"พระ คาถา อิติปิโส ๘ ทิศ"

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย โยนกนาคบุรี, 20 พฤศจิกายน 2007.

  1. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    ตั้ง นะโม ฯ 3 จบ

    1. อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
    บทนี้ชื่อกระทู้ 7 แบก ประจำอยู่ทิศ บูรพา (ทิศ ตะวันออก )

    2. ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
    บทนี้ชื่อว่าแสนฝนห่า ประจำอยู่ทิศอาคเณย์ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้ )

    3. ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท บทนี้ชื่อนารายณ์เกลื่อนสมุทรประจำอยู่ทิศทักษิณ (ทิศใต้)

    4. โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
    บทนี้ชื่อนารายณ์ถอดจักร ประจำอยู่ทิศหรดี (ทิศตะวันตกเฉียงใต้)

    5. ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
    บทนี้ชื่อนารายณ์ขว้างจักร ตรึงไตรภพ ประจำอยู่ทิศประจิม (ทิศตะวันตก)

    6. คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
    บทนี้ชื่อนารายณ์ พลิกแผ่นดินประจำอยู่ทิศพายัพ (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)

    7. วา โธ โน อะ มะ มะ วา
    บทนี้ชื่อ ตวาดฟ้าป่าหิมพานต์ประจำอยู่ทิศอุดร (ทิศเหนือ)

    8. อะ วิช สุ นุต สา นุ ติ
    บทนี้ชื่อ นารายณ์แปลงรูปประจำอยู่ทิศ อีสาน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)

    <O:p
    สิทธิการิยะ อุปเท่ห์พระอิติปิโส 8 ทิศนี้ มีอาณุภาพมากหลาย
    ป้องกันได้สารพัดตามใจปรารถนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2007
  2. phaen

    phaen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +63
    อยากทราบประสบการณ์และความเป็นมาของ คาถาอิติปิโส 8 ทิศครับ
    ขอบคุณครับ
     
  3. kT007

    kT007 ใต้ร่มกาสาวพัสตร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2006
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    ได้ยินมาว่าตกทอดมาจากสำเร็จลุน แห่งนครจำปาสัก ประเทศลาวครับ
     
  4. jee110

    jee110 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอบคุณครับ ขอนำไปใช้สวดปฏิบััติครับ
     
  5. ทรราชย์น้อย

    ทรราชย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +115
    ทำไมสูตรของผมมิตรงกับบทข้างบนอ่าคับ
    ทธิการิยะ ฝอยของพระอิติปิโส แปดด้านแปดทิศ มีฤทธิ์อเนกประการ ป้องกันสรรพภัย คุ้มครองได้ดังบัญหาร
    อุปเท่ห์ของอาจารย์ เหลือประมาณท่วมหลังช้าง แม้นจะยาตราไป ณ ทิศใดทุกถิ่นทาง จงสวดคาถาอ้าง
    ตามทิศาทางจะครรไล หรือไม่ก็เสกน้ำ คาถาร่ำอย่านอนใจ น้ำมนต์นั่นแลไซร้ ประพรมให้ทั่วกายา ทั้งสัตว์พาหนะ
    ก็ควรประให้จึงคลา กันเหตุเภทภัยยา ไม่มีมาและผ้องพาน คุ้มได้สารพัด ทั้งสรรพสัตว์แลชนพาล
    บ่อาจมารุกราน ให้รำคาญแลเคืองใจ ถึงหากถูกผีหลวง สิ้นทั้งปวงไม่เป็นไร ไปค้ามีกำไร คงจะไม่ขาดทุนเอย

    1บทหนึ่งชื่อกระทู้เจ็ดแบก อาจารย์จำแนกไว้บูชา เสกข้าวกินทุกวัน อาจป้องกันเครื่องศาสตรา
    อนึ่งเล่าภาวนา แล้วหันหน้าสู่คชสาร อาจเข้าหักงวงคชา ด้วยพลาอันห้าวหาญ มีกำลังเหลือประมาณ
    ยิ่งช้างสารอันตกมัน พระฤๅษีทั้งเจ็ดองค์ ท่านดำรงอยู่ทิศนั้น เมื่อจักอภิวันท์ หันพักตร์นั้นทางทิศบูรพา
    2อาคเนย์ฝนแสนห่า ใช้ภาวนาคราเดินทาง ถึงเดินสิ้นทั้งวัน เรื่องน้ำนั้นอย่าระคาง เสกหมากกินไปพลาง
    สิบห้าคำอ้างกินเรื่อยไป แม้นใคร่ให้มีฝน อย่าร้อนรนจงเย็นใจ ให้เสกไส้เทียนชัย เสกให้ได้แสนเก้าพัน
    แล้วให้นึกถึงเทเวศร์ ผู้เรืองเดชในสวรรค์ อินทร์พรหมสิ้นด้วยกัน ตลอดถึงชั้นอกนิษฐ์ ฝนก็จะตกหนัก
    เพราะอารักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ แม้นเกิดโรคอันวิปริต จงพินิจภาวนา เอาน้ำทำน้ำมนต์ แล้วพร่ำบ่นพระคาถา
    เสกพ่นสักเจ็ดครา มิทันช้าก็จักหาย อาคเนย์นามทิศา จงหันหน้าไปโดยหมาย เคารพครูบรรยาย แล้วจึงร่ายคาถาเอย

