิ.. ล้อกันเล่น บ้างน่ะ....
จิตจะได้คลาย ๆ ไม่หน่วง ไม่หนัก จนเกินไป.. ใช่ไหม ครับ.

...................................................................................

 

แสดงความคิดเห้ฯ

(b-deejai) (b-flower) (b-flower) (b-flower)

 

แสดงความคิดเห็น

 

(b-flower) (b-flower) (b-flower) (b-flower) (b-flower) (b-flower) (b-flower) (b-flower) อนุโมทนา นี้ หมายความว่า รู้สึก ยินดี ในธรรมอันนั้น แล้วส่งกระแสจิตว่า ธรรมนั้นดี ตรง แล้วทำด้วยกายกรรมคือ กดปุ่มอนุโมทนา
ทีนี้ บางคน ไม่รู้จริงว่าถูก ก็ไม่เป็นไร เราอ่านแล้วเรารู้สึกว่าดี ธรรมอันนี้ดี เรามี กุศลจิต กับ ผู้ให้ธรรม เราก็อนุโมทนาไป ก็เป็น กุศลจิต

ทีนี้ที่จะไม่ดีคือ ไม่ได้อ่าน สักแต่กดปุ่ม จะเอาบุญ ไม่ได้ตั้งจิตว่า ธรรมอันนี้ดี เห็นชื่อคนโพสดูดีก็ กดปุ่ม
เรียกว่า ไม่ได้อะไรเลย เพราะไม่ได้ตั้งจิต ระลึก แต่คิดจะมาโกยบุญ แบบนี้ไม่ถูก

และต้องระวัง กับ การที่ อนุโมทนาเพราะว่า เขาเป็นพวกเรา
ดีที่สุด คือ อย่าไปอนุโมทนากับคนเถียงกัน เพราะเท่ากับ เราไปส่งเสริมให้คนทะเลาะกัน
แต่ให้อนุโมทนากับ คนที่ให้ธรรม อย่างเดียว

แต่ถ้าจะไปเถียงกับเขาก็ได้ ไม่มีใครว่า ไม่ผิด แต่อย่าไปอนุโมทนา
ผมเห็นด้วยกับพี่ขันธ์อย่างยิ่งแต่สิ่งสำคัญนั้นขึ้นกับเหตุและผลว่เป็นไปเพื่อประโยชน์หรือเป็นไปเพื่อความไม่เป็นประโยชน์หรือเปล่า
พระตถาคตตรัสไว้กับพระเทวทัตตอนหนึ่งตอนที่พระเทวทัตขอวัตรปฏิบัติต่างๆที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงยินยอมอนุญาตแล้วขอตัวออกไปจากพระพุทธเจ้า ทรงตรัสว่าดังนี้ถ้าการกระทำนั้นมีเจตนามีใจบริสุจน์เป็นที่ตั้งผลออกมาย่อมงาม แต่ถ้าผลการกระทำนั้นมีเจตนาด้วยใจไม่บริสุจน์เป็นที่ตั้งผลออกมาก็ย่อมเลว
ตระกูลศักดิ์ ฯ /quote]
[/quote]

 

สำคัญทุกท่านอย่าลืมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์นะครับผม

 

ขอบคุณอย่างยิ่งครับ

 

คิดเหมือนอ่อนเลยล่ะ นี่ได้มาหลายเลย อิอิ
ขอบคุณนะค้าในความปรารถนาดี

 

ตะก่อนก็ไม่กล้ากด
จนเห็นผู้มีธรรมสูงกว่าท่านหนึ่งกดเยอะมั่กๆ
เก็บมาคิดอยู่หลายวัน
แล้วก็เข้าใจเอาเองว่า
พิจารณาให้เห็นกุศลแล้วก็กดไปเหอะ
กดได้เกือบหมดแหละ
อิอิ

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฎฺฐา มโนมยา
มนสา เจ ปทุฏฺเฐน ภาสติ วา กโรติ วา
ตโตนํ ทุกฺขมเนฺวติ จกฺกํว วหโต ปทํ

 

ชะอุ๊ย... งั้นกระผมก็เข้าข่ายต้องเพลาการกดเหมียลกัน

 

เย้ๆๆๆ ในที่สุดก็มีคน ดี - ดี แว๊บ... มาเตือนแล้ว ดีใจจัง โชคดีของเราที่มีคนคอยห่วงใย สาธุ..................

 

ผมว่า ทุกอย่างสามารถเป็นธรรมทานให้เราได้นะครับ การที่ผมกดอนุโมทนาเพราะอ่านดูแล้ว เห็นว่ามีข้อธรรมบางอย่างในกระทู้นั้น ที่สามารถเตือนใจผมได้ เช่น ถ้าในกระทู้แสดงถึงมิจฉาทิฏฐิมากๆ อ่านแล้วผมก็จะได้ข้อธรรมว่า ถ้าเรายังประมาทเวียนว่ายตายเกิดต่อไป เราอาจจะต้องมีมิจฉาทิฏฐิแบบนี้บ้างก็ได้

การกดอนุโมทนาของผมจึงไม่ได้แปลว่าผมเห็นด้วยกับความเห็นทุกอย่างที่กระทู้นั้น พยายามสื่อออกมา แต่โมทนาที่ท่านเจ้าของกระทู้ ท่านได้ให้ธรรมะบางอย่างกับผม

 

1. คน ที่ไม่รู้คุณ บิดา มารดา ไม่เลี้ยงดูตอบ
2. คน ที่ไม่รำลึกถึงบุญของคนอื่น ที่มีต่อตนเอง
3. คน ที่อกตัญญู ไม่รู้คุณของครูบา อาจารย์
ทำตัวตีเสมอ บุคคล ที่ตนเองกล่าวอ้าง ว่าเป็น ครู อาจารย์
สร้างพลังความศรัทธา ด้วยการล่วงเกินครู อาจารย์ ผู้ที่มีคุณของตน

อนุโมทนาครับ...

 

ผมคิดว่าพวกเราน่าจะมาอธิษฐาน เพื่อถอนการอนุโมทนาที่ในสิ่งที่ไม่ควรกันดีกว่าครับ เพราะตั้งแต่อดีตชาตินั้น เราอาจจะเคยอนุโมทนาในสิ่งที่ไม่ควรมาก่อน หากทำมากๆมันก็เป็นเครื่องขวางกั้นความดีได้ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าพวกเราน่าจะอธิษฐานกันว่า "หากการกระทำอันใดที่ข้าพระพุทธเจ้าได้เคยอนุโมทนามาตั้งแต่อดีตชาติ แล้วไม่สมควร เป็นการขวางกั้นความเจริญในธรรม ข้าพระพุทธเจ้าขอถอนคำอนุโมทนาอันไม่สมควรเหล่านั้น ทั้งมวลทั้งหมดด้วยเทอญ" หากสิ่งที่ผมโพสไปไม่มีประโยชน์ก็ขอให้ทุกๆท่าน สักแต่ว่าอ่านแล้วก็ผ่านไปครับ อย่าได้สนใจเลย

 

...ชอบจังเลย ประโยคนี้...
เราก้อคงต้องเพลาๆ การกดเหมียนกัลลลลล์..

 

ครับผม