ถูกด่าดูถุกต่างๆทำอย่างไรครับ

ผมเพิ่งโดนว่าเมื่อกี้นี้เลยครับ ถามว่าเป็นยังไงครับ โมโหครับ! ต้องไปแผ่เมตตาเสียแล้ว...

 

สาธุ ทุกท่าน

 

สุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า ลูกผู้ชายสิบปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Tn9XY3ZX_Ho"]http://www.youtube.com/watch?v=Tn9XY3ZX_Ho[/ame]

 

ถูกว่าอะไรก็ตาม มีสติ ต้องควบคุมอารมณ์
อดทน และ ปล่อยวาง หรือ ถ้าอยากตอบกลับ
ก็คุยด้วยเหตุผลครับ

 

ต้องมีสติ นะครับ ตั้งสติให้ได้ก่อน แล้ว
1ให้พิจารณาว่าหากเราเป็นอย่างนั้นจริง ต้องขอบคุณเขาที่เตือนสติเรา รู้จักยอมรับและขอบคุณเขาและแก้ไขตนเองใหม่ให้ดีครับ
2ให้พิจารณาว่าไม่เป็นจริงอย่างนั้น ให้สงสารคนเหล่านั้นที่เขากำลังกล่าวมุสาอันเป็นบาปครับ และต้องมีสติไม่เอาจิตไปเกาะอยู่กับคำพูดที่หยาบคายหรือไม่ดี ให้ฝึกสติโดยฟังแล้วให้วางลงตรงนั้นอย่าเอาจิตเข้าไปรับมาเป็นอารมณ์ ปล่อยวางลงเป็นเรื่องของเขาครับไม่เกี่ยวกับเรา ให้อโหสิกรรมให้เขาทันที เพราะเขาต้องได้รับผลกรรมที่เขากระทำครับ
ให้พิจารณาว่า หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยก็ไม่ควรกล่าวอะไรออกไปเพราะไม่มีประโยชน์ หากเลี่ยงได้ก็ควรหลบหลีกไปเพื่อจะได้ไม่เกิดการสร้างกรรมที่ต่อเนื่อง

หรือหากบางสถานการณ์เราดูแล้วสามารถอธิบายเหตุผลประกอบแล้วเขารับฟังก็ควรกระทำเพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่เขาครับ

ดังนั้นเรื่องแบบนี้ควรดูสถานการณ์และบุคคลประกอบครับ ไม่ควรประมาท สิ่งสำคัญคือต้องมีสติ หากขาดสติเมื่อไหร่ก็อันตรายมากๆครับเสี่ยงต่อการกระทำที่เป็นบาปอีกหลาย อย่างครับ

หรือผมขอแนะนำอีกแบบวิธีคิดคือว่า เวลาจะทำอะไรให้นึกก่อนว่า เป็นบุญหรือเป็นบาป ให้นึกก่อนทุกลมหายใจเข้าออก ถ้าเป็นบุญเราก็สามารถทำได้ถ้าเป็นบาปก็ให้หยุดและเลิกทำเลิกคิดทันที ครับก็ลองฝึกฝนแบบนี้ดูก็ได้ครับ สาธุ

 

เราโดนมานานแล้ว... โดนแบบนี้มา 20 กว่าปี แล้ววว

เหตุเพราะญาติ เป็นคนมีองค์ความรู้ บางคนปริญาหลาย ๆ ใบ

เค้าจะมาในรูป หวังดี ต้องสั่งสอน

วิธีคือ เที่ยวเดินเร่ แบก ปริญา บาง ดาวบนบ่าบาง ไปสนตะพาย คนทั่วไป

ว่า เราแบบนั้น แบบนี้ ต้องสั่งสอน

* พวกเค้าชอบสั่งสอน ทำแล้วได้ดูเป็นชนชั้นปกครอง นี้คือวิชาการปกครอง *

* คนพวกนี้ มีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม แ้ล้วแต่ว่า กลุ่มไหนมีความอยาก แบบไหน *

บางกลุ่มต้องการเหยีบหยาม เพื่อเหยาะเย้ย สนุกสนาน
บางกลุ่มต้องการชิงรักหักสวาท
บางกลุ่มต้องเป็นชนชั้นปกครอง ต้องทำแบบนั้น ๆ ได้
บางกลุ่มต้องการแค่เงิน ๆ ๆ ๆ

เยอะขนาดนี้ กับคนที่มีต้นทุนทางสังคมน้อยนิดอย่างเรา
แล้วเราจะเอาอะไรไปสู้เค้าได้

วีธี..
* อะไรที่เป็นความสุข อะไรที่เป็นที่ภาคภูมิใจ มันจะตามทำลาย

เช่น ..