    3นารายณ์กลืนสมุทร ฤทธิรุธทิศทักษิณ เรื่องฝีเกลื่อนหายสิ้น ไม่ต้องกินเสกพริกไทย เจ็ดเม็ดเสกเจ็ดหน
    แล้วจงพ่นลงทันใด สามคราก็จักหาย สมดังใจที่จำนง อนึ่งใช้เสกปูน สำหรับสูญหัวฝีลง มิช้าฝีก็คง ยุบย่อลงในทันใด
    ภาวนาลงกระดาษ อย่าประมาทจงตั้งใจ ฟั่นเทียนเอาทำไส้ เทียนนั้นไซร้บาทหนึ่งหนา ลงคาถาล้อมให้รอบ
    ตามระบอบอย่ากังขา เท่ากำลังเทวดา ตามชันษาผู้เป็นไข้ แล้วจุดบูชาพระ อย่าได้ละภาวนาไป มิช้าไข้นั้นไซร้ จักเสื่อมคลายสูญหายเอย

    4หรดีพึงสำเหนียก มีชื่อเรียกเป็นสองอย่าง คือนารายณ์คลายจักรอ้าง กับอีกอย่างพลิกแผ่นดิน มีฤทธิ์และศักดา
    ทั้งเดชาดังโกสินทร์ ภาวนาเป็นอาจิณ ยำเกรงสิ้นเหล่าศัตรู รำลึกแต่ในใจ ข้าศึกไซร้ไม่ขืนสู้ หย่อนกำลังพรั่งพรู
    ไม่คิดสู้เราต่อไป มาตรแม้นคนใจกล้า พอเห็นหน้าก็อ่อนไป ครูเฒ่าท่านสอนไว้ แม้สิ่งใดมีประสงค์ สิ่งนั้นพลันต้องได้
    สมดังใจคิดจำนง เพราะคาถาเป็นมั่นคง อย่างวยงงจงบูชา คุณครูผู้บรรยาย ท่านเร่ย้ายหรดีทิศา เมื่อจะภาวนา จงหันหน้าทิศนั้นเอย

    5ทิศประจิมนามประหลาด ชื่อตวาดหิมพานต์ มีเดชอันห้าวหาญ ดุจช้างสารไม่กลัวตาย พบช้างแลปะเสือ
    ที่ดุเหลือทั้งโคควาย อีกทั้งโจรดุร้าย ก็อย่าได้นึกกลัวมัน จงนิ่งภาวนา พระคาถาไปฉับพลัน เปนมหาจังงังอัน
    วิเศษยิ่งอย่ากริ่งใจ สัตว์ร้ายแลคนพาล มิอาจหาญเข้ามาใกล้ ให้แคล้วให้คลาดไป จงท่องไว้ทั้งเช้าค่ำ อนึ่งเมื่อภาวนา
    จงหันหน้าอย่าถลำ ทิศประจิมจงกระทำ เคารพคำทิศนั้นเอย

    6พายัพอีกนามทิศ มหิทธิฤทธินั้นมากหลาย ชื่อนารายณ์กลืนจักร มีฤทธิ์ศักดิ์นั้นย้อนยอก ครูเฒ่าท่านกล่าวมา
    หากแม้นลูกไม่ออก เอาน้ำใส่ขันจอก แล้วเปล่งออกซึ่งวาจา เสกน้ำทำน้ำมนต์ ร้อยแปดหนด้วยคาถา ให้กินอย่ารอช้า
    พรมกายาตลอดศีรษ์ บุตรน้อยจะค่อยเคลื่อน ขยับเขยื้อนเคลื่อนอินทรีย์ สะเดาะเสกวารี หากไม่มีน้ำกระสาย จงเป่าด้วยคาถา
    ไม่ทันช้าหลุดกระจาย ครูประสิทธิบรรยาย ท่านเร่ย้ายอยู่พายัพ เพื่อเป็นการคำนับ ตามตำรับอาจารย์เอย

