เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

โรงเรียน 30 แห่งในพัทลุงปิดเรียน หลังเกิดน้ำท่วม

Fri, 22/11/2013


ฝนที่ตกหนักทางภาคใต้ทำให้โรงเรียนกว่า 30 แห่ง ต้องปิดการเรียนการสอนจากน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง และจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่เขตเมืองชั้นในเกือบทั้งหมด

กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวอย่างรุนแรงและมีระดับสูงถึง 4.7 เมตร บริเวณต้นน้ำคลองท่าดี บนเทือกเขาหลวง ในอ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เริ่มไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ และในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าน้ำจำนวนมากเหล่านี้อาจไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำต่อ และมีรายงานว่าในต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี มีผู้เสียชีวิตจากการเป็นลมภายในบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 1 ราย

ส่วนที่จังหวัดพัทลุง สถานการณ์น้ำท่วมใน 11 อำเภอเริ่มเลวร้าย โดยเฉพาะใน หมู่ 1 ต.ลำสินธิ์ อ.ศรีนครินทร์ มีน้ำไหลผ่านสองฝั่งถนนสูงเฉลี่ย 70 เซนติเมตร-1 เมตร ขณะที่เส้นทางเข้าอ.ศรีบรรพตถูกโดยตัดขาดโดยสิ้นเชิง เช่นเดียวกับอ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ อ.ควนขนุน และอ.เมือง ที่ระดับน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 1 เมตร ทำให้โรงเรียน 30 แห่งต้องปิดเรียน




ส่วนที่จังหวัดตรัง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลเข้าท่วมถนนเพชรเกษม และไหลเข้าสู่เขตเทศบาลนครตรังแล้ว โดยเฉพาะบริเวณกิโลเมตร ที่ 50 ถนนเพชรเกษม น้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ขณะที่จังหวัดสงขลาทางเทศบาลต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา เพราะฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำในคลองต่างๆเริ่มสูงขึ้น พร้อมเตรียมเครื่องปั่นไฟฟ้าสำรอง ตามจุดต่างๆกรณีเกิดไฟฟ้าดับ



ส่วนในอำเภอรอบนอกตัวเมืองหาดใหญ่ สถานการณ์น้ำท่วมยังน่ากังวล บางพื้นที่ปริมาณน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องเร่งอพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ขณะที่ จ.ปัตตานีน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมโรงเรียนหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ใกล้แม่น้ำ เช่น โรงเรียนบ้านบานา อ.เมือง ทำให้โรงเรียนมากเกือบ 10 แห่งต้องปิดทำการเรียนการสอน

ส่วนในจังหวัดนราธิวาสแม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโก-ลก เริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสสั่งการให้ประชาชนบริเวณริมแม่น้ำเตรียมอพยพ และเฝ้าระวังดินโคลนถล่ม เนื่องจากภูเขาอุ้มน้ำจำนวนมากตลอด 4 วันที่ผ่านมา

ส่วนที่จังหวัดยะลา ฝนที่ตกหนักทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านหมู่ 1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง ได้รับความเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน ซึ่งชาวบ้านตั้งข้อสังเกตุว่า สาเหตุที่เกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งอาจมาจากการก่อสร้างถนนเส้นทางขวางทางน้ำ

ขณะที่คลื่นลมที่มีกำลังแรง ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนชะลอการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ส่งผลให้ร้านขายอาหาร และแผงลอย กว่า10 ร้าน ตลอดบริเวณชายหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง ต้องปิดกิจการชั่วคราว เช่นเดียวกับเรือหางยาวโดยสารที่ต้องหยุดให้บริการเช่นกัน

 

ฝนกระหน่ำเกาะสมุย ลมกรรโชกแรง พัดเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มระนาว ส่งผลไฟดับครึ่งเกาะ ขณะที่ในตลาดดาวซีฟู๊ด น้ำท่วมในตลาดแล้ว





