โดนขังวิญญาณ

ยอดที่ร่วมสร้างห้องน้ำโอนมาแล้วตอนนี้มีดังนี้ครับ
1 คุณประยูร อุทุมพร 400 บาท
2 คุณวานิช กิตติวังโส 400 บาท
3 คุณเดือน ทิพทรอฟ 200 บาท
4 คุณ เตชัส ศิริพุทธปรมัตถ์ 2000 บาท
5 คุณครุทา (ปู) 1000 บาท
6 คุณเสือดาว 1000 บาท
7 คุณเตโชอัครคีนาคราชนาคาธิบดีวิสุทธิเทวา 250 บาท
8 ณัฐภัสสร โชคชัยเจริญพร 200 บาท
9 คุณขจรลาภ ชิราพฤก 3000 บาท
10 คุณบุญชัย คุณสินสมบัติ 300 บาท
11 คุณฉุยฉาย จงสำราญ(ร้านอุทัยเจริญรุ่งเรืองกิจ) 100 บาท
12 คุณมณีรัตน์ จงสำราญ 98 บาท
13 คุณละอองดาว พิศเจริญ 98 บาท
14 คุณเสาวณีย์ เยาวชัย 98 บาท
15 คุณพัชรี จงเรียน 98 บาท
16 คุณจันทิมา อรัญสาร 98 บาท
17 คุณเอ็มอร อรัญเสน 100 บาท
18 คุณเอ็ม+คุณนงลักษณ์ พันทิทักษ์ 100 บาท
19 คุณเพ็ญพร แซ่ตั้ง 500 บาท
20 คุณ อรอนงค์ วงษ์อนุ 200 บาท
21 พระอธิการหนูคล้าย ธมฺสโร 250 บาท
22 ผู้ใหญ่อุทัย+แม่ภาวิณี บุญวิเศษ 100 บาท
23 พ่อปานศักดิ์+แม่เครือวัลย์ 100 บาท
24 พ่อสมบัติ สุวรรณศีร 100 บาท
25.คุณพิเชษ วงศ์ไพศาลลักษณ์ 10000 บาท
26 พ่ออ่อน+แม่มี บุญวิเศษ 100 บาท
27 พ่อสุชาติ+แม่คำเพียร วัยสูงเนิน 50 บาท
28 พ่อจันทร์+แม่ใส อ้มจันทร์หอม 100 บาท
29 พ่อมอญ+แม่มะลิ มุสิกา 100 บาท
30 แม่ทุมมา สาระครศีร 40 บาท
31 พ่อมอญ+แม่ละอองเพชร 100 บาท
32 พ่อทองอินทร์+แม่ลำใย 100 บาท
33 แม่หนูทิพย์ ละมุดดา 100 บาท
34 เด็กหญิงณัชนิชา สะหุนิล 50 บาท
35 แม่ดวงจันทร์ ศีรสุลัย 100 บาท
36 น.ส.รัตนี วงศ์ศีรเทพ 100 บาท
37 พ่อสมบัติ สุวรรณศีร 100 บาท
38 คุณเพ็ชรรัตน์ แซ่อึ้ง พร้อมครอบครัว 300 บาท
39 หลวงปู่สำ 100 บาท
40 นาคิณี นาคราช 500 บาท
41 คุณวิยะดา พินิจศักดิ์กุลและครอบครัว 5000 บาท
42 คุณทีฆายุ สุวรรณจันทร์ 1000 บาท
43 คุณมะลิวัลย์ บุญสนอง 200 บาท
44 คุณภัทร เพ็ญเนตร 100 บาท
45 คุณมัลลิกา ชนกเศรณี 100 บาท
46 ครอบครัวชายสี่หมี่เกี้ยว 40 บาท
47 ครอบครัวสีอาจ 50 บาท
48 ครอบครัวหยี่หวา 20 บาท
49 ครอบครัวศีรอินทร์ 20 บาท
50 ครอบครัวมะยุรา 20 บาท
51 ครอบครัวภู่สระ 100 บาท
52 ครอบครัวจันทร์วงษ์ 250 บาท
53 คุณศานิต 180 บาท
54 คุณพิพัฒน์ ไพศาลเมธานนท์ 500 บาท
55 คุณ ประดับ เอกวงษ์ 100 บาท
56 น.ส.จารุจุณ พัชรพุฒิธาดาและ
ส.น.เมตตา แก้วก่า 300 บาท
57 คุณสิวะจักขณ์ เทศยงค์และคณะ 3200 บาท
58 คุณประภาพร ขันธนัส 1000 บาท
59 tumdidiและครอบครัว 555 บาท
60 คุณวรรณทนา เข็มทอง 300 บาท

 

ร่วมอนุโทนาบุญในการสร้างห้องน้ำด้วยกันครับตอนนี้ได้เสร็จสมบุญแล้วครับ

 

สำหรับท่านที่ได้ร่วมสร้างห้องน้ำถ้าต้องตะกรุดนะครับก็แจ้งชื่อที่อยู่มาครับจะจัดส่งให้
จะเป็นหน้าหรือหลังไมคก็ได้ครับ โดยยันต์เต็มแผ่นจะแบ่งเป็น4ส่วนแล้วม้วนลง
ตะกรุด1ดอกครับ

 

เพิ่งจะเข้ามาเจอค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ.............