    7นารายณ์ขว้างจักรเลิศลบ อีกนามหนึ่งตรึงไตรภพ สองชื่อย่อมลือจบ ทั่วพิภพเรืองเดชา ภาวนาสูดลมไซร้ ว่าให้ได้สักสามครา
    คอยดูที่ฉายา ถ้าเห็นว่าเงาหายไป ครานั้นจงชื่นชม ทั่วนิคมหาเห็นไม่ บังตาหายตัวไป ครูกล่าวไว้เร่งบูชา ตามบทพระคาถา
    ที่กล่าวมาแต่ต้นเอย

    8อีสานนามแถลง นารายณ์แปลงรูปโดยหมาย ภาวนาอย่าระคาย ศัตรูร้ายแปลกเราไป เมื่อจะสะเดาะแล้วไซร้
    เสกให้ได้ร้อยแปดคาบ ตั้งใจให้แน่วแน่ ครั้นถ้วนแท้เป่ากระหนาบ ต้องหลุดอย่างราบคาบ ได้เคยปราบเห็นประจักษ์
    ถ้าชอบทางเสน่ห์ ทำเป็นเล่ห์ให้เขารัก น้ำหอมอย่างหอมนัก จงรู้จักที่อย่างดี แล้วเสกให้บ่อย ๆ อย่างน้อย ๆ ร้อยแปดที
    แล้วเก็บไว้ให้ดี ถึงคราวที่จะต้องใช้ เสกอีกสักเจ็ดหน ประกายตนแล้วจึงไป เป็นเสน่หาอาลัย ทั้งหญิงชายทุกภาษา
    ไม่ว่าชนชั้นใด แต่พอได้เห็นพักตรา ให้รักด้วยเมตตา ประหนึ่งว่าเปนลูกหลาน แคล้วคลาดเหล่าศัตรู สิ้นทั้งหมู่อันธพาล
    ครูอยู่ทิศอีสาน จงนมัสการแลบูชา อนึ่งจงตั้งใจ หันหน้าไปสู่ทิศา อีสานแล้วภาวนา พระคาถาบทนี้เอย ๚



    ผมเคยได้ต้นฉบับพระคาถานี้มา โดยเป็นบันทึกของพระยากสิการบัญชา ท่านว่าตระกูลท่านเป็นนักรบมาหลายชั่วคน
    และพระคาถานี้ได้สั่งสอนสืบทอดกันมาในตระกูลของท่าน แต่จากการค้นคว้าเพิ่มเติม พบว่า
    ผู้ที่คิดปริศนาพระคาถาอิติปิโสแปดทิศนี้คือพระอาจารย์วัดพนัญเชิง กรุงเก่า ผู้เป็นอาจารย์ของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง
    แห่งอาณาจักรศรีรามเทพนคร ซึ่งเกิดก่อนอาณาจักรกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยาหลายศตวรรษ
    พระอาจารย์องค์นี้แหละที่ในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งจะยกพลไปขุดบางเตย
    พระอาจารย์ห้ามไว้ว่าน้ำเค็มนัก ยังไม่ถึงพุทธทำนายสร้างไม่ได้...
    โดยส่วนตัวผมจึงเชื่อว่าพระคาถาบทนี้เกิดขึ้นที่วัดพนัญเชิง ก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา


    หรือของผมผิดครับ - -
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2007
  6. ทรราชย์น้อย

    ทรราชย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +115
    มันมั่วไปหมดเลยครับ
     
  7. bestcup

    bestcup Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +40
    แต่ละสำนักก็แปลกกันไปยกตัวอย่างการเติมตัวท้าย หรือตัวหน้าเช่น

    พุทธังสรณังคัจฉามิ
    พุท อิระชาคะตะระสา
    ธังติหังจะโตโรถินัง

    หรือการนำตัวหน้ามาลงท้าย
    อิระชาคะตะระสา อิ
    ติหังจะโตโรถินัง ติ

    เหล่านี้เกจิแต่ละสายก็มีมติต่างกันไปแต่ก็อย่างทราบนะครับ

    พุทธคุณเป็นสิ่งประเสริฐ อิติปิโสธรรมดาก็ขลังแล้ว

    _________________________________
    http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=lekyant
     
  8. talaythai_77

    talaythai_77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +257
    เราท่องทุกวันเลย...ดีมากท่องคู่กับยอดพระมงกุฎ....บอกเลยสุดยอด
     
  9. Starsophere

    Starsophere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +437
    ท่องอิติปิโสฯ เดินหน้า + อิติปิโสฯ แปดทิศ + อิติปิโสถอยหลัง
    เรียกว่าได้ว่าท่องอิติปิโสเดินหน้า เดินข้าง เดินถอยหลัง พลังครอบจักรวาลเลยละครับ
     