- รักชอบกับใครไม่ได้ เค้าจะต้องตามทำลาย เช่น สนตะพายคนมาชอบซ้อน
สร้างปัญาไม่จบ สุดท้ายก็เลิก
- บีบให้เป็นแฟนกับคนของพวกมัน.. อันนี้พวกเค้าจะได้ รีโมต ได้สั่งการได้
- ชอบอะไรต้องพูดให้เสียความรู้สึก ต้องบ่อนทำลาย
- ตาม วีน แตก ถ้าเราบอก ขาว เค้าจะต้องคอยแย้งว่า ดำ
- ห้ามคุยกับใคร เราเห็นน้อง ๆ เข้าไปทักไปพูดนี้ มันจะส่งคนปรี่มา
พูดตัดตอนในทันที ก็แบบเดียวกับพวกดีแต่พูดนะละ
- พูดคุยอะไร จะต้องคอยจับผิด คอยเบรค (ก็อำมาตทั่วไปที่เราก็ผมเห็นกันจนชิน)
- ใช้เด็ก ๆ ตามล้อ โดยให้ท้ายเด็กแล้วก็ยืนเป็นแบ๊คให้ หลาย ๆ คน
- กลั่นแกล้ง ปล่อยลมยาง เจาะยาง เจาะหม้อน้ำรถ ฯลฯ
- กลั่นแกล้ง ตามร้านค้า ร้านอาหาร เช่นแกล้งให้สินค้าผิดสเปค
ทำหยาบ ๆ คาย ๆ ใส่บาง คิดเงินเกินบาง ฯลฯ โดยไปสนตะพาย ร้านค้าไว้ก่อน
- ทำแหกปากด่า ข้ามหัวไปมา ต้องตอนนั่งกินข้าวแล้วด้วยนะ
( อันนี้ เป็นวิธีสุดคลาสิค นิยมกันมานมนานกาเลเลยทีเดียว)
* เที่ยวเอาเรา ไปเร่ประจาน ด้วยวิธี ช่วยจับตาดูมันหน่อย
ไอ้นี้ มันโจร
มันยัดข้อหาโจรอะไรบาง เยอะครับ
* จิ๊กตังส์เพื่อนพนักงาน เวลาพวกมันเงินขาด ก็ลงที่ผมทุกที
* ปลอมแปลธนบัตรต่างประเทศ คือผมก็อยากช่วยเหลือเพื่อน ๆ พนักงาน
ทั่ว ๆ ไป คือภาพตัวอย่างธนบัตร มันไม่ชัดดูไม่รู้เรื่องเลยประมาณซีร๊อก
สมัย 20 ปี ก่อน ผมก็ไปหาภาพมาจาก เน็ต เอามาโพสต์ ให้ดูกัน
เท่านั้นละ ไอ้นี้มีแรงจูงใจ (อะไรที่ผมทำดี.. มันจะทำให้ดูเลว วิธีของอำมาต์ วิชาการปกครอง)
* ยัดข้อหาไม่ ยังรายงานไปที่ อินเตอร์โปฯ ไอ้นี้ปลอมแปลงธนบัตร ฝรั่งตามถึงบ้านไปนอน รพ. นั่งวิวแชร์ มากินอาหารที่เปิดขายใน รพ. ยังเจอมันอีก ไอ้ฝรั่งนี้อีกแล้ว เหอ ๆ ไปกินซีฟูด ที่เยาวราช ไอ้ฝรั่งนี้อีกแล้ว.. เป็นประจำ
* อันนี้ก็ คลาสิค.. ขโมยของ แล้วเอาหลักฐานการขโมย มาวางทิ้งข้างบ้าน
เช่น
- ขโมยกระเป๋า แล้วเอาบัตรไปกดตังค์ แล้วเอากระเป๋านั้นมาทิ้งขางบ้าน
แล้วก็เรียกเจ้าทุกข์ มาเก็บ แล้วก็ยัดข้อหาผมลับหลังโดน มันยำ เกือบ 2 ปี ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยมามันเรื่องอะไร มารู้ก็ตอนพวกมันมาร้องแหกปาก ข้ามหัวไปมาอธิบายเรื่องราว ตอนกินข้าว (อีกแล้ว)
แบบนี้ก็ทำ
- ขโมยพระที่เค้าให้ประชาชนมาบูชาในเซฟ ก็ทำ แ้ล้วก็ทำซุบซิบกัน ชี้ ๆ ว่าผมอีกแล้ว ซาด์วประกอบเล็กน้อย (คืน ๆ มาเถอะไม่ได้ว่าอะไรหรอก)
ไม่มีคืินให้อะน่ะ.. เพราะไม่ได้เอาไป.. แบบนี้ก็ทำ คือจะได้ว่าคนในสาขาชัด ๆ
ไม่มีคนนอกละทีนี้ ต้องเป็นไอ้นี้แน่ ๆ เลย... ประมาณนั้น
- พูดยัดข้อหา เพื่อเรียกค่าไถ่ ค่าคุ้มครอง คือ งานเคาร์เตอร์ ธ. มันมี
การทำเงินขาด บ/ช ก็เลยตั้งระบบหาร เราไม่หาร ก็เลยต้องเป็นแพะ
(คือ.. เรามาจาก สนญ. ตอนแรกเลยเค้าก็ไม่บอกหรอกว่ามีระบบการหารแบบนี้ถ้าบอกเรา เราจะไม่มาสาขาเลย เค้าไม่บอกก็เพราะว่าจะย้ำเราให้เน่า พวก สนญ. เราก็โดนบางอะไรบางแต่เราก็พัฒนาตนเอง จนไม่ค่อยขาด
ส่วนพวกมัน ขาดอยู่อย่างไร ก็ขาดอยู่อย่างนั้น ทำไปทำมาเจอขาดหนัก
หลายแสนบาท หน.มันก็ช่วยแต่ปาก ไม่ควักตังค์ โดย..รีดไถ่เรา
เพื่อจะเอาเงินไปให้มัน (ลงทุนด้วยปาก)