 

เช่นเดียวกับคุณดอกข้าวค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุค่ะ

 

สวัสดีค่ะ แอบอ่านมานาน ขอรู้จักกันบ้าง

 

ยินดีต้อนรับนะครับ

 

เงียบจังเลย แอบเข้ามาดูบ่อยฯ

 

สวัสดีครับทุกคน ผมเพิ่งมาเจอกระทู้นี้เลยมาตามอ่าน สนุกดีมากเหมือนฟังนิทาน รู้สึกตื่นเต้นมาก ผมขอถามคุณ จิ-โป หน่อยได้ไหมครับ มีอยู่คืนหนึ่งผม นอนอยู่ในห้อง ครึ่งหลับครึ่งตื่น อยู่ดีๆเห็นในห้องมีแสงสว่างเข้ามาในห้องสว่างจ้าไปหมดแต่ไม่แสบตา ละก็มีเสียงผู้ชายมาชวนเหมือนว่าจะให้ไปไหนสักแห่ง ตอนนั้นเหมือนเค้าบอกว่าเค้าเป็น
ยมบาล ผมก็เลยนึกว่าอยู่ดีเรานอนอยู่นี่เราตายละหรา ผมก็เลยทำใจนิ่งๆละกำหนดจิตสวดมนต์ ละทุกอย่างก็หายไปละก็ตื่น ช่วยบอก ผมหน่อยได้ไหมครับ ว่ามันคืออะไรครับ

 

สงสัยงานนี้จะโดนหลอกครับ
คือที่ว่าเค้าบอกว่าเป็นยมบาลนั้น สงสัยว่าจะมีความหมายอื่นคือมาเอาชีวิต
โดยทำตัวเป็นยมบาลซะเอง

เพราะที่เห็นตัวเค้ามาในรูปยืนร่างกายสีขาวแต่แตกๆ ไม่ได้ขาวด้วยแบบเรืองแสง
ท่ายืนในมือถือตั้งฉากกับลำตัวเหมือนสองมือเค้าประคองถาดอะไรมาซักอย่าง
ในถาดวงกลมนั้นเหมือนมีของกินแต่ไม่รู้ว่าอะไร

สรุปว่ากรรมตามมาทันถึงขั้นเอาชีวิต ควรระมัดระวังเรื่องของกิน อย่ากินของ
แปลกๆที่ไม่เคยกิน

อ้อ ชายคนนี้แต่งตัวเหมือนตำรวจนะ ชุดขาวเต็มยศนะไม่ใช่ชุดตำรวจปกติ
ก็เห็นแค่นี้ล่ะครับ ยินดีที่เข้ามาอ่าน+แชร์ประสบการณ์ครับ

 

เงียบจังเลย รวมถึงผมด้วย 55555

 

สวัสดีครับ ผมมีเรื่องจะมาถามคุณ จิโป ในเรื่องการทำสมาธิด้วยครับ เมื่อก่อนผมเคยบวชเณรฤดูร้อนตอนเด็ก ตอนนั่งสมาธิมันสงบมาก เลยทำให้เห็นวงกลมๆสีม่วง ท่ามกลางพื้นสีดำ จิตก็นั่งมองอยู่เเต่ไม่รู้คืออะไรครับ ผลสุดท้ายพระอาจารย์น่าจะบอกให้ออกจากสมาธิผ่านไมค์เเต่หูไม่ได้ยิน ผลสุดท้ายเพื่อนเณรด้วยกันมาเเตะตัวเพื่อเรียก ทำให้ตกใจเเล้ววงกลมสีม่วงนั้นก็เเตกกระจายหายไป จนทุกวันนี้ก็นั่งบ้างตามโอกาส เเต่น่าจะโตขึ้นเเล้วกิเลสเยอะเปล่าครับ นั่งทีไรประมาณครึ่งชั่งโมงก็ปวดขาทุกที เเละก็ไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ครับ ขอคำเเนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ

 