วันศุกร์ 22 พฤศจิกายน 2556 เวลา 14:40 น.
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สุราษฎร์ธานี จากภาวะฝนที่ตกหนักและลมกรรโชกอย่างรุนแรง ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูง จำนวน 2 ต้น สายไฟฟ้าขาด ห้อยพาดถนน ริมถนนสายทวีราษฎร์ภักดี หรือถนนสายรอบเกาะสมุย บริเวณหน้าห้างเฟอร์นิเจอร์ยังนำ หมู่ 1 ตำบลบ่อผุด อ.เกาะสมุย ทำให้รถยนต์ ที่สัญจรไปบนถนน ติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร

ซึ่งในที่เกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยเกาะสมุย ได้นำกำลังมาช่วยอำนวยความสะดวกบอกเส้นทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจร ให้ใช้ทางเลี่ยง ไปอีกเส้นทาง จากการตรวจสอบ พบว่าเสาไฟฟ้าแรงสูง ที่ล้มลงมา ทำให้ไฟฟ้าในพื้นที่ หมู่ 1ตำบลบ่อผุด บางส่วน และหมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 6 ตำบลบ่อผุด ไฟฟ้าดับทันที โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอเกาะสมุย ได้นำช่างไฟฟ้ามาทำการแก้ไขชั่วคราวใช้หลายชั่วโมงจึงได้แล้วเสร็จ

ในส่วนที่ตลาดดาวซีฟู๊ด ในหมู่ 3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วมซ้ำซาก หลักจากที่ฝนได้ตกติดต่อกัน ทำให้น้ำฝนที่สะสม ได้ไหลบ่า เข้าท่วมตลาดดาวซีฟู๊ดแล้ว ระดับสูงประมาณ 50-70 ซม. เป็นระยะทางกว่า 800 เมตร ทำการการจราจรม่านไปด้วยควมลำบาก

ขณะที่คลื่นลมในทะเล ยังคงมีกำลังแรง โดยคลื่นสูง 3-4 เมตร ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประกาศเตือนห้ามนักท่องเที่ยว ลงเล่นน้ำ พร้อมกับจัดเวรยาม เฝ้าระวังนักท่องเที่ยว ส่วนในภาพรวม ยังไม่มีประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบจากฝนตก ในครั้งนี้

 

เมืองคอนน้ำทะลักท่วมเต็มพื้นที่ 10 อำเภออ่วมอรทัย-หวั่นน้ำป่าเขาหลวงทะบักสมทบท่วมมิดเมืองเย็นนี้

วันศุกร์ 22 พฤศจิกายน 2556 เวลา 16:00 น.










เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ จ.นครศรีธรรมราช จากภาวะฝนตกหนักติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ทำให้แม่น้ำลำคลองต่าง ๆ ล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่หลายอำเภอเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ระดับน้ำได้ไหลเข้าท่วมถนนสายต่าง ๆ อาทิ ถนนสายกะโรมฝั่งขาออกตัวเมืองนครศรีธรรมราช น้ำได้ไหลเข้าท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนถนนเส้นอื่นๆ ทั้งถนนพัฒนาการคูขวาง ตรงบริเวณหน้าตลาดสด ตลาดค้าส่งค้าปลีก รวมทั้งถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนศรีธรรมโศก ไปยังยังถนนพัฒนาการคูขวาง มีน้ำท่วมสูงในหลายจุด ทางเทศบาลนครต้องตั้งป้ายเตือนผู้ใช้เส้นทางเพื่อเลี่ยงการจราจร นอกจากนี้ถนนตรอก ซอกซอยต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมเฉลี่ย 30-50 ซม. จนการสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช และสถานีวิทยุในเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วจังหวัด เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน และแจ้งเหตุสาธารณภัยพร้อมเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงบ่ายของวันนี้ที่ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณน้ำจากเทือกเขาหลวงและคลองท่าดี ที่จะไหลเข้าสมทบเพิ่ม เบื้องต้นทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช ได้นำเครื่องสูบน้ำ จำนวน 3 เครื่อง ติดตั้งบริเวณสะพานป่าเหล้า และซอยลำเหมือง เพื่อเร่งระบายน้ำออก ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปในขณะนี้ยังคงมีรายงานฝนตกและตกหนักในเกือบทุกพื้นที่