เรื่อง โดน ตามด่า ตามยึดความสุข ตามบ่อนทำลาย
ตามเหยาะเย้ยถากถาง ก็ประมาณ 30 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่เรียน ปวช.เลย

เรื่อง ตามยัดข้อหา ใส่ร้าย รีดไถ่เงิน ก็ตั้งแต่มาทำสาขา
เราก็โดนมา 5 - 6 ปี แล้ว

มันไม่จบ ไม่สิ้น เพราะมันไม่ต้องออกแรงอะไรมาก
เที่ยวเดินสนตะพายไปง่าย ๆ แล้วใช้แรงคนอื่น..


และ ก็เงิน...

ไม่ให้เงิน ทำงานกับมันยากส์ งานใหม่มาถามมัน มันก็ไม่อธิบายโปรแกรมระบบงาน เราเองก็ไม่อยากร่วมงานกับมัน เราก็เลยเฉย ๆ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ

ชีวิตการงานเรา ก็คงจบลงแค่นี้...

เหล่านี้ เค้าบอกว่า เป็นความหวังดีบาง เป็นวิชาการปกครองบาง ฯลฯ
ก็อ้างกันไป....

 

สาธุครับ

 

อาจจะยากสักหน่อยนะคะ ถ้าจะมองให้เป็นศิลปะในการพลิกทุกข์ให้เป็นสุข ทุก ๆ ผัสสะที่เข้ามากระทบให้ถือเสียว่าเป็นสิ่งอันประเสริฐ ถูกชมก็เข้าท่า ถูกด่าก็ไม่เลวเพราะทำให้ชีวิตมีภูมิคุ้มกัน ทุกข์หนักหนาเข้ามาก็บอกตัวเองว่า ชีวิตก็อย่างนี้แหละ ไม่มีทุกข์ก็เหมือนไม่มีชีวิต ทุกข์มากมีอาจเปลี่ยนเป็นความสุขมากมาย เวลาำไปทำงานก็คิดว่าจะไปเที่ยว อารมณ์จะดี ถ้าผู้บริหารมอบงานหนัก ๆ ให้ก็มองว่า ถึงเวลาแสดงความสามารถแล้ว พอเจอปัญหา ก็มองว่าเป็นดอกไม้ที่่น่าชื่นชม เพียงเท่านี้เราก็จะมีความสุขทุกวัน ทำงานอย่างรื่นรมย์