มาถามผมเรื่องการปฏิบัติเนี่ยต้องทำใจนะครับ ผมไม่ตอบอิงตำราเป็นบาลี
แต่ผมตอบตามที่เคยทำๆมา ต้องทำใจครับ

ในตอนนั้นการที่เห็นแบบนั้นได้ ไม่ใช่เพราะใจสงบอย่างเดียว แต่เพราะศิล
ของเณรเพราะสีของผ้าเหลือง ตลอดจนเหตุการณ์มันบีบคั้นให้ทำตามนั้น
เพราะไม่มีทางไปเลยไม่คิดอะไรอยู่ไปวันๆรอวันได้ลาสึก
จิตมันเลยไม่ฟุ้ง เลยเห็นได้นานเพราะจิตสงบได้นาน

มาตานี้ปัจจุบันนี้ แค่เริ่มเข้าสมาธิก็ผิดแล้ว เพราะกิเลสมันเกิด ถามว่าเกิดจาก
เพราะแก่แล้วรึ ก็ตอบว่าไม่ใช่ แต่เพราะว่ากิเลสที่ผมพูดถึงคือเจ้ากลมๆสีม่วงนี้
เองที่เป็นตัวกิเลส กล่าวคือนั่งปุ๊ป จิตประหวัดไปนึกถึงภาพนั้นปั๊ป นี่ตัวกิเลส

พอมีจุดหมายนี้เกิดในใจ สมาธิมันก็ถูกบังคับใว้ที่อารมณ์ที่ทำให้"เห็น"ภาพนี้
ซึ่งต้องเข้าใจว่าในตอนเป็นเณร จิตใจตอนนั้นแค่เห็นกลมๆสีม่วง จิตใจมันสว่าง
มันสงบแล้ว มันเป็นกลางอัพยากฤตแล้ว แต่ว่าเมื่อตอนนี้โตแล้ว เราเห็นเจ้า
กลมๆสีม่วง จิตมันไม่สว่างไม่สงบเพราะเราดันไปคิดว่า ทำไมมันไม่เป็นสีขาวว๊า
หรือ ทำไมมันไม่สว่างสไวเหมือนในตำราเค้าว่าละว๊า ทำนองนี้

นี่เองคืออัพยากฤต กลางๆของจิตเราในตอนโตนี้ผ่านอะไรมาเยอะ รู้เห็นมามาก
ตรงกลางมันเลยกลมๆสีม่วงนี้ไปแล้ว เพราะฉะนั้นจะมาวางจิตใว้ตอนนั่งว่าทำไง
จะเห็นสีม่วงนั้นเหมือนตอนเป็นเณรได้จิตจึงสงบ มีจิตจรดจ่ออยู่เฉพาะหน้าตรง
นิมิตได้ดังนี้ก็ไม่ได้แล้ว

ฉะนั้นวิธีแก้คือ เพิกถอนนิมิตสีม่วงอันนั้นทิ้ง เพื่อให้จิตใต้สำนึกไม่ประหวัดนึก
ถึงอารมณ์แบบนั้นอีกโดยการกำหนดสีม่วงกลมๆใว้ เสร็จแล้วจงทำใจคิดในขณะ
ที่เห็นลางๆก็ดี เห็นชัดก็ดีว่า ของนี้เป็นเพียงนิมิต เกิดแล้วสลายไป เป็นเพียง
สภาวะธรรมเท่านั้นเอง จนใจสลด ปลงปล่อยได้ ท่ามกลางความมืดสีดำนั้น
พอภาพสีม่วงหายไป จะเป็นสีขาวมาแทนสีม่วง มันจะค่อยๆขาวขึ้นทีละหน่อย
ให้เราประคองใจเรา อย่าตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลง ประคองใจให้ปกติใว้ก่อน
พอจิตจรดจ่อกับนิมิตใหม่นี้ อารมณ์ใหม่อันคืออารมณ์กลางๆอันใหม่ในปัจจุบัน
ก็จะเกิดขึ้น ให้รักษาอารมณ์นี้เอาใว้ ส่วนนิมิต อย่ายึดติดครับ

อ่านยาวเลย แต่ค่อยๆอ่าน ทำความเข้าใจนึกภาพที่เคยปฏิบัติเปรียบเทียบ จะ
ได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ

 

ขอบคุณมากครับ คุณจิโป ผมจะลองไปใช้ดูครับ
พร้อมกับมีคำถามเพิ่มครับ ในเรื่องของพระเครื่อง คือเท่าที่ได้ยินมานะครับ
เกจิอาจารย์คนๆเดียวกันเป็นคนปลุกเสก เเต่ของเเต่ละรุ่นขลังไม่เหมือนกัน เป็นเพราะสมาธิขณะนั้นหรือเพราะอะไรครับ
ขอบคุณครับ