นายเจษฎา วัฒนานุรักษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคใต้ ซึ่งทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราชมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันโดยฝนได้ตกหนักเกินกว่า50 มิลลิเมตรในทุกอำเภอ แต่ที่เกิน 100 มิลลิเมตร มี 7 อำเภอ คืออำเภอชะอวด 198 มิลลิเมตร อำเภอร่อนพิบูลย์ 195.5 มิลลิเมตร อ.เชียรใหญ่ 195 มิลลิเมตร อ.ลานสกา 155 มิลลิเมตร อ.หัวไทร 150มิลลิเมตร อ.พระพรหม 120 มิลลิเมตร และ อ.จุฬาภรณ์ 115 มิลลิเมตร ได้ส่งผลให้หลายพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของจังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งแต่ช่วงดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา

ในหลายอำเภอ ประชาชนต้องขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัย เช่น อ.ทุ่งสง อ.เมือง อ.ชะอวด อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ลานสกา อ.พระพรหม นบพิตำ สิชล ท่าศาลา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชะอวด และร่อนพิบูลย์ ถือว่าหนักมากที่สุด โรงเรียนบางแห่งถูกน้ำท่วม เช่น โรงเรียนวัดกาโห่ใต้ ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด ส่วนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมขังถนน ซอยต่าง ๆ หลายจุด นอกจากนั้นในพื้นที่ตำบลรอบนอก เช่น ต.นาทราย ต.ไชยมนตรี ต. ม่วงสองต้น ต.โพธิ์เสด็จ ต.บางจาก ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากคลองท่าดี ที่ไหลลงมาจากอำเภอลานสกา ก่อนไหลออกอ่าวไทยผ่านคลองท่าซัก และคลองหัวตรุด-บางจาก ใน ต.ท่าซัก และ ต.ปากนคร ต่อไป

ทางด้านเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชได้ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมเกือบเต็มพื้นที่ที่ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบและไม่ได้มีการเตรียมรับมือมาก่อน ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนต่าง ๆ จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก อาทิ ชุมชนบ้านบ่อทรัพย์ ชุมชนลูกแม่อ่างทอง ชุมชนกรแก้ว ชุมชนสารีบุตร ชุมชนวัดท่าโพธิ์ ชุมชนวัดมุมป้อม โดยระดับน้ำเฉลี่ยกว่า 50 ซ.ม.และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่น้ำจากเทือกเขาหลวง อ.ลานสกา ที่จะไหลบ่าลงมาสมทบในเย็นวันเดียวกันนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในเจตเทศบาลและ อ.เมือง รอบนอกเต็มพื้นที่อย่างแน่นอน

ส่วนที่ทางเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชักธงสัญญาณสีแดงทุกจุด ซึ่งเป็นการเตือนขั้นสูงสุด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินของประชาชนตามชุมชนต่าง ๆ และมีการจัดสถานที่ไว้รองรับการอพยพของประชาชนตามโรงเรียนสังกัดเทศบาลต่าง ๆ ในขณะที่โรงเรียนเกือบทั้งจังหวัดได้เลิกเรียนในช่วงตั้งแต่ 11.00 น. เพื่อปล่อยให้นักเรียนรีบเดินทางกลับบ้านและได้ออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเตรียมรับมือปริมาณน้ำที่จะเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก จากปริมาณน้ำจากเทือกหลวงและคลองท่าดีที่จะไหลเข้าสมทบในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้.