ชีวิตของคนเรานั้นผันแปรไปตามฤดูกาลทั้งสี่ ไม่มีใครในโลกนี้หลีกเลี่ยงฤดูกาลแห่งชีวิตได้ นั่นคือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูฝน ฤดูแล้ง หากหลบลี้หนีฤดู ก็จะทำให้กลายเป็นคนอ่อนแอได้เหมือนกันนะคะ และเพราะชีวิตของมนุษย์ที่เกิดมาต้องประสบวิบากกรรมของตน หลายคนจึงต้องแสวงหาสัจธรรมเพื่อนำตนให้ได้บรรลุถึง "อมตธรรม" ที่จะนำให้พ้นจากสุขทุกข์นั้น ^^

 

ระวังวาจาตัวเองไม่ว่าร้ายตอบนะคะ
ห้ามจิตใจเรามันยากนะคะ แต่หากจะเก็บมาคิดเนี่ยเสียดายเวลาชีวิตแน่เลย รับรู้ค่ะ เค้าเป็นแบบนี้ แต่เมินเฉยซะ

ส่วนตัวใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้บ้าง
ได้ศึกษา ค่ะ ลองมองหาดูดีๆ และถ้าเราทำให้เขามองเราดีขึ้นได้บ้าง ถือว่าเรามีชัย ฝึกฝีมือไว้สู้กับเรื่องอื่นๆ

ดิฉันยิ้มอย่างเดียวค่ะ รู้ไหมว่า เวรกรรมเร็วมาก
ในช่วงเวลาเดียวกันของเดือนที่แล้ว ผู้ที่ว่ากล่าวดิฉัน จากต่างที่มา ต่างเวลาวาระ เจอสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่เขาทำกับดิฉันสนองกลับ แต่รุนแรงกว่า พวกเขาเจอในเวลาเดียวกันค่ะ

เชื่อเถอะค่ะ ใจเย็น ฝึกตัวเอง จะพบอะไรหลายๆอย่าง

เป็นกำลังใจให้คุณนะคะ

 

ใครทำอะไรไว้ก็รับผลเอง เรานี่ก็มีคนอิจฉามาเรื่อยๆ แต่แปลกยิ่งทนได้เรายิ่งเจริญ[/QUOTE]
จริงครับอันนี้ผมเจอกับตัวไม่เข้าใจเหมือนกัน เวลาเจอเรื่องหนักๆเครียดมากๆแล้วอดทนพยามปล่อยวาง วางได้บ้างไม่ได้บ้าง ในใจเพียงแค่พยามดูจิตที่ถูกบีบคั้น พยามไม่แค้นตอบไม่ด่าเขาลับหลัง(ผมทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์แต่น้อยกว่าแต่ก่อนมากก็ถือว่าพอใจแล้วสำหรับผม)แล้วในที่สุดเมื่อความทุกข์นั้นผ่านไปหรือเราอาจชินกับมันไม่ใส่ใจมันแล้ว เรื่องดีๆตามมายิ่งเครียดหรือทุกข์มากเท่าไร ก็ตามด้วยเรื่องดีมากเท่ากัน เจอบ่อยๆ จึงรู้สึกว่าต้องมีอะไรบางอย่างแต่ผมไม่รู้ อาจโดนลองใจหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

 

ประสบการณ์น่าเห็นใจจังเลย

 

ขอบคุณทุกท่านที่ตอบกระทู้ครับ ผมจะนำเอาไปประยุกต์ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อลดความอาฆาตแค้น ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ตั้งกระทู้ขึ้นมา ทำให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ไปด้วย

 

ถูกด่า ก็ต้องด่ากลับ ถ้าเขาพูดถูก ก็ไม่ต้องด่ากลับ เอาไปปรับปรุงตนเองครับ หรือถ้าเราเป็นผู้ใหญ่พอ เราก็ไม่ตอบโต้ อาจจะเพราะขี้เกียจ หรือเพราะเป็นเพียงเรื่องขี้ปะติ๋ว เขาด่า ไม่ได้ทำร้ายเราสักหน่อย ให้เขาระบายบ้างครับ อาจจะอึดอัดใจมานาน ประมาณนั้น

 

พระพุทธเจ้ายังบอกเลยว่า ให้ข่มควรที่ควรข่ม ให้ติคนที่ควรติ
สูตรไหนไม่รู้จำไม่ได้แล้ว

 

อันที่จริง ผมก็เคยเป็นนะครับ แต่อยู่คนละฝ่ายกับคุณ monkeyswilf, mobilelizard นี่แหละ
แล้วมันก็นำไปสู่การทะเลาะ การไม่ถูกกัน ทั้งๆ ที่เป็นพี่น้องกันนี่แหละ