 

ปัจจัยของความขลังอันดับแรกขึ้นอยู่กับมวลสารที่เอามาสร้างพระว่าบริสุทธิ์
ขนาดไหน และมวลสารแบบต่างๆก็อัดพลัง หรืออัญเชิญบารมีเข้าเก็บไว้ได้
ไม่เท่ากัน เช่นเราเอามวลสารแบบคงกระพันแคล้วคลาดมาแล้วมาทำให้เป็น
เมตตามหานิยม มันก็อัดไม่เข้า หรืออัดเข้าพลังบารมีก็อยู่ไม่ได้นานก็เสื่อมไป

และบางครั้งมวลสารตัวเดียวกับแต่คนละบล๊อค พุทธคุณก็แตกต่างทั้งๆที่คน
เสกเป็นคนเดียวกัน นั่นเพราะว่าการทำวัตถุมงคลแต่ละครั้ง จุดประสงค์ของ
เทวดาที่หนุนหลังต่างกัน อิทธิฤทธิ์อันเกิดจากการอธิฐานของเทวดาต่างกัน

นอกจากว่าคนทำเป็นคนลงเอง เสกด้วยบารมีตัวเองและเป็นพระอริยะ อันนี้
ท่านแน่ ท่านสามารถจะสั่งห้ามอัดเข้าไปในพระได้ เช่นพระหลวงพ่อผาง
อันนี้ท่านลงเองแบบกำกับว่าใส่ไปกินเหล้าต้องมีเรื่องแน่นอน ท่านห้ามกินเหล้า
เวลากินต้องถอด เผลอๆถอดแล้วพระหายอีกต่างหาก อันนี้บารมีท่านจริงๆ
ไม่มีหมดพลัง ถ้าหาของแท้มาใส่ได้ก็นิมนต์มาใส่ได้เลยครับ คงคา คงเค
อะไรก็ดีทั้งนั้น

ส่วนพระรุ่นที่มีหมดพลังก็เช่น พระจตุคาม อันนี้ท่านทำตามกาล ตอนที่ท่าน
ลงท่านทำตามบารมีสูงสุด พอบรรลุจุดประสงค์ท่าน พลังองค์พระก็เสื่อมลง
แต่ว่าไม่ใช่เอาไปทิ้งนะครับ เพราะว่าเมื่อถึงเวลาที่ท่านจะมาใหม่พระพวกนี้
ก็จะกลับมามีพลังใหม่อีกตามเดิม (แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แล้วแต่จุดประสงค์ท่าน)

(ส่วนที่เค้าว่ากันว่า พระที่ใส่ขึ้นอยู่กับศิลของผู้ห้อย อันนี้ผมเถียงครับ เพราะ
เอาพระไปห้อยหมาห้อยไก่แล้วยิง ก็ยังยิงไม่ออก ทั้งๆที่หมาก็ไม่มีศิลอะไรเลย
ถ้าพระนั้นแท้และดีจริงๆนะครับ ผมว่าศิลของคนห้อยเหมาะสำหรับเอาไว้เตือน
พวกที่ห้อยพระแบบเทวดาสร้าง แบบว่าศิลไม่ดีเทวดาไม่ช่วย ทำนองนั้น
เพราะพระแท้ท่านไม่ถือครับ บางทีท่านมองว่าชาตินี้มันเลวแต่ชาติหน้ามันจะดี
มากๆก็เป็นได้ หรือมันเลวชาตินี้เพราะมาตามทวงหนี้กรรมก็ได้ เลยช่วยทุกๆคน
ที่ห้อยของท่าน อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

 

ขอบคุณคร้าบ คุณ จิโป ว่าเเต่สมาชิกท่านอื่นไปไหนหมดเเล้ว หรือว่าไม่มีคำถามถามคุณจิโป เเล้วมั้งครับ เฮอๆๆ ผมยังอ่านมาไม่ทันถึงหน้านี้เลยครับ

 

ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะ ยังอยู่ ถ้าไม่มีอะไรตื่นเต้น ก็ผ่านมาและผ่านไปค่ะ

 

แอบอย่างเดียว อิอิ

 

แวะมากราบสวัสดีทุกคนค่า หายทั้งหัว และตัวไปนาน แต่พัฒนาการไม่ก้าวหน้า มีแต่ถอยลงคลอง จึงต้องกลับมาหาวิชาความรู้เพิ่ม (ชื่อเปลี่ยนเพราะจำพาสเดิมมิได้คงไม่ว่ากันนะค่ะ )(kiss)(kiss)