 

สตูลห้ามล่องแก่งหลังน้ำป่าทะลัก-ฝนยังตกหนัก

Thailand Web Stat By สำนักข่าวไทย TNA News | 22 พ.ย. 2556 16:26 |


สตูล 22 พ.ย.- นายวิชัย สำเร รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล ระดมเจ้าหน้าที่เร่งจัดถุงยังชีพเตรียมเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 4,10, 11, ต.น้ำพุด หลังจากน้ำป่าเทือกเขาบรรทัดและน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกวังสายทองหลากลงสู่คลองอำเภอละงูจนเอ่อท่วมบ้านเรือนกว่า 100 ครัวเรือน สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และรีสอร์ท รวมถึงสถานที่ล่องแก่งและแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้ อบต.ประกาศหยุดกิจกรรมล่องแก่งแล้ว และขณะนี้ฝนยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เกรงว่าจะมีน้ำป่าหลากซ้ำอีก

.-สำนักข่าวไทย

 

พัทลุงน้ำท่วมสูงจ่อมิเตอร์ไฟฟ้า จนท.เร่งย้าย

Thailand Web Stat By สำนักข่าวไทย TNA News | 22 พ.ย. 2556 16:02 |

พัทลุง 22 พ.ย. - จ.พัทลุง น้ำท่วมสูง จนท.การไฟฟ้าฯ ต้องเร่งย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าตามเสาไฟ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำใกล้ถึงมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พัทลุง ยังคงขยายวงกว้างทั้ง 11 อำเภอ 456 หมู่บ้าน 56 ตำบล เดือดร้อนแล้ว 15,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 20,000 ไร่ ถนนทุกสายภายในหมู่บ้านต้องใช้เรือสัญจร โดยเฉพาะ อ.เมือง จุดรับน้ำจาก อ.ศรีนครินทร์ และ อ.กงหรา น้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วในพื้นที่ 5 ตำบล คือ ต.นาโหนด ต.เขาเจียก ต.โคกชะงาย ต.ชัยบุรี ต.พญาขัน และ ต.ปรางหมู่ หนักสุดที่ ม.5 บ้านควนกรวด ต.ปรางหมู่ ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของรอบ 2

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ต้องเร่งปลดย้ายมิเตอร์ไฟฟ้าตามเสาไฟ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำใกล้ถึงมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว ด้านนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ย้ำแต่ละอำเภอเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์ไม่คลี่คลายจะประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ.

- สำนักข่าวไทย

 

ตรังน่าห่วงท่วมหนักนาโยง-ย่านตลาดเร่งขนของ

Thailand Web Stat By สำนักข่าวไทย TNA News | 22 พ.ย. 2556 15:20 |


ตรัง 22 พ.ย.-นายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจากเครือข่ายอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและมิตเตอร์เตือนภัยในพื้นที่ 10 อำเภอ ช่วงเวลา 11.00 น. (22 พ.ย.) มีพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มขึ้นรวมเป็น 4 อำเภอ 20 ตำบล 50 หมู่บ้าน กว่า 1,000 ครัวเรือน ได้แก่ อ.เมือง นาโยง ห้วยยอด และรัษฎา รวมทั้งถนนสายเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 17-20 เส้นทางไป จ.พัทลุง น้ำท่วมยาวกว่า 300 เมตร ถูกตัดขาดเป็นช่วง ๆ รถเล็กผ่านไม่ได้ทั้งขาเข้าและขาออกตัวเมืองตรัง โดยเฉพาะอำเภอนาโยงน้ำท่วมหนักสุด บางหมู่บ้านสูงเกือบ 2 เมตร เช่น หมู่ 1 หมู่ 5 และหมู่ 4 ต.นาโยงเหนือ อีกทั้งกระแสน้ำไหลเชี่ยว ชาวบ้านต้องอพยพไปพักในจุดรองรับของ อบต. ล่าสุดน้ำไหลท่วมหน้าตลาดสดเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ ร้านค้ากว่า 100 แห่ง รีบขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ ท่ามกลางฝนตกตลอดเวลา

นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประสานขอกำลังทหารจาก ร. 15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ตำรวจภูธรจังหวัด และอาสาสมัครฝ่ายต่าง ๆ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น.