ผมมานั่งนึกดู สรุปว่า เกิดจากการสร้างความคาดหวังในตัวเขา .. แต่ดันไม่มีวิธีที่ถูกต้อง
อย่างเช่น แมว ถ้าเห็นมันนั่งๆ นอนๆ เราไม่คาดหวังอะไรมัน เราก็รักมันดี
แต่ลองคาดหวังกับมันสิ เห็นนั่งๆ นอนๆ เรายังไม่พอใจมันเลย .. ดูสิ
แมวมันก็เป็นของมันแบบนั้น

อีกอย่างการไปด่าไปพูดเหน็บให้เจ็บใจ น้อยครั้งมากที่จะได้ผล .. อันนี้จริงๆ เลย
และถ้าหากหวังดีแล้วมาจบที่ทะเลาะกัน .. สู้อยู่เฉยๆ ไม่ดีกว่าเหรอ

หลังๆ ไม่พูดมาก ไม่คาดหวัง .. แถมยังจะแบ่งเงินให้ใช้ด้วย
กะว่าพอเค้าเริ่มรู้สึกว่าเราดีกับเค้า .. เราก็ค่อยพูด แต่ก็ต้องพูดทีละเรื่อง
คนเรามันจะปรับปรุงทีเดียวทุกเรื่อง มันไม่ง่าย มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นความจริง
สิ่งที่เป็นความจริงคือค่อยๆ ปรับปรุงทีละเล็กละน้อยตามจังหวะและโอกาส

 

ขอบคุณทุกท่าน อย่างสุดซึ้ง

 

จะไปฟัง ไปสนใจทำไมละครับ
ชีวิตใคร ก็ชีวิตเราครับ
เรารู้ ตัวเราเอง ดีที่สุดครับ
เราไม่ได้ดี เพราะปากชาวบ้านครับ
เราต้องดีที่ตัวเองครับ
เราจึงแน่จริงครับ
ใครจะว่ายังใง เรารู้ตัวเราเอง
แต่เราไม่สามารถ ทำให้ทุกคนพอใจได้หมดหรอกนะ
เราเสียใจ เพราะคนที่เรารัก ทำร้ายเราด้วยคำพูด ต่างๆนา
เราเสียใจ เพราะเราแคร์ใง
เราสนใจที่จะฟังใง
เราเอาความสุขของตัวไปผูกที่ปากชาวบ้านใง เขาว่าดี ฉันเลยดี อย่างงั้นเหรอเปล่านะ
อย่าไปสนใจ เรื่องที่มันไม่เจริญหู เจริญตาเลยนะ
สนใจว่า วันนี้ ฉันจะทำสิ่งที่เป็นงานของฉันให้ได้ประโยชน์ที่สุดยังใงดีกว่านะ

 

พี่คนนี้ มีความรู้สึกว่าเย็นดีจัง ชอบ (ขออนุญาติเรียกพี่น่ะค่ะ อยากแอ๊บเด็ก แฮะๆ) เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ตอนเด็กๆ โดนว่า โดนใส่ร้าย ไม่เคยแช่งใคร แต่คิดว่าทำไมๆๆๆ สุดท้ายชีวิตเขาตกต่ำลง ก็แค่คิดว่าบังเอิญจัง จนเผลอไล่ญาติห่างๆที่ยิงปืนเล่นแล้วเราตกใจ เผลอไล่ให้ไปตาย ดันตายจริงตามปาก จากนั้น แค่จะคิดลบกับใครแรงๆ ยังไม่กล้าเลย
จะบอกว่า คนที่จิตแข็ง คิดอะไรก็เป็นตามนั้น มันไม่ใช่สิ่งดีน่ะค่ะ กรรมใครก็กรรมคนนั้น เราไม่จำเป็นต้องไปเอาเศษกรรมเขามาด้วย ปัจจุบันเลิกคิด
แบบนั้นแล้วค่ะ แค่เรารู้สึกว่า ทำไมเขาต้องทำร้ายเรา ด่าเรา ทั้งๆที่เราไม่ทำอะไรให้เขา แค่นี้ เขาก็เดี้ยงไวขึ้นล่ะค่ะ เพราะงั้น เลิกคิด จิตตัวเอง ตัวเองมีวิธีจัดการได้เฉพาะเราค่ะ แต่จะเข้ามายืนยันว่ากรรมจะตามไวจริงๆ อย่าไปเผลอแช่งเขาน่ะค่ะ