  10. Chonlathorn

    Chonlathorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +25
    ของคุณไม่ผิดหรอกครับอุปเทห์ของคุณเป็นของแท้ครับ มีมาแต่ดั่งเดิมครับ มั่นใจได้ครับ โบราณจารย์ท่านผูกไว้อย่างนี้แล
     
  11. Chonlathorn

    Chonlathorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +25
    ขอเสริมครับ กระทู้บนสุดก็เป็นอุปเทห์อีกอย่างหนึ่งครับ ในสมัยโบราณเวลาจะตั้งค่าย เขาจะใช้อิติปิโสแปดทิศเสกทรายซัดไปทางทิศทั้งแปดครับ เป็นวิธีใช้อีกอย่างหนึ่งของคาถาบทนี้ครับ วิธีนี้ก็มีมานานแล้วครับ ในปัจจุบันก็ยังมีใช้กันอยู่ครับสำหรับเดินป่าตั้งแคมป์พักแรม กันอาถรรพ์ป่า และสัตว์ร้ายได้ฉมังนักแลผมคิดว่าอุปเทห์ของอิติปิโสแปดทิศยังมีอีกมากมายครับ ครูท่านผูกไว้ให้ได้ใช้กันเหมือนคำว่า "ฝอยท่วมหลังช้าง" นั่นหละครับ
     
  12. chenroom

    chenroom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +124
    ประสพการณ์ เรื่องของความฝันนะ ฝันว่าผีจะให้ไปอยู่ด้วยหรืออย่างไรนี่แหละคือ เอาง่ายๆนะฝันเห็นผีหญิงสาวชุดแดงแป๊ดๆปประมาณนี้แหละ ในฝันเราก็กลัวๆนะแต่ว่าเราได้ยินเสียงตะโกนบอกให้ท่องให้สวดคาถานี้เราก็สวดตาม (ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ) พอเราถ่องในฝันผีตนนั้นก็เริ่มถอยๆห่างออกไปๆแฮ่ๆๆ เราก็ยิ่งได้ใจวิ่งตามแล้วทั้งท่องทั้งเป่าคาถา แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งดันลืม!!! ผีตนนั้นก็จะเข้ามาทำร้ายจู่ๆก็ได้ยินเสียงตะโกนบอกคาถาอีกรอบเลยจำได้แล้วท่องในฝันก็อธิษฐานบอกว่าให้สิ่งชั่วร้ายในบ้านจงออกไปเราก็เป่าแล้วก็กระทืบเท้าสามครั้งทันใดนั้นเหมือนมีลมพัดอย่างแรงออกจากในตัวบ้านตรงไปทางประตู เราก็สดุ่งตื่นเวลาตี4:45 ฝันเหนอฝันเอาส่ะเป็นเรื่องเป็นราว เราก็ไม่รอช้ารีบเปิดอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลว่ามันคือคาถาอะไรกันแน่ ตอนนี้ถึงบางอ้อแล้วว่ามันคือคาถากันภัย สำหรับท่องเวลาขึงสายโอภาสกลดพระธุดงค์กันได้แม้กระทั้งช้างสิ่งชั่วร้าภูตผีปิศาจมนต์ดำ นี่คือฝันนะไม่ใช่เรื่องแต่งจะเป็นอย่างไรก็ได้เพราะมันคือความฝันแฮ่ๆๆ
     
  13. hitman

    hitman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +440
    ท่าน Chenroom นี่มีพระมาสอนในฝัน

    เหมือนที่หลวงพี่เล็กเทศน์ เลย

    "เมื่อของไสยศาสตร์ทำไม่ได้ผล พวกเขาก็ส่งอสุรกาย สัมภเวสี เกาะติดคนเข้ามาในงาน เมื่อเกาะคนเข้ามาเทวดาเขาก็หมดสิทธิ์ไล่ เมื่อเริ่มพิธีพวกนี้จะดิ้นรนร้องโอดโอยโหยหวน ทำให้คนอื่นตกใจกลัว อาตมาตบคว่ำคามือมาหลายรายแล้ว ถ้าเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชรละสบายมาก พอเริ่มพิธีเจ้าพวกนี้อยู่ไม่ได้ เผ่นกันกระเจิดกระเจิง...! หลวงพ่อท่านบอกให้ภาวนาคาถามหาอำนาจเอาไว้ พวกอสุรกายจะทำอันตรายไม่ได้ คาถาว่า “ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ” ถ้าเป็นพวกผีที่ถูกผูกมา ให้ช่วยปล่อยไปเลย โดยใช้คาถา “สัมปฏิจฉามิ” เป่าให้ เครื่องทรมานทั้งหลายจะหลุดหมด เป็นอิสระจากการควบคุมของหมอผี (หลวงพ่อปล่อยไปมากมาย จนหมอผีหมดเนื้อหมดตัวไปตาม ๆ กัน)"


    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=514
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...