-สำนักข่าวไทย

 

จังหวัดพัทลุงน้ำท่วมหนัก กระทบพื้นที่การเกษตรกว่า 50,000 ไร่
Fri, 22/11/2013 - 16:14


ประชาชนจำนวนมาก ใน จ.พัทลุง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ ใน จ.สตูล ตัดสินใจเปลี่ยนสัญลักษณ์ธงแจ้งเตือนภัยจากสีเขียวมาเป็นสีเหลือง เพื่อให้ประชาชนที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ อพยพมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

วันนี้ (22 พ.ย.2556) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ว่า น้ำในคลองสายต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่ อ.ท่าแพ จ.สตูล ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินเปลี่ยนธงสัญลักษณ์สีเขียว มาเป็นธงสีเหลือง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงรีบขนย้ายสิ่งขึ้นสู่ที่สูง เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ เช่นเดียวกับที่ จ.พัทลุง มีชาวบ้านจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันพื้นที่การเกษตร ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 50,000 ไร่ ทำให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุงต้องเร่งประสานขอสนับสนุนเรือท้องแบนเพิ่มเติมมาช่วยเหลือประชาชน ส่วนที่ จ.สงขลา สวนยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง ถูกน้ำในคลองสาขาของคลองอู่ตะเภาทะลักเข้าท่วม กว่า 100 ไร่แล้ว โดยเฉพาะสวนยางขนาดเล็ก สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันความแรงของน้ำ ยังได้กัดเซาะทำให้ถนนชำรุดในหลายเส้นทาง ส่วนที่ จ.ตรัง รถตู้โดยสารสายตรัง – หาดใหญ่ ต้องขับอ้อมไปยัง จ.สตูล และ อ.กงหรา จ.พัทลุง เพื่อมุ่งหน้าไปยัง อ.หาดใหญ่ หลังน้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมผิวจราจร จนทำให้รถไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้หลายช่วง ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าเดินทางเพิ่มขึ้น หรือบางรายก็ต้องยกเลิกการเดินทาง ส่วนที่ จ.นราธิวาส คลื่นลมที่รุนแรง ทำให้ริมหาดนราทัศน์ถูกน้ำทะเลกัดเซาะขยายเป็นวงกว้าง อีกทั้งแนวกันคลื่นที่เคยนำหินมาวางไว้ถูกคลื่นซัดได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่เรือประมงกว่า 1,000 ลำ ในพื้นที่ ต.บ้านทอนต้องงดออกจากฝั่ง

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง"
ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556
หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ตอนล่างจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามันในคืนนี้ (22 พ.ย.56) ทำให้บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก รวมทั้งปริมาณฝนสะสมต่อเนื่องที่มีปริมาณมากต่อไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย. 56)
สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปและบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2556 ไว้ด้วย



กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศครั้งต่อไป เวลา 23.00 น.



ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.00 น.

(ลงชื่อ) จงกลนี อยู่สบาย

(นางจงกลนี อยู่สบาย)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


​

 

ขอบคุณ คุณในนิมิตรมากเลยนะคะ ถ้าไม่มาโพสต์ไว้คงไม่รู้ข่าวสารทางใต้แน่ เพราะช่วงนี้ไม่ได้ดูข่าวโทรทัศน์เลย

 

ด้วยความยินดีครับ

 

ในที่สุดก็กลายเป็นพายุหลังจากออกจากไทยลงสู่อันดามันจริงๆ

<a href="http://pic.free.in.th/id/2c9c66335247293986af3e47b824a817" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/is/131125085154.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

<a href="http://pic.free.in.th/id/2067e577dde65bae196fe807974ea75d" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ih/131125085223.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็น ฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง"
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว และจะแผ่เสริมลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลง 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยในบางพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม จะมีอากาศหนาว และอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 2-3 ธันวาคม 2556 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนัก ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว

ประกาศ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.

(ลงชื่อ) จงกลนี อยู่สบาย

(นางจงกลนี อยู่สบาย)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


​

 

ห่วงปชช.นิยม 'ปลั๊กพ่วง' ราคาถูก ชี้ต้นเหตุไฟไหม้

กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกโรงเตือนประชาชนระวังภัยจากการใช้ปลั๊กพ่วงไม่ได้มาตรฐาน แนะเลือกของดีราคาเหมาะสม ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร...


