ทำบุญวันปีใหม่ ปี 2557 ระหว่างวันที่ 29/12/56 - 3/01/57 ร่วมอนุโมทนาสาธุกันครับ ^^

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย 2456996542, 5 มกราคม 2014.

  1. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405
    ช่วงปีใหม่ปี 2557 ระหว่างวันที่ 29/12/56 - 3/01/57 เริ่มต้นเปิดฤดูกาลกันเลย เซเว่ณเลยจัดไปทำบุญไหว้พระเจ้าตาก และไถ่ชีวิตโคกระบือเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ดังรูป อิอิ
    :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405
    ต่อมาได้มีโอกาสไปบวชเนกขัมบารมี (ชีพราหมณ์)ที่วัดธรรมสถิต (ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก) ปัจจุบันเจ้าอาวาสคือพระอาจารย์สุชิน ซึ่งท่านสามารถรู้วาระจิตของญาติโยมได้ ลองไปกันนะครับแล้วท่านจะตกกะใจ เซเว่ณได้ร่วมกิจกรรมต่างๆของวัดเช่น ปฏิบัติธรรม กวาดลานวัด สวดมนต์ข้ามปี ทำวัตรเช้าวัดเย็น ถวายสังฆทาน (พระพุทธรูป ผ้าไตรจีวร อาหารคาวหวานครบ อิอิ) ถวายปัจจัยต่างๆ เดินขึ้นเขา เป็นต้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405
    ชีวประวัติ พระครูญาณวิสิทธิ์ (เฟื่อง โชติโก)
    หลวงพ่อเฟื่อง โชคิโก หรือ พระครูญาณวิสิทธิ์ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2458 ณ บ้านน้ำอู่ ตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี โยมบิดา-มารดาชื่อ นายเทียน และนางเหลื่อม เชื้อสาย ครอบครัวมีอาชีพทำนา ในช่วงวัยเด็ก ชีวิตท่านนั้นลำบากมาก เมื่ออายุได้ ๖ ขวบ เกิดความอดอยากขึ้นในตำบลที่ท่านอยู่ ท่านเล่าให้ฟังว่า “มีนกเป็ดน้ำนับร้อยๆ ตัว ลงมากินข้าวที่พึ่งหว่านในนาใหม่ๆ จนหมด โยมพ่อต้องไปหายอดหวายมาเลี้ยงครอบครัว เพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ส่วนตัวท่านก็ออกหากบหาเขียดมาเพื่อใช้เป็นอาหาร
    ต่อมาอีก 3 ปี โยมบิดาได้ถึงแก่กรรม ท่านจึงต้องไปช่วยน้าเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย น้าจึงให้วัวเป็นรางวัล ต่อมาก็มีคนมาซื้อ และท่านก็ได้เงินไปเก็บใช้ แต่พอได้เงินมา ท่านก็ล้มป่วยลงถ่ายท้อง เป็นไข้ และผมร่วง เงินที่ได้มาต้องใช้รักษาจนหมด จนกระทั่งพอหายป่วยได้ไม่นาน โยมมารดาก็ถึงแก่กรรมลงอีก จนกระทั่งได้มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับหลวงพ่อเจริญ ว้ดธรรมสถิต ได้อยู่ปรนนิบัติรบใช้ และศึกษาวิชามากมาย หลวงพ่อจะเป็นผู้สอนหนังสือและสอนให้ฝึกเล่นดนตรีไทยเวลาเรียนหนังสือ ถ้าอ่านตัวไหนผิดก็จะถูกตีที่ศีรษะหนึ่งที เวลาเรียนดนตรีไทย หลวงพ่อจะเคาะที่ศีรษะผู้เรียนไปตลอดจนกว่าจะเรียนจบในวันนั้น จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 20 ปี ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา ที่โบสถ์ บางกะจะ และใน 2 ปีต่อมา
    ท่านได้เจอ ท่านพ่อลี และได้เดินธุดงค์ จากป่าคลองกุ้ง ไปทางเขาวงกต ต่อเข้าปากน้ำประแสร์ระยอง หลวงพ่อเฟื่องกับหลวงปู่เจี๊ยะ ลาหลวงพ่อลี ขึ้นไปเชียงใหม่ กราบนมัสการพระอาจาย์มั่น ภูริทัตโต ที่ อ.พร้าว ๑ พรรษาแล้วออกธุดงค์ ไปนมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต และติดตามพระอาจารย์พรหม ธุดงค์ไปถ้ำเชียงดาวกับพระอาจารย์สิม อยู่กับหลวงพ่ออ่อนสา และไปองค์เดียวที่หมู่บ้านชาวเขาเผ่ามูเซอดำ จากนั้นได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระครูสัญญาบัตร (พระครูญาณวิศิษฏ์) ในฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) และจำพรรษาที่ วัดมกุฏกษัตริยาราม สอนกรรมฐานให้สมเด็จฯ และพระเณรในวัด และได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดธรรมสถิต เมื่อปี พ.ศ. 2514 ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก ที่พระครูญาณวิศิษฏ์ และได้ธุดงค์ไปยังต่างประเทศ อาทิ อินเดีย ศรีลังกา ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน และฮ่องกง จนกระทั่งในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 ได้เดินทางไปฮ่องกงครั้งที่ ๕ ตามที่ลูกศิษย์นิมนต์ไป กระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 ท่านได้มรณภาพลงด้วยโรคหัวใจวาย ณ ประเทศฮ่องกง รวมสิริอายุได้ 71 ปี

    credit wiki

    [​IMG]
     
  4. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405

    ต่อมาได้ไปไหว้พระเสริมบารมีที่วัด วังก์วิเวการาม (หลวงพ่ออุตตมะ) สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้ไปไหว้และดูวัดที่จมนํ้าที่ถือว่า เป็น Unseen Thailand Wow!!!!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405
    ชีวประวัติ พระราชอุดมมงคล (เอหม่อง อุตฺตมรมฺโภ)

    พระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) (พ.ศ. 2453 - 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพระภิกษุที่ได้ความเคารพเลื่อมใสในหมู่คนไทยเชื้อสายมอญและชาวพุทธทั่วไป เป็นพระนักเดินธุดงคกรรมฐาน ออกเดินธุดงค์ไปบำเพ็ญธรรมอยู่บนเขา หลายครั้งเป็นเวลานาน
    หลวงพ่ออุตตมะ เดิมชื่อ เอหม่อง เกิดเมื่อ พ.ศ. 2453 ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ตำบลเกลาสะ อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศพม่า เป็นบุตรคนโตในครอบครัวเชื้อสายมอญ จำนวน 12 คน ของนายโง และนางทองสุก หลังเรียนหนังสือจบจากพม่าเมื่ออายุ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเกลาสะ ได้ศึกษาภาษาบาลี และพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมโท อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกลาสะ ได้รับฉายาว่า อุตตมรัมโภ แปลว่า ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด โดยได้ตั้งเจตจำนงที่จะบวชไม่สึกจนตลอดชีวิต
    เมื่อ พ.ศ. 2475 อุตตมรัมโภภิกขุสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดปราสาททอง อำเภอเย จังหวัดมะละแหม่ง ต่อมา พ.ศ. 2484 สอบได้เปรียญธรรม 8 ประโยค ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ในประเทศพม่า ที่สำนักเรียนวัดสุขการี อำเภอสะเทิม จังหวัดสะเทิม อุตตมรัมโภภิกขุจึงได้เดินทางไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานที่วัดตองจอย และวัดป่าเลไลยก์ จนมีความรู้ความสามารถในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์และพุทธคมเป็นอย่างดี และชอบออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่างๆในประเทศพม่า
    อุตตมรัมโภภิกขุเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกทางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2486 โดยเดินธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนดอก ก่อนจะออกธุดงค์ไป แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย น่าน กาญจนบุรี
    เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองในพม่าขณะนั้น อุตตมรัมโภภิกขุจึงเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งทางหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี มีคนมาแจ้งข่าวว่าที่สังขละบุรีมีชาวมอญจากบ้านเดิมของท่าน อพยพเข้าเมืองไทย และต้องการนิมนต์ท่านไปเยี่ยม ท่านได้พบกับชาวมอญที่อพยพมาจากโมกกะเนียง เจ้าคะเล และมะละแหม่ง และพาชาวมอญเหล่านี้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านวังกะล่าง ถือเป็นจุดกำเนิดของชุมชนชาวมอญในสังขละบุรี
    ในปี พ.ศ. 2499 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้พร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ในปี พ.ศ. 2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอวังกะ ในวัดมีการก่อสร้างเจดีย์จำลองแบบจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2529
    ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำในปี พ.ศ. 2527 น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน โดยทางราชการได้ช่วยเหลือในการอพยพผู้คนซึ่งมีอยู่ราว 1,000 หลังคาเรือน บนพื้นที่ 1,000 ไร่เศษ ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี
    หลวงพ่ออุตตมะ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชอุดมมงคล เมื่อ พ.ศ. 2534
    หลวงพ่ออุตตมะ เข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ด้วยโรคไต โรคหัวใจ โรคปอด สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ท่านไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถลืมตาเองได้เป็นเวลากว่า 1 ปี จนกระทั่งเกิดอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง และมรณภาพจากการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ เมื่อเวลา 7.22 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549 อายุรวม 97 ปี
    Credit wiki
    [​IMG]
     
  6. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405
    ต่อไปได้ไปไหว้พระขอพรที่วัดท่าขนุน (พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) )
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405
    สุดท้ายได้ไปไหว้พระเสริมบารมีที่ วัดขุนไทยธาราม( พระปรัชญา ฐิตสิโล) ซึ่งที่วัดนี้พึ่งจะสร้างศาลาปฏิบัติธรรมเสร็จ แต่ยังขาดปัจจัยที่จะสร้างรูปปั้นพระอรหันต์อยู่อีกหลายองค์ ถ้าใครได้มีโอกาสไปช่วยเหลือทางวัด ก็ขออนุโมทนาสาธุล่วงหน้านะครับ เซเว่ณได้ไปไหว้พระและถวายสังฆทานซึ่งมีขนมปี๊ปและนํ้าเปล่า และสุดท้ายนี้ขอผลบุญที่ได้ทำทั้งหมดนี้ส่งผลให้ข้าพเจ้า ครอบครัว และ ทุกๆท่านจงมีความสุขรับปีใหม่นี้ด้วยเทอญ สาธุ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. 2456996542

    2456996542 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +405
    ปัจจัยที่ขาดจริงๆแล้วประมาณ 5 แสนบาทจ๊ะ /แต่5 แสนบาทนี้ทางวัดจะใช้หนี้เดือนเมษายนจ๊ะ ทางวัดจะจัดงานทอดผ้าป่า/ แต่ตอนนี้ที่จำเป็นจะต้องสร้างก็คือผ้าม่านและพรม เพื่อการซับเสียงในการสอนธรรม ศาลาเสียงก้องมาก ถ้าจะร่วมบุญเป็นเจ้าภาพผ้าม่าน ช่องละ 5,000 บาทจ๊ะ /ส่วนพรม หลวงพี่ยังม่รู้ราคาเลยจ๊ะ น่าจะหลายหมื่นอยู่เพราะเป็นพรมอย่างหนาเเบบซักได้จ๊ะ ร่วมกันทำบุญตามจิตศรัทธานะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 13962.jpg
      13962.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.9 KB
      เปิดดู:
      25
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...