นางสาวเสาวณี มุสิแดง อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ประชาชนควรตื่นตัวระวังอันตรายจากปลั๊กพ่วง ซึ่งปัจจุบันกลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าที่ย่อมเยาสามารถเป็นจุดขายเสนอให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้บริโภคนึกถึงคือการอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลายชนิดในคราวเดียวกัน นอกจากผู้บริโภคต้องตรวจสอบคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานแล้ว การตรวจสอบคุณภาพของสายพ่วงที่มีเต้ารับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินจนกระทั่งถึงชีวิตของผู้ใช้งาน ถ้าใช้ปลั๊กพ่วงจนปริมาณไฟรวมกันแล้วเกินกว่าขนาดที่ปลักพ่วงสามารถรับได้ สายไฟก็จะเกิดความร้อนขึ้น จนถึงกับทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟหลอมละลาย เกิดไฟลุกไหม้ หรือสายไฟฟ้าร้อนถึงจุดหลอมละลายจนกระทั่งสายทองแดงภายในทั้งสองเส้นแตะกันก็จะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรทันที ซึ่งความร้อนที่มากขึ้นสามารถทำให้เกิดเพลิงไหม้

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวอีกว่า ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์เสริมทางไฟฟ้าที่ยังไม่ได้มาตรฐานสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ควบคุม จึงเป็นช่องว่างที่ทำให้ที่ผลิต จำหน่าย แสดงเครื่องหมายที่ทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิด เช่น ติดตรามาตฐาน มอก.11 ซึ่งเป็นมาตรฐานบังคับของสายไฟฟ้าไม่ใช่ของปลั๊กพ่วง ดังนั้นการเลือกใช้ปลั๊กพ่วงจึงควรพิจารณาให้ดี ทั้งส่วนประกอบต่างๆ ตัวปลั๊กเสียบตัวผู้ตัวเมีย สายไฟฟ้า และวัสดุที่ใช้ทำรางปลั๊ก อย่างไรก็ตาม สินค้าที่มีตราน่าเชื่อถือราคาสินค้าก็สูงตาม อาจเป็นดัชนีหนึ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพสินค้าที่เราใช้พิจารณาได้วิธีหนึ่ง

นางสาวเสาวณี กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคได้รับผลเสียและอันตรายจากการใช้ปลั๊กพ่วงมากขึ้น กรมวิทยาศาสตร์บริการจึงได้มีการเฝ้าระวังสินค้าที่ไม่ปลอดภัย และสุ่มเก็บมาตรวจสอบคุณภาพเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค โดยในปีงบประมาณ 2557 นี้ จะได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างปลั๊กพ่วงต่อไฟฟ้าในทุกภูมิภาคของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีการสุ่มตรวจสอบตัวอย่างปลั๊กพ่วงต่อจากจังหวัดพิจิตร นครสวรรค์ สิงห์บุรี ปทุมธานี ซึ่งจะมีการเผยแพร่ข้อมูลการทดสอบให้ประชาชนทราบต่อไป


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 28 Nov 2013 - 08:00

 

หย่อมกดอากาศต่ำเริ่มเยอะอีกแล้วแถวภาคใต้ หวังว่าคงไม่แช่นานน่ะครับ เพราะรอบก่อนบางพื้นที่ยังเคลียร์กันไม่เสร็จ

 

อีกแล้วภาคใต้ ฝนตกน้ำท่วมมีเตือนมาอีกแล้ว มาแนวเดียวกะคราวที่แล้ว เคราะห์ซ้ำกรรมชัดจริง

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็น ฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง"
ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย และจะแผ่เสริมลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ในขณะที่บางพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม จะมีอากาศหนาวและอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 2-3 ธันวาคม 2556 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนัก ส่วนในช่วงวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว



ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 04.00 น.


(ลงชื่อ) จงกลนี อยู่สบาย
(นางจงกลนี อยู่สบาย)
รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


​

 

ดูแผนภูมิอากาศแล้วให้เป็นห่วงภาคใต้จริงๆครับ